ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The magic pen of Edlas(ฟิคบารามอส)

    ลำดับตอนที่ #1 : ปากกา...วิเศษ?

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 48


        สวัสดีค่ะ   ฉันชื่อยูโดริ(ไม่ค่อยพูดถึงนานสกุล)เป็นแค่เด็กสาวปี3ที่หน้าตาo.k. เพียวแค่สีของตาข้างหนึ่งเป็นสีฟ้า(ข้างซ้าย)อีกข้างเป็นสีเขียว(ข้างขวา)เพราะว่าฉันมีสายเลือดเป็ฯแม่มดแค่ 1 ใน 50 เท่านั้น(แม่-แม่มด+พ่อ-มนุษย์)ได้รับจากแม่มาน้อยนิด   ฉันเป็นพวกที่ชอบอ่านหนังสือแนวแฟนตาซี   เรื่องที่ฉันสะดุดตาที่สุดเห็นจะเป็น หัวขโมยแห่งบารามอสของRabbit

        ตอนนี้......ฉันต้องอยู่คนเดียวเนื่องจากแม่ไปงานรับน้องใหม่ 2 เดือน  ส่วนพ่อก็จากฉันไปนานแล้ว   ด้วยเหตุนี้ทำให้ฉันต้องอยูคนเดียว

        ... 2 วันผ่านไป...

        ปากกาหมึกหมด...........เหออ

        ฉันก็เลยไปร้านเวทมนต์ที่มีแต่แม่มดพ่อมดเท่านั้นที่รู้และของในร้านก็ใช้ได้เพียงแม่มดพ่อมดเท่านั้น

        ฉันผลักประตูเข้าไป(ร้านในตอนนี้ไม่มีคน)และตรงไปที่แผนกเครื่องเขียน   ฉันเริ่มหยิบนู้นหยิบนี่ ฉับ...(เสียงหยิบปากกา)ฉับ...ฉับ...ฉับ...ทั้งหมด 13 ครั้งตอนนั้นฉันกำลังจะเดินไปจ่ายเงินแต่ก็ต้องหยุดแล้วหันไปมองที่ข้างล่างแท่นว่างปากกาทั้งหมดตัวปากกามีรูปร่างเพรียวสีน้ำตาล+ดำ  ฉันมองมันเหมือนกับว่ามันเรียกให้เอาฉันไปน่า   ฉันจึงเหมือนถูกมนต์สะกดตราตรึงให้เดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมาแล้วเดินไปจ่ายเงินอย่างได้สติ

        “ 152 บาทค่ะ”คนขายพูดขึ้น

        ‘ห๊ะ   ถึง 100 เลยเหรอ (งบประมาณที่แม่ให้ไว้2000)’แต่ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะหยิบมาเป็นกำ   ฉันเลยจ่ายเงินแล้วรีบรับของพร้อมออกไปโดยไม่ทันสังเกตเห็นรอยยิ้มและคำพึมพำของคนขายว่า”เอ็ดลาส   เอ็ดลาส”

        ...ที่บ้าน...

        “เหออ   ซื้อปากกามาแล้วก็..............ลองใช้เลยดีกว่า”ฉันเริ่มค่อยๆหยิบมาลองใช้ดูที่ละด้ามมาเขียนนู้นเขียนนี่   จนในที่สุดฉันก็หยิบด้ามที่สะดุดตาที่สุดมาเขียนคำว่า’หัวขโมยแห่งบารามอส’เพียงจบแค่หางของส.เสือฉันก็เงยหน้าขึ้นมา

    เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่ที่..........และมันก็เป็นความจริง

        ภาพข้างหน้าฉันไม่ใช่โต๊ะเขียนหนังสือที่ฉันกำลังนั่งอยู่(ตอนแรกอ่ะนะ)แต่เป็นโต๊ะอาหารแวกลางของห้องที่กำลังงว่าที่ไหนแต่ภาพมันคุ้นๆอยู่ทั้งห้องนี้และคนที่กำลังมาทางฉัน   แค่นั้นแหละฉันก็ตะโกนออกมาว่า

        “ห้องอาหารดราก้อน”

        “ใช่ที่นี้คือห้องอาหารดราก้อน”เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังอยู่ข้างๆฉันและเมื่อหันไป

        “เฟริน  เดอเบอโรว์  เดอะทีฟ  ออฟ  บารามอส”ฉันตะโกนอีกครั้งพร้อมยืนขึ้นชี้หน้าเฟรินที่ยังทำหน้างง

