ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คอร์สเรียนวิทยายุทธในยุทธภพ

    ลำดับตอนที่ #5 : ย้ายถิ่นฐานทัวร์บ้านเก่า

    • อัปเดตล่าสุด 18 มิ.ย. 63


     

    หลังจากที่พวกเขากลับมาจากการเอาสมุนไพรไปขายและนั่งดื่มชาสักพัก ชงหยวนซือจุนที่พึ่งกลับจากการประชุมก็เรียกลูกศิษย์ทั้งสองไปคุยเรื่องบางอย่างทันที

    "ซือจุนท่านเรียกข้าสองมาคุยอะไรหรือขอรับ" หลัวหลี่เฟิ่งเป็นคนเปิดปากถามก่อน

    "นั่งก่อนสิ" ผู้เป็นอาจารย์พูดเป็นเชิงอนุญาต ผู้เป็นศิษย์ทั้งสองจึงนั่งตามที่ผู้เป็นอาจารย์บอก "เรื่องนี้อาจจะกะทันหันไปบ้างแต่เจ้าทั้งสองคนต้องไปอยู่ที่แคว้นช่างลี่" เมื่อชงหยวนกล่าวศิษย์ทั้งสองอึ้งไปสักพัก

    "ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าเพราะอันใด" ครั้งนี้เป็นหนิงเฟิ่งที่ถาม

    "ช่วงนี้ข้ายุ่งเกี่ยวกับงานที่แคว้นช่างลี่น่ะ ข้าไม่อยากให้พวกเจ้าอยู่ที่นี่สองคนโดยไม่มีข้า" ชงหยวนตอบ

    "ท่านเห็นข้าเป็นเด็ก" หลัวหลี่เฟิ่งขมวดคิ้ว

    "อายุอานามข้ามากกว่าเจ้าตั้งเยอะ" ผู้ที่เป็นอาจารย์หลี่ตาใส่ศิษย์ "เจ้าน่ะยังเป็นเด็กกันอยู่"

    "แล้วเราต้องไปอยู่ที่ไหนหรือขอรับ" คนขี้สงสัยถามต่อ "โรงเตี๊ยมหรือขอรับ"

    "สำนักหวงหลงหรือขอรับ" ครั้งนี้หลัวหนิงเฟิ่งเป็นคนถาม

    "หยุดความคิดพวกเจ้าเดี๋ยวนี้โรงเตี๊ยมไม่เท่าไรแต่สำนักหวงหลงอย่างมากก็ให้เจ้าตามข้าไปทำงานเท่านั้น" เพราะถ้าขืนไปพักที่นั่นล่ะก่อนเขาไม่อยากจะคิดสภาพของเด็กสองคนอยู่ท่ามกลางลูกเสือลูกจระเข้เลยสักนิด

    "เหตุใดถึงพักที่นั่นไม่ได้หรือขอรับแล้วต้องพักที่ไหน" หลี่เฟิ่งถาม

    "ข้าไม่อยากให้เจ้าพักที่นั่นก็คือไม่ ไม่มีเหตุผลอันใดทั้งนั้น" ชงหยวนพูดด้วยเสียงเรียบ "ส่วนเรื่องที่พักก็ที่ตระกูลหลัวไง" พอจบประโยคก็ลอบมองสังเกตสีหน้าของหนิงเฟิ่ง

    "งั้นก็ดีสิ จริงไหมหนิงเฟิ่ง" เมื่อหลี่เฟิ่งสังเกตว่าสีหน้าของคนน้องไม่ดีเท่าไรจึงพูดด้วยน้ำเสียงสดใสและใช้มือตีหลังอีกฝ่ายคล้ายเป็นการปลอบใจ

    "อืม" หนิงเฟิ่งหันไปยิ้มให้อีกคนแล้วหันไปอาจารย์ถามว่า "ตอนนี้จวนตระกูลหลัวไม่ได้พังไปแล้วหรือขอรับ"

    "ข้าให้คนดูแลไว้ตลอดเจ้าอย่าห่วงเลย" ชงหยวนตอบ

    "แล้วไปวันใดหรือขอรับ"

    "พรุ่งนี้"

