ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Magic of love 💕(Yu-gi-oh! Judai x Yusei)

    ลำดับตอนที่ #17 : Magic 15

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.พ. 63


    กลิ่นอ่อนๆจากแสงแดดนำพาวีรบุรุษหกนายมาสู่สนามรบ กลิ่นหอมจากแสงตะวันแปรผันกลายเป็นเลือดที่ระเริงอยู่เต็มพื้น เสียงโห่ร้องอย่างทรมานเต็มไปทั่วผืนแผ่นดิน


    ความรู้สึกน่าขยะแขยงเพิ่มพูนขึ้น เมฆเริ่มก่อตัวเป็นกลุ่มควันดำหมายจะลงทัณฑ์วีรบุรุษทั้ง6 สงครามทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะพวกเขา ใยเล่าจะไม่กำจัดทิ้ง โอ้คัมภีร์นักเวทย์เอ๋ยเยี่ยงไรถึงได้มอบวีรบุรุษที่นำหายนะมาเฉกเช่นนี้กัน


    คำสัญเสริญที่เต็มไปด้วยคำวิงวอนจากเหล่าผู้ประสบชะตากรรมอันเลวร้ายได้ขอพรแก่คัมภีร์ที่เป็นที่นับถือ เพราะการทำผิดกฎของคัมภีร์ จึงลงโทษจอมเวทย์ที่โหยหาพลังที่ไร้ขีดจำกัดและความโลภอันไม่สิ้นสุด


    เมื่อมีด้านย่อมมีด้านที่ไม่ดี คัมภีร์เองก็เช่นกัน ได้สรรสร้างจอมเวทย์ที่ทั้งดีและไม่ดีขึ้นมาทั้ง12คนเป็นสมดุลให้กับโลกใบนี้ และกำหนดชะตาให้มีชีวิตที่ยาวนานมากกว่าคนอื่นๆเพิ่อเป็นการสร้างสมดุล

     

    แต่มันก็กลับนำสงครามมาให้แทน เพราะ6คนที่นำหายนะนั้นได้มาครบก่อน อีก6คนที่จะช่วยโลกทำให้ทุกอย่างได้พังพินาศไปตามคำกล่าวของคัมภีร์ที่มิรู้ว่าผู้ใดกันที่เขียนมันขึ้นมา.....


    "เฮือก!!!." ร่างเล็กของชายตัวน้อยสะดุ้งขึ้นจากฝันร้าย นี่เขาทำงานหนักเกินไปจนต้องฝันถึงเรื่องในคัมภีร์เลยหรอ "ตื่นแล้วหรอคู่หู"อาเทมทักขึ้นเมื่อน้องชายที่น่ารัก! ตื่นขึ้นจากการหลับไปบนโต๊ะทำงาน


    "อาเทม!!กลับมาแล้วหรอ ข้อมูลเป็นไงบ้าง"ยูกิรีบร้อนดีดตัวขึ้นมา ถามเรื่องการสืบหาจากพี่ชายไม่วางตา เพราะเขาหายไป1อาทิตย์เต็มๆนี่สิทำตัวให้เป็นห่วงอีกจนได้

     

    "เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงมันอยู่นี่...แต่มีอีกอย่างที่สำคัญด้วย"สีหน้าถูกปรับเปลื่ยนเป็นตึงเครียด ข้อมูลที่ได้ในครั้งนี้คงจะไดมามาก่าที่ควรแล้วสิ ไม่คิดเลยว่าพวกนั้นจ้องจะหาสิ่งๆนั้นอยู่

     

    "อื้อ...แล้วอีกเรื่องคืออะไรหรออาเทม?"ยูกิเอียงคอสงสัยไม่น่าจะมีเรื่องที่น่าแปลกใจนทำให้อาเทมต้องมานั่งเครียดแบบนี้ "นอเหนือจากที่มันจะลักพาตัวเด็กๆมาเพื่อขายต่อให้เหล่าเศรษฐีที่ต้องการทาสเด็กแล้ว พวกมันก็ยังรวบรวมเด็กที่มีพลังตามในคัมภีร์ที่บอกไว้ด้วย"

     

