ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความรักคือยาของใจ #เจ้าหญิงของราชันย์

    ลำดับตอนที่ #1 : คุณหมอราชันย์

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 63



    <><><><><><><><><><><><>



    ในโลกใบนี้มักจะมีสิ่งที่ทำให้ผู้คนทำลายชีวิตของตนเองเสมอ นี่เป็นสิ่งที่คุณหมอหนุ่มวัยยี่สิบแปดปีท่องเอาไว้เสมอ ด้วยความที่เป็นจิตแพทย์เขาจึงรู้ว่าชีวิตของผู้คนนั้นแตกต่างกัน เหล่าคนไข้ของเขาเจอเรื่องราวที่แสนโหดร้ายขนาดไหน จนทำให้จิตใจของผู้คนเหล่านั้นพังทลาย หน้าที่ของจิตแพทย์เช่นเขาคือรักษาและเป็นกำลังใจให้คนเหล่านี้หายดี คอยเยียวยาจิตใจของพวกเขา ซ่อมแซมจิตใจที่พังทลายนั้นให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม

    นายแพทย์ราชันย์ ธนาภัวพัฒน์ เป็นจิตแพทย์หนุ่มในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ผิวขาว หน้าตาหล่อเหลาคมคายเหมือนดาราจีน ด้วยความที่มีเชื้อจีนอยู่แล้ว เขาสูง 186 เซนติเมตร ร่างกายแกร่งมีกล้ามนิดๆจากการออกกำลังกายเป็นประจำ เขาเป็นคนที่ผู้หญิงหลายๆคนจากจะได้เป็นสามีมากที่สุด

    นายแพทย์หนุ่มราชันย์ก้าวลงมาจากรถBMW i8สีดำคันหรู เข้ามาในร้านอาหารอิตาเลียนในโรงแรมหรูระดับห้าดาว เขากดล็อกรถก่อนจะเดินออกจากลานจอดรถเพื่อเข้าไปในโรงแรม แต่ระหว่างนั้นเขาก็ชนกับเด็กสาวคนนึงเข้า เธอล้มลงก้นจำเบ้าลงพื้น สมาร์ทโฟนราคาไม่สูงมากของคนตัวเล็กหล่นลงพื้นลงหน้าจอร้าว

    "ข...ขอโทษเป็นอะไรรึเปล่า"ราชันย์ก้มเก็บสมาร์ทโฟนของเธอ ก่อนที่คิ้วหนาจะขมวดเป็นปม เมื่อมองเห็นข้อความในหน้าจอสี่เหลี่ยมที่มีรอยร้าว มันคือประวัติการค้นหาในกูเกิล แต่ที่ทำให้เขาไม่สบายใจนั่นก็คือสิ่งที่เธอค้นหานี่สิ

    -ทานยานอนหลับเกินขนาดจะตายอย่างทรมานรึเปล่า

    -ทานยาพารากี่เม็ดถึงจะเสียชีวิต

    -สารกันบูดกินแล้วตายมั้ย

    -ถ้าทานสารเคมีเข้าไปจะตายรึเปล่า

    ดูการค้นหาแต่ละอันสิน่ากลัวจริงๆ โดยเฉพาะการค้นหาที่เธอพิมพ์ค้างไว้แต่ยังไม่กดค้นหา

    -วิธีการฆ่าตัวตายแบบไม่เจ็บปวดและทรมาน

    “ขอคืนด้วย”ว่าแล้วเธอก็หยิบมือถือของตนเองไปแล้วสาวเท้าออกไปจากลานจอดรถทันที ราชันย์มองตามเธอไปจนลับสายตา รู้สึกไม่สบายใจยังไงก็ไม่รู้

    เด็กคนนั้นมองดูเหมือนจะยังเป็นแค่เด็กมอปลาย ผมสีดำยาวถึงสะโพกตัวเล็กผิวขาวซีดใต้ตาคล้ำเธอสวมชุดกระโปรงวันพีชสีขาวดูบริสุทธิ์ แต่ท่าทางของเธอดูแปลกๆสัญชาตญาณของคนเป็นหมอบอกเขาทันทีเลยว่าเด็กคนนั้นไม่ปกติแน่นอน และถ้าเขาไม่ตามเธอไปตอนนี้จะต้องมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นแน่

