คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Sherlock 10 : Name lists
To.SH
*CR ได้ทำการส่งข้อความรูปภาพ*
- CH
เชอร์ล็อกเปิดดูรูปภาพจากข้อความ เขามุ่งหน้ามายังถนนทางตอนใต้ ห่างจากถนนเบเกอร์ราวๆ หนึ่งชั่วโมง ภาพล่าสุดที่เธอส่งมาทำให้เขารู้ว่าควรไปที่ไหน ทว่าก็ทำให้เขาเลิกใช้วิธีพิมพ์ข้อความและโทรหาเธออย่างทันทีทันใด
เสียงรอสายดังอยู่ราวๆ 30 วินาที
" --- ไง เชอร์ล็อก " เสียงเธอรับสายคล้ายว่าเธอกำลังแอบพูด หรือกลัวว่าใครจะได้ยิน
" อย่าเข้าไปข้างใน " เขาบอก
" พูดเรื่องอะไรเนี่ย "
" อย่าตามมันเข้าไปข้างใน รออยู่ตรงนั้น ฉันกำลังไป "
" เชอร์ล็อก ----- "
หลังจากนั้นเธอก็เงียบหายไป เชอร์ล็อกถือสายรออยู่ครู่หนึ่งเพื่อรอการตอบรับของเธอ
" คริสติน " เขาเรียก และไม่มีการตอบกลับใดๆ " คริสติน ! ---- "
หลังการเรียกซ้ำ สายก็ถูกตัด —- เขาผละออกจากโทรศัพท์ จ้องมองหน้าจอด้วยดวงตาสุดนิ่งงัน ในเสี้ยววินาทีที่ทฤษฎีการคาดเดาสถานการณ์เป็นร้อยพันรูปแบบเกิดขึ้นในหัว เชอร์ล็อกกำโทรศัพท์ไว้ในมือ และสองเท้าก็ออกวิ่ง
กลิ่นเหม็นอับของกระดาษลังที่ถูกทิ้งร้างชวนให้รู้สึกหดหู่เหมือนอยู่ในรังหนู รอบกายของเขามืดสลัว มีเพียงแสงไฟสีส้มอ่อนแรงที่สาดเข้ามาทางหน้าต่างของโกดังใหญ่โต
เชอร์ล็อกเดินเตร็ดเตร่อยู่ในความมืด ดวงตาเบิกโพลงรับแสงเพื่อเพ่งมอง ฝีเท้าของเขาเบาแทบไร้เสียงทุกย่างก้าว ทว่ารีบร้อนพอตัว หลังจากที่สายโทรศัพท์ของคริสตินถูกตัดไป เขาก็ติดต่อเธออีกหลายครั้งทว่าไม่มีการตอบรับใดๆ จากเธอ เขาใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีหลังจากนั้นเพื่อมายังโกดังร้างคนแห่งนี้ ที่หน้าทางเข้าไม่มีกุญแจล็อก หมายความว่ามีคนอื่นเข้ามาก่อนหน้าเขาแล้ว
ในความมืดที่มองเห็นได้ยากลำบาก กล่องกระดาษจำนวนหลายร้อยหรืออาจเป็นพันกล่องวางเรียงรายเป็นตั้งสูงจนเลยหัว และถูกจัดเป็นสัดส่วนจนเกิดเป็นช่องทางเดินและซอกซอยมากมาย บนเพดานบางจุดมีไฟถูกเปิดอยู่ ทว่ามันก็มีน้อยยเกินกว่าจะส่องสว่างให้กับซอกเล็กน้อยทั้งหมดได้
เชอร์ล็อกหยิบโทรศัพท์และกดโทรหาเธออีกครั้งหลังจากเดินเข้ามาได้ลึกพอสมควร เมื่อสัญญานต่อติด เขาจึงชะงักเท้าเพื่อรอฟัง --- เสียงเรียกเข้าของเธอดังมาจากที่ด้านในของโกดังมืดทึม สองเท้าของเขาจึงขยับตาม ประสาทโสทจับทิศ เมื่อเดินลัดเลาะไปตามซอยเล็กๆ จนเสียงโทรศัพท์อยู่ใกล้ เชอร์ล็อกเบาฝีเท้าและใช้ความระแวงระไวเป็นอย่างมากในการก้าวเดิน เขาเอนตัวแนบไปกับกล่องลังที่ถูกเรียงสูงเป็นกำแพง ค่อยๆ ขบับคลืบคลานทีละน้อยไปยังต้นเสียง เมื่อโผล่พ้นถึงจุดหมาย โทรศัพท์ของเธอถูกวางแน่นิ่งอยู่บนพื้น ไฟหน้าจอเรืองแสงในความมืดสลัว ทว่าไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้น --- เขากวาดสายตามองจนแน่ใจ จึงเดินเข้าไปดู
ถึงแม้ว่าภายในโกดังจะค่อนข้างมืดทึม ทว่าก็พอมองเห็นได้จากไฟน้อยนิด เขาก้มลงหยิบโทรศัพท์ มีสายของเขาเรียกเข้าจำนวนหนึ่ง ทว่าคิ้วของเขาถึงคราวกระตุกเมื่อเห็นชื่อตัวเองในโทรศัพท์ของเธอ