    "ห๊ะ! เหตุใดจึงเร็วปานนั้นล่ะขอรับ" หลี่เฟิ่งทำตาโต

    "เจ้าจะถามให้มากความไปไย ไปเก็บขอซะเราต้องไปในยามเหมา (05.00-06.59) " พูดเสร็จผู้เป็นอาจารย์ก็ลุกหนีทันที

    "..." เมื่อนั่งเงียบกันอยู่นานทั้งสองคนจึงตัดสินใจไปเก็บของทันทีเมื่อหลี่เฟิ่งเก็บเสร็จอย่างรวดเร็วเพราะแทบจะไม่มีของเลยไม่มีอะไรทำก็ไปช่วยหนิงเฟิ่งเก็บของแทน

    เมื่อใกล้ถึงเวลาเดินทางหลัวหนิงเฟิ่งจึงเดินมาปลุกหลัวหลี่เฟิ่งเพราะว่าถ้าไม่ปลุกอีกคนไม่มีทางลุกเองเป็นแน่ เมื่อปลุกเสร็จหลี่เฟิ่งจึงลุกขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำเหมือนทุกเช้าตามปกติ พอเสร็จแล้วหลี่เฟิ่งจึงเดินไปหาอาจารย์ของเขา

    "จริงด้วย ข้าลืมถามเจ้าว่าเจ้าขี่ม้าเป็นหรือเปล่า" ชงหยวนหันมาถาม

    "ข้าขี่ได้หมดนั่นแหละ" หลี่เฟิ่งตอบ

    "หึ ข้าไม่เชื่อหรอก" หลัวหนิงเฟิ่งที่พึ่งเดินตามมาพูดขึ้น

    "เอ๊ะ งั้นเจ้ากับข้ามาแข่งกันดีหรือไม่"

    "หยุดๆ พวกเจ้านี่ทำไมถึงชอบทะเลาะกัน" เมื่อชงหยวนห้ามปรามทั้งสองคนจึงเดินไปที่ม้าที่อาจารย์หามาให้และพยายามทำความใจกับพวกมันสักพักจึงเริ่มออกเดินทาง

    "กี่วันถึงจะถึงหรือขอรับ" หลี่เฟิ่งถามชงหยวน

    "ไม่ถึงวันเพราะแคว้นนี้ใกล้กับแคว้นช่างลี่น่าจะถึงประมาณยามซวี (19.00-20.59) " หลัวหลี่เฟิ่งพยักหน้าเข้าใจ

    .

    .

    .

    ตอนนี้อาจารย์และลูกศิษย์ทั้งสองมาถึงที่แคว้นช่างลี่ในยามซวีตามที่ชงหยวนได้คาดไว้ พวกเขาใช้เวลาอีก1ก้านธูปเดินทางไปที่เมืองซูเม่ยต่อเพราะจวนตระกูลหลัวอยู่ที่นั่น เมื่อถึงหน้าจวนตระกูลหลัวสองพี่น้องก็ได้แต่อ้าปากค้างเพราะสภาพด้านนอกจวนเหมือนกับจวนผีสิงยังไงยังงั้น

    "ไหนท่านบอกว่าให้คนดูแลไว้ตลอด" หลัวหลี่เฟิ่งหันไปถามชงหยวน

    "เข้าไปด้านในกันก่อนเถิด" ผู้เป็นอาจารย์กระโดดลงจากอานม้าแล้วเดินไปที่หน้าประตูจวน "อาหลี่มานี่ที" หลี่เฟิ่งเดินไปหาคนเรียกอย่างไม่อิดออด "ยื่นมือมา" ชงหยวนจับมือหลี่เฟิ่งไว้แล้วใช้เข็มทิ่มไปที่นิ้วอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

    "โอ้ย! ฮือออซือจุนท่านบอกข้าดีก็ได้" หลี่เฟิ่งหลังจากโดนเข็มทิ่มก็สะบัดมือออกทำท่าเบะปากอย่างน่าเอ็นดู

