ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    High Wiz โรงเรียนนักเรียนสายลับมหาเวท

    ลำดับตอนที่ #3 : สู่แสงสว่าง

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 49


       

    ....เล็ตตราส.... ริคอุทานขึ้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่มผมขาวที่ยืนอยู่ข้างหน้า แล้วเค้ายังจัดการกับพวกลูกน้องของเจ้ามาเฟียจำนวนสิบคนได้อย่างรวดเร็ว แล้วก็สบายๆ

                    ไปเซฟข้อมูลมาซะแล้วจากนั้นพวกเราจะไปจากที่นี้กัน นี้ฉันนึกว่านายน่าจะวางแผนมาดีซะอีกนะ ส่วนเรื่องฉันมาที่นี้ได้ไงฉันจะเล่าให้ฟังตอนหลังแล้วกันนะ เล็ตตราสพูดอย่างสบายๆ ทั้งที่กำลังอยู่ในแดนของศัตรูอยู่

                    เดี๋ยวสิ ฉันกำลังปลดล็อกห้องภาพมายานั้นก่อน เพื่อที่จะให้พวกนักวิทยาศาสตร์ ออกไปได้ ริคพูดขณะกำลังเร่งกดคีย์บอร์ดอย่างชำนาญ

                    เล็ตตราส... รีสที่ตอนนี้พึ่งรู้สึกตัว หันไปมองหน้าเล็ตตราสเหมือนมีอะไรจะพูดบางอย่าง มะ มันยังไม่หมดแค่นี้ จะ เจ้ามาเฟียยังมีลูกน้องอยู่อีกคนหนึ่ง จากนั้นรีสก็หมดสติไปเพราะเสียเลือดมากอีกครั้งหนึ่ง

                    มีอีกคนหนึ่งเหรอ ริค เล็ตตราสหันไปถามริคที่กำลังรั่วคีย์บอร์ดอย่างเร่งรีบ

                    ใช่ ดูเหมือนว่าคนที่รีสพูดถึงจะเป็นผู้ใช้เวทที่เก่งมากเลย เพราะช่วงเวลาที่เราแฝงตัวเข้ามานี้ รีสสามารถจับความรู้สึกของพลังอันแข็งแกร่งจากตัวเจ้านั่นได้น่ะ ริคพูดด้วยสีหน้าไร้ความกังวล เพราะตอนนี้เค้ายังมีเพื่อนที่พึ่งพาได้อยู่ข้างๆ อีกคนหนึ่ง

                    น่าสนใจดีนะ เล็ตตราสพูดแล้วเอามือกอดอก พยายามนึกภาพคนที่รีสพูดถึง

     

                    ทางด้านพวกนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังหลบหนี

                    ไม่มีทางรึ เราไม่มีทางหนีจากห้องสร้างภาพมายานี้เลยรึไง นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งพูดขึ้น ขณะกำลังเดินไปเดินมาอยู่ในเขาวงกตภาพมายานี้

                    ทันใดนั้นเอง ภาพมายาตรงหน้าก็ได้หายไป แล้วกลับกลายเป็นห้องที่มีผนังใส ขดเขี้ยวเลี้ยวไปมา แต่มันก็ไม่ยากเกินความสามารถของคนที่จะเดินไปถึงปลายอีกด้านหนึ่งได้อย่างสบาย พวกนักวิทยาศาสตร์ต่างดีใจ

                    เจ้าหนุ่มนั้นทำสำเร็จอีกไม่นานเราก็จะได้ออกไปจากขุ่มนรกนี้แล้วนักวิทยาศาสตร์ ที่เดินนำหน้ากลุ่มพูดขึ้น แล้วก็เรียบเร่งฝีเท้าเดินออกไป อย่างดีใจ

