ตอนที่ 17 : Young and Beauty EP1. [Johnjae]
Young and Beauty
Johnny X Jaehyun
Romantic
------------------------------------------------
“ไร้สาระ!” ผมส่ายหัวตอบปฎิเสธให้กับความคิด
บ้าๆของป้าตัวเองมันเป็นเรื่องปัญญาอ่อนที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินจากเธอเลยก็ว่าได้
“งั้นบัตรเครดิตกับคีย์การ์ดคอนโดแกฉันคงต้องขอคืน อ่อ เกือบลืมกุญแจแลมโบที่แกพึ่งไปยกเครื่อง
มาเหยียบพลานน้ำมันเล่นนั้นก็ด้วย”
“โถ่ยยย ป้าครับ เกาหลีมันไกลนะครับ ป้าจะส่งผมไปอยู่นั้นคนเดียว ป้าไม่ห่วงผมหรอ?”
“ไม่ต้องมาตอแหลทึกๆอย่างแกสิบล้อชนไม่น่ารอด"
“ไม่รอดแน่ซิป้า ผมคนนะ”
“ป่าว ฉันหมายถึงสิบล้อ แกมันหนังเหนียวไม่ตายง่ายๆหรอก”
“ป้าอ่า!”
“แกน่ะเรียนก็กากวันๆมีแต่เรื่องต่อยตีกะลูก
ชาวบ้านไปทั่ว ใช้เงินยังกะน้ำฟาดหญิงไม่ซ้ำหน้า ฉันเลี้ยงแกมาอย่างดี
และคงจะดีเกินไป แกเรียนไฮสคูลแล้วนะจอห์นนี่ แต่ฉันยังมองไม่เห็นอนาคตแกสักนิด..
เสียงของเธอเริ่มสั่นเครือ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงเลือกที่จะพูดมันต่อ
“แล้วอย่างงี้…… ฉันจะมีหน้าไปพบพ่อแม่แกบนสวรรค์ได้ยังไง?”
หยดน้ำใสไหลริมออกมาจากใบหน้าของผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด ที่ผ่านมาป้าไม่เคยไล่ผมไปไหน ถึงป้าจะปากร้ายแต่ความรักที่เธอมีให้ผมไม่เคยน้อยไปกว่าความร้ายของปากเธอเลย ท่านต้องดูแลทั้งผมและบริษัท รับภาระอันหนักอึ้งเนื่องจากพ่อและแม่ผมเสียชีวิตในอุบัติเหตุเครื่องบินตกตั้งแต่ผมอายุได้ 4 ขวบ ซ้ำร้ายสามีของป้าหรือลุงของผมยังมาเสียด้วยโรคมะเร็ง ทำให้ทั้งตระกูลซอเหลือเพียงผมและป้า
“ไปซะ เมื่อถึงที่นู่น ไปมีชีวิตด้วยขาตัวเอง ทำทุกสิ่งอย่างและเรียนรู้มัน เพราะยังไงสักวัน..
