คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : คู่แฝด มาเฟีย การทดลอง อาวุธ ความดี ความชั่ว
"ฮึ ฮึ ทางเรายินดีนะที่พวกคุณทั้งสองมานั่งคุยกับเราในวันนี้" คำพูดที่ออกจากปากของผู้ทรงอิทธิพลในวัยกลางคน หน้าตาของชายผู้นี้ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง รอยแผลเป็นที่ใบหน้ายิ่งทำให้ผู้ที่ร่วมสนทนาด้วยต้องเกรงกลัว แววตาสีดำที่ฉายแววอย่างฉลาด
ในห้องที่ใช้เป็นการเจรจานั้นเป็นห้องที่ดูลึกลับ มีโคมไฟเพียงดวงเดียวที่ตั้งอยู่สูงจากศีรษะของผู้เจรจาทั้งสองไม่มากนัก ที่ด้านล่างโคมไฟมีโซฟาสองตัวที่ถูกนั่งด้วยผู้เจรจาทั้งสองฝ่าย ทำให้มองไม่ค่อยเห็นใบหน้าของผู้เจรจาอีกคนหนึ่งมากนัก แล้วใครก็ตามที่กล้ามาเจรจากับผู้ที่ทรงอิทธิพลในแถบทวีปนี้มากที่สุดนั้น ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาเป็นแน่ แล้วที่น่าตกใจมากที่สุดก็คือทางฝ่ายผุ้ทรงอิทธิพลนั้นมีบอดี้การ์ดในชุดสูทเป็นสิบยืนอยุ่ข้างๆ แต่อีกฝ่ายหนึ่งกลับมีคนยืนข้างเพียงคนเดียวเท่านั้น และแถมยังเป็นแค่เด็กหนุ่มทั้งคู่อีกด้วย
"เราก็แค่อยากร่วมธุรกิจด้วยเท่านั้นเอง" คำพูดนี้ออกมาจากปากของเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในฝาแฝดที่มาร่วมคุยเจรจากับพวกมาเฟียในที่ที่เป็นถิ่นของพวกมันเลย แฝดผู้พี่ซึ่งเป็นคนเจรจาด้วยนั้น มีดวงตาสีเงินที่ดูน่ากลัวและดูเบื่อโลกในเวลาเดียวกัน มีผมสีน้ำตาลดำที่ตัดสั้นไว้บนศีรษะ ส่วนฝาคนน้องแววตาสีทองที่ดูลิงโลดแตกต่างจากแฝดคนพี่อย่างให้ได้ชัด ผมสีน้ำตาลที่ตัดมาทรงเดียวกับพี่แต่ที่แตกต่างก็คือมันดันตั้งขึ้นซึ่งไม่เหมือนกับคนพี่ที่ผมจะตกลงมา
"ก็ได้ๆ ไหนๆ พวกนายก็เข้ามาร่วมในกลุ่มเราเป็นเดือนแล้ว เรื่องแค่นี้จะไม่เป็นปัญหาแน่ แต่ที่ฉันต้องการมากที่สุดก็คือค่าตอบแทน" เจ้ามาเฟียพูดขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปหาเด็กหนุ่มทั้งสอง
"ทางเรารับรองว่าพวกนายจะได้ค่าตอบแทนก้อนโตแน่" แฝดผู้พี่พูดขึ้น
"งั้นดี เท่านี้ก็เป็นอันตกลง" เจ้ามาเฟียลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูทางออกพร้อม ผายมือไปที่ประตูเพื่อเป็นการเชิญให้คู่เจรจาออกตามตนเองไป "อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย" มันพูด
เด็กหนุ่มทั้งสองเดินตามไปอย่างไม่รอช้า ทันทีที่ก้าวพ้นประตูนั้นมา ความรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ในที่ไหนสักที่ ที่จะไม่มีวันหันไปข้างหลังได้อีกแล้ว เพราะทันทีที่เด็กฝาแฝดหนุ่มทั้งสองก้าวพ้นประตูมา ประตูนั้นก็หายไปทันที่เหมือนกับว่าที่ตรงนั้นไม่เคยมีประตูอยู่
"นี่เรียกว่าเครื่องสร้างภาพลวงตา มันจะทำให้ผู้ที่เข้ามาไม่สามารถจำทางออกไปได้น่ะ ต้องขออภัยท่านทั้งสองด้วย เพราะเราไม่สามารถไว้ใจใครได้" เจ้ามาเฟียพูดขึ้นเมื่อเห็นอาการงงๆ ของแฝดผู้น้อง
"ไม่เป็นไร" แฝดผู้พี่ที่หน้าตาไม่ค่อยตกใจพูดขึ้น แต่แฝดผู้น้องกำลังสำรวจห้องๆ นี้อย่างกับว่าเป็นเด็กพึ่งได้เจอของเล่นใหม่ แล้วเมื้อกี้เขาก็ไม่ได้ตกใจอย่างที่เจ้ามาฟียคิดเลย แต่เขากับตื่นเต้นมากกว่าที่จะได้เห็นอะไรสนุกๆ กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
