คุ โ ร ะ เ น โ ก ะ
黒猫
การฆ่าตัวตายครั้งที่ 8 ของแมวดำนำโชค %^&(

แ ด่ เ รื่ อ ง แ ป ล ก ป ร ะ ห ล า ด ที่ แ ส น จ ะ คุ้ น เ ค ย บ น โ ล ก ใ บ นี้ : )
ฉันเอ่ยถามไซค์ซึ่งนั่งสัปหงกอยู่ในห้องเรียน
ทั้งที่อาจารย์กำลังสองอยู่ที่หน้าชั้นเรียน
เขาก็ยังคงหลับได้อย่างไม่สนใจใยดี ฉันสะกิดเขาหลายครั้งกว่าจะยอมตื่นขึ้น
... ให้ตายสิ่
" คุโระคุงนะสิ่ ... มันพยายามฆ่าตัวตายอีกแล้วอ่ะ "
ไซค์ตอบ
คุโระคุงเป็นแมวเลี้ยงของไซค์
นั่นมันประหลาดใช่มั้ย แมวจะฆ่าตัวตายได้ยังไงกัน
แต่ฉันเห็นเขาพูดถึงเรื่องนี้มาราวๆสามเดือนได้แล้ว
มันเป็นมุขตลกที่ไม่ได้เรื่อง เชยสะบัด ... ฉันคิดว่าเขาเป็นคนแปลก ใช่
ทุกคนคิดแบบนั้น ไซค์มักจะพูดอะไรที่คนอื่นไม่เข้าใจ
มีอารมณ์ขันแบบเข้าไม่ถึง ยกตัวอย่างเช่น ' ปีเตอร์มีสมองขนาด 8BIT '
หรือไม่ก็ ' โมนาลิซ่าอาจมีปานที่ตูดก็ได้ ' อะไรทำนองนั้น...
เขามักจะนั่งเงียบๆแล้วจดบางอย่างลงในสมุดของเขา
ไม่ก็เล่น PSP วินนิ่ง หรืออะไรอย่างนั้น เกือบเหมือนผู้ชายทั่วไป
แต่ไม่สุงสิงกับใคร เนิร์ด แต่แปลกกว่าเนิร์ด
" เอาอีกละ ... แล้วมันพยายยามฆ่าตัวตายยังไงอ่ะ ? "
ฉันถาม ไซค์ขยับตัวลุกขึ้นนั่งจากการฟุบหลับของเขา
" มันขังตัวเองในถังซักผ้าเมื่อคืน แต่โชคดีที่มันเปิดเครื่องซักผ้าไม่เป็น "
พระเจ้าไซค์ แฟนตาซี !~ แมวจะฆ่าตัวตายด้วยกันซักตัวเองในถังซักผ้าเนี่ยนะ คิดได้ยังไงกัน เขามีมุขตลกเยอะเยะเกี่ยวกับแมว บางทีฉันก็สงสัยว่าเขาติดกัญชาหรือพี้อะไรมารึเปล่าถึงได้คิดอะไรเพ้อเจ้อได้เบอร์นั้น
" มันอาจจะอยากอาบน้ำก็ได้นะ "
ฉันตอบ อย่างไซค์ต้องเจออย่างฉันนี่แหละเหมาะ ~
" มิสเฮอร์ลีน ยกตัวอย่างผลงานของเชกสเปียร์ที่คุณชอบให้ผมสักเรื่องได้มั้ย "
เสียงอาจารย์ดุ๊กปักกลางกบาลฉัน ฉึก ... เลือดอาบไปถึงตาตุ่ม ...
" ...เอ่อ... "
ฉันรู้สึกร้อนวูบวาบ
มองไปที่หน้าชั้นเรียน
อาจารย์กำลังมองลอดแว่นตากรอบสี่เหลี่ยมมาด้วยสายตาคาดหวังกึ่งบีบคั้นอารมณ์
(บ่จอย) ก็ใช่ว่าฉันจะไม่เคยอ่านเลย แต่ว่าทำไมต้องมาถามฉันด้วยล่ะ
ฉันไม่ถนัดพูดอะไรทำนองนี้ต่อหน้าคนเยอะๆเสียด้วย !
