ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The magic pen of Edlas(ฟิคบารามอส)

    ลำดับตอนที่ #2 : เจ้าหญิงแห่งแอ็ดลาส

    • อัปเดตล่าสุด 31 ส.ค. 48


        “ทรงเป็นอะไรไปน่ะ”

        “อ๋อ   อืมฉันรู้พอจำอะไรได้บ้างแล้วล่ะ   เหมือนกับมีตัวเริ่มก่อนซะยังงั้น”ฉันรู้สึกเหมือนมีตัวเริ่มบ้างอย่างที่ทำให้ฉันรู้ว่าตัวตนที่แท้จนิงเป็นเจ้าหญิง

        “ตัวเริ่มนั้นคือปากกาที่ทรงถืออยู่นั้นแหละ”เลโมธีชี้มาที่ปากกาที่ฉันถืออยู่

        “ปากกานั้นเป็นปากกาที่กษัตริย์แห่งแอ็สลาสสั่งให้ประดิษฐ์โดยคนที่ทำขึ้นมานั้นคือกระหม่อมเอง (อึ้งรอบสาม) ทรงกำชับไว้ว่าจะหมอบปากกานั้นแก่พระธิดาซึ่งก็คือพระองค์ (ทำไมตำแหน่งเริ่มสูงขึ้นทุกทีอ่ะ)

    ปากกานั้นไม่ใช่ปากกาธรรมดาแต่เป็นปากกาดังใจนึกว่าเป็นไปตามความต้องการของพระองค์ว่าจะทรงให้มันเป็นอะไร   ที่ปากกานั้นพบพระองค์แสดงว่าทรงจะกลับมาที่เอเดนอีกครั้ง”เลโมธีอธิบายจนฉันต้องเรียบเรียงให้ตัวเองเข้าใจ   จนฉันเข้าใจหลายๆอย่างเกียวกับปากกาด้ามนี้   มิน่าล่ะฉันถึงได้สะดุดตาเรื่องหัวขโมยแห่งบารามอสและปากกาด้ามนี้

        “เลโมธี”

        “กระหม่อม”

        “ช่วยปิดเรื่องนี้เป็นความลับด้วยนะ   เมื่อถึงเวลาที่ควรรู้ความจริง

    ก็ต้องบอกพวกเขาไปจริงๆแล้วล่ะ”

        “กระหม่อม   แล้วทรงรู้รึยังว่าพ่อกับแม่ของพระองค์ที่อยู่บนโลกมนุษย์น่ะเป็นแค่หุ่นธรรมดาเท่านั้น”เลโมธีบอก

        “อ้าว   เอ่อๆเรื่องนั้นo.k.จบ   แล้วนี่ฉันยังงงอยู่เลยนะเนี่ยว่าพ่อจะส่งฉันไปโลกมนุษย์ทำไม”ฉันเริ่มงงยิ่งขึ้น

        “ในเอเดนเรานั้น   เหล่าเจ้าชายรัชทายาทจะต้องออกไปเร่ร่อนก็จริง   แต่ในกรณีพระองค์ที่เป็นเจ้าหญิง   องค์ราชินีอยากให้พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นภายนอกมากกว่านี้เลยให้หม่อมฉันจัดการทุกอย่าง”อึ้งอีกรอบ   คง...ไม่มีอะไรน่าตกใจไปมากกว่านี้

        “o.k.   เอาล่ะ   คงไม่มีความจริงจะพูดอีกแล้วใช่ไหมเพราะวันนี้

    ฉันนับสถิตติการอึ้งถึง 4 ครั้งด้วยกันแล้ว”ฉันพูดขึ้น

        “ดอร์มินิค   เอดาร์ลาส”

        “ใครอีกล่ะ   ญาติเหรอ”

        “พี่ชายฝาแฝดของพระองค์”อึ้งรอบห้า

        “อ๋อ   ใช่   พี่ชายฉันคงครองบัลลังก์แล้วสินะ”ฉันพูดไปนู้น

        “อยู่ที่ป้อมอัศวินกระหม่อม”รอบที่หก

        “แล้ว   อย่าบอกนะว่าฉันต้องไปอยู่.....”

        “ป้อมอัศวิน”เลโมธีตอบแทนฉันแล้ว



        ...เช้าวันใหม่ที่ห้องอาหารดราก้อน...

