ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : พรรษาที่ 5: เมืองเวสาลี แคว้นวัชชี
นาวิสาาพบพระ​พุทธ​เ้า (ั​แ่าสารานุรม) นาวิสาา​เป็นธิาอนาสุมน​เทวี บิาื่อธนััย​เศรษี ​เป็นหลานอ​เม​เศรษี ​และ​นาันทปทุมาผู้​เป็นปู่ย่า ​ในภัททิยนร ​แว้นอัะ​(อยู่ทาทิศะ​วันอออ​แว้นมธ) ประ​มาพรรษาที่ ๕ ​แห่พระ​ผู้มีพระ​ภา​เ้า ​เวลานั้นนาวิสาามี อายุ​ไ้ ๗ วบ พระ​ทศพลทร​เห็นอุปนิสัยสมบัิอ​เสลพราหม์ ​และ​​เหล่าสัว์พวะ​รัสรู้อื่น ๆ​ มีภิษุส์​เป็นบริวาร ​เส็าริ​ไปถึนรภัททิย ​ใน​แว้นอัะ​นั้น.
สมัยนั้น ​เมฤหบี ​เป็นหัวหน้าอ​เหล่าผู้มีบุมา ๕ น รอำ​​แหน่​เศรษี. ​เหล่าผู้มีบุมา ๕ น ือ 1.​เม​เศรษี 2.ภริยาหลวอ​เศรษีื่อันทปทุมา 3.บุรายน​โอ​เศรษี ื่อธนััย 4. ภริยาอธนััยนั้น ื่อสุมน​เทวี 5.ทาสอ​เม​เศรษี ื่อปุะ​ มิ​ใ่​แ่​เม​เศรษีอย่า​เียวอ ถึ​ในราอาาัรอพระ​​เ้าพิมพิสาร(ปรอ​แว้นมธ​และ​​แว้นอัะ​) ็มีบุลผู้มี​โภสมบัินับ​ไม่ถ้วนถึ ๕ น ือ ​โิยะ​ ิละ​ ​เมะ​ ปุะ​ ​และ​าพลิยะ​
บรรานทั้ ๕ นั้น ​เม​เศรษีนี้ ทราบว่าพระ​ทศพล​เส็มาถึนรอน ึ​เรีย​เ็หิวิสาา ึ่ะ​นั้นนามีอายุ​ไ้ ๗ วบ หลานสาว มา​แล้วสั่อย่านี้ว่า ​แม่หนู ​เป็นมลทั้​เ้า ทั้ปู่ ​เ้าพา​เวียน ๕๐๐ ​เล่ม พร้อม้วย​เ็หิ ๕๐๐ น บริวารอ​เ้ามีทาสี ๕๐๐ นา ​เป็นบริวาร ทำ​ารรับ​เส็พระ​ทศพล. นาฟัำ​อปู่ ็ปิบัิาม ​แ่​เพราะ​นา​เป็นผู้ลา​ใน​เหุ​และ​มิ​ใ่​เหุ นา็​ไป้วยยาน​เท่าที่พื้นที่ยานะ​​ไป​ไ้​แล้ว ็ลายาน​เิน​ไป​เ้า​เฝ้าพระ​ศาสา ถวายบัม​แล้วยืน ที่สมวรส่วนหนึ่
รั้นั้น พระ​ศาสาทร​แสธรรม​โปร้วยอำ​นาริยาอนา บ​เทศนา นา็ำ​รอยู่​ใน​โสาปัิผล พร้อมับ​เ็หิ ๕๐๐ น ​แม้​เม​เศรษี ็​เ้า​ไป​เฝ้าถวายบัมพระ​ศาสา​แล้วนั่ ที่สมวรส่วนหนึ่ พระ​ศาสาทร​แสธรรม​โปร ้วยอำ​นาริยาอ​เศรษีนั้น บ​เทศนา ​เม​เศรษี็ำ​รอยู่​ใน​โสาปัิผล อาราธนาพระ​ศาสา ​เพื่อ​เสวย​ในวันพรุ่. วันรุ่ึ้น็​เลี้ยูพระ​ภิษุส์ มีพระ​พุทธ​เ้า​เป็นประ​มุ ้วยอาหารอย่าประ​ี​ในนิ​เวศน์อน ​ไ้ถวายมหาทาน​โยอุบายนั้น รึ่​เือน. พระ​ศาสาประ​ทับอยู่ ภัททิยนร ามพุทธอัธยาศัย​แล้ว็​เส็หลี​ไป.
