ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ท้ารบปราสาทขุนนาง
    ...วันที่ 8 ตุลาคมที่ห้องพัก...
    “พวกเธอสามคนลงไปกินข้าวเถอะนะ  ฉันจะอยู่ข้างบนอ่านหนังสือบ้างอย่างหน่อย”วันนั้นฉันฉันไม่รู้สึกหิวเพราะเมื่อคืนกินแอปเปิ้ล
  1 ลูกขนมปังอีก 3 ก้อน(ก็มันอร่อยนี่นา)
    “แล้วเธอไม่หิวเหรอ”แองจี้ถาม
    “ไม่หรอกเมื่อคืนก็กินไปซะงั้น”ฉันพูกติดห้าวสังเกตให้ดี
    “จ๋า  เดี๋ยวเธอก็ลงไปด้วยและกันต้องไปช่วยงานเฟริน  คาโลกับคิลอีกเหอ”มาทิลด้าพูดตอนออกไปจนเข้ามาถึงในห้อง  เมื่อสามสาวออกไป
    “โอ้ยยยย  อิ่มจัง”ฉันระบายออกมาพร้อมเอามือไว้ที่ท้อง
    “อ่า.....ช่วยด้วยค่า.....”เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นอยู่ในห้องฉัน
ตุบ(เสียงเอฟเฟค)แล้วมันก็ตกลงมาที่พื้นฉันเลยก้มไปมอง
    “ผีสาว”ใช่นั้นผีสาวแน่ๆวิญญาณที่อยู่ในคทาพิพากษาของคาโล
    “โอ้ยยยย  คทาบ้านี่กว่าจะออกมาได้  อุ้ยขอโทษนะค่ะที่มารบกวนการพักผ่อนวันหยุดของท่าน”ผีสาวลอยขึ้นมาต่อหน้าฉันแล้วก้มหัวเป็นการขอโทษใหญ่
    “ไม่เป็นไรหรอก  ไม่ทีอะไรทำเหมือนกัน (นั่งบ่นว่าอิ่มอยู่ต่างหาก)
มานั่งคุยกันสิคาโลคงไม่ว่าหรอกมั่ง”ฉันเริ่มบทสนทนา
    “เปล่าหรอกค่ะ  ฉันหนีออกมาต่างหาก  ก็ไอ้คทานั้นถูกนายหญิงลงคาถาเอาไว้กว่าจะออกมาได้ก็เล่นซะ.......”จากนั้นผีสาวก็ชอบเรียกฉันว่านายหญิงกลางและเราก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นเมื่อผีสาวสอนให้ใช้เวทมนต์บางอย่างไม่ใช่สิหลายอย่างเลยแหละ
.............ผ่านไป 5 นาที..........
    “เบื่อไหม  ไปห้องอาหารดราก้อนกันดีกว่าเนอะๆ”
    “ได้เลยนายหญิงกลาง”ฉันจึงค่อยๆเดินออกจากห้องกับผีสาวที่เกาะ
หัวไหล่ของฉัน  เดินไปเรื่อยๆเรื่อยๆเรื่อยๆจนไปเจอป้ายประกาศว่า
            ประกาศ
                เปิดรับสมัครนักดาบ
          มาร่วมแข็งขันในงานประชันดาบของปี
        ณ  ลานตะวัน  11 โมงวันที่ 11 ตุลาคม (อีก 3 วัน)
        เพศ  ชาย,หญิง  สมัครได้ที่หัวหน้าประจำบ้าน
        (บ้านละ 1 คนเท่านั้นคัดเลือกกันเอง)
   
    “ท่านอาเธอร์ต้องลงแน่ๆ”ผีสาวพูดขึ้น
