ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลาโลกไปผจญภัยแฟนตาซีสุดวุ่น

    ลำดับตอนที่ #1 : 0 : ผลของพวกเด็กลองของ

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 67


    กาลครั้งหนึ่งได้มีอยู่ว่า. . . ในเรือนไม้หลังหนึ่ง มีกลุ่มเด็กกลุ่มสี่คนกำลังนั่งรวมกลุ่มรอบโต๊ะ บนโต๊ะมีแผ่นกระดาษปริศนาพร้อมแก้วน้ำและเหรียญ นี่ก็เวลา 18.30 น. ค่อนข้างมืดแล้วด้วย ไม่มีเสียงใดๆพัดผ่านมาเลยแม้แต่น้อย เหล่าเด็กๆต่างตื่นเต้นและหวาดกลัวตามประสาเด็กๆที่จะได้ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด

    "นี่ แล้วให้เอามือไว้บนเหรียญใช่ไหม? // เด็กชายถาม

    "555 น่าสนุกอะๆ // เด็กหญิงตอบ

    ผ่านไป 10นาที 

    เด็กๆหลังจากที่เล่นมาสักพักแล้ว เด็กหญิงก็เกิดอาการขี้เกียจเล่นต่อ จึงพับกระดาษและเก็บอุปกรณ์โดยทันที เพื่อนๆก็เช่นกัน และแล้ววันรุ่งขึ้นพวกเขาก็หายไป และไม่มีใครพบเห็นเลยตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

    /////

    นั่นเป็นเรื่องเล่าสยองขวัญประจำโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งนี้ แล้วตอนนี้มีนักเรียนจำนวนสี่คนกำลังเรียนอยู่ในห้องนี้เหมือนในเรื่องเล่านั้น หนุ่มน้อยคนหนึ่งชอบเล่าเรื่องสยองขวัญ ณ เรือนไม้แห่งนี้พร้อมกับเพื่อนจำนวนสามคน มาเล่น ‘ผีถ้วยแก้ว’ ด้วยกัน

    "อยากเล่น!!!” เสียงชายคนหนึ่งเอ่ย เสียงของเขาแทบไม่ต่างกับนกหวีดปลุกปั่นเพื่อนรอบตัวให้ส่วนใจเขา

    "น่าเบื่อๆ!! ไอ้เรื่องแบบนั้นจะให้พวกเราทำไปทำไมล่ะ!" เสียงผู้หญิงตอบกลับมา เมื่อฟังเรื่องเล่าดูปัญญาอ่อนของชายคนนั้น ชายคนร่าเริงเพิ่งเล่าเรื่องเสร็จก็ผิดหวังที่เพื่อนสาวของเขาไม่สนใจเอาซะเลย เขาถอนหายใจและมองเพื่อนอีกสองคนอย่างมีความหวังว่าจะคล้อยตามเขา

    ตอนนี้เป็นเวลา 18.00 น. ท้องฟ้ากลายเป็นสีส้มนวลตาสีชาเย็น ไม่มีนักเรียนคนใดอยู่ในนี้มากไปกว่าพวกเขาสี่คน ภารโรงต่างกลับบ้านกันไปหมดแล้วด้วย เป็นโอกาสที่เหมาะเจาะที่สุดแล้ว ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ทำการละเล่นของคนลองดี

    เพื่อนหญิงอีกคนกอดอกแล้วพยักหน้าตอบกลับ ส่วนเพื่อนชายอีกคนกับมาลูบหัวของชายผู้เสนอไอเดียซะงั้น ราวกับให้ทำใจตั้งแต่เนิ้นๆ… ผู้ชายตัวเล็กผมสีดำเริ่มหงุดหงิด แล้วเถียงกับหญิงสาวก้าวร้าวที่ปฏิเสธตั้งแต่แรก แล้วเอาของที่เตรียมมาเหมือนในเรื่องราวออกมาโชว เผื่อว่าจะมีคนสนใจมากกว่านี้

    ยังไงซะก็แค่เรื่องหลอกเด็ก! ก็แค่เรื่องปัญญาอ่อนหลอกเด็กอย่างแกไง // หญิงสาวคนนั้นดูหมิ่นชายหนุ่มคนนั้น หรือเรียกว่า ‘เคมีไม่เข้ากัน’ ปากร้ายผ่ากลางลำตัวหนุ่มน้อยไม่เหลือซาก เขาก็ไม่สนใจใยดีสาวน้อยคนนั้น แล้วพูดตอบกลับไปด้วยความพยายาม

