คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : I : ทฤษฎีพระจันทร์ยิ้ม
I
ทฤษฎีพระจันทร์ยิ้ม :)
รู้ไหมว่าโลกของเรานั้นอาจมีดวงจันทร์เป็นบริวารถึงเจ็ดดวง
ซึ่งดวงจันทร์ที่สามารถมองเห็นได้มีเพียงดวงเดียว เราจึงคิดว่าโลกมีดวงจันทร์แค่ดวงเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีทฤษฎีที่ถกเถียงกันเกี่ยวกับดวงจันทร์ที่เป็นบริวารของโลก เพราะยังมีดาวเคราะห์น้อยที่ลอยตัวอยู่ใกล้ ๆ กับโลกของเรา และโคจรตามโลกไปรอบดวงอาทิตย์
พระจันทร์อาจจะไม่ได้มีดวงเดียวอย่างที่ตาเราเห็นก็ได้
“เอสเปรสโซ่ร้อนได้แล้วครับ” เสียงพนักงานเสิร์ฟพูดขึ้น เมื่อผมเงยหน้ามองเขาก็วางแก้วกาแฟเอสเปรสโซ่ที่หอมกรุ่นลงบนโต๊ะ พนักงานคนนั้นยิ้มแย้มแจ่มใสและพูดด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อม
“ขอบคุณครับ” ผมนั่งอยู่ในร้านกาแฟแห่งหนึ่งใกล้กับมหาวิทยาลัยของผม บนโต๊ะตรงหน้าละลานตาไปด้วยกองเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีต่าง ๆ ของระบบสุริยะและดาราศาสตร์ หลังจากนี้อีกหนึ่งสัปดาห์ผมจะต้องสรุปรายงานเหล่านี้ให้เสร็จตรงตามเวลาที่กำหนด ข้อมูลต่าง ๆ ที่ผมค้นหามานั้นมีทั้งที่เชื่อถือได้และเชื่อถือไม่ได้ บางทฤษฎีก็เหมือนจะถูกเขียนขึ้นมาลอย ๆ จากผู้คนมากมายที่ใช้อินเทอร์เน็ต และมันก็เป็นเรื่องยากมากในการที่จะแยกแยะว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจริง หรือเรื่องไหนเป็นเรื่องโกหก ในขณะที่ผมยกแก้วกาแฟร้อนขึ้นดื่ม ตาของผมก็อ่านรายละเอียดของเอกสารตรงหน้าไปด้วย เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงที่ผมนั่งจมอยู่กับตัวหนังสือจนกระทั่งตาของผมล้าไปหมด ในหัวตีกันว่าทฤษฎีนี้เชื่อถือได้หรือไม่ ในที่สุดผมก็วางกระดาษในมือลง
“พี่ครับ ผมขออู่หลงแก้วนึงครับ” ผมหันไปบอกกับพนักงานเสิร์ฟคนเดิม หลังจากนั้นผมก็มองออกไปภายนอกร้านกาแฟผ่านกระจกหน้าร้านเพื่อเป็นการพักสายตา ข้างนอกมีแดดอ่อน ๆ และยังมีชุดโต๊ะของร้านขายเครปเย็นตั้งอยู่ไม่ห่างจากร้านกาแฟมากนัก ผู้คนที่นั่งอยู่บนโต๊ะโดยมากเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเดียวกันแทบทั้งนั้น ในขณะที่มองออกไปพลันสายตาของผมก็สะดุดที่หญิงสาวคนหนึ่ง เธอกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารของร้านขายเครปเย็นเพียงลำพัง
หัวใจของผมเต้นเร็วขึ้นเพราะดวงตาของผมสามารถจดจำเธอได้ แม้ในแรกเห็นผมยังไม่แน่ใจว่าใช่เธอหรือเปล่า แต่เมื่อใช้เวลามองเธอไม่ถึงครึ่งนาทีผมก็จำได้ เธอยังคงสวยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ถึงแม้ว่าผมจะยาวขึ้นกว่าเดิมแล้ว แต่ใบหน้าซุกซนนั้นก็ยังคงเหมือนเดิม
