ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~Because I am the princess~

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 ไม่คาดคิด (รีไรท์)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.75K
      13
      4 เม.ย. 63

    บทที่ 4 ไม่คาดคิด (รีไรท์)

            

                  ความสดชื่นมาเยือนเช้าวันใหม่ วันนี้เป็นอีกวันที่โซเฟียเดินลงมาจากห้องพักพร้อมลอร่า ทำให้นักโทษหลายคนอดหมั่นไส้ไม่ได้ แต่กระนั้นทั้งโซเฟีย และลอร่าก็ไม่เคยคิดสนใจ เพราะสำหรับโซเฟีย แม้นางจะกังวลใจอยู่บ้าง แต่นางก็ค่อนข้างมั่นใจว่า นางสามารถปกป้องลอร่าได้ ส่วนลอร่า ก็เป็นพวกไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว ต่อให้มีคนมาหาเรื่องจริง เจ้าตัวก็คงไม่คิดอะไรมากมาย จะมีก็เพียงเรื่องเดียวที่ทำให้ลอร่าสนใจได้ คือ เรื่องศักดิ์และศรีเท่านั้น

                  อากาศยามเช้า ภายในป่าเต็มไปด้วยความอบอุ่น ต้นไม้และดอกไม้กำลังผลิบาน แลดูเขียวขจี กลิ่นหญ้าสดลอยตลบไปทั่วบริเวณกว้าง เหล่านักโทษที่ถูกปล่อยตัวออกมาทำงาน กำลังถางหญ้า และเก็บกวาดเศษใบไม้ใบหญ้าที่กองสุ่มเป็นกองใหญ่ จนแทบจะกลายเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษจำพวกงู ตะขาบ หรือแมลงทั้งหมายแหล่ เสียงผู้คุมกำลังร้องสั่งให้พวกนักโทษทำงานกันเป็นระยะๆ ทำให้ใครหลายคนพยายามมองหาที่ที่อยู่ไกลออกไปเล็กน้อย เพื่อที่จะได้ทำงานเงียบๆ ปราศจากเสียงรบกวน

                  วันทั้งวันผ่านไปอย่างเงียบสงบ ไม่มีใครคิดจะเข้ามาก้าวกาย หรือรบกวนการทำงานของเด็กสาวเลย ทำให้ลอร่ารู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย เพราะนางเป็นคนไม่ชอบพบปะกับคนแปลกหน้า โดยเฉพาะกับเด็กผู้หญิงที่อายุไล่เลี่ยกัน ลอร่าใช้เวลาทั้งวันหมดไปกับการกวาดเศษใบไม้ใบหญ้า แม้งานพวกนี้เป็นสิ่งที่ลอร่าไม่เคยทำ แต่นางก็ไม่ได้บ่น หรือร้องบอกใครๆว่านางทำไม่ได้ หรือทำไม่เป็น ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี้ ลอร่าระลึกเสมอว่านางเข้ามาทำอะไร และมีฐานะเช่นไร ทำให้นางสามารถยอมรับการกระทำของคนรอบข้าง หรือแม้แต่สายตาเหยียดหยามที่จ้องมองนางได้ไม่ยาก

                  “เหนื่อยมั้ย...”

                  เสียงหวานที่ดังขึ้นทำลายความเงียบ ทำให้ลอร่าต้องเงยหน้าขึ้นมอง แล้วส่งสายตาเป็นคำถามไปให้

                  “ที่นี้ไม่มีใคร จะพูดก็คงได้มั้ง”

                  โซเฟียเอ่ยด้วยรอยยิ้ม แล้วฉุดข้อมือบางของน้องหญิงให้เดินเข้ามายังบริเวณที่ดูมิดชิดมากกว่า

                  “ท่านมานี้ได้ไงคะ ได้ยินว่าเมื่อเช้าเข้าไปที่สภาการปกครองกลาง”

                  “กลัวเจ้าหิวน่ะสิ ว่าแต่เหนื่อยมั้ย ปกติไม่เคยทำงานพวกนี้นิ”

                  โซเฟียส่งกระติกน้ำที่บรรจุน้ำชาให้ลอร่า ที่รับมาถือไว้อย่างงงๆ

                  “ไม่กลัวใครมาเห็นเข้ารึคะ”

                  ลอร่าเอ่ยถาม พร้อมรินน้ำชาลงถ้วยส่งให้โซเฟีย และตัวนางเอง

                  “ไม่มีใครเห็นหรอก อีกอย่างต่อให้เห็นพวกนั้นจะกล้าทำอะไร”

                  เสียงพูดคุยระหว่างโซเฟีย และลอร่าแม้จะไม่ดังจนคนอื่นๆได้ยิน แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาสอดรู้สอดเห็นของเด็กสาวคนหนึ่งที่เผอิญเดินผ่านมาเห็นเข้าพอดี รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ไม่เคยมีใครเห็นของลอร่า ทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่าลอร่าเป็นใบ้ หรือไม่ก็มีปัญหาทางจิต ความคิดเหล่านี้เองทำให้ลอร่าไม่ตกเป็นจุดสนใจ แม้ว่ารูปร่างหน้าตานางจะโดดเด่นกว่าใครก็ตาม

                  “ลูซี่...มาดูนี้สิ”

                  “มีอะไรงั้นรึ”

                  ลูซี่ร้องถาม พร้อมทั้งเดินมาตามคำเรียก

                  “เด็กนั้นนิ...”

