คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ไม่อาจลืมเลือน 1
‘นี่ฉันไม่มีอะไรดีพอที่จะทำให้เขารู้สึก อย่างที่ผู้ชายคนอื่นรู้สึกเลยรึยังไง’
นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด ตั้งแต่วันที่ฉันได้เจอกับ “กันต์” เขาเป็นผู้ชายที่น่ารักมาก
กันต์เป็นสุภาพบุรุษมากๆ จนทำให้สิ่งที่ใครหลายคนเคยบอกฉันว่า “เวลาจีบกันอะไรๆ
ก็ดีไปหมด แต่คำพูดและลักษะท่าทางของผู้ชายตอนนั้นไว้ใจไม่ได้” มันถูกลบล้างด้วยความดีงามที่เสมอต้นเสมอปลายของกันต์
หรืออาจเรียกได้ว่า ดีเกินไป!
ถ้าเกิดคุณมีคนพิเศษ อย่างน้อยคุณก็อยากให้ชายคนนั้นกุมมือของคุณเอาไว้
ในเวลาที่นั่งมองพระอาทิตย์ตกดิน ท้องฟ้า อากาศเป็นใจ สายลมเอื่อยๆ
แต่กันต์ก็ไม่ทำ
แม้ว่าฉันอยากจะให้เขากุมมือฉันเอาไว้ขนาดไหน ฉันก็ยังขอบคุณกันต์
ที่เขายังให้เกียรติฉันเสมอ ทำให้ฉันมีความสุขมากอย่างบอกไม่ถูก หัวใจของฉันมันพองโต
จนแทบจะหยุดหายใจ มีแต่ความรู้สึกอิ่มเอม อบอุ่นและปลอดภัยตลอดเวลาที่เราอยู่ใกล้กัน
“ปิ๊ง ป่อง” เสียงข้อความในโทรศัพท์ดังขึ้น
เสียงนั้นปลุกฉันให้ตื่นจากภวังค์ พาสติตัวเองกลับมาที่ภาพของเพดานห้องสีขาว
ฉันกลิ้งตัวทับผ้าห่มนวมบนเตียงไปหยิบเอาโทรศัพท์มือถือที่หน้าสว่างวาบด้วยแถบแจ้งเตือนข้อความ
ข้อความทักทายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นคนที่ฉันเพิ่งจะมโนถึง
หวนรำลึกถึงความหลังครั้งเก่า ที่เราต่างไม่แสดงความชัดเจนให้แก่กัน เมื่อนานมาแล้วก่อนที่เราจะห่างเหินกันไปหลายปี
กันต์ : หวัดดีปราย
กันต์มีข่าวดีมาบอก
ปราย : send
sticker (รูปการ์ตูนทำหน้าสงสัย)
ฉันตั้งตารอคอยข้อความที่จะปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์ แต่ก็อดใจพิมพ์ถามไปก่อนไม่ได้
ปราย : ข่าวดีอะไร? นายเพิ่งลาออกจากที่ทำงานเดิมนี่
ปราย : หรือว่า ? ได้งานใหม่แล้วเหรอ?