    หลังจากที่อาเทมได้กล่าวถึงหนังสือเล่มนั้นแล้ว ก็ทำให้ยูกิถึงกับนิ่งค้าง ไม่คิดเลยว่าที่ตนฝันนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับความกังวลใจด้วย ถ้าเกิดรวบรวมครบละก็ทุกอย่างจะเป็นเหมือนเมื่อ200ปีก่อนอีกครั้ง

     

    สงครามจะเกิดขึ้นและเหล่าผู้คนจะถูกสังเวยให้กับมังกรดำเขียว โลกจะถูกความมืดกลืนกินอีกครั้งถ้าเกิดไม่มี6วีรชนมาช่วยกันปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายนั้น เพราะฉะนั้นจะต้องไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกครั้งแน่!


    "นี่อาเทม...ไปพบครูใหญ่กันเถอะ มันถึงเวลาแล้วล่ะที่จะทำสิ่งๆนั้น"ยูกิพูดออกมาด้วยความไม่ลังเลทำให้อาเทมรูสึกแปลกใจ ถึงแม้จะอยู่ด้วยกนมาตั้งแต่เด็กเขาก็ยังไม่ชินกับความสงบเยือกเย็นนี้ของยูกิเลย

     

    "อ่า...เรื่องมันมาถึงนี่แล้วต้องรายงานเป็นธรรมดา"อาเทมกล่าวเห็นด้วย งานนี้ไม่จบสวยแน่ๆ อย่างน้อยองค์กรนี้มันต้องถูกจับไปทัณฑ์โทษ และจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องขึ้นอีกแน่เพราะว่า......


    จ๊อกๆ~เสียงท้องร้องเเว่วดังออกมา เสียงนั้นดังไปทั่วบริเวณโถงทางเดินจนทำให้คนที่อยู่ด้วยถึงกลับหามามอง "หิวขนาดนั้นเลยหรอจูได" เพื่อนรักเปิดประเด็นน่าอายขึ้นตามประสาคนชอบล้อเพื่อนอย่างสนุกสนาน


    "ก็ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลยนี่น่า...หิวแล้วล่ะไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะนะ" จูไดโวยวายเพราะเขายังไม่ได้ทานข้าวเลยนี่จะบ่ายแล้วด้วย (ก็เดินเตร่~หายยูเซย์ไม่ใช่หรอ//ไรท์มองบน)


    "ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไปกินข้าวกันก่อนเถอะครับ แล้วค่อยไปก็ได้วันนี้วันหยุดด้วย" ยูเซย์ออกความคิดเห็น ทำให้การโวยวายของจูไดหยุดลงอย่างว่าง่าย ทั้งที่โยฮันจะต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลยถึงจะสงบ


     

    "อื้อๆ...งั้นไปที่โรงอาหารกัน~"เจ้าตัวเริ่มออกเดินนำ ทำเอาคนที่เดินตามรู้สึกเอาใจพี่คนนี้ยากจริงๆรวมถึงยูเซย์ด้วย "ว่าแต่ทำไมถึงอยากรู้เรื่องคัมภีร์ขนาดนั้นล่ะยูมะคุง" ระหว่างที่เดินโยฮันก็ได้ถามยูมะ



    "ก็ผมสนใจน่ะครับอยากรู้ว่าแต่ล่ะคนมีคุณสมบัติอะไรบ้าง"ยูมะบอกออกไปด้วยแววตาสดใส ถ้าเกิดความคิดที่บริสุทธิ์แบบนี้โดนความจริงที่โหดร้ายของเนื้อหาในหนังสือนั่นจะยังยิ้มแบบนี้ได้อยู่รึเปล่านะ


    โยฮันก็ได้แต่คิดอยู่ในใจ ไม่อาจที่จะเอ่ยออกไปได้มันเป็นสิ่งที่โหดร้ายกว่าที่เด็กคนนี้จะมารับรู้ ว่ามันไม่ได้เป็นดั่งที่เขาเล่าขานกันมาแม้แต่น้อย มันคือหนังสือต้องสาปต่างหากล่ะ คำสาปที่นำพามาด้วยสงครามของคนโลภไร้ที่สิ้นสุดยังไงล่ะ

