ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำรัก คนรัก เคยรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : ไม่อาจลืมเลือน 2

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 65


     

    19:45 น.

    ปราย : กันต์ นายถึงไหนแล้ว ฉันมาถึงนานแล้วนะ

    ปราย : โทรออก -> ไม่มีการตอบรับ

    19:55 น.

    ปราย : นี่มัน จะ2 ทุ่มแล้วนะ นายอยู่ไหน

    20:32 น.

    ปราย : 2 ทุ่มครึ่งแล้ว ฉันกลับก่อนนะ

    ปราย : โทรออก -> ไม่มีการตอบรับ

    20:45 น.

    ปราย : นายเป็นอะไรรึเปล่าเนี๋ยะ ฉันใจคอไม่ได้แล้วนะ

     

    ความพยายามติดต่อกันต์ของฉัน ผ่านทางข้อความและโทรศัพท์เริ่มหมดลง แล้วถูกแทนที่ด้วยความเป็นห่วงและกังวลใจ

    ในหัวมีแต่ความคิดอะไรก็ไม่รู้วุ่นวายสับสน จนไม่อาจจะจับพวงมาลัยขับรถออกจากลานจอดรถที่ร้านจู่ๆฉันก็นึกได้ว่าต้องโทรหาใครสักคน แล้วหน้าของบอม เพื่อนที่แผนกกฏหมายก็ผุดขึ้นมา

    “ฮัลโหล” บอมรับสาย “ว่าไงปราย”

    “บอม เจอกันต์บ้างไหมวันนี้” ฉันถามด้วยน้ำเสียงร้อนใจ

    “ไม่นะ” บอมบอก “วันนี้ยังไม่ได้ว่างเจอกันเลย วิ่งงานออกบริษัทลูกกันหลายที่ ยังไม่คุยกันด้วย มีอะไรรึเปล่า”

    “ก็วันนี้เรานัดกันไปกินข้าวเย็นที่ร้านเดิม นัดตั้งแต่ ทุ่มครึ่ง จนนี่จะสามทุ่มแล้ว ยังติดต่อไม่ได้เลย”

    “อ่าว ไม่ดีละอย่างนี้” บอมหยุดคิด “เธอลองไปหาที่บ้านสิ เผื่อมันกลับไปที่บ้าน”

    “แล้วตอนนี้นายอยู่ที่ไหน ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อย”

    “อยู่สาขาต่างจังหวัด มาค้างสองคืน ถ้าได้ข่าวกันต์บอกด้วยนะ เป็นห่วงมันเหมือนกัน เดี๋ยวช่วยตามอีกแรง”

    “โอเค ขอบคุณนะ”

     

    หลังจากวางสายบอม ‘นี่ ฉันเป็นอะไรไป ทำไมถึงใจสั่น มือสั่น’

    เป็นเวลาเกือบห้านาทีที่ฉันพยายามใช้สองมือจับที่พวงมาลัยแล้วเรียกสติตัวเองกลับมา ก่อนที่จะขับรถมุ่งหน้าไปที่บ้านของกันต์

    ระหว่างทางกระแสความคิดมากมายถ้าโถมเข้ามาราวกับพายุโหมกระหน่ำ ฉันคิดเสมอว่า ฉันช่างโชคดีที่ได้เกิดมาเจอกันต์ ถึงแม้ว่าระยะเวลาสามปีที่เราคบกับมาเขาไม่เคยทำอะไรหวานๆ ซึ้งๆ ให้กับฉันเลย เพื่อนๆและหลายต่อหลายคนบอกฉันว่า ฉันคิดไปเอง กันต์เขาแค่ดีกับฉันเหมือนที่ดีคนอื่นๆ  แต่ฉันก็ยังเชื่อว่าเขารักฉันมาก  ความรักที่กันต์มีให้กับฉันมันมากเกินกว่าที่ฉันรักกันต์เสียอีก และสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันมีกำลังใจและเชื่อในตัวของกันต์ คือ ความรักไม่อาจมองด้วยตาแต่ สัมผัสได้ด้วยใจ ระหว่างฉันและกันต์มีเรื่องราวมากมาย ที่มีเพียงเราเท่านั้นที่รู้เละเข้าใจ จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่จะเจอผู้ชายที่รักและให้เกียรติมาก มากเท่าที่กันต์ให้กับฉัน