                    เมื่อเดินมาถึงหน้าทางเข้าของฐานทัพลับของเจ้ามาเฟีย ข้างหน้าฐานทัพเป็นทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ไพศาลที่มองดูแล้วเหมือนกันกำลังมองทะเลที่มีหญ้าสีเขียวขึ้นอยู่ข้างบน แสงตะวันในตอนบ่ายที่กำลังสอดส่องลงมา เหมือนกับช่วยชุบชีวิตที่ตายไปแล้วของพวกนักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ที่ในห้องทดลองนรกนั้นให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของทุกคนผุดขึ้นกันทั่วหน้า

                    แต่อีกไม่นานก็ต้องตกใจเมื่อพบบุรุษที่ดูเหมือนไม่น่าจะมาอยู่ข้างหน้าฐานทัพนี้ได้ แต่ดูเหมือนว่าบุรุษคนนี้จะมารอพวกเขาอยู่นานแล้วเหมือนกับว่ารู้ว่าพวกเค้าจะสามารถหนีออกมาได้ยังไงยังงั้น

                    ฮึๆๆๆ พวกแกบังอาจหักหลังฉันรึ  เจ้ามาฟียพูดขึ้นด้วยความโกรธแค้น แล้วจากนั้นหยิบปืนพกขึ้นมาจากเอว และเล็งไปที่นักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด

                    ไม่มีทาง ฉันเห็นแกโดนเด็กนั้นอัด กระเด็นไปแล้วนิ แล้วก็ไม่มีทางที่แกจะออกมาจากฐานได้ เพราะมีทางออกทางเดียวเท่านั้นก็คือทางที่พวกเราพึงมาเมื่อกี้ นักวิทยาศาสตร์คนที่ถูกเล็งปืน มาพูดขึ้นด้วยสีหน้าซีดจนเห็นได้ชัด

                    ฮ่าๆๆๆๆๆๆ เจ้าโง่นี้แกมาอยู่กับฉันตั้งหลายปี ไม่รู้รึไงว่าฉันน่ะ มีลูกน้องอยู่อีกคนหนึ่ง ฮ่าๆๆๆๆ คราวนี้เจ้าพวกเด็กนั้นจะได้รับรู้ว่าการมาทำลายแผนการของฉันมันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ฮ่าๆๆๆ เจ้ามาเฟียพูดขึ้นแล้วจากนั้น เหนี่ยวไกปืนออกไป
                    ปัง !!!!

    ลูกกระสุนวิ่งที่ไปนักวิทยาศาสตร์ด้วยความเร็ว

                    โล่น้ำแข็ง

                    เกิดโล่น้ำแข็งขนาดเท่าตัวมาบังกระสุนของเจ้ามาเฟียไว้ ถึงกระสุนจะมีความเร็วมหาศาลแต่ก็ไม่สามารถทำให้โล่น้ำแข็งนั้นเป็นรอยได้เลย แสดงถึงพลังเวทที่แข็งแกร่งของคนที่สร้างมันขึ้นมา

                    และอีกไม่นานตรงระหว่างเจ้ามาเฟียกับนักวิทยาศาสตร์ก็ปรากฏเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่ถือดาบซามูไรยาวไว้ข้างกาย เด็กหนุ่มคนนี้มีผมสีดำยาวถึงกลางหลัง รูปร่างหน้าตาเหมือนกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเสียอีก

                    การทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้นี้ ไม่ใช่วิถีของนักสู้เลยนะ คุณมาเฟีย เสียงเด็กหนุ่มคนนั้นพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น จากนั้นเด็กหนุ่มก็หันไปพูดกับนักวิทยาศสตร์ที่อยู่ข้างหลัง ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมชื่อ เดวิด เป็นพวกเดียวกับพวกเด็กฝาแฝดคู่นั้น

                    แก เป็นพวกเดียวกับเจ้าเด็กนั้นรึ เจ้ามาเฟียพูดด้วยความโกรธแค้น เพราะแผนการของพวกเขาจะมาพังเพราะเด็กเพียงไม่กี่คน แกอย่าอยู่อีกเลย

                    ปัง ปัง ปัง ปัง !!!!!

