[END] [Fic Monsta X] Summer in December - นิยาย [END] [Fic Monsta X] Summer in December : Dek-D.com - Writer
×

    [END] [Fic Monsta X] Summer in December

    "ถ้าหากผมสามารถกลับไปหารักครั้งแรกเมื่อสิบสี่ปีก่อนได้ . . ."

    ผู้เข้าชมรวม

    4,916

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    25

    ผู้เข้าชมรวม


    4.91K

    ความคิดเห็น


    275

    คนติดตาม


    194
    จำนวนตอน :  41 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  6 พ.ค. 61 / 20:13 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ







    เรื่องราวทั้งหมดนี่มันเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนไหน ...




    แล้วทำไมผมถึงเอาแต่คิดถึงความรู้สึกในตอนนั้นเท่านั้น






    หลอดไฟที่ห้อยต่องแต่งกำลังส่องแสงสลัวอยู่บนเสาไฟฟ้าข้างทาง ผมพบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ภายใต้ร่มสีเหลืองคันเก่งของตัวเองท่ามกลางกระแสลมและเม็ดฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างหนัก ความเย็นชื้นจากสายฝนที่ตกลงพื้นคอนกรีตกระเด็นมาใส่โดนตัวทำให้รู้สึกถึงความหนาวเย็น ผมก้มมองฝ่าเท้าและพบว่าภายใต้รองเท้าผ้าใบสีดำคู่ใหม่ของตัวเองกำลังย่ำเท้าไปตามทางพื้นถนนที่ชื้นแฉะ เมื่อเหลือบขึ้นมองไปยังถนนข้างหน้าท่ามกลางสภาพอากาศมืดครึ้ม ความมืดก็กำลังจะคืบคลานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ และนั่นทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังรีบเร่งเพื่อไปทำอะไรบางอย่าง



    อะไรบางอย่างที่ตัวเองก็ไม่แน่ใจ ว่ามันคืออะไรกันแน่



    ระหว่างที่สอดส่ายสายตาหาใครบางคนบนเส้นทางที่เงียบเชียบนี้ด้วยความกังวลใจ แผ่นหลังของใครบางคนที่กำลังเดินอยู่ท่ามกลางสายฝนก็ปรากฎขึ้นอย่างเลือนรางท่ามกลางม่านฝนที่บดบังการมองเห็น ผมพยายามเพ่งสายตามองแผ่นหลังกว้างนั้นอยู่นาน แต่กลับไม่คิดว่าผมเคยรู้จักอีกฝ่ายมาก่อน 



    แต่มีอย่างหนึ่งที่น่าแปลกใจ...เพราะถึงแม่ว่าผมจะไม่รู้จักคนคนนั้น แต่ความรู้สึกกลับที่เด่นชัดขึ้นมาในความคิดของผมตอนนี้ก็คือ...ผมอยากเห็นใบหน้าของคนคนนั้นเหลือเกิน




    'ไม่นะ ไม่ อย่าเพิ่งไป อย่าเดินจากไปแบบนี้'




    ผมได้ยินตัวเองพึมพำคำพูดนั้นกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมา สายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักหน่วง ทำเอาภาพข้างหน้ากลายเป็นสีขาวโพลนไปหมด พร้อมกับแผ่นหลังของใครคนนั้นกำลังห่างออกไปเรื่อยๆ



    เพราะความอยากรู้อยากเห็นที่ติดเป็นนิสัยประจำตัวเป็นทุนเดิม ผมจึงไม่ลังเลที่จะทิ้งร่มสีเหลืองในมือลงกับพื้นอย่างไม่ใยดี สองขาก้าวไปข้างหน้าแบบยาวๆเพื่อหมายตามร่างสูงใหญ่ที่หายลับไปตรงทางแยกของทางเดินอย่างเร่งรีบ



    แต่เมื่อผมไปถึงตรงจุดที่คนคนนั้นเคยยืนก่อนหน้านี้ก็กลับพบว่ามันกลายเป็นทางแยก และเจ้าของแผ่นหลังลึกลับนั่นได้เดินหนีหายไปเสียแล้ว ผมจึงทำได้ได้แต่ยืนหมุนคว้างหันรีหันขวางอยู่ระหว่างทางซ้ายและทางขวาอย่างลังเล  ตัวของผมเปียกโชกไปทั้งตัวจนรู้สึกว่าเส้นผมลู่ไปกับกรอบใบหน้า สายฝนที่โปรยปรายลงมาฟากฟ้านั้นเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆทำให้ผมลืมตาแทบไม่ขึ้น เพราะการมองเห็นที่ไม่เป็นไปตามที่ใจต้องการ ทำให้ยิ่งรู้สึกร้อนรนมากขึ้นทุกขณะ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่รู้ถึงสาเหตุถึงความรู้สึกพวกนี้เหมือนกันว่าเพราะอะไร





