ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~Because I am the princess~

    ลำดับตอนที่ #1 : Because I am the princess + บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 62



    เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายเรื่องแรก
    เวลาเขียนก็จะมีความสับสนของเนื้อเรื่อง และตัวละคร
    จึงความแพลนจะทำการรีไรท์เนื้อเรื่องใหม่ มีผลให้ต้องเพิ่มลดเนื้อหานิดหน่อย
    มีผลให้เนื้อเรื่องเวอร์ชั่นแรก กับเวอร์ชั่นรีไรท์อาจไม่ต่อเนื่อง
    ดังนั้นเพื่อความต่อเนื่อง แนะนำว่ารออ่านเวอร์ชั่นรีไรท์ดีกว่า (แหะๆ)

    นิยายเรื่องนี้ มีทั้งหมด 2 ภาค 

    โดยภาคแรก ชื่อ "Because I am a princess" สำหรับภาคแรก
    จะเน้นหนักไปที่ชีวิตของตัวเอกของเรา และความรับผิดชอบในฐานะเจ้าหญิงต่อาณาจักร และต่อตระกูล


    ส่วนภาคสอง จะใช้ชื่อว่า "Because I am the king" สำหรับเหตุผลที่ใช้ชื่อนี้เพราะ ภาคสองจะเปลี่ยนจากหน้าที่ของเจ้าหญิง 
    ไปเป็นหน้าที่ของเจ้าหญิงรัชทายาท จนกระทั้งตัวเอกของเราขึ้นครองราชย์ 
    เนื้อเรื่องภาคสองนั้นจะเข้มข้นกว่าภาคหนึ่งเล็กน้อย ด้วยความที่ตัวเอกโตขึ้น ทำให้มีการแสดงอารมณ์ที่หลากหลายขึ้น


    ยังไงก็ขอฝากผลงานด้วยนะคะ 

    ขอบคุณคะ
    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    บทนำ

                    ยามราตรีอันเงียบสงบ ในตำหนักหินอ่อนที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าใจกลางหมู่ตำหนักกว่าสิบ ลึกเข้าไปยังโถงทางเดินปรากฏร่างของคนผู้หนึ่งกำลังกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปยังบานประตูใหญ่ตรงสุดทางอย่างเงียบเชียบ ถึงแม้จะมีเพียงแสงจันทร์สาดส่องเข้ามาน้อยนิด แต่นั้นก็ไม่เป็นอุปสรรค์ต่อการเดินทางของคนผู้นี้ เมื่อก้าวเท้าเข้ามาถึงบริเวณทางเชื่อมสู่ตัวปราสาทอีกหลังอันเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาข้ารับใช้ คนผู้นั้นก็หันซ้ายแลขวามองดูรอบด้านอีกครั้ง เมื่อพบว่าไม่มีผู้ใดอยู่ในบริเวณก็รีบเปิดประตูเข้าไปยังทางเชื่อมนั้นอย่างเบามือ เมื่อเข้ามาถึงทางเชื่อม คนผู้นั้นก็หันมองบริเวณโดยรอบ ก่อนจะพึมพำมนตราเบาๆ ทำให้ไฟจากคบเพลิงสว่างขึ้น มองเห็นร่างเงาของบุคคลอีกสองคน ที่ยืนรออยู่บริเวณนั้นนานพอสมควร

    “พี่หญิง...”

    “ไม่มีเวลาแล้ว...เฮเลน”

    น้ำเสียงสั่นเครือดังขึ้น จากหญิงสาวที่เข้ามาใหม่ ในอ้อมแขนของนางมีทารกอยู่ด้วย นางส่งทารกพร้อมถอดแหวนสีทองที่สวมอยู่บนนิ้วออก ใส่เข้าไปในห่อผ้าของเด็กทารก แล้วยื่นให้ผู้เป็นน้องสาว

    “ดูแลแกให้ดี”

    “ค่ะ อาเรสฝากพี่หญิงด้วย”

    หญิงสาวนามเฮเลนรับห่อผ้ามา พร้อมเอ่ยกับชายหนุ่มเพียงคนเดียว ก่อนจะหายลับไปพร้อมห่อทารกในมือ

    “ข้าจะไปส่งเจ้าพีเนล”

    ชายหนุ่มผู้อยู่ภายใต้ผ้าคลุมดึงร่างบางของหญิงสาวเข้ามากอด หมายปกป้องให้เธอปลอดภัย กระนั้นเธอกลับดันร่างสูงออก ดวงหน้างามเครือไปด้วยน้ำตา

    “ไม่อาเรส เจ้าต้องนำสิ่งนี้ไปซ่อนที่สภาการปกครองกลาง มันเป็นของเพียงสิ่งเดียวที่จะช่วยเราทุกคน”

    มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาที่คลอออกจนสิ้น ขณะที่เอ่ยคำฝากฝังด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ คำขอของหญิงคนรักแม้จะไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากกระทำตามคำขอ

    “สักวันลิงคอล์นจะต้องชดใช้ ข้าสาบาน”

    น้ำเสียงที่ดังทิ้งท้าย เต็มไปด้วยกระแสเสียงแห่งความโกรธแค้น

    “เฮ้อ...”