    ภาพเก่าตลอดระยะเวลาสามปีผุดขึ้นมาตลอดทางที่ฉันขับรถ เรื่องราวมากมาย ที่กดดันทั้งฉันและเขา หลายครั้งที่ฉันท้อแท้ อ่อนล้า  หมดกำลังใจ ก็มีจะกันต์คอยเช็ดน้ำตา มีรอยยิ้มคอยให้กำลังใจ มีท่าทางตลกๆ แปลกที่ทำให้ฉันยิ้มได้ กันต์จะเป็นคนที่คอยอยู่เคียงข้างฉันตลอดมา  เขาคือทุกอย่างๆสำหรับฉัน...แต่ก่อนที่ฉันและกันต์จะมาถึงวันนี้ เมื่อก่อนนั้น ฉันก็เป็นแค่ ปราย ผู้หญิงที่มุ่งมั่น สนใจแต่เรื่องงานและเรื่องของตัวเอง ส่วนกันต์ก็เป็นแค่เพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม

    สัญญาณหน้าคอนโซลรถ กระพริบตีไฟเลี้ยวซ้าย เพื่อเข้าจอดที่รั้วสีข้าวหน้าบ้านจัดสรรหลังหนึ่ง ถัดเข้าไปนั้นคือชั้นเดียวสีขาวแบบอิงลิชคันทรี่ ไม่มีแสงไฟในบ้าน พอลงมาที่รั้วหน้าบ้านก็พบว่ากุญแจก็ยังล็อคอยู่

    “กันต์ยังไม่ได้กลับมาที่บ้าน” ฉันพูดกับตัวเอง “แล้วเขาจะไปไหนได้นะ”

     

    แล้วสองชั่วโมงผ่านไปในการพยายามตามหา ในตอนนั้นฉันเองก็เริ่มมีความคิดแย่ๆขึ้นมาในสมอง หรือว่าเขาจะลืม  เอ้? หรือว่าเขาจะมีคนอื่น หรือว่าจะเกิดอุบัติเหตุ

    ฉันพยามโทรเพื่อนๆ ของกันต์ว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เรื่องอะไรเลย

    เวลาผ่านล่วงไปจนตีสอง ด้วยความเหนื่อยและล้าเต็มทีจากการทำงานมาทั้งวัน ฉันจึงตัดสินใจกลับบ้าน คืนนั้นฉันนอนไม่หลับทั้งคืนเอาแต่ครุ่นคิดว่าเขาอยู่ที่ไหน ทำอะไร แล้วจะเป็นยังไงบ้างสบายดีรึเปล่า ทุกครั้งที่หลับตาภาพจินตนาการต่างๆ ก็ผุดขึ้นมา ฉันละไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไร ความหวั่นใจก็เริ่มเพิ่มขึ้นทุกนาที

    และในที่สุดแสงอาทิตย์ยามเช้าอันอบอุ่นก็ฉายส่งลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องนอน ฉันรีบลุกไปอาบน้ำ และไปรอกันต์ที่บริษัทแต่เช้าตรู่

     

                    “คุณปราย ทำไมวันนี้มาทำงานเช้าจังเลยครับ” ลุงสมาน รปภ. รีบทักทาย “นี่เพิ่งจะหกโมงเช้าเองนะครับ”

                    “พอดีมีธุระค่ะ” ฉันตอบผ่านๆ แต่ก็ต้องรีบหลังหลับมาถามลุงสมาน

                    “เมื่อวานลุงเห็น คุณกันต์เข้าบริษัทบ้างไหมคะ”

                    “ถ้าจำไม่ผิด เห็นเข้ามาเมื่อตอนประมาณหนึ่งทุ่มนะคุณปราย แต่ออกไปตอนไหนก็ไม่รู้นะครับ ผมก็ออกไปเดินตรวจรอบตึกด้วย”

                    “ขอบคุณคะ” ว่าแล้วฉันรีบสาวเท้าไปที่ลิฟท์ในทันที

    ฉันเดินไปดูที่ห้องของกันต์ ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะไปดูทำไม เพราะเช้าขนาดนี้ใครจะมาทำงาน เหมือนคนบ้าอย่างฉัน ฉันเดินไปด้วยความใจจดใจจ่อ ภาวนาว่าอย่างให้สิ่งทีฉันคิดเป็นจริง

    จนถึงห้องของกันต์ ปรากฏว่ามีไฟยังเปิดอยู่ โดยที่ประตูไม่ได้ปิดสนิด

    ฉันจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป

     

                    ว้าย คุณพระคุณเจ้าช่วย !!!” ฉันร้องเสียงหลง

    เมื่อฉันเห็นนอนหมดสติอยู่บนพื้นห้อง ข้างตัวกันต์มีหล่นเอกสารกระจายอยู่เต็มไปหมด ฉันรีบไปเข้าไปหากันต์ พยายามที่จะปลุกเขาให้ตื่น แต่ปลุกเท่าไหร่กันต์ก็ยังไม่รู้สึกตัว


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×