ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลาโลกไปผจญภัยแฟนตาซีสุดวุ่น

    ลำดับตอนที่ #3 : 1 : ปากัวร์โดดข้ามแม่น้ำแทบรั่วกลางทะเล

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 67


    หลังจากได้รับการอธิบายโลกใบนี้พอเข้าใจจากเสียงปริศนา พวกเขาจึงไปออกเดินทางตามเส้นทางที่ได้ถูกกำหนดไว้ ระหว่างทางนั้นมีเพียงทางเรียบๆบรรยากาศลมเย็น หญิงสาวตัวเล็กกอดเจ้าก้อนสำลีมาด้วย โดยไม่คิดถึงความปลอดภัยเลย แต่เธอดูมีความสุขมากกว่าใครๆเลย ต่างกับชายคนหนึ่งกลับรู้สึกท้อแท้ที่ได้มาที่นี่หลังจากเดินไปตั้ง 5นาที

    “อ่าาา~~ โครตน่าเบื่อ เดินมา 5 นาทีแล้วนะ! ทางโล่งแบบนี้จะให้เดินจนเป็นลมเลยไหม… อ่าาา~~” D เหนื่อย

    พวกเราได้เดินตามเส้นทางสายยาวที่มันดิ่งขึ้นดิ่งลง จนเสียงครวญครางของ D ดังออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยชอบการเดินเท่าไหร่เลย ต่างกับB ที่ได้กอดเจ้าก้อนสำลีเดินอย่างมีความสุข จนหนุ่มน้อยถามขึ้นว่า

    “มันรู้สึกดีขนาดนั้นเลยเหรอ?~”

    “อื้ม!! จับสิๆ” เธอชวนเชิญ

    “ไม่อะ พอดีไม่ชอบของเหมือนเด็กๆ 555. . .~” แล้วมันก็ทำให้หญิงสาวตัวเล็กโกรธ เอาเจ้าตัวเล็กขยั้นขยอให้ชายเตี้ยลองสัมผัสมัน เขาปฏิเสธหญิงสาว เหมือนกับการปฏิเสธรัก 

    แต่ถึงยังไงก็ตามเธอจึงถือวิสาสะนำเจ้าก้อนสำลีวางไว้บนศีรษะของหนุ่มน้อยคนนั้น พอมันได้สัมผัสชายหนุ่มคนนั้น สีหน้าของเขาแดงและผ่อนคลายขึ้น เขาใช้มือสัมผัสก้อนสำลีจนทำสีหน้ามีความสุขขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

    “เห็นไหมล่ะ~~~ชอบละสิ~~// ฉันมองดูเขากำลังจับบุบุ จับมันนวดเป็นหมอนเลยนะ อี่นี่

    “อ๊ะ…….!!!// เพลินซะนานเลย 

    D หลงระเริงไปซะนาน พอได้สติกลับคืนมา ก็นำเจ้าก้อนสำลีไปวางไว้บนศีรษะสาวตัวเล็กกลับคืน เธอยิ้มให้เขาแต่ว่าเขากลับไม่ได้สังเกตุ ทว่าเพื่อนที่เหลือต่างดูและส่งรังสีอัมหิตใส่เด็กเตี้ยทั้งสอง

    /// เวลาผ่านไป /// owo

    ระหว่างพวกเขากำลังเดินไปในดงป่าสีเขียวขจี ก็มีเหมือนกับทางน้ำกั้นเส้นทางเราไว้ ด้วยความกระตือรือร้นของเจ้าชายลึกลับก็ตั้งท่าวิ่งตรงดิ่งโดยไม่สนอันตราย ราวกับคุ้นเคยป่านี้เป็นอย่างดี

    “อั๊ก!!!” //แต่เพื่อนสาวตัวเล็กได้กระชากตัวไว้ได้ทัน

    ก่อนจะได้้ยินเสียงน้ำเสียงสาดน้ำพร้อมข่อนไม้ทะลักผ่านหน้าพวกเขาไปในระยะ 100เมตรข้างหน้า ชายสาวคู่หน้าอ้าปากค้้าง แทบจะหงายตัวไปประกบแนบกับเพื่อนที่แข็งแกร่งด้านหลัง ข้างหน้ามีแม่น้ำกว้าง 50 เมตร น้ำไหลเชี่ยวหลังจากทะลักอย่างรวดเร็ว ความเชี่ยวสามารถเดดินข้ามผ่านได้ไม่ยากเย็น แต่ว่ามีความลึกเกินศีรษะแน่นอน ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีคือ มีขอนไม้ลอยผ่านมาตามระดับความเชี่ยวของน้ำ พอสามารถกระโดดได้