    " ลีมินฮยอก "





    มีใครบางคนเรียกชื่อผมจากทางด้านหลัง นั่นทำให้ผมต้องขมวดคิ้วและหันกลับมาหาเสียงเรียกนั่นอย่างสงสัย ผมรู้สึกว่าตัวเองตกใจเล็กน้อยกับเสียงเรียกที่ฟังดูคุ้นเคยนั้น ก่อนที่ความรู้สึกตกใจจะแปรเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาที เมื่อเห็นร่างของใครบางคนที่ผมคิดว่าเคยรู้จักเขามาก่อน กำลังเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆพร้อมกับความรู้สึกราวกับตัวเองกำลังได้รับการปกป้อง



    ความรู้สึกนั้นเริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อร่มสีดำคันใหญ่ถูกเลื่อนมาหยุดอยู่เหนือศีรษะของผมที่ตัวเปียกโชกด้วยมือหนาของเจ้าของร่างสูงนั้น และทันทีที่ร่มนั้นลอยเด่นอยู่เหนือศีรษะของผม สายฝนที่เคยตกลงมาใส่หน้าใส่ตาจนแทบมองอะไรไม่เห็นก็หยุดลงไปพร้อมกับใบหน้าของเจ้าของร่มสีดำคันใหญ่ที่ปรากฎเด่นชัดขึ้น




    "มาทำอะไรที่นี่"




    เสียงทุ้มละมุนของคนที่เพิ่งปรากฎตรงหน้าทำให้ผมต้องช้อนสายตาขึ้นมองหน้าอีกฝ่ายชัดๆ



    เจ้าของร่มสีดำคันใหญ่ เป็นเด็กผู้ชายที่อยู่ในชุดนักเรียนชั้นมัธยมปลายโรงเรียนเดียวกับที่ผมเคยเรียนเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เขาคนนั้นมีรูปร่างสูงสง่าผ่าเผยถึงแม้ว่าเขายังเป็นแค่เด็กมัธยมแต่กล้ามเนื้อที่โผล่พ้นออกมาจากชุดนักเรียนนั่น ทำให้ผมรู้ว่าอีกฝ่ายคงจะเล่นกีฬาอยู่บ่อยๆ ผิวขาวที่เนียนละเอียด ผมสีดำสนิทรับกับใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับนายแบบที่เคยเห็นตามนิตยสาร และรอยยิ้มกว้างของเจ้าตัวที่กำลังส่งมาให้ผมนั้น ทำให้อดนึกไม่ได้ว่า รอยยิ้มโปรยเสน่ห์แบบนั้นคงจะทำให้สาวๆในโรงเรียนพากันคลั่งไคล้เขาอยู่ไม่น้อย




    " ฉันถามว่านายมายืนตากฝนอยู่ทำไม ลีมินฮยอก "




    ผมได้แต่ยืนกระพริบตาถี่ๆมองใบหน้าหล่อเหลาของ ชินโฮซอก ที่ยืนอยู่ตรงหน้าโดยที่ไม่ได้สนใจจะตอบคำถามของเขาเลยสักนิด นัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้นจับจ้องมาที่ผมที่เอาแต่ยืนนิ่งราวกับถูกอีกฝ่ายสะกดจิตด้วยแววตาหวานระยิบระยับราวกับมีหมู่ดาวอยู่ในนั้น มันทำให้ผมรู้สึกกำลังตกลงไปในห้วงอะไรสักอย่างที่โฮซอกเป็นคนขุดเอาไว้ ใบหน้าสมบูรณ์แบบที่ผมเห็นนั้นยังคงระบายรอยยิ้มอบอุ่นมาให้ผมอยู่อย่างนั้น แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบคำถามของโฮซอก จู่ๆก็มีเสียงใครบางคนเรียกชื่อของผมดังขึ้น





    ลีมินฮยอก ...










    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น