กันต์ : send
sticker (รูปการ์ตูนทำหน้ายิ้มแฉ่ง)
กันต์ : ใช่ เราได้งานใหม่แล้ว
ข้อความสุดท้ายทำให้ฉันรู้สึกดีใจ และโล่งอกไปด้วย
เพราะเราต่างก็รู้ดีว่าในสถานการณ์บ้านเมืองและเศรษฐกิจแบบนี้ การหางานใหม่ที่ดีกว่าเดิมนั้น
เป็นไปได้ยากขึ้นทุกที
ปราย : งานอะไรเหรอ ได้ที่ไหน
กันต์ :
เราได้ทำงานด้านกฎหมายเดิมแหละ
กันต์ : ที่บริษัทอัญชาลิฟ ! ^_^
นั่นทำให้ฉันยิ่งกว่าหลาดใจ ลืมตัวลุกพรวดพราดขึ้นมานั่งจ้องหน้าบนที่นอนในทันที
ปราย : เฮ้ย! นายมาสมัครงานที่บริษัทเราตั้งแต่เมื่อไหร่อะ
ไม่เห็นบอกกันมาก่อนเลย
กันต์ :
ก็วิศวะกรอย่างเธองานยุ่งจะตาย จะมีเวลามาสนใจมาดูคนสมัครงานด้วยเหรอ 555+
ปราย : โธ่ ...นายนี่ก็
ปราย : อย่างนี้ต้องฉลอง วันไหนกันดี
ชวนเพื่อนๆด้วยนะ ดีไหม
กันต์ : ได้สิ
แล้วบทสนทนาในวันนี้ก็จบลงด้วยความรู้สึกที่อิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก
ฉันเองไม่ได้เคยได้ใส่ใจ ก่อนหน้านั้นฉันรู้แค่เพียงว่าเขาคือเพื่อนคนหนึ่งที่ฉันไว้ใจ
คือคนเข้าใจฉันทุกอย่างและปรึกษาได้ในทุกๆ เรื่อง
มันเป็นความบังเอิญหรืออย่างไรฉันก็ไม่อาจทราบได้ ฉันและกันต์ได้มาทำงานที่เดียวกัน
ฉันเองเป็นวิศวกร ส่วนกันต์ดูแลเรื่องกฎหมายให้กับบริษัท
คุณผู้อ่าน อยากรู้เรื่องราวลึกไหม? ฉันจะเล่าให้ฟัง
ตลอดเวลาที่เราทำงานอยู่ด้วยกัน สายใยรักเริ่มถักทอขึ้น จากที่บางจะแทบจะมองไม่เห็น
ก็กลับชัดเจนขึ้น กันต์ค่อยๆ ทอสายใยรักให้กับฉัน คอยเติมความรักที่ฉันขาดหาย
ระหว่างฉันและกันต์ค่อยเปลี่ยนมิตรภาพระหว่างเพื่อน...กลายเป็นคนรัก...สายตาของฉันเคยมองกันต์เป็นเพียงเพื่อนสนิทคนหนึ่ง
ที่มีเพียงความห่วงใย ก็กลายเป็นเป็นความห่วงหา อาทรณ์
ความรู้สึกที่ทำให้สายตาเปล่งประกายแห่งความสุขเพียงแค่ได้เห็น
การคบกันของเราสองคนอาจจะไม่หวานเหมือนคู่ไหนที่คบกัน แต่เราก็มีความสุขในแบบของเรา
คนเป็นแฟนกัน ไม่จำเป็นต้อง ติดกันตลอดเวลา
ไม่ต้องหวานใส่กันได้ทุกนาที หรือจะต้องประกาศให้คนอื่นรู้ว่าเรารักกันแค่ไหน
สวีทหวานกันยังไง แค่เราทั้งสองคนมีใจให้กันและกันเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
วันหนึ่ง กันต์ส่งข้อความชวนฉันออกไปทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารเดิมของเรา
กันต์ : ปราย
เลิกงานแล้วรอกันต์ที่ร้านเดิมนะ
กันต์ :
ไปคุยงานกับหัวหน้าที่บริษัทลูกก่อน ถ้าเสร็จแล้วจะแวะไปเอาของที่ออฟฟิศก่อนถึงจะตามไป
ปราย : นายจะไปถึงประมาณกี่โมง
ฉันจะได้สั่งอาหารไว้
กันต์ : ซักประมาณทุ่มครึ่งนะ
เวลาราวหนึ่งทุ่ม ฉันขับรถไปถึงที่ร้าน ต้นจามจุรีต้นใหญ่ยังคงยืนต้นสวยงาม
ป้ายหน้าร้าน “สวนพักใจ” ยังคงมองเห็นโดดเด่มมาแต่ไกล
บรรยาการที่นี่ดีมากสไตล์บ้านสวน
มีบริเวณที่กว้างขวางปลีกตัวจากชุมชนเมืองที่แออัดวุ่นวาย ฉันนั่งเล่นโทรศัพท์รอ
จนน้ำมะพร้าวหมดไป อาหารที่สั่งไว้ก็มาจนครบ
‘กันต์น่าจะมาถึงได้แล้ว ทำไมยังมาไม่ถึงอีกนะ’ ฉันคิดก่อนที่จะใช้เลื่อนไปเปิดแอพลิเคชั่นส่งข้อความในโทรศัพท์
ความคิดเห็น