' Sherly : 11 Miss called
(เชอร์ลี่ 11 สายไม่ได้รับ)
เชอร์ล็อกเงยหน้าขึ้นมองรอบๆ อีกครั้งก่อนจะเก็บโทรศัพท์ของเธอใส่กระเป๋าเสื้อโค้ท เขาก้มลงมองบนพื้นและการมองเพียงปราดเดียวก็นำเขาไปพบเบาะแสบางอย่าง เชอร์ล็อกย่อตัวลงนั่งก่อนจะเอื้อมมือหยิบเส้นผมสีบลอนด์ขึ้นจากพื้น มันมีอยู่หลายเส้นเกาะกลุ่มกันอยู่ หรือจะเรียกว่าเป็นกระจุกหนึ่งก็ใกล้เคียง ภาพการสันนิษฐานเกิดขึ้นในหัว เธอถูกทำร้ายตรงบริเวณนี้ คนร้ายกระชากผมของเธอและโทรศัพ์จึงหลุดออกจากมือ หลังจากนั้นมันทำร้ายเธอและมีใครคนใดคนหนึ่งเลือดตกยางออก เพราะมีรอยคราบเลือดจางๆ ติดอยู่บนพื้นไม่ไกลจากจุดที่โทรศัพท์ตกมากนัก แต่เป็นการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเพราะเลือดค่อนข้าจาง และเป็นสีแดงอมส้ม ---
เชอร์ล็อกดันตัวลุกขึ้นยืน สายตายังคงจับจ้องที่รอยคราบเลือด ดวงตาสีฟ้าคล้ายจะหยุดนิ่งกลายเป็นหุ่นขี้ผึ้งไร้ชีวิตชีวา ทว่าเสียงกรีดร้องของคริสตินก็ดังแทรกทำให้ดวงตาคู่นั้นเบิกโพลงและสองเท้าขยับไหวอย่างรวดเร็ว ในความมืดสลัว เสียงร้องของเธอเป็นดังคำบอกทาง เขาใช้หูทำงานแทนดวงตาที่ในยามนี้ใช้งานได้ไม่ดีนัก
เมื่อสองเท้าพามาถึงจุดเกิดเหตุเสียงกรีดร้องของเธอก็เงียบเสียจนน่าใจหาย ชายร่างสูงใหญ่กำลังคร่อมทับร่างของเธอ สองมือบีบที่ลำคอและเธอหมดสติไป หรืออาจตาย เขาไม่อาจรู้ได้ เขาวิ่งปรี่เข้าไปกระชากตัวชายผู้นั้นออกมา หลังแรงกระชากกำปั้นก็หวดไปบนอากาศอัดเข้าที่หน้าของศัตรูเต็มแรง ชายปริศนาเซล้มลงในความมืด และสมองของเขาถึงคราวปั่นป่วนเมื่อซีกหนึ่งสั่งการให้รีบจัดการผู้ชายที่ล้มอยู่เสียให้เรียบร้อย ทว่าสมองอีกซีกสั่งการให้หันกลับไปดูว่าคริสตินตายหรือยัง เขาจึงยืนเก้ๆ กังๆ ไม่รู้ว่าควรเชื่อสมองฝั่งใด
ในขณะที่สมองถูกรบกวนอยู่นั้นเอง ชายปริศนาพุ่งเข้ารวบตัวของเชอร์ล็อกเอาไว้ ด้วยขนาดร่างกายที่ดูจะเสียเปรียบอยู่เล็กน้อยทำให้เชอร์ล็อกล้มลงบนพื้น เขาถูกต่อยไปหลายหมัดในขณะเดียวกันก็หวดอีกฝ่ายไปหลายทีทั้งที่ไม่มีสติสตางมากนัก
" เชอร์ล็อก !! " เสียงคริสตินตะโกนเรียก
การชกต่อยเหมือนจะหยุดลงชั่วขณะ และชายทั้งสองหันมองไปยังเธอที่เหมือนจะได้สติฟื้นขึ้นมาโดยบังเอิญ คล้ายส่านาฬิกาหยุดหมุนราวหนึ่งวินาที ก่อนที่เชอร์ล็อกจะหวดหมัดใส่อีกฝ่ายเมื่อเขาตั้งสติได้
" ไป ! วิ่งสิ ! " เชอร์ล็อกตะโกนบอก
ชายปริศนาคว้าคอเสื้อโค้ทของเชอร์ล็อกก่อนจะเลื่อนลงมาเป็นบีบคอ เขาดิ้นพรากๆ ทั้งความเจ็บปวดทรมานเล่นงานไม่หยุดหย่อน ทว่าสิ่งที่เขาหวาดกลัวคือการขาดอากาศหายใจ ภาพข้างหน้าเลือนลางลงเรื่อยๆ แรงดิ้นรนค่อยๆ กลายเป็นจำนนเพราะขาดสติ พลันเข้าได้ยินเสียงดัง พลัก และแรงบีบที่ลำคอก็คลายออกทันควัน เชอร์ล็อกหอบหายใจเข้าปอดก่อนจะลุกขึ้นใช้หัวพุ่งโขกอีกฝ่ายจนกระเด็นลงไปนอนที่พื้น
