นับตั้งแต่วันที่ผมได้คุยกับจองจูออน ชีวิตผมก็เริ่มเห้ขึ้นเห้ขึ้น ความโชคดีถูกความซวยบังมิด
ซวยสุดในชีวิต ซวยสุดในรอบ 10 ปี!
นี้แค่เข้าวันที่ 3 ผมก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดอยู่หลายครั้ง มักเกิดเหตุการ์ณไม่คาดฝันแบบบังเอิญโคตรๆ อย่างเช่น
"เห้ย เชี้ยจอห์น ระวัง! "
พึด แพร๊ง!
เดินๆอยู่ระหว่างทางเปลี่ยนตึกเรียน กระถางต้นไม้จากชั้น 6 ดันตกลงมาเฉียดหัวผมไปเส้นยาแดงผ่าแปด นี้ถ้าโดนเต็มๆมีหวังได้หัวแตกนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่โรงบาลแหมๆ ดีนะที่ไอ้ย๊งมันเห็นก่อนเพราะดันเงยหน้าขึ้นไปส่องเกงในสาวชั้น4
อันนั้นว่าอะเมซิ่งละ อันนี้แฟนตาซีกว่าเยอะ วันที่2 ผมมาดักรอจองจูออนที่ห้องสมุดตามคำบอกเล่าของชาวบ้านว่าเวลานี้เค้าจะมานี้ ก็ตามคาดครับ 5 โมงเย็นเป๊ะๆไม่ขาดไม่เกิน ร่างขาวซีดก็ปรากฎกายขึ้น ผมเดินตามหลังแจฮยอนมาติดๆโดนไม่ให้อีกฝ่ายรู้ ในขณะที่จองจูออนเอื้อมมือเขย่งตัวขึ้นไปเพื่อเอาหนังสือเล่มหนาชั้นบนสุด ผมก็ปิ้งไอเดียด้วยการกะจะเข้าไปยืนซ้อนหลังแล้วหยิบให้แบบพวกพระเอกในเอ็มวี แต่ยังไม่ทันได้ก้าวไปถึงแม่คนตัวขาว ชั้นหนังสือข้างๆก็ล้มมาทับผมซะก่อน เดชะบุญที่ผมไม่เป็นอะไรมากเพราะแจฮยอนหันมาคว้าข้อมือผมก่อนดึงตัวผมให้หลบมันทันซะก่อน
ไม่งั้นคงได้ดามเฝือกทั้งตัวเป็นแน่แท้ถ้าโดนจังๆ
แล้วเหตุการ์ณซวยๆก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ ผมเริ่มสังเกตุว่ามันจะเกิดเมื่อผมอยู่ใกล้แจฮยอนหรือเมื่อผมกำลังคิดถึงอีกฝ่าย แต่มันก็คงเป็นเรื่องบังเอิญซะมากกว่า ถ้าคำร่ำลือที่เค้าว่าจองแจฮยอนเป็นตัวซวยแต่ทำไมผมยังอยู่ดีมีชัยครบ32ละ
เลือดไม่ออกสักหยด สอบตกก็ยังไม่มี หรือแต้มบุญผมเยอะกว่าแต้มซวยก็ไม่รู้
"นี้นายคิดจะหลบฉันไปถึงไหน? "
"นายไม่กลัวตายหรือไง?"
"ทำไมต้องกลัว? "
"ฉันบอกแล้วว่า..."
"ฉันรู้แล้ว นายบอกเป็นรอบที่ร้อยแล้วว่า ยัยฮันนะอะไรนั้นไม่ชอบฉัน แต่ตั้งแต่ตามนายมาฉันยังไม่เคยเห็นยัยนั้นเลยสักครั้ง นายแค่โกหกเพราะไม่อยากคุยกับฉันเฉยๆนั้นละ ฉันรู้"
"ฉันไม่อยากให้ใครต้องมาเจ็บตัวเพราะฉัน"
"ฉันไม่เข้าใจ"
"อยู่ห่างฉันไว้ แล้วทุกอย่างจะดีเอง"
"งั้นไปด้วยกัน"
ผมคว้ามับเข้าที่ข้อมือขาว
"ปล่อยนะ!"