    “ถึงยังไงก็ขอพิสูจน์หน่อยเถอะ เราอุตหส่าเตรียมมาแล้วเชียวนะ B” ชายหนุ่มตอบกลับไป

    "นายชอบท้าทายดีจริงๆ ก็รู้ๆอยู่ว่ามีคนไม่ชอบ//

    หยุดพูด!// ผู้หญิงสองคนกำลังดูเป็นกังวลถึงความพิเรนแสนน่ากลัว แต่ไม่มีทางจะหยุดยั้งความกระตือรือร้นของผู้ชายร่าเริงคนนั้นได้ แม้จะมีเพื่อนชายอีกคนแต่ไม่เป็นผลใดๆเลย

     

    แล้วคิดว่าตอนนี้ทุกคนอาจจะงงว่าแต่ละคนเป็นใครกันบ้าง งั้นจะเริ่มอธิบายแต่ละคนให้รู้เพียงไม่กี่นาทีกันเลย เริ่มจากผู้หญิงก้าวร้าวคนนี้กำลังยืนหงุดหงิดอยู่

     

    **คนที่1 ชื่อ B 

    ผู้หญิงขี้เบื่อ ด่าเก่ง ตัวเล็ก ผมน้ำตาล สนใจแต่คนที่เอาใจเก่ง** มักมีคู่ปรับเป็นหนุ่มน้อยที่ซกซน เธอมักรำคาญและพูดทำร้ายจิตใจตลอดเวลา จนมีปากเสียงให้หมู่เพื่อนอีกสองคนคอยห้ามตลอด

    ชายหนุ่มตัวเล็กแสยะยิ้มยกนิ้วโป้งให้เธอแสดงความสนุกสนาน แล้วกางกระดาษบอร์ดเกมเป็นแผ่นยาว

    “น่ารำคาญซะจริง หาเรื่องเก่งไปไหน ไอ้เตี้ยตัวเนี้ย ฮึ่ม”

    “ฮึๆ อย่างน้อยถ้าสร้างความสนุกให้เพื่อนๆก็ยอมแหล่ะ เธอเองก็มาสนุกด้วยกันเถอะ เจ้าน่ารำคาญ// (ผมก็ได้แต่กลัวเธอ เพราะเป็นนางมารของจริง หลีกเลี่ยงคำพูดหยาบคายจะดีที่สุด)

    เพื่อนชายอีกคนดูเหมือนสนใจที่จะเล่นเกม จึงกอดคอ B ที่ดูไม่อยากเกมก่อนหน้านั้น ทำให้เธอเงียบไปสักพักนึง ผมส่งสายตาที่มีหวังให้เธอจนเธอใจอ่อนและพยักหน้าเล็กน้อย

    “ก็.. ตามใจพวกนายละกัน…” B ตอบ

    ส่วนเพื่อนสาวอีกคนเข้ามาลูบศีรษะ B เบาๆเป็นเพื่อนสนิทที่น่าวางไว้ใจมากที่สุด ได้ปลอบประโลมเธอที่ไม่สามารถขัดการละเล่นสุดท้าทายของพวกผู้ชายไปมากกว่านี้ได้ ชายร่าเริงเหลือบมองแล้วพยักหน้าชวนให้พวกเธอมาร่วมวงด้วย เพื่อนสาวคนที่ปลอบ B พยักหน้าตอบกลับมา

    **คนที่ 2 ผู้หญิงคนนี้ชื่อ V

    ผู้หญิงผมยาวดำ สวมแว่นสายตากลมโต มีนิสัยเงียบไม่ชอบยุ่งกับใครมาก ยกเว้น Bเพื่อนรัก** เพื่อนในกลุ่มที่ใช้สมองในการแก้้ปัญหา IQเกิน120 แต่ว่าไม่ได้ชอบมีบทบาทในหมู่เพื่อนเท่าใดนัก

