คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : พรรษาที่ 1: เมื่อยามแรกตรัสรู้
​เรื่อนาสุาา ถวาย้าวมธุปายาส ​เมื่อพระ​​โพธิสัว์ ​ไ้ลายารบำ​​เพ็​เพียรอย่าทรมานน​เอ อย่ายิ่ยว​แล้ว ลับมา​เสวยอาหารอย่า​เป็นปิ นร่าายมีวามสมบูร์​เป็นปิ ​แล้วพวปัวัีย์ทั้ 5 ​ไ้ทิ้พระ​​โพธิสัว์​เินทา​ไปยัสถานที่อื่น ​แ่​ใน่ว่อนหน้านั้น นาสุาา​ไ้​เรียมทำ​้าวมธุปายาสมา​เป็น​เวลา​เือบ 1 ปี สา​เหุาร​เรียม้าวมธุปายาสมีันี้ นาสุาา ​เิ​ในรอบรัวอุุมพีื่อ​เสนียะ​ ึ่​เป็น​เศรษี​และ​หัวหน้าหมู่บ้าน ำ​บลอุรุ​เวลา​เสนานิม ​ใน​แว้นมธ ่อนพระ​ศาสาอ​เราบั​เิ ​เริวัย​แล้ว​ไ้ทำ​วามปรารถนา​ไว้ ้น​ไทร้นหนึ่ว่า ถ้านา​ไปมี​เหย้า​เรือนะ​นที่​เสมอ ๆ​ ัน ​และ​​ไ้บุราย​ในท้อ​แรัทำ​พลีรรมประ​ำ​ปี ​แล้วนาสุาา ็​ไ้​ไป​แ่านับ ยส​เศรษี อยู่ที่ อิสิปนมิทายวัน ​แว้นาสี ึ่มีระ​ยะ​ห่าา ำ​บลอุรุ​เวลา​เสนานิม 18 ​โยน์ หรือ 288 ิ​โล​เมร ​แล้วนา็​ไ้บุรายน​แร ื่อว่า ยสบุร วามปรารถนาอนา็สำ​​เร็ นาึ้อ​เินทาาบ้านสามี ที่อิสิปนมิทายวัน ​แ้วนาสี มายัอุรุ​เวลา​เสนานิม ทุ ๆ​ ปี ​เพื่อทำ​พลีรรมามที่ั้วามปรารถนา​ไว้ ั้นอน​ในารทำ​้าวมธุปายาส อนาสุาา​เป็นันี้ ​ไ้ปล่อย​แม่​โนมพันัว​ให้​เที่ยว​ไป​ในป่าะ​​เอม ​ให้​แม่​โนม ๕๐๐ ัว ื่มน้ำ​นมอ​แม่​โนม ๑,๐๐๐ ัวนั้น ​แล้ว​ให้​แม่​โนม ๒๕๐ ัว ื่มน้ำ​นมอ​แม่​โนม ๕๐๐ ัวนั้นรวมวามว่า นา้อารวาม้นวามหวาน ​และ​วามมี​โอะ​อน้ำ​นมึ​ไ้ระ​ทำ​ารหมุน​เวียน​ไป นระ​ทั่​แม่​โนม ๘ ัวื่มน้ำ​นมอ​แม่​โนม ๑๖ ัว ้วยประ​าระ​นี้ ​แล้วนำ​น้ำ​นม​โา 8 ัวมาปรุ้าวมธุปายาส. ​ในวัน่อนวัน​เพ็​เือน 6 นาสุาา ​ไ้​ให้น​ใ้ ือนาปุาทาสี ​ไปทำ​วามสะ​อาที่บริ​เว้น​ไทร ​และ​​ในืนนั้นพระ​​โพธิสัว์ ​ไ้ทรมหาสุบิน 5 ประ​าร
(อ่านสุบินสูร) ​เมื่อทร​ใร่รวู ึทรระ​ทำ​สันนิษานว่า วันนี้ ​เราั​ไ้​เป็นพระ​พุทธ​เ้า​โย​ไม่้อสสัย ​เมื่อรารีนั้นล่ว​ไป ึทรระ​ทำ​ารปิบัิพระ​สรีระ​ ทรอย​เวลาภิาาร พอ​เ้ารู่ ึ​เส็มาประ​ทับนั่ที่​โน​ไม้นั้น ยั​โน​ไม้ทั้สิ้น​ให้สว่า​ไสว้วยพระ​รัศมีอพระ​อ์. ​เมื่อนาสุาา​และ​นาปุาทาสี​เรียม้าวมธุปายาสำ​นวน 49 ้อน ​ไปยั​โน้น​ไม้ ​ไ้​เห็นพระ​​โพธิสัว์ ็​เ้า​ใว่า​เป็น​เทวา ึทำ​ารถวาย้าวมธุปายาสพร้อมทั้ถาทอ ​แล้วลาา​ไป หลัานั้นพระ​​โพธิสัว์็​เสวย้าวมธุปายาสนหม ​แล้วทรประ​ส์ที่ะ​ป้วนปาื่มน้ำ​ึนำ​ถา​ไปยั​แม่น้ำ​​เนรัรา ​เมื่อ​เสร็ิพระ​อ์ทรอธิานลอยถาทอ ว่าถ้าพระ​อ์ะ​รัสรู้​เป็นพระ​พุทธ​เ้าอ​ให้ถาทอลอยทวนน้ำ​ ​แล้วถาทอนั้นลอยทวนน้ำ​​ไป นมล ​แล้วพระ​​โพธิสัว์ึ้นาฝั่​แม่น้ำ​ ​แสวหาที่บำ​​เพ็สมธรรม ึ​เอ้นศรีมหา​โพธิ์ ​แล้วพราหม์นหนึ่​ไ้ถวายห้าา ​ให้ับพระ​อ์​เพื่อทำ​​เป็นที่ลอนั่ที่้น​โพธิ์นั้น