    "เอานิ้วเจ้าไปแตะที่ยันต์นั่น" ชงหยวนที่ไม่ฟังอีกคนงอแงดันอีกฝ่ายไปหน้าประตูและหลี่เฟิ่งก็ทำตามอย่างขัดไม่ได้

    "ที่หลังใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือเอานะ ใช้ระบบตรวจดีเอ็นเอมันเจ็บ" หลี่เฟิ่งบ่น

    "พูดอะไรเลอะเลือน" หนิงเฟิ่งที่เงียบมานานก็พูดขึ้น

    กึก แอ๊ดดดดดดด เสียงประตูจวนเปิดหลังจากที่หลี่เฟิ่งใช้นิ้วแตะไปที่ยัน

    "โห ซาวด์หนังผีมาก" หลี่เฟิ่งพึมพำเบาๆ และเดินไปจูงม้าเข้าไปในจวนตามอาจารย์และหนิงเฟิ่งที่เดินเข้าไปก่อน เมื่อเข้ามาจะเห็นเป็นลาน ด้านหน้าจะมีทางเข้าด้านในให้เดินเข้าไปอีกด้านขวาจะมีเรือนขนาดกลางอยู่ ส่วนด้านซ้ายเป็นคอกม้าหลัวหลี่เฟิ่งจึงเดินไปทางด้านซ้ายเพื่อนำม้าไปไว้ที่คอกม้าตามชงหยวนและหนิงเฟิ่ง

    เมื่อเสร็จแล้วผู้เป็นอาจารย์ก็บอกศิษย์ว่าเขามาส่งแค่นี้และเขาเองมีที่พักอยู่แล้วศิษย์ทั้งสองจึงทำการเคารพแล้วกล่าวลาเมื่อเงยหน้าขึ้นมาร่างของผู้เป็นอาจารย์ก็หายเป็นรวดเร็ว

    ทั้งคู่จึงพากันหยิบข้าวของเดินเข้าทางเข้าด้านในภาพตรงหน้าทำให้สองพี่น้องตระกูลหลัวต้องหยุดชะงัก

    "...เชื่อแล้วว่าดูแลอย่างดี"

    "เรือนทางซ้ายนั่นครัว" หนิงเฟิ่งทำหน้าที่แนะนำให้หลี่เฟิ่งทันที "ทางขวาเป็นเรือนเก็บสมุนไพรและพิษมีโถงทางเดินต่อไปทางสวน ส่วนเรือนกลางใช้เป็นห้องโถง ตามข้ามา" หลี่เฟิ่งเดินตามร่างเล็กเข้าไปในเรือนกลางข้างบนมีป้ายแขวนเขียนว่าเรือนจือลู่อยู่

    เมื่อเดินเข้ามาก็จะเห็นบัลลังก์สำหรับประมุขตั้งอยู่ตรงกลางด้านหลังบัลลังก์เป็นหยกแกะสลักรูปหงส์และดอกจื่อเถิงหลัวสัญลักษณ์ประจำตระกูล ภายในส่วนมากตกแต่งด้วยสีม่วงเข้มสลับสีอ่อน หนิงเฟิ่งที่เดินมาก็ทำความเคารพบัลลังก์เปล่า หลี่เฟิ่งเห็นดังนั้นถึงจะงงแต่ก็รีบทำตามอีกฝ่าย

    "ข้ากับท่านพี่กลับแล้วท่านพ่อท่านแม่" หนิงเฟิ่งพูดเบาๆ เมื่อเคารพเสร็จจึงเดินเบี่ยงไปทางด้านขวาเพื่อออกไปส่วนด้านหลังตรงกลางเป็นลานพื้นหญ้าและมีหินวางแยกเป็นสี่ทางเพื่อทำเป็นทางเดินไปยังแต่ละเรือน

    "นั่นเรือนเฟยเฟิ่งเป็นเรือนของท่านพ่อและจะมีทางเชื่อมต่อไปเรือนของท่านแม่เจ้าจะพักเรือนไหน" หนิงเฟิ่งถาม