    “ฉันก็ว่างั้นแหละ ‘อยากลงบ้างจัง’ แต่ถ้าสมมุติว่าผู้หญิงเจอกับผู้ชายละ  มันจะแฟร์เหรอ”
    “ไม่เป็นไรหรอก  มียาประคองชีวิตอยู่นะอย่าลืม”เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นและเมื่อฉันหันไป
    “สวัสดีฉันชื่อดอร์มินิค  เอดาร์ลาส  ยินดีที่ได้รู้จัก”ดอร์มินิคยื่นมืออกมา
    “ค่ะ  ฉันชื่อยูโดริ  อาร์ดาเลส  ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”ฉันยื่นมือออกไปจับมือพี่ชายคนเดียวที่ฉันมี  ไม่ใช่สิพี่ชายฝาแฝดต่างหาก
    “วันนี้  ฉันกะจะมาทักเธอที่เป็นคนจากเอ็ดลาสเหมือนกันแต่เห็นเธอไม่ลงมากินข้าว (อ่ะ  ก็มันไม่หิวนี่) ก็เลยจะเอาเป็นพรุ่งนี้  เหอค่อยยังชั่วนะเนี่ยที่เธอก็พูดกับฉันเหมือนคนธรรมดาทั่วไป”
    “ง่า  ขอประทานโทษเพค่ะที่หม่อมฉันพูดไม่ค่อยดีต่อพระองค์”ฉันรีบก้มคำนับ
    “โธ่  นี่  เธอไม่ต้องทำถึงขนาดทำขนาดนั้นหรอก”ดอร์มินิคดึงตัวของฉันให้ยืนตรง
    “ฉันขอให้เธอทำตัวปรกติเหมือนคนธรรมดาได้ไหมยูโดริ”
    “กะ...ก็ได้”ฉันตอบกลับไป
    “อืม.......เอ่อใช่  เธออยากเป็นไนท์มากกว่าวิทช์เหรอ”คำพูดนี้ทำให้ฉันนั้นถึงกับอึ้ง  อึ้ง  อึ้งและอึ้งเพราะเรื่องนี้ฉันไม่เคยบอกใครเลยว่าตั้งแต่มาอยู่ที่เอดินเบิร์ก  ฉันรู้สึกอยากเป็นไนท์มากกว่าวิทช์ที่เป็นอยู่  แต่ที่ตกใจมากกว่านั้นคือ    เขารู้ได้ไงว่าฉันอยากเป็นไนท์
    “ทำไมถึงรู้”ฉันพยามไม่มองหน้าเขาเลยหันไปมองป้ายแทน
    “ตาเธอมีความมุ่งมั่นมากทั้งกล้าหาญและดูแข็งแกร่งกว่าตอนที่เธอมาจากไหนก็ไม่รู้”
    “นายอ่านสายตาคนได้น่ะสิ”
    “ก็อาจใช่หรืออาจไม่  แต่เธอคิดยังไงที่จะเป็นไนท์ล่ะ”
    “ก็แค่ฉันอยากลองแข็งแกร่งดูน่ะ  อยากลองใช้กำลังดูบ้าง  บางครั้งฉันใช้เวทมนต์จนเบื่อก็มี  แต่พอมาเจอมาทิลด้า  แองจี้  เรนอน  แนก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง”...รู้สึกว่าฉันจะระบายออกมาซะหมดเกลี้ยงเลยแหะ
    “ไม่เป็นไรหรอกฉันยอมเป็นตัวระบายให้เธอก็ได้  ท่านเลโมธีคงสั่งให้หยุดเรียนแล้วมาคัดเลือกคนแน่ๆฉันว่านะเราไปที่ห้องอาหารดีกว่า”
    “อืม”ฉันจึงเดินไปที่ห้องอาหารดราก้อนกับดอร์มินิค  เมื่อเปิดประตูเข้าๆไปก็...