     

    "มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดหรอกนะยูมะ ถ้านายเรียนมาถึงปี2ก็จะรู้เอง" ยูเซย์เองก็ออกความเห็นเพิ่มเติมจากโยฮันลงไปด้วยเพราะเขาก็ไม่อยากให้เด็กดีแบบนี้ต้องมารับรู้อะไรที่ดำมืด


    "ยูมะ...เรื่องของหนังสือนั่นน่ะไม่รู้ชั้นว่าดีกว่านะ ยูซาคุบอกว่ามันน่าเบื่อหน่ายและไม่น่าสนใจด้วย"ยูยะเสริมอีกคน เพราะเขาก็รู้เรื่องราวเช่นเดียวกันจึงอยากที่จะปกป้องไม่ให้พี่ตนต้องมาเจออะไรที่ไม่ควร

     

    "อ่ะ...อื้มถ้ายูยะว่าแบบนั้นก็ได้.."ยูมะบอกออกไปเขาไม่อยากทำให้น้องและพี่ของตนต้องมาลำบากกับความอยากรู้อยากเห็นของเขา ยิ่งเป็นหนังสือต้องห้ามนี่อีก "เอาล่ะๆ..อย่าหดหู่ไปเลยน่ายูมะ มากินข้าวกันเถอะ" จูไดเดินเข้ากอดคอปลอบใจรุ่นน้องที่ขี้กังวล

     

    "ครับ...ขอข้าวปั้นเยอะๆเลย~"เจ้าตัววิ่งออกไป ด้วยความไม่ลังเล นี่แหละน้าความบริสุทธิ์ที่แท้จริงทั้ง4คนคิด ถ้ารักษาไปได้นานกว่านี้ก็ยังดีขอให้เรื่องร้ายๆอย่าเกิดกับเขาเลย



    ก๊อกๆๆ....2พี่น้อง ยืนอยู่หน้าห้องครูใหญ่บรรยากาศรอบๆตัวนั้นกดดันไปทั่วบริเวณก่อนที่เสียงอนุญาตจะเอ่ยให้ทั้ง2เข้าไปรายงานสถานการ์ณทั้งหมด "ขออนุญาตครับครูใหญ่ผมอาเทมมารายงานครับ" อาเทมก้าวเท้าออกมาไปยืนตรงหน้าโต๊ะเตรียมตัวพูดข้อมูลที่ได้มาทั้งหมด

     

    "ก่อนที่ชั้นจะฟังน่ะนะ...ยูกิบboyตามคำสั่งmeหาเจอไปเเล้วกี่คน" ครูใหญ่เอ่ยขัดอาเทมก่อนจะหันไปถามยูกิที่นืนอยู่ด้านหลัง ในมือถือเอกสารพร้อมในนั้นมีรายชื่อ12คนตามการบันทึกของคัมภีร์


    "ผมเจอแล้ว8คนครับเหลืออีก4คน... "ยูกิรายงานตามที่ตนหาข้อมูลมาได้ แม้ในกระทรวงด้านความปลอดภัยจะมีรายชื่อเด็กพิเศษอยู่แต่ก็ไม่ครบคน "ขอบใจมากยูกิboy ถ้าเรารวบรวมได้ครบก่อนและผนึกพลังไว้ล่ะก็ จะทำให้คำทำนายในคัมภีร์จะไม่เป็นจริง"

     

    ครูใหญ่รู้สึกเป็นกังวลใจเอามากๆยิ่งทางองค์ในมุมมืดต้องการเด็กๆเหล่านี้อยู่ด้วยทำให่ฝ้การรักษาพวกเขาต้องระวังเป็นเท่าตัวจากเดิมมาก "แล้วรายงานของเธอล่ะอาเทมboy เจอที่ตั้งขององค์กรพวกมันแล้วใช่มั้ย" เขายิงคำถามกลับมาที่อาเทมอีกครั้ง