    "ข้าเรือนไหนก็ได้ เอ่อแล้วสองเรือนนี้" หลี่เฟิ่งชี้ไปทางสองเรือนด้านข้าง

    "เรือนเก่าเจ้าและข้า ข้าพักที่เรือนท่านแม่แล้วกัน" หลี่เฟิ่งพยักหน้าเข้าและเดินเข้าเรือนไปจึงทำการจุดไฟเก็บของทันทีจากนั้นก็ทำการสำรวจภายในสักพักเสร็จแล้วจึงเดินไปหาหนิงเฟิ่งเพื่อจะชวนอีกฝ่ายเดินเล่นที่สวน หลี่เฟิ่งเดินตามทางเชื่อมไปยังเรืิอนของหนิงเฟิ่ง

    ก่อกๆ กั่กๆ ก๊อก หลี่เฟิ่งทำการเคาะประตูเป็นจังหวะเรียกอีกฝ่าย

    "Do you want to build a snowman " พร้อมร้องคลอเนื้อเพลงหนังอนิเมชั่นชื่อดังเบาๆ ก็นะเขาอดที่จะเล่นมันไม่ได้จริงๆ

    "อะไรของเจ้า" หนิงเฟิ่งที่เปิดประตูมาก็ทำหน้างุนงง

    "ข้าอยากไปเดินเล่นที่สวนไปเป็นเพื่อนข้าหน่อย" หนิงเฟิ่งพยักหน้าเป็นการตอบรับปิดประตูห้องแล้วเดินออกมาพร้อมคนชวน ตอนนี้อยู่ในยามไฮ่ (21.00-22.59) แล้วด้านนอกจึงมืดสนิท หนิงเฟิ่งจึงนำยันต์ที่ใช้จุดไฟตามตะเกียงไฟติดกับต้นไม้อยู่ตามทาง

    "ไว้ข้าจะสอน" หนิงเฟิ่งพูดเมื่อหลี่เฟิ่งมองเขาตาเป็นมัน

    "ดี" เมื่อไฟจุดเสร็จแล้วหลี่เฟิ่งจึงเดินนำออกมา "สวย" เป็นคำอธิบายคำเดียวของสวนแห่งนี้ พื้นเป็นหญ้าทางเดินปูด้วยหินกรวด ตามทางเดินข้างๆ จะเป็นต้นดอกจื่อเถิงหลัวสลับกับไม้พุ่มอย่างดอกซิ่วฉิวฮวา*เมื่อเดินถึงตรงกลางจะมีสระดอกบัวที่มีสะพานให้ข้ามไปยังศาลาริมสระที่ยังมีดอกหลิงหลานชู่*อยู่ล้อมรอบ

    พอผ่านส่วนของสระไปแล้วตามทางเดินก็เปลี่ยนเป็นเป็นดอกตู้เจวียน*สีม่วงสลับกับดอกซือสว่าน*สีขาวแทน สวนแห่งนี้จึงมีแต่กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้สามชนิด ส่วนพื้นที่ที่เหลือก็จะเป็นไม้ยืนต้นที่มีออกผลหลากหลายชนิด

    "ทำไมถึงปลูกแต่ดอกไม้มีพิษหรือ" หลี่เฟิ่งเดินดูได้สักพักก็นึกขึ้นได้ว่าดอกไม้พวกนี้มีพิษทั้งหมด

    "ตระกูลเราชอบศึกษาเรื่องพิษและท่านแม่กับเราทั้งสองก็ชอบดอกพวกนี้ท่านพ่อจึงมาปลูกไว้" หนิงเฟิ่งพูดด้วยสีหน้าราบเรียบแม้ว่าในแววตาจะฉายความเศร้าออกมา "หยาดน้ำค้างลงแล้วเข้าไปเรือนกันเถอะ" หลี่เฟิ่งพยักหน้ารับพร้อมเดินไปทางเดินที่เดินมาตอนแรกเพื่อไปพักผ่อน

    หลี่เฟิ่งเมื่อถึงเรือนก็จัดการเตรียมของอาบน้ำ เนื่องจากการเดินทางที่ยาวนานทำให้เขาเหนื่อยและอยากพักผ่อนมากหลี่เฟิ่งจึงทำการอาบน้ำเสร็จอย่างรวดเร็ว แล้วพุ่งขึ้นที่นอนทันทีในเวลาไม่นานหลี่เฟิ่งมีอาการหนักๆ ที่หนังตาจนหลับไปในที่สุด

    .

