ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พระพายซ่อนกล ⭐ [จบแล้ว]

    ลำดับตอนที่ #5 : วายุภัค

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 66


    เสร็จเรื่องไม่มีคนหาแล้ว พรพระพายจึงคิดจะพาลูกไฟออกไปซื้อเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ใหม่

    “อย่างนั้นจัดของขึ้นเหนือเลยดีไหม เดี๋ยวเฮียให้น้องเจ้าจองตั๋วเครื่องบินเลย ไม่อยากทิ้งทางโน้นนานไม่มีใครดู มีแต่เด็กๆ เดี๋ยวของหาย”

    หากบอกว่าตกใจจนวิ่งหนีกระเจิงไม่มีใครสนใจเก็บเครื่องไม้เครื่องมือที่ไซด์งานสักคน หมอพระจะขำหรือเปล่า ผมแอบมองหน้าอาจารย์ปราบผี พายยังคงทำหน้าจริงจัง ไม่รู้ในสิ่งที่ผมคิด

    “ได้ครับเฮีย ขอเวลาจัดของนิดหน่อย ไปอยู่กี่วันครับ”

    “ตลอดไปเลยได้ไหม?”

    “หะ... อะไรนะครับพอดีผมไม่ได้ฟัง ลูกไฟอย่าดึงผมปาปาเจ็บ”

    มองพระพายที่กำลังวุ่นวายกับการจับมือลูกไฟไม่ให้ดึงผมตัวเองเล่นต่อสู้กันไป อีกหน่อยคงจะวุ่นวายน่าดู โชคดีที่ไม่ได้ยินเพราะผมเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าอย่างนั้นออกไปได้ยังไง

    “พาลูกใส่เสื้อผ้าเถอะเดี๋ยวจะไม่สบาย เฮียช่วยจัดกระเป๋าให้”

    ” รบกวนลุงอินช่วยเฮียอีกแรงนะครับ ลูกไฟใส่ชุดเก่าไปก่อนแล้วกันเนาะเดี๋ยวปาปาจะพาไปซื้อเสื้อผ้าใหม่แล้วก็ของเล่นใหม่ด้วยดีไหมครับ เอ่อ รบกวนเฮียช่วยดูห้องพักที่สะดวกสำหรับลูกด้วยนะครับ”

    “ได้จ้ะ คุณแม่”

    “หืมม คุณพ่อหรอก”

    “หึ” เดี๋ยวก็รู้ ว่าจะเป็นได้หรือเปล่า

    .

    .

    “เอาลายตามนี้ครับขอเป็นไซร์นี้”

    พายอุ้มลูกไฟขึ้นมาให้พนักงานดูผมหันมองตามเสียงสั่งลายเสื้อผ้าเด็กที่ว่ามีกว่า10ลายนี่ก็คงซื้อให้ยกตู้ อาจารย์ปราบผีของผมกลายเป็นแม่กวางเห่อลูกไปซะแล้ว

    “ค่ะ ทั้งเสื้อทั้งกางเกงด้วยไหมคะ”

    “ใช่ครับ อ้อ ชุดนี้ขอ 2 ชุดครับ ชุดหนึ่งขอโบว์สีแดง อีกชุดขอโบว์สีเขียว มีไหมครับ”

    ผมมองชุดสูทลำลองสำหรับเด็กสี่ขวบที่มีโบว์หูกระต่ายสีแดงติดอยู่ที่คอปก คิ้วหนาขมวด จะเอาเหมือนกันทำไมสองชุด?

    “มีค่ะ รอสักครู่นะคะ”

    “มีรองเท้าด้วยไหมครับ?”

    “มีอยู่ด้านในค่ะ เชิญคุณลูกค้าเข้าไปเลือกดูได้ตามใจชอบเลยค่ะ”

    พนักงานสาวผายมือเชื้อเชิญก่อนหันไปจัดของตามสั่ง

    “ลูกไฟไปเลือกรองเท้ากันดีกว่าชอบแบบไหนหยิบได้เลยนะครับ”

    “สัก 2 คู่ ก็พอนะ เอาใส่ในบ้านกับใส่นอกบ้าน” ผมกลัวแม่กวางจะขี้เห่อจัดรองเท้าให้ลูก 7 วัน 7 คู่อีก

    “ขอ 3 คู่ แล้วกันครับกันขาดกันหาย”