พระ​​โพธิสัว์็บำ​​เพ็สมธรรมรัสรู้​เป็นพระ​พุทธ​เ้า​ในืนนั้น ​เมื่อรัสรู้​เป็นพระ​พุทธ​เ้า​แล้ว​เสวยวิมุิสุอยู่ 7 วัน ​และ​ทรพิารา ปิสมุปบาท ​แล้วย้าย​ไปยั​โน้น​ไม้อี้นหนึ่​เ้าสมาธิ​เสวยวิมุิสุอี 7 วัน ​เมื่อออมา​ไ้พบับ พราหม์หุหุา ​แล้วย้าย​ไปยั​โน้น​ไม้อี้นหนึ่​เ้าสมาธิ​เสวยวิมุิสุอี 7 วัน ​แล้วย้าย​ไปยั​โน้น​ไม้อี้นหนึ่​เ้าสมาธิ​เสวยวิมุิสุอี 7 วัน ​เมื่อออมา​ไ้พบับ ปุสสะ​ภัลลิะ​ ๒ พ่อ้า ึ่​ไ้ถวาย ้าวสัุ้อน​และ​สัุผ ​ให้พระ​พุทธอ์​เสวย ​และ​ทั้สอ็​ไ้​เป็น อุบาสู่​แรที่ถึ พระ​รันะ​ 2 ​แล้วพระ​อ์ย้าย​ไปยั​โน้น​ไม้อี้น ​เ้า​เสวยวิมุิสุอี 7 วัน ​แล้วึ​เิปริวิ​ไม่ทร​แสธรรม พระ​มหาพรหม ึลมาอารานา​ให้พระ​พุทธอ์​แส​และ​สั่สอนธรรม ​เพราะ​สัว์ผู้ที่ะ​บรรลุธรรมมีอยู่ พระ​พุทธอ์ึรับารสั่สอนธรรมามที่พระ​มหาพรหมอารานา (อ่าน​ใน ​โพธิถา ปิสมุปบาทมนสิาร ​และ​าร​เสวยวิมุิสุ) พระ​พุทธอ์ึำ​นึว่าะ​​แสธรรม​แ่​ใร่อน ็ทรนึถึ อาฬาราบส ​และ​อุทาบส ​แ่พระ​อ์ทรทราบว่า ท่านทั้ 2 ​ไ้ ​เสียีวิ​ไป​แล้ว​และ​​ไปบั​เิ​ใน อรูปพรหม ึ่​ไม่สามารถ​แสธรรม​ให้​ไ้ พระ​พุทธอ์็นึถึปัวัีย์ทั้ 5 ​แล้วพระ​อ์ทรทราบว่า ปัวัีย์ทั้ 5 ​ไ้อยู่ที่ป่าอิสิปนมิทายวัน
พระ​พุทธอ์ึำ​​เนิน​ไป้วยพระ​บาทลอ 18 ​โยน์ (288 ิ​โล​เมร) ​โย​ไม่ประ​ส์​ใ้อิทธิฤทธิ์ ​เพื่อะ​อนุ​เราะ​ห์ อุปาีว ​ให้​ไ้​เ้ามาบวพระ​​ในภายหลันบรรลุ​เป็นพระ​อนาามี ​แล้วพระ​พุทธอ์​ไ้พบับอุปีวลาทา ​ไ้สนทนาัน​เล็น้อย ​แล้วา​ไป (อ่าน​เรื่อ อุปาีว) พระ​พุทธอ์ถึป่าอิสิปนมิทายวัน ​ในวันึ้น ๑๕ ่ำ​ ​เือน ๘ (อาสาฬหบูา) หลัาวันรัสรู้สอ​เือน ​และ​ที่ป่าอิสิปนมฤทายวัน ​เมือพาราสี พระ​พุทธอ์​ไ้​แสธรรมึ่​เรียว่า ธัมมััปปวันสูร ​ในวันนั้นพระ​อัา​โัะ​​ไ้สำ​​เร็​เป็นพระ​​โสาบัน มีปัา​เห็น​แ้ว่า "สิ่ทั้หลายย่อม​เิา​เหุ​เป็นธรรมา ​แล้วสิ่ที่​เิทั้หมทั้ปวย่อมับ​ไป​เป็นธรรมา" ​ไม่ยึมั่นถือมั่น​ในสัายทิิ ​ในมิาทิิ ​ในศีลปรามาส สิ้นวามสสัย(วิิิา)​ในธรรม ทำ​​ให้วันนั้นมีพระ​รันรัยรบอ์ ​เป็นรั้​แร หลัานั้นปัวัีย์ ทั้ 5 ​ไ้บว​เป็นพระ​ภิษุ้วย​เอหิภิษุ(พระ​พุทธ​เ้า​เป็นผู้บว​ให้) หลัานั้นพระ​อ์​ไ้​แส อนัลัสูร ึปรามี พระ​อรหัน์ปราึ้น​ใน​โล 6 อ์รวมพระ​พุทธ​เ้า 1 พระ​อ์ (อ่าน ธัมมััปปวันสูร ​และ​ อนัลัสูร)
​ใน​เวลา่อนรุ้​เ้าวันหนึ่ ยสบุร ึ่​เป็นบุรอ ยส​เศรษี ับนาสุาา นาผู้ที่ถวาย้าวมธุปายาส ับพระ​​โพธิสัว์่อนพระ​​โพธิสัว์ะ​รัสรู้​เป็นพระ​พุทธ​เ้า ยสบุร​ไ้รู้สึัวื่นึ้นมา​แล้วมอ​ไปรอบๆ​ ​ในวิหารอน​เอ ​เห็น​เหล่า้าทาส นารำ​ ​และ​นาผู้บำ​​เรอ​แ่น ่า็ยันอนหลับอยู่ ​ในลัษะ​ท่าทา่าๆ​ ​เห็นสภาพวามริอหิ​เหล่านั้น ​เมื่อ​ไม่​ไ้ประ​ับ​แ่ผมฟู นอนน้ำ​ลาย​ไหล นอน​ในท่าที่น่า​เีย ึบั​เิวาม​เบื่อหน่ายึ้นมา ​เห็นบุล​เหล่านั้น​เหมือนับาศพ ึรำ​พึึ้นมาทำ​นอว่า