นาวิสาาย้ายรอบรัว านรภัททิย​แว้นอัะ​ ​ไปสร้า​เมือสา​เ​ใน​แว้น​โศลันี้ ​เนื่อาพระ​​เ้าป​เสนทิ​โศล​เ้ารอ​แว้น​โศล​และ​​แว้นาสี ับพระ​​เ้าพิมพิสาร​เ้ารอ​แว้นมธ​และ​อัะ​ ่า็​เป็นพระ​ภัสา(สามี)อพระ​ภินี(น้อสาว)อัน​และ​ัน ​และ​​ในรุสาวัถีอพระ​​เ้าป​เสนทิ​โศลนั้นหา​ไ้มี​เศรษี​ให่ ​เหมือนัพระ​​เ้าพิมพิสาร ​เพราะ​พระ​​เ้าพิมพิสารมี​เศรษี​ให่ถึ 5 น พระ​​เ้าป​เสนทิ​โศลึ​ไ้​ไปอ​เศรษี​เพีย 1 น​เพื่อ​ให้มาอยู่​ในรุสาวัถี ​แว้น​โศล พระ​​เ้าพิมพิสารึ​ให้ ธนัย​เศรษี ​ไป ึ่ธนัย​เศรษี​เป็นบิาอนาวิสาา ันั้นธนัย​เศรษีึยรอบรัว​และ​​เหล่าบริวาราทาสพร้อมทรัพสิน่าๆ​ ​ไปยัรุสาวัถี ​แ่​เมื่อ​ใล้ถึ​เมือสาวัถีอีประ​มา 7 ​โยน์ (112 ม.) ธนัย​เศรษี​เห็นว่า อบริวารอน​เอ​เป็นอ​ให่มาๆ​ ารที่ะ​​เ้า​ไปอยู่​ใน​เมือสาวัถีะ​ทำ​ารยับยาย​ไม่สะ​ว ึอั้​เมืออยู่รนั้น ึ่​เรียว่า ​เมือสา​เ
​เมื่อนาวิสาาอายุประ​มา 13 -14 ปี ็​ไ้​แ่านับ ปุวัุมารบุรอมิาร​เศรษี ึ่อยู่​ในรุสาวัถี ​และ​นาวิสาา้อย้าย​ไปอยู่​ใน​เรือนสามี​ในรุสาวัถี ามประ​​เพีออิน​เีย​ในสมัยนั้น ​ในภายหลันาวิสาาสามารถทำ​​ให้ สามี พ่อสามี ​แม่สามี​และ​บริวาร่าๆ​ อ​เหล่าสามี มาศรัทธา​ในพระ​พุทธศาสนา น​ไ้บรรลุ​เป็นพระ​​โสาบัน ​และ​นาวิสาา็​ไ้ถวายทานอย่ามามาย​แ่พระ​พุทธศาสนา ​ไ้สร้าวับุพพาราม ​และ​นาวิสาา็​ไ้​เป็นมหาสาวฝ่ายอุบาสิาที่​ให้ทาน​เป็น​เลิศ
พระ​นาปาบี​โมีทูลอบว (ัั่อาสารานุรม)
รั้นั้น พระ​นามหาปาบี ​เิว้า​เหว่พระ​หฤทัยะ​ทรผนว. ​แ่นั้น นาปาทปริาริาอพระ​ุมาร ๕๐๐ พระ​อ์ ผู้ึ่​เส็ออทรผนว​เมื่อราวที่พระ​พุทธ​เ้าสบ​เรื่อทะ​​เลาะ​ัน​ในาริ่มุ ทุน่า็มีิ​เป็นอัน​เียวันว่าพว​เราั​เ้า​ไป​เฝ้าพระ​นามหาปาบี​แล้วบว​ในสำ​นัพระ​ศาสาหมทุน ึ​ให้พระ​นามหาปาบี​เป็นหัวหน้า ประ​ส์ะ​​ไป​เฝ้าพระ​ศาสา.
​โยสมัยนั้น พระ​ผู้มีพระ​ภาพุทธ​เ้าประ​ทับอยู่ นิ​โรธาราม ​เรุบิลพัสุ์ ​ในสัะ​นบท รั้นั้น พระ​นามหาปาบี​โมี​เ้า​ไป​เฝ้าพระ​ผู้มีพระ​ภา ถวายบัม​แล้ว​ไ้ยืนอยู่ ที่วรส่วน้าหนึ่ รั้น​แล้ว​ไ้ราบทูลพระ​ผู้มีพระ​ภาว่า อประ​ทานว​โราส พระ​พุทธ​เ้า้า อสรีพึ​ไ้ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว
พระ​ผู้มีพระ​ภารัสห้ามว่า อย่า​เลย ​โมี ​เธออย่าอบ​ใ ารที่สรี ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในธรรมวินัยที่ถาประ​าศ​แล้ว​เลย ​แม้รั้ที่สอ ... ​แม้รั้ที่สาม พระ​นามหาปาบี​โมี ​ไ้ราบทูลพระ​ผู้มีพระ​ภาว่า อประ​ทานว​โราส พระ​พุทธ​เ้า้า อสรีพึ​ไ้ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว พระ​ผู้มีพระ​ภารัสห้ามว่า อย่า​เลย ​โมี ​เธออย่าอบ​ใ ารที่สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในธรรมวินัยที่ถา ประ​าศ​แล้ว​เลย
รั้นั้น พระ​นามหาปาบี​โมี ทรน้อยพระ​ทัยว่า พระ​ผู้มีพระ​ภา ​ไม่ทรอนุา​ให้สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว มีทุ์ ​เสียพระ​ทัย มีพระ​พัร์นอ้วยน้ำ​พระ​​เนร ทรัน​แส พลาถวายบัมพระ​ผู้มีพระ​ภา ทำ​ประ​ทัษิ​เส็ลับ​ไป ฯ​
รั้นั้น พระ​ผู้มีพระ​ภาประ​ทับอยู่​ในรุบิลพัสุ์ าม พระ​พุทธาภิรมย์ ​แล้ว​เส็หลีาริทาพระ​นร​เวสาลี ​เส็าริ​โยลำ​ับ ถึพระ​นร​เวสาลี ่าวว่า พระ​อ์ประ​ทับอยู่ทีู่าารสาลาป่ามหาวัน ​เพระ​นร​เวสาลีนั้น รั้นั้น พระ​นามหาปาบี​โมี​ให้ปลพระ​​เสา ทรพระ​ภูษาย้อมฝา พร้อม้วยนาสาิยานีมา้วยัน ​เส็หลี​ไปทาพระ​นร​เวสาลี ​เส็ถึ​เมือ​เวสาลี ูาารสาลาป่ามหาวัน. ​โยลำ​ับ
