คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Sherlock 4 : Were watched
“ แล้วทำไมเขาถึงไม่มาด้วยล่ะ ” เลดสเตรดถาม
" เขาไปกับคริสติน " จอห์นตอบ
" เวลาแบบนี้เนี่ยนะ แล้วเชอร์ล็อกสนใจเรื่องผู้หญิงด้วยเหรอ " เลสเตรดบุ้ยหน้า
" คดีต่างหากเกร็ก เขาไปทำคดี "
ไม่กี่อึดใจรถตำรวจก็จอดเทียบที่ข้างทางเท้า เลดสเตรดเปิดประตูและก้าวลงจากรถในขณะที่จอห์นก้าวลงจากประตูอีกฝั่ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นตึกเก่าซอมซ่อแต่สูงตระหง่านราวห้าชั้นเห็นจะได้
" อยู่ข้างในนี้ ที่ชั้นสี่ " โดโนแวน เจ้าหน้าที่หญิงผิวสีเข้ม และทรงผมหยิกฟูโดดเด่น กำลังโบกมือเรียกจากภายในอาคาร เธอยืนอยู่บนบันไดเพื่อรอจะนำทางเลดสเตรดและจอห์นขึ้นไปยังที่เกิดเหตุ
" แล้วตัวประหลาดไม่มาด้วยเหรอ " โดโนแวนเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นเชอร์ล็อก
" เขาไปทำอีกคดีนึงอยู่ " จอห์นตอบ
พวกเขาทยอยเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสี่ สภาพตึกเก่าสีซีด มีรอยดำและราชื้นตามผนัง ดูแล้วคงเป็นสถานบริการห้องเช่าราคาถูกๆ เมื่อขึ้นไปจนถึงชั้นสี่ ทั้งเลดสเตรดและจอห์นก็ถึงกับหอบแฮกให้ได้ยินเบาๆ
" พวกเขาเอาศพลงมาแล้ว " โดโนแวนบอก พร้อมเดินนำเข้าไปในห้อง
จอห์นเดินตามเข้าไป ด้านในเป็นห้องพักแคบๆ มีเตียงนอนตั้งติดกับหน้าต่าง และบนเพดานมีบ่วงเชือกยาวห้อยลงมาจากโคมไฟเล็กๆ ในยามนี้ศพถูกปลดออกนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นกลางห้อง ทว่าเชือกยังคงแขวนอยู่บนเพดาน จอห์นเดินเข้าไปสำรวจที่ศพอย่างละเอียดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองบ่วงเชือกอีกครั้ง
" เขาถูกแขวนอยู่บนนั้นใช่ไหม " จอห์นถาม
" ใช่ ตอนแรกมีเก้าอี้ล้มอยู่ตรงนั้นด้วย แต่ย้ายไปไว้ตรงโน้นแล้ว " โดโนแวนบอกพลางชี้ให้ดูเก้าอี้ที่มุมห้อง
เมื่อได้ฟังดังนั้นจอห์นพยักหน้า ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อถ่ายภาพ
“ เคยเห็นศพคนบ่อยไหม ” เชอร์ล็อกเอ่ยถาม
" ทำไมถึงถามอย่างนั้นล่ะ " คริสตินถามด้วยใบหน้ายุ่งเหยิง
" ถามเฉยๆ "
" อย่าคิดว่าคนอื่นจะใช้ชีวิตเหมือนคุณสิ " เธอตอบ
พวกเขากำลังเดินอยู่บนถนนที่จะนำเข้าสู่หมู่บ้านหนึ่งในเมืองแคนเทอร์บูรีย์ หลังใช้เวลาเดินทางด้วยรถแท็กซี่กว่าชั่วโมงพวกเขาก็ตัดสินใจเดินเท้าเข้าสู่หมู่บ้านด้วยความต้องการของเชอร์ล็อก บนทางเท้าเงียบสงบ บ้านแต่ละหลังตั้งเดี่ยวห่างจากกันหลายเมตร ไม่มีรั้วกันแต่ยังแบ่งพื้นที่ชัดเจนด้วยสนามหญ้าที่ปลูกอย่างเป็นสัดส่วน มองดูแล้วเป็นพื้นที่สวยงามสงบสุข ที่ราคาเอื้อมถึงได้ยากสำหรับคนไม่มีอันจะกิน