                    กระสุนปืนถูกยิงออกไปอีกสี่นัดอย่างรวดเร็ว แล้วก็กำลังพุ่งเข้าไปหาเดวิด

                    พลึบ !!!!

                    กระสุนปืนทั้งหมดโดนผ่าครึ่ง กลางอากาศแล้วร่วงลงสู่พื้นดิน เพียงเวลาแค่เสียววินาทีเท่านั้น

                    กะ แก ปะ เป็นใครเนี่ย เจ้ามาเฟียพูดขึ้นด้วยความตกใจที่เห็นความสามารถเกินมนุษย์ ของเด็กหนุ่มที่อยู่ตั้งหน้า ภาพที่มันเห็นคือกระสุนปืนวิ่งเข้าไปหาเด็กหนุ่มแล้วจากนั้นมันก็ร่วงลงพื้น ทั้งๆ ที่เด็กหนุ่มนั้นไม่ได้ขยับตัวเลยสักนิด

                    อย่างแกน่ะไม่จำเป็นต้องรู้หรอก เดวิดพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น แล้วค่อยๆ เดินไปหาเจ้ามาเฟีย

                    กะ...แกจะทำอะไร ยะ...อย่านะฉันมีตัวประกันเป็นลูกเมียของพวกนั้นอยู่นะ ถ้าทำร้ายฉันล่ะก็ พวกนั้นตายแน่ เจ้ามาเฟียพูดขึ้น ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทุกคนต่างตกใจเพราะเค้าไม่สามารถหนีออกจากที่นี้ได้อยู่ดี

                    อ่ะ นี้พี่ให้ขนมนะ เสียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีผมสีทอง มีดวงตาสีน้ำตาล ร่างกายสูงใหญ่ ผิวสีขาวออกเหลืองนิดๆ แต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำอย่างดี กำลังพูดอยู่กับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง

                    เฮ้ สตีฟนั้นมันขนมของฉันนะ เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งพูดขึ้น เด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนที่ต้องเตี้ยๆ ตัวเล็กมาก เมื่อเทียบกับสตีฟ เด็กหนุ่มตัวเล็กคนนี้มีดวงตาที่แหลมคม ผมสีน้ำตาล ตัดรองทรงสั้นไว้แค่ต้นคอ ที่มุมปากทั้งสองมีเขี้ยวสั้นๆ

                    อ้าว สตีฟ  ไซโล มาแล้วเหรอ เดวิสกล่าวทักทายเพื่อนของเค้าทั้งสอง นายพามาด้วยรึป่าว  เดวิสพูดแล้วหันไปมองข้างหลังสตีฟและไซโลก็ต้องยิ้มอย่างดีใจ หลังจากที่ทำหน้าเย็นชามานาน

                    นี้ไงพวกเราพามาแล้ว สตีฟพดแล้วผายมือออกไปทางข้างหลัง แล้วเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหลังสตีฟ เจ้ามาเฟียถึงกับตกใจเพราะว่าข้างหลังสตีฟนั้นมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่มีแต่ผู้หญิงกับเด็ก และเค้าจำได้ดีเพราะนั้นคือลูกเมียของนักวิทยาศาสตร์ที่เค้าสั่งให้ลูกน้องจับไว้เป็นตัวประกัน แต่ตอนนี้ดันมาอยู่ที่นี่ซะแล้ว

                    พ...พวก..กะ แก. เจ้ามาเฟียพูดด้วยความโมโหสุดขีด พร้อมกับหยิบปืนขึ้นมาแล้วเล็งไปที่เดวิสอีกทีหนึ่ง

                    แต่ก่อนที่เจ้ามาเฟียจะทำอะไรมันรู้สึกว่าร่างกายเริ่มแข็งจนไม่สามารถจะขยับตัวได้ แข็งจนเหมือนกับโดนน้ำแข็งมาเกาะที่ตัว