    ปกติแล้วกลุ่มเพื่อนสี่คน เกิดขึ้นได้เพราะมาจากการฟังเรื่องเล่าหลังเลิกเรียนของชายร่าเริง เขามักจะเล่าเรื่องให้เพื่อนชายฟังเป้นประจำ และพวกเธอทั้งสองก็ดันมาสนใจจนกลายเป็นกลุ่ม เขาชอบเล่าเรื่องเกี่ยวกับสิ่งลึกลับต่างๆ มิติพิศวง นิทายหลอนๆ เรื่องเล่าลี้ลับ และหลังๆมาก็ชอบพิสูจน์ แต่ส่วนมากเพื่อนๆก็จะปฎิเสธอย่างหนักแน่น

    **คนที่ 3ชายคนนี้ เขาชื่อ W(ยู)

     ชายผมสีเทา ร่างกายที่สูงโตเหมือนเสือป่า เสียงที่ทรงพลังทำให้เขาดูมีความน่าเชื่อถือมากเลย ขนาดV ที่ดูนิ่งไม่สนอะไร ยังยอมเขาเลยล่ะ // คนที่แข็งแรงที่สุดในกลุ่มเพื่อนและยังสามารถสนิทกับเพื่อนคนอื่นๆได้โดยไม่มีเส้นบางๆคั่นไว้

    “มาๆจัดโต๊ะกัน!! เตรียมลุยๆ ^^ //ยังเป็นผู้นำกลุ่มที่ยังไม่ทำให้บรรยากาศเสียด้วย W เริ่มนำโต๊ะมาวางเรียงติดๆกันเป็นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่และวางแผ่นผีถ้วยแก้วเรียบร้อย

    “ขอบคุณ  U ~~!!!”

    คนที่ 4 ชื่อ D

    ชาย ผมสีดำครามฟ้า ตัวเตี้ย ร่าเริง เป็นคนลึกลับ ประหลาด และชอบทำให้คนรอบๆหงุดหงิด หรือเรียกว่าเป็นตัวปัญหาในกลุ่มเพื่อน // เขามักร่าเริงเฉพาะเจอกับคนที่เคมีเหมือนกัน และยังเป็นคนชอบของแปลกๆ ไม่เข้าสังคมเท่าไหร่ ขี้เบื่อและชอบก่อกวนคนอื่นแก้เหงาโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันน่ารำคาญแค่ไหน

    พวกผู้หญิงต่างถอนหายใจและทำอย่างที่พวกเราต้องการ พวกเรายกโต๊ะมีติดกันเป็นสี่เหลี่ยมและวางกระดาษแผ่นใหญ่พร้อมแก้วและเหรียญ พวกเรากำลังจะเริ่มเล่น ผีถ้วยแก้วนั่นเอง!!!

    "..."

    บรรยากาศช่างเงียบเหลือเกิน เสียงจั๊กจั่นร้องดังขึ้นทั้งๆที่ตอนนี้เพิ่ง18.15 น. หลังจากที่พวกกเรานำโต๊ะมาเรียงเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส B เริ่มใจคอไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แล้วบอกว่าจะไม่เล่นเกมเล่น จะเป็นเพียงคนดูเท่านั้น ผมจึงพูดเสียดสีเธอไปเล็กน้อยให้เธอหงุดหงิดเล่นๆ

    “ปกติเธอจะไม่กลัวนิ~~ ช่วงนี้ดูหนังผีจนหลอนแล้วแล้วหา~~” D พูดกวนประสาท

    “อึก!! ป่าว!! เรื่องไร้สาระจะทำให้กลัวได้ไงกัน! เงียบไป!” B หันมาท่าทางเลิกลั่ก

    “ไม่เล่นก็ไม่ต้องเล่น… กลัวก็หลบไป 555// D ยิ้มด้วยความร่าเริง แถมถยังสร้างความหงุดหงิดแก่เพื่อนสาวตัวเล็กคนนั้น B ถึงจะเป็นคนที่แอบกลัวสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่ใจเธอหยามไม่ได้เลยล่ะ