"ไม่ปล่อย นายต้องไปกับฉัน"
"ไปไหน? "
" ไปหาฮันนะ"
"นายไม่เข้าใจ ฮันนะน่ากลัวกว่าที่นายคิด นายกำลังทำตัวเองเดือดร้อน"
"มองตาฉัน! "
" ไม่!"
"นายต้องมอง มองแล้วตัดสินใจซะ นายรู้นะว่าฉันหมายถึงอะไร นายปิดกั้นตัวเองแบบนี้ต่อไปไม่ได้หรอก
มนุษย์ทุกคนต้องการเพื่อน ต้องการใครสักคนกันทั้งนั้นละ และฉันก็ต้องการจะรู้จักนาย! "
ตากลมจ้องลึกเข้าไปยังตาคมสีน้ำตาลอ่อนของคนตัวสูงเนินนาน ราวกับหาคำตอบที่แม้แต่ก้นทะเลก็ลึกไม่ถึง แก้วตาดำไหววูบเว้าวอนน่าสงสารจับใจ นี้เค้าบีบคั้นคนตัวขาวเกินไปหรือเปล่า
(บ้ามาตั้งนานให้กลับเป็นปกติคงยาก โถ่ยย)
"ถ้า 7 วันแล้วนายยังไม่ยอมเลิกลา ฮันนะจะฆ่านาย ได้โปรด ฮึก... ฮื้อ.. ยอม.. อึก.. แพ้"
ร่างบอบบางสะอื้นไห้ปานจะขาดใจจนผมนึกสงสาร ถึงฮันนะจะเป็นเพียงเพื่อนในจิตนาการของแจฮยอน (ตามที่ผมเข้าใจ) แต่ดูเหมือนเรื่องราวต่างๆนั้นเกิดขึ้นจริง คนตัวขาวเล่นอินจนผมไปไม่ถูก ผมวาดมือรวบร่างบอบบางเอามาไว้ในอ้อมกอดตัวเองพลางลูบหัวทุยสวย ผมสีทองนุ่มนิ่มลื่นมือจนผมหยุดไม่ได้ที่จะลูบมันอีกครั้งแล้วครั้งเล่า
"ชู่ว... อย่าร้องนะครับคนดี เราจะไปหาฮันนะด้วยกัน ฉันจะบอกฮันนะให้เข้าใจเอง ขอแค่นายไว้ใจฉัน พูดซิ พูดว่าช่วยผมด้วย ขอแค่นายพูดมันกับฉัน ต่อให้โดนผลักตกหน้าผาฉันก็จะปีนขึ้นมาช่วยนาย"
"อึก...ฮื้อ.....อือ...ช่วยเรา...อึก ด้วย"
"กระผมจะทำตามบัญชาขอรับองค์หญิง"
หลังจากปลอบใจจูออนตัวขาวขี้แย้ แจฮยอนก็พาผมเดินเท้าเข้าป่ามายังภูเขาที่ไม่ไกลจากที่เรียนของเรานัก
(ศาลเจ้างั้นหรอ?)
"นายพาฉันมาที่นี้ทำไม? "
ผมถามด้วยมึนงง หน้าผมคงดูเหมือนคนเข้าวัดอยู่กะศีลกินในธรรมซะเต็มประดา
"ป่าว... นี้บ้านฉัน"
(เงิบซิครับ รออะไร)
"พ่อนายเป็นเจ้าอาวาส?"
"เปล่า"
"อ้าว นึกว่าพ่อนายเป็นเจ้าอาวาสเห็นที่ญี่ปุ่นนักบวชบางลัทธิสามารถแต่งงานมีครอบครัวได้นิ"
"ที่นี้ไม่มีพระหรือนักบวชอะไรทั้งนั้น มีแค่คุณยาย ฉันและฮันนะ"
"อ้าว งั้นจะเรียกศาลเจ้าได้ยังไงอ่ะ พระสักองค์ยังไม่มี"
"ใช่ ที่นี้ไม่ใช่ศาลเจ้า แค่เคยเป็น"
"เด๋ว... ฉันงง.."