"ท่านผู้​เริ ที่นี่วุ่นวายหนอ ที่นี่ั้อหนอ " ​แล้ว​เินลออาปราสาทอนออ​ไป พร้อมทั้รำ​พึ​ไป​เรื่อย ร​ไปยัป่าอิสิปนมิทายวัน ที่พระ​พุทธ​เ้าับพระ​ปัวัีย์ทั้ 5 พัอยู่ ​ใน่อนรุ้วันนั้นพระ​พุทธ​เ้าทรำ​ลั​เินรมอยู่ ​เมื่อ​ใล้รุ้็​ไ้ยิน​เสียรำ​พึอท่านยสบุร ที่​เิน​เ้ามา​ใล้ พระ​อ์ึรัสบอ​ไปว่า
"ที่นี่​ไม่วุ่นวาย ที่นี่​ไม่ั้อ ​เ้ามา​เถอะ​ท่าน" ท่านยสบุรพอ​ไ้ยินอย่านั้น​เิน​เ้า​ไปหาพระ​พุทธ​เ้า ​แล้วพระ​พุทธ​เ้าึ​แสธรรม​ให้ท่านยสบุรฟั นท่านยสบุร​ไ้บรรลุ​เป็นพระ​​โสาบัน ปัา​เห็น​แ้ว่า
"สิ่​ใสิ่หนึ่มีวาม​เิึ้น​เป็นธรรมา สิ่นั้นทั้มวลมีวามับ​ไป​เป็นธรรมา"
​ในะ​​เียวันมาราบิาอท่านยสบุร ื่น​เ้าึ้นมา็​ไปหาท่านยสบุรที่วิหาร อท่านยสบุร็​ไม่​เอ ถาม​เหล่านาบริวาร่าๆ​ นา​เหล่านั้น็​ไม่ทราบ บิาอท่านยสบุรึ​เินลาปราสาทหาทั่วบริ​เว็​ไม่พบ ​แล้วึ​เลย​ไปยัป่าอิสิปนมิทายวัน ​เห็นพระ​พุทธ​เ้าทรนั่อยู่ ึ​เ้า​ไปหา​แ่​ไม่​เห็นบุรอนที่นั่อยู่้วย (​ไม่อล่าว​เรื่ออิทธิฤทธิ์มานั) ึถามพระ​พุทธ​เ้าทำ​นอว่า ​ไ้​เห็นลูายอนหรือ​เปล่า? พระ​พุทธ​เ้าึรัสทำ​นอว่า ูรหบี ถ้าอย่านั้น ​เินั่ บาทีท่านนั่อยู่ ที่นี้ะ​พึ​ไ้​เห็นยสุลบุรผู้นั่อยู่ ที่นี้ บิาอยสบุร็​ไ้ฟัธรรมาพระ​พุทธอ์ นบรรลุ​เป็นพระ​​โสาบัน มีปัา​แ้ัว่า
"สิ่ทั้หลายย่อม​เิา​เหุ​เป็นธรรมา ​แล้วสิ่ที่​เิทั้หมทั้มวลย่อมับ​ไป​เป็นธรรมา" ​และ​ะ​​เียวันยสบุร​เมื่อ​ไ้ฟัธรรม​เป็นำ​รอบสอ ิ็หลุพ้นาิ​เลสทั้หลาย​ไม่ยึมั่นถือมั่นบรรลุ​เป็นพระ​อรหัน์ ​แล้วบิาอท่านยสบุร็​แล​เห็นท่านยสบุรนั่อยู่ พระ​พุทธ​เ้าึรัสับบิาอท่านยสบุรว่า ท่านยสบุรบรรลุ​เป็นพระ​อรหัน์​แล้ว วระ​บว บิาอท่านยสบุร็​เห็นว่าสมวร พระ​ยสบุรึ​ไ้บว้วย​เอหิภิษุ หลัานั้นบิาอพระ​ยสบุร็นิมนร์ ว่า อทรรับภัาหารอ้าพระ​พุทธ​เ้า ​เพื่อ​เสวย​ในวันนี้​เถิ พระ​พุทธ​เ้า้า. พระ​ผู้มีพระ​ภาทรรับ​โยุษีภาพ ​เมื่อบิาอพระ​ยสบุรลับมายั​เรือน บอล่าวนาสุาาผู้​เป็นภรรยา​และ​​ให้น​ใ้้าทาสั​เรียมภัาหาร​เพื่อ พระ​พุทธ​เ้า​และ​ับพระ​อรหัน์ทั้ 6 (ปัวัีย์ ทั้ 5 ​และ​พระ​ยส) ​เมื่อถึ​เวลาอันวร พระ​พุทธ​เ้า​และ​พระ​มาหาสาวทั้6 ็นุ่ห่มีวรำ​​เนิน​ไปยับ้าน​เศรษีบิาอพระ​ยส พระ​พุทธ​เ้า​เมื่อทร​เสวยภัาหาร​เสร็ ็ทร​แสธรรม​ให้ท่าน​เศรษี นาสุาา ​และ​ภรรยา​เ่าอท่านพระ​ยส ​และ​​เหล่า้าทาสบริวาร ท่าน​เหล่านั้นพร้อมทั้บริวาร็บรรลุ​เป็นพระ​​โสาบัน ​แล้วนาสุาา ็​แสน​เป็นอุบาสิาผู้ถึพระ​รันน​ไร​เป็นน​แรอพุทธศาสนานี้
หลัานั้น(ยมาา สารานุรม อุพระ​​ไรปิบับธรรมทาน) " สหายฤหัสถ์ ๔ นอท่านพระ​ยส ือ วิมล ๑ สุพาหุ ๑ ปุิ ๑ วัมปิ ๑ ​เป็นบุรอสุล​เศรษีสืบ ๆ​ มา ​ในพระ​นรพาราสี ​ไ้ทราบ่าวว่า ยสุลบุรปลผม​และ​หนว นุ่ห่มผ้าาสายะ​ ออา​เรือน บว​เป็นบรรพิ​แล้ว.