                    ไม่ต้องห่วงหรอก แค่แช่แข็งแกไว้เท่านั้น เดวิสพูดอย่างเย็นชา เมื่อเห็นท่าทีตกใจของเจ้ามาเฟีย จากนั้นเขาก็ตวัดมือไปทางเจ้ามาเฟียที่ยืนแข็งทืออยู่

                    ทันใดนั้นร่างกายของเจ้ามาเฟียก็มีน้ำแข็งมาเกาะรอบตัวเต็มไปหมด เจ้ามาเฟียหมดทางหนีรอดไปได้ในที่สุด

                    จากนั้นสตีฟกับไวโลก็ปล่อยให้พวกลูกเมียของนักวิทยาศาสตร์ได้พบกับหัวหน้าครอบครัวที่ไม่ได้เจอหน้ากันเสียนาน ทุกครอบครัวต่างดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ต่อไปนี้จะได้ใช้ชีวิตอย่างปรกติ แล้วเด็กหนุ่มทั้งสามคนก็ยิ้มอย่างดีใจไปด้วยกับทุกครอบครัวของนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น

     

                    อีกด้านหนึ่งของฐานทัพ ในห้องทดลองอาวุธ

                    เอาล่ะ เสร็จแล้ว ริคพูดขึ้นเมื่อทำการก๊อปปี้ข้อมูลการทพอุธของเจ้ามาเฟียเสร็จแล้ว พวกเราออกจากที่นี้กันเถอะ

                    แต่เดี๋ยวก่อนนะ ฉันว่านี่มันง่ายไปนะ รีสที่ตอนนี้ได้สติแล้ว พูดอย่างไม่สบายใจเพราะว่าเขายังไม่เห็นลูกน้องผู้ใช้เวทที่เขากำลังหวาดกลัวเลย ฉันกำลังคิดว่าเจ้านักใช้เวทนั้น หายไปไหนน่ะ

                    ไม่เป็นไรหรอกน่า อีกอย่างเป็นแบบนั้นก็ดีแล้วนิ พวกเรารีบไปจากที่นี้กันเถอะ เล็ตตราสพูดขึ้นแล้วกำลังจะเดินไปที่ทางออก ก็ต้องตกตะลึ่งกับภาพต้องหน้า ก็คือเจ้ามาเฟียยืนขวางประตูทางออกอยู่

                    ฮึๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆ แกคิดว่าการอัดฉันแรงๆ เพียงแค่ครั้งเดียวจะสามารถล้มฉันได้อย่างงั้นรึ เจ้ามาเฟียพูดขึ้น แล้วร่างกายของมันก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป กลายเป็นจอมเวทวัยกลางคน ที่ดูท่าทางมีพลังเวทสูงมากทีเดียว

                    จอมเวทที่ยืนขวางประตูอยู่มีรูปร่างหน้าน่าเกรงขามอย่างยิ่ง จอมเวทผู้นี้อยู่ในชุดผู้คลุมสีดำสนิท มีเรือนผมสีดำยาวถึงไหล่

                    ฉันคือจอมเวทที่แกหวาดกลัวยังไงล่ะ จอมเวทพูดขึ้นแล้วหันไปมองน้องรีสที่อัดร่างแปลงกายของมันจนติดกำแพงเมื่อครู่นี้

                    เอาล่ะ จะจอมเวทอะไรฉันไม่สนง่ะนะ ถ้าไม่เปิดทางให้เราก็อย่าหาว่ารุนแรงก็แล้วกัน เล็ตตราสพูดขึ้นแล้วเตรียมตั้งท่าเพื่อที่จะต่อสู้ แล้วหันไปทางเพื่อนทั้งสอง พวกนายออกไปก่อนนะ ฉันจะเปิดทางให้

                    เอาอย่างงั้นก็ได้เข้ามาเลย เด็กน้อย เจ้าจอมเวทพูดขึ้นพร้อมกับขวักมือเรียกให้เล็ตตราสเข้ามา