    “คาโล  คิลกับเฟรินต้องรับงานหนักนะเนี่ย”ภาพตรงหน้าของฉันคือคนเกือบทั้งป้อม (ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย) อัดกันเข้าไปหาหัวหน้าป้อมทั้งสามอย่างกับคนดัง  คงแจกใบสมัครหมดก่อนเวลาแน่ๆ
    “อะไรกันเนี่ยพวกนี่กินข้าวเช้ากันเร็วจริงเนอะ”
    “ใช่  แต่ในตอนนี้ก็บ่ายโมงแล้วต้องเรียกว่าอาหารเที่ยงแล้วล่ะ”แล้วฉันก็หัวเราะขึ้นพร้อมกับดอร์มินิค
    “สวัสดี  ท่านโรเวน”เมื่อฉันได้ยินเสียงนั้นก็แทบอยากกัดลิ้นตัวเองเพราะเจ้าชายแห่งซาเรสมาทัรุ่นพี่โรเวนที่ยืนดูการแจกใบสมัคร
    “เช่นกันท่านอาเธอร์”โรเวนตอบกลับ
    “ป้อมอัศวินนี่สมัครกันเยอะดีนะ  คงจะหาคนชนะได้ดี  แล้วท่านไม่ลงเหรอ”
    “ไม่ล่ะให้รุ่นน้องลงแทน”
    “น่าเสียดายเนอะเราสองคนอดแข่งกันเลย”
    “ท่านได้เป็นตัวแทนปราสาทขุนนางหรอกเหรอ”
    “แน่นอนอยู่แล้ว”คราวนี้ฉันคิดว่าคนทั้งป้อมอาจคิดเหมือนฉัน ‘เดี๋ยวเตะไปปราสาทขุนนางซะเลย’
    “รู้ไหมว่าศึกในครั้งนี้ใครชนะ  ท่านโรเวน” (Albatross: ขอโทษนะค่ะที่อาเธอร์นิสัยไม่ตรงกับตัวจริงแต่มันต้องเป็นไปตามบอทค่ะ)
    “ใครล่ะ”
    “ก็ต้องเป็นปราสาทขุนนางน่ะสิ 55555+”และนั้นแหละเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันหมดความอดทน  ฉันค่อยๆเดินก้มหน้าไปหารุ่นพี่ทั้งสอง  โอ๊ะ  ไม่ใช่สิ  ท่านอาเธอร์...และเมื่อไปถึงตรงหน้า  ฉันจับข้อมือทั้งสองข้างของอาเธอร์โดยไม่สนใจเจ้าตัว  รวบมาไว้ข้างล่างแล้วหลังจากนั้น.......
    เพี๊ยะ
    ใช่แล้ว  ฉันตบหน้ารุ่นพี่ปราสาทขันนางจนนอนลงไปกับพื้น
    “เจ็บจัง”ฉันสบถพร้องสะบัดมือ
    “นี่  รุ่นพี่ปราสาทขุนนางค่ะ  ถ้ายังอยากชนะป้อมอัศวินป้อมของเรานักล่ะก็  เราก็จะขอประชันดาบกับปราสาทขุนนางด้วยศักดิ์ศรีของป้อมอัศวินแห่งนี้”แค่นั้นแหละอาเธอร์ก็ฟิวขาด  ลุกขึ้นมาส่งสายตาเจ้าชู้มาทางฉันต่องหน่าพี่โรเวนซึ่งยืนเฉย
    “ปากดีนี่  รู้ไหมว่า  สาวตบเค้าว่าสาวรักน่ะ”
    “ถ้านั้นเป็นความจริงคงเป็นไปนานแล้วล่ะค่ะ”
    “ยูนี่สุดยอดเลยเนอะซีบิล  รู้ป่ะว่าไม่เคยมีใครล้มมุขนั้นได้”ครี้ดพูดแบบกระซิบใส่ซีบิลที่จ้องมาแต่ฉัน