"แจฮยอนเอ่ย คนไข้มารอนานแล้วทำไมเจ้าพึ่งกลับเอาปานนี้? แล้วนั้นใครรึ? "
ผมมองใบหน้าของหญิงชราผู้มาใหม่ก่อนโค้งทำความเคารพ
" พะ พะ เพื่อนน่ะจ๊ะยาย"
"แต่ฮันนะไม่ชอบหนูก็รู้"
"ไว้รักษาคนเสร็จแล้วค่อยคุยกันนะยาย ตอนนี้หนูขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อน"
"เห้ยย แล้วฉันละ? "
" อยู่กับยายไปก่อนเด๋วฉันมา"
ผมมองตามแผ่นหลังเล็กจนคอแทบเคล็ด หันกลับมาอีกทีก็เจอใบหน้าของหญิงชรากำลังแสดงสีหน้าไม่พอใจใส่ผม
(เอาละโว้ย บรรยากาศชักไม่ดี)
"แกน่ะ เป็นคนแรกที่หลานฉันพามาเข้ามาเหยียบบ้านและฉันจะไม่ถามชื่อแส่แกหรอกเพราะมันช่างไร้ประโยชน์
ยังไงซะ ฮันนะก็จะจัดการเรื่องนี้อยู่ดี ไม่ว่าจะแกหรือผู้ชายหน้าไหนก็ไม่มีวันทำให้หลานฉันแปดเปื้อน! "
(โห้วว สุดๆ อีปริกทั้งยายทั้งหลาน เล่นใหญ่ม๊าววก ออสการ์มาเต็ม รู้ละเชื้อบ้าอาจติดต่อกันทางกรรมพันธุ์)
ผมไม่ได้ต่อปากต่อคำอะไรยาย ทำเพียงแค่ยิ้มแห้งๆ นั้งหน้าด้านรอแจฮยอนออกมา
โดยไม่สนใจคำด่าถ่อสบตหยาบที่ยายพ่นออกมาเพื่อใช้ไล่ผม
อ่า.... การรอคอยช่างคุ้มค่า
แจฮยอนปรากฎกายในชุดมิโก๊ะสีขาวแดง ผมสีทองสว่างถูกรวบมัดเป็นหางม้าที่ด้านหลัง
และผมหน้าม้าที่เคยปิดหน้ารุงรังถูกปัดขึ้นจัดแต่งให้อยู่ในตำแหน่งที่มันควรอยู่
"จอห์นนี่ รออยู่นี้นะ เรากับยายต้องไปทำงานก่อนเด๋วรักษาคนไข้เสร็จจะออกมาหา"
"ไม่อ่ะ ฉันเข้าไปด้วย งงนะเนี้ย ศาลเจ้าเด๋วนี้รับรักษาคนด้วยหรอ? "
" แต่ว่า.... "
" ให้เค้าเข้าไปเถอะหลาน จะได้เห็นว่าเพื่อนแท้ในโลกนี้มันไม่มีจริง ถ้าเค้ารับไม่ได้จะได้ไปซะตั้งแต่เนิ่นๆ"
(อ้าวว อิยาย!!!)