" แม็คเบ็ธค่ะ "
%*&**)_(+_+$%&**( ทำไมล่ะ ทำไมต้องถามฉัน ! ไม่ ทุกคนหยุดมองมาที่ฉันได้แล้ว !!
" แล้วคุณล่ะ คุณเดนเวิร์ช "
คราวนี้อาจาร์ยดุ๊กเปลี่ยนเป้าหมายไปหาไซค์แทน
ไซค์มองไปยังหน้าชั้นเรียนด้วยตาที่ยังไม่ตื่น
เขายกมือขึ้นขยี้ตามิหนำซ้ำยังหาววอดออกมาแบบโจ่งแจ้งโคตรๆ
" เมื่อกี้คุณถามว่าอะไรนะครับ " ไซค์ถาม
โอ้ พระเจ้าไซค์ !! นายเบรฟมาก !!
" ผมบอกว่า ยกตัวอย่างผลงานของเชกสเปียร์ที่คุณชอบให้ผมสักเรื่องนึง "
อาจารย์แทบจะกัดฟันถามเลยล่ะค่ะ ฉันคิดว่านะ ...
" แม็คเบ็ธครับ "
" ทำไมถึงชอบล่ะ อธิบายซิ "
" งั้นเปลี่ยนเป็นโอเทโลก็ได้ "
" งั้นก็อธิบายมาสักเรื่อง "
" เอาเรื่องไหนดีครับ ..... ฮัดเช่ย !!! "
จู่ๆไซค์ก็จามแตกออกมาเสียงดังอลังการ
เล่นเอาฉันตกใจ ครู่หนึ่งเขาก็ยกหลังมือขึ้นถูจมูกไปมา
เขาดูไม่มีกระจิตกระใจจะตอบคำถามของอาจารย์ดุ๊กเลยสักนิด แต่ ! เธอจะทำเป็นเมินอาจารย์แบบนั้นไม่ได้นะไซค์ !!
" สักเรื่องเถอะคุณเดนเวิร์ช ... "
"
งั้นแม็คเบ็ธแล้วกัน ชอบเพราะว่าอะไรดีล่ะ
ผมไม่ได้ชอบเช็กสเปียร์เท่าไหร่ครับ
ถ้าตอบตามความจริงคือผมเฉยๆกับทุกเรื่องของเชกสเปียร์
แต่ถ้าต้องเลือกเฉพาะเชกสเปียร์ก็คงเลือกแม็คเบ็ธ แค่นั้นแหละครับ "
ไซค์ตอบ
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็มองหน้ากัน นิ่งๆ นานๆ ฉันหมายถึงอาจารย์กับไซค์ ใครกระพริบตาก่อนแพ้ ....
หลังหมดคาบเรียนฉันเดินตามหลังไซค์ไปเพราะเห็นว่าเขาลืมลูดซิปเป้ของเขา
ไซค์ถูกสั่งให้เขียนเรียงความเรื่องวรรณกรรมของเช็กสเปียร์
เขาคงจะหงุดหงิดน่าดู
" จะรีบไปไหนล่ะนั่น "
ฉันตามไปจนทันก็รูปซิปกระเป๋าปิดคืนให้กับไซค์
เขาหันมองหน้าฉันครู่หนึ่งก็กลับไปจ้องจอ PSP ของเขาต่อ
ไซค์สามารถเดินไปด้วยเล่นเกมไปด้วย ข้ามถนน กินข้าว ดูหนัง นั่งขี้
อ่านหนังสือสอบ ไปพร้อมๆกับเล่นเกมได้ เชื่อไหม ?
และเขาจะได้ยินทุกอย่างที่เป็นเรื่องสำคัญ ย้ำว่าเฉพาะเรื่องสำคัญ
ถึงแม้ว่าเขาจะใส่หูฟังตลอดเวลาก็ตาม !