    ราชันย์ยกแขนขึ้นมามองดูนาฬิกาก็พบว่าเลยเวลานัดที่ตนเองนัดทานมื้อค่ำกับแฟนสาวไปซะแล้ว คุณหมอหนุ่มถอนหายใจหนักๆก่อนที่จะยกสมาร์ตโฟนขึ้น ส่งข้อความบอกแฟนสาวว่าเขาคงจะไปไม่ได้แล้วก่อนที่จะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วสาวเท้าตามเด็กสาวคนนั้นไป

    พอออกมานอกโรงแรมก็ไม่พบร่างของเด็กสาวคนนั้นแล้ว ราชันย์มองไปรอบๆก็พบแต่แสงไฟในยามค่ำคืนของเมืองหลวงก่อนที่เขาจะเดินไปถามคุณลุงที่ขายข้าวมันไก่อยู่ริมทาง

    "เอ่อคุณลุงครับมีเด็กผู้หญิงใส่ชุดสีขาวผมยาวๆผ่านมาทางนี้รึเปล่าครับ"

    "อ๋อ เป็นคนรู้จักของเด็กนั่นหรอ เมื่อกี้เด็กผู้หญิงคนนั้นเพิ่งจะเดินตัดหน้ารถบรรทุกไปดีนะที่เขาเบรคทันทำเอาคนแก่ยังลุงหัวใจแทบวายน่ะ"คุณลุงบอกทำเอาคุณหมอราชันย์เคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม เพราะรู้สึกว่าข้อสันนิษฐานของเขาจะเป็นจริง ดูเหมือนว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นต้องการที่จะฆ่าตัวตายจริงๆ

    "แล้วเธออยู่ที่ไหนกันครับ"

    "เดินไปไหนไม่รู้ แถมเดินหน้าตาเฉยด้วยนะไม่เหมือนคนที่เฉียดตายไปเลย"เขาพยักหน้าก่อนออกวิ่งตามหา ถามคนแถวนั้นเผื่อมีใครรู้บ้างว่าควรไปทางไหน ความเป็นหมอทำให้เขาคิดว่าเขาจะปล่อยให้เธอฆ่าตัวตายไม่ได้เด็ดขาด

    ใช้เวลาไม่นานเขาก็รู้ว่าเธอนั้นไปที่ไหน คุณหมอหนุ่มเหลือบตามองตึกสูงชะลูดที่อยู่ตรงหน้า จนกระทั่งมองเห็นเด็กสาวกำลังเดินขึ้นไปข้างบนจากบันไดที่อยู่นอกตึกและกำลังจะถึงด่านฟ้า

    ราชันย์รีบวิ่งตามขึ้นไปทันทีแม้จะเหนื่อยแค่ไหนแต่เขาก็ต้องฝืนตนเองขึ้นไปดีกว่าจะปล่อยให้เด็กผู้หญิงคนนั้นฆ่าตัวตาย แม้เขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอจนทำให้เธอถึงกับอยากที่จะฆ่าตัวตายแบบนี้แต่ว่ายังไงชีวิตของคนเราก็มีค่าจะปล่อยให้เธอทำร้ายชีวิตของตนเองแบบนี้

    "หยุดนะ"ราชันย์หอบหายใจมองร่างเล็กที่กำลังยืนอยู่ริมด่านฟ้า เพียงก้าวเดียวถ้าเกิดเธอโดดลงไปชีวิตของเธอก็จบ มือบางถือปืนพกเอาไว้

    "คุณ"คนตัวเล็กเอียงคอก่อนจะค่อยๆถอยหลังเล็กน้อย

    "อย่านะ! ฆ่าตัวตายแบบนี้ไม่ดีนะ ชีวิตยังมีค่า นึกถึงหน้าคนที่รักหนูสิ ถ้าหนูตายไปพวกเขาจะเสียใจมากแค่ไหน หนูอายุยังน้อยชีวิตยังอีกยาวไกลอย่าทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้เลยนะ"

    "แล้วคุณมายุ่งอะไรด้วย หนูแค่จะฆ่าตัวตาย หรือว่าแค่นี้ก็จะไม่ยอมอย่างงั้นรอ แม้แต่นรกก็ไม่ต้องการฉันงั้นหรอ!!!"