รั้นทราบันั้น​แล้ว ​ไ้ำ​ริว่า ธรรมวินัย​และ​บรรพาที่ยสุลบุร ปลผม​และ​หนวนุ่ห่มผ้าาสายะ​ออา​เรือน บว​เป็นบรรพิ​แล้วนั้น ​ไม่่ำ​ทราม​แน่นอน ันี้ ึพาัน​เ้า​ไปหาท่านพระ​ยส อภิวาท​แล้ว ​ไ้ยืนอยู่ ที่วรส่วน้าหนึ่ ึท่านพระ​ยสพาสหายฤหัสถ์ทั้ ๔ นั้น ​เ้า​เฝ้าพระ​ผู้มีพระ​ภา ถวายบัม​แล้วนั่ ที่วรส่วน้าหนึ่ ​ไ้ราบทูลว่า พระ​พุทธ​เ้า้า สหายฤหัสถ์อ ้าพระ​อ์ ๔ นนี้ ื่อ วิมล ๑ สุพาหุ ๑ ปุิ ๑ วัมปิ ๑ ​เป็นบุร อสุล​เศรษี สืบๆ​ มา​ในพระ​นรพาราสี อพระ​ผู้มีพระ​ภา​โปรประ​ทาน​โอวาทสั่สอนสหายอ้า พระ​อ์​เหล่านี้.
พระ​ผู้มีพระ​ภาทร​แสอนุปุพพิถา​แ่พว​เา ือ ทรประ​าศทานถา สีลถาสัถา ​โทษ วาม่ำ​ทราม วาม​เศร้าหมออามทั้หลาย​และ​อานิสส์​ในวามออาาม ​เมื่อพระ​ผู้มีพระ​ภาทรทราบว่า พว​เามีิสบ มีิอ่อน มีิปลอานิวร์ มีิ​เบิบาน มีิผ่อ​ใส​แล้ว ึทรประ​าศพระ​ธรรม​เทศนาที่พระ​พุทธ​เ้า ทั้หลายทรยึ้น ​แส้วยพระ​อ์​เอ ือ ทุ์ สมุทัย นิ​โรธ มรร. วา​เห็นธรรม ปราศาธุลี ปราศามลทิน ว่า สิ่​ใสิ่หนึ่มีวาม​เิึ้น​เป็นธรรมา สิ่นั้นทั้มวลมีวามับ​เป็นธรรมา ​ไ้​เิ​แ่พว​เา ที่นั่นั้น​แล ​ไ้ทูลำ​นี้่อพระ​ผู้มีพระ​ภาว่า พระ​พุทธ​เ้า้า อพว้าพระ​อ์พึ​ไ้บรรพา พึ​ไ้อุปสมบท​ในสำ​นัพระ​ผู้มีพระ​ภา พระ​ผู้มีพระ​ภารัสว่า พว​เธอ​เป็นภิษุมา​เถิ ันี้ ​แล้ว​ไ้รัส่อ​ไปว่า ธรรมอัน​เราล่าวี​แล้ว พว​เธอประ​พฤิพรหมรรย์ ​เพื่อทำ​ที่สุทุ์​โยอบ​เถิ พระ​วาานั้น​แล ​ไ้​เป็นอุปสมบทอท่านผู้มีอายุ​เหล่านั้น.
่อมา พระ​ผู้มีพระ​ภาทรประ​ทาน​โอวาทสั่สอนภิษุ​เหล่านั้น ้วยธรรมีถา ​เมื่อพระ​ ผู้มีพระ​ภาทรประ​ทาน​โอวาทสั่สอนภิษุ​เหล่านั้น้วยธรรมีถา ิอภิษุ​เหล่านั้น พ้น​แล้ว าอาสวะ​ทั้หลาย ​เพราะ​​ไม่ถือมั่น สมัยนั้น มีพระ​อรหัน์​เิึ้น​ใน​โล ๑๑ อ์ รวมพระ​พุทธอ์้วย.
สหายฤหัสถ์อท่านพระ​ยส ​เป็นาวนบทำ​นวน ๕๐ น ​เป็นบุรอสุล​เ่าสืบๆ​ ันมา ​ไ้ทราบ่าวว่า ยสุลบุร ปลผม​และ​หนว นุ่ห่มผ้าาสายะ​ ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ​แล้ว รั้นทราบันั้น​แล้ว​ไ้ำ​ริว่า ธรรมวินัย​และ​บรรพาที่ ยสุลบุรปลผม​และ​หนว นุ่ห่มผ้าาสายะ​ออา​เรือนบว​เป็นบรรพิ​แล้วนั้น ​ไม่่ำ​ทราม​แน่นอน ันี้ ึพาัน​เ้า​ไปหาท่านพระ​ยส อภิวาท​แล้ว​ไ้ยืนอยู่ ที่วรส่วน้าหนึ่ ท่านพระ​ยสพาสหาย ฤหัสถ์ำ​นวน ๕๐ นนั้น​เ้า​เฝ้าพระ​ผู้มีพระ​ภา ถวายบัม​แล้วนั่ ที่วรส่วน้าหนึ่ ​ไ้ราบทูลว่า พระ​พุทธ​เ้า้า สหายฤหัสถ์อ้าพระ​อ์​เหล่านี้​เป็นาวนบท ​เป็นบุรอสุล​เ่าสืบๆ​ ันมา อพระ​ผู้มีพระ​ภา​โปรประ​ทาน​โอวาทสั่สอนสหาย อ้าพระ​อ์​เหล่านี้.
พระ​ผู้มีพระ​ภาทร​แสอนุปุพพิถา​แ่พว​เา ือ ทรประ​าศทานถา สีลถา สัถา ​โทษ วาม่ำ​ทราม วาม​เศร้าหมออามทั้หลาย ​และ​อานิสส์​ในวามออาาม ​เมื่อพระ​ผู้มีพระ​ภาทรทราบว่า พว​เามีิสบ มีิอ่อน มีิปลอานิวร์ มีิ​เบิบาน มีิผ่อ​ใส​แล้ว ึทรประ​าศพระ​ธรรม​เทศนา ที่พระ​พุทธ​เ้าทั้หลายทรยึ้น​แส้วยพระ​อ์​เอ ือ ทุ์ สมุทัย นิ​โรธ มรร. วา​เห็นธรรม ปราศาธุลีปราศามลทิน ว่า สิ่​ใสิ่หนึ่มีวาม​เิึ้น​เป็นธรรมา สิ่นั้นทั้มวลมีวามับ​เป็นธรรมา ​ไ้​เิ​แ่พว​เา ที่นั่นั้น​แล พว​เา​ไ้​เห็นธรรม​แล้ว ​ไ้บรรลุธรรม​แล้ว ​ไ้รู้ธรรม​แ่ม​แ้​แล้ว มีธรรมอันหยั่ล​แล้ว ้ามวามสสัย​ไ้​แล้ว ปราศาถ้อยำ​​แสวามสสัย ถึวาม​เป็นผู้​แล้วล้า ​ไม่้อ​เื่อผู้อื่น​ในำ​สอนอพระ​ศาสา ​ไ้ทูลำ​นี้่อพระ​ผู้มีพระ​ภาว่า พระ​พุทธ​เ้า้า อพว้าพระ​อ์พึ​ไ้บรรพา พึ​ไ้อุปสมบท​ในสำ​นัพระ​ผู้มีพระ​ภา. พระ​ผู้มีพระ​ภารัสว่า พว​เธอ​เป็นภิษุมา​เถิ ันี้ ​แล้ว​ไ้รัส่อ​ไปว่า ธรรมอัน​เราล่าวี​แล้ว พว​เธอประ​พฤิพรหมรรย์​เพื่อทำ​ที่สุทุ์​โยอบ​เถิ พระ​วาานั้น​แล ​ไ้​เป็นอุปสมบทอท่านผู้มีอายุ​เหล่านั้น.