" แปลว่าเห็นบ่อย " เชอร์ล็อกกล่าว
" คุณฟังยังไงถึงเข้าใจเป็นแบบนั้นได้คะ " เธอแหวใส่พลางล้วงมือซุกในกระเป๋าเสื้อโค้ทหลบความหนาวเย็น
" เธอว่าถ้าคุณนายฮัดสันเข้ามาเห็นเธอผูกคอตายอยู่ในห้องฉัน จะเป็นยังไง " เขาถาม
" ก็คงตกใจมังคะ แล้วทำไมต้องเป็นฉันที่ตาย ทำไมไม่เป็นคุณผูกคอตายล่ะ "
" เพราะว่าฉันไม่ทำเรื่องโง่ๆ น่ะสิ " เขาตอบ
คริสตินได้ฟังก็เหลือบตานิ่วหน้าคิดทวนกับคำพูดของเชอร์ล็อก เพราะมันทะแม่งๆ เหมือนเขากำลังด่าว่าเธอเป็นพวกคนโง่ๆ ที่มักจะทำแต่เรื่องโง่ๆ หรืออะไรทำนองนั้น เธอขบคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เร่งฝีเท้าเดินห่างจากชายปากคอเราะร้าย อาจเพราะเธอไม่อยากจะโดนเขาจิกกัดอีกรอบก็เป็นไปได้
พวกเขาใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีก็เดินมาจนถึงที่หมาย บ้านเลขที่ 102 A ดูสงบเงียบ และบรรยากาศแทบไม่ต่างจากบ้านหลังอื่นๆ เลย ถ้าหากไม่ดูที่บ้านเลขที่หรือเป็นคนที่มาจนคุ้นชินแล้วอาจจะต้องสับสนได้ง่ายๆ ว่าหลังใดเป็นหลังใด คริสตินล้วงมือหยิบกุญแจบ้านในกระเป๋าเสื้อโค้ทและเดินนำเข้าไปเปิดประตู ในขณะที่เชอร์ล็อกเดินตามหลังก็คอยมองสำรวจสิ่งต่างๆ ไปทั่ว
" เชิญเข้ามาก่อนค่ะ " เธอบอก
" มีแขกมาเยี่ยมบ่อยไหม " เชอร์ล็อกถาม
" ไม่หรอกค่ะ แต่นานๆทีก็มีลูกค้าประจำเข้ามาบ้าง "
คริสตินเดินนำเชอร์ล็อกเข้าไปภายในตัวบ้าน ทั้งห้องโถงและห้องครัว เธอโยนพวงกุญแจลงบนโต๊ะอาหารก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาเครื่องดื่ม
" อยากดื่มอะไรไหมคะ " เธอถาม
" ไม่ล่ะ "
เชอร์ล็อกเดินสำรวจบริเวณห้องครัวอย่างละเอียด ทั้งบนโต๊ะอาหาร ใต้ตะกล้าวางผลไม้หรือกระทั่งขอบบานพับ และกลอนของหน้าต่าง บางครั้งเขาก็เดินชนเธอที่กำลังดื่มน้ำจนทำให้เธอสำลัก และไม่มีคำขอโทษใดจากเขาเลย คริสตินคิดว่าบางทีเขาอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเดินชนเธอ
" เชอร์ล็อก ฉันจะขอเวลาคุณไปสะสางงานครู่หนึ่ง ห้องนอนของฉันอยู่ที่ชั้นสองเผื่อว่าคุณจะอยากขึ้นไปดู ส่วนฉันจะอยู่ที่ห้องรับแขกทางซ้ายมือนะคะ ถ้ามีอะไรก็ตะโกนเรียกได้ " เธอบอก
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจฟังเลย คริสตินไม่ได้บอกซ้ำ เธอเปิดน้ำใส่กระแป๋งใบเล็กๆ และเดินไปยังห้องรับแขกเพื่อเติมสีภาพวาดของเธอให้เสร็จสมบูรณ์ ในขณะเดียวกันเชอร์ล็อกก็เดินผลุบเข้าห้องโน้นที ออกห้องนี้ที