    .

    .

    .

    "หลี่เอ๋อร์เจ้าพาน้องหนีไป พ่อกับแม่จะจัดการกับคนเหล่านี้เอง" เสียงของบุรุษในวัยกลางคนตะโกนบอกเด็กหนุ่มที่จับมือน้องอยู่

    "แต่ทะ..."

    "ไป!! นี่เป็นคำสั่ง" ไม่รอให้ผู้เป็นลูกพูดจบก็ตะคอกใส่อย่างเสียงดัง เด็กหนุ่มเมื่อได้ยินดังนั้นจึงกลั้นใจใช้วิชาตัวเบากระโดดออกมาจากจวนตระกูลหลัวเพื่อจะพาผู้เป็นน้องหนี แต่ออกมาไม่ได้เท่าไรจู่ๆ ก็มีแสงไฟสว่างวาบมาจากจวนตระกูล

    "ท่านพ่อ! ท่านแม่! " เสียงของเด็กในวัยสิบสองหนาวตะโกน

    "หนิงหนิงเจ้าใจเย็นๆ ท่านพ่อท่านแม่จะไม่เป็นอะไร"

    "แต่ว่า...ท่านพี่เรากลับไปช่วยท่านกันเถิด" เด็กน้อยพูดพลางเขย่าแขนเด็กหนุ่ม

    "ก็ได้ แต่" เด็กหนุ่มมองน้องชายของตัวเองอย่างรู้สึกผิดก่อนที่จะใช้มือสกัดจุดสลบ "ข้าขอโทษแต่เจ้าไปไม่ได้" พูดเสร็จก็จับอีกฝ่ายพิงกับต้นไม้ก็จะแปะยันต์กันภัยไว้ที่ตัวของผู้น้อง "ข้ารักเจ้ามากและเจ้าต้องรอด" เด็กหนุ่มร่างโปร่งในชุดสีม่วงประจำตระกูลลูบหัวอีกฝ่ายก่อนที่จะใช้วิชากลับไปที่จวนตระกูลอีกครั้ง

    "บัดซบ เจ้าลูกเต่าเจ้ากลับมาทำอันใดแล้วหนิงเอ๋อร์เหล่า" ผู้เป็นพ่อสบถ

    "หนิงหนิงปลอดภัยดี ข้ากลับมาช่วยท่าน"

    "เจ้านี่มะ" ยังบ่นไม่ทันเสร็จท่านประมุขของตระกูลก็ต้องหันไปสู้กับผู้บุกรุกในยามวิกาล เด็กหนุ่มเมื่อเห็นดังนั้นจึงใช้ยันต์ขอความช่วยเหลือส่งออกไปยังคนผู้หนึ่งเสร็จแล้วจึงหันเป็นช่วยบิดา

    "ข้าว่าท่านไปช่วยท่านแม่เถอะ ทางนี้ข้าจัดการเอง" บิดาจึงเปลี่ยนไปช่วยฮูหยินของตนเองและปล่อยให้บุตรชายจัดการแทน

    "ท่านพ่อคนพวกนี้เป็นใครกัน"

    "ข้าก็ไม่รู้" ตอนนี้เหล่าลูกศิษย์ตระกูลหลัวเริ่มต้านทานกันไม่ไหวจนล้มตายหลายคนแล้ว

    "บัดซบ" เด็กหนุ่มสบถออกมาเบาๆ ก่อนจะไปช่วยศิษย์ทางลานกลางจวน และทำการปาผงพิษใส่ศัตรูและใช้วิชากระบี่โจมตีทันที ผ่านมา1เค่อก็ไม่มีทีท่าว่าผู้บุกรุกจะน้อยลงเลย ตอนนี้เด็กหนุ่มมีท่าทางเหนื่อยมากขึ้นเพราะมีศัตรูมาลุมเขาไม่หยุด

    "หยุด คนนี้ข้าจัดการเอง" เงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายที่มาใหม่ นัยต์ตาของเขาเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนตรงหน้า