    หรือว่านี่จะเป็นเกมเหรอ? // ตรงนี้มีป้ายปริศนาตั้งไว้ข้างหน้าแม่น้ำนั้น พวกเราจึงอ่าน

     

    ระวังตกแม่น้ำไหลเชี่ยว!// ป้ายเขียนไว้

    นี่…พวกเราต้องข้ามจริงๆเหรอ?

    ก็เออดิ

    ไม่เอาๆ จริงสิ… ฉันฝันอยู่ๆ เรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นในชีวิตฉันได้ยังไงวะ นี่มันเป็นเพราะไอ้เตี้ยตัวนั้นที่ทำให้ฉันต้องฝันแบบนั้น ตื่น!!! B ตื่นซะ!!!!// B คิดแบบนั้นแล้วตบหน้าตนเองเบาๆ และอาละวาดดึงป้ายนั้นฟาดหนุ่มน้อยไปชุดใหญ่ จนเขาก้มตัวขอโทษสาวน้อยทั้งๆที่ตนไม่ได้ทำอะไรเลย

    “ขอโทษคับบบบบบบบบพี่ B ก้นแดงแล้ว// 

    “B ยอมรับเถอะ พวกเราติดอยู่ในโลกแฟนตาซีอะไรสักอย่างนี่แหล่ะ มาๆข้ามกัน ^^// ชายแข็งแรงยืนท้าวสะเอวอย่างมั่นคง

    เธอมองบนจนตาสุดขอบตา Dจึงใช้วลีในการเย้ายวนเธอว่า “กลัวล่ะสิ~ งั้นผมไปเอง 555” เธอหันมาทางไอ้ตัวน่ารำคาญด้วยสายตาอาฆาต จนเขาผงะตัวหดเหลือสองนิ้ว .-. เขาเข้าไปเกาะข้างหลังVเห็นว่าน้ำไหลขนาดนั้นไม่สามารถลงไปได้แน่นอน ถ้าหากลงไปคงจะไหลตามน้ำอย่างแน่นอน เธอย้ำ แต่ว่าD ไม่เชื่อและขัดขืนคำพูดสาวแว่น

    “ไม่เชื่ออะ ตื้นอยู๋นะ!!”

    เขาจึงใช้ตัวลงไปในแม่น้ำนั้น เพื่อโชว์ความสับเพร่าของตัวเอง จนเขาโดนสายน้ำซัดจนไหลไปตามน้ำทันที U รีบคว้าตัวโยนขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นดังนั้น หลังจากขึ้นมาได้เขาตัวสั่นและซึมไปเลย ตามด้วยเสียงเยาะเย้ยจากหญิงสาวผู้เป็นปฏิปักษ์กับเขา

    “ควายจริงๆ ฉันล่ะไม่อยากเชื่อว่าจะมาอยู่ในโลกนี้กับคนแบบมัน ” B เริ่มปรับตัวเข้ากับบรรยากาศรอบๆตัวและสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด และคำพูดขวานผ่าซากก็กลับมาด่าซ้ำเติมหนุ่มน้อยไม่ต่างกับการอยู่ในโลกเดิม

    “งืออ~~ Bที่เรารุ้จักกลับมาแล้วเหรอเนี่ย~~~”

     

    ตุม~~~ มีท่อนไม้ไหลตามสายน้ำเข้ามาอย่างช้าๆ บางท่อนไม้ก็ไวอย่างมาก แล้วแต่น้ำหนัก เมื่อพวกเราเห็นดังนั้นแล้ว U จึงเรียกกำลังใจพวกเรามีแรงฮึดในการกระโดดข้ามไปเหมือนในหนังสำรวจผจญภัยที่เคยดูกัน ดังนั้นเขาจะเริ่มก่อนเป็นตัวอย่างเอง U พูด

    “อย่าเพิ่ง!”