ที่ชั้นสองของตัวบ้าน เชอร์ล็อกเดินไปตามทางเดิน ไล่เปิดประตูห้องทีละบาน ภายในเป็นห้องว่าเปล่าหนึ่งห้อง ห้องเก็บของหนึ่งห้อง และห้องนอนหนึ่งห้อง เขาสำรวจที่ห้องนอนและยังคงเห็นรอยคราบเลือดจางๆที่ติดอยู่บนกำแพง เธอคงพยายามเช็ดมันออกไป แต่วัสดุที่ใช้บุผนังห้องไม่ใช่ประเภทที่จะลบคราบเปื้อนออกง่ายๆ
เขาเดินสำรวจทั่วห้องนอน เปิดตู้เสื้อผ้าและค้นดูในลิ้นชัก ปีนขึ้นไปบนโต๊ะ กระทั่งแงะดูตามหลืบของรอยต่อฝ้าเพดาน จากนั้นกระโดดลงมาและเดินไปที่หน้าต่างห้องชะโงกดูวิวภายนอก
จากหน้าต่างห้องของเธอเมื่อมองลงไปด้านล่างก็ตรงกับถนนหน้าบ้านพอดี ครู่หนึ่งเชอร์ล็อกราวจะนึกบางอย่างได้ เขาจึงกลับหลังหันวิ่งออกจากห้องนอนของเธอ ลงบันได วิ่งผ่านห้องที่คริสตินกำลังนั่งวาดภาพของเธออยู่
เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาแวบหนึ่งด้วยซ้ำ
เชอร์ล็อกวิ่งออกไปจนถึงถนนหน้าบ้าน จากนั้นหยุดฝีเท้า หมุนตัวมองไปรอบๆ ครู่หนึ่งเข้ายกมือขึ้นป้องปาก
" อ้ากกกกก !! ช่วยด้วย !!! " เสียงเชอร์ล็อกตะโกนลั่น
" อ้ากกกกก !! "
หลังการร้องตะโกนของเขาจบลงไม่นาน คริสตินวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากบ้านพักของเธอ มือของเธอยังคงถือพู่กันเอาไว้และสองเท้าจ้ำพรวดพราดออกมาหาเชอร์ล็อก
" อ้ากกกกก !! "
" เกิดอะไรขึ้น มีอะไร ! " เธอถามอย่างรีบร้อน ดวงตาเบิกโพล่งจ้องไปยังเขา
เชอร์ล็อกหยุดส่งเสียง เขาหันมองเธอครู่หนึ่งก็มองไปรอบๆ อีกครั้งคล้ายว่าเขากำลังมองหาอะไรบางอย่าง และสุดท้ายก็จบด้วยการหันกลับมาที่เธอ
" ตอนกลางวันคนออกไปทำงานกันหมดสินะ " เขากล่าว
" ---- ห๊ะ " คริสตินถลึงตามอง ราวว่าเธอกำลังสับสน
" เข้าไปข้างในกันเถอะ " เชอร์ล็อกพูดจบก็เดินดุ่มๆ เข้าบ้านหน้าตาเฉย
เสียงประตูบ้านถูกปิดลง เชอร์ล็อกกลับเข้าบ้านแล้ว แต่คริสตินยังคงยืนอึ้งอยู่ที่ถนนราวยี่สิบวินาที เธอหันมองประตูบ้าน หลังจากได้สติก็ส่งเสียงหัวเราะแผ่วลมเพื่อประชดประชันในความไม่อยากจะเชื่อของตัวเอง
“ ถ้าอยากรู้ถามฉันก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องทำแบบนั้นเลย ” คริสตินยืนกอดอกมองเขา
" เสียเวลา " เขาตอบ
" หมายความว่าไงคะ "
" จะทำงานก็รีบๆ ทำให้เสร็จสิ มันเสียเวลานะ " เขาบอก
เชอร์ล็อกเหยียบขึ้นไปบนโต๊ะอาหารโดยไม่ถอดรองเท้า แค่เขาเดินเข้าบ้านโดยไม่ถอดรองเท้าก็แย่พอแล้ว แถมยังขึ้นไปเหยียบบนโต๊ะอาหาร ซึ่งเป็นที่ไม่ควรขึ้นไปเหยียบ เธอมองการกระทำของเขาครู่หนึ่งก็กัดฟันส่ายหน้ากับพฤติกรรมห่างไกลความสุภาพเช่นนี้
" ให้ตายสิ " คริสตินสบถเก็บเสียงและทิ้งให้เชอร์ล็อกอยู่ตามลำพัง ในขณะที่เธอเดินกลับไปที่เฟรมภาพของเธอ เธอจึงตระหนักได้ว่าตัวเองรีบร้อนออกไปจนลืมแม้กระทั่งจะวางพู่กัน
.........
........................