                  ลูซี่เปรย แล้วเลื่อนสายตาไปมองคนที่ทำให้เด็กคนนั้นเปิดปากยิ้ม และหัวเราะได้

                  “นั้นมัน...ท่านผู้บังคับบัญชาการที่พึ่งย้ายมานิ”

                  “น่าหมั่นไส้ที่สุด”

                  คำสบถที่ดังขึ้นไม่ได้เข้าหัวลูซี่ แต่อย่างไร

                  “ข้าว่าท่านเนเซียคงไม่ถูกใจเท่าไร ที่นังเด็กนั้นมองข้ามท่าน”

                  ได้ยินว่าท่านเนเซีย กับท่านผู้บังคับบัญชาการคนใหม่ไม่ค่อยถูกกันด้วยนิ อย่างงี้อะไรๆคงสนุกขึ้น...

     

                  แม้ค่ำคืนนี้จะเป็นคืนเดือนมืด แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคกับร่างบาง ที่กำลังมองดูดวงดาวบนฟากฟ้า เพื่อรอให้หญิงสาวอีกคนกลับเข้ามาในห้อง หลังจากโดนใครบางคนเรียกตัวออกไป

                  เมื่อไรกันที่ภายในใจข้า จะมีแสงสว่างอย่างดวงดาวบนฟากฟ้าเหมือนคนอื่น...ความเจ็บปวด และเหน็บหนาวนี้จะไม่มีวันจางหายรึอย่างไร...

                  ความคิดอันล่องลอยของเด็กสาว ทำให้นางไม่รู้สึกถึงการมาเยือนของใครบางคน ที่กำลังเปิดประตูเข้ามาเงียบกริบ เสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามานั้นเบาจนแทบไม่ได้ยิน

                  “กำลังคิดอะไรอยู่รึ”

                  เสียงหวาน และอ้อมกอดที่แทบจะมาพร้อมๆกัน ทำให้เด็กสาวละสายตาออกจากท้องฟ้ายามค่ำคืน มาจ้องมองหญิงสาวแทน

                  “ไม่มีอะไรค่ะ ว่าแต่ธุระเสร็จแล้วรึคะ”

                  ลอร่าตอบเสียงอ่อน นางจ้องมองโซเฟียด้วยสายตาที่อ่อนลงโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้ลอร่ายังไม่รู้หรอกว่าจริงๆแล้ว หัวใจนางไม่ได้เหน็บหนาวอย่างเคย เพราะนางได้วางความเชื่อใจไว้ที่โซเฟียไปแล้ว

                  “แล้วงานที่ข้าให้ทำล่ะ เสร็จแล้วใช่มั้ย ไม่งั้นเจ้าคงไม่มานั่งดูดาวอยู่ตรงนี้”

                  โซเฟียพยักหน้ารับ แล้วย้อนถามเสียงนุ่ม

                  “ค่ะ ข้าเขียนสรุป แล้วก็แยกกองเอกสารไว้ให้เรียบร้อย”

                  “เจ้านี้ช่วยข้าได้เยอะจริงๆ ไปเถอะ วันนี้เราจะฝึกหายตัวกัน”

                  โซเฟียคลายอ้อมแขนออก แล้วจูงมือลอร่าไปยังห้องที่คนทั้งคู่ใช้ฝึกเวทมนตร์กันประจำ

                  หลายวันมานี้ ลอร่าช่วยโซเฟียทำงานเอกสารต่างๆ ส่วนโซเฟียก็สอนลอร่าเรื่องเวทมนตร์อย่างง่ายๆ แม้ตอนแรก ลอร่าจะไม่กล้าฝึก เพราะเกรงจะขัดคำสั่งผู้เป็นบิดา แต่เมื่อโซเฟียบอกว่าท่านพ่ออนุญาตให้นางฝึกเวทมนตร์ได้แล้ว ลอร่าเลยตั้งใจฝึกเวทมนตร์ต่างๆ ตามที่โซเฟียสอนอย่างตั้งใจ ลอร่าไม่เคยรู้เลยว่าพลังที่ตนมีอยู่นั้น สามารถทำอะไรได้บ้าง นอกจากการเคลื่อนย้ายสิ่งของ หรือการจุดไฟ แต่โซเฟียก็บอกนางเสมอว่า พลังของนางนั้นทำอะไรได้มากมาย อย่างที่นางนึกไม่ถึงเชียวล่ะ สี่งนี้ทำให้ลอร่าตั้งใจเรียนมากขึ้น แม้จะไม่รู้ว่าจริงๆแล้วโซเฟียจะพูดเรื่องจริง หรือแกล้งพูดให้นางดีใจก็ตาม

                  “การหายตัวก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่เจ้ารู้สถานที่ที่จะไปก็พอ”