" พระเจ้า คุณเป็นอะไรไหม ! " คริสตินตะโกนถาม ในมือของเธอถือไม้ยาวร่วมหนึ่งเมตร
เชอร์ล็อกมองที่เธอ เขาหายใจเหนื่อยหอบและยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผาก ทว่าเมื่อมองที่หลังมือ มันมีสีแดงติดปนมากับเหงื่อชื้นของเขาด้วย คริสตินทิ้งไม้ลงบนพื้นและพุ่งตัวเข้ามาดูอาการของเขาอย่างใกล้ชิด
" หัวคุณน่ะ " เธอประคองหน้าเขาและจ้องมองด้วยสีหน้าเป็นกังวล
" ไม่เป็นไรหรอก " เชอร์ล็อกบอก
" มีเลือดออกด้วย "
" อ้อ เหรอ --- ไม่รู้เลยนะเนี่ย " เขาตอบเชิงประชดประชัน
" ลุกไหวไหม ให้ฉันช่วยเถอะ " เธอเสนอแต่เขาไม่รับ มิหนำซ้ำยังปัดมือเธออกไปราวว่ารำคาญเธอเต็มทน
" ไม่ต้อง แต่ฉันจะขอบคุณมาก ถ้าคราวหน้าเธอจะช่วยพก 'หู' มาด้วย " เขาบอกพลางดันตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ในคราวแรกเขาเสียหลักเล็กน้อยและกลับมายืนได้อย่างเต็มแข้งอย่างรวดเร็ว
" ไปโรงพยาบาลเถอะ " เธอบอก สีหน้าเป็นกังวลจนเห็นได้ชัด เชอร์ล็อกเบนสายตาออกจากใบหน้าของเธอก่อนจะหันไปมองยังชายแปลกหน้าที่ยามนี้นอนแน่นิ่งไปเสียแล้ว
" เขาจะตายไหม " คริสตินถาม น้ำเสียงสั่นเครือ
" ยังไม่ตายหรอก --- ตอนนี้นะ " ไม่พูดเปล่า เชอร์ล็อกเดินเข้าไปขย้ำคอเสื้อของชายหมดสติ และลากร่างปวกเปียกกระแทกให้นั่งพิงกล่องก่อนที่เขาจะนั่งลงตรงหน้าชายผู้นั้น และจ้องมองอย่างพิจารณา
" เกิดอะไรขึ้น " เชอร์ล็อกถามคริสตินโดยไม่หันไปมองเธอ
" ฉันเห็นเขาอยู่ที่ถนนเบเกอร์ ดูน่าสงสัยฉันก็เลยตามมา แต่ว่าโดนจับได้เสียก่อน " เธอบอก
" แหงอยู่แล้ว มันล่อให้เธอตาม แล้วเธอก็ดันเชื่องเสียด้วย "
" --- ฉันคิดว่าเขาคือคนที่ส่งข้อความมาหาฉัน แต่ว่าไม่ใช่ "
หลังคำบอกเล่าของเธอ เชอร์ล็อกหันและเหลือบตามองยังเธอที่ยืนอยู่ข้างหลังด้วยใบหน้าฉงบปนความบึ้งตึง คริสตินล้วงมือหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อโค้ทของเธอ ก่อนจะโยนมันให้กับเชอร์ล็อก
" ฉันลองเช็กโทรศัพท์เขาดูแล้ว ไม่มีข้อความพวกนั้นเลย " เธอบอก และเขารับโทรศัพท์เอาไว้ในมือ
เชอร์ล็อกพลิกดูโทรศัพท์อยู่หลายจุดก่อนจะเปิดดูหน้าจอ มันไม่ได้มีการล็อกรหัสและสามารถตรวจเช็กอะไรหลายๆ อย่างได้อย่างสะดวกสบาย หากแต่ว่าในข้อความที่ส่งออกนั้นไม่มีข้อความใดที่ดูแล้วจะเกี่ยวข้องกับคริสติน หรือ 231 เลยสักนิด ทว่าในโทรศัพท์เครื่องนั้นกลับมีบางสิ่งที่สะกิดใจเขาอย่างรุนแรง
" แล้วเธอเอามันมาได้ไง " เชอร์ล็อกถาม หรี่ตามองที่เธอ
" ขโมยมา --- ตอนที่เขาพยายามจับตัวฉัน " เธอตอบ
หลังได้ฟังเชอร์ล็อกเหลือบตาขึ้นมองเพดาน คิ้วขมวดปมราวว่ากำลังใช้ความคิด --- ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของชายแปลกหน้าที่อยู่ในมือของเขาก็ดังขึ้น เชอร์ล็อกก้มลงมองและพบว่ามีข้อความใหม่ถูกส่งเข้ามา เขาจึงเปิดดู
To. SH
สวัสดี, นายชอบเล่นเกมส์ใช่ไหม ได้เวลา เชอร์ล็อก โฮล์มส์ แล้ว
- 231