    “เด็กโตไวนะ ถ้าขาดถ้าหายเฮียพามาซื้อใหม่ก็ได้ ซื้อไปเก็บไว้จะโตก่อนได้ใส่เปล่าๆ”

    “ขอ 3 คู่ ครับ” ผมยิ้มส่ายหน้าพรพระพายเป็นคนแบบนี้เอง ได้รู้จักนิสัยหมอปราบผีเพิ่มอีกข้อแล้ว เป็นคนที่พูดแล้วต้องทำให้ได้สินะ

    “เฮีย...ขอเหตุผล” ผมก็เป็นคนที่ทำอะไรต้องมีเหตุผลเหมือนกัน

    “คู่แรกใส่อยู่ในบ้าน คู่ที่สองใส่นอกบ้าน คู่ที่3ใส่ไว้ในรถ เพราะมันจะมีเหตุให้หายครับ”

    “สายลมบอก?” ผมหันมองรอบตัวราวกับว่าจะได้เห็นสายลมมาหมุนวนอยู่รอบๆ อย่างนั้นล่ะ

    “ผม เห็น

    “โอเค...ตามนั้น”

    เอาจริงๆ พายก็จัดมา 4 คู่ โดยคู่ที่ว่าใส่นอกบ้านสั่งมาเหมือนกันเพิ่มอีกคู่ อีกแล้ว... สั่งมาทำไมเหมือนกัน?

    “ลูกไฟกินข้าวก่อนครับเดี๋ยวค่อยกินไอศกรีม ไม่ต้องมองลูก”

    พายส่งช้อนให้ลูกไฟจับแต่ลูกไฟกลับมองไอศรีมโต๊ะข้างๆ จนคอเอียงแถมน้ำลายไหลเยิ้มออกจากปากยืดยาว เป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าอยากกินแค่ไหนโดยไม่ต้องร้องจะเอา เด็กน้อยหันกลับมาสนใจปาปาที่พยายามสอนให้ฝึกจับช้อนดีๆ

    “ค่อยๆ ตักแบบนี้ ทานแบบนี้ครับ”

    พระพายสอนต่อโดยการจับช้อนของตัวเอง ตักข้าวจากจานของตัวเองเข้าปากช้าๆ เด็กน้อยทำตามอย่างว่าง่าย ไม่มีตักข้าวหกสักเม็ด

    ความจริงสำหรับเด็กสี่ขวบบางคนสามารถตักข้าวกินเองได้แล้ว จับช้อนจับส้อมด้วยมือสองข้างได้ แต่ลูกไฟ..ผมรู้สึกเหมือนเขาไม่มีคนสอน เพราะเมื่อพระพายสอนลูกไฟก็สามารถทำได้ทันที ทำเอาผมอดบ่นแม่แท้ๆ ของมะไฟไม่ได้ ที่มัวแต่แต่งสวยจนไม่มีเวลาสอนไม่มีเวลาดูแลลูก

    “เก่งมากครับลูกไฟ ปาปาภูมิใจในตัวหนูที่สุดนะ”

    เด็กน้อยยิ้มกว้างภูมิใจในตัวเองเช่นกันที่สามารถทำตามที่บอกได้

    “เก่งจัง โตเป็นหนุ่มแล้วนะนี่ ทานข้าวให้เยอะๆ นะครับ ตักผักกินด้วยจะได้หล่อๆ”

    ผมช่วยชี้ไปยังผักใบเขียวที่ซอยฝอยๆ ผัดรวมกับข้าวผัดปูที่สั่งมาพิเศษ ลูกไฟตักกินโดยง่าย ตักเข้าปากเสร็จก็ยิ้มแก้มปริจนตาหยี เคี้ยวตุ้ยๆ พายเอาแต่ลุ้นดูแลให้ลูกกินจนตัวเองแทบไม่ค่อยตักกิน ผมจึงช่วยบริการตักอาหารป้อนเข้าปากคนเป็นแม่บ้าง

    “พายก็กินบ้าง อย่ามัวแต่ดูลูกเพลิน”

    “อ่า... ขอบคุณครับ” ปากแดงๆ ฉ่ำอ้ากว้างเป็นวงรับข้าวที่ผมตักป้อนขณะที่ปากเล็กๆ น้ำลายเยิ้มๆ ก็อ้าปากกว้างเป็นวงรับข้าวผัดที่ปาปาป้อนเช่นกัน