    ....เล็ตตราส.... ริคอุทานขึ้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่มผมขาวที่ยืนอยู่ข้างหน้า แล้วเค้ายังจัดการกับพวกลูกน้องของเจ้ามาเฟียจำนวนสิบคนได้อย่างรวดเร็ว แล้วก็สบายๆ

                    ไปเซฟข้อมูลมาซะแล้วจากนั้นพวกเราจะไปจากที่นี้กัน นี้ฉันนึกว่านายน่าจะวางแผนมาดีซะอีกนะ ส่วนเรื่องฉันมาที่นี้ได้ไงฉันจะเล่าให้ฟังตอนหลังแล้วกันนะ เล็ตตราสพูดอย่างสบายๆ ทั้งที่กำลังอยู่ในแดนของศัตรูอยู่

                    เดี๋ยวสิ ฉันกำลังปลดล็อกห้องภาพมายานั้นก่อน เพื่อที่จะให้พวกนักวิทยาศาสตร์ ออกไปได้ ริคพูดขณะกำลังเร่งกดคีย์บอร์ดอย่างชำนาญ

                    เล็ตตราส... รีสที่ตอนนี้พึ่งรู้สึกตัว หันไปมองหน้าเล็ตตราสเหมือนมีอะไรจะพูดบางอย่าง มะ มันยังไม่หมดแค่นี้ จะ เจ้ามาเฟียยังมีลูกน้องอยู่อีกคนหนึ่ง จากนั้นรีสก็หมดสติไปเพราะเสียเลือดมากอีกครั้งหนึ่ง

                    มีอีกคนหนึ่งเหรอ ริค เล็ตตราสหันไปถามริคที่กำลังรั่วคีย์บอร์ดอย่างเร่งรีบ

                    ใช่ ดูเหมือนว่าคนที่รีสพูดถึงจะเป็นผู้ใช้เวทที่เก่งมากเลย เพราะช่วงเวลาที่เราแฝงตัวเข้ามานี้ รีสสามารถจับความรู้สึกของพลังอันแข็งแกร่งจากตัวเจ้านั่นได้น่ะ ริคพูดด้วยสีหน้าไร้ความกังวล เพราะตอนนี้เค้ายังมีเพื่อนที่พึ่งพาได้อยู่ข้างๆ อีกคนหนึ่ง

                    น่าสนใจดีนะ เล็ตตราสพูดแล้วเอามือกอดอก พยายามนึกภาพคนที่รีสพูดถึง

     

                    ทางด้านพวกนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังหลบหนี

                    ไม่มีทางรึ เราไม่มีทางหนีจากห้องสร้างภาพมายานี้เลยรึไง นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งพูดขึ้น ขณะกำลังเดินไปเดินมาอยู่ในเขาวงกตภาพมายานี้

                    ทันใดนั้นเอง ภาพมายาตรงหน้าก็ได้หายไป แล้วกลับกลายเป็นห้องที่มีผนังใส ขดเขี้ยวเลี้ยวไปมา แต่มันก็ไม่ยากเกินความสามารถของคนที่จะเดินไปถึงปลายอีกด้านหนึ่งได้อย่างสบาย พวกนักวิทยาศาสตร์ต่างดีใจ

                    เจ้าหนุ่มนั้นทำสำเร็จอีกไม่นานเราก็จะได้ออกไปจากขุ่มนรกนี้แล้วนักวิทยาศาสตร์ ที่เดินนำหน้ากลุ่มพูดขึ้น แล้วก็เรียบเร่งฝีเท้าเดินออกไป อย่างดีใจ