" เฮ้ เสร็จรึยัง " เชอร์ล็อกตะโกนเรียก
" เสร็จแล้วค่ะ แต่ต้องรอสีแห้งอีกสักพัก " เธอตอบในขณะกำลังล้างแปรงพู่กันในอ่างล้างจาน
คริสตินใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงกว่าจะเก็บรายละเอียดของภาพเสร็จ และตลอดเวลาที่เธอเร่งมือ เธอมักได้ยินเสียงฝีเท้าของเชอร์ล็อกวิ่งพล่านไปมา ทำเอาเสียสมาธิอยู่ไม่น้อย
" รีบไปเก็บเสื้อผ้าไป " เขาบอก ชะโงกหน้าผ่านกรอบประตูห้องครัวมองมายังเธอ
" พูดเรื่องอะไรคะ "
" เอาไปแค่ที่จำเป็นก็พอ เดี๋ยวซักที่บ้านฉันก็ได้ " เขาบอก
คริสตินคว่ำกระป๋องน้ำที่อ่างล้างจาน เสียบด้ามพู่กันในแก้วเปล่าที่เธอมักเอาไว้ใช้ตากขนพู่กัน ก่อนจะเช็ดมือและหันกลับไปมองยังเขา เธอไม่ได้เอ่ยคำถาม เอาแต่ยืนกอดอกพิงขอบอ่างล้างจานและจ้องเขาเขม็ง จนกระทั่งเขารับรู้ได้ว่านี่คือการตั้งคำถามโดยไม่พูดจา
" อะไร " เชอร์ล็อกผายมือออกพร้อมยักไหล่
" ฉันไม่เคยบอกเลยนะว่าจะไป " เธอกล่าว จ้องหน้าเขาเขม็ง
หลังเธอพูด เชอร์ล็อกกลอกตามองเพดานด้วยท่าทีเบื่อหน่าย เสียงถอนหายใจดังแผ่วให้ได้ยินก่อนที่เขาจะกระโดดขึ้นไปยืนบนโต๊ะอาหารโดยไม่ถอดรองเท้าอีกครั้ง เขายืนค้ำหัวเธอพอดิบพอดีและเหลือบตามองหน้าเธอเหมือนจะกำลังยั่วยุให้โมโห คริสตินขบฟันแน่น และดั่งจะทำให้เขาพอใจเพราะเจ้าหนุ่มประหลาดปลายยิ้มและส่งเสียงหัวเราะแผ่วลมออกมาเสียดื้อๆ
ทว่าไม่กี่อึดใจ เชอร์ล็อกใช้กำปั้นทุบขึ้นไปบนแผ่นฝ้าจนมันแตกและร่วงกราวลงบนพื้น คริสตินกระโดดหลบเศษฝ้าที่หลุดกระเด็นออกจากกรอบสี่เหลี่ยมตกแตกกระจายแทบเท้าของเธอ
เธอเงยหน้าขึ้นมองที่เขาด้วยอารมณ์คุกรุ่น
" กล้อง " เชอร์ล็อกบอก
และเมื่อจ้องมองดีๆ ในมือของเขาถือบางสิ่งเอาไว้ด้วย คล้ายสายไฟที่ห้อยระโยงมาจากช่องของฝ้าที่แตกกระเจิง เชอร์ล็อกเริ่มสาวสายไฟนั้นออกมาและจบด้วยการกระชากมันจนขาด
" มีอยู่ทั่วบ้านเลย ทุกที่ ทุกห้อง ระดับ HD เสียด้วย " เขาบอก ก่อนจะโยนซากกล้องที่เพิ่งกระชากเสียจนไม่เหลือดีให้เธอดู คริสตินรับเอาไว้ด้วยสองมือ เธอมองอย่างพิจารณา คิ้วคู่สวยขยับไหวและมือข้างหนึ่งยกทาบที่อก แววตาเธอดูสับสนในขณะเดียวกันสิ่งที่ฉายออกมาจากตาคู่นั้นอาจเป็นความหวาดกลัวก็เป็นได้
" รีบๆ ไปเก็บของได้แล้ว ฉันจะบอกให้ว่ามันมีเยอะมากโดยเฉพาะในห้องน้ำ " เขาพูดพลางกระโดดลงจากโต๊ะอาหารและเดินไปยังประตู แต่ยังไม่ทันที่เขาจะก้าวออกไปก็หยุดชะงักและหมุนตัวกลับมองที่เธอเสียก่อน
" เร็วๆ เข้าล่ะ ฉันรีบ " เขาบอก
คริสตินเงยหน้าจากซากกล้องในมือและมองไปยังเขา
" รีบ ? จะไปไหนเหรอคะ " เธอถาม สีหน้ายังคงไม่หายช็อกจากความจริงเรื่องกล้องในมือ
เชอร์ล็อกส่งรอยยิ้มประหลาด ทว่าสีหน้าเหมือนจะเปลี่ยมไปด้วยความสุขจนไม่อาจอธิบายได้ เขาหมุนตัวกลับไปทางประตูและเริ่มเดิน
" ไปดูศพ~ " เขาตอบด้วยน้ำเสียงฟังดูระรื่น
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
คริสดิน คูนิส
ความคิดเห็น