แกต้องอยู่โดยไม่มีฉัน ไม่ว่าช้าหรือเร็ว”
“แต่ป้าครับ…. “
“ไปซะเลน่อน! ”
2017.01.16 สนามบินอินชอน เกาหลี
ในทีสุดผมก็กลับมาเหยียบแผ่นดินบ้านเกิดอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้กลับมาที่นี้เป็นเวลานานกว่า 10 ปี
ผมมองแผนที่ในมือและแน่นอนว่ามันเป็นภาษาอังกฤษ จะออกจากสถานบินไปที่พักยังไงหรือแม้แต่
ถามทางผมก็ยังไม่ได้เตรียมมันมาในแบบของภาษาเกาหลีเพราะผมคิดว่าเดี๋ยวนี้ใครๆก็พูดภาษาอังกฤษกันได้
และเค้าต้องเข้าใจที่ผมพูด
ผมมองไปรอบๆตัวสลับกับการอ่านแผนที่ในมือ ล้มเหลว! ไม่ว่าจะพยายามยังไง ไอ้แผ่นพับโง่ๆนี้ก็ไม่สามารถช่วยอะไรผมได้ กลั้นใจเดินไปขอความช่วยเหลือที่ประชาสัมพันธ์ ภาษาอังกฤษสำเนียงเมกันจ๋าถูกเปล่งออกมาจาก
ริมฝีปากทรงเสน่ห์ของผม พนักงานสาวมีสีหน้าฉงนเล็กน้อย ก็แน่ละ ทั้งตัวผมไม่มีส่วนไหนบงบอกเลยว่าผมเป็นพวกลูกครึ่งหรือชาวต่างชาติจะมีก็แต่สีตาผมที่แปลกกว่าคนเอเชียด้วยกัน ไม่รู้ว่าเพราะผมไปอยู่ที่นั้นนานเกินไปหรืออย่างไร แต่ผมว่าภูมิอากาศ อาหารและน้ำมีผลต่อความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของมนุษยไม่มากก็น้อย
“จอห์นนี่ซอหรือเปล่าครับ?”
ระหว่างที่ผมยืนรอรถในจุดที่ถูกจัดไว้ให้ผู้โดยสารเรียกแท็กซี่ แรงสะกิดที่หัวไหล่ขวาไม่เบาหรือแรงเกินไปเรียกผมให้หันหลังกลับไปดูต้นตอของที่มา เด็กผู้ชายวัยรุ่นสูงประมาณจมูกผมกำลังรอคำตอบอะไรบางอย่างจากผมใจจดใจจ่อ ผิวของเขาขาวซีดยังกับผีญี่ปุ่นในหนังเรื่องอะไรสักอย่างที่ผมเองก็จำชื่อเรื่องไม่ได้ มีเพียงริมฝีปากสีแดงสดอวบอิ่มเหมือนลูกเชอรรี่ป่าที่ทำให้ผมรู้ว่าคนตรงหน้ายังมีชีวิต ผมสีน้ำตาลทองของเจ้าตัวยาวระเกะระกะปิดไปซะครึ่งใบหน้ายิ่งบวกกับแว่นเลนส์ย่อกรอบเท่าฝ่าบ้านแล้ว ยิ่งทำให้หมอนี้ดูเฉิ่มเชย หรือที่พวกคนไฮแฟนชั่นแบ่งชนชั้นและเรียกบุคคลจำพวกนี้ว่าพวก “เนิร์ด”
“what do you want?”
ผมถามเจ้าแว่นแปลกหน้าที่พึ่งสะกิดไหล่ผมกลับไปเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งๆที่ผมเข้าใจที่เขาพูดแต่มันเป็นเหมือนเซฟโซนส่วนตัวของผมมากกว่า ว่าจริงๆผมไม่ได้เก่งภาษาบ้านเกิดของตัวเอง พอถูไถ่ประโยคพื้นฐานและศัพท์เฉพาะได้บางแต่ผมก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมรับได้ หากต้องได้ยินคนอื่นหัวเราะสำเนียงภาษาเกาหลีของผม
“เออ… คุณพอจะพูดภาษาเกาหลีได้ไหมครับ?”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามผมกลับด้วยท่าที่กล้าๆกลัวๆ น่าแปลกที่เสียงทุ้มนั้นกลับนุ่มนวลระคนความหวานอยู่ในที มันทำให้ผมอยากเท้าคางฟังหมอนี้พูดซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่ว่าจะเป็นประโยคหรือเพียงแค่คำสั้นๆ นิ้วหัวแม่มือเรียวสวยถูกยกขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากแดงสด ก่อนเริ่มกัดขบมันด้วยฟันหน้าที่เหมือนฟันกระต่ายของตัวเองสลับกับช้อนตาภายใต้กรอบแว่นขึ้นมามองผมท่าทางเค้าเริ่มจะเครียดเมื่อผมเมื่อไม่ได้ตอบหรือมีปฎิกริยาอะไรกลับไป
“อือ..you… know Korea? เออ… ผมหมายถึง…. อา.. i mean you know how to speak Korea?”
