ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ถ้าวันนั้นฉันเอ่ยคำว่า “รัก”

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3 : พรหมลิขิตชักพามาเจอเขา สู่วัยเยาว์แปรเปลี่ยนชะตาใจ

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ย. 66


     

     

    หลังจากการเรียนคาบสุดท้ายของวันเปิดเทอมได้จบลง แต่ละคนต่างเก็บหนังสือแยกย้ายกันไป บางคนไปซื้อของมานั่งกินเมาท์มอยกับกลุ่มเพื่อน บางคนก็ไปเล่นกีฬาด้วยอะดรีนาลีนที่มันพุ่งพล่านของเด็กวัยมัธยม เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แต่ทว่าในอีกด้านหนึ่งกลับมีมุมมืดซ่อนอยู่

     

     

    “หล่อมากนักเหรอมึงไอ้เชี้ยแว่น!”

     

     

    กลุ่มผู้ชายหลายคนใส่ชุดนักเรียนผิดระเบียบชายเสื้อออกนอกกางเกง เหยียบส้นรองเท้า หน้าตาแต่ละคนราวกับนักเลงหัวไม้ที่ชอบตีรันฟันแทงไปทั่ว พวกมันยืนล้อมหน้าล้อมหลังชายผิวขาว ใส่แว่นเหมือนเด็กเนิร์ดแต่รูปร่างหน้าตาเข้าขั้นเทพบุตร ดูสะอาดสะอ้านดั่งคุณชายที่มาจากตระกูลผู้ลากมากดี

     

    “เพิ่งมาวันแรกก็วอนโดนตีนกูซะแล้ว เพราะหนังหน้าเชี้ย ๆ ของมึง! ส้มโอเลยไม่สนใจกู!”

     

     

    ชายที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊งพูดออกมาเสียงดังเต็มไปด้วยความโมโหพร้อมกับกระชากคอเสื้อชายตรงหน้าอย่างรุนแรง “ไอ้แทนรัก! คนอย่างมึงต้องโดนซะบ้างจะได้รู้จักจำ ว่าทีหลังอย่ามายุ่งกับส้มโอของกู…”

     

    หลังพูดจบประโยคมันก็กำมือแน่นก่อนจะง้างออกกว้างพร้อมกับหวดซัดหน้าอีกคนอย่างแรง จนน้ำสีแดงก่ำไหลออกมา “พวกเรารุมมัน!”

     

    ขณะที่ทุกคนกำลังเข้าไปรุมกระทืบคน ๆ เดียวที่ล้มลงไปนอนอยู่บนพื้นอย่างน่าสงสาร ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา “เฮ้ย! หยุดนะ”

     

     

    “ปอนด์! แกจะทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร”

     

    ทุกคนซึ่งกำลังง้างแขนยกขารุมกระทืบหันไปมองตามเสียงดังที่โพงขึ้นมาทันที จากนั้นชายหัวหน้าแก๊งจะพูดขึ้น

     

     

     

    “มิลค์แกอย่างมายุ่งได้ปะ นี่มันเรื่องของเรา”

     

    “เหอะ?! การที่แกยกพวกมารังแกคนแค่คนเดียวเนี่ย…มันไม่ทุเรศไปหน่อยเหรอ”

     

     ดวงตาปอนด์ถมึงทึงทันที

     

     “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าแกถูกสั่งสอนเลี้ยงดูมาแบบไหนถึงได้มีความคิดพฤติกรรมที่มันต่ำทรามพวกนี้ แต่ฉันขอเตือนไว้อย่างว่าถ้าแกทำแบบนี้ต่อไปในอนาคตแกจะเสียใจกับมัน แล้วเรื่องส้มโอ…มันไม่เคยสนใจแกอยู่แล้ว มีแต่แกที่ไปตามตื๊อแล้วคิดเองเออเองอยู่คนเดียว”

     

     

    “อ้าวมิลค์! ทำไมแกพูดแบบนี้วะ”

     

     

    “แล้วทำไมฉันพูดไม่ได้ ยังดีฉันเห็นแกเพื่อนนะ…ฉันเลยเลือกที่จะเตือนแกก่อน! ไม่เลือกโพสต์คลิปนี้ลงโซเชียล” 

     

    ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับโชว์คลิปการกระทำเมื่อครู๋ที่ได้ถูกบันทึกไว้ทั้งหมด 

     

    “ทั้งภาพทั้งเสียงชัดขนาดนี้ ถ้ามันถูกเผยแพร่ออกไป…” ปอนด์เบิกตามองคนตรงหน้าอย่างตะลึงลาน คนที่เมื่อครู่ทำตัวกรางจนน่ากลัวได้มีเหงื่อไหลซึมออกมา 

     

     

     

    “ปอนด์! แกห้ามยุ่งกับแทนรักอีก และห้ามรังแกทุกคนในโรงเรียน ถ้าฉันเห็นหรือรู้มาจากใครเมื่อไร…แกได้ไปคุยกับพี่หนุ่ม กรรชัยแน่”