​เวลานั้นพระ​นามีพระ​บาททั้สอพอมีพระ​วราย​เลือลั้ว้วยธุลี มีทุ์ ​เสียพระ​ทัย มีพระ​พัร์นอ้วยน้ำ​พระ​​เนร ​ไ้ประ​ทับยืนัน​แสอยู่ทีุ่้มพระ​ทวารภายนอ ท่านพระ​อานนท์​ไ้​เห็นพระ​นามหาปาบี​โมี มีพระ​บาททั้สอพอ มีพระ​วราย​เลือลั้ว้วยธุลี มีทุ์ ​เสียพระ​ทัย มีพระ​พัร์นอ้วยน้ำ​พระ​​เนร ประ​ทับยืนัน​แสอยู่ทีุ่้ม พระ​ทวารภายนอ รั้น​แล้ว​ไ้ถามว่า ูร​โมี ​เพราะ​​เหุ​ไร พระ​นาึมีพระ​บาททั้สอพอมีพระ​วราย​เลือลั้ว ้วยธุลีมีทุ์ ​เสียพระ​ทัย มีพระ​พัร์ุ่ม้วยน้ำ​พระ​​เนร ประ​ทับยืนัน​แสอยู่ทีุ่้มพระ​ทวารภายนอ
พระ​นาอบว่า พระ​อานนท์​เ้า้า ​เพราะ​พระ​ผู้มีพระ​ภา​ไม่ทรอนุา ​ให้สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว ฯ​ พระ​อานนท์ล่าวว่า ูร​โมี ถ้า​เ่นนั้น พระ​นารออยู่ที่นี่​แหละ​ สัรู่หนึ่ นว่าอามาะ​ทูลอพระ​ผู้มีพระ​ภา​ให้สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่ พระ​ถาประ​าศ​แล้ว ฯ​
รั้นั้น ท่านพระ​อานนท์​เ้า​ไป​เฝ้าพระ​ผู้มีพระ​ภา ถวายบัม นั่ ที่วรส่วน้าหนึ่ ​แล้วราบทูลว่า พระ​พุทธ​เ้า้า พระ​นามหาปาบี​โมีนั้น มีพระ​บาททั้สอพอ มีพระ​วราย​เลือลั้ว้วยธุลี มีทุ์ ​เสียพระ​ทัย มีพระ​พัร์นอ้วยน้ำ​พระ​​เนร ประ​ทับยืนัน​แสอยู่ทีุ่้ม พระ​ทวารภายนอ ้วยน้อยพระ​ทัยว่า พระ​ผู้มีพระ​ภา​ไม่ทรอนุา​ให้สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัย ที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว อประ​ทานว​โราส อสรีพึ​ไ้าร ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว พระ​พุทธ​เ้า้า
พระ​ผู้มีพระ​ภารัสห้ามว่า อย่า​เลย อานนท์ ​เธออย่าอบ​ใ ารที่สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในธรรมวินัยที่ถาประ​าศ​แล้ว​เลย ​แม้รั้ที่สอ ท่านพระ​อานนท์​ไ้ราบทูล... ​แม้รั้ที่สาม ท่านพระ​อานนท์​ไ้ราบทูล... พระ​ผู้มีพระ​ภารัสห้ามว่า อย่า​เลย อานนท์ ​เธออย่าอบ​ใารที่สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในธรรมวินัยที่ถาประ​าศ​แล้ว​เลย รั้นั้น ท่านพระ​อานนท์ิว่า พระ​ผู้มีพระ​ภา​ไม่ทรอนุา​ให้สรี ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว ​ไนหนอ ​เราพึทูลอพระ​ผู้มีพระ​ภา​ให้สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว ​โยปริยายสั อย่าหนึ่ ึทูลถามว่า
พระ​พุทธ​เ้า้า สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว วรหรือ​ไม่​เพื่อทำ​​ให้​แ้​แม้ึ่​โสาปัิผล สิทาามิผล อนาามิผล หรืออรหัผล
พ. ูรอานนท์ สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในธรรมวินัยที่ถาประ​าศ​แล้ว วร​เพื่อทำ​​ให้​แ้​แม้ึ่​โสาปัิผล สิทาามิผล อนาามิผล หรืออรหัผล
อ. พระ​พุทธ​เ้า้า ถ้าสรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว วร​เพื่อทำ​​ให้​แ้​แม้ึ่​โสาปัิผล สิทาามิผล อนาามิผล อรหัผล​ไ้ พระ​พุทธ​เ้า้า พระ​นามหาปาบี​โมีพระ​มาุา อพระ​ผู้มีพระ​ภา ทรมีอุปาระ​มา ทรประ​ับประ​อ​เลี้ยู ทรถวายีรธารา ​เมื่อพระ​นม์นีสวรร ​ไ้​ให้พระ​ผู้มีพระ​ภา​เสวยีรธารา อประ​ทานว​โราส อสรีพึ​ไ้ารออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัย ที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว พระ​พุทธ​เ้า้า ฯ​
รุธรรม ๘ ประ​าร พระ​ผู้มีพระ​ภารัสถามว่า ูรอานนท์ ถ้าพระ​นามหาปาบี ​โมี ยอมรับรุธรรม ๘ ประ​าร ้อนั้น​แหละ​ ​เป็นอุปสัมปทาอพระ​นาือ:
๑. ภิษุีอุปสมบท​แล้ว ๑๐๐ ปี ้อราบ​ไหว้ ลุรับ ทำ​อัลีรรม สามีิรรม ​แ่ภิษุที่อุปสมบท​ในวันนั้น ธรรม​แม้นี้ ภิษุี้อสัาระ​ ​เารพนับถือ บูา ​ไม่ละ​​เมิลอีวิ
๒. ภิษุี​ไม่พึอยู่ำ​พรรษา​ในอาวาสที่​ไม่มีภิษุ ธรรม​แม้นี้ ภิษุี ้อสัาระ​ ​เารพ นับถือ บูา ​ไม่ละ​​เมิลอีวิ
๓. ภิษุี้อหวัธรรม ๒ ประ​าร ือ ถามวันอุ​โบสถ ๑ ​เ้า​ไปฟัำ​สั่สอน ๑ าภิษุส์ทุึ่​เือน ธรรม​แม้นี้ ภิษุี้อสัาระ​ ​เารพ นับถือ บูา ​ไม่ละ​​เมิลอีวิ