                    เมื่อเดินมาถึงหน้าทางเข้าของฐานทัพลับของเจ้ามาเฟีย ข้างหน้าฐานทัพเป็นทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ไพศาลที่มองดูแล้วเหมือนกันกำลังมองทะเลที่มีหญ้าสีเขียวขึ้นอยู่ข้างบน แสงตะวันในตอนบ่ายที่กำลังสอดส่องลงมา เหมือนกับช่วยชุบชีวิตที่ตายไปแล้วของพวกนักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ที่ในห้องทดลองนรกนั้นให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของทุกคนผุดขึ้นกันทั่วหน้า

                    แต่อีกไม่นานก็ต้องตกใจเมื่อพบบุรุษที่ดูเหมือนไม่น่าจะมาอยู่ข้างหน้าฐานทัพนี้ได้ แต่ดูเหมือนว่าบุรุษคนนี้จะมารอพวกเขาอยู่นานแล้วเหมือนกับว่ารู้ว่าพวกเค้าจะสามารถหนีออกมาได้ยังไงยังงั้น

                    ฮึๆๆๆ พวกแกบังอาจหักหลังฉันรึ  เจ้ามาฟียพูดขึ้นด้วยความโกรธแค้น แล้วจากนั้นหยิบปืนพกขึ้นมาจากเอว และเล็งไปที่นักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด

                    ไม่มีทาง ฉันเห็นแกโดนเด็กนั้นอัด กระเด็นไปแล้วนิ แล้วก็ไม่มีทางที่แกจะออกมาจากฐานได้ เพราะมีทางออกทางเดียวเท่านั้นก็คือทางที่พวกเราพึงมาเมื่อกี้ นักวิทยาศาสตร์คนที่ถูกเล็งปืน มาพูดขึ้นด้วยสีหน้าซีดจนเห็นได้ชัด

                    ฮ่าๆๆๆๆๆๆ เจ้าโง่นี้แกมาอยู่กับฉันตั้งหลายปี ไม่รู้รึไงว่าฉันน่ะ มีลูกน้องอยู่อีกคนหนึ่ง ฮ่าๆๆๆๆ คราวนี้เจ้าพวกเด็กนั้นจะได้รับรู้ว่าการมาทำลายแผนการของฉันมันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ฮ่าๆๆๆ เจ้ามาเฟียพูดขึ้นแล้วจากนั้น เหนี่ยวไกปืนออกไป
                    ปัง !!!!

    ลูกกระสุนวิ่งที่ไปนักวิทยาศาสตร์ด้วยความเร็ว

                    โล่น้ำแข็ง

                    เกิดโล่น้ำแข็งขนาดเท่าตัวมาบังกระสุนของเจ้ามาเฟียไว้ ถึงกระสุนจะมีความเร็วมหาศาลแต่ก็ไม่สามารถทำให้โล่น้ำแข็งนั้นเป็นรอยได้เลย แสดงถึงพลังเวทที่แข็งแกร่งของคนที่สร้างมันขึ้นมา

                    และอีกไม่นานตรงระหว่างเจ้ามาเฟียกับนักวิทยาศาสตร์ก็ปรากฏเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่ถือดาบซามูไรยาวไว้ข้างกาย เด็กหนุ่มคนนี้มีผมสีดำยาวถึงกลางหลัง รูปร่างหน้าตาเหมือนกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเสียอีก

                    การทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้นี้ ไม่ใช่วิถีของนักสู้เลยนะ คุณมาเฟีย เสียงเด็กหนุ่มคนนั้นพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น จากนั้นเด็กหนุ่มก็หันไปพูดกับนักวิทยาศสตร์ที่อยู่ข้างหลัง ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมชื่อ เดวิด เป็นพวกเดียวกับพวกเด็กฝาแฝดคู่นั้น

                    แก เป็นพวกเดียวกับเจ้าเด็กนั้นรึ เจ้ามาเฟียพูดด้วยความโกรธแค้น เพราะแผนการของพวกเขาจะมาพังเพราะเด็กเพียงไม่กี่คน แกอย่าอยู่อีกเลย

                    ปัง ปัง ปัง ปัง !!!!!