    V หยุดเขาไว้และขอให้ชายหนุ่มเป็นคนสุดท้ายจะดีกว่า เพราะว่าเขาสามารถช่วยเหลือคนอื่นๆได้ หากเป็นคนแรกแล้วเกิดคนอื่นๆตกน้ำ ก็จะช่วยไม่ทันแน่นอน และยังเสียเวลาข้ามไปๆมาๆอีก

    เธอว่าพร้อมมองหน้าของชายหนุ่มคนนั้น เขาพยักแล้วให้ Vเป็นผู้เริ่มคนแรกที่จะกระโดด เธอยิ้มแล้วเดินไปที่ข้างหน้าแม่น้ำพร้อมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเริ่มกระโดดไปที่ท่อนไม้ใหญ่ที่ดูปลอดภัย และกระโดดอย่างรวดเร็วไปอีกท่อนที่ขยับเร็วเล็กน้อย เพียงกระโดดอีกครั้งก็ถึงอีกฝั่งแล้ว แต่ใจของเธอเต้นรัวพร้อมกับความเกร็งของร่างกายสูง ทำให้เธอล่กทรงตัวพลาดและเซไปมาจนจะตกจากท่อนไม้

    (ไม่นะๆๆๆ!!! ตะคริวจะกินแล้ว!!)

    “ท่าทางไม่ดีแล้ว!!!”

    W D พยายามจะช่วยแต่ว่าทำยังไงก็เก้งๆกังๆไปหมด ส่วน B เห็นดังนั้นจึงพบก้อนหินก้อนใหญ่และปาใส่หลังของ V จนเธอได้กระโดดเด้งไปโดยสัญชาตญาณจนหน้าทิ่มไปกับพื้น หน้าของเธอทิ่มจนเกือบหักและปลิ้นตัวตีรังกากลับมานอนสู่อีกฝั่ง ไม่นานเธอจึงหันไปที่ B จะตระหวาดใส่เธอด้วยความโมโห

    “เจ็บนะ!!!!!!!!! ”

    “ขอโทษ~ … เอ๊ะ เดี๋ยวสิ!!! แต่ว่าชั้นช่วยเธอนะเนี้ย!! ”

    V เชิดหน้าใส่ B และไปนั่งรอเพื่อนๆที่ใต้ต้นไม้ของอีกฝั่ง เมื่อหนุ่มน้อยเห็นหญิงสาวคนนั้นได้ทำเป็นตัวอย่างให้กับเพื่อนๆ เขาจึงอยากกระโดดบ้างเหมือนกัน ไม่ทันขาดคำเขาได้ลุยเดี่ยวพุ่งตัวไปที่ท่อนไม้ขนาดกลางๆ และไปที่ท่อนไม้ที่เล็กลงเพราะความท้าทาย

    “เห้ย!! โดดดีๆสิ!!”

    B ใจหายใจคว่ำไปหมดเลย เมื่อเห็นเพื่อนชายตัวเองได้การกระทำในสิ่งโง่ไม่เป็นอันฉลาด แต่คำพูดก็เพียงคำพูด เธอไม่อาจจะเข้าไปยุ่งกับหนุ่มน้อยได้

    และทันใดนั้นก็มีนกขนาดใหญ่บินเชี่ยวหน้าของหนุ่มน้อยต่อหน้าต่อหน้าอย่างรวดเร็ว ความเร็วนั้นทำให้เขาตัวสั่นและขยับขาไม่ออก ทั้งๆที่ตอนแรกไม่มีแท้ๆแต่ทำไมล่ะ!!!

    “อะ อ อ อ !!!!"

    “เห้ย!!! ไอ่บ้านั่น!”

    นกตัวนั้นหันกลับมาแล้วพุ่งตัวใส่หนุ่มน้อยอีกครั้ง B กัดฟันแล้วไม่กล้ามอง (ถ้าเกิดไม่ทิ้งป้ายเราจะปาใส่มัน) B คิดพร้อมผิดหวังในสิ่งที่เธอทำลงใน แต่ทันใดนั้นชายหนุ่มอีกคนได้เข้าไปหาหนุ่มน้อยในทันทีแล้ว พาไปส่งอีกฝั่งได้พอดี หนุ่มน้อยเงียบลงมองเพื่อนของเขา หนุ่มน้อยน้ำตาเอ่อขึ้นมาที่เบ้าตาแล้วมอง U อย่างรู้สึกผิด

    “ขอโทษที่เป็นภาระนะ~”