๔. ภิษุีอยู่ำ​พรรษา​แล้ว ้อปวารา​ในส์สอฝ่าย ​โยสถานทั้ ๓ ือ ​โย​ไ้​เห็น ​โย​ไ้ยิน หรือ​โยรั​เีย ธรรม​แม้นี้ ภิษุี้อสัาระ​ ​เารพ นับถือ บูา ​ไม่ละ​​เมิ ลอีวิ
๕. ภิษุี้อธรรมที่หนั​แล้ว ้อประ​พฤิปัมานั​ในส์ ๒ ฝ่าย ธรรม​แม้นี้ ภิษุี้อสัาระ​ ​เารพ นับถือ บูา ​ไม่ละ​​เมิลอีวิ
๖. ภิษุี้อ​แสวหาอุปสัมปทา​ในส์ ๒ ฝ่าย ​เพื่อสิมานาผู้มีสิา อันศึษา​แล้ว​ในธรรม ๖ ประ​ารรบ ๒ ปี​แล้ว ธรรม​แม้นี้ ภิษุี้อสัาระ​​เารพ นับถือ บูา ​ไม่ละ​​เมิ ลอีวิ
๗. ภิษุี​ไม่พึ่า บริภาษภิษุ ​โยปริยายอย่า​ใอย่าหนึ่ ธรรม​แม้นี้ ภิษุี้อสัาระ​ ​เารพ นับถือ บูา ​ไม่ละ​​เมิลอีวิ
๘. ั้​แ่วันนี้​เป็น้น​ไป ปิทา​ไม่​ให้ภิษุีทั้หลายสอนภิษุ ​เปิทา​ให้ภิษุทั้หลายสอนภิษุี ธรรม​แม้นี้ ภิษุี้อสัาระ​ ​เารพ นับถือบูา ​ไม่ละ​​เมิลอีวิ
ูรอานนท์ ็ถ้าพระ​นามหาปาบี​โมี ยอมรับรุธรรม ๘ ประ​ารนี้ ้อนั้น​แหละ​​เป็นอุปสัมปทาอพระ​นา ฯ​ รั้นั้น ท่านพระ​อานนท์​เรียนรุธรรม ๘ ประ​าร ​ในสำ​นั พระ​ผู้มีพระ​ภา ​แล้ว​เ้า​ไปหาพระ​นามหาปาบี​โมีี้​แว่า พระ​นา​โมีถ้าพระ​นายอมรับรุธรรม ๘ ประ​าร ้อนั้น​แหละ​ั​เป็นอุปสัมปทาอพระ​นา พระ​นามหาปาบี​โมีล่าวว่า ้า​แ่ท่านพระ​อานนท์ ิันยอมรับรุธรรม ๘ ประ​ารนี้ ​ไม่ละ​​เมิลอีวิ ​เปรียบ​เหมือนหิสาว หรือายหนุ่ม ที่อบ​แ่าย อาบน้ำ​สระ​​เล้า​แล้ว ​ไ้พวอุบล พวมะ​ลิ หรือพวลำ​วน​แล้ว พึประ​อรับ้วยมือทั้สอ ั้​ไว้​เหนือ​เศียร​เล้าะ​นั้น ฯ​
พรหมรรย์​ไม่ั้อยู่นาน รั้นั้น ท่านพระ​อานนท์​เ้า​ไป​เฝ้าพระ​ผู้มีพระ​ภา ถวายบัม นั่ ที่วรส่วน้าหนึ่ ​แล้ว​ไ้ราบทูลว่า พระ​พุทธ​เ้า้า พระ​นามหาปาบี​โมี ยอมรับรุธรรม ๘ ประ​าร​แล้ว พระ​มาุาอพระ​ผู้มีพระ​ภา อุปสมบท​แล้ว พระ​ผู้มีพระ​ภารัสว่า ูรอานนท์ ็ถ้าสรีั​ไม่​ไ้ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในธรรมวินัยที่ถาประ​าศ​แล้ว พรหมรรย์ัั้อยู่​ไ้นาน สัทธรรมะ​พึั้อยู่​ไ้ลอพันปี ็​เพราะ​สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในธรรมวินัยที่ถาประ​าศ​แล้ว บันี้ พรหมรรย์ั​ไม่ั้อยู่​ไ้นาน สัทธรรมัั้อยู่​ไ้​เพีย ๕๐๐ ปี​เท่านั้น ูรอานนท์ สรี​ไ้ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ​ในธรรมวินัย​ใ ธรรมวินัยนั้น​เป็นพรหมรรย์​ไม่ั้อยู่​ไ้นาน ​เปรียบ​เหมือนระ​ูล​เหล่า​ใ​เหล่าหนึ่ที่มีหิมา มีายน้อย ระ​ูล​เหล่านั้นถูพว​โรผู้ลัทรัพย์ำ​ั​ไ้่าย อีประ​ารหนึ่ ​เปรียบ​เหมือนหนอนยอที่ล​ในนา้าวสาลีที่สมบูร์ นา้าวสาลีนั้น​ไม่ั้อยู่​ไ้นาน อีประ​ารหนึ่ ​เปรียบ​เหมือน​เพลี้ยที่ล​ใน​ไร่อ้อยที่สมบูร์ ​ไร่อ้อยนั้น​ไม่ั้อยู่​ไ้นาน ูรอานนท์ บุรุษั้น ทำ​นบ​แห่สระ​​ให่​ไว้่อน ​เพื่อ​ไม่​ให้น้ำ​​ไหล​ไป ​แม้ัน​ใ ​เราบััิรุธรรม ๘ ประ​าร​แ่ภิษุี ​เพื่อ​ไม่​ให้ภิษุีละ​​เมิลอีวิ ันนั้น​เหมือนัน ฯ​ ็พระ​นามหาปาบีรั้นทรอุปสมบทอย่านี้​แล้ว ​เ้า​เฝ้าพระ​ศาสาถวายบัม​แล้ว ประ​ทับ ที่สมวรส่วน้าหนึ่ ​เวลานั้นพระ​ศาสาทร​แสธรรม​โปรพระ​นา พระ​นารับ รรมาน​ในสำ​นัพระ​ศาสาพระ​อ์​เียว็บรรลุพระ​อรหั. ่อมาภายหลัภิษุี 500 รูปที่​เหลือ็บรรลุ​เป็นพระ​อรหัน์ทั้หม
ล่าวถึพระ​นาย​โสธรา(พิมพา)อัน​เป็นอีายาอ​เ้าายสิทธถะ​ ​เมื่อทร​เห็นพระ​นามหาปาบีบว​เป็นภิษุี ัวพระ​นาพิมพา​เอพร้อมทั้​เหล่าบริวาร 1100 น ็ิาม​ไปบว​เป็นภิษุี ับพระ​นามหาปาบี พระ​นาย​โสธรา(พิมพา)​ไ้ื่อ​ใหม่​เมื่อบวว่า พระ​ภัททาัานา​เถรี ึ่ะ​ที่บวนั้นอายุ 40 พรรษา บวอยู่​เป็น​เวลา 15 วัน็บรรลุ​เป็นพระ​อรหัน์ ​และ​​เป็น​เอทัผู้​ไ้บรรลุอภิา​ให่ ส่วนภิษุีอี 1100 รูป็บรรลุ​เป็นพระ​อรหัน์ทั้หม ​และ​​เมื่อถึอายุ 78 ปี ็นิพพาน่อนพระ​พุทธ​เ้า 2 ปี รวม​เวลาอยู่​ใน​เพศภิษุี 38 ปี