ผมคว้ามือนิ่มของจองจูออนมากุมไว้โดยไม่สนใจหน้าเหวอๆของยาย ส่วนปากก็ถามทางไปยังห้องรักษาอะไรนั้นและแจฮยอนก็ให้ความร่วมมือจูงมือผมเดินไปด้วยกันทั้งที่หน้าแดงๆอย่างงั้นละ น่ารักชะมัด
(ช่างยายไปก่อนเด๋วได้หลานแล้วค่อยหาอย่างอื่นมาเซ่นยาย)
พอเปิดประตูเข้ามาก็เจอครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่งนั้งรออยู่ก่อนแล้ว มันดูไม่ปกติเลยสักอย่างตั้งแต่ห้องที่ไม่มีอุปกรณ์รักษาแม้แต่เข็มฉีดยาหรือพวกกระบอกวัดไข้สักแท่งยังไม่มี ละไหนจะเด็กผู้หญิงที่โดนพ่อกับแม่มัดมือมัดเท้า นั้งแยกเขี้ยว ขู่ฟ่อมองทุกคนตาขว้างนั้นอีก ผมโดนยายผลักไปนั้งหลังสุดเพราะยายบอกพิธีกรรมจะเริ่มขึ้นแล้ว
แจฮยอนเดินขึ้นไปนั้งยังแท่งที่อยู่สูงกว่าพื้นด้วยท่าทางสงบ ร่างขาวนั้งทับส้นหลับตาลงก่อนก้มหน้าเงียบ ผมกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก บรรยากาศในห้องเริ่มเย็นยะเยือก ทุกคนนั้งเงียบไม่พูดไม่จา มีเพียงเด็กผู้หญิงคนนั้นที่จ้องแจฮยอนอย่างเอาเป็นเอาตายคล้ายจะเกลียดกันมาแต่ชาติปางก่อน
ผ่านไป 10 นาที ยายของแจฮยอนเริ่มสวดบทสวดภาษาญี่ปุ่นที่ผมฟังไม่เข้าใจ และเด็กผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มหัวเราะ เธอพยายามจะพุ่งเข้าไปทำร้ายแจฮยอนหลายต่อหลายครั้งแต่ถูกพ่อของเธอจับไว้ได้ทันซะก่อน บทสวดเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆพร้อมๆกับเด็กผู้หญิงก็เริ่มคุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างรุนแรง เธอสะบัดร่างกายดิ้นเร่าจนเชือกที่มัดในตอนแรกแทบจะหลุดออกมาจนหมด ผมเห็นท่าไม่ดีจึงลุกขึ้นเพื่อจะไปช่วยพ่อของเธอจับตัวเธอไว้ แต่ก็โดนปางหายญาติของยายขัดขึ้นซะก่อน
"แก... นังสารเลววว อินังสารเลว นังชั่ว! "
อยู่ๆเด็กผู้หญิงที่คลุ้มคลั้งไม่ได้สติกับลั่นวาจาด่าท้อแจฮยอนเสียงแข็ง เธอสะบัดจนเชือกเส้นสุดท้ายขาดลง
และเป็นเวลาเดียวกันกับที่เปลือกตาสีมุกที่เคยปิดอยู่ลืมตาขึ้น!
" แกว่าใครสารเลว? "
(เห้ยย สะ.. สะ... เสียง แจฮยอน ทะ.. ทำไม?)
==============TBC==============
#จูออนจองแจ
ตอนหน้าจบแล้วน้า ลองเดากันดูว่าฮันนะคือใคร?
รูปประกอบตอนแจนใส่ชุดมิโก๊ะจ้า
*มิโก๊ะคือ สาวรับใช้ในศาลเจ้านะคะ
กลับมาก่อนๆ คือแจนเป็นร่างทรงใช่ป่ะ ฮันนะก็เป็นผีที่คุ้มครองนุ้ง(หรือหวงมากกว่านะ) ชอบมากค่ะ ไอเดียเลิศมากกกก ไม่เคยอ่านเรื่องแนวนี้ นี้อ่านแต่แนวตบจูบลูบไล้และกักขังหน่งเหนี่ยวดราม่าน้ำตามาเต็ม (โรคจิตดีๆนี้เอง)
มาตอ่เร็วๆนะค้า สนุกมากกกกก เอาใจช่วยพิจ้อนเลยอะ ฮันนะอาจจะพยายามปกป้องแจนคนสวย ไม่งั้นมีหวังหนุ่มๆน่ากลัวมาเคลม มาจีบ มาวอแว กลัวน้องเป็นอันตราย แต่ดูท่าทางแล้วเหมือนแจนจะไม่ต้องการเป็นแบบนี้่อ่ะ สงสารน้อง น้องอยากมีเพื่อน แต่น้องมีไม่ได้ โดนยายจับมาเป็นร่างทรงแต่เล็กแต่น้อยแบบนี้ เข้าใจนุ้งมากเลย
แบบโอ้ยยย คิดว่าน้องแจบ้าไปแล้วอ่ะ 5555555555 ไม่ น้องไม่บ้าาาา น้องแค่โดนผีรังควานนน ฮืออ
ดีนะที่น้องยอมบอกความในใจกับจยาไปแล้วอ่ะ จยาช่วยน้องด้วยเด้อออ ผีฮันนะไรนี่แบบ ร้ายกาจ
ออกไปจากน้องแจได้แล้ววว รอมาต่อตอนต่อไปนะคะะะ