    “ให้ได้อย่างงี้สิ~” ถอนหายใจอย่างสบายใจ

    เพื่อนชายของเขาลูบศีรษะแล้วส่ายหน้าให้เขาเบาๆ เพื่อนสาวอีกคนลูบหลังเบาๆให้สบายใจ ก่อนที่หนุ่มน้อยและเป็นความรู้สึกตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือ และพูดเยาะเย้ยว่า “นี่ๆ มาสิ ผมถึงแล้วนะ ช้าจังๆ” B แทนที่จะใจเย็นแต่ว่าตอนนี้เธอหัวร้อนซะแล้ว

    “เออ!! จะไปให้ดู!!”

    เธอค่อยๆกระโดดไปทีละท่อนไม้พร้อมเจอนกที่บินโฉบลงมา เธอกรีดและก้มหัวลงต่ำ เพื่อนๆต่างจื่นเต้นและเอาใจช่วยเธอ ต่อมาก็ดันมีบางสิ่งขยับอยู่ทางใต้น้ำ มันคือ ปลา มันกระโดดใส่เธอให้ร่วง เธอตกใจและเสียความมั่นใจขึ้นมา ทำให้ชายหนุ่มเข้าไปช่วยเธอ

    “จับผมไว้!!”

    เธอขึ้นหลังชายหนุ่มแล้วกอดคอแน่น ชายหนุ่มจับขาอของเธอแล้วกระโดดล้มทั้งนกและปลาที่พุ่งเข้ามาใส่ แต่พอถึงท่อนไม้สุดท้้าย เพียงแค่กระโดดอีกครั้งก็สามารถถึงได้แล้ว

     

    คึก ๆ ๆ ๆๆ ๆ 

    /////

    เสียงปริศนาใต้พื้นดินที่พวกเราเหยียบอยู่มันกำลังสั่นไหวและค่อยๆแยกออกจากกัน สายแม่จากแม่น้ำไหลมาอย่างน้ำตกจนท่วมรอยแตกแผ่นดินไหว ทั้งสองถูกจับแยกห่างจากเพื่อนๆฝั่งตรงข้าม  700 เมตร B รัดคอของเขาแน่นสุดๆในชีวิต จนเกือบทำให้เขาตาย แม่น้ำจำนวนมากขยายตัวกว้างจนดูเหมือนทะเล 

    U ทำสีหน้าตึงเครียดมากขึ้น และดูท่อนไม้ที่กระจัดกระจายเต็มน้ำทะเลนั้น ดูท่าจะเป็นงานหนักแล้วสิ. . .  เขาจึงกระโดดไปแต่ละท่อนไม้อย่างระมัดระวัง ตอนนี้ห่างกันเพียง 600 เมตร

    ตอนนี้พวกเขาเริ่มได้ยินเสียงเพื่อนๆดังขึ้นมาบ้างแล้ว เขาจึงพูดตอบกลับด้วยความสบายใจ เพราะว่าน้ำไม่ได้ไหลเชี่ยวและยังไม่มีสัตว์มารบกวนอีกด้วย ชายหนุ่มกระโดดจนเหนื่อยขึ้นมาแล้วลดความเร็วลง เขาสบตาเพื่อนๆ พวกเพื่อนๆโบกไม้โบกมือให้พวกเขา แต่ว่าพอเหลือบมองบ่อยๆ ก็สังเกตุได้ว่าพวกเขาทำท่าแปลก ชี้ๆ,ทำมือเป็นสามเหลี่ยม และทำท่าวิ่ง จนกระทั่งB ตรัสรู้และมองไปด้านหลังของพวกเขาเอง มันมีสิ่งมีชีวิตค่อยๆว่ายน้ำเข้ามาหาพวกเขา!!!

     


     

    (ภาพประกอบ : นัดเอง)

    “อ๊าาาา!!!!!!!!!!!!! ฉลาม!!!!!!!!!!! วิ่งๆๆๆๆ ดิฉันกลัวโว้ยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!”