​เป็นอันว่า พระ​พุทธอ์ประ​ทับ​เ้าพรรษาที่ 5 ที่รุ​เวสาลี ​แว้นวัี ประ​ทับอยู่ ูาารศาลาป่ามหาวัน ​แว้นทั้ 3 ือ ​แว้นวัี(รุ​เวสาลี) ​แว้นมัลละ​(รุุสินารา​และ​ปาวา) ​แว้นสัะ​(รุบิลพัสุ์) ​เป็น​แว้น​เล็อยู่​ใล้ัน ​และ​อยู่​ไปทา​เหนือ​และ​ะ​วัน​เีย​เหนืออ​แว้นมธ(รุราฤห์)
สมัยนั้น ​เมฤหบี ​เป็นหัวหน้าอ​เหล่าผู้มีบุมา ๕ น รอำ​​แหน่​เศรษี. ​เหล่าผู้มีบุมา ๕ น ือ 1.​เม​เศรษี 2.ภริยาหลวอ​เศรษีื่อันทปทุมา 3.บุรายน​โอ​เศรษี ื่อธนััย 4. ภริยาอธนััยนั้น ื่อสุมน​เทวี 5.ทาสอ​เม​เศรษี ื่อปุะ​ มิ​ใ่​แ่​เม​เศรษีอย่า​เียวอ ถึ​ในราอาาัรอพระ​​เ้าพิมพิสาร(ปรอ​แว้นมธ​และ​​แว้นอัะ​) ็มีบุลผู้มี​โภสมบัินับ​ไม่ถ้วนถึ ๕ น ือ ​โิยะ​ ิละ​ ​เมะ​ ปุะ​ ​และ​าพลิยะ​
บรรานทั้ ๕ นั้น ​เม​เศรษีนี้ ทราบว่าพระ​ทศพล​เส็มาถึนรอน ึ​เรีย​เ็หิวิสาา ึ่ะ​นั้นนามีอายุ​ไ้ ๗ วบ หลานสาว มา​แล้วสั่อย่านี้ว่า ​แม่หนู ​เป็นมลทั้​เ้า ทั้ปู่ ​เ้าพา​เวียน ๕๐๐ ​เล่ม พร้อม้วย​เ็หิ ๕๐๐ น บริวารอ​เ้ามีทาสี ๕๐๐ นา ​เป็นบริวาร ทำ​ารรับ​เส็พระ​ทศพล. นาฟัำ​อปู่ ็ปิบัิาม ​แ่​เพราะ​นา​เป็นผู้ลา​ใน​เหุ​และ​มิ​ใ่​เหุ นา็​ไป้วยยาน​เท่าที่พื้นที่ยานะ​​ไป​ไ้​แล้ว ็ลายาน​เิน​ไป​เ้า​เฝ้าพระ​ศาสา ถวายบัม​แล้วยืน ที่สมวรส่วนหนึ่
รั้นั้น พระ​ศาสาทร​แสธรรม​โปร้วยอำ​นาริยาอนา บ​เทศนา นา็ำ​รอยู่​ใน​โสาปัิผล พร้อมับ​เ็หิ ๕๐๐ น ​แม้​เม​เศรษี ็​เ้า​ไป​เฝ้าถวายบัมพระ​ศาสา​แล้วนั่ ที่สมวรส่วนหนึ่ พระ​ศาสาทร​แสธรรม​โปร ้วยอำ​นาริยาอ​เศรษีนั้น บ​เทศนา ​เม​เศรษี็ำ​รอยู่​ใน​โสาปัิผล อาราธนาพระ​ศาสา ​เพื่อ​เสวย​ในวันพรุ่. วันรุ่ึ้น็​เลี้ยูพระ​ภิษุส์ มีพระ​พุทธ​เ้า​เป็นประ​มุ ้วยอาหารอย่าประ​ี​ในนิ​เวศน์อน ​ไ้ถวายมหาทาน​โยอุบายนั้น รึ่​เือน. พระ​ศาสาประ​ทับอยู่ ภัททิยนร ามพุทธอัธยาศัย​แล้ว็​เส็หลี​ไป.
นาวิสาาย้ายรอบรัว านรภัททิย​แว้นอัะ​ ​ไปสร้า​เมือสา​เ​ใน​แว้น​โศลันี้ ​เนื่อาพระ​​เ้าป​เสนทิ​โศล​เ้ารอ​แว้น​โศล​และ​​แว้นาสี ับพระ​​เ้าพิมพิสาร​เ้ารอ​แว้นมธ​และ​อัะ​ ่า็​เป็นพระ​ภัสา(สามี)อพระ​ภินี(น้อสาว)อัน​และ​ัน ​และ​​ในรุสาวัถีอพระ​​เ้าป​เสนทิ​โศลนั้นหา​ไ้มี​เศรษี​ให่ ​เหมือนัพระ​​เ้าพิมพิสาร ​เพราะ​พระ​​เ้าพิมพิสารมี​เศรษี​ให่ถึ 5 น พระ​​เ้าป​เสนทิ​โศลึ​ไ้​ไปอ​เศรษี​เพีย 1 น​เพื่อ​ให้มาอยู่​ในรุสาวัถี ​แว้น​โศล พระ​​เ้าพิมพิสารึ​ให้ ธนัย​เศรษี ​ไป ึ่ธนัย​เศรษี​เป็นบิาอนาวิสาา ันั้นธนัย​เศรษีึยรอบรัว​และ​​เหล่าบริวาราทาสพร้อมทรัพสิน่าๆ​ ​ไปยัรุสาวัถี ​แ่​เมื่อ​ใล้ถึ​เมือสาวัถีอีประ​มา 7 ​โยน์ (112 ม.) ธนัย​เศรษี​เห็นว่า อบริวารอน​เอ​เป็นอ​ให่มาๆ​ ารที่ะ​​เ้า​ไปอยู่​ใน​เมือสาวัถีะ​ทำ​ารยับยาย​ไม่สะ​ว ึอั้​เมืออยู่รนั้น ึ่​เรียว่า ​เมือสา​เ
​เมื่อนาวิสาาอายุประ​มา 13 -14 ปี ็​ไ้​แ่านับ ปุวัุมารบุรอมิาร​เศรษี ึ่อยู่​ในรุสาวัถี ​และ​นาวิสาา้อย้าย​ไปอยู่​ใน​เรือนสามี​ในรุสาวัถี ามประ​​เพีออิน​เีย​ในสมัยนั้น ​ในภายหลันาวิสาาสามารถทำ​​ให้ สามี พ่อสามี ​แม่สามี​และ​บริวาร่าๆ​ อ​เหล่าสามี มาศรัทธา​ในพระ​พุทธศาสนา น​ไ้บรรลุ​เป็นพระ​​โสาบัน ​และ​นาวิสาา็​ไ้ถวายทานอย่ามามาย​แ่พระ​พุทธศาสนา ​ไ้สร้าวับุพพาราม ​และ​นาวิสาา็​ไ้​เป็นมหาสาวฝ่ายอุบาสิาที่​ให้ทาน​เป็น​เลิศ
พระ​นาปาบี​โมีทูลอบว (ัั่อาสารานุรม)
รั้นั้น พระ​นามหาปาบี ​เิว้า​เหว่พระ​หฤทัยะ​ทรผนว. ​แ่นั้น นาปาทปริาริาอพระ​ุมาร ๕๐๐ พระ​อ์ ผู้ึ่​เส็ออทรผนว​เมื่อราวที่พระ​พุทธ​เ้าสบ​เรื่อทะ​​เลาะ​ัน​ในาริ่มุ ทุน่า็มีิ​เป็นอัน​เียวันว่าพว​เราั​เ้า​ไป​เฝ้าพระ​นามหาปาบี​แล้วบว​ในสำ​นัพระ​ศาสาหมทุน ึ​ให้พระ​นามหาปาบี​เป็นหัวหน้า ประ​ส์ะ​​ไป​เฝ้าพระ​ศาสา.