" นายพูดขอบคุณเป็นมั้ยเนี่ย " ฉันว่าแถก เพราะเขาเอาแต่เล่นเกมอยู่นั่น
" เออ ขอบคุณ " ไซค์ตอบห้วนๆ
ฉันรำคาญกับพฤติกรรมแบบนี้ของเขามาก
บางทีฉันคิดว่าเขาแปลกและน่าสนใจ เขาเป็นคนหน้าตาดีพอใช้ได้เลย
จัดว่าหล่อเลยก็ยังได้ (แต่สติไม่ค่อยจะดีนึกออกมั้ย)
และเพราะความไม่ใส่ใจโลกเบอร์นี้ เขาถึงไม่มีเพื่อน ไม่มีผู้หญิง
ไม่มีอะไรสักอย่าง
ขนาดตัวฉันเองยังขอเฟดอะเวย์ออกมาจากความไม่ใยดีโลกของเขา เฮ่อ
ฉันล่ะเสียดายความหล่อของผู้ชายคนนี้เสียจริง !
ฉันหยุดเดินตามเขา
และเขาก็ยังคงเดินต่อไปโดยไม่ใส่ใจ
ดังนั้นฉันจึงแยกกับเขาตรงนั้นเพื่อจะไปขึ้นรถประจำทางกลับบ้าน
ถ้ากลับไปถึงบ้านแล้วฉันคิดว่าจะไปรื้อหนังสือของเช็กสเปียร์ดูสักหน่อย
เผื่อว่ามันจะช่วยอะไรไซค์ได้บ้าง ...
ที่จริงก็ไม่ค่อยหน้าช่วยเหลือเท่าไหร่เลยนะคนนี้
02 : 40 (ตีสองสี่สิบนาที)
Truuuuu Truuuuu .....
เสียงโทรศัพท์สั่นอยู่ข้างๆหูของฉัน
ใครมันช่างโทรมาปลุกในเวลาอย่างนี้
เมื่อคลำหาโทรศัพท์และเห็นสายที่โทรเข้ามาฉันก็ตื่นเต้นนิดหน่อย
ยอมรับเลยว่าฉันสนใจไซค์อยู่นิดๆ แบบว่าเขาน่ารักดี
แต่ก็น่ารำคาญด้วยเหมือนกันนึกออกมั้ย ฉันกดรับสาย
ถึงจะโมโหที่เห็นเวลาตีสองสี่สิบบนโทรศัพท์ก็ตาม
" ฮัลโหลเคท !! เธอตื่นอยู่รึเปล่า ! "
ไซค์ตะโกนอัดจนหูแทบแตก
กระเดือกหลุดออกมารึยังถามจริงพ่อคุณ ...
ดังนั้นฉันจึงหันไมโครโฟนจ่อปากแบบระยะประชิดหายใจเข้าลึกๆจนแน่นปอด
จากนั้น
" แล้วนายจะตะโกนทำมายยย !!! "
เขาเรียกว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง เอาให้ขี้หูผลุดกับเข้าไปในสมองเลย ดี สมน้ำหน้า
" คุโระคุงมันฆ่าตัวตายอีกแล้ว ! นี่ครั้งที่ 7 แล้วนะ !! "
ใช่
นี่ครั้งที่ 7 แล้วที่นายโทรมาปลุกฉันด้วยด้วยเรื่องแมวจะฆ่าตัวตาย ...
ถ้าจำไม่ผิดครั้งล่าสุด (ก่อนครั้งนี้) นายโทรมาตอนตี 4
และบอกว่าแมวของนายพยายามกระโดดลงจากต้นสนจูนิเปอร์ ... จูนิเปอร์บ้าบอคอแตกอะไรวะ ! กระถางบอนไซค์หลังบ้านนายเองรึเปล่า ! นี่พี้กัญชามาใช่มั้ย !!
" นายควรจะนอนได้แล้วนะ นี่มันจะตี 3 อยู่แล้ว "
ฉันต้องใช้ความใจเย็นเบอร์ไหนถึงพูดแบบนี้ได้ คิดดู
" ฉันควรทำยังไงดีเคท ! มันตายอีกแล้ว มันตายครั้งที่ 7 แล้วนะ ... เธอ ! เธอมาช่วยหน่อยได้มั้ย ฉันดูคนเดียวไม่ไหวแล้ว คืนนี้มันต้องฆ่าตัวตายครั้งที่ 8 แน่ๆ !! "
เขาตะโกนเสียงดัง
" ห๊า !? "
เดี๋ยวนะ ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด ไซค์กำลังโทรมาปลุกฉันเพื่อบอกให้ฉันไปหาเขาที่บ้านในเวลาตีสองสี่สิบนาทีใช่มั้ย ด้วยเรื่องแมวพยายามจะฆ่าตัวตาย
เท่าที่จำได้คือไซค์บอกว่าเขาอยู่บ้านคนเดียว
ดังนั้นแปลว่าถ้าฉันออกไปหาเขาก็จะมีแค่ฉันกับเขางั้นสิ่ ?