                    กระสุนปืนถูกยิงออกไปอีกสี่นัดอย่างรวดเร็ว แล้วก็กำลังพุ่งเข้าไปหาเดวิด

                    พลึบ !!!!

                    กระสุนปืนทั้งหมดโดนผ่าครึ่ง กลางอากาศแล้วร่วงลงสู่พื้นดิน เพียงเวลาแค่เสียววินาทีเท่านั้น

                    กะ แก ปะ เป็นใครเนี่ย เจ้ามาเฟียพูดขึ้นด้วยความตกใจที่เห็นความสามารถเกินมนุษย์ ของเด็กหนุ่มที่อยู่ตั้งหน้า ภาพที่มันเห็นคือกระสุนปืนวิ่งเข้าไปหาเด็กหนุ่มแล้วจากนั้นมันก็ร่วงลงพื้น ทั้งๆ ที่เด็กหนุ่มนั้นไม่ได้ขยับตัวเลยสักนิด

                    อย่างแกน่ะไม่จำเป็นต้องรู้หรอก เดวิดพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น แล้วค่อยๆ เดินไปหาเจ้ามาเฟีย

                    กะ...แกจะทำอะไร ยะ...อย่านะฉันมีตัวประกันเป็นลูกเมียของพวกนั้นอยู่นะ ถ้าทำร้ายฉันล่ะก็ พวกนั้นตายแน่ เจ้ามาเฟียพูดขึ้น ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทุกคนต่างตกใจเพราะเค้าไม่สามารถหนีออกจากที่นี้ได้อยู่ดี

                    อ่ะ นี้พี่ให้ขนมนะ เสียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีผมสีทอง มีดวงตาสีน้ำตาล ร่างกายสูงใหญ่ ผิวสีขาวออกเหลืองนิดๆ แต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำอย่างดี กำลังพูดอยู่กับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง

                    เฮ้ สตีฟนั้นมันขนมของฉันนะ เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งพูดขึ้น เด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนที่ต้องเตี้ยๆ ตัวเล็กมาก เมื่อเทียบกับสตีฟ เด็กหนุ่มตัวเล็กคนนี้มีดวงตาที่แหลมคม ผมสีน้ำตาล ตัดรองทรงสั้นไว้แค่ต้นคอ ที่มุมปากทั้งสองมีเขี้ยวสั้นๆ

                    อ้าว สตีฟ  ไซโล มาแล้วเหรอ เดวิสกล่าวทักทายเพื่อนของเค้าทั้งสอง นายพามาด้วยรึป่าว  เดวิสพูดแล้วหันไปมองข้างหลังสตีฟและไซโลก็ต้องยิ้มอย่างดีใจ หลังจากที่ทำหน้าเย็นชามานาน

                    นี้ไงพวกเราพามาแล้ว สตีฟพดแล้วผายมือออกไปทางข้างหลัง แล้วเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหลังสตีฟ เจ้ามาเฟียถึงกับตกใจเพราะว่าข้างหลังสตีฟนั้นมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่มีแต่ผู้หญิงกับเด็ก และเค้าจำได้ดีเพราะนั้นคือลูกเมียของนักวิทยาศาสตร์ที่เค้าสั่งให้ลูกน้องจับไว้เป็นตัวประกัน แต่ตอนนี้ดันมาอยู่ที่นี่ซะแล้ว

                    พ...พวก..กะ แก. เจ้ามาเฟียพูดด้วยความโมโหสุดขีด พร้อมกับหยิบปืนขึ้นมาแล้วเล็งไปที่เดวิสอีกทีหนึ่ง

                    แต่ก่อนที่เจ้ามาเฟียจะทำอะไรมันรู้สึกว่าร่างกายเริ่มแข็งจนไม่สามารถจะขยับตัวได้ แข็งจนเหมือนกับโดนน้ำแข็งมาเกาะที่ตัว