        “แล้วไง   ที่ฉันสงสัยน่ะคือเธอต่างหากเป็นใคร  อยู่ดีๆก็โผล่มาตรงนี้”เฟรินพูดกับฉัน   ตอนนี้ฉันได้มองไปรอบๆตัวที่มีแต่นักเรียนป้อมอัศวินข้างๆฉันคือคาโลที่ทำท่าจะกอดเฟรินที่อยูอีกข้างหนึ่งของฉัน   ภาพนี้ทำให้ฉันหัวเราะออกมาได้ในตอนที่อึ้งว่ามาอยู่ที่นี่ได้ไงจนทุกคนงงและฉันก็ต้องหยุดอีกครั้งเมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น

        “มีอะไรเหรอเฟลิโอน่า” ‘ปราชญ์เลโมธี’

        “อ๋อคือว่าในระหว่างที่พวกหนูกำลังกินข้าวอยู่ก็เกิดแสง

    ประหลาดขึ้นมาข้างๆแล้วพอหันไปก็เจอผู้หญิงคนนี้แล้ว”เฟรินตอบกลับ

        เลโมธียืนจ้องตาฉันอยู่นานจนเอ่ยปากเป็นเสียงที่ไม่มีใครสามารถได้ยินได้นอกจากฉันเพราะใช้เวทมนต์

        “นัยต์ตาสีใสมรกต   บรรจบกับฟ้าคราม”เลโมธีหลับตาสักพักหนึ่งและลืมตาจ้องฉันอีกครั้งพร้อมเดินไปรอบๆตัวของฉัน

        “อืม........เธอน่ะมากับฉันหน่อยทางนี้สิ”เลโมธีเรียกฉันให้เดินตามไป   ฉันได้ออกมานอกห้องอาหารดราก้อนตามเลโมธีไปเรื่อยๆ เรื่อยๆและเรื่อยๆจนมาถึงห้องที่มีประตูบานใหญ่ทำจากไม้อยูตรงหน้า   เลโมธีพูดอะไรบ้างอย่างออกมาเป็นภาษาที่พวกแม่มดอย่างฉันไม่ค่อยได้ยิน (ฉันรู้จักทุกภาษาด้วยเวทมนต์) แต่เหมือนเคยได้ยินที่ไหนซักแห่ง ภาษา....ภาษา....นึกยังไงก็นึกไม่ออก

        “เข้ามา”เลโมธีเรียกให้ฉันข้าไปในห้องทำงาน+ห้องนอนที่ออกเก่าแก่

        “มานั่งสิ”เขาเรียกอีกครั้งให้ฉันไปนั่งเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงาน

        “ขอต้อนรับสู่ปราสาทเอดินเบิร์กอีกครั้ง”

        “อีกครั้ง ? พูดยังกับว่าฉันเคยมางั้นแหละ”ฉันทำหน้าเบ้

        “ท่านคงจำอะไรไม่ค่อยได้หรอกใช่ไหม”แค่นั้นแหละฉันถึงกับทำตาโตเท่าไข่ห่านยักษ์คูญ 2 เมื่อได้ยินคำว่า ‘ท่าน’ออกจากปากผู้สูงอายุอย่างเลโมธี

        “ถ้าจะใช่   เพราะท่านดูโตเป็นผู้ใหญ่มากคงจำอดีตไม่ค่อยได้”

        “อดีต ? อดีตอะไร” แนในตอนนี้ถึงกับมีคำว่า ‘งงอย่างจัด’อยู่ในสมองถึง 1000000 คำ

        “ว่าท่านเป็นใคร”เลโมธีพูดต่อ

        “แล้วฉันเป็นใคร   ทำไมท่านถึงรู้”ฉันถามต่อเป็นชุด

        “ยูดอนร่า  เอดาร์ลาส  เดอะปรินเซส  ออฟ  เอ็ดลาสแล้วทำไมกระหม่อมถึงรู้ก็เพราะสีตาของท่าน”...............อึ้ง...อึ้งจนไม่รู้จะพูดว่าไงแล้ว ‘ยูดอนร่า  เอดาร์ลาส  เดอะปรินเซส  ออฟ  เอ็ดลาส’ชื่อนี้มันก้องไปทั่วหัวของฉันจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรนต่อไปแล้ว  

    วูบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×