                  โซเฟียอธิบายจบก็แสดงให้ลอร่าดูเป็นตัวอย่าง

                  “ทำตามที่ข้าบอกนะ”

                  โซเฟียเดินห่างออกจากจุดที่นางหายตัวโชว์ลอร่า ไปทางประตูทางเข้า

                  “ก่อนอื่นเลย นึกถึงข้า และรายละเอียดของสถานที่ที่ข้ายืนอยู่ให้ดี”

                  “ค่ะ”

                  ลอร่าหลับตาลง แล้วพยายามนึกตามนั้น

                  “ตั้งสมาธิให้ดี พยายามรวมพลังเวทไว้ที่เท้า แล้วก้าวมาข้างหน้าสั้นๆ อย่างมั่นใจ”

                  ลอร่าทำตามที่โซเฟียบอกทุกประการ อย่างว่าง่าย

                  “ลืมตาขึ้นสิ”

                  เสียงหวานดังขึ้นใกล้หูลอร่า ทำให้นางต้องลืมตาขึ้น แล้วกวาดตามองที่ที่นางยืนอยู่

                  “ข้าหายตัวได้แล้วใช่มั้ยค่ะ”

                  ลอร่าร้องถามอย่างดีใจ

                  “ถ้าไม่แน่ใจลองอีกทีก็ได้นะ”

                  โซเฟียเสนอ ทำให้ลอร่าลองหายตัวไปทั่วห้อง อย่างสนุกสนาน ก่อนกลับมาหาโซเฟีย เมื่อนางหายตัวไปทั่วจนพอใจ

                  “สนุกจนพอใจแล้วใช่มั้ย”

                  โซเฟียถามพร้อมรอยยิ้ม แสนอ่อนโยน

                  “ค่ะ”

                  “งั้นมาทำข้อตกลงกันก่อน”

                  โซเฟียจับไหล่ลอร่าไว้แน่น พร้อมย่อตัวลงให้ดวงตานางอยู่ในระดับสายตาลอร่า การกระทำนี้ทำให้ลอร่าตระหนักถึงข้อตกลงที่โซเฟียพูดถึง

                  “ค่ะ”

                  “สัญญากับข้านะ...ว่าระหว่างอยู่นี้ เจ้าจะไม่หายตัวไปไหน ก่อนข้าอนุญาต”

                  “ค่ะ ข้าสัญญา”

                  ลอร่ารับคำหนักแน่น ไม่แพ้โซเฟีย

                  “ดีมากจ๊ะ”

                  โซเฟียชม แล้วบอกให้ลอร่าเตรียมตัวเข้านอนได้แล้ว เพราะนี้มันเกินเวลาเข้านอนของเด็กอย่างลอร่ามามากแล้ว (ในสายตาโซเฟีย)

                  สาเหตุที่โซเฟียต้องให้ลอร่าสัญญาเช่นนี้ ไม่ได้เป็นเพราะกลัวลอร่าจะหลบหนี แต่นางกลัวว่าจะมีใครเอาเรื่องนี้มาหาเรื่องลอร่า เพราะการหายตัวทุกครั้งมักทิ้งร่องรอยเสมอ หากผู้ใช้ไม่คิดจะปกปิด ซึ่งในกรณีลอร่า แม้นางสามารถซ่อนพลังเวทได้ แต่จากการหายตัวเมื่อครู่ ทำให้โซเฟียรู้ว่าลอร่ายังไม่รู้จักการซ่อนไอเวทขณะที่ใช้พลัง

     

                  พระอาทิตย์โคจรผ่านฟากฟ้ารวดเร็วเหลือเกิน ไม่ทันไรนี้ก็บ่ายแก่ๆแล้ว ลอร่าคิดขณะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเบื้องบน เด็กสาวกำลังกวาดเศษใบไม้ ขณะนึกไปถึงโซเฟีย ที่เมื่อเช้าย้ำกับนางนักหนาว่าให้ดูแลตัวเองให้ดี เพราะวันนี้เกือบตลอดทั้งวัน โซเฟียมีธุระต้องเข้าไปส่วนกลาง แต่โซเฟียก็ยืนยันว่าจะกลับมาให้ทันเวลาอาหารเย็น ฉะนั้นระหว่างที่โซเฟียไม่อยู่ นางจึงต้องดูแลตัวเองให้ดี แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งขำ เพราะจริงๆแล้วนางก็อยู่ของนางมาได้คนเดียว โดยปราศจากคนดูแลมาตั้งนาน ฉะนั้นไม่เห็นจะต้องห่วงอะไร แค่โซเฟียไม่อยู่ไม่กี่ชั่วโมงไม่เห็นจะเป็นปัญหาตรงไหน

                  แต่สิ่งที่ไม่ควรเป็นปัญหากำลังก่อตัวขึ้น เมื่อเด็กสาวห้าหกคนเดินตรงมายังบริเวณที่ลอร่ากำลังทำงานอยู่ ลอร่าเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังมาสร้างปัญหาให้นาง แล้วตัดสินใจว่าจะแกล้งทำเป็นไม่สนใจ เพื่อลดปัญหาที่จะตามมา แต่ดูท่าว่าลอร่าจะคิดผิด เพราะเด็กพวกนั้นไม่เพียงไม่จากไป แต่กลับผลักลอร่าจนล้มลงไปกองกับพื้น