    “สรุปว่าได้เครื่องบินไฟล์ไหนครับเฮีย น้องเจ้าโทรบอกหรือยัง”

    “มีเวลาอีกเยอะเที่ยวหกโมงเย็น นี่เพิ่งเที่ยงเองกินเสร็จพาลูกเดินเที่ยวได้สบายสัก 4 โมงค่อยไปสนามบิน”

    “ครับ ทีนี้ลูกไฟก็มีเวลากินไอติมแล้วเนาะ กินข้าวจะหมดแล้วนี่ เก่งจังเลยครับ” รับคำจากผมเสร็จก็หันไปคุยกับลูกทันทีสมกับเป็นแม่กวาง

    “ป๊าคับ เราจะไย๋เหรอครับ” ลูกไฟหันมาถามผม

    “ไปไหนครับ” พายรีบสอนให้ลูกออกเสียงให้ชัด เด็กชายก็ทำตามอย่างว่าง่าย

    “ไปไหนคับ”

    “ไปเที่ยวเมืองเหนือกันครับ”

    “ที่นั่นมีอะไยครับ”

    “ที่นั่นมีผี ลูกไฟกลัวไหม?” ผมทำตาวิบวับได้โอกาสแกล้งให้มีคนกลัวมากกว่าผมแล้ว ผมจะปล่อยผ่านไปได้ยังไง

    “ไม่กัว”

    “หืมม จริงดิ! ลูกไฟไม่กลัวผีหรือครับ แล้วลูกไฟเคยเห็นผีไหม”

    ผมไม่เชื่อหรอกว่าจะมีเด็กไม่กลัวผีแต่เจ้าเด็ก4ขวบกลับพูดชัดเจนแถมยังกอดอกทำท่าทางมั่นใจมั่นใจ ดวงตาประกาย

    “เคย แต่ลูกไฟไม่กัว ผีทำไยลูกไฟไม่ได้”

    “ทำไมล่ะครับ” อย่าบอกนะว่ามีพระ มองที่คอลูกทันที

    “เพราะเพลิงกัณฑ์ แปลว่า ไฟที่มาจากยะยก (นรก) ผีที่ไหนก็ต้องกัวผม ปาปาบอกว่าผีแค่มาเล่นด้วย มาขอส่วนบุญ ทำบุญให้เขาก็ไป”

    เข้าใจตอบด้วย เหล่อมองพระพายแวบหนึ่ง เห็นเขายิ้มอย่างภูมิใจ ไฟที่มาจากนรกผีต้องกลัวงั้นหรือ หึหึ ได้การล่ะ

    “แล้วตอนนี้มีผีไหมครับ”

    “มี ลมก็อยู่นั่งอยู่นี่ ปาปา ลมบอกอยากกินไอติมสะลอรอรี่”

    “สตอเบอร์รี่ครับ”

    “คับ อยากกินสตอเบอร์รี่”

    “ลมอยากกินหรือผมอยากกิน”

    “ไม่ๆ ผมไม่กิน ของผมเอาช็อกลาแลตคับ”

    “ช็อคโกแลต”

    “คับ ผมเอาช็อคโกแลต”

    “แล้วสรุปว่า ลมบอกหรือผมบอก”

    “ผมบอก ผมเป็นคนพูด”

    “เก่งมากครับ แล้วผมกินข้าวหมดหรือยัง”

    “หมดแล้วคับ นี่” ตอบพร้อมกับโชว์ผลงาน จานข้าวสำหรับเด็กตอนนี้เกลี้ยงไม่เหลือข้าวสักเม็ด

    “เย้ เก่งครับทานเรียบร้อยดีมากงั้นเรียกพนักงานมาเนาะ”

    “ไปร้านข้างๆ ดีกว่า สั่งฟองดูให้ลูก เฮียกินด้วย ได้ไหมครับสั่งไอศรีมมาจานใหญ่ๆ แล้วมาแบ่งป๊าทานบ้างได้ไหมเอ่ย” ขอเอาใจลูกบ้างล่ะ ผีทำอะไรลูกไม่ได้ใช้ไหม ป๊าคนคูลๆ รักหนูตายเลย

    “ได้ครับ ยิ่งให้ยิ่งได้ เราไม่หวง เราไม่อด หมดก็มาเรื่อยๆ คับ”

