คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Magic 9
โยฮันนัดให้จูไดลงไปที่ห้องพิเศษเพื่อคุยกัน เพราะถ้าคุยกันในห้องมีแต่จะอึดอัดจึงอยาก
เปลื่ยนบรรยายกาศ และหวังว่าอยากให้มีใครมาฟังด้วยนอกเหนือยจากเขา
หอพักนักเรียนที่3ของโรงเรียน เป็นหอพักสำหรับนักเรียนชั้นปีที่3โดยเฉพาะ หอพักทุกหอจะมีการแยกห้องพิเศษขนาดใหญ่ไว้สำหรับนักเรียนชั้นหัวกระทิเพื่อการพักผ่อนหย่อนคลายให้เหล่าเด็กที่เก่งๆ
แต่ทางหอพักจะไม่แยกการพักของหญิงชาย ต้องนอนที่ตึกเดียวกันเท่านั้นเพราะเป็นการฝึกอบรมอย่างหนึ่ง แต่จะมีการแยกห้องน้ำไว้ให้เฉพาะอย่างแน่นหนาและที่นี่ห้องพิเศษของหอพักที่3
ใจกลางห้องมี โยฮันนั่งอ่านหนังสือรอจูไดอย่างใจเย็นตามภาษาเพื่อน เขารู้ดีว่าจูไดมักจะมาสายเป็นประจำและพึ่งย้ายมาหอนี้ได้ไม่นานด้วยจึงมาช้าได้อย่างไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่
“ไง~นายคือแอนเดอร์สันคุงสินะ”โควโผล่หน้าเข้ามาในห้องพักพิเศษอย่างถือวิสาสะ เพราะเขาไม่ใช่นักเรียนระดับหัวกะทิการเข้ามาในห้องพิเศษนี้จึงผิดกฎหออย่างแรง ถึงขั้นถูกทำโทษล้างห้องน้ำเป็นเดือนๆได้เลย
“นายมาทำอะไรที่นี่ล่ะโฮวแกรนคุง จะว่าไประวังผู้คุมหอไว้หน่อยก็ดีนะที่นี่ไม่ใช่ที่ๆนายจะเข้ามาได้”โยฮันเตือนอย่างเป็นห่วงทั้งที่ยังคงไม่ละสายตาจากหนังสือแม้แต่น้อย
“ขอบใจนะ..แต่ไม่ต้องห่วงหรอกน่าชั้นแค่อยากลองฟังเรื่องของหมอนั่นน่ะ มันคาใจ”โควพูดอย่างมั่นใจแล้วเดินเข้ามานั่งที่โซฟาตรงข้ามกับที่โยฮันนั่งอยู่
“นายน่ะรู้จักมารยาทเบื้องบ้างมั้ยเนี่ย”คราวนี้โยฮันละสายตาจากหนังสือแล้วหันไปมองโควที่ไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยแถมคำติไปด้วย
“มาอยู่นี่เองหรอโคว..ว่าแต่ที่นี่มันเข้ามาไม่ได้นะ”บุคคลที่2เดินเข้ามาหาเพื่อนตนที่ชอบแหกกฎของหอเป็นว่าเล่นตั้งแต่ปี1
“อะไรกัน~ยูเซย์เองหรอ แต่ว่านะนายไม่อยากรู้หน่อยหรอว่าทำไม2คนนั้นถึงได้ทะเลาะกันแรงแบบนั้น เป็นถึงนักเรียนหัวกระทิแต่ไปมีเรื่องนี่มันแปลกนะ มันผิดกฎทางโรงเรียนด้วย”
โควพูดหว่านล้อมใส่ยูเซย์ซึ่งมันก็ได้ผลเสียด้วย เพราะยูเซย์ก็รู้สึกสนใจอยู่ไม่น้อย คนที่ยิ้มได้น่ารักแบบนั้นทำไมถึงโกรธได้น่ากลัวแบบนี้กัน