น่าแปลก … เพียงแค่ผมมองภาพเธอที่อยู่ไกล ๆ เราไม่ได้พูดคุยกันเลยด้วยซ้ำ จากตรงนี้มีทั้งกระจกของร้านกาแฟ และระยะห่างกั้นเราเอาไว้ แต่ภาพไกล ๆ ของเธอราวกับกำลังบอกเล่าความทรงจำในอดีตระหว่างเรา ช่วงเวลายาวนานสั่งสมเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เคยใช้ร่วมกัน ผมจดจำของขวัญที่เธอซื้อให้ผมได้ทุกชิ้น และจำได้ว่าเธอเกลียดถั่วงอกแค่ไหน เรื่องราวไร้สาระต่าง ๆ นานา เหมือนฉายซ้ำในความทรงจำ และในตอนนั้นเองผมก็จำได้ว่าเธอเคยเล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ผมฟัง มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระจันทร์
บางทีทฤษฎีในนิทานของเธออาจจะถูกต้องที่สุดก็ได้
เธอเล่าว่าครั้งหนึ่งโลกเคยมีพระจันทร์สองดวง ดวงหนึ่งเป็นผู้ชายอีกดวงหนึ่งเป็นผู้หญิง ทั้งสองรักกันมาก แต่แล้ววันหนึ่งพระจันทร์ผู้หญิงก็หนีตามพระอาทิตย์ไปเพราะเห็นว่าเขาส่องแสงได้เจิดจ้ากว่า หลังจากนั้นพระจันทร์ผู้ชายระเบิดตัวเองกลายเป็นดาวเพื่อออกตามหาพระจันทร์ผู้หญิง
ในตอนจบของเรื่องนี้ถึงแม้ว่าพระจันทร์ผู้หญิงจะกลับมาหาพระจันทร์ผู้ชาย ทว่า… หาเท่าไหร่ก็หากันไม่พบ และเหมือนทั้งคู่ถูกฟ้าสาปเอาไว้ เพราะในคืนใดที่เรามองเห็นดวงดาวเต็มฟ้า เราก็จะไม่สามารถมองเห็นดวงจันทร์ได้ และหากในคืนใดเรามองเห็นดวงจันทร์สดใสโดดเด่น เรากลับไม่เห็นดาวอยู่ใกล้ ๆ เลย มันก็เหมือนกับว่าทั้งสองไม่อาจพบกันชั่วนิรันดร์
มันเป็นนิทานที่เศร้า...เรื่องราวนี้ไม่ได้ทำให้ผมร้องไห้เหมือนกับตอนที่ดูหนังดราม่าหนัก ๆ แต่มันเป็นความเศร้าที่หน่วงตึงอยู่ภายในใจ
ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และเปิดเฟซบุ๊คของเธอ นานมากแล้วที่เราไม่ได้คุยกันทั้งทางตัวอักษรหรือจะเป็นการคุยกันตรง ๆ ในวันนั้นที่เราเลิกรากันไป เราทั้งคู่ต่างก็เศร้า แต่ผมคิดว่าในตอนนี้เราอาจจะสามารถคุยกันได้
Natee’
ไม่สูงขึ้นเลยนะ มากินคนเดียวหรอ
ผมส่งข้อความทักทายไปในเฟซบุ๊คของเธอ จากตรงนี้ผมมองเห็นเธอกำลังหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา ในใจผมลุ้นว่าเธอจะตอบข้อความของผมกลับมาหรือเปล่า เธอถือมันเอาไว้ในมือ ดูท่าทางเธอคงประหลาดใจจากการทักทายครั้งนี้
Bambam’
รู้ได้ไงว่ากินอยู่
ข้อความของเธอถูกส่งกลับมา ผมรู้สึกโล่งใจที่อย่างน้อย ๆ เธอก็ตอบข้อความของผม ถึงแม้ว่าเธอจะมีสีหน้าที่แปลกใจมากก็ตามที
