คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Magic 14
"เฮ้อ...ไหนขอดูตารางหน่อย...อืม~ถ้าเป็นช่วงวันที่เรียนก็แน่นจริงๆน้า"ยูมะเปิดแลปทอปของตน ขึ้นมา (ถึงจะมีเวทย์มนต์ใช้แต่สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ก็มีเหมือนกันนะขอรับ//ไรท์) เปิดดูตารางเรียนของตนอย่างชั่งใจ
ก็อกๆๆ!..."ขออนุญาตนะครับ"เสียงดังจากหลังประตูห้องเรียกความสนใจของยูมะให้หันไปมอง รุ่นพี่คนหนึ่งที่มีผมสีฟ้าครามนัยน์ตาสีมรกต เดินเข้ามาในห้องนี้พร้อมกับอีก2คนแต่หนึ่งในนั้นทำให้เขาถึงกับหลุดเรียกชื่อออกมา
"ยูยะ!?.."เสียงเรียกทำให้เจ้าตัวหันมาก่อนที่จะเดินเข้ามาหาเขาที่นั่งอยู่ตรงโซฟา "ยูมะ!...มาทำอะไรที่นี่!?" ยูยะตกใจเล็กน้อยไม่คิดว่าพี่ของเขาที่อายุมากกว่าแค่1เดือน
จะมาอยู่ที่หอของรุ่นพี่ปี3ได้เพราะการเข้ามาโดยที่ไม่ได้ขออนุญาตถือว่าผิดกฎร้ายแรงของโรงเรียนถึงขั้นโดนไล่ออก
"อืม~พอดีชั้นมาเป็นเพื่อนรุ่นพี่เขาน่ะ มีเรื่องยุ่งๆนิดหน่อย" ยูมะเกาแก้มน้อยๆบอกน้องของตนพร้อมเดินเข้าไปกอด "เขาคนนี้หรอ..." ยูยะหันมองคนที่นอนพักโดยที่เอามือปิดหน้าอยู่บนโซฟา
"ว่าแต่พี่ๆเขาล่ะ!? แล้วนายเข้ามาทำอะไรที่นี่?"คราวนี้เป็นฝ่ายยูมะที่ถามบ้าง มากับรุ่นพี่ผู้ชาย2คนแถมยังเป็นตึก3อีกได้ขออนุญาตรึเปล่าน่ะ
"ผมแค่เอาของมาให้พี่เขาตามที่รุ่นพี่ปี4กับพี่ยูซาคุขอเท่านั้นเอง แล้วก็นี่พี่โยฮันกับพี่จูได" ยูยะตอบไปพร้อมแนะนำตัวทั้ง2คนไปด้วย "ว่าแต่ทำไมยูเซย์ถึงไปนอนอยู่ตรงนั้นล่ะ"จูไดโผล่ขึ้นถามยูมะ ถ้าจะนอนไม่ไปนอนที่ห้องล่ะ
"ก็บอกไปแล้วนี่ครับมีเรื่องกันนิดหน่อย"ยูมะเอ่ยทวนคำตอบเดิมที่ยูยะถาม ก่อนจะเดินเข้าไปหายูเซย์ที่นอนแล้วพร้อมกับร่ายเวทย์บางอย่างเป็นตราดวงดาราเหนือหัว
"เวทย์ดวงดาว!!?" คราวนี้เป็นโยฮันที่ตกใจเพราะเวทย์ปนะจำตัวของแต่ล่ะคนจะไม่เหมือนกันเว้นแต่เป็นเวทย์เสริม ยิ่งถ้าเป็นเวทย์พิเศษอีกไม่มีทางเหมือนอย่างแน่นอน เพราะทุกอย่างถูกรังสรรค์มาให้มีอย่างเดียวเป็นอัตลักษณ์ของตนจะไม่เหมือนใครเด็ดขาด
"ไม่ใช่หรอกครับ....นั่นเวทย์แสดงตัวตน"ยูยะกล่าวออกมาทำให้ทั้ง2งงงวย ว่าเวทย์แสดงตัวตนมันคืออะไร "เออ....มันคืออะไรหรอยูยะ?" จูไดยิ่งทำหน้างงเข้าไปใหญ่เพราะตนไม่ถนัดเรื่องความรู้นัก!!(ไม่ได้กล่าวหาว่าไม่ฉลาดนะจูดันคุง//ไรท์เอามือปิดหน้า)
