คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ไม่อาจลืมเลือน 4
“ไม่เจอกันนานมากเลย
ผมขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวคุณมื้อเย็นวันนี้นะ” แดนขยับเขามาใกล้ก่อนส่งยิ้มหวาน
ให้ฉันอีกครั้ง
“เราจะได้คุยกันด้วยไม่ได้เจอกันนานมากๆ มาเจอกันทั้งที
ผมเป็นเจ้ามือเองนะ”
“ได้ค่ะ” ฉันพลั้งปากตอบตกลงไปทั้งๆที่ฉันยังไม่ได้คิด
แต่ก็รับปากไปแล้วนี่นา จะให้ทำยังไงได้หละก็ได้เจอคนที่ตัวเองปลื้ม อย่างนี้ใครจะปฏิเสธได้ลง
(จริงรึเปล่าคะ?)
เย็นวันนั้น
แดนมารับฉันที่บ้าน เมื่อถึงร้าน ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าแดนพาฉันพามาที่ร้านโปรดของกันต์กับฉัน
“ทำไมคุณถึงพาฉันมาร้านนี้หละคะ คุณเพิ่งจะมาถึงที่นี่ แล้วรู้จักร้านนี้ได้ยังไงคะ”
“ผมรู้ว่าคุณชอบมาทานที่ร้านนี้” แดนตอบยิ้มๆ
เหมือนทุกครั้ง
“แต่!”
“เอาเถอะ สั่งอาหารเลยดีกว่านะ” แดนรีบตัดบทฉัน
แล้วจัดการสั่งอาหารจนเสร็จสับ
ฉันแอบดีใจนิดๆ
แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ ที่เขารู้จักร้านนี้ได้ยังไงทั้งที่ร้านอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมืองพอสมควร
แล้วฉันก็ต้องแปลกใจอีกครั้ง เมื่อพนักงานเสิร์ฟอาหาร เพราะอาหารทุกอย่างที่สั่งล้วนเป็นอาหารที่ฉันชอบทานทุกอย่าง
“เมื่อก่อนปรายยังเรียกชื่อแดน
เฉยๆเลย” แดนพูดเหมือนคนที่แอบเสียใจอยู่ลึกๆ “เราเคยเรียนด้วยกัน ทำไมถึงเรียกกันห่างเหินอย่างนั้น”
“เรียกแบบนี้ก็ดีแล้วค่ะ”
ฉันเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติในทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้น“นี่มันอะไรกันคะ
ทั้งร้าน ทั้งอาหารที่คุณสั่งมา”
“คือผม...คือ ความจริงแล้ว ตอนแรกผมตั้งใจย้ายไปอยู่ที่สำนักงานใหญ่ แต่สุดท้ายผมเป็นคนขอย้ายมาที่นี่เอง”
“อะไรคะ ฉันไม่เข้าใจ คุณอยู่ที่สำนักงานใหญ่ก็ดีแล้วนี่คะ แล้วคุณจะย้ายมาที่นี่ทำไม”
“คือ ผมสืบจนรู้ว่าคนทำงานที่นี้ ผมก็เลยตามคุณมา”
“แล้วคุณตามฉัน มาที่นี่ ทำไมคะ”
“นี่ปรายไม่รู้จริงๆ เหรอ ว่าทำไม ที่ผมทำทุกอย่างไป เพราะอะไร”
“...” ไร้ซึ่งการตอบรับใด มีเพียงสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสน
จับจ้องไปที่ชายผิวขาวตรงหน้า
“ผม รัก คุณ” แดนเน้นเสียง
“ผมรักคุณตั้งแต่ตอนที่เรายังเรียนอยู่
