คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ไม่อาจลืมเลือน 3
ฉันรีบกดโทรศัพท์ตาม
รปภ.และแม่บ้านให้ไปเรียนรถพยาบาลมารับ วินาทีนั้นฉันเองทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ภาวนาในใจว่าขออย่าให้กันต์เป็นอะไรเลย
หากเขาเป็นอะไรไปฉันจะทำยังไง? เพียงแค่คิดเท่านั้นหยดน้ำใสๆก็รินไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง
ขณะที่รอรถพยาบาล
ฉันเรียกชื่อกันต์หลายครั้ง
“กันต์ ตื่นสิ กันต์” น้ำเสียงเรียกอันสั่นเคลือของฉัน
ไม่ได้ช่วยให้เขาฟื้นขึ้นมากเลย
หลายชั่วโมงผ่านไปที่โรงพยาบาล
ฉันฟุบหลับอยู่ข้างเตียงของกันต์ จากความเพลียที่ไม่นอนมาเมื่อคืน
“เพล้ง!!” เสียงแก้วน้ำหล่นกระแทกพื้นแตกเป็นเศษเล็กเศษน้อยบนพื้น
ฉันสะดุ้งตื่นขึ้น
เห็นกันต์กำลังพยายามเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ
“ผมขอโทษ”
“ทำไมกันต์ไม่ปลุกปรายหละคะ
เดี๋ยวปรายหยิบให้” ฉันลุกขึ้น ไปกดปุ่มเรียกเจ้าหน้าที่
“ผมเห็นปรายหลับอยู่ ก็เลยไม่อยากปลุก เมื่อคืนผมขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ไปตามนัด”
“อย่าเพิ่งพูดเลยค่ะ ปรายไม่ว่าอะไรคุณหรอกค่ะ แค่ตอนนี้คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วค่ะ”
“เหมือนคราวก่อนเลยนะ” กันต์ก้มหน้า แล้วพูดอย่างยิ้มๆ “ที่เรานัดทานข้าวกันแล้ว
ปรายไม่สบายต้องนอนพักที่โรงพยาบาล”
“เหมือนกันตรงไหนคะ ไม่เห็นจะเหมือนเลย”
“ตอนนั้นผมก็อยู่ข้างปรายตลอดเวลา ก็เหมือนที่ปรายอยู่ข้างๆ ผมตอนนี้ไง...ขอบคุณมากนะปราย
ที่ยังอยู่ข้างๆ ผม”
คำพูดและสายตาของกันต์ทำให้ฉันไม่อาจจะลืมได้เลย
คำพูดเพียงคำสั้นๆ ก็บาดลึกเข้าไปถึงข้างในหัวใจได้ ฉันเองก็รู้ดีว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นฉันเองเป็นคนที่ผิด
บอกเลิกกับกันต์เพราะเหตุผลโง่ๆ เพียงเพราะคำพูดของคนไม่กี่คน แล้วยังทำเรื่องแย่ๆ จนตัวเองต้องเข้าโรงพยาบาล แต่กันต์ก็ยังไม่ไปไหน เขายังคงดูแลเป็นอย่างดี แม้ว่าฉันจะเย็นชา จะขับไล่ไสส่งเขาเพียงใด นั่นเป็นครั้งที่สามแล้วที่ฉันบอกเลิกกันต์
และทุกครั้งฉันก็เป็นฝ่ายกลับไปง้อ ขอคืนดี แต่กันต์ไม่เคยมีท่าทีโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย เขาบอกเพียงว่า
“ผมเข้าใจปรายนะ และไม่ว่ายังไง ผมให้อภัยปรายเสมอ”
ส่วนสาเหตุที่กันต์หมดสติวันนั้นก็เพราะ
กันต์ทำงานหนักเกินไป ไม่ได้พักผ่อน และเร่งทำงานให้เสร็จเพื่อที่จะเก็บเงินให้ได้มากพอที่จะมาสร้างครอบครัวกับปราย
มันยิ่งทำให้ปรายรู้สึกรักกันมากขึ้นๆ มากขึ้นทุกที
กันต์ทำเพื่อปรายมาตลอด แต่ปรายกลับไม่เคยได้ทำอะไรเพื่อกันต์เลย
“ผมรักคุณนะปราย” กันต์จับมือ และมองตาฉันด้วย
สีหน้าที่จริงที่แฝงไปด้วยความอบอุ่น
“ค่ะ ฉันก็รักคุณค่ะ” คำรักของทั้งกันต์และฉันต่างก็จารึกลงในพจนานุกรมหัวใจของกันและกัน
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น
ฉันสัญญากับตัวเองไว้ว่า
“ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อกันต์และจะไม่ทำให้กันต์ต้องเสียใจอีก”
สามปีผ่านไป...