                “ชื่อลอร่าใช่มั้ย”

                  คำถามกระชากเสียง พร้อมสายตาเหยียดหยามดังขึ้น แต่นั้นไม่สามารถทำให้สีหน้าของลอร่าเปลี่ยนไป

                  ลอร่าปรายตามองคนที่เข้ามาหาเรื่องนางถึงที่ ด้วยสายตานิ่งเฉย ประหนึ่งมองมดปลวก ก่อนจะค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นยืน แล้วเดินหนีไปทางที่มีคนอยู่มากๆ ด้วยนางคิดว่าหากเดินไปยังสถานทีที่มีนักโทษคนอื่น หรือพวกผู้คุมอยู่ ต่อให้คนพวกนี้อยากจะทำร้ายนางก็คงทำได้ไม่ถนัดนัก

                  “จะหนีไปไหน นังเด็กยโส!

                  ลูซี่ฉุดข้อมือบางของลอร่า แล้วเหวี้ยงร่างบางลงไปบนพื้นอีกครั้ง

                  “พูดสิ แกพูดได้ไม่ใช่รึไง”

                  เด็กสาวคนหนึ่งในกลุ่มขึ้นค้อมร่างลอร่า พร้อมใช้มือจิกผมลอร่า จนลอร่าที่ไม่ทันตั้งตัวหน้าหงาย

                  “พูดสิ หรือว่าคำพูดพวกนั้นมีไว้พูดให้ท่านผู้บังคับบัญชาการฟังเท่านั้น!

                  เพี๊ยก!

                  เสียงฝ่ามือของเด็กสาวตบลงไปเต็มดวงหน้าขาวนวลของลอร่าอย่างแรง จนแก้มนวลขึ้นรอยนิ้วมือแดงเถือก กระนั้นคนที่ควรแสนสีหน้าเจ็บปวด กลับเพียงปรายตามองคนที่เข้ามาทำร้ายนิ่ง สีหน้าราบเรียบไม่สื่ออารมณ์ หรือความรู้สึกใดใด จนคนลงมือทำร้ายยิ่งหงุดหงิด

                  “เด็กอย่างแกมันน่าหมั่นไส้ที่สุด!

                  ลูซี่สั่งให้ลูกน้องนางถอยออกไป มือกระชากคอเสื้อลอร่าขึ้น แล้วเหวี้ยงลอร่าลงไปกับพื้น ลูซี่ใช้เท้าเตะไปเต็มช่องท้อง จนลอร่าจุกจนพูดไม่ออก แต่แค่นั้นคงยังไม่สะใจพวกลูซี่ เพราะนอกจากเตะแล้ว พวกนั้นยังกระทืบลอร่าไม่ยั้ง

                  “พอก่อน เดี๋ยวมันตายแล้วพวกเราจะซวย”

                  ลูซี่ร้องห้าม เมื่อเห็นเลือดที่ไหลอาบลงมาจากขมับด้านข้าง และมุมปากของลอร่า

                  “เอาไปขังที่กระท่อม”

     

                  เย็นวันนั้นโซเฟียกลับมาจากการทำธุระที่ส่วนกลาง ทันทีที่กลับมาถึงนางรีบมองหาร่างบางของน้องหญิง ท่ามกลางความโกลาหนของการเช็คชื่อเหล่านักโทษ โซเฟียพยายามมองหาเด็กสาวเจ้าของเส้นผมสีชมพู เพราะมีคนไม่มากนักที่จะมีผมสีนี้ โซเฟียพยายามมองหา แต่ไม่ว่าจะมองหาเท่าไร นางก็ไม่พบร่างบางผู้เป็นดังทุกสิ่ง ความกลัวเริ่มเกาะกุมหัวใจโซเฟียอย่างไม่อาจห้าม นางกลัวว่าจะต้องสูญเสียน้องหญิงไปอีกครั้ง

    ...ข้าไม่น่าปล่อยนางไว้คนเดียวเลย น่าจะให้ซีเวลคอยเฝ้าไว้...

                  “ท่านเนเซียเจ้าคะ”

                  เสียงที่ดังขึ้น เรียกให้โซเฟียหันไปมองอย่างสนใจ

                  “มีอะไร”

                  เนเซียปรายตามองโซเฟียเล็กน้อย ก่อนเอ่ยถามเด็กสาว

                  “ข้าเห็นลอร่าโดดงานไปที่กระท่อมหลังป่าเจ้าค่ะ”

                  คำพูดประโยคนี้ ทำให้โซเฟียรู้ทันทีว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด

                  “เจ้ารู้มั้ยว่ามันอยู่ไหน”

                  “เจ้าค่ะ”

    “ดี งั้นพวกเจ้าสองคนตามนางไป”

