ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำรัก คนรัก เคยรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ไม่อาจลืมเลือน 3

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 65


    ฉันรีบกดโทรศัพท์ตาม รปภ.และแม่บ้านให้ไปเรียนรถพยาบาลมารับ วินาทีนั้นฉันเองทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ภาวนาในใจว่าขออย่าให้กันต์เป็นอะไรเลย หากเขาเป็นอะไรไปฉันจะทำยังไง? เพียงแค่คิดเท่านั้นหยดน้ำใสๆก็รินไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง

    ขณะที่รอรถพยาบาล ฉันเรียกชื่อกันต์หลายครั้ง

    กันต์ ตื่นสิ กันต์ น้ำเสียงเรียกอันสั่นเคลือของฉัน ไม่ได้ช่วยให้เขาฟื้นขึ้นมากเลย

     

                    หลายชั่วโมงผ่านไปที่โรงพยาบาล ฉันฟุบหลับอยู่ข้างเตียงของกันต์ จากความเพลียที่ไม่นอนมาเมื่อคืน

                    เพล้ง!!” เสียงแก้วน้ำหล่นกระแทกพื้นแตกเป็นเศษเล็กเศษน้อยบนพื้น  

    ฉันสะดุ้งตื่นขึ้น เห็นกันต์กำลังพยายามเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ

    “ผมขอโทษ”

     ทำไมกันต์ไม่ปลุกปรายหละคะ เดี๋ยวปรายหยิบให้ ฉันลุกขึ้น ไปกดปุ่มเรียกเจ้าหน้าที่

    ผมเห็นปรายหลับอยู่ ก็เลยไม่อยากปลุก เมื่อคืนผมขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ไปตามนัด

    อย่าเพิ่งพูดเลยค่ะ ปรายไม่ว่าอะไรคุณหรอกค่ะ แค่ตอนนี้คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วค่ะ

    เหมือนคราวก่อนเลยนะ” กันต์ก้มหน้า แล้วพูดอย่างยิ้มๆ “ที่เรานัดทานข้าวกันแล้ว ปรายไม่สบายต้องนอนพักที่โรงพยาบาล

    เหมือนกันตรงไหนคะ ไม่เห็นจะเหมือนเลย

    ตอนนั้นผมก็อยู่ข้างปรายตลอดเวลา ก็เหมือนที่ปรายอยู่ข้างๆ ผมตอนนี้ไง...ขอบคุณมากนะปราย ที่ยังอยู่ข้างๆ ผม

     

     คำพูดและสายตาของกันต์ทำให้ฉันไม่อาจจะลืมได้เลย คำพูดเพียงคำสั้นๆ ก็บาดลึกเข้าไปถึงข้างในหัวใจได้ ฉันเองก็รู้ดีว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นฉันเองเป็นคนที่ผิด บอกเลิกกับกันต์เพราะเหตุผลโง่ๆ เพียงเพราะคำพูดของคนไม่กี่คน  แล้วยังทำเรื่องแย่ๆ จนตัวเองต้องเข้าโรงพยาบาล  แต่กันต์ก็ยังไม่ไปไหน เขายังคงดูแลเป็นอย่างดี  แม้ว่าฉันจะเย็นชา จะขับไล่ไสส่งเขาเพียงใด นั่นเป็นครั้งที่สามแล้วที่ฉันบอกเลิกกันต์ และทุกครั้งฉันก็เป็นฝ่ายกลับไปง้อ ขอคืนดี  แต่กันต์ไม่เคยมีท่าทีโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย เขาบอกเพียงว่า ผมเข้าใจปรายนะ และไม่ว่ายังไง ผมให้อภัยปรายเสมอ

     

                    ส่วนสาเหตุที่กันต์หมดสติวันนั้นก็เพราะ กันต์ทำงานหนักเกินไป ไม่ได้พักผ่อน และเร่งทำงานให้เสร็จเพื่อที่จะเก็บเงินให้ได้มากพอที่จะมาสร้างครอบครัวกับปราย  มันยิ่งทำให้ปรายรู้สึกรักกันมากขึ้นๆ มากขึ้นทุกที กันต์ทำเพื่อปรายมาตลอด แต่ปรายกลับไม่เคยได้ทำอะไรเพื่อกันต์เลย

     

    ผมรักคุณนะปราย กันต์จับมือ และมองตาฉันด้วย สีหน้าที่จริงที่แฝงไปด้วยความอบอุ่น

    ค่ะ ฉันก็รักคุณค่ะ คำรักของทั้งกันต์และฉันต่างก็จารึกลงในพจนานุกรมหัวใจของกันและกัน

    หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ฉันสัญญากับตัวเองไว้ว่าฉันจะทำทุกอย่างเพื่อกันต์และจะไม่ทำให้กันต์ต้องเสียใจอีก

     

     

    สามปีผ่านไป...