    ยกคำพระมาอีก หันมองพายเห็นยิ้มอย่างภูมิใจรู้เลยว่าสอนมาแล้ว สอนเก่ง หรือ จำเก่งดี มีน้ำใจแต่เด็ก ป๊าคนนี้หลงแย่

    จากร้านข้าวผมก็พาไปต่อที่ร้านไอศรีม สั่งฟองดูมาชุดใหญ่ แบ่งกันทาน 3 คน ผมเห็นพายขอถ้วยแบ่งแล้วตักไอศรีมสตอเบอร์รี่แยกวางไว้

    “ตักแบ่งให้ ลม? สายลม? สรุปว่าสายลมเป็นกุมาร?”

    “สำหรับผมสายลมคืออากาศธาตุ แต่สำหรับลูกไฟใช่ครับ วายุภัค หรือที่ลูกไฟเรียก ลม เป็นพี่ชายฝาแฝด ตอนคลอด... เขาออกมาจากท้องแม่ไม่ทัน เขาเลยเป็นได้แค่กุมาร”

    “อ้าวเรื่องนี้ เฮียไม่เห็นรู้มาก่อนเลย”

    “เรารู้กัน 3 คน มีผม เพลิง มะปรางเราไม่อยากให้คนอื่นเสียใจ”

    “แล้วแบบนี้ลูกไฟจะเป็นอะไรไหม โบรานว่ากันว่า ฝาแฝดถ้าคนหนึ่งไป อีกคนก็ต้องไปตาม?”

    “ผมกับเพลิงก็ฝาแฝดกันนะครับเฮีย”

    ใช่ นั่นสิหรือว่าที่ผมยังเห็นเพลิงอยู่เป็นเพราะ…

    “ไม่ใช่หรอกครับ เฮียไม่ต้องกังวล ลมน่ารัก เขาเข้าใจ เราส่งบุญให้ตลอด ผมสอนลูกไฟตลอดมีอะไรได้อะไรต้องแบ่งให้พี่ด้วย พี่เขาเสียสละให้เพลิงออกมาก่อน มีวาสนาแค่นี้”

    “น้องเจ้าก็ไม่รู้เหรอ แบบนี้เขาก็ไม่รู้สิว่ายังมีหลานอีกคน”

    “ผมกับเพลิงไม่ได้บอกแต่คิดว่าน้องรู้”

    “แล้วลมไม่โกรธเหรอ ไม่กลายเป็นวิญญาณแค้นใช่ไหม? เราจะไว้ใจได้ไหม เป็นเด็กดีจริงหรือเปล่า”

    “พลังธาตุหยางเขาสูง ถึงเป็นวิญญาณก็เป็นวิญญาณที่ดี แล้วเฮียจะเห็นเอง ถ้าเฮียรับลูกไฟเป็นลูก เฮียก็ควรรับลูกลมเป็นลูกเหมือนกัน จะได้เท่าเทียมกันนะครับ”

    อ๊าว! ให้ผมเห็นเอง ผมไม่ได้บอกว่าอยากเห็นผี แอบมองไปทางถ้วยไอศรีมสตอเบอร์รี่ที่อยู่ซ้ายมือของผมอย่างหวาดๆ จ้องดูว่ามันจะพร่องไหม หากมันพร่อง ผมวิ่งล่ะ บอกเลยคนคลูๆ ขายาววิ่งเร็วมาก

    จะให้รับลมเป็นลูกอีกคนก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่ลูกลมครับ ถ้าจะมาให้ป๊าเห็นต้องมาแบบดีๆ หน้าเละ หน้าสด ตัวเละ ป๊าไม่รัก โอเค๊?

    กวาดสายตามองไปรอบๆ

    ฟิ้ว ~

    จู่ๆ สายลมก็พัดวนรอบตัวเบาๆ ทั้งที่นั่งอยู่ให้ห้องแอร์

    เชส!! ไม่เอา ไม่ต้องมาให้รู้สึก!! ป๊าหนาว!!

    กินไอศกรีมไปก็แอบมองไอศรีมสตอเบอร์รี่ถ้วยนั้นไปอย่างระแวง จนแล้วจนรอดไอศกรีมก็ไม่พร่องไม่ละลาย กินกันจนอิ่มทุกคนไอศกรีมก็ยังไม่ละลาย สักนิดก็ไม่ละลายออกมาเลย หรือไอศกรีมเขาทำดีจริง?