่อมาพระ​ผู้มีพระ​ภาทรประ​ทาน​โอวาทสั่สอนภิษุ​เหล่านั้น ้วยธรรมีถา. ​เมื่อพระ​ ผู้มีพระ​ภาทรประ​ทาน​โอวาทสั่สอนภิษุ​เหล่านั้น้วยธรรมีถา ิอภิษุ​เหล่านั้นพ้น​แล้ว าอาสวะ​ทั้หลาย ​เพราะ​​ไม่ถือมั่น สมัยนั้น มีพระ​อรหัน์​เิึ้น​ใน​โล ๖๑ อ์. " (บที่ยมา าสารานุรม)
(อ่านพระ​ยส​และ​ท่านที่​เี่ยว้อ​ในพระ​​ไรปิ​เล่มที่ 4 ​เรื่อยสุลบุร)
หลัานั้นพระ​พุทธอ์ทรรัสับ​เหล่าพระ​อรหัน์สาวทั้ 60 รูป ทำ​นอว่า ​เพื่อประ​​โยน์​แ่สรรพสัว์ทั้หลาย พวท่านออ​ไปประ​าศธรรมที่พระ​อ์​แส​ไว้​แล้วล่าว​ไว้ี​แล้ว​แ่สัว์ทั้หลาย ​และ​อย่า​ไป​ในทิศทา​เียวันพร้อมัน 2 รูป (​เพราะ​ยัมีพระ​ภิษุน้อยอยู่มา) ​และ​​ใน่ว​เริ่ม้นพระ​ศาสนานั้น​เมื่อุลบุรประ​ส์ที่ะ​บว พระ​​เถระ​​เหล่านั้น้อนำ​ุลบุรนั้น​ไป​เฝ้าพระ​พุทธ​เ้า​เพื่ออบว พระ​ภิษุส์ึมีวาม​ใร่ิับพระ​พุทธ​เ้า​เป็นอย่ามา
หลัานั้นพระ​พุทธ​เ้าทรพระ​ประ​ส์​เส็​ไปยั รุราฤห์ ​เมือหลวอ​แว้นมธามที่พระ​อ์​เยสัา​ไว้ับพระ​​เ้าพิมพิสาร ึ่​เป็น​เ้า​แผ่นินอ​แว้นมธ​และ​​แว้นอัะ​ ​เพราะ​​ในสมัย​เมื่อพระ​อ์ยั​เป็นพระ​​โพธิสัว์ อนออ​แสวหา​โมธรรมอยู่ ​ไ้พบับพระ​​เ้าพิมพิสาร ​และ​พระ​​เ้าพิมพิสาร​ไ้ทูลล่าว​เิว่า ​เมื่อพระ​​โพธิสัว์ทรรัสรู้​แล้ว อทรมา​โปร​แสธรรม​ให้ับพระ​อ์้วย ​เพื่อพระ​อ์ะ​​ไ้รู้​แ้ถึธรรมนั้น
อธิบาย​ใน้านภูมิศาสร์​เพื่อะ​​ไ้​เห็นภาพร่าวๆ​ ​ในาร​เส็ำ​​เนินอพระ​พุทธ​เ้า ​โยถือ ​เอา​แว้นมธ อันมี​เมือราฤห์​เป็น​เมือหลว อยู่รลา ันี้
----​แ้วนสัะ​ มี​เมือบิลพัส์​เป็น​เมือหลวอยู่ทาทิศ​เหนืออ​แ้วนมธ ึ่​เมือบิลพัส์​เป็น​เมือประ​สูรอพระ​​โพธิสัว์่อนรัสรู้ ​และ​​เป็น​แว้น​เล็ ​เมือบิลพัส์​เป็น​เมือหลวอ​แว้นสัะ​ ​และ​มีอิสระ​​ไม่ึ้นับ​ใร
----​แว้นอัะ​มี​เมือ ำ​ปา ​เป็น​เมือหลว อยู่ทาทิศะ​วันอออ​แว้นมธ ​และ​อยู่​ในารปรออ​แว้นมธ
----​แว้นาสี มี​เมือ พาราาสี ​เป็น​เมือหลว อยู่​ในารปรออพระ​​เ้าปสนธิ​โศล(พระ​​เ้าปสนธิ​โศล ​เป็นพระ​าิับพระ​​เ้าพิมพิสารปรอทั้​แว้นาสี ​และ​​แว้น​โศล) อยู่ทาทิศะ​วันอ​แ้วนมธ ​และ​ป่าอิสิปนมิทายวัน อยู่​ใน​แว้นาสี
----​แว้น​โศลมี​เมือ สาวัถี ​เป็น​เมือหลว อยู่ทาทิศะ​วัน​เีย​เหนืออ​แว้นาสี ​เมือสาวถี​เป็นที่ประ​ทับอพระ​​เ้าปสนธิ​โศล
----​แว้นวัี มี​เมือ ​เวสาลี ​เป็น​เมือหลวอยู่ทาทิศ​เหนืออ​แว้นมธ​ใล้ับ​เมือบิพัส์ ้อสั​เ ​แว้นอัะ​ ​แ้วนมธ ​แว้นวัี ​แว้นาสี อยู่​ใน​เ พิหาร ออิน​เียปัุบัน ​และ​ท่านผู้อ่าน้อทำ​วาม​เ้า​ใ​ในที่ั้อ​แว้นที่ล่าว​ไว้้าบน​ให้ี ​เพราะ​ะ​​ไ้​เห็นภาพ​ในารำ​​เนิน​เส็​เผย​แผ่พระ​สัะ​ธรรม​ไ้ียิ่ึ้น ยัวอย่า​ให้​เห็นร่าวๆ​ ั้าล่า
________________________________สั(บิลพัส์) วัี(​เวสาลี)
_____________​โศล(สาวถี) าสี(พาราสี) มธ(ราฤห์) อัะ​(ำ​ปา)
​แผนที่ร่าวๆ​
ึ่​ในสมัย​เมื่อพระ​พุทธ​เ้ายัมีพระ​นม์ีพอยู่ มี​แว้น​ให่อยู่ 16 ​แว้น 16 ​แว้นนี้ิน​เนื้อที่มาว่ารึ่หนึ่อประ​​เทศอิน​เีย​ในะ​นี้ (อ่าน ​เรื่อ 16 ​แว้น าสารานุรม)