    วิธีเล่นผีถ้วยแก้ว :โดยการเล่นคือ เอาเหรียญบาทเดียวใส่เข้าในแก้วแล้ว นำไปวางไว้ตรงกลางกระดาษที่เป็นพื้นที่ว่าง ในกระดาษจะมีตัวอักษรครบทุกตัวในภาษาไทย แล้วเอามือของทุกคนมาบรรจบกันที่แก้ว พวกเราจะเรียกสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้ามา แล้วถามคำถามเรื่อยๆจนกว่าจะพอใจ แก้วจะขยับไปที่ตัวอักษรแล้วตอบเรามาเอง

    "แต่ละคน เตรียมคำถามได้ละใช่ไหม// U ที่อยากถามจึงพูดขึ้นมา

    ชายผู้ร่างโตพูดอย่างตื่นเต้นพร้อมที่จะถามมาก A ก็คิดอะไรไม่ค่อยออกเลยแอบมีกังวลอยู่บ้าง บรรยากาศรอบข้างดูมืดลงไปเรื่อยๆ จนท้องฟ้าเป็นสีโกโก้ พร้อมกับความเงียบ จนสามารถได้ยินเสียงลมหายใจร่วมกันได้เลย

    "เอาแหละ เอามือแตะบนแก้วกัน!// รอยยิ้มบนใบหน้า A แสดงความตื่นเต้นออกมาอย่างชัดเขน มากพอจะทำให้หญิงสาวคู่ทะเาะขนลุกจนขนตั้งต่อหนาเพื่อนฝูง

    แต่ละคนได้ยื่นมือไปแตะแก้วอย่างหวั่นใจ เพื่อนชายตัวเล็กมือสั่น(ตื่นเต้น)จับแก้วอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากกว่านั้น ผู้หญิงสวมแว่นจึงพูดสคริปส์เชิญดวงวิญญาณเข้ามาในแก้ว

    "คุณสิ่งศักดิ์รอบๆที่แห่งนี้ ช่วยเข้ามาอยู่ในถ้วยนี้ด้วย พวกเราจะอัญเชิญคุณเข้ามาในแก้วเพื่อตอบคำถามที่พวกเราต้องการรู้ทุกสิ่ง ถ้าเข้ามาในแก้วแล้วโปรดส่งสัญญาณด้วย // V เป็นคนห้วนๆไม่ค่อยลงหางเสียงสุภาพเท่าใดนัก

    ทันใดนั้นไม่นานไฟในห้องเรียนก็ดับลง พัดลมที่พวกเราเปิดระบายอากาศดับลง ทุกอย่างมืดและเงียบมาก D ใช้มืออีกข้างจิกไปที่แขนเสื้อของเพื่อนชายของเขาแสดงความตื่นเต้นไร้ขีดจำกัด อาจจะแสดงถึงความสะใจที่เห็นสาวๆกำลังมือสั่นอยู่ก็ได้

    "ใครปิดไฟวะ!!! ไม่เล่นๆๆ!! ฉันไม่เล่นแล้ว!!" B เริ่มกลัวขึ้นมา แต่ว่าถูกเพื่อนห้ามไว้ได้ อย่าเอามาออกจากแก้ว

    “พวกนายเนี้ยนะ ทำแบบนี้ทำประโยชน์อะไรเนี่ย ทำเพื่อนฉันกลัวหมดแล้ว” V พูดด้วยความเหนื่อยใจ กลับกันก็ถูกเพื่อนสาวอุดปากสว่างของเธอเอง

    (งั้นก็เป็นเรื่องจริงสินะ ผีถ้วยแก้ว) // W คิดกลืนน้ำลายแล้วพยายามนิ่งให้มากที่สุด

    ทุกคนเกร็งจนลืมหายใจเลยก็ว่าได้ ตอนนี้มืดจนมองอะไรแทบไม่เห็น V เป็นเด็กสาวที่ฉลาดจึงถามกลับไปที่ชายผู้เปิดตัวนำความอัปมงคลมาให้ว่า มีอะไรส่องแสงได้ไหม?