"มันคือเวทย์มนต์ที่สามารถแสดงว่าคนเหล่านั้นมีเวทย์มนต์ประตัวคืออะไรน่ะครับ มีประโยชน์มากในทางการทำสงคราม ดังนั้นจึงถูกปิดความสามารถเป็นความลับและห้ามเปิดเผยกับใครที่มีความจำนงต้องการสงครามน่ะครับ"
ยูยะร่ายยาวก่อนจะเดินอ้อมไปด้านหลังยูมะพร้อมจับไหล่ทั้งสองข้าง "ขอบใจที่อธิบายนะแต่ให้พี่เขารู้จะดีหรอยูยะ"ยูมะหันมากระซิบด้วยความกังวลนอกจากยูยะ
ครอบครัวก็มียูซาคุเท่านั้นที่รู้ เพราะโดนสั่งห้าม เปิดเผย ยิ่งเป็นคนนอกแล้วเรื่องจะยิ่งยุ่งไปกันใหญ่
"อย่าพูดแบบนั้นสิยูมะ ชั้นเชื่อใจพวกเขานะโดยเฉพาะพี่จูไดที่เสี่ยงชีวิตช่วยชั้นออกมาจากตอนนั้น" ยูยะว่าแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ทำให้
ยูมะคลายความกังวลลง อย่างนี้นี่เองคนนี้เป็นคนช่วยยูยะจากการก่อเหตุจราจลตอนนั้นนี่เอง
"นี่~ยูเซย์ตื่นได้รึยังล่ะรู้นะว่าแอบฟังอยู่"จูไดเดินเข้าไปสะกิดยูเซย์ทำให้เจ้าตัวสะดุ้งเล็กน้อย "รู้ได้ยังไงหรอจูได"เจ้าตัวลุกขึ้นนั่งยิ้มแก้เขิน ก็จะให้ทำยังไงล่ะจะให้ลุกขึ้นมาฟังตอนที่คนอื่นกำลังคุยกันมันก็....
อีกอย่างเขาไม่ได้หลับด้วยแค่นอนคิดเท่านั้นเองวันนี้มีเรื่องให้คิดเยอะเกินไปแล้วแหะ "ก็ฮาเนะคลีโบ้บอกมาน่ะ"จูได้ยิ้มกว้างพร้อมชี้ไปที่ด้านหลังของยูเซย์ ก้อนขนที่ดูนุ่มนิ่มสีน้ำตาลมีปีก เล็กๆบินวนอยู่รอบตัวเขา
"ฮาเนะคลีโบ้??" ยูเซย์เอ่ยทวนอย่างงงๆ...แต่ก็อ๋อขึ้นมาทันทีเมื่อเจ้าตัวน้อยบินมาหาตรงหน้าเขาพร้อมขยิบตาให้ สัตว์อัญเชิญของจูได ฮาเนะคลีโบ้น้อย
"น่ารักจัง" ยูมะกับยูยะเอ่ยพร้อมกันแล้วเดินเข้าไปหาฮาเนะ(ย่อล่ะกันนะเขียนยาวเกิน//ไรท์เหนื่อย~)
"รูบี้!!... "รูบี~รูบี้~โยฮันเรียกสัตว์อัญเชิญของตนออกมาเป็นเพื่อนเล่นคู่กับฮาเนะ คาลบังเคิลที่แสนหายากและน่ารักตัวนี้กำลังวิ่งไล่จับฮาเนะไปทั่วห้อง
"ว่าแต่มาที่นี่ทำไมกันหรอ...." ยูเซย์ถามด้วยความสงสัยคงจะไม่น่ามาเล่นคลายเครียดกันในห้องนี้หรอกนะ ยิ่งเป็น1สัปดาห์จากการพักแข่งขันด้วย
"ออ~ชั้นกับโยฮันกำลังมาหานายน่ะ ส่วนยูยะก็เจอกันระหว่างทางมาและขออนุญาตเรียบร้อยแล้วด้วย"จูไดตอบยูเซย์ตรงทุกคำถามแล้วเดิน เข้าไปหา
"รุ่นพี่.. " ยูยะเอ่ยขึ้นเบาๆตอนนี้ที่เขาเห็นกับอีก2คนคือ จูไดเดินเข้าหาด้วยทีท่าเขินๆเหมือนสาวน้อยจะสารภาพรัก
"คือว่านะ... อันนี้น่ะของนายรึเปล่า..."เมื่อเสียงสิ้นสุดลงจูไดล้วงเอาดวงดาวอันเล็กในกระเป๋าออกมา ตรงหน้ายูเซย์ แสงระยิบระยับของมันสร้างความประหลาดใจให้รุ่นน้องทั้ง2