ช่างเป็นข้อเสนอที่สุ่มเสี่ยงและล่อแหลมอะไรอย่างนี้ !
" ฉันไม่รู้จะโทรหาใครแล้วนอกจากเธอ " เสียงเขาเบาลง แต่ว่าฟังแล้วรู้สึกใจเต้นแรงดีแท้
" ฉันรู้ว่ามันแปลก แต่เธอช่วยออกมาหน่อยได้มั้ย "
เอายังไงดีล่ะ
ได้ หรือ ไม่ได้ ถึงฉันจะแอบชอบไซค์อยู่หน่อยๆ
แต่ให้ออกไปหาที่บ้านตอนดึกๆนี่มันจะไม่ล่อแหลมไปหน่อยเหรอ ?
เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วฉันยังหลับสบาย
ฝันว่าหย่อนเท้าจุ่มน้ำที่ฟลอริดาอยู่เลย
แล้วตอนนี้ฉันตื่นมาเจอเรื่องอะไรเนี่ย ?
" ถนน 28 นะ บ้านเลขที่ 154 เยลโล่วกรีนปาร์ควิลเลจ ฉันจะรอฟังกริ่ง "
นั่นคือประโยคสุดท้ายก่อนที่ไซค์จะตัดสายไป แล้วทิ้งบรรยากาศหนักขนาด 1,000 ตันทับฉันจนแทบดิ้นตาย
03 : 50 (ตีสามห้าสิบนาที)
ฉันเข็นรถจักรยานไปตามถนนของหมู่บ้าน
จนกระทั่งถึงบ้านเลขที่ 154 ไม่อยากจะเชื่อตัวเองว่าฉันจะมาถึงที่นี่จนได้
บนถนนมืดสลัว มีไฟทางของหมู่บ้านอยู่เป็นบางจุด แต่ก็ยังมืดอยู่ดี
ฉันกระชับผ้าพันคอให้แน่นขึ้นอีกนิดเพื่อหลบหลีกความหนาว ก่อนที่จะกดกริ่ง
ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
ราวหนึ่งนาที ... ทุกอย่างเงียบ ฉันหนาวจะตายอยู่แล้วนะ ฉันจึงกดกริ่งอีกครั้ง ให้ตายเถอะพระเจ้าไซค์ !
" ขอโทษทีนะ "
ประตูดเปิดโพร่ง
ไซค์หอบแฮกเนื้อตัวมอมแมม หน้าของเขาเปราะฝุ่นดำๆเต็มไปหมด
และดูเหมือนว่าจะเหงื่อท่วมตัวด้วยทั้งที่อากาสหนาวขนาดนี้
" นายทำอะไรอยู่น่ะ " ฉันล่ะสงสัยจริงจัง
" จับคุโระคุงน่ะสิ่ เขามากก่อนสิ่ "
เขาพูดพลางเปิดประตูบ้านให้กับฉัน
โอ้พระเจ้าไซค์ ... หัวใจฉันเต้นแรง นี่มันเหมือนกับชอยส์ในเกมระหว่าง Yes
กับ No เลยไม่ใช่เหรอเนี่ย ไซค์ยังคงหอบแฮกอยู่ที่ประตู
เขาสวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงนอนขายาว เป็นภาพที่ไม่คุ้นตาเท่าไหร่
ปกติเขามักจะสวมเสื้อมีฮูดทับเสื้อยืดเสมอ ฉันเดินผ่านเขาเข้าไปในบ้าน
ข้างในนี้อุ่นกว่ามาก
" ฉันยังจับคุโระคุงไม่ได้เลย "
เขาพูดจากนั้นก็ปิดประตู
แล้วเดินจ้ำอ้าวโดยไม่สนใจว่าฉันยังยืนอยู่ตรงนี้
จะตอนไหนเมื่อไหร่นายก็เป็นแบบนี้เสมอเลยไซค์
นายไม่เคยสนใจเลยว่าฉันยืนอยู่ตรงนี้ ...