    คำสั่งง่ายๆราวกับมีการเตรียมไว้อยู่ก่อนแล้ว ทำให้โซเฟียยิ่งเป็นห่วงลอร่ามากขึ้น นางรีบสาวเท้าเข้าไปหาหญิงสาวที่เป็นคู่อริทันที โดยลืมคิดไปว่าเวลานี้นางไม่สมควรทำเช่นนั้น

    “ครับผม”

    “กลับมาข้าจะให้รางวัลอย่างงาม”

    เนเซียก้มลงกระซิบที่ข้างหูของเด็กสาวคนนั้น ด้วยรอยยิ้มของผู้มีชัย

    “ข้าเตือนเจ้าแล้วว่าอย่าแตะต้องเด็กคนนั้น”

    โซเฟียกระซิบเสียงรอดไรฟันให้ได้ยินกันเพียงสองคน

    “อะไรกันคะ อย่ามาปรักปรำกันสิ ใครผิดข้าก็ว่าไปตามผิด จริงมั้ยค่ะท่านโซเฟีย”

    สิ้นคำเย้ยหยันเนเซียก็เดินกลับไปนั่งประจำตำแหน่งของตน โดยไม่สนใจโซเฟีย ที่ยืนแทบไม่ติด หลังจากรู้แน่ชัดแล้วว่าเรื่องทั้งหมด เป็นแผนการของใคร

     

                  มืดแล้วสิน่ะ...

                  ลอร่าไม่รู้ว่านางถูกจับมาขังในนี้นานเท่าไร แต่ตอนนี้นางรู้สึกว่าร่างกายไร้เรี่ยวแรง แถมบาดแผลที่ใบหน้าและตามลำตัวก็ทำให้นางปวด แต่แม้จะเป็นอย่างนั้นลอร่าก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไร ด้วยเชื่อใจว่าโซเฟียจะต้องมาช่วยแน่นอน ก็โซเฟียเคยสัญญาแล้วนิ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็จะมาช่วย ทำให้ลอร่าพยายามรักษาสัญญาที่ว่าจะไม่หายตัวไปไหน ตราบเท่าที่โซเฟียยังไม่อนุญาต

                  เสียงฝีเท้าที่ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ลอร่ารีบลุกขึ้นยืนอย่างตื่นตัว นางเดินไปทางประตูกระท่อมที่นางพยายามเปิดมาหลายรอบแล้วแต่มันถูกล็อกจากภายนอก ลอร่าเอื้อมมือไปจับที่ลูกบิด แล้วออกแรงบิดเบาๆ ประตูที่ควรล็อกอยู่ก็เปิดออก ทำให้ลอร่าตกใจเล็กน้อย แต่ความตกใจนั้นก็เป็นอันสิ้นสุด เมื่อร่างสูงหน้าตาบูดบึงของผู้คุมปรากฏขึ้นตรงหน้า ชายทั้งสองตรงหรี่เข้ามาล็อกแขนนางทั้งสองข้าง แล้วจับบิดจนลอร่ารู้สึกเจ็บ ลอร่าเงยหน้าขึ้นมองคนอีกคนที่ตามมาด้านหลัง ที่กำลังยิ้มอย่างสะใจที่เห็นสีหน้าตกใจ ปนเจ็บปวดของนาง ทำให้ลอร่าเดาได้ไม่ยากว่า เรื่องในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ถูกใครบางคนจัดฉากขึ้น และแน่นอนว่าเป้าหมายครั้งนี้ไม่ได้อยู่ที่นาง แต่น่าจะอยู่ที่โซเฟียมากกว่า นอกจากนั้นคนที่คิดแผนการครั้งนี้ต้องรู้เป็นอย่างดีว่า การจับนางไป สามารถทำให้โซเฟียไม่เป็นตัวของตัวเองได้อีกด้วย...

                   ร่างบางถูกชายสองคนลากตัวเข้ามายังโรงอาหารท่ามกลางสายตาสอดรู้สอดเห็นของนักโทษ และผู้คุมจำนวนมาก ทันทีที่ลอร่าถูกลากจนถึงบริเวณหน้าโต๊ะอาหารของพวกท่านทั้งหลาย นางก็ถูกจับกดให้คุกเข่าลงต่อหน้าคนทั้งหมด ลอร่าเหลือบตาขึ้นมาอากัปกิริยาของโซเฟีย ที่ดูก็รู้ว่าโซเฟียคงโมโหไม่น้อย เพราะลอร่าเห็นมือที่โซเฟียกำไว้แน่นใต้โต๊ะ เพื่อระงับอารมณ์ที่พร้อมจะปะทุขึ้นทุกเมื่อ หากว่าพวกผู้คุม หรือใครก็ตามกล้าทำอะไรลอร่ามากไปกว่านี้

                  “ท่านโซเฟีย โปรดตัดสินด้วยขอรับ”

                  ผู้คุมหนึ่งในสองเอ่ยขึ้น พร้อมเงยหน้าขึ้นมองโซเฟีย ที่ไม่ยอมแสดงท่าทีใดใด

                  “หวังว่าท่านจะไม่มีสองมาตรฐานนะคะ”