“ปิ๊ง ปอง” เสียงข้อความในโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันปล่อยมือจากเมาส์คอมพิวเตอร์มาหยิบดูข้อความโทรศัพท์
บอม : ปราย
บริษัทของเรามีสมาชิกใหม่เพิ่งขึ้นอีกหนึ่งคน
เข้ามาทำงานในส่วนการวางแผนความปลอดภัย เธอรู้ยัง?
ปราย :
ก่อนหน้านี้ฉันเองก็ได้ยินแววๆมาเหมือนกันว่าจะมีพนักงานใหม่ที่ย้ายมาจากสำนักงานใหญ่
ปราย : การย้ายตำแหน่ง ย้ายสาขาสำหรับบริษัทเราเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว
บอม : วันนี้น่าจะเข้ามาวันแรกนะ
เธอไม่ลองไปดูหน่อยเหรอ
ปราย : ไม่เอาอะ
บอม : เดี๋ยวก็เหมือนคราวที่กันต์มาทำงาน
เพื่อนตัวเองแท้ๆ แต่ตัวเองไม่รู้อีกล่ะ
ปราย : แหม่ เธอก็....ฉันงานยุ่งนี่นา
ปราย : ฉันไปดีกว่า ต้องเอาแบบเครื่องจักรที่เขียนไว้ไปให้หัวหน้าดู
ปราย : เที่ยงนี้รอด้วยนะ
ไม่มีเพื่อนกินข้าวด้วย กันต์ไปต่างจังหวัดอะ
บอม : ทีงี้หละหาเพื่อนเลยนะ ชิชิ
เที่ยงวันนั้น
ขณะฉันกำลังรีบเดินออกจากลิพท์ ไปหาเพื่อนที่กำลังรอฉันไปทานข้าวกลางวันอยู่ที่หน้าตึก
“ผลั๊ก !!!” เสียงคนและของชนกัน จนของของฉันหล่นล่งที่พื้น
“ขอโทษค่ะ
ฉันซุ่มซ่ามเอง”
ดูเหมือนว่าความสุ่มซ่ามของฉันจะทำให้ให้เดินไปชนใครบ้างคนเข้าแล้ว
ฉันรีบกล่าวคำขอโทษและรีบก้มหน้าก้มตาเก็บของที่หล่นอยู่ และก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ของของฉันคนเดียวที่หล่น
ข้างๆฉันมีแฟ้มอันหนึ่งเปิดอยู่
เผยให้เห็นประวัติของคนคนหนึ่งซึ่งมันทำให้ฉัน ละความสนใจจากสิ่งอื่น แล้วเอื้อมมือออกไปหยิบแฟ้มนั้นขึ้นมาดู
ฉันอยากดูให้แน่ใจว่าที่ฉันเห็นว่าฉันไม่ได้ตาฝาดไปเอง
“นี่รูปแดน...นี่นา มาอยู่ในแฟ้มประวัติของบริษัทเราได้ยังไง” ฉันคิดในใจ
ฉันตั้งใจว่าจะถามเจ้าของแฟ้มนี้ ฉันจึงค่อยๆ ปิดแฟ้มลง
แล้วหันไปถามว่ารูปเป็นยังไงมายังไง
แต่!แล้ว
ฉันก็ต้องนิ่งไปอีกครั้ง เพราะว่าคนที่ฉันเพิ่งจะเดินชน คือคนที่อยู่ในรูป และยิ่งไปกว่านั้น
เขาคือคนที่ฉันแอบชอบมาตั้งแต่สมัยมัธยม ตราบจนวันนี้ฉันเองก็ยังไม่ลืม
“ผมขอโทษนะปราย เจ็บตรงไหนรึเปล่า” เพียงแค่คำไม่มีกี่คำที่พูดออกมา ก็ทำให้ฉันแทบละลายลงไปกองอยู่กับพื้น
ฉันเองพูดอะไรไม่ออก
ไม่เคยคิดเลยว่าคนที่ตัวเองแอบชอบตั้งแต่เด็กจะมายืนอยู่ตรงหน้า จะมาทำงานที่เดียวกันอย่างนี้
“คุณหน้าแดงไปหมดแล้ว
ตัวก็เริ่มแดงด้วย คุณไม่สบายรึเปล่า” แดนถามแบบยิ้มๆ
ฉันรู้สึกถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้า
ตอนนี้แก้มฉันคงจะแดงเสียยิ่งกว่าลูกตำลึงแน่ๆ เขาถึงได้ทักขนาดนี้
ความคิดเห็น