คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Because I am the princess + บทนำ
นิยายเรื่องนี้ มีทั้งหมด 2 ภาค
โดยภาคแรก ชื่อ "Because I am a princess" สำหรับภาคแรก
จะเน้นหนักไปที่ชีวิตของตัวเอกของเรา และความรับผิดชอบในฐานะเจ้าหญิงต่อาณาจักร และต่อตระกูล
ส่วนภาคสอง จะใช้ชื่อว่า "Because I am the king" สำหรับเหตุผลที่ใช้ชื่อนี้เพราะ ภาคสองจะเปลี่ยนจากหน้าที่ของเจ้าหญิง
ไปเป็นหน้าที่ของเจ้าหญิงรัชทายาท จนกระทั้งตัวเอกของเราขึ้นครองราชย์
เนื้อเรื่องภาคสองนั้นจะเข้มข้นกว่าภาคหนึ่งเล็กน้อย ด้วยความที่ตัวเอกโตขึ้น ทำให้มีการแสดงอารมณ์ที่หลากหลายขึ้น
ยังไงก็ขอฝากผลงานด้วยนะคะ
ขอบคุณคะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทนำ
ยามราตรีอันเงียบสงบ ในตำหนักหินอ่อนที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าใจกลางหมู่ตำหนักกว่าสิบ
ลึกเข้าไปยังโถงทางเดินปรากฏร่างของคนผู้หนึ่งกำลังกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปยังบานประตูใหญ่ตรงสุดทางอย่างเงียบเชียบ
ถึงแม้จะมีเพียงแสงจันทร์สาดส่องเข้ามาน้อยนิด แต่นั้นก็ไม่เป็นอุปสรรค์ต่อการเดินทางของคนผู้นี้
เมื่อก้าวเท้าเข้ามาถึงบริเวณทางเชื่อมสู่ตัวปราสาทอีกหลังอันเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาข้ารับใช้
คนผู้นั้นก็หันซ้ายแลขวามองดูรอบด้านอีกครั้ง
เมื่อพบว่าไม่มีผู้ใดอยู่ในบริเวณก็รีบเปิดประตูเข้าไปยังทางเชื่อมนั้นอย่างเบามือ
เมื่อเข้ามาถึงทางเชื่อม คนผู้นั้นก็หันมองบริเวณโดยรอบ ก่อนจะพึมพำมนตราเบาๆ
ทำให้ไฟจากคบเพลิงสว่างขึ้น มองเห็นร่างเงาของบุคคลอีกสองคน
ที่ยืนรออยู่บริเวณนั้นนานพอสมควร “พี่หญิง...” “ไม่มีเวลาแล้ว...เฮเลน” น้ำเสียงสั่นเครือดังขึ้น จากหญิงสาวที่เข้ามาใหม่
ในอ้อมแขนของนางมีทารกอยู่ด้วย นางส่งทารกพร้อมถอดแหวนสีทองที่สวมอยู่บนนิ้วออก
ใส่เข้าไปในห่อผ้าของเด็กทารก แล้วยื่นให้ผู้เป็นน้องสาว “ดูแลแกให้ดี” “ค่ะ อาเรสฝากพี่หญิงด้วย” หญิงสาวนามเฮเลนรับห่อผ้ามา
พร้อมเอ่ยกับชายหนุ่มเพียงคนเดียว ก่อนจะหายลับไปพร้อมห่อทารกในมือ “ข้าจะไปส่งเจ้าพีเนล” ชายหนุ่มผู้อยู่ภายใต้ผ้าคลุมดึงร่างบางของหญิงสาวเข้ามากอด
หมายปกป้องให้เธอปลอดภัย กระนั้นเธอกลับดันร่างสูงออก ดวงหน้างามเครือไปด้วยน้ำตา “ไม่อาเรส เจ้าต้องนำสิ่งนี้ไปซ่อนที่สภาการปกครองกลาง
มันเป็นของเพียงสิ่งเดียวที่จะช่วยเราทุกคน” มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาที่คลอออกจนสิ้น
ขณะที่เอ่ยคำฝากฝังด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ คำขอของหญิงคนรักแม้จะไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากกระทำตามคำขอ “สักวันลิงคอล์นจะต้องชดใช้ ข้าสาบาน” น้ำเสียงที่ดังทิ้งท้าย เต็มไปด้วยกระแสเสียงแห่งความโกรธแค้น
“เฮ้อ...” พีเนลถอนหายใจ อย่างเหนื่อยอ่อน
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นชนเผ่าโบราณ