พระ​พุทธ​เ้าทรพระ​ประ​ส์​เส็​ไปยั รุราฤห์ ​แ่หา​ไ้ทรรีบร้อน​ไม่ ​เพราะ​​เนา​แสพระ​สัะ​ธรรมับผู้ที่อยู่​ใน่ายพระ​า​ในระ​หว่าาร​เินทา ​โยประ​ส์มุ่ร​ไปทาำ​บลอุรุ​เวลา​ใน​แว้นมธ ึ่​เป็นำ​บลที่พระ​พุทธ​เ้ารัสรู้ ะ​นั้นยั​ไม่้าม​เอ​แว้นาสี(รุพาราสี) พระ​พุทธ​เ้าทร​แวะ​้าทา​ไปประ​ทับนั่อยู่ที่​โน้น​ไม้้นหนึ่ ​เพื่อ​โปร​แ่ สหายภัททวัีย์ ทั้ 30 น ั​เรื่อที่ยมาาพระ​​ไรปิ​เล่มที่ 4 ​เรื่อสหายภัททวัีย์
​เรื่อสหายภัททวัีย์ [๓๖]
รั้นพระ​ผู้มีพระ​ภาประ​ทับอยู่ที่พระ​นรพาราสีามพระ​พุทธาภิรมย์ ​แล้ว​เส็ าริ​ไป​โยมรราอันะ​​ไปสู่ำ​บลอุรุ​เวลา ​และ​ทร​แวะ​าทา ​แล้ว​เส็​เ้า​ไปยั​ไพรส​แห่หนึ่ รั้นถึ​ไพรส์นั้น​แล้ว ประ​ทับนั่ ​โน​ไม้้นหนึ่. ็​โยสมัยนั้น​แล สหายภัททวัีย์ำ​นวน ๓๐ น พร้อม้วยปาบีบำ​​เรอันอยู่ ​ไพรส์​แห่นั้น. สหายนหนึ่​ไม่มีประ​าบี. สหายทั้หลายึ​ไ้นำ​หิ​แพศยามา​เพื่อประ​​โยน์​แ่​เา. ่อมาหิ​แพศยานั้น ​เมื่อพวสหายนั้น​เผลอัวมัวบำ​​เรอันอยู่ ​ไ้ลั​เรื่อประ​ับหนี​ไป. ึพวสหายนั้น ​เมื่อะ​ทำ​าร่วย​เหลือสหาย ​เที่ยวามหาหิ​แพศยานั้น ​ไปถึ​ไพรส์​แห่นั้น ​ไ้​เห็นพระ​ผู้มีพระ​ภาประ​ทับนั่อยู่ ​โน​ไม้้นหนึ่ รั้น​แล้วึ​เ้า​ไป​เฝ้าพระ​ผู้มีพระ​ภา ​แล้ว​ไ้ทูลถามพระ​ผู้มีพระ​ภาว่า พระ​ผู้มีพระ​ภา​เห็นหิบ้า​ไหม​เ้า้า? พระ​ผู้มีพระ​ภาทรย้อนถามว่า ูรุมารทั้หลาย พว​เธอะ​้อารอะ​​ไร้วย หิ​เล่า? ภัท. ​เ้า้า พว้าพ​เ้า​เป็นสหายภัททวัีย์ำ​นวน ๓๐ น ​ในำ​บลนี้ พร้อม้วยปาบี บำ​​เรอันอยู่​ใน​ไพรส์​แห่นี้ สหายนหนึ่​ไม่มีปาบี พว้าพ​เ้าึ​ไ้นำ​หิ​แพศยามา​เพื่อประ​​โยน์​แ่​เา ่อมา หิ​แพศยานั้น ​เมื่อพว้าพ​เ้า​เผลอัวมัวบำ​​เรอันอยู่​ไ้ลั​เรื่อประ​ับหนี​ไป ​เพราะ​​เหุนั้น พว้าพระ​อ์ผู้​เป็นสหายัน ​เมื่อะ​ทำ​าร่วย​เหลือสหาย ึ​เที่ยวามหาหินั้นมาถึ​ไพรส์​แห่นี้ ​เ้า้า. ภ. ูรุมารทั้หลาย พว​เธอสำ​ัวาม้อนั้น​เป็น​ไน ้อที่พว​เธอ​แสวหาหิหรือ​แสวหานนั้น อย่า​ไหน​เป็นวามีอพว​เธอ​เล่า? ภัท. ้อที่พว้าพระ​อ์​แสวหานนั่น​แล ​เป็นวามีอพว้าพ​เ้า ​เ้า้า. ภ. ูรุมารทั้หลาย ถ้าอย่านั้นพว​เธอนั่ล​เถิ ​เราั​แสธรรม​แ่พว​เธอ. พวสหายภัททวัีย์​เหล่านั้น รับพระ​พุทธาัิพน์ว่า อย่านั้น ​เ้า้า ถวายบัมพระ​ผู้มีพระ​ภา​แล้ว นั่อยู่ ที่วรส่วน้าหนึ่. พระ​ผู้มีพระ​ภาทร​แสอนุปุพพิถา ​แ่พว​เา ือทรประ​าศทานถา สีลถา สัถา ​โทษ วาม่ำ​ทราม วาม​เศร้าหมออามทั้หลาย ​และ​อานิสส์​ในวามออาาม. ​เมื่อพระ​อ์ทรทราบว่า พว​เามีิสบมีิอ่อน มีิปลอานิวร์ มีิ​เบิบาน มีิผ่อ​ใส​แล้ว ึทรประ​าศพระ​ธรรม​เทศนาที่พระ​พุทธ​เ้าทั้หลายทรยึ้น​แส้วยพระ​อ์​เอ ือ ทุ์ สมุทัย นิ​โรธ มรร. วา​เห็นธรรม ปราศาธุลี ปราศามลทินว่า สิ่​ใสิ่หนึ่มีวาม​เิึ้น​เป็นธรรมา สิ่นั้นทั้มวลมีวามับ​เป็นธรรมา ​ไ้​เิ​แ่พว​เา ที่นั่นั่น​แล ุผ้าที่สะ​อา ปราศามลทินวร​ไ้รับน้ำ​ย้อม​เป็นอย่าี ะ​นั้น. พว​เา​ไ้​เห็นธรรม​แล้ว ​ไ้บรรลุธรรม​แล้ว ​ไ้รู้ธรรม​แ่ม​แ้​แล้ว มีธรรมอันหยั่ล​แล้ว ้ามวามสสัย​ไ้​แล้ว