                   คำเอ่ยดักคอของเนเซีย ทำให้โซเฟียต้องปรายตามอง แล้วลุกขึ้นยืน เพื่อทำหน้าที่ของตน

                  “แน่นอนข้ามีความยุติธรรมมากพอ”

                  โซเฟียจำใจเอ่ย เมื่อก้มลงสบสายตากับลอร่า ที่พยายามทำตัวเข้มแข็ง และบอกกับนางว่าเจ้าตัวก็รู้ว่าเรื่องในครั้งนี้มีเบื้องหลัง และจุดมุ่งหมายอยู่ที่นาง ไม่ใช่ลอร่า

                  “นำนางไปขังไว้ก่อน แล้วจะมีการไตร่สวนหลังอาหารมื้อนี้”

                  โซเฟียสั่งเสียงเรียบ ทำให้ผู้คุมทั้งสองค้อมกายลงรับคำสั่ง

                  “ขอรับ”

                  “ช้าก่อน!

                  ยังไม่ทันทีผู้คุมทั้งสองจะได้นำลอร่าไปขังอย่างที่ควร เนเซียก็เอ่ยขัดขึ้น ด้วยรู้ดีว่าหากไม่พิจารณากันตรงนี้ ต่อหน้าทุกคน คดีอาจมีการพลิกได้

                  “มีอะไร”

                  “เด็กคนนี้เป็นคนโปรดท่านทุกคนย่อมรู้ดี ฉะนั้นเพื่อเป็นการยุติธรรมกับทุกฝ่าย ท่านควรพิจารณาต่อหน้าพวกเราทุกคน เพื่อยืนยันว่าท่านไม่ได้มีสองมาตรฐาน”

                  เนเซียเอ่ยเสียงเรียบ พร้อมหันหน้ามองหาเสียงสนับสนุนที่ดูเหมือนว่าในเวลานี้จะหาได้ไม่ยากเลย เพราะเรื่องที่ว่าลอร่ากับโซเฟียสนิทกันนั้นทุกคนในที่นี้ย่อมรู้ดี

                  ~สั่งลงโทษข้าเถอะค่ะ~

                  กระแสเสียงที่ดังขึ้นในหัวโซเฟีย ทำให้นางได้สติ แล้วจ้องมองร่างบางที่ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล และรอยช้ำจากการถูกทำร้าย

                  ~ข้าทำไม่ได้~

                  โซเฟียตอบกลับทางกระแสจิต ยิ่งมองร่างบางที่บอบช้ำของน้องหญิง โซเฟียยิ่งไม่สามารถสั่งลงโทษได้ เพราะนางรู้อยู่เต็มอกว่า เรื่องในครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดของน้องหญิงเลยแม้แต่น้อย

                  ~แต่ท่านต้องทำค่ะ ท่านในตอนนี้ไม่มีทางเลือก อย่าลืมสิค่ะต่อให้ข้าพูดแก้ตัวแค่ไหน ก็ไม่มีใครฟังหรอกค่ะ อีกอย่างตอนนี้ท่านเองก็ไม่มีหลักฐาน ฉะนั้นท่านไม่ควรทำให้ฐานะของท่านสั่นคลอน เพียงเพราะข้านะคะ~

                  ~ฐานะและตำแหน่งไม่เคยสำคัญกับข้าเลย...~

                  ~ไม่ค่ะ ท่านต้องไม่ลืมว่าท่านเป็นข้าหลวงแห่งคฤหาสน์ตะวันออก อย่าทำให้ความน่าเชื่อถือนั้นต้องหมดไปสิคะ อีกอย่างท่านอย่าลืมสิคะ ว่าข้าเป็นคนของตระกูลผู้รักษาความลับ แค่บทลงโทษพวกนี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก~

                  ลอร่าเอ่ย เพื่อเตือนสติโซเฟีย ที่ตอนนี้คงรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองที่สุด ก่อนจะยืนยันให้อีกฝ่ายมั่นใจว่านางไม่เป็นอะไรจริงๆ

                  “มีใครในที่นี้เห็นว่าเด็กคนนี้คิดหลบหนียกมือขึ้น”

                  โซเฟียเอ่ยถามเสียงดัง แล้วกวาดตามองห้าหกมือที่ถูกยกขึ้น ราวกับมีผู้สั่งการไว้ราวหน้า อย่างกราดเกรี้ยว แต่ในเวลานี้นางจำต้องยอมปล่อยให้เรื่องนี้เป็นไปตามทางที่ควรจะเป็น ตามที่ลอร่าบอก

                  “เช่นนั้น คำตัดสินของข้าคือ ให้ลงโทษตามกฎของหอคอยคำตัดสิน โดยให้ผู้คุมกฎเนเซีย เฟรสตัน เป็นผู้รับผิดชอบ นำตัวออกไป”

                  โซเฟียจำใจต้องเอ่ยบทลงโทษ ที่นางรู้ดีว่ามันจะต้องทำให้ลอร่าเดือดร้อนอย่างมาก

     