    "ไม่ใช่นะ หนูวางปืนแล้วค่อยๆขยับมาหาพี่ดีกว่านะ ยืนอยู่ตรงนั้นมันอันตราย"ราชันย์ค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ร่างของเด็กสาวเรื่อยๆ หัวใจแกร่งเต้นตุ๊บๆ เพราะถ้าเกิดเขาทำอะไรผิดพลาดไป ชีวิตของเด็กคนนี้คงจะหายไปแบบไม่มีวันกลับ

    "หนูทนไม่ไหวแล้ว คุณจะไม่หยุดหนูทำไม ทุกวันนี้หนูทรมานมากเกินพอแล้วแม้แต่ร้องขอความตายกับพระเจ้า พระเจ้าก็ยังไม่เคยความตายให้แก่หนูอันนั้นหนูก็เลยต้องทำเองยังไงล่ะ"ราชันย์ปวดหัวตุ๊บๆเด็กคนนี้ต้องการที่จะตายจริงๆ แต่ว่าถึงอย่างงั้นเขาก็จะไม่ยอม

    "ที่พระเจ้าไม่ยอมมอบความตายให้หนูก็เพราะยังไม่ถึงเวลาที่หนูจะตายยังไงล่ะ"

    "ยังไม่ถึงเวลาแล้วเมื่อไหร่กันคะแล้วเมื่อไหร่จะถึงจะตายสักที จะปล่อยให้หนูเจ็บปวดนานแค่ไหนกันเท่านี้ก็นานเกินพอแล้ว ขอร้องด้วยค่ะให้หนูได้ตายสักทีได้โปรดเถอะอย่าห้ามเลยนะคะ หนูพยายามที่จะฆ่าตัวตายมาเป็นเวลาถึง 1 เดือนเลยนะคะ เพียงแค่อีกนิดเดียวหนูก็จะทำสำเร็จแล้วคุณอยากได้มาห้ามหนูอีกเลยนะคะ"เด็กสาวทรุดตัวนั่งลงที่ขอบด่านฟ้าอย่างน่าหวาดเสียว ราชันย์์ค่อยๆขยับเข้าไปใกล้โดยไม่ให้เด็กสาวรู้ตัว

    "ที่รัก ฉันเข้าใจหนูแล้ว แต่คิดใหม่อีกทีนะการกระโดดตึกมันเจ็บมากรู้มั้ย"

    "รู้ค่ะ ดังนั้นหนูถึงเลือกกระโดดตึกไปด้วยยิงหัวตนเองไปด้วยไงละคะ"เธอลุกขึ้นใช้ปืนจี้หัวตนเอง ค่อยๆก้าวถอยหลังไป

    คุณหมอหนุ่มเห็นท่าไม่ดีวิ่งเข้าไปคว้าเอวบางของคนตัวเล็กไว้มือหนาจับปืนของเธอแล้วขว้างมันลงไปจากตึกแทน รีบก้าวถอยหลังเร็วๆแต่เพราะเด็กสาวในอ้อมกอดดีดดิ้นไม่ให้ความร่วมมือ เขาจึงเซเกือบจะล้มไปหลายครั้ง

    "ปล่อยนะ!! ปล่อย!!!"เธอตะโกนลั่นพยายามจะวิ่งไปกระโดดตึกอยู่ตลอด ราชันย์จับเธอไว้แน่นเพราะกลัวเธอจะหลุดไปแล้วฆ่าตัวตาย

    "ไม่! หนูจะมาฆ่าตัวตายหนีปัญหาแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ ไม่ว่าจะเจอปัญหาแบบไหนก็ต้องแก้ไขและผ่านมันไปให้ได้ หนีปัญหาแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะ แบบนี้พ่อแม่เราจะเสียใจ"ราชันย์เอ่ยสั่งสอนพร้อมกับอุ้มร่างเล็กลงจากด่านฟ้า แล้วพาเธอลงลิฟท์

    "คุณไม่ใช่หนูจะไปรู้อะไรล่ะ"เธอเสียงแผ่วลงรวมทั้งตัวสั่น จนกระทั่งน้ำตาใสๆไหลออกมา เธอร้องไห้ออกมา ราชันย์ทำตัวไม่ถูกแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยเธอ มือหนาเลื่อนขึ้นไปลูบหัวเธอปล่อยให้เธอร้องไห้ออกมา...