    "ครับ...ที่ตั้งมั่นคงของพวกมันคือเมืองคอสบิททางเหนือ10นาฬิกา และพวกมันเตรียมกำลังพร้อมที่จะเลีายงเป้าหมายมาที่นี่อีกครั้งหลังจากผ่านไป2ปีครับ" การรายงายยังคงดำเนินต่อ ถึงเรื่องที่ไร้ความคาดหมายของครูใหญ่ไปมากทีเดียว


    "คนูครับเราต้องยกเลิกการเเข่งขันก่อนแล้วเตรียมตั้งรับดีกว่า...ทางนั้นได้ข้อมูลเราไปพอสมควรเลย ผมพลาดเองที่ปล่อยให้คนของมันนำข้อมูลเราไปได้ครับ"ยูกิกล่าวด้วยน้ำเสียงเจ็บใจไม่นึกมาก่อนว่าเอ็ด ฟินิกซ์จะเป็นสายลับที่ทางนั้นส่งตัวมา


     

    "ยูกิboyไม่ต้องกลัวหรอก...ทางเราไม่ได้โดนขโมยข้อมูลไปเยอะนักหรอกนะ ยิ่งไปกว่านั้นพวกyouเป็นยศอะไรล่ะ... ที่ชั้นเลือกพวกyouมาเพราะความแข็งแกร่งและเพียบพร้อมนะ" เขาให้กำลังใจยูกิครูใหญ่เปกาซัสไม่ได้เลือกผู้อ่อนแอมารับใช้ตนหรอกนะ


    "ยูกิ..วางใจเถอะนายน่ะไม่ต้องกังวลเรื่องนี้จะจบลงเเน่นอน"อาเทมวางมือลงบนหัวน้องชายขอตัวเองอย่างเอ็นดู นี่น้องต้องแบกรับภาระที่ใหญ่ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ อยากที่จะช่วยเเบ่งเบาภาระบ้าง

     

    "แล้วก็meอยากให้เรียกทั้ง8คนมาจัง เพื่อเตรียมความพร้อมด้วย meคิดว่าอีกไม่นานพวกมันต้องมาแน่เลย เรียกมาพบก่อนน่าจะดีกว่านะครับ"เปกาซัสรู้สึกเป็นเป็นห่วงเป็นใยทุกคนที่จะไม่ให้เกิดอันตราย


    "ได้ครับเดียวผมจจะทำการเรียกทุกคนมาให้ในอีก3วันครับ และจะเเจ้งเรื่องการขอหยุดการแข่งขันชั่วคราวด้วย"  ยูกิยังยืนยันคำเดิมเรื่องการหยุดแข่งขันเพราะเขากังวลเรื่องนี้มาก


    "ก็ได้ยูกิboy meเห็นถึงความตั้งใจนั้นของ youจะยกเลิกให้ก็ได้"เปกาซัสตอบกลับความรู้สึกนั้น เขาเห็นว่ายูกิเคารพในหน้าที่การงานเป็นอย่างมากเปกาซัสถึงได้ยอม อาเทมเองก็สู้ลูกต้านนี้ไม่ไหวเช่นกันเพราะความดื้อดึงนี้ทำเอาหลายๆคนถึงกลับยอมกันไป ถ้าขัดขึ้นมาเจ้าตัวคงจะมากังวลทีหลังแน่ๆ


    "ขอบคุณครับ ผมจะรีบทำการเลย"เจ้าตัวยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจในที่สุดเขาก็สามารถทำให้ขั้นตอนการรักษาความลับเป็นไปได้ด้วยดี ใช่! เพราะการที่จะพาทั้ง8คนมาพร้อมๆกันนั้น ต้องมีคนสังเกตุเป็นแน่ ต้องระวังให้มากขึ้นยิ่งกว่านี้


    ......เสียงดังภายในโรงอาหารดังไปทั่วนักเรียนเข้าเเถวซื้อข้าวกันเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็มีที่นั่งพิเศษให้กับเด็กๆที่รักความสงบเช่นเดียวกัน "ยูมะเนี่ยชอบข้าวปั้นจังนะ"จูไดมองรุ่นน้องที่เอาแต่ทานข้าวปั้นมาหลายลูกโดยที่ยังไม่ดื่มน้ำเลย 