    “ชิบหาย โกยล่ะกู!!”  U เบิกตากว้างและผงะกับฉลามสีประหลาด มันเป็นฉลามสีชมพูทั้งตัวเลย B หยิกหนังศีรษะของชายหนุ่มแล้วอาละวาดออกมา ชายหนุ่มพยายามสวมวิญญาณนักกีฬาแชมป์โลกกระโดดไกลเป็น 9 เมตร ไปท่อนไม้แต่ละท่อนต่อไปเรื่อยๆ ระยะห่างของพวกเขาและฉลามห่างกันเพียง 200 เมตรเท่านั้น

    ระยะหลังๆมาท่อนไม้ต่างๆห่างไกลมากขึ้นจนไม่สามารถกระโดดได้อีกต่อไป U ยื่นค้างจนฉลามเข้ามาใกล้ มันอ้าปากเตรียมรับประทานพวกเขา B อ้าปากค้างและกรี๊ดออกมา เพื่อนๆต่างเกาะและเขย่าตัวกันและกัน ส่วน U หันหน้าเข้าหาและใช้ความคิดทั้งหมดที่ประสบการณ์ของเขาผ่านมา 17 ปี และดูวิดิโอสารคดีมามากและวิธีสั่งสอนฉลามคือ ต่อยไปที่จมูกมัน

    เขากำหมัดแน่นและกระโดดสูงเกินกว่าแชมป์โลกและ Uppercut(งักหมัด)ใส่จมูกของมันเต็มๆ แรงหมัดของเขาเท่ากับกระสุนปืนใหญ่ จนทำให้ฉลามลอยขึ้นสูงเสียดฟ้า สีชมพูอันสดใสบดบังแสงอาทิตย์และเปลี่ยนแสงนั้นกลายเป็นสีชมพุดเพียงแวบเดียว และร่วงตกลงสู้น้ำทะเลอย่างรุนแรง

    B กอดเขาแน่นอย่างหวาดกลัว เธอหลับตาไม่รู้ไม่เห็นใดๆ พวกเธอได้ร่วงลงมาที่ท่อนไม้เดิม พร้อมกับคลื่นน้ำลูกใหญ่ที่เกิดจากฉลามร่วงลงมากลายเป็นแรงดันน้ำซัดพวกเขาลอยเข้าไปในอีกฝั่งได้สำเร็จ

    /////

    เพื่อนๆของพวกเธออึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว D เห็นเพื่อนๆปลอดภัยแล้วโล่งใจขึ้นมา เขาจับบ่าของชายหนุ่มและขอบคุณเขาที่ช่วยเพื่อนสาว และเยาะเย้ยเพื่อนสาวตามประสา

    “555 ตัวสั่นหมดเลยสิท่า~~~ 555”

    “…” เธอลงจากตัวชายหนุ่มและเข่าอ่อนลงกับพื้นทันที D ดูสีท่าไม่ดีจึงพยายามจะทำตัวให้เป็นที่พึ่งเธอได้ แต่ว่าเธอเงยหน้าขึ้นและพุ่งตัวเข้าไปหาหนุ่มน้อย ความกลัวปลดปล่อยออกจากซัดหมัดเล็กๆ เต็มหน้าหนุ่มน้อยลงกับพื้นในทันที 

    “นึกว่าจะตายซะแล้วล่ะ~ อือ~~” เธอหมดแรงเข้าหาเพื่อนตัวแสบ

    “แอ๊ะะะะะะะะะะะ”

    จากนั้นพวกเราเห็นว่าด่านแรกของพวกเรานั้นผ่านไปได้ด้วยดี แผ่นดินทั้งหมดค่อยๆกลับมาเป็นเหมือนเดิมราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น หัวใจเต้นระรัวค่อยๆกลับมามีสติ ความตระหนกหายไป พร้อมกับเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มไปด้วยความเค็ฒจากทะเล พวกเราจึงตัดสินใจจะตากเครื่องแบบนักเรียนไว้กับกิ่งไม้ในป่า

    “ประมาณ 30 นาทีก็ได้เนอะ” เพื่อนๆจึงแยกกันเพื่อไปตากเสื้อผ้าให้แห้ง โดยใช้วิธีสื่อสารผ่านการตะโกนเท่านั้น การผจญภัยแสนเหน็ดเหนื่อยและเน้นการช่วยกันและกันของพวกเขาจะไปได้จนถึงด่านสุดท้ายรึป่าว? ซึ่งนี่เป็นก้าวแรกของพวกเขาเท่านั้นเอง!!!

     

    *****

    ด่านแรกเอาเล่นเปียกซะแล้ว

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×