ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คอร์สเรียนวิทยายุทธในยุทธภพ

    ลำดับตอนที่ #4 : ว่างก็ต้องหาเงิน

    • อัปเดตล่าสุด 18 มิ.ย. 63


    หลายวันผ่านมานี้หลัวหลี่เฟิ่งได้อ่านตำราพิษและศึกษาเรื่องการสังเกตแยกแยะพิษตามที่คนเป็นอาจารย์ของเขาบอกกล่าวมา และวันนี้ก็ถึงกำหนดการที่ท่านอาจารย์จะทำการทดสอบหลัวหลี่เฟิ่งโดยที่ไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว

    "อาหลี่หยิบกล่องหยกให้ซือจุนได้หรือไม่" ผู้เป็นอาจารย์พูดขึ้นมาพลางหันหลังทำท่าทีว่าจัดของอยู่

    "ได้ขอรับ" หลัวหลี่เฟิ่งชะงักก่อนจะปรากฏรอยยิ้มชั่วครู่หนึ่งก่อนจะส่งกล่องหยกให้ผู้เป็นอาจารย์ "นี่ขอรับ"

    "ขอบใจอะ..." ชงหยวนหันหน้ามาเพื่อจะดูผลงานที่เขาทำการป้ายพิษทั่วกล่องเพื่อที่จะทดสอบศิษย์ว่าสามารถสังเกตได้หรือไม่กลับชะงักเพราะภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือกล่องหยกที่ลอยอยู่ตรงหน้าโดยที่ไม่มีถือมันไว้ "นี่เจ้า..."

    "อ่อ ข้าลืมบอกท่านข้ามีพลังจิตเคลื่อนย้ายสิ่งของน่ะ" หลัวหลี่เฟิ่งยิ้มพลางใช้พลังเพื่อขยับกล่องใบนั้นไปมาอย่างรวดเร็ว

    "พอๆ ข้าเวียนหัว" ชงหยวนบานก่อนจะใช้มือไปจับกล่องหยกเพื่อหยุดไว้

    "โอ๊ะ ทำติดกับแล้ว" ผู้ที่เป็นลูกศิษย์พูดพร้อมหน้าตากวนๆ ใส่อาจารย์

    "...! " ชงหยวนเมื่อได้ยินศิษย์พูดดังนั้นก็พึ่งนึกได้ว่าตัวเองป้ายยาไว้ แต่แน่นอนว่าพิษนี้ทำอะไรเขาไม่ได้ "ดี เจ้าทำได้ดีมาก" ชงหยวนพูดพลางจะเดินมาพร้อมถ้วยใบหนึ่งที่มีน้ำสีใสอยู่ในนั้นแล้วดีดใส่ลูกศิษย์โดยเล่งที่ปาก

    "สาบานว่าท่านไม่ได้เอาพิษดีดใส่ปากข้า" หลัวหลี่เฟิ่งพูดพลางปิดปากตัวเองไว้

    "หึ" ชงหยวนยิ้มก่อนจะชี้และพูดว่า "ยาแก้พิษอยู่นั่นถ้าเจ้ารู้ว่าพิษที่ข้าป้ายเจ้าคือพิษอะไรเจ้าก็คงจำกลิ่นยาแก้พิษได้นะ" เมื่อพูดเสร็จอาจารย์จึงหันมายิ้มเยาะให้ศิษย์ก่อนจะเดินจากไป

    "นี่ท่าน อั่ก" เมื่อหลัวหลี่เฟิ่งกระอักเลือดออกมาจึงรีบวิ่งไปหยิบยาแก้พิษแต่เขาต้องชะงักเมื่อพบว่ามันมีอยู่ห้าขวด "โอ๊ย อันไหนล่ะวะ" ตอนนี้หลัวหลี่เฟิ่งเริ่มมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว หายใจลำบากและตัวที่เริ่มเย็นเฉียบขึ้นมา

    "พิษดอกซิ่วฉิวฮวา" เขาพึมพำกับตัวเองก็รีบหายาที่แก้พิษดอกซิ่วฉิวฮวาหรือดอกไฮเดรนเยีย หลัวหลี่เฟิ่งรีบเปิดขวดยาดมยารวดเร็วเมื่อเจอแล้วจึงรีบดื่มทันที "อี๋ ขม" พูดเสร็จแล้วก็ล้มตัวนอนทันทีเพราะรออาการทุเลามากกว่านี้