ฉันเดินตามหลังเขาเข้าไปในห้องใหญ่ของบ้าน
และ โอ้พระเจ้าไซค์ !! เขากำลังมุดหัวเข้าไปในเตาผิง
และดูเหมือนพยายามจะปีนเข้าไปในปล่องไฟ ! ฟืนในเตาผิงยังมีควันระอุ
ฉันเดาว่ามันถูกสาดด้วยน้ำเพราะมีประแป๋งน้ำกลิ้งอยู่บนพื้นห้อง
และพรมลายเถามะกอกก็ชุ่มไปด้วยน้ำ
" นายทำบ้าอะไรน่ะไซค์ ! "
ฉันตะโกนลั่น
จ้ำไปลากเขาออกมาจากปล่องไฟ ฉันคิดว่าเขาควรต้องไปหาหมอ บำบัดเลิกยา
หรือไม่ก็ เขาอาจเป็นโรคประสาทก็ได้ หรือฉันควรโทรแจ้งตำรวจดี
ถ้าเขาเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาแล้วฉันจะทำยังไง
"
เธอทำอะไรเนี่ย ! " เสียงไซค์ตะโกนอื้ออึงอยู่ในปล่องไฟ
ในขณะเดียวกันฉันก็พยายามดึงเสื้อของเขาเพื่อลากเขากลับออกมาจากปล่องไฟนั้น
ที่แขนของเขามีรอยถลอก รอยไหม้ ... ที่เท้าของเขาก็ด้วย
ตอนแรกฉันไม่ทันสังเกตุเห็น แต่ตอนนี้ชัดเจนเต็มสองตา
ป้อก !
" โอ๊ย ! .... อะไรของเธอเนี่ย ! "
ไซค์ตวาดลั่นเพราะฉันลากเขาออกมา
และบังเอิญไปหน่อยที่หัวเขาโขกกับขอบของช่องเตาผิง อะไรจะพอดีปานนั้น ...
เขายืนเกาหัวปอยๆมองมายังฉัน หน้าเขาก็ดูไม่เหมือนคนเมาเท่าไหร่เลย
" แล้วนายทำอะไร มันอันตรายนะรู้มั้ย ! "
" ก็บอกไปแล้วไงว่าตามจับคุโระคุงอยู่ เธอได้ฟังบ้างมั้ยเนี่ย "
เขาว่า
เอาอีกแล้วคุโระคุงอีกแล้ว บ้าบอสิ้นดี ! แมวที่ใหนมันจะฆ่าตัวตายกันล่ะ
แล้วมันจะเข้าไปอยู่ในฟล่องไฟทำไม !
ถึงจะเป็นเธอแต่นี่มันก็แปลกเกินไปแล้วนะ !
" นายไม่ได้เสพอะไรใช่มั้ย ? "
ฉันตัดสินใจถามไปตรงๆ
" ...... "
เขาเงียบไป สายตาที่มองมานิ่งงันจนฉันหนาวาบ ...และนี่คือเดธแอร์ ...
หลังจากที่เขาไม่ตอบอะไรฉันสักอย่าง
เขาก็หันกลับไปยังปล่องไฟและมุดหัวเข้าไปในเตาผิงอีกครั้ง พระเจ้าไซค์
ฉันควรทำยังไงดี ไซค์ไม่เคยมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นมาก่อน
ไม่ว่าเขาจะเมินโลกยังไงแต่สายตาเมื่อกี้มันเหมือนโดนมีดเก่าคร่ำสนิมเขรอะเสียบทะลุหัวใจฉันยังไงอย่างงั้นเลย
นายกำลังคิดอะไรอยู่ไซค์ !