                  ร่างบางถูกจับมัดด้วยโซ่และตรวนติดกับกำแพงหินเย็นเชียบ ดวงหน้างามซีดเผือด เพราะความเย็นภายในห้องขัง ลอร่าต้องทนอยู่ในสภาพทุกข์ทรมานเช่นนี้มาสามวันได้แล้ว ในทุกๆวันเนเซียจะเข้ามาเฆี่ยนตีนางไม่หยุดจนนางสลบไป แต่ดูเหมือนยิ่งนานวันเข้า เนเซียจะไม่ได้พอใจเพียงแค่นั้น เพราะหลายวันมานี้โซเฟียเองก็ไม่ได้อยู่ที่หอคอยคำตัดสิน นั้นยิ่งทำให้เนเซียที่คิดจะแก้เผ็ดโซเฟียรู้สึกแค้นใจ ที่โซเฟียไม่ได้มีท่าทีเป็นไปตามที่นางคิด

                  แซ่ด...

                  น้ำเย็นจัดถูกสาดใส่ดวงหน้างามที่ซีดเผือดของลอร่า ที่ยังไม่ได้สติดี ตามคำสั่งของหญิงสาวเพียงคนเดียวที่แวะเวียนเข้ามาที่นี้ไม่ขาดตลอดสามวันมานี้

                  “คิดได้รึยังล่ะ ต่อให้เจ้ารอแค่ไหนโซเฟียก็ไม่มีวันมาช่วยเจ้า”

                  เนเซียเอ่ย พร้อมดวงหน้าเย้ยหยัน ที่ลอร่าไม่สามารถมองได้อย่างถนัดนัก เพราะดวงตาทั้งสองข้างของนางบวมจนแทบลืมไม่ขึ้น

                  ลอร่าส่ายหน้าไปมาอย่างคนไร้เรี่ยวแรงเป็นคำตอบ ทำให้เนเซียยิ่งโมโหมากขึ้น นางฉวยเอาแส่ที่อยู่ในมือนายทหารที่เฝ้าห้องขัง แล้วเฆี่ยนลอร่าไม่ยั้งด้วยแรงโทสะ ทำให้ลอร่าต้องกัดฟันแน่น เพื่อไม่ให้หลุดเสียงร้องน่าเกลียดออกมา

                  ...ข้าไม่มีวันแสดงความอ่อนแอต่อหน้าคนๆนี้แน่...

                  “อึดดีนิ งั้นมาดูกันว่าจะทนได้สักกี่น้ำ”

                  เนเซียมองดูร่างบางที่มีสภาพบอบช้ำจนแทบลืมตาไม่ขึ้นอย่างสมเพช ตอนแรกนางเพียงคิดว่าการทำให้เด็กคนนี้เป็นพวกนางได้ แค่นั้นก็ทำให้โซเฟียแค้นใจได้แล้ว แต่ดูเหมือนว่าเด็กนี้มันจะภักดีกับโซเฟียกว่าที่คิด เพราะไม่ว่านางจะทรมานมันเท่าไร มันก็ไม่ยอมเปิดปากพูด หรือแม้แต่ร้องขอความเห็นใจแม้แต่น้อย ซ้ำยังไม่ยอมให้นางยกเรื่องโซเฟียขึ้นมาขู่อีกด้วย

                  แซ่ด...

                  น้ำเย็นถูกสาดไปที่ลอร่า เพื่อให้ร่างบางที่หมดสติกระพริบตาขึ้น มารับรู้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เนเซียเขวี้ยงแส้ในมือลงพื้น แล้วกระชากมีดสั้นที่อยู่ข้างเอวนายทหาร ตรงเข้าหาลอร่า ที่ยังไม่ได้สติดี

                  “อยากรู้นัก ถ้าเนื้อเนียนๆของเจ้ามีรอยแผลเป็นน่าเกลียด เจ้ายังจะภักดีกับโซเฟียอีกมั้ย”

                  เนเซียยกมีดขึ้นจรดลงไปยังเนื้อเนียนตรงต้นแขน เกิดเป็นรอยเลือดไหลซึมออกมา ลอร่ากัดฟันแน่น แล้วเบี่ยงหน้าไปทางอื่น

                  “หึ ต่อไปก็หน้าสวยๆของเจ้า...”

                  คำประกาศกล้าดังขึ้น ตามด้วยมือที่ยกมีดขึ้นจรดบนแก้มเนียน แต่ยังไม่ทันที่คมมีดจะสัมผัสโดนแก้ม เสียงประตูที่เปิดออกก็ทำให้เนเซียตกใจ จนเผลอปล่อยมีดในมือตกพื้น

                  “โซเฟีย...”

                  เนเซียมองผู้มาใหม่ แล้วก้มลงเก็บมีดที่ทำตกไว้

                  “เจ้าคิดจะทำอะไร”

                  โซเฟียถามเสียงเย็น แล้วกวาดตามองร่างบางของลอร่า ที่หมดสติ และรอยแผลถูกของมีคมบาดจนเลือดไหลซึมออกมา

                  “ก็ลงโทษยังไง”

                  “ถ้านี้คือการลงโทษ เห็นทีข้าคงต้องส่งเรื่องนี้เข้าไปส่วนกลาง”

                  โซเฟียเอ่ยเสียงเรียบ แล้วเดินตรงไปแก้มัดให้ลอร่า ที่อยู่ในสภาพบอบช้ำเต็มที

                  “จะเอานักโทษไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!