    "ยังไม่ตายหรือ" เสียงใสของผู้มาใหม่ถามขึ้น

    "อยากให้ข้าตายหรือหนิงเอ๋อร์" หลี่เฟิ่งตอกกลับ

    "นี่เจ้า อย่ามาเรียกข้าแบบนั้นนะ"

    "ทำไมหรือหนิงเอ๋อร์" หลัวหลี่เฟิ่งยังคงไม่เลิกกวนคนตรงหน้า

    "ทำไมน่ะหรือ" หลัวหนิงเฟิ่งเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย

    "โอ๊ย!! อาหนิงเลิกตีข้าสักทีจะได้มั้ย! " หลี่เฟิ่งลุกขึ้นยืน "ข้าพึ่งโดนพิษมาแท้ๆ "

    "เหอ เจ้านั่นแหละหยุดกวนข้าสักที" หลัวหนิงเฟิ่งทำหน้าเหนื่อยหน่าย "ข้าตัดชุดให้เจ้าเสร็จแล้ว ไปลอง" พูดเสร็จก็ลากอีกฝ่ายไปทันที

    "เร็วจัง" ตั้งแต่กลับมาจากตลาดครานั้นพอถึงเรือนอีกฝ่ายก็จับเขาวัดตัวทันทีผ่านมาไม่กี่วันก็ทำเสร็จแล้ว เมื่อถึงที่หลัวหนิงเฟิ่งก็จับอีกฝ่ายเปลี่ยนชุดทันที

    "เดี๋ยวนี่เจ้าจะทำอะไร" หลัวหลี่เฟิ่งพูดขัดก่อนที่อีกฝ่ายจะทำอะไรมากไปกว่านี้

    "ให้เจ้าลองชุดไง"

    "ให้ข้าเปลี่ยนเองไม่ได้หรือ"

    "เจ้าเขินหรือ" หนิงเฟิ่งเมื่อเห็นอีกฝ่ายหูแดงก็รู้ทันที "ตอนเด็กๆ เจ้าก็เคยทำให้ข้าเจ้าอายอะไร"

    "มันเหมือนกันที่ไหนเหล่า" พูดเสร็จก็หยิบชุดไปเปลี่ยนเองทันที

    "คิกคิก" เสียงหัวเราะดังขึ้นเมื่อหนิงเฟิ่งแกล้งอีกสำเร็จ

    ผ่านไปสักพักเมื่อหลี่เฟิ่งใส่ชุดเสร็จก็เดินออกมาหาอีกฝ่ายที่รออยู่ข้างนอก

    "พอดีหรือไม่" หนิ่งเฟิ่งถาม

    "อือ" พูดเสร็จก็มองหากระจกเพื่อตรวจความเรียบร้อย

    "กระจกอยู่นั่น" หลัวหลี่เฟิ่งเดินไปส่องกระจก ชุดเป็นชุดสองชั้นชุดข้างในเป็นสีดำขลับส่วนตัวนอกเป็นสีม่วงเข้มที่ช่วยขับสีผิวของหลี่เฟิ่งให้สว่างขึ้นอีกและยังปักด้วยด้ายสีเหลืองทองเป็นรูปหงส์ตรงปกเสื้อ

    "ข้าใส่ถูกหรือไม่" หลัวหนิงเฟิ่งพยักหน้าให้อีกฝ่ายเบาๆ "แล้วซือจุนอยู่ที่ใด"

    "เห็นว่ามีประชุมอีกแล้ว"

    "ห๊ะ นี่ถ้าข้าหายาแก้พิษไม่เจอซือจุนก็จะปล่อยให้ข้าตายหรอ"

    "ซือจุนรู้อยู่แล้วว่ายังไงเจ้าก็ต้องหาเจอ" หลัวหนิงเฟิ่งตอบ

    "เจ้าอยากไปที่ใดหรือเปล่า เราไม่ได้ลงเขากันมาหลายวันแล้ว"

    "อยาก ตอนนี้ข้าเบื่อมาก" หลี่เฟิ่งบ่นเพราะหลายวันมานี้เขาก็เอาแต่อ่านตำราศึกษาพิษ

    "ไปที่ใดดี" หนิงเฟิ่งถาม

    "ข้าจะไปรู้ไหม"

    "ไปเก็บสมุนไพรเถอะ"