“ชั้นก็ไม่ได้จะว่าพวกนายหรอกนะแต่จูไดจะยอมเล่าให้พวกนายฟังรึเปล่านี่ต่างหาก ชั้นน่ะเคารพในการตัดสินใจของหมอนั่นอยู่แล้ว”โยฮันที่รู้ว่าคงจะไม่ให้2คนนี้มายุ่งเรื่องของพวกเขาไม่ได้ ก็ได้แต่ยอมๆทั้งคู่
“ว้า!!!ขอโทษที่มาช้านะโยฮันรอชั้นนานรึเปล่า วะ..เหว่อ!!!”ในขณะนั้นจูไดก็ได้โผล่พรวดเข้ามาด้วยความเร่งรีบจนมาชนเข้ากับยูเซย์ที่ยืนอยู่จนล้มลงไปทั้งคู่
“นี่จูไดเป็นอะไรมั้ย”โยฮันลุกจากโซฟาแล้วดึงมือเพื่อนให้ออกจากตัวยูเซย์เพราะตอนนี้เขาทั้ง2คนกำลังล้มลงไปทับกันอยู่
“อ่ะ..ขอบใจนะโยฮันนี่!ยูเซย์เป็นอะไรรึเปล่าชั้นขอโทษ”จูไดที่ได้โยฮันช่วยตอนนี้ก็พุ่งตัวเข้าไปพยุงยูเซย์ที่ตนชนล้มแล้วดูว่าได้รับบาดเจ็บรึเปล่า
“ไม่เป็นว่าแต่จูไดเถอะเป็นอะไรรึปะ..”ยูเซย์ที่ไม่เป็นไรกึ่งนั่งกึ่งนอนบนพื้นตอนนี้ถึงกลับหยุดพูดแล้วหันไปสังเกตแผลที่เลือดออกตรงแขนขวาของจูไดเป็นเพราะเมื่อที่กี้ชนจนล้มลงไปตอนนั้นจูไดใช้แขนช่วยรับศีรษะเขาไว้จนถลอกแน่เลย
“อ่า..ชั้นสบายมาก..อ่ะ..อุ่ย..เจ็บ~”จูไดพึ่งจะรู้สึกตัวตอนนี้ที่แขนก็มีแต่เลือดออกเต็มไปหมด “มานี่สิจูได”ยูเซย์ดึงจูไดเข้ามาหาตนแล้วใช้เวทย์รักษาให้ ภายในเวลา3นาทีแขนก็กลับมาหายดีแล้วที่เหลือก็มีแต่รอยเลือดที่เปื้อนเเขนเสื้อเท่านั้นเท่า
“เฮ้อนายที่ซุ่มซ่ามจริงๆเลย”โควบ่นใส่จูไดก่อนที่จะยืนมือไปดึงตัวเพื่อนตนที่นั่งอยู่บนพื้นให้ลุกขึ้นมานั่งโซฟาดีๆ
“ขอบใจนะโคว”เขากล่าวแล้วยิ้มออกมานิดๆให้เพื่อนสมัยเด็กของตนที่มักจะคอยช่วยเวลาที่ตัวเขาไม่ค่อยใส่ใจตัวเองเลย จนมีแผลกลับมาเสมอ
“เรื่องเล็กน่า~ที่สำคัญกว่านั้นนะชั้นอยากรู้เรื่องของหมอนี่ต่างหากถึงมาที่นี่”โควชี้ไปยังจูได ที่กำลังนั่งเช็ดคราบเลือดที่ติดแขนตนอยู่
“เรื่องของชั้นน่ะหรอ...นายอยากรู้ไปทำไม”จูไดมองไปที่โควด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เต็มไปด้วยความกดดันจากเจ้าตัว “ก็เพราะที่มาของฉายานายมันมาจากกระทรวงรักษาความปลอดภัยนี่
เพื่อนของชั้นที่เป็นตำรวจที่นั่นบอกมาว่ามีเหมันต์หลงทางเข้ามาพัวพันกับคดีที่ไม่ควรเข้าน่ะ!"