ผมยังจำได้เลยว่าปลายก็ชอบผม เพื่อนๆ คุณ บอกผมว่าคน คุณปลื้มและชอบผมเอามากๆ ผมเองก็ชอบคุณมากนะ
จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่เคยลมคุณ ในหัวใจผมตอนนี้ก็มีแต่ปรายคนเดียว”
“แล้วคุณมาบอกอะไรเอาตอนนี้!! คุณปล่อยให้ฉันเสียใจมาตั้งกี่ปี
คุณรู้บ้างมั๊ย!! ตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณมัวไปทำอะไรอยู่ ทำไมคุณมาบอกอะไรฉันตอนนี้!!” น้ำตาของฉันไหลจนไม่รู้ว่ามาจากไหนมากมาย
“ผมขอโทษ แต่ตอนนี้ผมก็กลับมาแล้ว ผมจะชดเชยให้คุณทุกๆ อย่าง”
“ชดเชยเหรอคะ ชดเชยกับท่าทีที่แสนจะเย็นชา กับการที่คุณทำให้ฉันต้องอายเพื่อนๆ
ในทุกๆครั้งที่ฉันคุยกับคุณ... ตอนนั้นคุณไม่ได้มีท่าทีที่จะชอบฉันเลย
คุณขยับตัวออกห่างฉันทุกครั้งที่ฉันเข้าไปใกล้ หน้าฉันคุณยังไม่อยากจะมอง คุณทำให้ฉันเหมือนคนบ้าผู้ชาย
แอบชอบแอบรักข้างเดียวทั้งๆ ที่ฉันก็อยู่เฉยๆ ของฉันเอง นี่นะเหรอที่คุณบอกว่ารักฉัน!”
“คุณฟังผมก่อน! คุณเองก็รู้ว่าผมเป็นคนเก็บตัว
แล้วก็ขี้อายขนาดไหน ผมไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าคุณ เพราะมันทำให้ผมหวั่นไหว” แดนก้มหน้าเหมือนพยายามซ่อนความอ่อนไหวภายในดวงตา
“ผม..ไม่กล้าที่อยู่ใกล้กับคุณ
เพราะมันทำให้ผมหัวใจเต้นแรง หัวใจผมมันพองโตจนบอกไม่ถูก ผม...ที่ไม่กล้าที่จะพูดกับคุณ เพราะผมตื่นเต้นจนคิดอะไรไม่ออก
ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี และผม...ไม่กล้าที่จะมองตาคุณ เพราะมันทำให้ผมใจละลาย
จนแทบจะลงไปกองอยู่บนพื้น ที่นี้คุณเข้าใจผมรึยัง?”
ประโยคสุดท้ายของแดนพรั่งพลูออกมาพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้น
“เข้าใจพูดนะคะ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ตอนที่เราเรียนมหาวิทยาลัย
ทำไมคุณถึงไม่ติดต่อฉันบ้างหละ ทำไมคะ ทำไมคุณถึงเพิ่งมาพูดอะไรเอาป่านนี้ ความเจ็บปวดที่ฉันได้รับจากคุณมันมากเหลือเกินนะ”
ทุกอย่างที่ฉันพูดออกไปล้วนแล้วแต่ไม่ตรงกับใจฉันเลย
ฉันแอบดีใจอยู่ลึกๆ ปนกับความสับสนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ผมติดตามเรื่องราวของคุณมาตลอดนะ แต่ที่ผมไม่ได้ติดต่อไปก็เพราะว่าผมยังเขินคุณอยู่”
“แล้วตอนนี้ คุณไม่เขิน ไม่อายฉันแล้วรึยังไง?” ฉันพูดอย่างประชดประชันแดน
“เหตุผลฟังดู ไม่แปลกไปหน่อยเหรอ”