    “หนอยแก.......”อาเธอร์กัดฟันพูด
    “แถวนี้มีไครชื่อแกเหรอค่ะ”ฉันทำท่ามองหาคนคนหนึ่ง
    “โรเวน!  นายเป็นคนคัดเลือกคนที่จะไปประชันดาบ  ฉันขอให้นายเลือกยัยนี่!”อาเธอร์ชี้นิ้วมาทางฉัน  โรเวนมองคนที่ค่อยๆมาคืนใบสมัครทีละคนกับหัวหน้าป้อมทั้งสาม..........ก็นั้นแหละใครจะไปกล้าสู้กับอาเธอร์ที่ฟิวขาดแบบนี้ถ้าสู้ก็มีแต่ตายลูกเดี๋ยวไม่ต้องพึ่งยาประคองชีวิตเลยแหละ
    “ก็ได้ๆ  แต่เธอคนนั้นจะพร้อมไหม”โรเวนหันมาที่ฉัน
    “พร้อมรบ”ฉันตอบพร้อมดึงปากกาออกมาจากเสื้อแต่ที่ออกมาจากกระเป๋านั้นไม่ใช่ปากกาแต่เป็นดาบที่ชี้ไปที่หน้าอาเธอร์
    “ปากกานั้น”อาเธอร์เอย 
    “ปากกาวิเศษแห่งแอ็ดลาส...มีแต่ฉันเท่านั้นที่ใช้มันได้”
    “งั้นเหรอ  ฮิ  ไม่ค่อยน่ากลัวศักเท่าไหร่เลยนะแล้วเจอกันในอีก 3 วัน”จากนั้นอาเธอร์ก็เดินออกไปจากห้องอาหารดราก้อน
    “ฮูเล่.....................................”แล้วเสียงแงความดีใจก็ดังขึ้นเมื่อฉันลดดาบลงเป็นปากกาเหมือนเดิม
    “เธอกล้าหาญอย่างที่ฉันบอกจริงๆ”ดอร์มินิคพูดเสียงแผวไม่ให้ใครได้ยิน
    “ยูโดริ”เสียงสามสาวดังมาจากข้างหลัง  ฉันหันไป  ทั้งสามก็เข้ามาส่วมกอดเข้ามาจนจะล้ม
    “ใครสอนเธอพูดโต้ตอบน่ะ”เฟรินเดินเข้ามากับคาโลและคิล
    “มาทิลด้าน่ะ  เอ่อใช่คาโล  ฉันว่านายควารปล่อยให้ผีสาวออกมาจากคทาบ้างนะ”
    “ทำไม”คาโลพูดเสียงเรียบ
    “เอ่อ...คือ...อ๋อเดี๋ยวพลังในคทาอาจจะหมดน่ะเพราะว่าคทาใช้ผีสาวเป็นตัวกลางด้วยส่วนหนึ่งน่ะ”ฉันกุเรื่องแล้วให้ผีสาวไปหาคาโล
    “ยูโดริ”โรเวนเรียกฉัน
    “ค่ะ”ฉันตอบพร้อมหันหน้าไปหาโรเวน
    “ศักดิ์ศรีของป้อมอัศวินเราอยู่ในมือเธอแล้ว  เอาชนะปราสาทขุนนางให้ได้นะ......”โรเวนค่อยๆก้มมาข้างหูของฉัน
    “ยูดอนร่า  เอดาร์เลส  เดอะไนท์แอนปรินเซสออฟแอ็ดลาส”โรเวนค่อยๆเอาหน้าออกจากข้างหูของฉันที่ยังคิดว่า ‘ต้องเป็นฝีมือเลโมธีแน่ๆ’
    “ค่ะ  ฉันจะเอาชัยชนะมาฝากทุกคนชาวป้อมอัศวินแน่ค่ะ”
    ...บ่าย 2 โมง  ที่ห้องของกับลอเรนซ์...
    ก๊อก  ก๊อก....