โควอธิบายให้พวกจูไดฟังทำให้หน้าจูไดจากตึงเครียดก็หย่อนลงมาบ้าง เรื่องนี้ซักวันก็คงเเดงขึ้นมาเล่าให้ฟังซักหน่อยก็ดี
“คงถึงเวลาแล้วสินะที่ชั้นต้องพูด”หลับตาลงทำใจและนึกถึงเหตุการณ์เมื่อ2ปีก่อน ที่แสนเจ็บปวดเพราะการตัดสินใจผิดพลาดครั้งนั้นทำให้เขาต้องเสียเพื่อนไป
“นายไม่เป็นไรใช้มั้ย”น้ำเสียงแฝงเป็นห่วงที่ยูเซย์พูดออกมาถึงแม้จะมีกันแค่4คน แต่ทั้ง3ก็รับรู้ถึงความรู้สึกที่เป็นห่วงนี้ได้มันเป็นความห่วงใยอันบริสุทธ์จากคนที่ไม่หวังอะไรจากคนอื่น
“อื้อ..ไม่เป็นชั้นขอเรียบเรียงก่อนนะ”จูไดสูดลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะก่อนจะเล่าเรื่องราวออกมา
‘2ปีก่อนหน้านี้ โยฮันเดินทางกลับบ้านเกิดที่อเมริกา3เดือน ในระหว่างนั้นชั้นรอนายกลับมา ชั้นก็ได้เจอเพื่อนเก่าชื่อจิมน่ะ เป็นเพื่อนเก่าที่รู้จักตอนไปเที่ยวที่บ้านปู่กับย่าสมัยเด็กๆตอนนั้นโยฮันพึ่งจะย้ยมาข้างบ้านชั้นเอง ก็กะว่าถ้าโยฮันกลับมาจะแนะนำให้รู้จักกัน
แต่ว่า.....วันนั้นเป็นวันที่ชั้นได้ไปที่ยิมฝึกซ้อมเป็นประจำ ซึ่งจิมเองก็มาด้วย แต่ว่าตอนไปถึงยิมก็เกิดเหตุวุ่นวายยิมโดนพังจนไม่เหลือชิ้นดี และก็มีแก๊งค์แปลกๆได้ลักพาตัวเด็กๆทุกคนจับใส่กรงขังเวทย์เหมือนกับสัตว์เลย
เพราะตอนนั้นชั้นยังเด็กและความใจร้อนจึงเข้าไปขวางโดยไม่คิดแผนอะไรเลย หลังจากนั้นก็ได้เข้าประทะกับมือขวาของหัวหน้าพวกมัน นั่นก็คือเอ็ด ฟินิกซ์’
เมื่อเล่ามาถึงตรงนี้ทำให้ทุกคนถึงกับอึ้งไปตามๆกัน คดีใหญ่เมื่อ2ปีก่อนแก๊งค์ลักพาตัวเด็กไปค้าผิดกฎหมายทำให้ทางกระทรวงด้านความปลอดภัยในตอนนั้นวุ่นวายกันเป็นเดือนๆเลย
คนร้ายที่จับไม่ได้คือ เอ็ดฟินิกซ์อย่างงั้นหรอ ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอยู่พักหนึ่งก่อนที่จูไดจะเริ่มเล่าอีกครั้ง
‘ตอนนั้นชั้นได้เข้าปะทะโดยตรงกับเอ็ด และใส่อย่างเต็มแรง หมอนั่นน่ะที่จริงแข็งแกร่งมากแต่ตอนที่แข่งเมื่อกี้หมอนั่นกลับออมมือให้ชั้น เจ็บใจชะมัด ชั้นจำได้ว่าตอนนั้นสู้เกือบชนะเอ็ด แต่ก็มีลูกน้องที่มีเวทย์แปลกๆคนหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วจัดการกับจิมที่ช่วยเด็กๆอยู่
แค่ชั่วพริบตาที่จิมเผลอ เอ็ดก็เบี่ยงเบนจากชั้นแล้วพุ่งไปที่จิม เจ้านั่นเสกลูกศรพิษหลายๆเส้นออกมาและสั่งให้มันโจมตีใส่จิม
รวดเดียว......’ถึงตรงนี้น้ำตาแห่งความเศร้าเสียใจก็ไหลลงมาอาบแก้มของจูได
ถ้าเขามีไหวพริบมากกว่านี้ คงจะช่วยจิมได้เพราะความประมาทของเขา ทั้ง3ที่ฟังรู้สึกได้ถึงความเศร้าการเสียเพื่อนไปมันทำใจได้ยากมากๆ
‘อึก..มันน่ะ..หมอนั่น...เอ็ด!!ฆ่าเพื่อนชั้นไปต่อหน้าต่อตา’ น้ำตายังคงไหลลงมาผสมปนเปไปกับความรู้สึกโกรธที่ประทุขึ้น เขาสาบานกับตัวเองเลยว่าไม่มีทางให้อภัยหมอนั่นเด็ดขาด