ฉันไม่กล้าเข้าไปจับตัวเขาอีกแล้ว ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น เกิดอะไรขึ้นกับไซค์ เกิดอะไรขึ้นกับฉัน
เสียงกอบแกบของไม้ฟืนแตกอยู่ในเตาผิง
ไซค์ยืนเหยีบอยู่บนไม้ร้อนระอุ ฉันกลัว ไม่รู้ว่ากลัวอะไรแต่กลัวมาก ...
นี่มันไม่เหมือนกับที่ฉันคิดเอาไว้เลยสักนิด ในขณะที่จ้องมอง
ฉันได้ยินเสียง ...
เสียงแมว !
อีกครู่หนึ่งเขาขยับตัวก้มหัวออกมาจากปล่องไฟของเตาผิง
ในอ้อมแขนอุ้มแมวดำตัวใหญ่ท่าทางมอมแมม ฉันตะลึงงัน
อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้พูดโกหกเรื่องแมวในเตาผิง
แต่ฉันสงสัยว่ามันฆ่าตัวตายจริงเหรอ !
" นายจะบอกว่ามัน ... "
" ช่างมันเถอะ "
เขาพูดห้วนๆอีกแล้ว
แต่ทำไมคราวนี้ฉันรู้สึกหนักเหมือนแบกอะไรสักอย่าง มันหนักมากๆ
ฉันมองตามเขาที่เดินกระเผลกไปนั่งยังโซฟา
แมวดำตัวอ้วนนอนนิ่งอยู่ในอ้อมแขนของเขา มันส่งเสียงครางงึมอยู่ในคอ
ที่เท้าของไซค์มีเลือดไหลซิบ ไม่แน่ใจว่าถูกไม้ตำหรือว่าเป็นแผลไฟลวก ...
" เกิดอะไรขึ้น " ฉันถาม... มองไปที่เขา...
" นี่ครั้งที่ 8 แล้ว... " ไซค์กล่าว
ฉันมองไปที่เขา พยายามหาช่องว่างในสมองของตัวเอง
ขยายมันออกเพื่อที่จะรับข้อมูลของไซค์ บางทีคนที่มีสมอง 8BIT
อาจไม่ใช่ปีเตอร์ แต่เป็นฉันเอง
" เธอหมายถึงที่คุโระคุงฆ่าตัวตายเหรอ "
ฉันต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ....
" ฉันไม่ได้เมาหรืออะไรทั้งนั้น... ถ้าเธอไม่เข้าใจก็ไม่แปลกหรอก เพราะฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน "
เขาพูด ... มันเริ่มจะไม่ตลกแล้ว
ฉันแยกไม่ออกแล้วว่าเขากำลังอำด้วยมุกแมวๆเหมือนทุกทีหรือว่า...
ฉันมองไม่เห็นหน้าของเขา เพราะเขาก้มหน้าลงและเอาแต่ลูบหัวคุโระคุง ...
หยุดเถอะไซค์ ได้โปรดเลิกเล่นตลกเสียที...
" ... คุโระคุง.. หยุดเถอะ อย่าทำแบบนี้เลย "
เสียงของไซค์เบามากๆ เบา... จนเหมือนเขากำลังร้องไห้...
ฉันยืนมองเขาจากตรงนี้ ผู้ชายคนนั้นกำลังกอดแมวสีดำและเริ่มร้องไห้ข้างใน
ไม่มีน้ำตา แต่เขาทำให้ฉันรู้สึกว่าเขากำลังจะตาย...
ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ ย่อตัวนั่งลงทีพื้นตรงหน้าของเขา สีหน้าไซค์ดูไม่ดีเลย
มันบีบหัวใจฉันเหลือเกิน ฉันไม่รู้ว่าเขาเศร้าด้วยเรื่องอะไร
ฉันวางมือลงบนเข่าของเขาเบาๆโดยที่ไม่พูดอะไร
ตอนนี้เหมือนมีก้อนหินขนาดใหญ่มากติดอยู่ข้างในคอของฉัน
มันเจ็บจนฉันพูดอะไรไม่ออก
" มันเกิดอะไรขึ้นไซค์ ... ฉัน ... ฉันไม่เข้าใจ เธอบอกว่าคุโระคุงพยายามฆ่าตัวตาย แต่ว่า... "
แต่ว่าแมวจะฆ่าตัวตายได้ยังไง มันเป็นสัตว์นะ ...