    "ห๊ะ" หลี่เฟิ่งทำหน้างง

    "เก็บสมุนไพรไหนๆ ข้ากับเจ้าก็ว่างแล้ว" เจ้าของชุดสีอ่อนพูดก่อนลุกขึ้น "ว่างก็ต้องหาเงิน" กล่าวเสร็จก็จูงมือหลี่เฟิ่งไป

    "ไปที่ใดกัน"

    "ตามข้ามาเถอะ" หลัวหนิงเฟิ่งใช้วิชากระโดดนำออกไป เขาจึงกระโดดตามออกไปใช้เวลาไม่ถึง1เค่อ*ก็ถึงที่ที่อีกฝ่ายพามา

    "ที่นี่หุบเขาอสูรระดับสูง" หนิงเฟิ่งพูด "จริงๆ หุบเขาแถวนี้คือหุบเขาอสูรทั้งหมดนั่นแหละต่างกันแค่ระดับ" เขาอธิบายเพิ่ม

    "แล้วเราจะเจออสูรหรือไม่"

    "เจออยู่แล้วที่นี่หุบเขาอสูรนะ"

    "เจ้ากลัวหรือ ไม่ต้องห่วงอสูรที่นี่ไม่ทำอะไรผู้ที่มาดีหรอก"

    "ให้มันจริงเถอะ" พูดเสร็จก็เดินตามหนิงเฟิ่งไปหาสมุนไพรเพื่อที่จะเอาไปขายและเอาไว้ใช้เองนิดหน่อย ซึ่งแน่นอนว่าคนหาและคนเก็บก็ไม่ใช่ใครที่ไหนต้องหลัวหนิงเฟิ่งอยู่แล้ว

    "ไม่ช่วยข้าหน่อยหรือ"

    "ข้าช่วยถือตะกร้าแล้วกัน" หลี่เฟิ่งก็พอรู้เรื่องสมุนไพรอยู่บ้างแต่เรื่องหยุดยากคือมันมีวิธีเก็บแน่นอนว่าเขาไม่รู้วิธีเก็บและไม่อยากไปเก็บสุ่มสี่สุ่มห้าเพราะกลัวหนิงเฟิ่งจะเด็ดหัวเขา "หนิงเอ๋อร์ เจ้าดูดอกไม้ดอกนั้นสิ" หลี่เฟิ่งที่หันไปเห็นดอกไม้สีขาวสว่างเหมือนมีประกายตลอดเวลาเลยเรียกให้หนิงเฟิ่งดู

    "อ่อ นั่นคือดอกจันทราทอง เจ้าอย่าไปแตะมันเชียวมันยังไม่ถึงเวลาที่ต้องเก็บ" หนิงเฟิ่งพูดอธิบายต่อ "เมื่อนำไปสกัดมีสรรพคุณสมานแผลทันทีเพียง1หยด"

    "แล้วต้องเก็บตอนใดหรือ" หลี่เฟิ่งถามต่อ

    "คืนที่พระจันทร์ส่องแสงเต็มที่ในฤดูเหมันต์"

    "ยุ่งยากจัง"

    "ก็นั่นดอกไม้วิเศษ" พูดเสร็จก็พากันเดินหาสมุนไพรกันต่อจนได้มาเต็มตะกร้าแล้ว "ได้มาเยอะแล้วลงเขาเอาไปขายกันเถอะ"

    "อืม แต่นี่ก็เดินมาตั้งนานข้าไม่เห็นมีสัตว์อสูรโผล่มาบ้างเลย"

    "คงแล้วแต่อารมณ์พวกมัน บางครั้งก็มีบางครั้งก็ไม่มี" หนิงเฟิ่งพูด "แต่ที่ข้าสังเกตพวกมันชอบออกมาตอนที่ข้ามากับซือจุน"

    "ไปกันเถอะ" ครั้งนี้เป็นหลี่เฟิ่งที่นำออกไปก่อนหนิงเฟิ่ง

    เมื่อมาถึงแล้วหลี่เฟิ่งก็ให้หนิงเฟิ่งเป็นคนเดินนำไปร้านขายยาประจำเมืองนี้

    "เถ้าแก่ ข้าเอาสมุนไพรมาขายเหมือนเดิม" หลัวหนิงเฟิ่งพูดกับเถ้าแก่ร้านอย่างสนิทสนมเพราะเขานำมาขายให้อีกฝ่ายบ่อย

    "ดีๆ ข้ากำลังรอเจ้าอยู่ โสมคนข้าหมดพอดี" เถ้าแก่ตอบ "แล้วเจ้าพาใครมาด้วยน่ะ คนรักหรือ"