ว้าว~ จะว่ายังไงดีละ เขาทำผมแปลกใจนิดหน่อย ก็สำเนียงเจ้าแว่นเนิร์ดนี้ไม่ได้แย่อย่างที่คิด สำเนียงของเขาคล้ายคนแถบอเมริกันตะวันออกแถวเขตนิวอิงแลนด์รัฐคอนเนทติคัต
แน่นอนว่าผมเคยออกเดทกับสาวที่มาจากรัฐนั้นถึงได้รู้แม้ว่ามันจะแค่ 4-5 วันก็ตาม
“อืม ก็พูดได้นิดหน่อย” นั้นไงละ ภาษาเกาหลีสำเนียงแปร่งๆของผมหลุดออกมาจนได้ ผิดคาดนิดหน่อยที่เขาไม่ได้ทำลายความมั่นใจของผมด้วยการหัวเราะเยาะมันหรือเหยียดยิ้มหยั้นดูถูกแบบที่ผมเคยเจอ
เจ้าแว่นนั้นทำแค่เพียงยิ้มออกมา ยิ้มแสดงความดีใจออกนอกหน้าจนเห็นรอยปุ๋มที่แก้มทั้งสองข้าง
จะโชว์ว่าตัวเองมีลักยิ้มหรือยังไง? เฉิ่มชะมัด
“ไปกันเถอะครับ เราไม่ได้จะเข้าเมืองจากตรงนี้ เราจะไปกันโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน”
เจ้าแว่นเนิร์ดนั้นยิ้มกว้างขึ้นอีก กว้างจนเห็นฟันเขี้ยวขาวแหลมเฟี้ยวในปากที่เรียงตัวกันเป็นระเบียบชวนมอง ผิวขาวซีด มีเขี้ยวแหลม ปรากฏกายตอนกลางคืน แวมไพร์ป่ะเนี้ย?? เหอะ ผมสะบัดความจริงแฟนตาซีออกจากหัวก่อนเดินลากกระเป๋าเดินตามชายแปลกหน้าไปทั้งๆที่ยังติดใจไม่หายว่าหมอนี้เป็นใครมาจากไหน
“hey you have to tell me stranger”
“tell you what?”
“who are you?”
“*ยิ้ม I’m your babysitter”
“What!!?? are you f*cking kidding me?”
และแน่นอนว่าผมไม่รอช้าที่จะ
"โฮลป้า!"
TBC.
===============================
กลับมาแล้วหลังจากหายไปนาน กลับมาพร้อมสไตล์การเขียนที่ต่างไป ㅠㅠ อาจจะแปลกจากเดิมไป ยังไงก็ฝากฟิคเรื่องนี้ด้วยนะค่า เป็นฟิคเรื่องแรกที่เป็นแนวโรแมนติกจริงๆเท่าที่ชีวิตนี้จะเขียนได้ แท็ก #เคะน้อย180
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

84 ความคิดเห็น
-
#64 Sweet_Bar (จากตอนที่ 17)วันที่ 1 กรกฎาคม 2560 / 14:53เหมือนภาษากับการจัดหน้ากระดาษจะอ่านลื่นไหลมากขึ้นนะคะ^^ รอตอนต่อไปอยู่น้า#640
-
#63 imagine_me (จากตอนที่ 17)วันที่ 1 กรกฎาคม 2560 / 09:57แสบจนป้าต้องส่งมาดัดนิสัยใช่ไหมคะ แล้วแถมยังมีพี่เลี้ยงอีก แอบห่วงกลัวพี่เลี้ยงจะถูกแกล้งจริงๆ เพราะจอห์นดูแสบมาก มีความร้ายเจ้าเล่ห์ รออ่านต่อนะคะ#630