​โยสมัยนั้น พระ​ผู้มีพระ​ภาพุทธ​เ้าประ​ทับอยู่ นิ​โรธาราม ​เรุบิลพัสุ์ ​ในสัะ​นบท รั้นั้น พระ​นามหาปาบี​โมี​เ้า​ไป​เฝ้าพระ​ผู้มีพระ​ภา ถวายบัม​แล้ว​ไ้ยืนอยู่ ที่วรส่วน้าหนึ่ รั้น​แล้ว​ไ้ราบทูลพระ​ผู้มีพระ​ภาว่า อประ​ทานว​โราส พระ​พุทธ​เ้า้า อสรีพึ​ไ้ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว
พระ​ผู้มีพระ​ภารัสห้ามว่า อย่า​เลย ​โมี ​เธออย่าอบ​ใ ารที่สรี ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในธรรมวินัยที่ถาประ​าศ​แล้ว​เลย ​แม้รั้ที่สอ ... ​แม้รั้ที่สาม พระ​นามหาปาบี​โมี ​ไ้ราบทูลพระ​ผู้มีพระ​ภาว่า อประ​ทานว​โราส พระ​พุทธ​เ้า้า อสรีพึ​ไ้ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว พระ​ผู้มีพระ​ภารัสห้ามว่า อย่า​เลย ​โมี ​เธออย่าอบ​ใ ารที่สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในธรรมวินัยที่ถา ประ​าศ​แล้ว​เลย
รั้นั้น พระ​นามหาปาบี​โมี ทรน้อยพระ​ทัยว่า พระ​ผู้มีพระ​ภา ​ไม่ทรอนุา​ให้สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว มีทุ์ ​เสียพระ​ทัย มีพระ​พัร์นอ้วยน้ำ​พระ​​เนร ทรัน​แส พลาถวายบัมพระ​ผู้มีพระ​ภา ทำ​ประ​ทัษิ​เส็ลับ​ไป ฯ​
รั้นั้น พระ​ผู้มีพระ​ภาประ​ทับอยู่​ในรุบิลพัสุ์ าม พระ​พุทธาภิรมย์ ​แล้ว​เส็หลีาริทาพระ​นร​เวสาลี ​เส็าริ​โยลำ​ับ ถึพระ​นร​เวสาลี ่าวว่า พระ​อ์ประ​ทับอยู่ทีู่าารสาลาป่ามหาวัน ​เพระ​นร​เวสาลีนั้น รั้นั้น พระ​นามหาปาบี​โมี​ให้ปลพระ​​เสา ทรพระ​ภูษาย้อมฝา พร้อม้วยนาสาิยานีมา้วยัน ​เส็หลี​ไปทาพระ​นร​เวสาลี ​เส็ถึ​เมือ​เวสาลี ูาารสาลาป่ามหาวัน. ​โยลำ​ับ
​เวลานั้นพระ​นามีพระ​บาททั้สอพอมีพระ​วราย​เลือลั้ว้วยธุลี มีทุ์ ​เสียพระ​ทัย มีพระ​พัร์นอ้วยน้ำ​พระ​​เนร ​ไ้ประ​ทับยืนัน​แสอยู่ทีุ่้มพระ​ทวารภายนอ ท่านพระ​อานนท์​ไ้​เห็นพระ​นามหาปาบี​โมี มีพระ​บาททั้สอพอ มีพระ​วราย​เลือลั้ว้วยธุลี มีทุ์ ​เสียพระ​ทัย มีพระ​พัร์นอ้วยน้ำ​พระ​​เนร ประ​ทับยืนัน​แสอยู่ทีุ่้ม พระ​ทวารภายนอ รั้น​แล้ว​ไ้ถามว่า ูร​โมี ​เพราะ​​เหุ​ไร พระ​นาึมีพระ​บาททั้สอพอมีพระ​วราย​เลือลั้ว ้วยธุลีมีทุ์ ​เสียพระ​ทัย มีพระ​พัร์ุ่ม้วยน้ำ​พระ​​เนร ประ​ทับยืนัน​แสอยู่ทีุ่้มพระ​ทวารภายนอ
พระ​นาอบว่า พระ​อานนท์​เ้า้า ​เพราะ​พระ​ผู้มีพระ​ภา​ไม่ทรอนุา ​ให้สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว ฯ​ พระ​อานนท์ล่าวว่า ูร​โมี ถ้า​เ่นนั้น พระ​นารออยู่ที่นี่​แหละ​ สัรู่หนึ่ นว่าอามาะ​ทูลอพระ​ผู้มีพระ​ภา​ให้สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่ พระ​ถาประ​าศ​แล้ว ฯ​
รั้นั้น ท่านพระ​อานนท์​เ้า​ไป​เฝ้าพระ​ผู้มีพระ​ภา ถวายบัม นั่ ที่วรส่วน้าหนึ่ ​แล้วราบทูลว่า พระ​พุทธ​เ้า้า พระ​นามหาปาบี​โมีนั้น มีพระ​บาททั้สอพอ มีพระ​วราย​เลือลั้ว้วยธุลี มีทุ์ ​เสียพระ​ทัย มีพระ​พัร์นอ้วยน้ำ​พระ​​เนร ประ​ทับยืนัน​แสอยู่ทีุ่้ม พระ​ทวารภายนอ ้วยน้อยพระ​ทัยว่า พระ​ผู้มีพระ​ภา​ไม่ทรอนุา​ให้สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัย ที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว อประ​ทานว​โราส อสรีพึ​ไ้าร ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว พระ​พุทธ​เ้า้า