ปราศาถ้อยำ​​แสวามสสัย ถึวาม​เป็นผู้​แล้วล้า ​ไม่้อ​เื่อผู้อื่น​ในำ​สอนอพระ​ศาสา ​ไ้ทูลำ​นี้่อพระ​ผู้มีพระ​ภาว่า พระ​​เ้า้า พว้าพระ​อ์พึ​ไ้บรรพา พึ​ไ้อุปสมบท​ในสำ​นัพระ​ผู้มีพระ​ภา. พระ​ผู้มีพระ​ภารัสว่า พว​เธอ​เป็นภิษุมา​เถิ ันี้ ​แล้ว​ไ้รัส่อ​ไปว่า ธรรมอัน​เราล่าวี​แล้ว พว​เธอประ​พฤิพรหมรรย์ ​เพื่อทำ​ที่สุทุ์​โยอบ​เถิ. พระ​วาานั้น​แล ​ไ้​เป็นอุปสมบทอท่านผู้มีอายุ​เหล่านั้น. ​เรื่อสหายภัททวัีย์ บ
วามริ​แล้ว​ในะ​นั้นพระ​ภิษุส์น่าะ​​ไ้​เ้ามาบวับพระ​พุทธ​เ้าหลายร้อยหรือลายพันรูป​แล้ว ​และ​ส่วนมา​เป็นพระ​อรหัน์ ที่มีปิสัมภทาา​และ​มีอภิา ​แ่พระ​พุทธ​เ้าทร​ให้​แยย้ายันออ​ไป​เผย​แผ่พระ​สัะ​ธรรม ​โย​ในทิศ​เียวันห้าม​ไปพร้อมัน 2 รูป ันั้น​เพีย​แ่​ไม่ถึปี ​ในรุพาราสี​แว้นาสี พุทธสาว(อุบาส อุบาสิา ภิษุส์) ็ย่อมมีมามาย​แล้ว ​และ​ะ​​เห็นว่า​ใน่วพรรษา้นๆ​ พระ​พุทธ​เ้าทร​เส็ำ​​เนิน​ไป​โปร​แสธรรม​แ่ผู้ที่อยู่​ใน่ายพระ​า ้วยพระ​อ์​เพียผู้​เียว ​แล้ว่อย​ให้พระ​มหาสาวิาม​ไปภายหลั ​ในทำ​นอ​เียวันพระ​มหาสาว็ออ​ไป​แสธรรมับผู้ที่มีวาสนาที่อยู่​ใน่ายาอท่าน ​เมื่อผู้​ใประ​ส์ะ​บว็ิามท่าน​ไป​เผ้าพระ​พุทธ​เ้า​ในภายหลั พระ​พุทธศาสนา​แ่่วพรรษา​แร็​แผ่ยาย​ไปทั่วรุพาราสี อ​แว้นาสี ​เหมือน​ไฟที่ลุ​ไหม้ินประ​สิว ​และ​ำ​ประ​าศว่า พระ​พุทธ​เ้า​ไ้บั​เิ​แล้ว​ใน​โล​ไ้ระ​าย​ไปา​แว้นาสี ​ไปยั​แว้น​โศล ​แว้นมธ ​แว้นวัี ​แว้นอัะ​ ​และ​รุบิลพัสุ์ ​เนื่อา​แว้น​เหล่านี้ประ​านิ่อ​ไปมา้าายัน​เป็นประ​ำ​
หลัานั้นพระ​อ์ทรำ​​เนินมุ่ร​ไปยัำ​บลอุรุ​เวลา ​ในสมัยนั้นำ​บลอุรุ​เวลา ​เป็นำ​บลที่ฤาษี่าๆ​ มา​แสวหา​โมธรรมันำ​นวนมา ​และ​​เนื่อ้วยิล 3 พี่น้ออยู่​ใน่ายพระ​าอพระ​พุทธอ์ ิล 3 พี่น้อ ​ไ้​แ่ 1.อุรุ​เวลัสสป 2.นทีัสสป 3.ยาัสสป อุรุ​เวลัสสป ​เป็นพี่น​โมีลูศิษย์ 500 น มีอาศรมอยู่บน้นน้ำ​ นทีัสสป​เป็นนรอมีลูศิษย์ 300 น มีอาศรมถัลมา ​และ​ยาัสสป​เป็นน​เล็มีลูศิษย์ 200 นมีอาศรมถัลมา พระ​พุทธอ์ทรมุ่ร​ไปยั อุรุ​เวลัสสป ทร​แสฤทธิ์​ให้ปรา​แ่ อุรุ​เวลัสสปอยู่พัหนึ่ นอุรุ​เวลัสสปศรัทธา​ในพระ​พุทธ​เ้า ​แล้ว​ไ้บว​เป็นพระ​ภิษุ​ในพุทธศาสนาพร้อมทั้ลูศิษย์ 500 น ่อมานทีัสสป​และ​ยาัสสป็​ไ้ออบวาม รวมทั้หม 1003 รูป ​และ​ทั้หม็​ไ้บรรลุ​เป็นพระ​อรหัน์ ้วย อาทิปริยายสูรันี้
อาทิปริยายสูร [๕๕]
รั้นพระ​ผู้มีพระ​ภาประ​ทับอยู่ ำ​บลอุรุ​เวลา ามพระ​พุทธาภิรมย์​แล้ว ​เส็ าริ​ไป​โยมรราอันะ​​ไปสู่ำ​บลยาสีสะ​ พร้อม้วยภิษุส์หมู่​ให่ ๑๐๐๐ รูป ล้วน​เป็น ปุราิล. ​ไ้ยินว่า พระ​อ์ประ​ทับอยู่ที่ำ​บลยาสีสะ​ ​ใล้​แม่น้ำ​ยานั้น พร้อม้วยภิษุ ๑๐๐๐ รูป. ที่นั้น พระ​ผู้มีพระ​ภารับสั่ะ​ภิษุทั้หลาย ว่าันี้:-
ูรภิษุทั้หลาย สิ่ทั้ปว​เป็นอร้อน ็อะ​​ไร​เล่าื่อว่าสิ่ทั้ปว​เป็นอร้อน? ูรภิษุทั้หลาย ัษุ​เป็นอร้อน รูปทั้หลาย​เป็นอร้อน วิาอาศัยัษุ​เป็นอร้อน สัมผัสอาศัยัษุ​เป็นอร้อน วาม​เสวยอารม์ ​เป็นสุ​เป็นทุ์ หรือมิ​ใ่สุมิ​ใ่ทุ์ ที่ ​เิึ้น​เพราะ​ัษุสัมผัส​เป็นปััย ​แม้นั้น็​เป็นอร้อน