" เธอเชื่อเรื่องคำสาปมั้ย.... "
ไซค์กล่าว...
05 : 00 (ตีห้า)
ฉันนั่งอยู่บนพื้นห้อง ที่ตักมีเท้าของของไซค์วางอยู่
มันถูกพันด้วยผ้าพันแผลสีขาวสะอาด ... เขายังคงนั่งนิ่งอยู่บนโซฟา
กอดคุโระคุงเอาไว้ ... ไซค์บอกกับฉันว่า
เขาได้รับคุโระคุงมาจากนักบวชชาวญี่ปุ่นผู้หนึ่งสมัยที่เขายังเป็นเด็ก
มันเป็นแมวสีดำนำโชค
นักบวชบอกกับเขาว่าคุโระคุงจะนำโชคมาให้เมื่อหมดวาระในชีวิตทั้ง 9
นั่นหมายความว่าคุโระคุงจะสามารถตายได้ 9 ครั้ง และเมื่อครั้งที่ 9
มันจะตายอย่างถาวร
ดังนั้นการตายครั้งที่ 8 ของคุโระคุง จะเป็นการฟื้นขึ้นมาจากความตายครั้งสุดท้ายของมัน
" แต่ ... ฉันไม่เข้าใจ แล้วทำไมมันต้องพยายามฆ่าตัวตายด้วยล่ะ ... "
ฉันถาม เรื่องเล่าของไซค์ทำให้ฉันสับสนเหมือนถูกทุบหัวด้วยไม้เบสบอล
ทุกอย่างปนกันจนฉันแยกไม่ออกว่าฉันเป็นบ้า หรือเขาพูดจริง
เรื่องเล่าของเขามันฟังดูเหมือนตำนานกรวงๆจากเว็บครีพปี้พาสต้า ...
ไร้สาระเชื่อถือไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้น ท่าทีที่เขาแสดงออกมา
มันทำให้ฉันรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริง ... ฉันกำลังเป็นบ้าเหมือนกับไซค์
...
ฉันเป็นบ้า อย่างไม่ต้องสงสัยเลย ...
" เพราะมันเป็นแมวนำโชค "
เขาตอบ
" หมายความว่ายังไง "
" หลวงพ่อโคมุระบอกว่า มันจะนำโชคมาให้เมื่อหมดอายุไข
มันเป็นแมวนำโชคที่อายุยืนมากเลยรู้มั้ย มันไม่เคยป่วยเลยตลอด 15
ปีที่ผ่านมา ... ซึ่งไม่มีแมวที่ไหนจะอายุยืนยาวขนาดนี้หรอก
มันเป็นแมวหนุ่มมา 15 ปีเต็ม แต่พักหลังๆมานี่มันเริ่มพยายามที่จะฆ่าตัวตาย
.... ใช่ เพื่อจะนำโชคมาให้ฉัน "
ไซค์พูดและขยับตัวลุกขึ้นจากโซฟา
เขาเดินกระเผลกออกจากห้องโดยที่ยังอุ้มคุโระคุงเอาไว้
ฉันจึงลุกขึ้นเดินตามเขาไป ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงเดินตามเขา
ไม่ได้มีสัญญานอะไรบอก เขาไม่ได้เอ่ยปากเรียกฉันด้วยซ้ำไป
เมื่อเดินตามไซค์ออกจากห้องนั่งเล่นแล้ว
เขาเดินต่อไปตามทางแคบๆและเลี้ยวตรงหัวมุมติดกับห้องน้ำ
ฉันเห็นเขาหยุดยืนมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง ฉันจึงเดินตามเขาไป
ภายนอกหน้าต่างนั้น ฉันจับจ้อง... ต้นสนจูนิเปอร์สูงราวๆ 10 เมตรตั้งตระหง่านอยู่ในสวนรกชัฎของหมูบ้านเยลโล่วกรีนปาร์ค
นั่นทำให้ฉันนึกถึงคืนหนึ่งที่เขาโทรมาบอกกับฉันว่าคุโระคุงพยายามฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงจากสนจูนิเปอร์
...มันมีอยู่จริงๆ ...