    ไม่มีอะ โทรศัพท์แบตหมด //

    เพื่อนชายอีกคนถอนหายใจแล้วใช้แสงจากโทรศัพท์ของเขายิงเป็นไฟฉาย ซึ่งสมัยนั้นโทรศัพท์ไม่ได้เป็นจอสัมผัส จึงทำได้แค่หน้าจอให้แสงเท่านั้น ส่วน B ก็บ่นใส่ชายตัวเล็กคนนั้นใหญ่เลยที่ไม่เตรียมตัวให้พร้อม แถมพาพวกเรามาพบเรื่องน่ากลัวๆพวกนี้อีก

    "งั้นมาเริ่มคำถามก่อนเลย ใครจะเริ่มก่อนล่ะ?" V พูด

    "ผมเองๆ " U อยากถาม เขาสุดหายใจเข้าไปลึกๆก่อนที่จะเริ่มถามคำถามอออกไป 1 ข้อ

     

    วันนี้ผมกินข้าวไปกี่มื้อ?//

    . . . . . . . . . . . . 

    ทั้งห้องเงียบสนิท ไม่ใช่ว่าน่ากลัวนะ แต่ว่าคำถามที่ไร้ประโยชน์ของชายคนนั้น มันทำให้พวกเราปวดหัวจริงๆ B จึงหันมาบ่นใส่เขาถึงคำถามโง่ๆนั่น แล้วตั้งตัวจะเป็นคิวต่อไป เพื่อถามคำถามที่จริงจังมากกว่านี้

    " นั่นสินะ ทั้งที่สถานการณ์น่ากลัวแท้ๆ ยังกล้าถามเรื่องแบบนี้น่ะเหรอ" V พูด

    เขาจึงอธิบายเหตุผลที่เขาถามแบบนี้ ก็คือ เขาตั้งใจถามคำถามที่มีแค่เขาที่รู้เท่านั้น เพื่อทดสอบสิ่งลี้ลับโดยเฉพาะ  เพื่อนๆต่างดูว่าชายคนนี้ฉลาดจริงๆ

    “โห ฉลาดนี่นา แต่ว่าโอกาสแบบนี้ถามเรื่องที่น่าสนใจดีกว่านะ” V ตกใจที่ชายคนนั้นตอบได้

    “นั่นสิ นายยังเหลือสมองให้้ประมวลผลอยู่รึป่าว รู้ไหมว่าการอยู่ในสถานการณ์แบบนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเราอ่ะ”  B ย้ำแน่นอนว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว

     

    แก้วได้ขยับและไปหยุดที่หมายเลข "5" 

     

    "ถูกด้วยแฮะ เชื่อแล้วล่ะ// ไม่มีคำอธิบายอื่นๆมารับรอง แต่ว่าแค่เหตุการณ์นี้ทำเพื่อนๆช็อกในทันที ว่า ผี มีจริง 

    “กรี๊ดดดด!!! แม่งๆๆๆ มันมีจริงๆๆ ๆ ๆจะ จะจจ ะจะ จจะ จะ!&^$&%&^#&(*(@” B ตกใจและเสียงสั่นเป็นร่างทรงแล้ว A ตกใจรีบคว้ามือเธอกำแน่นแล้วสั่งให้ใจเย็น แต่สภาพนางไม่เหลือสติ นี่ก็อาจจะสรุปได้เล็กน้อยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้อาจจะเหนือธรรมชาติ เพื่อนๆต่างเงียบและจริงจังมากขึ้น B เองก็แอบกังวลและใจดีสู้เสือ ถามคำถามถัดไปจาก U

    "แล้วคุณเป็นใครเหรอ// B เปิดปากถามไปแบบไม่เต็มใจ

    แก้วขยับไปที่อักษรทีล่ะตัว อักษรได้ประกอบตัวกันว่า “ ไ ม ่ ร ู ้ ” // B หายใจเร้าร่นมากขึ้นแล้ว V เห็นแบบนั้นจึงใช้มืออีกข้างจับมืออีกข้างของเธอ แล้วบอก ไม่เป็นไร ให้Bสบายใจ 

    "งั้นต่อไปฉันลองบ้าง" V พูด

    เธอยิ้มเล็กน้อยอย่างมีพิรุธก่อนค่อยพูดเสียงเบาๆออกมา ภายใต้ความมืดในห้องเรียนได้เกิดคำถามแสนตรงข้าม และเกิดความหวานชื่นต่อจิตใจของแต่ละคน

    "ในกลุ่มพวกเรามีคนมีความรักไหม?"