        “หาววววววววววววววววว...”เฟรินหาวอย่างกับคนเบื่อโลก   ขณะเดินไปหาที่นั่ง

        “เฟริน   แกเลิกหาวซักทีไดไหม   ไม่อายคนอื่นเลย”คิลทำท่าประสานมือที่ท้ายท้อย

        “ก็เมื่อคืนน่ะสิ   มันช่วยไม่ได้เลยอ่ะ   ฉันกะจะนอนเร็วหน่อยแต่ไอ้คาโลมันนั่งอ่านหนังสืออยู่   จะให้นอนได้ไง”เฟรินเถียงต่อ   ที่นี้ลามไปถึงคนที่เลียบมาตอลทาง

        “ม่านตานายบอบบางมากนักหรือไงเฟริน”คาโลตอบกลับไป

        “แล้วไง   ว่าแต่นายเหอะอ่าวนหนังสืออะไร   ไม่เคยเห็น”เจ้าตังดีเริ่มอยากรู้อยากเห็น

        “ประวัติเจ้าชายเจ้าหญิงรัชทายาททุกพระองค์”คาโลตอบเสียงเรียบ

        “อ่านไปทำไมก็ไม่รู้”เฟรินพูดเสียงยาว

        “ผู้หยิงคนนั้นน่ะ   สีของตา.....มันแปลกเกินไปสำหรับคนธรรมดา”

        “ตา?   สีของตาเป็นสีอะไร”เฟรินพูดต่อ

        “สีนะ......”

        “เอาล่ะ   นักเรียนป้อมอัศวินทุกคนฟังทางนี้หน่อย”เสียงของเลโมธีดังขึ้นที่ประตูทางเข้าห้องอาหาร   ทุกคนจึงหันไปฟัง

        “วันนี้   เราจะมีสมาชิกใหม่มาเข้าป้อมอัศวินของเรา   ขอให้ทุกคนปรบมือต้อนรับสมาชิกใหม่   ยูโดริ   อาร์ดาเลส   เดอะวิทช์   ออฟ   แอ็ดลาส”เสียงปรบมือดังขึ้น   ฉันจึงค่อยๆก้าวเดินออกไปต่อหน้าทุกคน   ตาของฉันถูกเวทมนต์ของเลโมธีเปลี่ยนเป็นสีดำ   ให้เข้ากับผมสีดำที่ถูกผูกแกะสองด้านเอาไว้ข้างหลังกับชุดนักเรียนที่มีปากกาเสียบอยู่ที่กระเป๋าเสื้อ

        “ที่นี้   เรามีปัญหาอยู่   นั้นคือ   ห้องพักเรานั้นเต็มทุกห้องจึงอยากขออาสาว่าใครจะให้เธออยู่ได้บ้าง”แค่นั้นแหละสามสาวป้อมอัศวินก็ยกมือทันที

        “เราขออาสาให้เธออยู่กับเราค่ะ”เรนอนตะโกน

        “นานๆทีจะมีเพื่อนที่เป็นแม่มดด้วยกันสักที”แองจี้พูดบ้าง

        “พวกเราขอตอนรับเข้าสู่ป้อมอัศวินนะจ๋า”มาทิลด้าสวนต่อทันทีที่มีเสียงปรบมือตอนรับฉันอีกครั้ง

        “ขอบคุณค่ะ   ทุกคน”ฉันก้มหัวต่อหน้าทุกคนและเดินไปนั่งข้างๆแองจี้

        “เธอมาจากแอ็ดลาสเลยเหรอเนี่ย”แองจี้คุยกับฉันเป็นคนแรก

        “ใช่จ๊ะ”ฉันตอบ

        “อ๋อที่เธอแวบมา (ที่โผล่มาตอนนั้นน่ะ) นั้นก็คือมาจากแอ็ดลาสเหรอ”มาทิด้าถามต่อ

        “อืม”

        “ที่ป้อมเราก็มีคนมาจากแอ็ดลาสคนหนึ่ง   ชื่อดอร์มินิค   เอดาร์ลาส

    เดอะปรินซ์   ออฟ   แอ็ดลาสเป็นเจ้าชายจ๊ะ”เรนอนชี้ไปที่ผู้ชายคนหนึ่งผู้มีนัยต์ตาสีทองสว่างจ้า   ผมสีดำ   หน้าตาคล้ายฉัน (ก็ฝาแผดนิ)

        “อืม.....หน้าตาเหมือนเธอเลยนะ   ยู”มาทิลด้ามองหน้าฉันกับดอร์มินิคสลับกันไปมา

        “เหรอ.......อืม.....”ฉันพึมพำ

        นับวันพวกเราสี่คนก็สนิทกันยิ่งขึ้นแม้เวลาเรียนเวทมนต์แองจี้

    จะเป็นคนช่วยฉันตลอด   มาทิลด้าจะชอบสอนการโต้ตอบพวกผู้ชาย

    ส่วนใหญ่    จนเดียวนี้ใครเถียงฉันฉันก็เถียงกับได้สบาย (เรื่องเตะต่อยก็ไม่ใช่ย่อย) และเรนอนเมื่อเห็นฉันเรียนกับมาทิลด้จนห้าวเลยจับเข้าครัว

    สอนทำอาหารจนได้หลายเมนู

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×