    ก่อนออกจากร้านพายเอามือแตะถ้วยไอศรีมตั้งจิตลาเงียบๆ แล้วพอเอามือออกไอศรีมสตอเบอร์รี่ลูกนั้นก็ละลายเละเป็นน้ำทันที!!!

    .

    .

    “เฮ้ยๆ เฮียมาแล้วเว้ย” เสื้อฟ้าคอยืดย้วย ไอ้เกล้าคนสนิทของผมเป็นทั้งลูกน้องและรุ่นน้อง ดำรงค์ตำแหน่งหัวหน้าโฟแมนร้องลั่นแสบแก้วหู

    “แล้วเฮียพาใครมาวะ อุ้มเด็กมาด้วย” ไอ้เสื้อดำกางเกงดำ ชีวิตมีแต่ของดำ ไอ้ตี๋ ขมวดคิ้วนิ่วหน้าแต่ไกล เสียงดังลั่นไม่แพ้กัน

    “เฮ้ยนั่นหมอพระ รอดแล้วมึง พรพระพาย อาจารย์ปราบผีอันดับต้นๆ ดูดวงจัดฮวงจุ้ย แม่นมากนะมึง สื่ออย่างกับตาเห็น ปกติรับแต่ดูดวงออนไลน์เท่านั้น แต่แค่ดูดวงก็คิวแน่นแล้วอ่ะ แล้วอาจารย์ก็รับดูแค่วันละ 2 คนเท่านั้นเองนะ เฮียเราไปเชิญออกมาได้ด้วยเว้ย แน่ว่ะ นี่มึงดู” นี่คนเก่งของผม ไอ้เก่ง แม่งเก่งทุกเรื่องแต่ไม่เคยได้ดีเลยสักเรื่อง ควักมือถือมากดหยิกๆ ส่งให้เพื่อนดู

    “ใช่จริงๆ ด้วย กูก็ชอบไปส่องเฟสอาจารย์ประจำเหมือนกัน ดวงเงินรายวัน บอกเลยโครตแม่น”

    “ยิ่งตัวเลขนะ แม่นมากมึง กูจัดไปสามงวดแล้วนี่ ในเฟสนะนะมึงเห็นอาจารย์โพสแต่ตัวเลขเฉยๆ นะมึงซื้อได้เลยกลับยังโงก็โดน”

    จริงเด้ แบบนี้ผมต้องไปส่องบ้างแล้ว ส่องดูตัวเลขนะไม่ได้ส่องว่ามีใครมาจีบพายบ้าง จริง!!

    “เอ้ย เหมือนกูเลย กูก็ตามอยู่ ได้ประจำ”

    เหล่มองคนที่เดินตามมาข้างๆ เสียงเล่าลือไม่ทำให้แม่กวางของผมละออกจากการดูแลลูกกวางแม้แต่น้อย ลูกไฟในอ้อมแขนงัวเงียกำลังจะตื่น

    ชื่อเสียงหมอพรพระพาย ในโลกโซเซียล ไม่เบาเลยทีเดียวและมีแต่ทิศทางที่ดีเรียกได้ว่าโหราจารย์คิวทอง ผมรู้นานแล้วแต่ได้ยินกับหูจากคนใกล้ตัวผมก็อดยืดนิดๆ ไม่ได้แหะ อยากจะตะโกนบอกว่า น้องผมคร้าบ คนนี้น้องผม แต่เดี๋ยวลูกตื่น ผมจะโดนแม่กวางขวิดเอา

    เสียงฮือฮากำลังใจมาเป็นกอง บ้างก็เปิดมือถือยื่นให้คนที่ไม่รู้จักดู บ้างก็ยืนมองส่งสายตาประกายตื่นเต้นเป็นการใหญ่

    “เฮียชายสวัสดีครับ หมอพระสวัสดีครับ”

    ไอ้เกล้ายกมือไหว้ทำตัวนอบน้อม จนน่าถีบ พรพระพายยิ้มรับคงอยากจะยกมือรับไหว้เหมือนกันติดตรงที่อุ้มลูกอยู่ ไอ้เกล้าเอามือไหว้ลงแล้วเตรียมจะจับมือหมอพระเพื่อเช็คแฮนแต่เสียจังหวะไปวูบหนึ่งเพราะ หมอพระยกมือที่เหลืออีกข้างลูกหลังลูกไฟพอดี ไอ้เกล้าเลยยิ้มเก้อๆ แทน