    “ใครน่ะ”เสียงลูคัสดังออกมาจากห้อง
    “เอ่อ...ยูโดริ...รุ่นน้องปี 3 ค่ะ  ขอพบพี่ลอเรนซ์ได้ไหมค่ะ”ฉันตอบกลับไป
    “ได้สิ  ยูโดรี่  ลอรี่กำลังอาบน้ำอยู่น่ะ”ลูคัสเปิดประตูให้ฉันเข้าไปในห้อง  เมื่อเข้าไปลอเรนซ์ก็ออกมาพอดี
    “พวกเธอสามคนลงไปกินข้าวเถอะนะ  ฉันจะอยู่ข้างบนอ่านหนังสือบ้างอย่างหน่อย”วันนั้นฉันฉันไม่รู้สึกหิวเพราะเมื่อคืนกินแอปเปิ้ล
  1 ลูกขนมปังอีก 3 ก้อน(ก็มันอร่อยนี่นา)
    “แล้วเธอไม่หิวเหรอ”แองจี้ถาม
    “ไม่หรอกเมื่อคืนก็กินไปซะงั้น”ฉันพูกติดห้าวสังเกตให้ดี
    “จ๋า  เดี๋ยวเธอก็ลงไปด้วยและกันต้องไปช่วยงานเฟริน  คาโลกับคิลอีกเหอ”มาทิลด้าพูดตอนออกไปจนเข้ามาถึงในห้อง  เมื่อสามสาวออกไป
    “โอ้ยยยย  อิ่มจัง”ฉันระบายออกมาพร้อมเอามือไว้ที่ท้อง
    “อ่า.....ช่วยด้วยค่า.....”เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นอยู่ในห้องฉัน
ตุบ(เสียงเอฟเฟค)แล้วมันก็ตกลงมาที่พื้นฉันเลยก้มไปมอง
    “ผีสาว”ใช่นั้นผีสาวแน่ๆวิญญาณที่อยู่ในคทาพิพากษาของคาโล
    “โอ้ยยยย  คทาบ้านี่กว่าจะออกมาได้  อุ้ยขอโทษนะค่ะที่มารบกวนการพักผ่อนวันหยุดของท่าน”ผีสาวลอยขึ้นมาต่อหน้าฉันแล้วก้มหัวเป็นการขอโทษใหญ่
    “ไม่เป็นไรหรอก  ไม่ทีอะไรทำเหมือนกัน (นั่งบ่นว่าอิ่มอยู่ต่างหาก)
มานั่งคุยกันสิคาโลคงไม่ว่าหรอกมั่ง”ฉันเริ่มบทสนทนา
    “เปล่าหรอกค่ะ  ฉันหนีออกมาต่างหาก  ก็ไอ้คทานั้นถูกนายหญิงลงคาถาเอาไว้กว่าจะออกมาได้ก็เล่นซะ.......”จากนั้นผีสาวก็ชอบเรียกฉันว่านายหญิงกลางและเราก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นเมื่อผีสาวสอนให้ใช้เวทมนต์บางอย่างไม่ใช่สิหลายอย่างเลยแหละ
.............ผ่านไป 5 นาที..........
    “เบื่อไหม  ไปห้องอาหารดราก้อนกันดีกว่าเนอะๆ”
    “ได้เลยนายหญิงกลาง”ฉันจึงค่อยๆเดินออกจากห้องกับผีสาวที่เกาะ
หัวไหล่ของฉัน  เดินไปเรื่อยๆเรื่อยๆเรื่อยๆจนไปเจอป้ายประกาศว่า
            ประกาศ
                เปิดรับสมัครนักดาบ
          มาร่วมแข็งขันในงานประชันดาบของปี
        ณ  ลานตะวัน  11 โมงวันที่ 11 ตุลาคม (อีก 3 วัน)
        เพศ  ชาย,หญิง  สมัครได้ที่หัวหน้าประจำบ้าน
        (บ้านละ 1 คนเท่านั้นคัดเลือกกันเอง)
   
