คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เปี๊ยนไป๋
และแล้วก็ถึงวันก่อนเปิดเทอม
เหมือนจะเป็นประเพณีของชาวเชนัสไปซะแล้วที่จะต้องออกมาส่งเสด็จเจ้าหญิงทั้งสองของพวกเขากลับสำนักวิชาการ ทุกครั้ง พวกเขาก็จะมีโอกาสยลโฉมเจ้าหญิงเอลีนแสนสวย และความร่าเริง ห้าวผิดหญิงของเจ้าหญิงไอรีลเกือบทุกครั้ง
แต่ คราวนี้มาแปลก
เพราะอะไรนะเหรอ
ลองนึกภาพดูละกันนะ
คราวนี้ ไอรีลและเอลีนก็แต่งตัวทะมัดทะแมงเตรียมเดินทางเช่นเคย แต่สิ่งที่แปลกและขัดหูขัดตาไปจากเดิมก็คือ
ไอรีลจากที่แต่งตัวบ้าบอ เซอร์ หัวยุ่ง ยางมัดผมเก่าๆ หน้ามันเยิ้ม เหงื่อไหลย้อย(เราน่าเกลียดขนาดนั้นเลยเหรอตอนภาคแรก กลุ้ม : ไอรีล)
กลายเป็นคนใหม่ ดังนี้
ชุดสะอาด เรียบร้อย ผมมัดอย่างเรียบร้อบด้วยยางมัดผมสีชมพูแปร๋นบ่งบอกอาการอินเลิฟลิซึ่มของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งใบหน้าใสกิ๊ง เปิดเผยใบหน้าสวย(กัดฟันพิมพ์ขั้นตรีทูต)ให้สาธารณชนชาวเชนัสได้เห็นเป็นครั้งแรก
“นี่ เอลีน ฉันทำอะไรผิดรึเปล่าวะ ทำไมคนมองกันเต็มเลยอะ”
“ไม่นี่ ไม่เห็นมีอะไรเลย คิดมากไปป่าว”เอลีนพูดอย่างไม่สนใจหน้าตากระอักกระอ่วนของน้องสาว แต่หันไปโบกมือให้ประชาชนของตนแทน
“นี่ไง คนเขาก็โห่รับ แปลกไปตรงไหน อย่าบอกนะว่าพอมีความรักแล้วหน้าบาง”เอลีนพูดก่อนจะต้องร้องโอ๊ยเมื่อมะเหงกของคนหน้าบางถูกส่งมาที่หัวหนึ่งทีด้วยความเขิน
“พอแล้วลูก อายประชาชนหน่อยเถอะ พ่ออาย เดี๋ยวเค้าจะหาว่าพ่อเลี้ยงลูกติงต๊อง”ราชาเซสต้าพูดขัดจังหวะการหยอกล้อของลูกสาวสองคนให้ชะงัก ก่อนหันมองสีหน้าอิหลักอิเหลือของเหล่าประชาชนแล้วถึงกับพูดไม่ออก รีบล่ำลาเสด็จพ่อเสด็จแม่แล้วรีบเผ่นแนบออกจากเมืองโดยไม่หันไปมองประชาชนของตัวเองที่ยืนอย่างอึ้งๆอีกเลย
“เฮ้อ เพราะเธอเลยเอลีน ทำให้ฉันขายขี้หน้าประชาชน”
“ใครบอก ก็เธอวิตกจริตไปก่อน ฉันแค่เตือนสติเธอทำมาเป็นโวย รู้งี้ไม่พูดด้วยดีกว่า”
“เอ๊ะ เอลีน”
“พวกเธอนี่ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากในถ้ำเมื่อเธอสองคนย่างเท้าเข้ามาถึงถ้ำเดิมซึ่งบัดนี้กลายเป็นจุดนัดพบของทั้งสิบชีวิตที่จะเดินทางไปยังสำนักวิชาการเพื่อเรียนเทอมสอง
“ก็ แค่รสชาติของชีวิต เธอก็น่าจะหัดทะเลาะกับพี่ชายเธอเล่นมั่งนะเลนี่ ชีวิตจะได้ไม่มีแต่รักกัน ยิ้มให้กัน มันเลี่ยน ไร้รสชาติ”ไอรีลแซวเลนี่เล่นก่อนจะเดินเข้าไปทักทายคนอื่นที่เหลือ
“แหม แม่คนชีวิตมีรสชาติ สนุกมากมั๊ยละที่หาเรื่องคนอื่นไปทั่วน่ะ”จอว์หันมาพูดใส่ไอรีลก่อนจะรีบแจ้นไปหาเอลีนคนรักทันที
“ใครบอกฉันหาเรื่อง ฉันแค่กัดใครเล่นๆไปวันๆแกเบื่อ แบบนี้เค้าไม่เรียกว่าหาเรื่องเฟ่ย”ไอรีลแก้ตัวก่อนจะเดินไปนั่งข้างลำธารในถ้ำที่อยู่ๆก็เกิดขึ้นมา
“เอ๊ะ เมื่อก่อนมันไม่มีลำธารนี่นะ ใช่มั๊ย”เอลีนถามขึ้นเมื่อเห็นไอรีลไปวักน้ำในนั้นดื่มอย่างกระหาย
“ใช่ แต่มันก็คงมีน้ำฝนตกลงมาระหว่างเพดานถ้ำ พอนองมากๆดินก็ยุบ กลายเป็นลำธารเล็กๆอย่างนี้มั้ง”เจเร็ตพูดขึ้นซึ่งคนอื่นก็พยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะมองไอรีลที่ยังวักน้ำอยู่อย่างนั้น ไม่สนใจใคร
“ไอรีล หิวน้ำมากเหรอ เอาน้ำฉันดีมั๊ย น้ำในนั้นไม่รู้สะอาดรึเปล่า”มิ้ลกี้พูดพลางหยิบกระติกน้ำของตนส่งให้แต่ไอรีลส่ายหน้า
“ไม่ละ อิ่มแล้ว แถมน้ำในนี้ก็สะอาดดี ไม่เป็นไรหรอก”
“แน่ใจเหรอคะ”เซนิย่าถามอย่างเป็นห่วง
“อือ ไปต่อกันยัง เดี๋ยวมืดนะ”ไอรีลพูดพลางมองดูท้องฟ้า
“อือ ไปกันเถอะ”ราคัสเห็นด้วย ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางออกจากถ้ำ เดินไปสู่สำนักวิชาการต่อไป
“วิ้ววววว วิ้ววววว วิ้ววววว”เสียงประหลาดดังขึ้นข้างหู เมื่อเธอหันไปมาก็ไม่พบแมลงใดๆที่กวนใจ
เสียงอะไร
“วิ้ววววว วิ้ววววว วิ้ววววว”
ดังขึ้นอีกแล้ว
“วิ้ววววว วิ้ววววว วิ้ววววว”
เมื่อไหร่จะหยุดซักที รำคาญนะเนี่ย
“วิ้ววววว วิ้ววววว วิ้ววววว”
ฮึกๆๆๆๆ
ทำไมหายใจไม่ออกนะ
ฮึกๆๆๆ
ทำไมฉันมองไม่เห็น ทำไมหลังของซาดาซมันเลือนลางแบบนี้
“เอลีน... ช่วย...”
นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่หลุดออกจากปาก ก่อนสติจะดับวูบลง
ความคิดเห็น