ฉันไม่รู้อีกต่อไปแล้วว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนโกหก หรือ ... อะไรเป็นมุกตลก ...
" แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ... ถ้าอย่างนั้น โชคอะไรที่มันจะนำมาให้ล่ะ ในเมื่อนายก็ต้องมาเจ็บตัวอย่างนี้ "
ฉันถาม มองออกไปยังสนจูนิเปอร์ที่นิ่งสงบ
พยายามจินตนาการภาพที่คุโระคุงทะยานตัวลงมาจากยอดไม้ ดิ่งลงสู่พื้นดิน...
ฟ้าเริ่มมีสีชมพูรางๆ พระอาทิตย์กำลังจะลุกขึ้นจากเตียงนอน
" ... เธอไงล่ะ "
ฉันหันกลับไปมองที่เขา ... ไซค์หันกลับมามองที่ฉันเช่นกัน...
คุโระคุงฆ่าตัวตายครั้งที่ 8 ด้วยการโยนตัวเองเข้าไปในปล่องไฟ
ฉันยืนอยู่ตรงหน้าของผู้ชายที่บ้าที่สุดในโลก ณ
ตอนนี้เป็นเวลาตีห้าสิบเก้านาที คุโระคุงสิ้นใจ...
มันเพียงแค่หลับไปในอ้อมแขนของเขาและไม่ตื่นขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 9 หรือ 10
ไซค์บอกกับฉันว่ามันพยายามกลั้นใจตาย
เขารู้ดีตลอดเวลาที่เขาอุ้มมันอยู่ในอ้อมแขนมันพยายามฆ่าตัวตายครั้งที่ 9
ดังนั้นเขาจึงพูดว่า ' คุโระคุง.. หยุดเถอะ อย่าทำแบบนี้เลย '
เราสองคนออกมายังสวนของหมู่บ้านเยลโล่วกรีนปาร์ค เวลาตีห้าสามสิบเก้านาที คุโระคุงถูกผืนดินโอบอุ้มเอาไว้ เราช่วยกันฝังมันที่ใต้ต้นสนจูนิเปอร์ ...
แสงสีชมพูทาทับท้องฟ้า อากาสหนาวเหน็บจนร่างกายของเราเจ็บปวด
ฉันแตะไหล่ของไซค์เบาๆ เพียงแค่อยากให้เขารู้ว่าฉันยังยืนอยู่ตรงนี้
ใบหน้าของเขาปราศจากน้ำตา แต่ฉันรู้ดีว่ามันไหลเป็นทางอยู่ข้างใน
ตีห้าห้าสิบเก้านาที ทุกอย่างเงียบงัน
โลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่และว่างเปล่าเหลือเกิน
เราเป็นเพียงเม็ดฝุ่นในลานกว้างไร้ที่สิ้นสุด... แสงรำไรสาดส่องทั่วพื้นที่
ดวงอาทิตย์ส่องแสงอยู่ภายใต้หมอกเมฆ
ทุกอย่างกลายเป็นสีฟ้านวนอบอวนและอมชมพู ไซค์จับแขนของฉันเอาไว้เบาๆ
เรายืนมองหน้ากันโดยไม่พูดจา
เขาใช้สายตาเศร้าๆคู่นั้นตั้งคำถามบางอย่างกับฉัน และฉันตอบว่า ได้
โดยไม่ปริปากใดๆ... เราปล่อยให้ร่างกายของเราได้พูดคุยกันภายใต้ความเงียบ
ความเศร้าโศก และเหน็บหนาว ... ไออุ่นของเขาขยับเข้ามาใกล้ๆ
ริมฝีปากอบอุ่นแนบชิดกัน ฉันล่องลอยไปไกลแสนไกล
คุโระคุง ...
เธอคือแมวนำโชคอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่เธอนำโชคมาให้ฉันหรือไซค์
ข้อนี้ไม่มีใครรู้ได้เลย
คุโระคุง ...
จากนี้ไปฉันจะมาเยี่ยมเธอที่นี่ บ่อยเท่าที่ฉันจะทำได้เลยนะ ...
จบ-
แด่ ... แมวนำโชคผู้สละชีวิตเพื่อความรัก : )
นามปากกา แมวจร .
______________________________________________________________________________________