    แก้วขยับ ประกอบคำว่า "ใช่" B แอบหน้าแดงเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปที่ V คนถาม ชายอีกสองคนไม่สบตาพวกเธอแล้วเงียบ V รู้สึกแปลกๆเอียงศีรษะถามทั้งสอง แต่พวกเราปฏิเสธแล้วเริ่มเล่นเกมต่อ

    "ถึงตาเราแล้ว 555 พวกเจ้าดู"

    D จึงเริ่มเปล่งคำปรารถณาของเขาออกมา เสียงใสๆของเขากลับเป็นความวิตกกังวลของเพื่อนๆ เขากำลังจะทำให้บรรยากาศทั้งหมดดิ่งลงเหวโดยไม่รู้ตัว

    "ปรากฎตัวให้เราเห็นได้ไหมอะ~~// แล้วคำพูดกล้าหาญของชายนนายหนึ่งประหนึ่งยอดนักรบกล่าวเชิญชวนจนเพื่อนๆหน้าถอดสี สาวๆที่นั่งอ้าปากค้าง น้ำลายในปากแทบกระฉอกออกมา แต่ก็พูดอะไรไม่ออกเลย

    555 ไหนเหรอ?// เขายังกล้าหาญอยู่วันยังค่ำ

    ชายร่าเริงแอบหัวเราะไปด้วยอย่างตื่นเต้น เพื่อนๆยังคงหันเข้ามามองหน้าของ D อย่างตกใจก่อน สาวก้าวร้าวจะโวยวายใส่ B พูดด้วยเสียงสั่นด่าสารพัดวัวควายใส่ชายคนนั้น V เงียบแล้วขมวดคิ้วก่อนจะเริ่มหายใจหนักขึ้นและพูดประโยคเจ็บๆจนหูชา ส่วนเพื่อนชายอีกคนบีบมือเขาแน่นจนเขาร้องเจ็บออกมา เพราะเขาถามไม่ดูเวล่ำเวลา D รีบขอโทษเพื่อนๆทันที ก่อนที่แก้วจะเริ่มขยับ

     "ข้างหลัง"

    ทุกๆคนรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้น//

    .

    .

    .

    แล้วหันกลับไปที่ประตูห้องๆนั้นมีเงาปริศนาปรากฎตัวตรงนั้นและเคลื่อนที่เข้ามา//

    สีหน้าของแต่ละคนเริ่มหวาดกลัว //

    อยู่ๆโทรศัพท์ของ W ก็ดับลง//

    ทุกคนกรีีดร้องและปล่อยมือออกจากแก้วน้ำ //

    ต่างคนต่างจะออกจากที่นี่ //

    แต่ว่าความมืดสนิทของห้องเรียนทำให้ไม่มีใครสามารถเห็นอะไรได้เลย //

    ก่อนภาพของทุกๆคนกลายเป็นสีดำและภาพตัดไปทันที…//

     

    . . . . . . . . . . . . . .

    เช้าวันต่อมา

    ระหว่างเช็คชื่อในคาบโฮมรูม คุณครูประจำชั้นได้เรียกชื่อนักเรียนตามปกติ

    "ไก่ทอด" 

    "มาครับ"

    "ไก่ย่าง"

    "มาครับ"

    "D"

    .......

    คุณครูเงยหน้ามองไปที่โต๊ะของ D และถามนักเรียนที่เหลือ พวกเขาส่ายหน้าพร้อมกันแล้วบอกอีกว่า W B V ก็ไม่มาเหมือนกัน คุณครูต่างสงสัยแล้วเอียงศีรษะเล็กน้อย แต่ว่าก็ไม่คิดอะไร

    "งั้นคุณขอตัวก่อนล่ะ ติดต่อทั้งสี่ด้วยนะนักเรียน ครูเป็นห่วง"

    "ครับ/ค่ะ"

    พวกนักเรียนตอบเป็นมารยาทก่อนจะนั่งคุยกันถึงเรื่องผีถ้วยแก้วในโรงเรียน แต่ก็ไม่สามารถพิสูจญ์อะไรได้ โต๊ะทั้งสี่นั้นจะกลายเป็นโต๊ะที่ไม่มีเจ้าของอีกตลอดกาลและทั้งสี่คนนั้นก็จะไม่กลับมาอีกตลอดกาลเช่นเดียวกัน

    .

    .

    .

    .

    .

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×