    พีเนลถอนหายใจ อย่างเหนื่อยอ่อน ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นชนเผ่าโบราณ หรือแม้กระทั้งคนในอาณาจักรต่างไม่อาจวางใจใครได้อีกแล้ว ความโลภ และความโกรธแค้นที่มีต่อกันมันมากเกินกว่าที่ใครจะให้อภัยได้ ทางเดียวที่จะบรรเทาสิ่งเหล่านั้น คือ ราชบัลลังก์ต้องเปลี่ยนมือ

                    แสงคบเพลิงดับลงอีกครั้ง เมื่อพีเนลตวัดมือลง นางมองดูรอบด้าน  ก่อนเปิดบานประตูออกอย่างเบามือ ดวงตาคู่งามสอดส่องเพื่อให้แน่ใจอีกครั้งว่าไม่มีผู้ใดอยู่ในบริเวณโถงทางเดิน

    “ราชินีอย่างเจ้าออกมาทำอะไรกลางดึกเช่นนี้”

    น้ำเสียงดุดัน เหี้ยมกริบดังขึ้นจากชายผู้หลบอยู่ในเงามืดข้างบานประตูที่พึ่งเปิดออก พลันแสงไฟจากคบเพลิงเวทจำนวนมากก็สว่างขึ้น ทำให้พีเนลมองเห็นวรองค์สูงประทับห่างจากนางเพียงก้าว บริเวณรอบโถงทางเดินเต็มไปด้วยทหารราชองครักษ์

    “บอกมาเจ้าเอาเด็กนั้นไปไว้ไหน”

    คำถามด้วยน้ำเสียงดุดันดังขึ้น พระหัตถ์หนาแข็งแรงราวคีมเหล็กบีบลำคอระหงแน่น จน

    พีเนลแทบหายใจไม่ออก  

    “หม่อมฉันไม่บอก”

    พีเนลจ้องสบพระเนตร ด้วยประกายตาแข็งกร้าว อย่างไม่ยอมแพ้ ทำให้แรงบีบตรงลำคอเพิ่มขึ้น จนนางแทบหมดสติ นางตวัดข้อมือเล็กน้อยให้มีดสั้นที่ซ่อนอยู่ใบแขนเสื้อเลื่อนลงมา แล้วซัดมีดเล่มนั้นปักพระอุระองค์กษัตริย์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระสวามี ทำให้พระหัตถ์ที่บีบลำคอนางคลายออก

    ครืน...

    เสียงพระแสงดาบถูกดึงออกจากฝัก แล้วตวัดวูบเดียวปาดซอกคอระหง ทำให้หญิงสาวสิ้นใจลงแทบจะทันที

    “ทหาร!

    เสียงตวาดลั่นพระราชวัง เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่กลับไม่มีทหารนายใดเข้ามาช่วยแม้แต่นายเดียว เมื่อพระเนตรตวัดขึ้นมองก็พบว่าทหารราชองครักษ์เหล่านั้น ตกอยู่ภายในการควบคุมของข้าหลวงดักลาส ที่สาวเท้าเข้ามาใกล้

    “เจ้าต้องช่วยข้า”

    คำสั่งเสียงสั่นอย่างผู้กำลังจะสิ้นใจ ไม่ได้ทำให้ร่างสูงที่ยืนอยู่เกรงกลัว ซ้ำเขายังยกดาบขึ้นตวัดลงบนร่างองค์กษัตริย์ให้สิ้นใจอีกด้วย

    “เจ้า...”

    “ท่านสมควรต้องชดใช้ได้แล้ว”

    น้ำเสียงเย็นเรียบ จากชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นข้าหลวงแห่งคฤหาสน์ใต้ ดวงตาสีแดงทับทิมเต็มไปด้วยความเย็นชา เช่นเดียวกับสีหน้าราบเรียบอยู่เป็นนิจ ไม่ว่าจะตอนก่อนลงมือ หรือหลังลงมือสังหาร

    “ขอบใจ ท่านมาก”

    น้ำเสียงทุ้มอ่อนโยนดังขึ้นจากมุมมืด ชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของเรืองผมสีน้ำตาลเข้มปรากฏขึ้น ดวงตาสีเปลือกไม้เต็มไปด้วยกระแสแห่งความอ่อนโยน เขาสาวเท้าไปยังร่างบางของหญิงสาวผู้เคยได้ชื่อว่าเป็นพระเชษฐนี ที่บัดนี้นอนแน่นิ่งอยู่ตรงพื้น มือหนาวางลงบนดวงหน้างาม เพื่อปิดเปลือกตาที่เปิดอยู่

    “สักวันลิงคอล์นจะชดใช้ทุกอย่างให้พวกเจ้า อย่าห่วงเลย”

    ชายหนุ่มกระซิบเสียงแผ่ว ก่อนลุกขึ้นยืน แล้วก้าวเท้าไปหาชายหนุ่มผู้ลงมือสังหารองค์กษัตริย์

    “ข้าเชื่อในเกียรติของตระกูลผู้รักษาความลับ อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ”

    “ด้วยเกียรติของตระกูลดักลาส...”

                  

    ________________________________________________________________________________________

    #เวอร์ชั่นรีไรท์จะพยายามลงอาทิตย์ละตอนนะคะ

    #ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×