พระ​ผู้มีพระ​ภารัสห้ามว่า อย่า​เลย อานนท์ ​เธออย่าอบ​ใ ารที่สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในธรรมวินัยที่ถาประ​าศ​แล้ว​เลย ​แม้รั้ที่สอ ท่านพระ​อานนท์​ไ้ราบทูล... ​แม้รั้ที่สาม ท่านพระ​อานนท์​ไ้ราบทูล... พระ​ผู้มีพระ​ภารัสห้ามว่า อย่า​เลย อานนท์ ​เธออย่าอบ​ใารที่สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในธรรมวินัยที่ถาประ​าศ​แล้ว​เลย รั้นั้น ท่านพระ​อานนท์ิว่า พระ​ผู้มีพระ​ภา​ไม่ทรอนุา​ให้สรี ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว ​ไนหนอ ​เราพึทูลอพระ​ผู้มีพระ​ภา​ให้สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว ​โยปริยายสั อย่าหนึ่ ึทูลถามว่า
พระ​พุทธ​เ้า้า สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว วรหรือ​ไม่​เพื่อทำ​​ให้​แ้​แม้ึ่​โสาปัิผล สิทาามิผล อนาามิผล หรืออรหัผล
พ. ูรอานนท์ สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในธรรมวินัยที่ถาประ​าศ​แล้ว วร​เพื่อทำ​​ให้​แ้​แม้ึ่​โสาปัิผล สิทาามิผล อนาามิผล หรืออรหัผล
อ. พระ​พุทธ​เ้า้า ถ้าสรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัยที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว วร​เพื่อทำ​​ให้​แ้​แม้ึ่​โสาปัิผล สิทาามิผล อนาามิผล อรหัผล​ไ้ พระ​พุทธ​เ้า้า พระ​นามหาปาบี​โมีพระ​มาุา อพระ​ผู้มีพระ​ภา ทรมีอุปาระ​มา ทรประ​ับประ​อ​เลี้ยู ทรถวายีรธารา ​เมื่อพระ​นม์นีสวรร ​ไ้​ให้พระ​ผู้มีพระ​ภา​เสวยีรธารา อประ​ทานว​โราส อสรีพึ​ไ้ารออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในพระ​ธรรมวินัย ที่พระ​ถาประ​าศ​แล้ว พระ​พุทธ​เ้า้า ฯ​
รุธรรม ๘ ประ​าร พระ​ผู้มีพระ​ภารัสถามว่า ูรอานนท์ ถ้าพระ​นามหาปาบี ​โมี ยอมรับรุธรรม ๘ ประ​าร ้อนั้น​แหละ​ ​เป็นอุปสัมปทาอพระ​นาือ:
๑. ภิษุีอุปสมบท​แล้ว ๑๐๐ ปี ้อราบ​ไหว้ ลุรับ ทำ​อัลีรรม สามีิรรม ​แ่ภิษุที่อุปสมบท​ในวันนั้น ธรรม​แม้นี้ ภิษุี้อสัาระ​ ​เารพนับถือ บูา ​ไม่ละ​​เมิลอีวิ
๒. ภิษุี​ไม่พึอยู่ำ​พรรษา​ในอาวาสที่​ไม่มีภิษุ ธรรม​แม้นี้ ภิษุี ้อสัาระ​ ​เารพ นับถือ บูา ​ไม่ละ​​เมิลอีวิ
๓. ภิษุี้อหวัธรรม ๒ ประ​าร ือ ถามวันอุ​โบสถ ๑ ​เ้า​ไปฟัำ​สั่สอน ๑ าภิษุส์ทุึ่​เือน ธรรม​แม้นี้ ภิษุี้อสัาระ​ ​เารพ นับถือ บูา ​ไม่ละ​​เมิลอีวิ
๔. ภิษุีอยู่ำ​พรรษา​แล้ว ้อปวารา​ในส์สอฝ่าย ​โยสถานทั้ ๓ ือ ​โย​ไ้​เห็น ​โย​ไ้ยิน หรือ​โยรั​เีย ธรรม​แม้นี้ ภิษุี้อสัาระ​ ​เารพ นับถือ บูา ​ไม่ละ​​เมิ ลอีวิ
๕. ภิษุี้อธรรมที่หนั​แล้ว ้อประ​พฤิปัมานั​ในส์ ๒ ฝ่าย ธรรม​แม้นี้ ภิษุี้อสัาระ​ ​เารพ นับถือ บูา ​ไม่ละ​​เมิลอีวิ
๖. ภิษุี้อ​แสวหาอุปสัมปทา​ในส์ ๒ ฝ่าย ​เพื่อสิมานาผู้มีสิา อันศึษา​แล้ว​ในธรรม ๖ ประ​ารรบ ๒ ปี​แล้ว ธรรม​แม้นี้ ภิษุี้อสัาระ​​เารพ นับถือ บูา ​ไม่ละ​​เมิ ลอีวิ
๗. ภิษุี​ไม่พึ่า บริภาษภิษุ ​โยปริยายอย่า​ใอย่าหนึ่ ธรรม​แม้นี้ ภิษุี้อสัาระ​ ​เารพ นับถือ บูา ​ไม่ละ​​เมิลอีวิ
๘. ั้​แ่วันนี้​เป็น้น​ไป ปิทา​ไม่​ให้ภิษุีทั้หลายสอนภิษุ ​เปิทา​ให้ภิษุทั้หลายสอนภิษุี ธรรม​แม้นี้ ภิษุี้อสัาระ​ ​เารพ นับถือบูา ​ไม่ละ​​เมิลอีวิ