หรือแม้กระทั้งคนในอาณาจักรต่างไม่อาจวางใจใครได้อีกแล้ว ความโลภ และความโกรธแค้นที่มีต่อกันมันมากเกินกว่าที่ใครจะให้อภัยได้
ทางเดียวที่จะบรรเทาสิ่งเหล่านั้น คือ ราชบัลลังก์ต้องเปลี่ยนมือ แสงคบเพลิงดับลงอีกครั้ง เมื่อพีเนลตวัดมือลง
นางมองดูรอบด้าน ก่อนเปิดบานประตูออกอย่างเบามือ
ดวงตาคู่งามสอดส่องเพื่อให้แน่ใจอีกครั้งว่าไม่มีผู้ใดอยู่ในบริเวณโถงทางเดิน “ราชินีอย่างเจ้าออกมาทำอะไรกลางดึกเช่นนี้” น้ำเสียงดุดัน เหี้ยมกริบดังขึ้นจากชายผู้หลบอยู่ในเงามืดข้างบานประตูที่พึ่งเปิดออก
พลันแสงไฟจากคบเพลิงเวทจำนวนมากก็สว่างขึ้น ทำให้พีเนลมองเห็นวรองค์สูงประทับห่างจากนางเพียงก้าว
บริเวณรอบโถงทางเดินเต็มไปด้วยทหารราชองครักษ์ “บอกมาเจ้าเอาเด็กนั้นไปไว้ไหน” คำถามด้วยน้ำเสียงดุดันดังขึ้น พระหัตถ์หนาแข็งแรงราวคีมเหล็กบีบลำคอระหงแน่น
จน พีเนลแทบหายใจไม่ออก
“หม่อมฉันไม่บอก” พีเนลจ้องสบพระเนตร ด้วยประกายตาแข็งกร้าว
อย่างไม่ยอมแพ้ ทำให้แรงบีบตรงลำคอเพิ่มขึ้น จนนางแทบหมดสติ
นางตวัดข้อมือเล็กน้อยให้มีดสั้นที่ซ่อนอยู่ใบแขนเสื้อเลื่อนลงมา แล้วซัดมีดเล่มนั้นปักพระอุระองค์กษัตริย์
ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระสวามี ทำให้พระหัตถ์ที่บีบลำคอนางคลายออก ครืน... เสียงพระแสงดาบถูกดึงออกจากฝัก แล้วตวัดวูบเดียวปาดซอกคอระหง
ทำให้หญิงสาวสิ้นใจลงแทบจะทันที “ทหาร!” เสียงตวาดลั่นพระราชวัง เพื่อขอความช่วยเหลือ
แต่กลับไม่มีทหารนายใดเข้ามาช่วยแม้แต่นายเดียว เมื่อพระเนตรตวัดขึ้นมองก็พบว่าทหารราชองครักษ์เหล่านั้น
ตกอยู่ภายในการควบคุมของข้าหลวงดักลาส ที่สาวเท้าเข้ามาใกล้ “เจ้าต้องช่วยข้า” คำสั่งเสียงสั่นอย่างผู้กำลังจะสิ้นใจ ไม่ได้ทำให้ร่างสูงที่ยืนอยู่เกรงกลัว
ซ้ำเขายังยกดาบขึ้นตวัดลงบนร่างองค์กษัตริย์ให้สิ้นใจอีกด้วย “เจ้า...” “ท่านสมควรต้องชดใช้ได้แล้ว” น้ำเสียงเย็นเรียบ
จากชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นข้าหลวงแห่งคฤหาสน์ใต้ ดวงตาสีแดงทับทิมเต็มไปด้วยความเย็นชา
เช่นเดียวกับสีหน้าราบเรียบอยู่เป็นนิจ ไม่ว่าจะตอนก่อนลงมือ หรือหลังลงมือสังหาร “ขอบใจ ท่านมาก” น้ำเสียงทุ้มอ่อนโยนดังขึ้นจากมุมมืด
ชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของเรืองผมสีน้ำตาลเข้มปรากฏขึ้น
ดวงตาสีเปลือกไม้เต็มไปด้วยกระแสแห่งความอ่อนโยน เขาสาวเท้าไปยังร่างบางของหญิงสาวผู้เคยได้ชื่อว่าเป็นพระเชษฐนี
ที่บัดนี้นอนแน่นิ่งอยู่ตรงพื้น มือหนาวางลงบนดวงหน้างาม
เพื่อปิดเปลือกตาที่เปิดอยู่ “สักวันลิงคอล์นจะชดใช้ทุกอย่างให้พวกเจ้า
อย่าห่วงเลย” ชายหนุ่มกระซิบเสียงแผ่ว ก่อนลุกขึ้นยืน แล้วก้าวเท้าไปหาชายหนุ่มผู้ลงมือสังหารองค์กษัตริย์ “ข้าเชื่อในเกียรติของตระกูลผู้รักษาความลับ
อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ”
________________________________________________________________________________________
#เวอร์ชั่นรีไรท์จะพยายามลงอาทิตย์ละตอนนะคะ
#ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
ความคิดเห็น