                    ไม่ต้องห่วงหรอก แค่แช่แข็งแกไว้เท่านั้น เดวิสพูดอย่างเย็นชา เมื่อเห็นท่าทีตกใจของเจ้ามาเฟีย จากนั้นเขาก็ตวัดมือไปทางเจ้ามาเฟียที่ยืนแข็งทืออยู่

                    ทันใดนั้นร่างกายของเจ้ามาเฟียก็มีน้ำแข็งมาเกาะรอบตัวเต็มไปหมด เจ้ามาเฟียหมดทางหนีรอดไปได้ในที่สุด

                    จากนั้นสตีฟกับไวโลก็ปล่อยให้พวกลูกเมียของนักวิทยาศาสตร์ได้พบกับหัวหน้าครอบครัวที่ไม่ได้เจอหน้ากันเสียนาน ทุกครอบครัวต่างดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ต่อไปนี้จะได้ใช้ชีวิตอย่างปรกติ แล้วเด็กหนุ่มทั้งสามคนก็ยิ้มอย่างดีใจไปด้วยกับทุกครอบครัวของนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น

     

                    อีกด้านหนึ่งของฐานทัพ ในห้องทดลองอาวุธ

                    เอาล่ะ เสร็จแล้ว ริคพูดขึ้นเมื่อทำการก๊อปปี้ข้อมูลการทพอุธของเจ้ามาเฟียเสร็จแล้ว พวกเราออกจากที่นี้กันเถอะ

                    แต่เดี๋ยวก่อนนะ ฉันว่านี่มันง่ายไปนะ รีสที่ตอนนี้ได้สติแล้ว พูดอย่างไม่สบายใจเพราะว่าเขายังไม่เห็นลูกน้องผู้ใช้เวทที่เขากำลังหวาดกลัวเลย ฉันกำลังคิดว่าเจ้านักใช้เวทนั้น หายไปไหนน่ะ

                    ไม่เป็นไรหรอกน่า อีกอย่างเป็นแบบนั้นก็ดีแล้วนิ พวกเรารีบไปจากที่นี้กันเถอะ เล็ตตราสพูดขึ้นแล้วกำลังจะเดินไปที่ทางออก ก็ต้องตกตะลึ่งกับภาพต้องหน้า ก็คือเจ้ามาเฟียยืนขวางประตูทางออกอยู่

                    ฮึๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆ แกคิดว่าการอัดฉันแรงๆ เพียงแค่ครั้งเดียวจะสามารถล้มฉันได้อย่างงั้นรึ เจ้ามาเฟียพูดขึ้น แล้วร่างกายของมันก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป กลายเป็นจอมเวทวัยกลางคน ที่ดูท่าทางมีพลังเวทสูงมากทีเดียว

                    จอมเวทที่ยืนขวางประตูอยู่มีรูปร่างหน้าน่าเกรงขามอย่างยิ่ง จอมเวทผู้นี้อยู่ในชุดผู้คลุมสีดำสนิท มีเรือนผมสีดำยาวถึงไหล่

                    ฉันคือจอมเวทที่แกหวาดกลัวยังไงล่ะ จอมเวทพูดขึ้นแล้วหันไปมองน้องรีสที่อัดร่างแปลงกายของมันจนติดกำแพงเมื่อครู่นี้

                    เอาล่ะ จะจอมเวทอะไรฉันไม่สนง่ะนะ ถ้าไม่เปิดทางให้เราก็อย่าหาว่ารุนแรงก็แล้วกัน เล็ตตราสพูดขึ้นแล้วเตรียมตั้งท่าเพื่อที่จะต่อสู้ แล้วหันไปทางเพื่อนทั้งสอง พวกนายออกไปก่อนนะ ฉันจะเปิดทางให้

                    เอาอย่างงั้นก็ได้เข้ามาเลย เด็กน้อย เจ้าจอมเวทพูดขึ้นพร้อมกับขวักมือเรียกให้เล็ตตราสเข้ามา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×