เชอร์ล็อกอ่านข้อความ และเหลือบสายตามองไปยังชายหมดสติทันที คริสตินเดินเข้ามาใกล้จนสามารถเห็นข้อความบนหน้าจอนั้นได้ เธอยกสองมือขึ้นปิดที่ริมฝีปาก พยายามจะไม่ส่งเสียงร้องหรือแสดงความตกอกตกใจให้มากนัก ในขณะที่ความเงียบบรรเลงได้ไม่ถึงนาที เสียงข้อความที่สองก็ดังขึ้น
To. SH
นายมีเวลา 15 นาที ก่อนที่นั่นจะหายไปจากโลก ตลอดการ
- 231
" คุณพระช่วย มันหมายความว่าไง " คริสตินกล่าวด้วยน้ำเสียงสุดผวา
" หมายความว่า ที่นี่มีระเบิดล่ะมั้ง " เชอร์ล็อกตอบอย่างคนไม่รู้ร้อนรู้หนาว เขาหันกลับไปยังร่างของชายหมดสติ ก่อนจะเริ่มใช้สองมือรื้อค้นไปทั่วร่างกาย เขาล้วงตามกระเป๋าและตรวจดูทุกอย่างที่อยู่ข้างใน และแทบไม่มีอะไรที่พอจะเป็นเบาะแสที่เขาต้องการ เขาจึงหยุดรื้อและนั่งนิ่งๆ สองมือยกขึ้นกุมขมับดวงตาปิดสนิท
" เชอร์ล็อก เราต้องออกไปนะ " คริสตินบอก น้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ
" ทำไมมันต้องล่อเธอมาล่ะ " เชอร์ล็อกกล่าวเหมือนพูดคุยอยู่กับตนเอง
" คุณควรไปได้แล้วนะ ที่นี่ไม่ปลอดภัย "
" ถ้าเธอมานี่ --- ถ้ามันล่อเธอมาฉันก็ต้องหาเจอ มันต้องไม่คิดแน่ว่าเธอจะมาคนเดียวหรือว่ามันต้องการให้ฉันมากันแน่ แต่ทำไมถึงไม่ล่อฉันมาเอง ทำไมต้องเป็นเธอด้วย " เชอร์ล็อกพูดฟังแทบไม่ได้ศัพท์ ราวว่าเขาเสียสติและถูกกักขังอยู่ในสมองของตนเอง คริสตินขยับเท้าหมุนตัวไปรอบๆ มองหาทางออกหรือบางอย่างซึ่งเธอไม่รู้ว่าคืออะไร เธอยกมือขึ้นเสยผมที่ตกลงมาปรกใบหน้า และพยายามจะหยุดตัวเองไม่ให้เสียสติ
" ฉันไม่ควรมาอยู่ที่นี่เลย ! เชอร์ล็อก เราไม่ควรอยู่ที่นี่นะ ! " เธอบอก
" -------- อ้อ !! --- " ดวงตาของเขาเปิดโพลง ริมฝีปากอ้า หอบอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่
ราวกับเขาถูกความคิดฟาดลงกลางสมอง สองมือของเขาเริ่มปลดเสื้อของชายแปลกหน้าออกอย่างรีบร้อน เพียงเวลาไม่ถึงนาทีเสื้อผ้าก็ถูกปลดออกเผยให้เห็นร่องรอยขูดขีดที่บริเวณท้องน้อยของชายหมดสติ บาดแผลเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานเพราะยังไม่ตกสะเก็ดดี
" เพราะว่าเธอคือเบาะแส --- ใช่ มิน่าล่ะ ! " เขากล่าว จ้องมองข้อความที่ถูกกรีดทิ้งเอาไว้บนร่างของชายหมดสติ ' Here ' เชอร์ล็อกออ่านข้อความเหล่านั้นก็เงยหน้า สายตาของเขามองไปยังที่ใดนั้นมิอาจรู้ได้
" คริสติน ถอดเสื้อผ้าออก " เชอร์ล็อกบอกโดยไม่หันไปมอง
เธอเงยหน้ามองเขา เหมือนถูกกระชากจากความเสียสติชั่วครู่
" คุณว่าอะไรนะ " เธอถาม
" ถอดเสื้อผ้าออก " เขาย้ำ
" เชอร์ล็อก ! เป็นบ้าอะไรเนี่ย ! " เธอตะคอกเสียจนใบหน้าแดงก่ำ
" หุบปาก ! แล้วทำตามที่บอก ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะลุกไปถอดให้เอง ! " น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าวกรรโชก และถึงจะมองไม่เห็นหน้าของเขา ทว่าก็รู้ได้ถึงความจริงจังที่เขาหมายความเช่นนั้น คริสตินยืนนิ่งงัน เธอสับสนว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างประดังประเดจนจับต้นชนปลายไม่ถูก เธอเพิ่งถูกผู้ชายที่ไม่รู้จักทำร้ายจนเกือบตาย และเธอฟาดหัวเขาจนสลบแทบจะเป็นโคม่า ที่ๆ เธออยู่มีระเบิดถูกติดตั้ง และมันจะทำงานภายใน 15 นาที เชอร์ล็อกกลายเป็นบ้า และสดๆ ร้อนๆ เธอถูกสั่งให้แก้ผ้าโดยไร้ซึ่งคำอธิบายใดๆ