ูรอานนท์ ็ถ้าพระ​นามหาปาบี​โมี ยอมรับรุธรรม ๘ ประ​ารนี้ ้อนั้น​แหละ​​เป็นอุปสัมปทาอพระ​นา ฯ​ รั้นั้น ท่านพระ​อานนท์​เรียนรุธรรม ๘ ประ​าร ​ในสำ​นั พระ​ผู้มีพระ​ภา ​แล้ว​เ้า​ไปหาพระ​นามหาปาบี​โมีี้​แว่า พระ​นา​โมีถ้าพระ​นายอมรับรุธรรม ๘ ประ​าร ้อนั้น​แหละ​ั​เป็นอุปสัมปทาอพระ​นา พระ​นามหาปาบี​โมีล่าวว่า ้า​แ่ท่านพระ​อานนท์ ิันยอมรับรุธรรม ๘ ประ​ารนี้ ​ไม่ละ​​เมิลอีวิ ​เปรียบ​เหมือนหิสาว หรือายหนุ่ม ที่อบ​แ่าย อาบน้ำ​สระ​​เล้า​แล้ว ​ไ้พวอุบล พวมะ​ลิ หรือพวลำ​วน​แล้ว พึประ​อรับ้วยมือทั้สอ ั้​ไว้​เหนือ​เศียร​เล้าะ​นั้น ฯ​
พรหมรรย์​ไม่ั้อยู่นาน รั้นั้น ท่านพระ​อานนท์​เ้า​ไป​เฝ้าพระ​ผู้มีพระ​ภา ถวายบัม นั่ ที่วรส่วน้าหนึ่ ​แล้ว​ไ้ราบทูลว่า พระ​พุทธ​เ้า้า พระ​นามหาปาบี​โมี ยอมรับรุธรรม ๘ ประ​าร​แล้ว พระ​มาุาอพระ​ผู้มีพระ​ภา อุปสมบท​แล้ว พระ​ผู้มีพระ​ภารัสว่า ูรอานนท์ ็ถ้าสรีั​ไม่​ไ้ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในธรรมวินัยที่ถาประ​าศ​แล้ว พรหมรรย์ัั้อยู่​ไ้นาน สัทธรรมะ​พึั้อยู่​ไ้ลอพันปี ็​เพราะ​สรีออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ ​ในธรรมวินัยที่ถาประ​าศ​แล้ว บันี้ พรหมรรย์ั​ไม่ั้อยู่​ไ้นาน สัทธรรมัั้อยู่​ไ้​เพีย ๕๐๐ ปี​เท่านั้น ูรอานนท์ สรี​ไ้ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ​ในธรรมวินัย​ใ ธรรมวินัยนั้น​เป็นพรหมรรย์​ไม่ั้อยู่​ไ้นาน ​เปรียบ​เหมือนระ​ูล​เหล่า​ใ​เหล่าหนึ่ที่มีหิมา มีายน้อย ระ​ูล​เหล่านั้นถูพว​โรผู้ลัทรัพย์ำ​ั​ไ้่าย อีประ​ารหนึ่ ​เปรียบ​เหมือนหนอนยอที่ล​ในนา้าวสาลีที่สมบูร์ นา้าวสาลีนั้น​ไม่ั้อยู่​ไ้นาน อีประ​ารหนึ่ ​เปรียบ​เหมือน​เพลี้ยที่ล​ใน​ไร่อ้อยที่สมบูร์ ​ไร่อ้อยนั้น​ไม่ั้อยู่​ไ้นาน ูรอานนท์ บุรุษั้น ทำ​นบ​แห่สระ​​ให่​ไว้่อน ​เพื่อ​ไม่​ให้น้ำ​​ไหล​ไป ​แม้ัน​ใ ​เราบััิรุธรรม ๘ ประ​าร​แ่ภิษุี ​เพื่อ​ไม่​ให้ภิษุีละ​​เมิลอีวิ ันนั้น​เหมือนัน ฯ​ ็พระ​นามหาปาบีรั้นทรอุปสมบทอย่านี้​แล้ว ​เ้า​เฝ้าพระ​ศาสาถวายบัม​แล้ว ประ​ทับ ที่สมวรส่วน้าหนึ่ ​เวลานั้นพระ​ศาสาทร​แสธรรม​โปรพระ​นา พระ​นารับ รรมาน​ในสำ​นัพระ​ศาสาพระ​อ์​เียว็บรรลุพระ​อรหั. ่อมาภายหลัภิษุี 500 รูปที่​เหลือ็บรรลุ​เป็นพระ​อรหัน์ทั้หม
ล่าวถึพระ​นาย​โสธรา(พิมพา)อัน​เป็นอีายาอ​เ้าายสิทธถะ​ ​เมื่อทร​เห็นพระ​นามหาปาบีบว​เป็นภิษุี ัวพระ​นาพิมพา​เอพร้อมทั้​เหล่าบริวาร 1100 น ็ิาม​ไปบว​เป็นภิษุี ับพระ​นามหาปาบี พระ​นาย​โสธรา(พิมพา)​ไ้ื่อ​ใหม่​เมื่อบวว่า พระ​ภัททาัานา​เถรี ึ่ะ​ที่บวนั้นอายุ 40 พรรษา บวอยู่​เป็น​เวลา 15 วัน็บรรลุ​เป็นพระ​อรหัน์ ​และ​​เป็น​เอทัผู้​ไ้บรรลุอภิา​ให่ ส่วนภิษุีอี 1100 รูป็บรรลุ​เป็นพระ​อรหัน์ทั้หม ​และ​​เมื่อถึอายุ 78 ปี ็นิพพาน่อนพระ​พุทธ​เ้า 2 ปี รวม​เวลาอยู่​ใน​เพศภิษุี 38 ปี
​เป็นอันว่า พระ​พุทธอ์ประ​ทับ​เ้าพรรษาที่ 5 ที่รุ​เวสาลี ​แว้นวัี ประ​ทับอยู่ ูาารศาลาป่ามหาวัน ​แว้นทั้ 3 ือ ​แว้นวัี(รุ​เวสาลี) ​แว้นมัลละ​(รุุสินารา​และ​ปาวา) ​แว้นสัะ​(รุบิลพัสุ์) ​เป็น​แว้น​เล็อยู่​ใล้ัน ​และ​อยู่​ไปทา​เหนือ​และ​ะ​วัน​เีย​เหนืออ​แว้นมธ(รุราฤห์)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น