    ผมแอบยกมุมปากนึกหัวเราะเยาะไอ้เกล้าในใจ

    “ทำอะไรไปแล้วบ้าง”

    “โหยย เฮีย ใครจะกล้า เมื่อวานหลังจากที่เฮียนำวิ่ง พวกผมก็ได้แต่ตั้งหลักกันอยู่ตรงนี้ล่ะครับ”

    ตรงนี้ของพวกมึงคือบ้านพัก? ห่างกันยี่สิบกิโล ไอ้ห่าเอ้ย แล้วข้าวของที่กองไว้ไซด์งานป่านนี้ไม่หายหมดแล้วหรือวะ เหล่มองคนที่เอาแต่ห่วงลูกหวังว่าคงไม่ได้ยินคำว่า เฮียนำวิ่งหรอกนะ แม่งเสียฟอร์มคนคูลหมด ส่งเท้าไปถีบไอ้เกล้าสักที เสือกพูดเรื่องจริง

    “แล้วมีใครเจออะไรอีกไหมที่ให้ไปสืบได้ความว่าไง” ก่อนขึ้นเครื่องผมสั่งงานไว้หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือสืบประวัติสถานที่จากคนพื้นที่

    “บ้านนั้นมีผีจริงๆ เฮีย เสียงลือหนามาก เฮียจะเข้าไปพิสูจน์อีกครั้งก็ได้นะ เฮียนำเลยมืดๆ อย่างนี้จังหวะดีเลยได้เห็นแน่ๆ”

    ” มึงก็ไปดู” แม่งบ้าป่ะวะ จู่ๆ จะให้ผมไปดูมืดๆ อย่างนี้ เพิ่งมาถึงเว้ย เหนื่อย ไม่ได้กลัวอะไรมากหรอกนะเมื่อวานแค่ตกใจ

    “เฮียเป็นเจ้านายป่ะ เฮียต้องนำดิ หมอพระครับช่วยกรุณาพวกผมด้วยนะครับ เจอกันจริงๆ เห็นกันจะๆ ไอ้แม้วนี่ไข้ตั้งแต่เมื่อวานขึ้นป่านนี้ยังไม่ฟื้นเลยครับ มีคาถาแก้จับไข้หัวโกร๋นอะไรแบบนี้ไหมครับอาจารย์”

    พายยิ้มอ่อนปลอบขวัญ เรียวตาสีน้ำตาลอ่อนสะท้อนแสงอำพัน

    “เขาก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนี่ครับ ไข้ก็ลดลงแล้วเมื่อเช้า เหลือแค่ยังกลัวเลยไม่กล้าออกจากบ้านแค่นั้น”

    “โห...’ จารย์แม่นยังตาเห็น จริงครับมันกอดเตียงไม่ยอมไปไหนเลย ใครมาลากมันก็ไม่ยอมออกจากห้องจริงๆ สุดยอดเลยครับอาจารย์”

    ไอ้เกล้ายังคงไม่ละความพยายามชื่นชมไปก็ขยับเข้าหาอาจารย์ไป ส่วนอาจารย์แจกยิ้มไปขยับถอยหลังไป นอกจากไอ้เกล้ายังมีอีกหลายคนที่ดาหน้าเข้ามาทักทาย แต่ละคนแย่งกันพูดโน่นคุยนี่ถามโน่นนี่นั่นไม่หยุด

    พายยิ้มรับฟังแต่ไม่ได้ตอบ ทุกคนพากันขยับเข้าหาเนียนๆ พายก็ยิ้มรับฟังขยับถอยเท้าแบบเนียนๆ แต่มันจะเนียนก็ตรงที่พายถอยหลังมาจนติดกับตัวผม จนแทบจะฝังเข้ามาในหน้าอกผมแล้ว ผมทำตัวเป็นกำแพงยกมือขึ้นโอบไหล่ ตามสัญชาติญาณการปกป้อง

     

    ////

    เฮียแน่ใจนะว่าปกป้องไม่ใช่การหลอกกอด .... งืมๆๆ ไรท์ก็จะพยายามทำความเข้าใจน้าาา หุหุ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×