    "นี่จะ...เจ้า" ฉึก ยังไม่ทันพูดเสียงของกระบี่แทงทะลุผ่านลำตัวอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถหลบทันเมื่อแทงเสร็จบุรุษคนนั้นก็ไปที่อื่นทันที ร่างโปร่งในชุดสีม่วงเข้มกระอักเลือดออกแล้วทรุดลงแต่ยังคงใช้กระบี่ยันพื้นไว้อยู่

    "หลี่เอ๋อร์!! " ผู้เป็นบิดาและมารดาร้องเสียงหลงแต่ก็ไม่สามารถมาช่วยลูกได้

    "ข้าไม่เป็นอะไร" เขาเค้นเสียงออกมาเบาๆ นัตย์ตาเรียวหงส์ที่เริ่มหนักอึ้งลอบมองไปที่ประตูจวนก็เห็นเด็กหนุ่มร่างสูงในชุดสีแดงดำพยายามที่จะฝ่าเข้ามาหาเขา

    "หลี่เฟิ่งเจ้าห้ามหลับตาเด็ดขาด" เด็กหนุ่มคนนั้นตะโกน

    "มาช้านะเจ้าบ้า" เขาพึมพำเบาๆ เมื่อเห็นอีกวิ่งเข้ามา "จะห้ามไม่ให้ข้าหลับตาเรื่องนั้นมันยากเกินไปนะ คิ้วของเจ้าติดกันหมดแล้ว" หลี่เฟิ่งบ่นพร้อมนำเรียวมือสวยที่พยายามจับคิ้วแยกกันอีกฝ่าย

    "ฝากบอกท่านพ่อท่านแม่ข้าด้วยว่าขอโทษและเจ้าต้องรอข้านะ" หลี่เฟิ่งยิ้มให้อีกเมื่อสิ้นสุดเสียง ลมหายใจก็ได้สิ้นสุดลงไปเช่นกัน ร่างสูงในชุดสีแดงดำจึงนำร่างที่ไร้ลมหายใจของอีกฝ่ายไปพิงที่ต้นจื่อเถิงหลัว เมื่อร่างสูงเดินออกไปภายใต้ใบหน้าคมนั้นเกิดแววตาเย็นชาสีแดงที่แสดงถึงความเจ็บปวดขึ้นมาก่อนจะหายไป

    ทันใดนั้นเกิดปรากฏแสงสว่างวาบที่ร่างของหลี่เฟิ่งพร้อมกับเสียงที่ลอยตามลมมาว่า

    ...บิดามารดาช่วยเจ้าได้เพียงเท่านี้

    ไม่ว่าเจ้าจะไปอยู่แห่งหนใด

    เมื่อถึงคราวชะตาเจ้ากลับมา...

    "เฮือก" เสียงสะดุ้งตื่น ตามกรอบหน้าของร่างโปร่งเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาหันมองไปรอบๆ เรือนก่อนจะล้มตัวนอนต่อ

    "เหอ...ข้าจำได้แล้วท่านพ่อท่านแม่ ข้ากลับแล้ว" หลี่เฟิ่งพูดเบาๆ พร้อมขมวดคิ้วเพราะพยายามนึกถึงใบหน้าของคนที่อยู่กันเขากำลังจะตายแต่ก็ไม่สามารถจำหน้าบุรุษในชุดแดงดำได้เลย...

     

     

    *ดอกซิ่วฉิวฮวา = ดอกไฮเดรนเยีย

    *ดอกหลิงหลานชู่ = Lily of the Valley(ดอกลิลลี่สีขาวรูปทรงเหมือนระฆังเล็กๆ)

    *ดอกตู้เจวียน = อาซาเลีย (กุหลาบพันปี)

    *ดอกซือสว่าน = พลับพลึงแมงมุม

    *ดอกจื่อเถิงหลัวดอกวิสทีเรียนะคะเพื่อใครจำไม่ได้

     

    Talk ; ม๊ายยยยผ่อนจ่ายพระเอกไปแล้วค่ะ มีใครเห็นนางมั้ย

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ❤️

     

    #คอร์สเรียนในยุทธภพ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×