    “ปิ๊ง ปอง” เสียงข้อความในโทรศัพท์ดังขึ้น  ฉันปล่อยมือจากเมาส์คอมพิวเตอร์มาหยิบดูข้อความโทรศัพท์

    บอม : ปราย บริษัทของเรามีสมาชิกใหม่เพิ่งขึ้นอีกหนึ่งคน  เข้ามาทำงานในส่วนการวางแผนความปลอดภัย เธอรู้ยัง?

    ปราย : ก่อนหน้านี้ฉันเองก็ได้ยินแววๆมาเหมือนกันว่าจะมีพนักงานใหม่ที่ย้ายมาจากสำนักงานใหญ่

    ปราย : การย้ายตำแหน่ง  ย้ายสาขาสำหรับบริษัทเราเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว

    บอม : วันนี้น่าจะเข้ามาวันแรกนะ เธอไม่ลองไปดูหน่อยเหรอ

    ปราย : ไม่เอาอะ

    บอม : เดี๋ยวก็เหมือนคราวที่กันต์มาทำงาน เพื่อนตัวเองแท้ๆ แต่ตัวเองไม่รู้อีกล่ะ

    ปราย : แหม่ เธอก็....ฉันงานยุ่งนี่นา

    ปราย : ฉันไปดีกว่า ต้องเอาแบบเครื่องจักรที่เขียนไว้ไปให้หัวหน้าดู

    ปราย : เที่ยงนี้รอด้วยนะ ไม่มีเพื่อนกินข้าวด้วย กันต์ไปต่างจังหวัดอะ

    บอม : ทีงี้หละหาเพื่อนเลยนะ ชิชิ

     

    เที่ยงวันนั้น ขณะฉันกำลังรีบเดินออกจากลิพท์ ไปหาเพื่อนที่กำลังรอฉันไปทานข้าวกลางวันอยู่ที่หน้าตึก

    ผลั๊ก !!!” เสียงคนและของชนกัน จนของของฉันหล่นล่งที่พื้น

    “ขอโทษค่ะ ฉันซุ่มซ่ามเอง”

     ดูเหมือนว่าความสุ่มซ่ามของฉันจะทำให้ให้เดินไปชนใครบ้างคนเข้าแล้ว ฉันรีบกล่าวคำขอโทษและรีบก้มหน้าก้มตาเก็บของที่หล่นอยู่ และก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ของของฉันคนเดียวที่หล่น

    ข้างๆฉันมีแฟ้มอันหนึ่งเปิดอยู่ เผยให้เห็นประวัติของคนคนหนึ่งซึ่งมันทำให้ฉัน ละความสนใจจากสิ่งอื่น แล้วเอื้อมมือออกไปหยิบแฟ้มนั้นขึ้นมาดู ฉันอยากดูให้แน่ใจว่าที่ฉันเห็นว่าฉันไม่ได้ตาฝาดไปเอง

    นี่รูปแดน...นี่นา มาอยู่ในแฟ้มประวัติของบริษัทเราได้ยังไงฉันคิดในใจ

     ฉันตั้งใจว่าจะถามเจ้าของแฟ้มนี้ ฉันจึงค่อยๆ ปิดแฟ้มลง แล้วหันไปถามว่ารูปเป็นยังไงมายังไง  

    แต่!แล้ว ฉันก็ต้องนิ่งไปอีกครั้ง เพราะว่าคนที่ฉันเพิ่งจะเดินชน คือคนที่อยู่ในรูป และยิ่งไปกว่านั้น เขาคือคนที่ฉันแอบชอบมาตั้งแต่สมัยมัธยม ตราบจนวันนี้ฉันเองก็ยังไม่ลืม  

     ผมขอโทษนะปราย เจ็บตรงไหนรึเปล่า เพียงแค่คำไม่มีกี่คำที่พูดออกมา ก็ทำให้ฉันแทบละลายลงไปกองอยู่กับพื้น

    ฉันเองพูดอะไรไม่ออก ไม่เคยคิดเลยว่าคนที่ตัวเองแอบชอบตั้งแต่เด็กจะมายืนอยู่ตรงหน้า จะมาทำงานที่เดียวกันอย่างนี้

    “คุณหน้าแดงไปหมดแล้ว ตัวก็เริ่มแดงด้วย คุณไม่สบายรึเปล่า” แดนถามแบบยิ้มๆ

    ฉันรู้สึกถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้า ตอนนี้แก้มฉันคงจะแดงเสียยิ่งกว่าลูกตำลึงแน่ๆ เขาถึงได้ทักขนาดนี้


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×