เจ้ามาเฟียแล้วบอดี้การ์ดจำนวนมากพากันนำทางเด็กหนุ่มทั้งสองไปที่ห้องทำการทดลองของมัน ที่ทางที่จะไปทางนั้นได้จะต้องผ่านห้องเขาวงกตที่ถูกซ้อนด้วยเครื่องสร้างภาพลวงตาอีกที พูดง่ายๆ ก็คือว่าคนนอกที่ไม่เคยเดินในเส้นทางนี้เลยไม่สามารถออกไปได้เด็ดขาด เพราะเครื่องสร้างภาพลวงตาจะทำให้เราเห็นเป็นอีกแบบหนึ่ง ทางที่ไม่ควรจะเป็นทางเดินแต่จริงๆ แล้วเป็นทางเดิน ส่วนทางที่เป็นทางเดินบางทีก็ไม่ใช่ อาจจะเดินไปติดกับกำแพงของห้องของจริงเข้าก็ได้ และยิ่งห้องนี้เป็นเขาวงกตด้วยแล้วยิ่งยากใหญ่ที่ใครจะบุกเข้ามาแล้วบุกออกไป
ในอีกไม่นาน ด้วยการนำทางจากพวกมาเฟียที่เดินเหมือนไม่ใช่คนเพราะทะลุกำแพงไปมา เดินกลางอากาศบ้าง ก็ทำให้พวกเขามาถึงห้องทำการทดลองที่ถูกว่าเป็นความลับมากที่สุดในฐานลับของพวกมัน
ในห้องนี้มีขนาดใหญ่มาก ใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอลเลยก็ว่าได้ แล้วในห้องยังมีนักวิทยาศาสตร์มากมายกำลังทำการทดลองกันอย่างหนัก นักวิทยาศาสตร์ทุกคนอยู่ในชุดขาวล้วน และมีจำนวนเป็นร้อยๆ คน และเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากมายที่ตั้งอยู่ทางอีกฝั่งหนึ่งของห้องทดลองที่พวกเขากำลังเข้ามา แต่ที่เป็นที่ตกใจมากที่สุดคือเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องและเป็นแกนสูงขึ้นไปมากจนติดเพดานห้อง และที่มุมของห้องนี้เป็นห้องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่มีพวกเซียนคอมพิวเตอร์กำลังรัวคีย์บอร์ดอย่างชำนาญ
"นี่แหละ เป็นห้องที่สุดยอดที่สุดในฐานลับแห่งนี้ ฉันใช้ทรัพย์สินไปกว่าครึ่งในการสร้างทุกสิ่งทุกอย่างในห้องนี้เลยนะ" เจ้ามาเฟียอธิบายให้เด็กหนุ่มทั้งสองฟังอย่างภาคภูมิใจ
"ไปได้นักวิทยาศาสตร์พวกนี้มากจากไหน" แฝดผู้พี่ถามขึ้นพร้อมกับมองสำรวจไปรอบๆ ห้อง
"ไม่เห็นจะยาก ฉันก็แค่จับมาจากที่อื่นๆ มารวมกันเท่านั้นเอง แล้วก็จับครอบครัวของพวกมันไว้ แล้วบอกว่าถ้าไม่ยอมทำตามที่สั่งก็จะฆ่าลูกเมียของมันทิ้งซะ ก็เท่านั้นนิ" เจ้ามาเฟียพูดเหมือนว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องชั่วร้ายอะไร
"ฉลาดดีนิ" แฝดผู้พี่พูดกับเจ้ามาเฟียด้วยสายเดายาก แต่แฝดคนน้องกับมีความรู้สึกโกรธจนกำมือแน่น แต่ก็พยายามห้ามความรู้สึกนั้นไว้ เมื่อแฝดผู้พี่หันมามองหน้า
"เอาล่ะ อย่ามัวนอกเรื่องเลย ห้องทดลองนี้เป็นการทดลองเกี่ยวกับการทำอาวุธตั้งแต่ระดับล่างไปจนถึงการทำอาวุธระดับที่เรียกว่า ถ้าใครได้ครอบครองอาวุธชิ้นนี้แล้วจะสามารถยึดครองดวงดาวทั้งดวงนี้เลย" เจ้ามาฟียพูดพร้อมกับชี้มือให้เด็กหนุ่มทั้งสองดูอาวุธที่ผลิตแล้วถูกนำมาทดสอบ
ชายคนหนึ่งในกลุ่มบอดี้การ์ดบอกให้สัญญาณการทดสอบอาวุธ แก่ชายคนที่กำลังถืออาวุธปืนขนาดเท่ากับแขน เล็งไปที่ชายอีกคนหนึ่งที่ท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ที่กำลังถือวัตถุอย่างหนึ่งขนาดเท่ากับฝามือ มันมีลักษณะเหมือนกับปุ่มกดอะไรบ้างอย่าง
"ยิง" ชายในกลุ่มบอดี้การ์ดสั่ง ทันใดนั้นก็มีแสงสีแดงยิงออกมาจากปากกระบอกปืนทันที มันมีขนาดใหญ่มากและดูเหมือนจะรุนแรงมาก จนทำให้คนที่มองดูอยู่ข้างๆ ถึงกับจะกระเด็นออกไปไกล
ตูมมมมมมมมมม !!!!!