‘ก่อนจะหลบหนีไปพวกมันพลาดที่ลืมพาตัวเด็กคนหนึ่งไป ซาคากิ ยูยะ ยังดีนะที่ช่วยยูยะได้ถึงแม้จะเป็น1%ใน100แต่อย่างน้อยก็ช่วยได้ แต่ต้องแลกมาด้วยชีวิตเพื่อนนี่ชั้นทำอะไรลงไปกันนะ'
สายตาที่เริ่มเลือนรางก่อนจะปิดลง ยูเซย์รีบเข้าไปคว้าตัวจูไดก่อนจะหมดสติล้มลงไปกับพื้น เขาสัมผัสได้ถึงตัวของจูไดที่กำลังสั่นเพราะความเสียใจ กลัว ที่จะต้องเห็นเพื่อนมาบาดเจ็บเพราะตนเองอีก น้ำตายังไหลรินอย่างไม่ขาดสายสร้างความกังวลให้ทั้ง3คนที่อยู่ในห้องเป็นอย่างมาก
“นี่...จูได..ไหวรึเปล่า”เพื่อนสนิทอย่างโยฮันถามขึ้นอย่างเป็นกังวล แล้วเข้าไปตีหน้าจูไดเบาๆ “ดูเหมือนจะหลับไปแล้วล่ะครับ ให้ผมพาไปส่งที่ห้องพวกคุณนะ”ยูเซย์ว่าก่อนจะอุ้มขึ้นเตรียมใช้เวทย์เคลื่อนย้ายร่างกายของจูไดที่ถูกอุ้มขึ้นเริ่มสั่นน้อยลงทำใหยูเซย์ประหลาดใจเล็กน้อย
“ขอบคุณนะยูเซย์คุง ช่วยได้มากเลยแล้วโฮแกนล่ะจะไปด้วยกันรึเปล่า”ทางโยฮันก็จะใช้เวทย์เคลื่อนย้ายไปพร้อมๆกับยูเซย์แต่ก็หันไปถามโควที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม
“ไม่ล่ะชั้นขอกลับห้องดีกว่า มีเรื่องต้องทำน่ะแล้วก็เรียกชั้นว่าโควก็ได้”หลังจากที่ทางโยฮันจะเคลื่อนย้ายแล้ว โควก็เดินออกจากห้องไป
ฟรึบ!!ทั้ง3มาถึงห้องพักของจูได ยูเซย์กวาดสายตามองรอบๆห้องของพวกโยฮัน เป็นห้องที่สวยสดงดงามมีทั้งผลึกคริสตัลกับน้ำแข็งล้อมรอบสร้างความตื่นตาให้เขาเป็นอย่างมาก
“ขอบคุณอีกครั้งนนะยูเซย์คุง ตรงนั้นเป็นเตียงของจูได เอาเขาไปตรงนั้นได้เลย”โยฮันชี้ไปทางฝั่งที่มีน้ำแข็งขึ้นรอบๆส่องแสงกระทบกันเป็นเงาแวววาว
เขาวางจูไดลงบนเตียงอย่างเบามือแล้วใช้มือเช็ดคราบน้ำตาที่เริ่มเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ใบหน้าที่ขาวนวล อมชมพูดวงตาที่ช้ำเพราะร้องไห้เมื่อสักครู่ยังคงปรากฏให้เห็น แต่ทว่าร่างกายนั้นได้หยุดสั่นแล้ว
วิ้งค์~!!"นี่คือเวทย์ของผม มันจะทำให้จูไดไม่ฝันร้ายนะ"ยูเซย์เสกดวงดาวอันเล็กๆขึ้นมาก่อนจะนำไปไว้ที่มือขอจูได เวทย์ดวงดาวของเขามีพลังพิเศษที่สามารถทำให้ไล่ฝันร้ายออกไปได้ การกระทำทุกอย่างอยู่ในสายตาของโยฮันทั้งหมด
"ชั้นคงไม่ต้องระแวงนายแล้วสินะ.."โยฮันพูดเบาๆกับตัวเองก่อนจะไปคว้าหสหนังสือออกมาอ่านก่อนนอนซักเล่ม "ผมขอตัวไปก่อนนะครับ"ยูเซย์พูดขึ้นทักทายก่อนจะเคลื่อนย้ายตนออกจากห้องไป
Mada mienai~เสียงโทรศัพท์มือถือของโยฮันดังขึ้นทำให้เจ้าตัวหันไปมองดูว่าใกล้เวลาเข้านอนแบบนี้ใครกันที่โทรมา ติ๊ด!!"ฮัลโหล เรียวมีอะไรหรอโทรมาดึกแบบนี้"โยฮันรู้โดยที่ไม่ต้องถามเลยว่าปลายสายจะเป็นใคร