    "กั๊บก็ฮมฮอบฮินอี่อ่า~อึก!!"เสียงไม่เป็นภาษาพูดตอบกลับทันใดนั้นข้าวก็ติดคอทั้งที่ยังไม่ตั้งตัวเลยว่าจะเป็นดังที่คิดไว้แบบนี้ "เอานี่น้ำ...อย่าพูดตอนที่กำลังกินสิยูมะเห็นมั้ยติดคอเลย"น้ำเสียงดุๆของผู้เป็นน้องชายว่าขึ้นด้วยคามเป็นห่วง


    "แหะๆๆ....ขอโทษนะยูยะ "เจ้าตัวหัวเราะหน้าระรื่นทั้งที่ทำคนอื่นในโต๊ะเป็นห่วงแทบตาย "อ่ะ!!....จูไดมีจดหมายส่งมาล่ะ"โยฮันจิ้มกระดาษที่เด้งขึ้นในหน้าแลปท็อปของตนพร้อมยื่นให้จูไดดู "หืม~การแข่งขันเปิดพิธีของโรงเรียนเวทย์มนต์ขอยกเลิกและเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดการ"


    โยฮันอ่านให้คนในโต๊ะได้ยินก็ถึงกับ หันมามอง...เดี๋ยวนะพึ่งจะเริ่มเเข่งงานอันทรงเกียรติมาได้ไม่นานทำไมยกเลิกซะล่ะ ทุกคนก็ต่างพากันคิดในใจ "เรื่องนี้มันมีอะไรแปลกๆนะ ลองถามคุณยูกิดูดีกว่า" จูไดว่าแล้วเริ่มเขียนจดหมายอีกครั้ง

    ส่งถึงรุ่นพี่ที่เคารพว่ามันเกิดอะไรขึ้นถึงได้มาหยุดงานเอากลางคันแบบนี้ แต่เหตุผลมันก็จะกระจ่างในอีกไม่นานนัก เหล่าคนในองค์กรเริ่มารวมตัวกันเพื่อผลประโยชน์บางสิ่งแล้ว อีกแค่นิดเดียว


    "รายครับท่านคนของเราพร้อมแล้วล่ะครับ" ลูกน้องคนหนึ่งกล่าวกับหัวหน้าชายร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ "ทำได้ดีมากอีกไม่นานเราก็จะไปล้อมโรงเรียนนั่นไว้และนำ6คนในคัมภีร์มา รอก่อนนะเทพเเห่งการทำลายล้างหึๆ" บอสคนนี้กล่าวอย่างอย่างใจเย็นรู้สึกสนุกกับเกมแก่งความตายที่ตนได้สร้างมันขึ้นมา


    "หึ!...แล้วเราจะได้รู้กัน" เสียงปริศนเอ่ยขึ้นในมุมมืดแห่งหนึ่งราวกับว่าได้ท้าประลองหัวหน้าขององค์อย่างลับๆนี่แล้ว "นี่.....นายจะอยู่ต่อใช่มั้ย"เสียงชายอีกคนถามขึ้น "หึ! มีนแน่อยู่แล้วตามเทนโจกลับไปเถอะ ตรงนี้เดี๋ยวชั้นรายงานเอง เรย์จิ" เมื่ออีกฝ่ายพูดจบผู้ฟังก็ได้หายไปแล้ว


    อีกไม่นานสงครามแย่งชิงผู้พิพากษาโลกจะถูกรวมตัวกันแล้ว แล้วผู้พิทักษ์จะคอยช่วยได้รึเปล่า แสงจากพระจันทร์จะคอยนำทางความหวังในเงามืดเอง ท้องฟ้าจะมีเเสงออโรร่าส่องให้กับเส้นทางที่นำไปสู่ความสุขตามที่คัมภีร์ได้กล่าวไว้



    จบตอนที่15แล้วนะขอรับขอโทษที่มาอัพช้า เพราะใกล้สอบแล้วเลยมีเวลาน้อยมากกๆ แต่จะทยอยมาอัพถึงแม้จะนานหน่อย ต้องขอบคุณที่ติดตามนะขอรับไรท์จะทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุดแบบ happy ending นะขอรับ อ่านให้สนุกนะขอรับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×