" คริสติน ให้ตายเถอะเรามีเวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้นนะ ! " เขาตะโกนลั่น
" ฉัน --- ไม่ควรมาอยู่ที่นี่เลย -- " เธอกล่าว สองมือเริ่มปลดกระดุมเสื้อออก เชอร์ล็อกเหลือบมองครู่หนึ่งเมื่อเห็นว่าเธอกำลังทำตามที่บอกเขาก็หันกลับไปมองยังชายที่ไม่ได้สติ ใบหน้าของชายผู้นั้นบ่งบอกว่าร่างกายมีสภาพทรุดโทรมเพียงใด ขอบตาลึกโหลคล้ำ ริมฝีปากแห้งขาดน้ำอย่างมาก เล็บเหลืองนิ้วมือซีดเผือด รวมไปถึงร่องรอยเป็นจ้ำเหมือนรอยเข็มฉีดยาบริเวณข้อพับแขนข้างซ้าย เพียงเท่านี้เขาก็รู้ทันทีว่าชายคนนี้ติดสารเสพติดหนักหนาสาหัสเท่าไร
" เชอร์ล็อก " เสียงคริสตินเรียก
เมื่อหันกลับไปก็เห็นเธอนั่งคุดคู้อยู่บนพื้น เธอกอดตัวเองแน่นคล้ายว่าพยายามจะปกปิดเรือนร่างเปล่าเปลือยจากสายตาของเขา ที่มือของเธอถือเศษกระดาษทิชชู่เอาไว้ เธอเงยหน้าขึ้นและยื่นมันให้แก่เขา
" ฉันไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง แต่มันซุกอยู่ใน --- "
เชอร์ล็อกรีบรุดขึ้นไปคว้า หลังจากนั้นเธอเอื้อมมือคว้าเสื้อโค้ทที่วางอยู่ข้างตัวขึ้นมาคลุมร่างกายเอาไว้
" ให้ตายสิ่ " เชอร์ล็อกมองข้อความเลือนๆ บนกระดาษก่อนสบถออกมา และล้วงมือหยิบโทรศัพท์ของชายแปลกหน้าออกจากกระเป๋าเสื้อโค้ทของเขา ข้อความบนกระดาษทิชชู่มีอยู่ว่า ' What's a name ' และเชอร์ล็อกละเลงปลายนิ้วลงบนหน้าจอ มองหาสิ่งที่เขารู้สึกตะหงิดใจตั้งแต่แรกเห็น
บนหน้าจอโทรศัพท์มีแอพพลิเคชั่นหนึ่งหน้าตาประหลาดคล้ายตัวไอคอนรูปหน้ายิ้มสีเหลืองที่เห็นได้ทั่วๆ ไป และชื่อของมันคือ B O O M เมื่อปลายนิ้วสัมผัสเข้าตัวแอพพลิเคชั่น หน้าจอปรากฎช่องว่างถอดรหัส 7 ตัวอักษร ด้านล่างมีเวลานับถอยหลังจาก 15.00 ลดลงเรื่อยๆในยามนี้คือ 07.15
" เชอร์ล็อก --- " คริสตินมองดูหน้าจอโทรศัพท์ สองมือของเธอยังคงรวบเสื้อโค้ทเอาไว้
" ฉันมีเวลาไม่มาก เธอไปมัดผู้ชายคนนั้นไว้ก่อน " เขาบอกก่อนจะนั่งลงบนพื้น วางโทรศัพท์และค้นเอาหนังสือสีแดงที่เป็นเบาะแสสำคัญเกี่ยวกับการตายของ ซาลีน่า โจนส์ วางลงบนพื้น หน้าหนังสือถูกเปิดอ้า และเชอร์ล็อกเหมือนพยายามกำลังค้นหาบางอย่างในหนังสือเล่มนั้น
" แล้วจะให้ใช้อะไรมัดล่ะ " เธอถาม
เชอร์ล็อกเหมือนจะชะงัก เขาเหลือบมองเธอด้วยหางตาประหนึ่งจะต่อว่าเธอโดยไร้คำพูด
" โอเคฉันจะหาทางเอง " เธอบอกรีบรุดไปยังร่างของชายแปลกหน้าทันควัน
06.57