                  เนเซียตวาดลั่น อย่างไม่ยอมแพ้ เพราะตอนนี้นางเริ่มมั่นใจแล้วว่าตนคิดไม่ผิด ที่ใช้เด็กนี้เป็นเครื่องมือต่อรอง

                  “ออกไปซะ ก่อนที่จะไม่มีหัวอยู่บนบ่า”

                  โซเฟียเอ่ยเสียงเรียบ อย่างคนที่กำลังพยายามระงับโทสะ ที่มีต่อหญิงสาวตรงหน้า

                  “มันจะอะไรนักหนา ก็แค่นักโทษคนเดียว”

                  “นักโทษคนเดียวงั้นรึ...”

                  “เหมือนว่าเจ้าจะตกต่ำไปเยอะนิ แค่นักโทษคนเดียวก็สามารถทำให้เจ้าเป็นเดือดเป็นร้อนได้ขนาดนี้”

                  เนเซียยิ้มเยาะ แต่ยิ่งนางยิ้มมากเท่าไร โซเฟียก็แทบเก็บความโมโหไว้ไม่มิด

                  “เด็กคนนี้เป็นน้องข้า!

                  คำประกาศที่ดังขึ้นทำให้เนเซียถึงกับช็อก เพราะมันไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่อยู่ๆน้องสาวโซเฟียจะมาปรากฏตัวที่นี้ แถมยังมาให้ฐานะนักโทษอีกด้วย

                  “โกหก เด็กนี้มันก็แค่นักโทษชั้นต่ำ”

                  เนเซียไม่เชื่อ แถมนางยังพยายามซัดพลังเวทใส่ลอร่าที่ยังคงไม่ได้สติอีกด้วย  

                  “ข้าเตือนเจ้าหลายครั้งแล้วว่าอย่ายุ่งกับเด็กคนนี้ แต่เจ้าก็ไม่ฟัง ฉะนั้นถ้ายังคิดทำร้ายลอร่าอีกครั้ง ข้าจะสั่งตัดหัวเจ้า ฐานทำร้ายเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง”

                  โซเฟียเอ่ย หลังจากรับพลังเวทที่เนเซียส่งออกมาอย่างง่ายดาย โซเฟียเดินเข้าไปรับร่างของลอร่าที่ล้มลงกองกับพื้น แล้วอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน อย่างหวงแหน

                  “อะไรนะ...”

                  “ฟังให้ดีล่ะ”

     

     

                                                                                                    วันที่ 24 พฤษภาคม ปีไอริสที่ 2035

                ข้าในฐานะสมาชิกสภาการปกครองกลาง ได้รับพระบรมราชโองการใน องค์กษัตริย์ วิลเลียม ลิงคอล์น แห่ง ไอริส ให้ปล่อยตัว ลอเรเซียร่า ดักลาส บุตรีแห่งข้าหลวงคฤหาสน์ใต้ และคืนเครื่องราชอิศริยภรณ์ทั้งหมด รวมทั้งฐานะทางสังคม ตำแหน่งในสภาการปกครองกลางทั้งหมด ให้กลับเป็นตามเดิม ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม ปีไอริสที่ 2035

                หากผู้ใดทำการล่วงละเมิด สิทธิ์ และกฎการคุ้มครองต่างๆที่ได้ระบุไว้ในกฎหมายคุ้มครองพระราชวงศ์ กฏหมายคุ้มครองเจ้าหน้าที่ส่วนกลาง และพระราชกำหนดสิทธิของเชื้อพระวงศ์ที่พึงจะได้รับ จะได้รับโทษสูงสุดของการกระทำผิดนั้นๆ โดยไม่มีข้อยกเว้น ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม ปีไอริสที่ 2035

    ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

                                                     เคเรส คาสเตอร์                                     โซฟิเอร่า สแตรนเรียร์

          ข้าหลวงแห่งคฤหาสน์ตะวันตก                     ข้าหลวงแห่งคฤหาสน์ตะวันออก

                                                              แลนเซอร์ ลิงคอล์น                                        อาเชอร์ ดักลาส

                                                 ข้าหลวงแห่งคฤหาสน์เหนือ                          ข้าหลวงแห่งคฤหาสน์ใต้                 

                  “ครั้งนี้ข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้า แต่จำไว้ให้ดีถ้ายังคิดทำร้ายคนรอบข้างข้าอีก ข้าจะไม่ใจดีอภัยให้เจ้าอย่างนี้อีกแล้ว”

                   โซเฟียกล่าวทิ้งท้าย ก่อนที่จะอุ้มร่างบางเดินออกไป

                  “จำไว้ คราวหน้าข้าจะไม่แพ้เจ้าอีก” 

    จบบทที่ 4 ไม่คาดคิด (รีไรท์)

    ____________________________________________________________________________________________

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×