"อืม...ของชั้นเอง" ยูเซย์ตอบกลับใบหน้าขึ้นสีชมพูจางๆ ไม่คิดเลยว่าจูไดจะมีความพยายามหาตัวเจ้าของเวทย์นี่ด้วย
"ขอบใจนะยูเซย์ มันเป็นสิ่งที่ช่วยชั้นไว้เลยล่ะ"จากใบหน้าที่ตึงเครียดเมื่อครู่อ่อนลงเป็นยิ้มให้ด้วยความสุข เขาดีใจที่หาคนทำสิ่งนี้ให้เขาได้แล้ว มันเป็นของที่ล้ำค่ามากสำหรับจูได
"อย่างงั้นหรอจะเก็บมันไว้ก็ได้นะ ถ้ามันไม่โดนเวทย์มนต์อื่นมาทำลายมันก็จะไม่หายไปวางใจได้เลย" เขาเเนะนำวิธีดูแลเจ้าดวงดาวน้อยอย่างชำนาญ เพราะมันเป็นเวทย์มนต์ที่มีความสามารถกำหนดโชคชะตาผู้อื่นได้ด้วย
"ขอบใจอีกครั้งนะจะดูแลอย่างดีเลย" จูได ฉีกยิ้มให้เหมือนตะวันที่ฉายเเสงยามเข้าด้วยความสว่างไสว ผิดกับเขาที่มีน้ำแข็งกอบกุมภายในแต่ตอนนี้มันก็เริ่มละลายบ้างเเล้ว นี่เขาชอบจูไดหรอ!!ไม่สิๆมันต้องมีอะไรผิดพลาด!!!
"นี่ผมมีเรื่องจะถามน่ะครับพวกรุ่นพี่พอจะรู้บ้างรึเปล่า" ยูมะเปิดประเด็นแปลกๆขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่ใกล้เข้าด้ายเข้าเข็มนี้
"มีอะไรหรอยูมะคุงถามมาได้เลยเดียวชั้นจะตอบให้" โยฮันที่ยิ้มกริ่มเพราะเพื่อนได้ก้าวหน้าไปบ้างแต่ก็ยังไม่บรรลุ...จึงหาอะไรทำโดยการตอบคำถามของยูมะแทน
"คือว่าคัมภีร์นักเวทย์คืออะไรหรอครับ" คำถามนี้ทำให้รุ่นพี่ทั้ง3หยุดเงียบ เกิดความอึดอัดบางอย่างขึ้นจนทำให้ยูมะคิดว่าไม่น่าถามจะดีกว่ามั้ย
"ไปรู้เรื่องนี้มาจากไหนหรอยูมะ" โยฮันถามขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจังคัมภีร์นักเวทย์เป็นหนังสือต้องการ
"คือมี...ผู้ใหญ่ในหมู่บ้านที่เล่าขานตำนานนี้มาและยังบอกอีกว่าช่วงเวลาขอโลกตอนนี้มีนักเวทย์ที่ตรงตามคัมภีร์มาอยู่กันครบแล้ว"ยูมะอธิบายยาวเหยียดพร้อมตั้งข้อสงสัยขึ้น
"นี่ยูมะคุงชั้นจะบอกเรื่องนั้นให้เอามั้ย แลกกับการต้องเก็บความลับถามเอ่ยกับคนนอกจะต้องโดนไฟของนรกเผาผลาญจนวอดวาย" ยูเซย์ยื่นข้อเสนอพร้อมทั้งจำกัดไปในตัว
เพื่อความปลอดภัยต่อคัมภีร์ที่ทางโรงเรียนได้เก็บรักษามันเอาไว้อย่างแน่นหนา ป้องกันไม่ให้เกิดการขโมยไป "ครับผมยอมรับข้อเสนอ"ยูมะกล่าวหนักแน่น แม้จะกลัวอยู่บ้่งแต่ก็ได้รู้ในสิ่งที่ผู้ใหซ่เคยเล่าต่อๆกันมาให้ฟัง
"ฟังนะคัมภีร์นักเวทย์คือคัมภีร์ที่รวมคุณสมบัติของจอมเวทย์ไว้เป็นข้อมูลที่แสดงว่าเป็นจอมเวทย์ที่เก่งกาจทั้ง6คน ถ้าเกิด6คนนี้ถูกนำมารวมกันจนครบก็จะเกิดความไม่สมดุลขึ้นแตะเป็นต้นเหตุของการล่มสลายของโลก"
