ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำรัก คนรัก เคยรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : ไม่อาจลืมเลือน 1

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 65


    ‘นี่ฉันไม่มีอะไรดีพอที่จะทำให้เขารู้สึก อย่างที่ผู้ชายคนอื่นรู้สึกเลยรึยังไง’

    นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด ตั้งแต่วันที่ฉันได้เจอกับ “กันต์” เขาเป็นผู้ชายที่น่ารักมาก กันต์เป็นสุภาพบุรุษมากๆ จนทำให้สิ่งที่ใครหลายคนเคยบอกฉันว่า “เวลาจีบกันอะไรๆ ก็ดีไปหมด แต่คำพูดและลักษะท่าทางของผู้ชายตอนนั้นไว้ใจไม่ได้” มันถูกลบล้างด้วยความดีงามที่เสมอต้นเสมอปลายของกันต์

    หรืออาจเรียกได้ว่า ดีเกินไป!

     

                    ถ้าเกิดคุณมีคนพิเศษ อย่างน้อยคุณก็อยากให้ชายคนนั้นกุมมือของคุณเอาไว้ ในเวลาที่นั่งมองพระอาทิตย์ตกดิน ท้องฟ้า อากาศเป็นใจ สายลมเอื่อยๆ

    แต่กันต์ก็ไม่ทำ

    แม้ว่าฉันอยากจะให้เขากุมมือฉันเอาไว้ขนาดไหน ฉันก็ยังขอบคุณกันต์ ที่เขายังให้เกียรติฉันเสมอ ทำให้ฉันมีความสุขมากอย่างบอกไม่ถูก หัวใจของฉันมันพองโต จนแทบจะหยุดหายใจ มีแต่ความรู้สึกอิ่มเอม อบอุ่นและปลอดภัยตลอดเวลาที่เราอยู่ใกล้กัน

     

    “ปิ๊ง ป่อง” เสียงข้อความในโทรศัพท์ดังขึ้น

    เสียงนั้นปลุกฉันให้ตื่นจากภวังค์ พาสติตัวเองกลับมาที่ภาพของเพดานห้องสีขาว ฉันกลิ้งตัวทับผ้าห่มนวมบนเตียงไปหยิบเอาโทรศัพท์มือถือที่หน้าสว่างวาบด้วยแถบแจ้งเตือนข้อความ

    ข้อความทักทายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นคนที่ฉันเพิ่งจะมโนถึง หวนรำลึกถึงความหลังครั้งเก่า ที่เราต่างไม่แสดงความชัดเจนให้แก่กัน เมื่อนานมาแล้วก่อนที่เราจะห่างเหินกันไปหลายปี

     

    กันต์ : หวัดดีปราย กันต์มีข่าวดีมาบอก

    ปราย : send sticker (รูปการ์ตูนทำหน้าสงสัย)

    ฉันตั้งตารอคอยข้อความที่จะปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์ แต่ก็อดใจพิมพ์ถามไปก่อนไม่ได้

    ปราย : ข่าวดีอะไร? นายเพิ่งลาออกจากที่ทำงานเดิมนี่

    ปราย : หรือว่า ? ได้งานใหม่แล้วเหรอ?

    กันต์ : send sticker (รูปการ์ตูนทำหน้ายิ้มแฉ่ง)

    กันต์ : ใช่ เราได้งานใหม่แล้ว

    ข้อความสุดท้ายทำให้ฉันรู้สึกดีใจ และโล่งอกไปด้วย เพราะเราต่างก็รู้ดีว่าในสถานการณ์บ้านเมืองและเศรษฐกิจแบบนี้ การหางานใหม่ที่ดีกว่าเดิมนั้น เป็นไปได้ยากขึ้นทุกที