หลังการขัดจังหวะของคริสตินจบลง เชอร์ล็อกเร่งมือเปิดหน้าหนังสือของ ซาลีน่า โจนส์ ภายในหน้ากระดาษเต็มไปด้วยเนื้อหาและบทความที่ถูกตัดแปะอย่างไม่พิถีพิถัน เมื่อพลิกหน้าหนังสือต่อไปเรื่อยๆ ก็พบรายชื่อพร้อมตำแหน่งงานจำนวนมากกว่าร้อยชื่อ ทว่าบนชื่อเหล่านั้นมีรอยขีดคร่าอยู่ 2 รายชื่อ 'มาร์ติน คูเบิกร์' และ 'ไอริส เทลเลอร์' เห็นได้จัดว่า ซาลีน่า โจนส์ พยายามจะผูกโยงเรื่องราวก่อนที่เธอจะถูกฆ่าตาย
02.04
ปลายนิ้วของเขาไล่ไปตามตัวอักษร ดวงตาเบิกกว้างจับจ้องเพื่อหารายชื่อที่เป็นไปได้ สมองของเขาตีความและทำงานอย่างหนักจนกระทั่ง
00.19
" สตีเฟ่น ! " เขาตะโกน รีบร้อน มือคว้าโทรศัพท์และเร่งพิมพ์คำตอบ
S T E P H E N
และตัวเลขบนหน้าจอหยุดการทำงาน มือของเขาสั่นระริกจากความกดดันที่ร่างกายกระหายหา
00.17
หลังเวลาบนหน้าจอหยุดลง ข้อความใหม่ก็ถูกส่งเข้ามา
To.SH
ยินดีด้วย
- 231
เชอร์ล็อกจ้องมอง เพียงครู่เดียวความสั่นเกร็งก็หมดไป เชอร์ล็อกเลิกคิ้วขึ้นพลางหันหลังเหลือบไปมองยังคริสติน เธอยังคงพยายามหาหนทางมัดร่างของชายหมดสติอย่างไม่ย่อท้อ ทว่า ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าเลย
" เธอไหวใช่ไหม " เขาถาม จะว่าด้วยน้ำเสียงสมเพชก็ไม่ปาน
" เอ่อ --- ไม่ต้องห่วงรีบปลดระเบิดเถอะน่า ! " เธอตะโกนบอก น้ำเสียงกรรโชกหวาดเกร็งมือยังเร่งพันธนาการชายหมดสติด้วยเข็มขัดของเขาด้วยความร้อนรน
" --- ก็ปลดแล้วไง " เขาตอบ เหลือบตามองเพดานคล้ายว่าเบื่อหน่ายอย่างมาก
คริสตินชะงักมือและหันกลับไปยังเขาทันควัน คิ้วเธอขมวดยุ่ง ใบหน้าเต็มเปลี่ยมด้วยความสับสน หรืออาจเป็นสงใสใคร่รู้
" ยังไงนะ " เธอถามซ้ำ เหมือนเธอไม่แน่ใจในสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
" ปลดระเบิดแล้ว ไม่บึ้ม ไม่ตูม ไม่ตาย " เขาบอก ผายมือออกสีหน้ายังคงความเบื่อหน่าย
" --- อ้อ " สีหน้าของเธอไม่อาจอธิบายได้
" รีบๆ ทำให้เสร็จเสีย ฉันอยากกลับบ้านแล้ว " เชอร์ล็อกบอก
คริสตินกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะรีบหันกลับไปจัดการงานของเธอ ในขณะเดียวกันนั้นเอง เชอร์ล็อกกดโทรศัพท์ของเขาส่งข้อความไปยังเลสเตรด
To. GL
ฉันทำเบาะแสตกไว้แถวโกดังทางตอนใต้ นายมาเก็บมันไปทีสิ
* SH. ได้ทำการแชร์โลเคชั่น *
- SH
" บอกได้ไหม ทำไมคุณรู้ว่าฉันอยู่ไหน " เธอถาม
ทั้งสองเดินเตร็ดเตร่อยู่บนถนนเบเกอร์ ระยะทางอีกไม่ถึงกิโลก็จะถึงที่พัก บนทางเท้าเปียกชุ่ม มีน้ำขังบางจุด และโคมไฟถนนยามค่ำคืนส่องสะท้อนผิวน้ำเกิดเป็นสีสันสวยงาม --- ทั่วทั้งบริเวณปลอดคน อาจเพราะเป็นเวลาค่ำมากแล้ว บานหน้าต่างของตึกรามและบ้านเรือนต่างปิดสนิทเพราะฝนที่ตกกระหน่ำเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว
" ทำไมฉันต้องพูดเรื่องไร้สาระด้วย " เขาบอกโดยไม่มองหน้าเธอ
" นี่คุณเป็นคนปากเสียจริงๆ หรือคุณตั้งใจจะทำให้ฉันโมโหกันแน่คะ เชอร์ล็อก " เธอถามอย่างเสียมิได้
เขายังคงเดินต่อไปเงียบๆครู่หนึ่ง และในที่สุดก็เหลือบสายตามองเธอ
" ก็เธอส่งรูปมาให้ " เขาบอก