ยูเซย์อธิบายคร่าวๆเเต่ก็ยังไม่สามารถเติมเต็มความอยากรู้อยากเห็นของยูมะกับยูยะได้
"คนที่จะเป็นนักเวทย์คุณสมบัติของคัมภีร์มีดังนี้ คือต้องเป็นคนที่รู้จักเเละเข้าใจในเวทย์ของตัวเองเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังต้องเป็นคนที่มีสัตว์อัญเชิญ2ตน และที่สำคัญที่สุดคือเวทย์ของพวกเขาจะต้องเป็นเวทย์ที่ร้ายแรงพอจะก่อสงคราม"
คราวนี้เป็นโยฮันที่อธิบายถึงคุณลักษณะการที่จะเป็นนักเวทย์ตามในคัมภีร์ ถึงแม้จะพูดแบบน้้นแต่ก็ยังไม่เคยเห็นเลยแม้แต่คนเดียว
"เห..เป็นอะไรที่สุดยอดมากเลย ต้องลำบากมากเเน่เลย" ยูยะใช้ความคิดก่อนจะพูดออกมา การเป็นนักเวทย์แบบนี้ก็ลำบากเช่นเดียวกัน
"แต่ว่านะคัมภีน์ยังบอกอีกส่วนหนึ่งว่า 6คนที่เป็นจอมเวทย์เก่งกาจที่มีพลังมากพอจะทำลายโลกได้แต่ก็มีอีกคน6คนที่จะเป็นผู้โอบอ้อมอารีย์สร้างมันขึ้นมาอีกครั้ง" จูไดเสริมจุดนี้เป็นจุดที่คนทั่วไปจะไม่รู้โยฮันจึงตกใจที่เขาไม่รู้
"อย่างนี้นี่เอง...เป็นพลังที่ไม่อาจจะตีค่าความแข็งแกร่งเลยสินะครับ"ยูมะพยักหน้าเข้าใจเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจเป็นอย่างมากถึงจะรู้ว่าคัมภีร์นี้สื่อถึงอะไร
"เรื่องในคัมภัร์จะเป็นยังไงก็ข่างมันเถอะ! เดียวพวกเราจะไปห้องสภากันแล้วล่ะ แค่พาจูไดมาส่งหายูเซย์ตอนนี้ก็สำเสร็จแล้วด้วย" โยฮันว่าแล้วเข้าไปกอดคอยูมะกับยูยะ
"นั่นสินะเราต้องไปทำงานกันต่อนี่ ยูมะจะไปกับเรามั้ย"จูไดถามด้วยความร่าเริง "ครับไปก็ได้ตอนกลับจะได้กลับพร้อมยูยะด้วย"เจ้าตัวเห็นด้วยพร้อมเผยรอยยิ้มน้อยๆน่ารักออกมา
"คือ..ขอชั้นไปด้วยได้รึเปล่า...."ยูเซย์ที่นั่งมองทั้ง4คนอยู่นานก็เอ่ยขึ้นบ้าง "หืม...ก็ได้นะมาด้วยกันสิ" ตึกตัก! จูไดยื่นมือมาด้วยรอยยิ้ม ทำให้ยูเซย์เกิดอาการแปลกๆ ขึ้น
"อื้ม...ขอรบกวนด้วยนะ"ยูเซย์จับมือแล้วดึงตัวเองขึ้น ใบหน้าสีแดงจางๆประดับพร้อมกับรอยยิ้มที่สุขใจ เขาชอบจูไดเข้าแล้วรึเปล่านะ ไม่มั่นใจ เลยอ่า~ ตึกตักๆๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะบอกออกไปแต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่
ตอนที่4จบแล้วนะขอรับ สั้นๆได้ใจความเพราะไรท์ตั้งใจนั่นแหละ ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วอาจตะลงช้ามากกกนะขอรับต้องขอบคุณที่ติดตามขอรับ ผมไม่ได้มีเวลาเลย อ่านให้สนุกนะขอรับพน.จะลงอีกนะ^^
ความคิดเห็น