    “ท่านอาเธอร์ต้องลงแน่ๆ”ผีสาวพูดขึ้น
    “ฉันก็ว่างั้นแหละ ‘อยากลงบ้างจัง’ แต่ถ้าสมมุติว่าผู้หญิงเจอกับผู้ชายละ  มันจะแฟร์เหรอ”
    “ไม่เป็นไรหรอก  มียาประคองชีวิตอยู่นะอย่าลืม”เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นและเมื่อฉันหันไป
    “สวัสดีฉันชื่อดอร์มินิค  เอดาร์ลาส  ยินดีที่ได้รู้จัก”ดอร์มินิคยื่นมืออกมา
    “ค่ะ  ฉันชื่อยูโดริ  อาร์ดาเลส  ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”ฉันยื่นมือออกไปจับมือพี่ชายคนเดียวที่ฉันมี  ไม่ใช่สิพี่ชายฝาแฝดต่างหาก
    “วันนี้  ฉันกะจะมาทักเธอที่เป็นคนจากเอ็ดลาสเหมือนกันแต่เห็นเธอไม่ลงมากินข้าว (อ่ะ  ก็มันไม่หิวนี่) ก็เลยจะเอาเป็นพรุ่งนี้  เหอค่อยยังชั่วนะเนี่ยที่เธอก็พูดกับฉันเหมือนคนธรรมดาทั่วไป”
    “ง่า  ขอประทานโทษเพค่ะที่หม่อมฉันพูดไม่ค่อยดีต่อพระองค์”ฉันรีบก้มคำนับ
    “โธ่  นี่  เธอไม่ต้องทำถึงขนาดทำขนาดนั้นหรอก”ดอร์มินิคดึงตัวของฉันให้ยืนตรง
    “ฉันขอให้เธอทำตัวปรกติเหมือนคนธรรมดาได้ไหมยูโดริ”
    “กะ...ก็ได้”ฉันตอบกลับไป
    “อืม.......เอ่อใช่  เธออยากเป็นไนท์มากกว่าวิทช์เหรอ”คำพูดนี้ทำให้ฉันนั้นถึงกับอึ้ง  อึ้ง  อึ้งและอึ้งเพราะเรื่องนี้ฉันไม่เคยบอกใครเลยว่าตั้งแต่มาอยู่ที่เอดินเบิร์ก  ฉันรู้สึกอยากเป็นไนท์มากกว่าวิทช์ที่เป็นอยู่  แต่ที่ตกใจมากกว่านั้นคือ    เขารู้ได้ไงว่าฉันอยากเป็นไนท์
    “ทำไมถึงรู้”ฉันพยามไม่มองหน้าเขาเลยหันไปมองป้ายแทน
    “ตาเธอมีความมุ่งมั่นมากทั้งกล้าหาญและดูแข็งแกร่งกว่าตอนที่เธอมาจากไหนก็ไม่รู้”
    “นายอ่านสายตาคนได้น่ะสิ”
    “ก็อาจใช่หรืออาจไม่  แต่เธอคิดยังไงที่จะเป็นไนท์ล่ะ”
    “ก็แค่ฉันอยากลองแข็งแกร่งดูน่ะ  อยากลองใช้กำลังดูบ้าง  บางครั้งฉันใช้เวทมนต์จนเบื่อก็มี  แต่พอมาเจอมาทิลด้า  แองจี้  เรนอน  แนก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง”...รู้สึกว่าฉันจะระบายออกมาซะหมดเกลี้ยงเลยแหะ
    “ไม่เป็นไรหรอกฉันยอมเป็นตัวระบายให้เธอก็ได้  ท่านเลโมธีคงสั่งให้หยุดเรียนแล้วมาคัดเลือกคนแน่ๆฉันว่านะเราไปที่ห้องอาหารดีกว่า”
    “อืม”ฉันจึงเดินไปที่ห้องอาหารดราก้อนกับดอร์มินิค  เมื่อเปิดประตูเข้าๆไปก็...