"มีเรื่องจะให้ช่วยนิดหน่อยพน.มาที่ห้องสภาหน่อยกับจูไดด้วย"เรียวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำให้คนที่ฟังถึงกับเป็นห่วงอีกฝ่าย "ก็ได้อยู่หรอกนะ ว่าแต่โหมงานหนักอีกแล้วสินะเสียงดูเครียดๆ"ถึงแม้เรียวจะปกปิดคนรักตนมากแค่ไหนแต่ก็ถูกจับได้เสมอ
"พอดีเป็นงานจากครูใหญ่น่ะ"เขานอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า เขาอยากพักแล้วมาเจอกับโยฮันซักทีช่วงนี้ไม่ค่อยได้ไปไหนและไม่ค่อยได้เจอกันด้วย
"อื้มพยายามเข้า แล้วก็อย่าลืมพักบ้างเดียวก็เป็นอะไรขึ้นมาอีก"โยฮันดุไปน้อยๆก่อนจะวางสายแล้วหันมาอ่านหนังสือด้วยความสุขที่ได้คุยกับคนรักซักทีหลังจากที่ไม่ได้เจอกันเลย
เพราะเรียวเป็นสภานักเรียนนี่นะ 5สภานักเรียนที่เขาลือกันว่าเป็นเหล่านักเรียนมากความสามารถที่จะต้องไปทำงานโดยตรงจากครูใหญ่
แก๊กๆๆๆ...ตืดดิ๊ดๆๆ..."ผมแฮกเข้าระบบกระทรวงความปลอดภัยได้เเล้วครับรุ่นพี่"ยูซาคุบอกยูกิที่จดจ่อกับการอ่านเอกสารและอีกคนที่พึ่งเข้าห้องมาหลังจากไปคุยธุระ(ธุระจริงๆน่ะหรอ//ไรท์กลับมาแล้ว~)
"ไหนลองหาคนที่มีเวทย์พิเศษกันเถอะ"ยูกิว่าแล้วสั่งให้ยูซาคุทำตาม "ครับรุ่นพี่ อย่ารีบร้อนสิครับ"ยูซาคุกดแป้นพิมไปเล็กน้อยรายชื่อผู้ที่มีเวทย์พิเศษที่หายากก็โผล่ขึ้นมา
"ไหนๆดูสิ๊~ อืมคนแรก มุโต้ ยูกิ ศาสตร์เวทย์กลยุทธ์วิถีกับเวทย์ดวงจันทร์ อ้าวรุ่นพี่นี่ใช้ได้2เวทย์ด้วย"ยูซาคุหันไปมองยูกิที่นั่งฟังเงียบๆกับเรียวอย่างตั้งใจ "ยูกิจะติดอยู่ในนั้นก็เป็นเรื่องปกตินี่ ความสามารถของยูกิน่ะใช้ในการทำสงครามได้สบายๆเลยนะ"เรียวเสริม
"คร้าบ~ อืมคนที่2 มุโต้ อาเทม เวทย์ควบคุมเทพมังกร เห~ คนที่3 เทนโจ ไคโตะ เวทย์ควบคุมชั้นบรรยากาศ **คนที่4ยูกิ จูได เวทย์ฤดูกาล คนที่5 ฟุโด ยูเซย์ เวทย์ดวงดาว และคนสุดท้าย คนที่6ซาคากิ ยูยะ เวทย์มนต์ดำ มีแค่นี้เเหละครับ" ยูซาคุไล่ระดับรายชื่อจนหมดทำให้ทั้ง2ที่ฟังก็ไปสะดุดกฌรายขื่อหนึ่งเข้า
"จูไดคุง!!?"ยูกิได้แต่อึ้งๆรุ่นน้องที่เคารพตนเป็นเด็กที่มีเวทย์พิเศษซึ่งตนไม่ทันได้สังเกตเลยถึงแม้จะสงสัยอยู่บ้างแต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นดังที่ตนคาดไว้ "ยูยะ...."ยูซาคุเองก็อึ้งอยู่ที่น้องรักของตนเข้าไปติดอยู่ในลิทช์รายชื่อนี้
ฟิ้ว~พรึบๆๆ~สายลมพัดไสวในยามค่ำคืน มีชายคนหนึ่งที่กำลังยืนเหยียบหลังคาของสนามแข่ง สะท้อนแสงจันทรา "ชั้นคงต้องไปแล้วล่ะ ถ้าอยู่นานกว่านี้เจ้าก้อนน้ำแข็งเดินได้คงจะไม่ปล่อยชั้นไว้เเน่ๆ เร็วๆนี้เราจะได้เจอกันอีก" ยามที่เมฆลอยบดบังดวงจันทร์ใครคนนั้นก็หายไปเสียแล้วอีกไม่นานเรื่องที่ไม่คาดฝันก็จะเกิดขึ้น
ตอนที่9 จบแล้วน้าขอรับเฮ้อฉากหวานๆหายไปนานเลยในที่สุดก็มีมาซักที~นะขอรับ ??’•อยากให้เรื่องวุ่นๆจบเร็วๆจัง จะได้เขียนฉากเลิฟซีนซักที~ อ่านให้สนุกนะขอร้าบบบบบ
ความคิดเห็น