" ใช่เชอร์ล็อก ฉันส่งรูปไปให้ แต่ว่าฉันอยู่บนรถแท้ๆ ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แล้วทำไมคุณถึงรู้ได้จากรูปแค่นั้นล่ะคะ " เธอถามด้วยคิ้วขมวด
" ชัดออกจะตายไป " เขาบอก ละสายตาจากเธอและมองไปยังทางเท้าข้างหน้า
" --- ยังไงคะ "
" ให้ตายสิ่ --- เธอหายไปจากร้านเกือบชั่วโมง แล้วส่งรูปกลับมาว่าอยู่บนรถแท็กซี่ ในถาพนั่นกระจกรถไม่เปียกเลยสักนิด แถมถนนก็ไม่เปียก ทั่วลอนดอนฝนตกเป็นฟ้ารั่วเลยนะ แค่เช็กดูว่าที่ๆ ไกลจากเบเกอร์สตรีท 1 ชั่วโมง และไม่มีฝนตกคือที่ไหน ก็รู้แล้ว " เขาตอบโดยไม่มองหน้าเธอ
คริสตินได้ฟังก็เงียบไปครู่หนึ่ง เธอคิดตามคำบอกเล่าของเขาจึงสามารถเข้าใจได้ แม้ว่าเขาจะปากคอเราะร้ายหรือแสดงท่าทีจองหองอยู่เสมอ ทว่าเรื่องความฉลาดนั้นจะเยอะหยั่นเขาไม่ได้เลย
" ถ้าอย่างนั้นเรื่องรหัสล่ะ " เธอถามต่อ
เชอร์ล็อกเหลือบสายตามองเธออีกครั้ง คิ้วของเขาขยับไหวคล้ายว่าจะรำคาญก็ไม่เชิง
" ก็ดูเอาจากในหนังสือของ ซาลีน่า โจนส์ นั่งไง " เขาตอบ
" ฉันไม่เข้าใจค่ะ คุณช่วยอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ หน่อยได้ไหม "
" คริสติน --- มันง่ายออกจะตายไป ทำไมเธอถึงไม่ -- " ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ก็ชะงักจากสายตาที่จ้องเขม็งของเธอ คล้ายว่าเธอรู้คำพูดต่อไปของเขาแล้ว
" คำใบ้คือ ชื่ออะไร ก็คือชื่อของผู้ชายเจ้าของโทรศัพท์แหงอยู่แล้ว ฉันก็แค่หามันจากหนังสือของ ซาลีน่า โจนส์ ว่าใครที่ทำงานตำแหน่งนักออกแบบ และในนั้นมีอยู่หลายคนแต่มีคนเดียวที่เป็นผู้ชาย ก็คือ สตีเฟ่น ครูส " เขาอธิบายโดยไม่หันมองเธอแม้สักนิด คล้ายว่าเขาไม่อยากจะสบสายตาแข็งกร้าวของเธอ
" เข้าใจแล้ว แต่คุณข้ามส่วนสำคัญไปหรือเปล่า " เธอถาม
" ฉันข้ามไปเหรอ ? " เขาถามและหันมองเธอครู่หนึ่งก่อนจะเบี่ยงสายตากลับไปยังทางเท้าอย่างรวดเร็ว
" คุณรู้ได้ยังไงว่าเขาทำงานเป็นนักออกแบบ กระเป๋าเงินก็ไม่มีบัตรอะไรก็ไม่มีสักอย่าง " เธอถาม
" --- เฮ่อ " เชอร์ล็อกถอนหายใจยาวเหยียด " คริสติน --- ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงยังถาม ในเมื่อทุกอย่างมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรหรือกระเป๋าเงินเลย ดูเสื้อผ้าที่เขาใส่สิ ! ถึงมันจะเก่าแต่ราคาแพงมาก แถมเป็นแบบเรียบง่ายแต่ลงตัว ทันสมัย แปลว่าเขามีหัวทางด้านศิลปะ ในโทรศัพท์ของเขามีแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับค่าสีคอมพิวเตอร์ และปากกาของเขาเป็นแบรนด์ที่พวกนักออกแบบชอบใช้กัน ราคาแพงแถมหมึกยังเป็นสีดำ ถ้าเป็นพวกบริหารทั่วไปไม่ใช้หรอก พวกนั้นพกแต่ปากกาหมึกน้ำเงิน แถมอายุของเขาก็ดูไม่น่าจะเป็นผู้บริหารได้ --- รองเท้าเอย นาฬิกาข้อมือเอย --- อ้อ ถึงตอนนี้เขาจะไม่ได้ใส่แล้วแต่เขาเคยใส่ รอยยังอยู่อาจจะขายทิ้งไปแล้วแถมมันเป็นของแพงเสียด้วย เขาทำงานนั่งโต๊ะ พกยาหยอดตาเพราะว่าต้องจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน --- ยิ่งไปกว่านั้นโทรศัพท์ก็ยังเป็นของแอปเปิ้ล เพราะว่าค่าสีของหน้าจอมันเที่ยงตรงที่สุด พวกนักออกแบบไม่ใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์แบรนด์อื่นหรอก ถ้าพวกเขาต้องใช้มันเปิดอาร์ตเวิร์คของลูกค้า --- " เชอร์ล็อกกล่าวและผายมือออก
เขาพูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่คนธรรมดาจะสามารถคิดได้ เป็นความคิดดาษดื่นที่ไม่ต้องใช้ความเข้าใจอย่างเช่น ทางม้าลายมีไว้เพื่อข้ามถนน --- เชอร์ล็อกมักคิดว่าสิ่งที่เขาทำและคิดได้นั้นช่างเป็นสิ่งธรรมดา และเขาจะแสดงความหงุดหงิดออกมาเสมอเมื่อคนธรรมดาไม่สามารถคิด หรือเข้าใจได้
" ว้าว --- " คริสตินพยายามจะพูดบางอย่าง ทว่าเธอทำได้แค่อ้าปากค้างเท่านั้น
เชอร์ล็อกราวจะเชิดคางขึ้นสายตายังคงมองไปข้างหน้า หากแต่เขาก็เหลือบมองปฏิกริยาของเธออยู่บ้าง
" คุณฉลาดมากจริงๆ ด้วย --- " เธอบอก
และบนใบหน้ของเขาเปื้อนรอยยิ้มเล็กๆ ขนาดเท่าจุลินทรย์ที่มองแทบไม่เห็น ทว่าก็ยังมีอยู่
" แล้วคุณสงสัยใครบ้างรึยังคะ ผู้ชายที่ชื่อสตีฟคงไม่ใช่ 231 แน่ๆ ใช่ไหม เพราะดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเหยื่อเหมือนกับฉัน " เธอกล่าว
เชอร์ล็อกเหลือบมองเธอครู่หนึ่ง ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยปากตอบ เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะการสนทนา เชอร์ล็อกล้วงมือหยิบออกมาดูก็ถึงกับบุ้ยหน้าจนดูไม่ได้ เขากดรับสายด้วยอารมณ์ำม่สุนทรีย์เท่าไรนัก
" มีอะไรไมครอฟท์ " เขาถาม น้ำเสียงฟังดูเบื่อหน่ายเกินทน
" ไม่ว่าง ไม่อยู่ ไม่ต้องมา " เชอร์ล็อกตอบรวดเดียว
ทั้งสองยังคงเดินไปตามทางเท้า อีกไม่กี่เมตรก็จะถึงที่พักของพวกเขา ระหว่างเดินผ่านรั้วบ้านหลังหนึ่ง เจ้าสุนัขก็ส่งเสียงเห่าโหวกเหวก คริสตินจึงคว้าแขนเชอร์ล็อกที่ง่วนอยู่กับกัยต่อล้อต่อเถียงผ่านสายโทรศัพท์ เธอออกเท้าวิ่งและลากแขนของเชอร์ล้อกไปด้วย เมื่อพ้นหน้าบ้านเสียงสุนัขก็หยุดลง
" จะพูดอีกนานไหมเนี่ย ฉันเบื่อจะฟังเต็มทนแล้วนะ " เขายังคงพูดสายต่อไป
" เจ้าเด็กลูวิคนั่นน่ะเหรอ ทำไมล่ะ "
" ... "
เชอร์ล็อกนิ่งงัน สองเท้าของเขาชะงักและหยุดยืนอยู่กลางทางเท้า คริสตินชลอฝีเท้าตามก่อนจะหันหลังกลับไปมองยังเชอร์ล็อก สายตาของเขานิ่งสงบ แต่กลับให้ความรู้สึกกดดันอย่างน่าประหลาด
" อ้อเหรอ --- " น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบ
" ได้สิ " หลังเขาพูดจบก็กดวางสาย ทว่าดวงตายังจ้องมองที่เธอไม่หยุดหย่อน
" เกิดอะไรขึ้นเหรอ " เธอถาม
" ไม่มีอะไร แค่หมาบ้าหลุดออกจากกรงเท่านั้น --- " เขาตอบ ทว่าแววตาอันนิ่งงันนั้นมิอาจอธิบายความหมายหรือความรู้สึกใดๆ ที่เขาเก็บซ่อนเอาไว้ได้เลย
NEXT CHAPTER
OPENING LUVIC CHARACTER
" ถ้าฆ่าแล้วไม่ผิด พวกเรา มนุษย์ทุกคน
ก็ฆ่าทุกอย่างไม่มีข้อยกเว้น "
ตอนต่อไปจะเปิดตัวคาร์แรคเตอร์ ' ลูวิค ' แล้วนะคะ อย่าลืมติดตามด้วยเน้อ ^O^
ความคิดเห็น