    “คาโล  คิลกับเฟรินต้องรับงานหนักนะเนี่ย”ภาพตรงหน้าของฉันคือคนเกือบทั้งป้อม (ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย) อัดกันเข้าไปหาหัวหน้าป้อมทั้งสามอย่างกับคนดัง  คงแจกใบสมัครหมดก่อนเวลาแน่ๆ
    “อะไรกันเนี่ยพวกนี่กินข้าวเช้ากันเร็วจริงเนอะ”
    “ใช่  แต่ในตอนนี้ก็บ่ายโมงแล้วต้องเรียกว่าอาหารเที่ยงแล้วล่ะ”แล้วฉันก็หัวเราะขึ้นพร้อมกับดอร์มินิค
    “สวัสดี  ท่านโรเวน”เมื่อฉันได้ยินเสียงนั้นก็แทบอยากกัดลิ้นตัวเองเพราะเจ้าชายแห่งซาเรสมาทัรุ่นพี่โรเวนที่ยืนดูการแจกใบสมัคร
    “เช่นกันท่านอาเธอร์”โรเวนตอบกลับ
    “ป้อมอัศวินนี่สมัครกันเยอะดีนะ  คงจะหาคนชนะได้ดี  แล้วท่านไม่ลงเหรอ”
    “ไม่ล่ะให้รุ่นน้องลงแทน”
    “น่าเสียดายเนอะเราสองคนอดแข่งกันเลย”
    “ท่านได้เป็นตัวแทนปราสาทขุนนางหรอกเหรอ”
    “แน่นอนอยู่แล้ว”คราวนี้ฉันคิดว่าคนทั้งป้อมอาจคิดเหมือนฉัน ‘เดี๋ยวเตะไปปราสาทขุนนางซะเลย’
    “รู้ไหมว่าศึกในครั้งนี้ใครชนะ  ท่านโรเวน” (Albatross: ขอโทษนะค่ะที่อาเธอร์นิสัยไม่ตรงกับตัวจริงแต่มันต้องเป็นไปตามบอทค่ะ)
    “ใครล่ะ”
    “ก็ต้องเป็นปราสาทขุนนางน่ะสิ 55555+”และนั้นแหละเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันหมดความอดทน  ฉันค่อยๆเดินก้มหน้าไปหารุ่นพี่ทั้งสอง  โอ๊ะ  ไม่ใช่สิ  ท่านอาเธอร์...และเมื่อไปถึงตรงหน้า  ฉันจับข้อมือทั้งสองข้างของอาเธอร์โดยไม่สนใจเจ้าตัว  รวบมาไว้ข้างล่างแล้วหลังจากนั้น.......
    เพี๊ยะ
    ใช่แล้ว  ฉันตบหน้ารุ่นพี่ปราสาทขันนางจนนอนลงไปกับพื้น
    “เจ็บจัง”ฉันสบถพร้องสะบัดมือ
    “นี่  รุ่นพี่ปราสาทขุนนางค่ะ  ถ้ายังอยากชนะป้อมอัศวินป้อมของเรานักล่ะก็  เราก็จะขอประชันดาบกับปราสาทขุนนางด้วยศักดิ์ศรีของป้อมอัศวินแห่งนี้”แค่นั้นแหละอาเธอร์ก็ฟิวขาด  ลุกขึ้นมาส่งสายตาเจ้าชู้มาทางฉันต่องหน่าพี่โรเวนซึ่งยืนเฉย
    “ปากดีนี่  รู้ไหมว่า  สาวตบเค้าว่าสาวรักน่ะ”
    “ถ้านั้นเป็นความจริงคงเป็นไปนานแล้วล่ะค่ะ”
    “ยูนี่สุดยอดเลยเนอะซีบิล  รู้ป่ะว่าไม่เคยมีใครล้มมุขนั้นได้”ครี้ดพูดแบบกระซิบใส่ซีบิลที่จ้องมาแต่ฉัน
    “หนอยแก.......”อาเธอร์กัดฟันพูด
    “แถวนี้มีไครชื่อแกเหรอค่ะ”ฉันทำท่ามองหาคนคนหนึ่ง