    ปราย : งานอะไรเหรอ ได้ที่ไหน

    กันต์ : เราได้ทำงานด้านกฎหมายเดิมแหละ

    กันต์ : ที่บริษัทอัญชาลิฟ ! ^_^

    นั่นทำให้ฉันยิ่งกว่าหลาดใจ ลืมตัวลุกพรวดพราดขึ้นมานั่งจ้องหน้าบนที่นอนในทันที

    ปราย : เฮ้ย! นายมาสมัครงานที่บริษัทเราตั้งแต่เมื่อไหร่อะ ไม่เห็นบอกกันมาก่อนเลย

    กันต์ : ก็วิศวะกรอย่างเธองานยุ่งจะตาย จะมีเวลามาสนใจมาดูคนสมัครงานด้วยเหรอ 555+

    ปราย : โธ่ ...นายนี่ก็

    ปราย : อย่างนี้ต้องฉลอง วันไหนกันดี ชวนเพื่อนๆด้วยนะ ดีไหม

    กันต์ : ได้สิ

    แล้วบทสนทนาในวันนี้ก็จบลงด้วยความรู้สึกที่อิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก

    ฉันเองไม่ได้เคยได้ใส่ใจ ก่อนหน้านั้นฉันรู้แค่เพียงว่าเขาคือเพื่อนคนหนึ่งที่ฉันไว้ใจ คือคนเข้าใจฉันทุกอย่างและปรึกษาได้ในทุกๆ เรื่อง

    มันเป็นความบังเอิญหรืออย่างไรฉันก็ไม่อาจทราบได้ ฉันและกันต์ได้มาทำงานที่เดียวกัน ฉันเองเป็นวิศวกร ส่วนกันต์ดูแลเรื่องกฎหมายให้กับบริษัท

     

    คุณผู้อ่าน อยากรู้เรื่องราวลึกไหม? ฉันจะเล่าให้ฟัง

     

    ตลอดเวลาที่เราทำงานอยู่ด้วยกัน สายใยรักเริ่มถักทอขึ้น จากที่บางจะแทบจะมองไม่เห็น ก็กลับชัดเจนขึ้น กันต์ค่อยๆ ทอสายใยรักให้กับฉัน คอยเติมความรักที่ฉันขาดหาย

    ระหว่างฉันและกันต์ค่อยเปลี่ยนมิตรภาพระหว่างเพื่อน...กลายเป็นคนรัก...สายตาของฉันเคยมองกันต์เป็นเพียงเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่มีเพียงความห่วงใย ก็กลายเป็นเป็นความห่วงหา อาทรณ์ ความรู้สึกที่ทำให้สายตาเปล่งประกายแห่งความสุขเพียงแค่ได้เห็น

    การคบกันของเราสองคนอาจจะไม่หวานเหมือนคู่ไหนที่คบกัน แต่เราก็มีความสุขในแบบของเรา คนเป็นแฟนกัน ไม่จำเป็นต้อง ติดกันตลอดเวลา

    ไม่ต้องหวานใส่กันได้ทุกนาที หรือจะต้องประกาศให้คนอื่นรู้ว่าเรารักกันแค่ไหน สวีทหวานกันยังไง  แค่เราทั้งสองคนมีใจให้กันและกันเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว  

    วันหนึ่ง กันต์ส่งข้อความชวนฉันออกไปทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารเดิมของเรา

    กันต์ : ปราย เลิกงานแล้วรอกันต์ที่ร้านเดิมนะ

    กันต์ : ไปคุยงานกับหัวหน้าที่บริษัทลูกก่อน ถ้าเสร็จแล้วจะแวะไปเอาของที่ออฟฟิศก่อนถึงจะตามไป

    ปราย : นายจะไปถึงประมาณกี่โมง ฉันจะได้สั่งอาหารไว้

    กันต์ : ซักประมาณทุ่มครึ่งนะ

     

    เวลาราวหนึ่งทุ่ม ฉันขับรถไปถึงที่ร้าน ต้นจามจุรีต้นใหญ่ยังคงยืนต้นสวยงาม ป้ายหน้าร้าน “สวนพักใจ” ยังคงมองเห็นโดดเด่มมาแต่ไกล

    บรรยาการที่นี่ดีมากสไตล์บ้านสวน มีบริเวณที่กว้างขวางปลีกตัวจากชุมชนเมืองที่แออัดวุ่นวาย ฉันนั่งเล่นโทรศัพท์รอ จนน้ำมะพร้าวหมดไป อาหารที่สั่งไว้ก็มาจนครบ

    กันต์น่าจะมาถึงได้แล้ว ทำไมยังมาไม่ถึงอีกนะ’ ฉันคิดก่อนที่จะใช้เลื่อนไปเปิดแอพลิเคชั่นส่งข้อความในโทรศัพท์


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×