“ไม่” แดนตอบอย่างมั่นใจ “ตอนนี้ผมมีทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมสำหรับคุณ และก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม
ถ้าหากผมไม่มาหาคุณตอนนี้ ผมอาจเสียคุณไป และคงไม่มีโอกาสได้ดูแลคุณอย่างที่ผมตั้งใจเอาไว้”
ฉันได้แต่มอง
เข้าไปในดวงตาคู่นั้น
“ผมอยากให้คุณเป็นแม่ของลูกผม” แล้วก็ค่อยๆเอื้อมมือมาจับมือฉัน
ฉันมองหน้าแดน ...แล้วค่อยๆ ถอดมือออก
“คุณบอกว่าคุณตามสืบเรื่องฉันมาตลอด คุณก็ต้องรู้สิคะ ว่าตอนนี้ฉันมีคนรักอยู่แล้ว”
“ใช่! ผมรู้ ว่ากันต์เป็นคนรักของคุณ”
“แต่! กันต์เขาเป็นเพื่อนของคุณนะ! แต่คุณก็ยังจะทำอย่างนั้นเหรอ” ฉันรู้สึกโกรธขึ้นมาในทันที่ได้ยิน
“ใช่! เพราะ ความรักที่ผมมีให้กับคุณมันมากมายเสียจน
ไม่อาจเก็บไว้ได้อีก ใครก็ไม่อาจขวางกั้นความรักที่ผมมีให้กับคุณได้อีกแล้ว”
“ฉันว่า เรากลับกันเถอะค่ะ ฉันอยากพักผ่อน” ฉันเลี่ยงที่จะขอตัวกลับ
เพราะฉันสับสนมากเกินกว่าที่จะรับอะไรได้อีกแล้วในวันนี้
“เดี๋ยว !” แดนรีบความแขนฉันไว้ก่อนที่จะลุกขึ้นจากโต๊ะ
“ผมรู้ว่าที่ผมทำไม่ดี
แต่คุณรู้ไหม ผมทนไม่ได้ที่กันต์เขาไม่ชัดเจนกับคุณ”
“ไม่ชัดเจนยังไง”
ฉันนั่งลงฟังด้วยความขุ่นเคืองใจ
“ตลอดเวลาที่พวกคุณคบกัน
กันต์เคยพูดถึงเรื่องแต่งงานบ้างไหม เคยคุยเรื่องที่จะใช้ชีวิตในบั้นปลายรึเปล่า เขาไม่เคยทำเซอร์ไพรซ์อะไรให้คุนเลยแม้แต่ครั้งเดียว”
“นั่น...”
เขาทำฉันสะอึกอีกครั้ง “แต่เขาก็บอกรักฉัน เขารักฉัน”
“แล้วคุณหละ
รักกันต์จริงๆ รึเปล่าหรือคุณ แค่สงสาร?”
ฉันพูดไม่ออกทั้งๆที่
มันควรจะตอบได้โดยที่ไม่ต้องคิด
“คุณไม่ต้องตอบผมก็ได้นะ
แค่คุณตอบคำถามในใจตัวเองให้ได้ก็พอ”
“ฉัน...”
ฉันนั่งนิ่งเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง ที่โต๊ะอาหารท่ามกลางบรรยากาศแสนโรแมนติก
“ผมรู้นะ
ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เคยบอกรักผม แต่สิ่งที่คุณทำให้กับผมในตลอดหลายที่เรารู้จักกันมา
มันเรียกได้ว่าความรัก”
“ทั้งที่แดนรู้
แต่แดนก็ยังทำเมินเฉย ทรมานกันทั้งเป็นแบบนี้ มันใช่ความรักเหรอ” ฉันรับแย้ง
“ผม...ไม่รู้จะบอกยังไง
ว่าผมขอโทษกับทุกสิ่งที่ผมทำ คุณให้อภัยผมได้ไหมปราย” แดนพยายามจะจับมือฉันอีกครั้ง
แต่ฉันขยับออก “ผมขอโอกาส ที่ผมปล่อยคุณจากไปจากผม”
“แล้วกันต์หละ
คุณจะให้ฉันทำยังไง มันไม่เห็นแก่ตัวเกินไปเหรอ”
“...”
“เอาหละ
ฉันว่าเราควรกลับกันได้แล้ว”
ความคิดเห็น