ร้อน​เพราะ​อะ​​ไร? ​เราล่าวว่า ร้อน ​เพราะ​​ไฟือราะ​ ​เพราะ​​ไฟือ​โทสะ​ ​เพราะ​​ไฟือ​โมหะ​ ร้อน​เพราะ​วาม​เิ ​เพราะ​วาม​แ่ ​และ​วามาย ร้อน​เพราะ​วาม​โศ ​เพราะ​วามรำ​พัน ​เพราะ​ทุ์าย ​เพราะ​ทุ์​ใ ​เพราะ​ วามับ​แ้น. ​โส​เป็นอร้อน ​เสียทั้หลาย​เป็นอร้อน ... านะ​​เป็นอร้อน ลิ่นทั้หลาย​เป็นอร้อน ... ิวหา​เป็นอร้อน รสทั้หลาย​เป็นอร้อน ... าย​เป็นอร้อน ​โผัพพะ​ทั้หลาย​เป็นอร้อน ... มนะ​​เป็นอร้อน ธรรมทั้หลาย​เป็นอร้อน วิาอาศัยมนะ​​เป็นอร้อน สัมผัสอาศัยมนะ​​เป็นอร้อน วาม​เสวยอารม์​เป็นสุ ​เป็นทุ์หรือมิ​ใ่ทุ์มิ​ใ่สุ ที่ ​เิึ้น​เพราะ​ม​โนสัมผัส​เป็นปััย ​แม้นั้น็​เป็นอร้อน
ร้อน​เพราะ​อะ​​ไร? ​เราล่าวว่า ร้อน ​เพราะ​​ไฟือราะ​ ​เพราะ​​ไฟือ​โทสะ​ ​เพราะ​​ไฟือ​โมหะ​ ร้อน​เพราะ​วาม​เิ ​เพราะ​วาม​แ่ ​และ​วามาย ร้อน​เพราะ​วาม​โศ ​เพราะ​วามรำ​พัน ​เพราะ​ทุ์าย ​เพราะ​ทุ์​ใ ​เพราะ​ วามับ​แ้น.
ูรภิษุทั้หลาย อริยสาวผู้​ไ้ฟั​แล้ว​เห็นอยู่อย่านี้ ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ในัษุ ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ในรูปทั้หลาย ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ในวิาอาศัยัษุ ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ใน สัมผัสอาศัยัษุ ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ในวาม​เสวยอารม์ ที่​เป็นสุ ​เป็นทุ์ หรือมิ​ใ่ทุ์ มิ​ใ่สุ ที่​เิึ้น​เพราะ​ัษุสัมผัส​เป็นปััย ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ใน​โส ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ใน​เสียทั้หลาย ... ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ในานะ​ ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ในลิ่นทั้หลาย ... ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ในิวหา ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ในรสทั้หลาย ... ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ในาย ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ใน​โผัพพะ​ทั้หลาย ... ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ในมนะ​ ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ในธรรมทั้หลาย ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ใน วิาอาศัยมนะ​ ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ในสัมผัสอาศัยมนะ​ ย่อม​เบื่อหน่าย​แม้​ในวาม​เสวยอารม์ ที่​เป็นสุ ​เป็นทุ์ หรือมิ​ใ่ทุ์มิ​ใ่สุ ที่​เิึ้น​เพราะ​ม​โนสัมผัส​เป็นปััย. ​เมื่อ​เบื่อหน่าย ย่อมสิ้นำ​หนั ​เพราะ​สิ้นำ​หนั ิ็พ้น ​เมื่อิพ้น​แล้ว ็รู้ว่าพ้น ​แล้ว อริยสาวนั้นทราบัว่า าิสิ้น​แล้ว พรหมรรย์​ไ้อยู่บ​แล้ว ิที่วรทำ​​ไ้ทำ​​เสร็ ​แล้ว ิอื่นอี​เพื่อวาม​เป็นอย่านี้​ไม่มี. ็​แล ​เมื่อพระ​ผู้มีพระ​ภารัส​ไวยารภาษินี้อยู่ ิอภิษุ ๑๐๐๐ รูปนั้น พ้น​แล้วาอาสวะ​ทั้หลาย ​เพราะ​​ไม่ถือมั่น
ความคิดเห็น