    "ไม่ใช่นั่นน้องข้า" หนิงเฟิ่งพูด

    "ข้าเป็นพี่เจ้า"

    "น้อง"

    "พี่"

    "พอๆ วันนี้เจ้าเอาอะไรมาบ้าง" เถ้าแก่รีบห้ามศึกขนาดย่อมไว้ก่อนจะบานปลาย

    "เหมือนเดิมขอรับ" หนิงเฟิ่งยื่นตะกร้าส่วนที่แบ่งไว้ขายให้เถ้าแก่ "อ่อ วันนี้ข้าได้ตังถังเช่ามานิดหน่อยท่านจะเอาหรือไม่"

    "จริงหรือดีๆ " หนิงเฟิ่งหยิบตังถังเช่าส่วนหนึ่งแบ่งขายให้เถ้าแก่ไป "นี่เงินตามเดิมข้าเพิ่มในส่วนของตังถังเช่าให้แล้ว ขอบคุณเจ้านะ" เถ้าแก่ยื่นถุงเงินให้หนิงเฟิ่งเขาจึงตรวจดูก่อนจะบอกลาเถ้าแก่

    "ขอบคุณเถ้าแก่ ข้าลาล่ะ" พูดเสร็จก็พาหลี่เฟิ่งออกมาทันที

    "เสร็จแล้วทำอันใดต่อ" หลังจากที่เดินออกมาเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมายหลี่เฟิ่งจึงถามขึ้น

    "ข้าก็ไม่รู้" หนิงเฟิ่งส่ายหน้า

    "โรงเตี๊ยมแล้วกัน"

    "อืม" ตอนนี้เป็นเวลายามเว่ย (13.00-14.59) แล้วทั้งสองคนจึงตัดสินใจมานั่งดื่มชาพร้อมขนมทานเล่นโดยที่ไม่ได้พูดคุยกัน

    "นี่ๆ ข้าได้ยินว่าสำนักเซียนและมารหวงหลงที่แคว้นช่างลี่จะทำการทดสอบรับศิษย์" จู่ๆ ก็มีเสียงจากคนผู้หนึ่งดังขึ้นมาทำให้ผู้คนที่อยู่ในโรงเตี๊ยมนี้พูดคุยกันจนเสียงดังเซ็งแซ่

    "ใช่สำนักที่เจ้าเคยบอกหรือเปล่า" หลี่เฟิ่งถามขึ้น

    "ใช่"

    "มีสำนักมารด้วยหรือ เช่นนั้น..." เหมือนรู้ว่าอีกฝ่ายจะถามอะไรหนิงเฟิ่งตอบก่อน

    "สำหรับที่นี่ถือว่าดีชั่วล้วนอยู่ที่ตัวคน วิชามารจึงเป็นวิชาที่สามารถเรียนได้แต่การทดสอบยากกว่าการเข้าสำนักเซียนมากนักเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่โดนวิชามารครอบงำ"

    "อ่อ แล้วแบบนี้มีคนต่อต้านหรือไม่"

    "สำนักเซียนบางสักนักยังมีต่อต้านอยู่ แต่สำนักมารมีอยู่แค่ที่เดียวคือสำนักหวงหลงนั่นแหละ ที่เหลือเป็นพวกนิกายมารเพียงเท่านั้น" หนิงเฟิ่งอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด

    "แล้วทำไมถึงสร้างสำนักได้" หลี่เฟิ่งยังคงถามต่อไป

    "ได้รับคำรับรองการดูแลจากห้าเซียนท่านเจ้าเมืองจึงอนุญาต"

    "โห เส้นใหญ่มาก" หลี่เฟิ่งพึมพำเบาๆ "แล้วที่นี่มีกี่แคว้น"

    "เหอ" หนิงเฟิ่งถอนหายใจก่อนจะเริ่มอธิบายอีกครั้ง "มี5แคว้น แคว้นแรกแคว้นหลิ่งฟู่ สองแคว้นจิ่นหลี่ สามแคว้นซือจิน สี่แคว้นเสวี่ยที่ที่เราอยู่ตอนนี้ ห้าแคว้นช่างลี่แคว้นนี้เป็นแคว้นบ้านเกิดข้ากับเจ้า"

     

     

     

     

     

     

     

     

    *1เค่อ=15นาที

    ♡ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะเจอกันตอนหน้าค่ะ♡

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×