เกิดเสียงปะทะของอะไรบ้างอย่างดังไปทั่ว มีควันเกิดขึ้นเต็มไปหมด ทำให้ฝาแฝดทั้งสองคาดการได้ว่าคนๆ นั้น ที่ยืนเป็นเป้านิ่งให้คงจะไม่รอดแล้ว แต่ก็ต้องพบกับความประหลาดใจเมื่อชายคนนั้นยังอยู่ดีทุกประการไม่มีอะไรบุบสลายแม้แต่น้อย แล้วรอบของชายคนนั้นยังมีเกราะกันบังสีเขียวรอบล้อมอยู่ด้วย
"นี่คืออาวุธที่เราผลิตขึ้นมาแต่มันยังไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่นะ" เจ้ามาเฟียพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
"หมายความว่าไงที่มันยังไม่สมบูรณ์น่ะ ก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นปัญหาอะไรเลยนิ" แฝดผู้พี่ถามด้วยความงงงันเป็นที่สุดเพราะเท่าที่เขาดูก็ไม่มีอะไรผิดปกติเลย จนกระทั่ง...
ชายคนนั้น ที่อยู่ในเกราะสีเขียวล้มลงนอนไม่ขยับตัวอีกเลย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าชายคนนั้นได้เสียชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว
"มันมีผลข้างเคียงน่ะ คือคนที่ใช้เจ้าเกราะนั้น จะเสียชีวิตในทันทีที่เกราะนั้นพุ่งตัวออกมาจากที่เก็บรังสีข้างในปุ่มกดนั้น ทางเราก็พยายามทำทุกอย่างแล้วแต่ก็ไม่ได้ผลซักที" เจ้ามาเฟียพูดไม่ค่อยใส่ใจอะไรกับการตายของลูกน้องของตนที่เป็นตัวทดลอง
การกระทำนี่ทำให้แฝดผู้น้องที่ดูเหมือนจะคุมอารมณ์โกรธของตัวเองไม่อยู่นั้น อยากจะวิ่งไปอัดหน้าเจ้ามาเฟียซักสองที แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะโดนแฝดผู้พี่นั้นส่งสายตาดุๆ กลับมา
การแสดงอาการผิดสังเกตนี้ไม่อาจหลุดรอดสายตาของเจ้ามาเฟียไปได้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ทันสังเกตอารมณ์โกรธของแฝดผู้น้องเพราะดันโดนแฝดผู้พี่ปิดกั้นเอาไว้ได้ทัน วงการนี้อันตรายมากที่สุดก็คือความไว้วางใจ ซึ่งคนที่จะเปิดเผยความลับของตัวเองนั้นจะต้องคอยสังเกตผู้ต่อลองอย่างใกล่ชิดตลอดเวลา
"เออ พวกเราขอเวลาคุยกันหน่อยได้มั้ย" แฝดผู้พี่พูดขึ้นพร้อมกับดึงแขนน้องชายออกไปยังมุมห้องห่างๆ จากพวกนั้น
"รีส นี่นายกำลังทำอะไรของนายน่ะ ฉันบอกแล้วไงว่าถ้าให้พวกนั้นจับอาการผิดปกติได้แม้แต่นิดเดียวเราอาจตายกันหมดแน่" คำพูดนี่ออกมาจากปากของ ริค เวิร์นเนอร์ แฝดผู้พี่
"แต่พี่ดูสื่งที่มันทำสิ" รีส เวิร์เนอร์ แฝดผู้น้องพูดพรางชี้มือไปที่ผู้ชายที่นอนตายอยู่กับพื้น
"อืม ฉันเห็นแล้วแต่จะให้ทำยังไงล่ะ ยังไงเราก็ทำอะไรไม่ได้"ริคพูดให้น้องชายผู้ใจร้อนของเขาฟัง
"ก็ได้ๆ ฉันจะเก็บความโกรธเอาไว้อัดพวกมันทีหลังแล้วกัน" รีสพูด พร้อมกับที่ริคพยักหน้าเป็นการรับรู้ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินกลับไปรวมกับคนพวกนั้น
ความคิดเห็น