    ราชันย์พาเธอกลับมาที่ลานจอดรถยัดเด็กสาวเข้าไปในรถ แล้วขึ้นไปตามขับรถออกมา แล้วหันไปถามเธอว่าบ้านอยู่ที่ไหน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบเธอนั่งเงียบในรถของเขา ราชันย์์หันไปมองเธอเขาได้มีโอกาสสำรวจเธอชัดๆ เพราะตอนนั้นเหตุการณ์ระทึกขวัญนั่นทำให้เขาไม่ได้มีโอกาสมองเธอมากนัก ผมหน้าม้าของเธอขวาจนปกดวงตาเอาไว้ แต่ที่ด่านฟ้าเวลาลมพัดเขาเห็นว่าดวงตาของเธอคล้ำเหมือนคนอดนอน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาคิดว่าเธอสวยพอตัวเลยถ้าแต่งตัวดีๆ

    "หนูจะไม่บอกฉันใช่มั้ยว่าบ้านอยู่ไหน"

    "..."

    "ถ้าหนูไม่บอกแล้วฉันจะไปส่งหนูได้ยังไงล่ะ หือ?"

    "ปล่อยหนูลง"

    "ให้หนูไปวิ่งให้รถชนนะหรอ ไม่เอาหรอก"ราชันย์บอกอย่างรู้ทัน คนตัวเล็กสบทออกมาอย่างขัดใจ

    "กลับตอนนี้ไม่ได้"เธอเสียงสั่นเหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง ราชันย์ฟังออก เธออาจจะมีปัญหากับที่บ้านราชันย์์ถอนหายใจ ก่อนจะตัดสินใจพาเธอกลับคอนโดของเขา

    ราชันย์ยื่นผ้าเช็ดตัวสีขาวให้เธอแล้วบอกให้เธอไปอาบน้ำ แล้วเขาก็เข้าครัวไปหาอะไรให้เธอกิน เขารู้มาว่าแม้เธอจะอยากฆ่าตัวตายแต่เธอก็ไม่อยากเจ็บปวด เลยเลือกวิธียิงตัวตายที่มันจะทำให้เธอดับไปมันทีวีที่โดนถอดปลั๊ก สำหรับคนที่อยากฆ่าตัวตายโดนไม่ทรมาณแล้ววิธีนี้ดีที่สุด นับว่าเธอหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาดี แต่ที่เขารู้อีกอย่างหนึ่งก็คือ เธอยังหวาดกลัวความเจ็บปวดถ้าเป็นแบบนั้นเขาสามารถทำให้เธอกลับมาเป็นปกติได้

    เขาวางจานไข่เจียวหมูสับไว้บนโต๊ะ กดปิดหม้อหุงข้าวก่อนจะเดินไปที่ห้องอาบน้ำ ค่อยๆเปิดประตูเข้าไปเขาไม่ได้จะแอบดูแต่จะดูว่าเธอคิดจะฆ่าตัวตายรึเปล่า เป็นไปตามคาดเธอยังไม่อาบน้ำกำลังยืนจ้องน้ำในอ่างนิ่งราวกับกำลังตัดสินใจว่า จะจมน้ำตายดีรึเปล่า

    "แบบนั้นมันทรมาณนะ"เธอหันขยับมาจ้องเขา"การขาดอากาศหายใจเฉียบพลันจะทำให้ร่างกายต้องการอากาศ หนูจะพยายามขึ้นมาหาอากาศโดยไม่รู้ตัว และหนูจะตะเกียกตะกายให้ตนเองมีชีวิตรอดแม้ว่าหนูจะไม่อยากก็ตาม"

    "รู้ค่ะ เพราะอ่านเจอมา"

    "งั้้นก็รีบอาบน้ำซะ จะได้มากินข้าว"ราชันย์บอกก่อนจะเดินกลับไปรอเธอที่ห้องอาหาร แต่ระหว่างที่กำลังหันหลังกลับไปนั้นก็ได้ยินเสียงเธอดังขึ้นมา

    "ห้ามมาเปิดประตูแบบนี้อีกนะ"

    ราชันย์หัวเราะเธอยังมีความรู้สึก ยังเป็นคนปกติที่ไม่ได้ละทิ้งการอยากมีชีวิตไปทั้งหมด แม้ว่าจะอยากตายไปบ้าง แต่เขาจะทำให้เธอกลับมาเป็นเหมือนเดิม ขอใช้ชื่อจิตแพทย์อันดับหนึ่งของไทยเป็นเดิมพัน...











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×