Natee’
มองมาในร้านกาแฟสิ
หลังจากผมส่งข้อความออกไป เธอก็เงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์และมองมายังร้านกาแฟที่ผมนั่งอยู่ เธอกวาดสายตาอยู่ครู่หนึ่งก็หาผมจนพบ ผมยกโทรศัพท์ขึ้นโบกเพื่อเป็นสัญญาณให้เธอเห็นว่าผมนั่งอยู่ตรงนี้และกำลังคุยกับเธออยู่ เราสบตากันจากนั้นเธอก็ส่งยิ้มมา
Bambam’
สบายดีมั้ย
Natee’
ก็ดีนะ แล้วแบมล่ะ มานั่งทำไรคนเดียว
Bambam’
มารอเพื่อนอะ แล้วทำไรอยู่มาคนเดียวเหรอ
Natee’
คนเดียวสิ มานั่งทำรายงานอะ
Bambam’
อ้อ ^^
ผมเงยหน้าขึ้นมองเธอทุกครั้งหลังจากที่พิมพ์ข้อความและส่งออกไป มันเหมือนกับว่าเรานั่งคุยกันจริง ๆ และมองหน้ากันในระยะที่ไกล ในเวลาที่มองเธอจากตรงนี้ ผมก็นึกถึงเรื่องพระจันทร์สองดวงขึ้นมา บางทีเธอกับผมอาจจะเหมือนกับพระจันทร์สองดวงนั้นก็ได้ เพราะเราคงจะไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิม เหมือนกับพระจันทร์ทั้งสองดวง
Natee’
จำนิทานที่เคยเล่าให้เราฟังได้มั้ย
Bambam’
เรื่องไรอะ
Natee’
ที่มีพระจันทร์สองดวงไง
Bambam’
อ๋อจำได้
Natee’
ตอนจบพระจันทร์สองดวงก็ไม่ได้เจอกันใช่มั้ย เพราะกลายเป็นดาวไปแล้ว
Bambam’
อืม
Natee’
จริง ๆ แล้วก็เจอนะ
Bambam’
?
Natee’
รู้มั้ยว่าถ้าพระจันทร์ได้เจอกับดาวแล้วจะเป็นยังไง ?
Bambam’
เป็นไงอะ
ผมเงยหน้าขึ้นมองไปที่เธอ และเธอก็มองมาที่ผมเช่นกัน ราวกับว่าเธอกำลังรอคอยคำตอบของผมอยู่ ผมกดเปิดซาฟารีในโทรศัพท์เพื่อค้นหาบางอย่างมาใช้เป็นคำตอบ
Natee’
กำลังพิมพ์...
Natee’ (ได้ทำการส่งรูปภาพ)
Natee’ พระจันทร์จะยิ้ม : )
จากตรงนี้ผมมองเห็นรอยยิ้มของเธอไกล ๆ รอยยิ้มของเธอยังคงสดใสเหมือนในวันแรกที่เราพบกัน ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถพูดคุยกันหรือแสดงความรักต่อกันได้เหมือนเดิม แต่นาน ๆ ครั้ง การได้โคจรมาพบกัน เราก็อาจจะเพียงแค่มองดูกันอยู่ห่าง ๆ ทักทายกันเบา ๆ และยิ้มให้กันเหมือนกับพระจันทร์ก็ได้
รอยยิ้มของพระจันทร์ในภาพไม่ได้ดูมีความสุขมากมายนัก มันออกจะดูอมเศร้าไปสักเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเป็นรอยยิ้มที่สวยงาม
เธอเงยหน้าขึ้นมองมายังผม รอยยิ้มของเธอดูสดใสและในตอนนั้นเธอก็ก้มลงพิมพ์อะไรบางอย่างในโทรศัพท์ของเธอ ผมจึงละสายตาจากเธอไปยังหน้าจอโทรศัพท์ของผม และคราวนี้ผมกลับเป็นฝ่ายรอคอยคำตอบของเธอบ้าง ในหัวใจรู้สึกชุ่มชื้น และสายตาก็จับจ้องไปยังช่องสนทนาของเฟซบุ๊ค
Bambam’
กำลังพิมพ์...
แด่่
พระจันทร์ที่โคจรกลับมาด้วยความบังเอิญ
- แ ม ว จ ร
ความคิดเห็น