    “โรเวน!  นายเป็นคนคัดเลือกคนที่จะไปประชันดาบ  ฉันขอให้นายเลือกยัยนี่!”อาเธอร์ชี้นิ้วมาทางฉัน  โรเวนมองคนที่ค่อยๆมาคืนใบสมัครทีละคนกับหัวหน้าป้อมทั้งสาม..........ก็นั้นแหละใครจะไปกล้าสู้กับอาเธอร์ที่ฟิวขาดแบบนี้ถ้าสู้ก็มีแต่ตายลูกเดี๋ยวไม่ต้องพึ่งยาประคองชีวิตเลยแหละ
    “ก็ได้ๆ  แต่เธอคนนั้นจะพร้อมไหม”โรเวนหันมาที่ฉัน
    “พร้อมรบ”ฉันตอบพร้อมดึงปากกาออกมาจากเสื้อแต่ที่ออกมาจากกระเป๋านั้นไม่ใช่ปากกาแต่เป็นดาบที่ชี้ไปที่หน้าอาเธอร์
    “ปากกานั้น”อาเธอร์เอย 
    “ปากกาวิเศษแห่งแอ็ดลาส...มีแต่ฉันเท่านั้นที่ใช้มันได้”
    “งั้นเหรอ  ฮิ  ไม่ค่อยน่ากลัวศักเท่าไหร่เลยนะแล้วเจอกันในอีก 3 วัน”จากนั้นอาเธอร์ก็เดินออกไปจากห้องอาหารดราก้อน
    “ฮูเล่.....................................”แล้วเสียงแงความดีใจก็ดังขึ้นเมื่อฉันลดดาบลงเป็นปากกาเหมือนเดิม
    “เธอกล้าหาญอย่างที่ฉันบอกจริงๆ”ดอร์มินิคพูดเสียงแผวไม่ให้ใครได้ยิน
    “ยูโดริ”เสียงสามสาวดังมาจากข้างหลัง  ฉันหันไป  ทั้งสามก็เข้ามาส่วมกอดเข้ามาจนจะล้ม
    “ใครสอนเธอพูดโต้ตอบน่ะ”เฟรินเดินเข้ามากับคาโลและคิล
    “มาทิลด้าน่ะ  เอ่อใช่คาโล  ฉันว่านายควารปล่อยให้ผีสาวออกมาจากคทาบ้างนะ”
    “ทำไม”คาโลพูดเสียงเรียบ
    “เอ่อ...คือ...อ๋อเดี๋ยวพลังในคทาอาจจะหมดน่ะเพราะว่าคทาใช้ผีสาวเป็นตัวกลางด้วยส่วนหนึ่งน่ะ”ฉันกุเรื่องแล้วให้ผีสาวไปหาคาโล
    “ยูโดริ”โรเวนเรียกฉัน
    “ค่ะ”ฉันตอบพร้อมหันหน้าไปหาโรเวน
    “ศักดิ์ศรีของป้อมอัศวินเราอยู่ในมือเธอแล้ว  เอาชนะปราสาทขุนนางให้ได้นะ......”โรเวนค่อยๆก้มมาข้างหูของฉัน
    “ยูดอนร่า  เอดาร์เลส  เดอะไนท์แอนปรินเซสออฟแอ็ดลาส”โรเวนค่อยๆเอาหน้าออกจากข้างหูของฉันที่ยังคิดว่า ‘ต้องเป็นฝีมือเลโมธีแน่ๆ’
    “ค่ะ  ฉันจะเอาชัยชนะมาฝากทุกคนชาวป้อมอัศวินแน่ค่ะ”
    ...บ่าย 2 โมง  ที่ห้องของกับลอเรนซ์...
    ก๊อก  ก๊อก....
    “ใครน่ะ”เสียงลูคัสดังออกมาจากห้อง
    “เอ่อ...ยูโดริ...รุ่นน้องปี 3 ค่ะ  ขอพบพี่ลอเรนซ์ได้ไหมค่ะ”ฉันตอบกลับไป
    “ได้สิ  ยูโดรี่  ลอรี่กำลังอาบน้ำอยู่น่ะ”ลูคัสเปิดประตูให้ฉันเข้าไปในห้อง  เมื่อเข้าไปลอเรนซ์ก็ออกมาพอดี
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น