     

     

    ปอนด์ขบกรามเข้าหากันจนเป็นสันนูน กำมัดแน่นเต็มไปด้วยความเดือดดาล แต่ทว่าเขาเลือกที่จะยอมแพ้แล้วเดินหนีออกไปตามด้วยคนอื่น ๆ จนเหลือไว้เพียงฉันและชายที่นอนอยู่บนพื้น จากนั้นฉันจึงรีบเข้าไปดูเขาทันที
     

    “ไม่เป็นไรแล้วนะแทนรัก…ปลอดภัยแล้ว”

     

     

     

    ตัวของเขาสั่นระริกอย่างไม่อาจควบคุมได้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกหวาดกลัว จนฉันต้องโอบไหล่อีกฝ่ายเอาไว้พลางลูบไปเบา ๆ เพื่อคลายอารมณ์ความกลัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

     

    …ขอโทษนะ ที่ตอนนั้นฉันช่วยแกไว้แบบนี้ไม่ได้ แกคงเจ็บปวดมากเลยใช่ไหม…แต่ไม่เป็นไรแล้วนะ กลับมาครั้งนี้ฉันจะไม่ให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนั้นอีกแล้ว ฉันจะเปลี่ยนชีวิตแกไม่ให้พบเจอจุดจบในวัย 18 ปีที่เป็นความตาย…

                   

     

     

     

     

     

    .

     

     

    เหตุการณ์เมื่อ 9 ปีที่แล้ว

                   

     

     

    หลังเลิกเรียนช่วงตอนเย็นที่ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงมาแสงส้มปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า รถราต่างสัญจรไปมาเต็มท้องถนนในขณะที่ฉันกำลังเดินไปรอรถเมล์พร้อมทั้งพูดคุยกับกิ่งผู้เป็นเพื่อนร่วมทางไปตลอดทาง

     

    “มึงพรุ่งนี้วันปัจฉิมแล้ว ตื่นเต้นว่ะ” แววตาของฉันเต็มไปด้วยความเป็นประกาย

     

    “ก็แหงล่ะ เล่นจะไปสารภาพรักกับแทนรักวันปัจฉิมเลยนี่… แอบชอบเขามาตั้งนานแต่เก็บไว้บอกวันสุดท้าย เหอะ โรแมนติกโคตร”

     กิ่งพูดด้วยความหมั่นไส้ นั่นเพราะก่อนหน้านี้ที่ฉันเอาแต่พูดเรื่องแทนรักกรอกใส่หูทุกวันว่าดียังไง เก่งยังไง หล่อขนาดไหน ทำไมฉันถึงชอบ พูดแบบนี้พูดจนเพื่อนทุกคนรำคาญ…โอเค ก็รู้ตัวแหละ แต่ไม่หยุดหรอก

     

    “โอ๊ย ข้ามไปวันพรุ่งนี้เลยได้ปะ อยากบอกใจจะขาดแล้วเนี่ย” ฉันบิดตัวเขินไปมา

     

    “เป็นไปมากนะมึงอะ เฮ้อ”

     

    กิ่งที่ถอนหายใจไปไม่รู้กี่รอบก็ได้แต่ส่ายหน้า แต่ถึงอย่างนั้นก็อดยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูไม่ได้

     

     

     

     

     

     

    21.32

     

     

    ภายในห้องนอนแสนจะธรรมดาที่มีเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะไว้ทำการบ้านอ่านหนังสือ มีของตกแต่งเล็ก ๆ น้อย  ๆ สไตล์เด็กสาวมัธยม มิลค์ซึ่งนั่งบนเก้าอี้สีขาวที่โต๊ะอ่านหนังสือกำลังจ้องมองโทรศัพท์ที่วางไว้ข้างหน้าไม่ลดละสายตาเหมือนว่าอยากจะทำอะไรกับโทรศัพท์นั้น … โทรหาเขาสักหน่อยดีไหมนะ

     

    โทรดี… หรือไม่โทรดี…          

     

    “โทรไปสักหน่อยดีกว่า!” ทันใดนั้นฉันจึงหยิบโทรศัพท์ขั้นมาพร้อมกับกดไปที่ ‘แทนรัก<3’ 
     

    ตู๊ด… ตู๊ด… เสียงรอสายดังขึ้นไม่นานนัก เสียงของหนุ่มที่อยู่ปลายสายก็ดังขึ้น “ฮัลโหล ว่าไงมิลค์”
     

     

    โหย แค่ได้ยินเสียงหัวใจฉันก็จะละลายแล้วเนี่ย “เอ่อ…” พูดอะไรดีวะ ไม่ได้ไว้คิดด้วย…ไอ้ที่โทรมาก็แค่อยากจะฟังเสียงของชายที่แอบชอบมาตลอดระยะเวลาการเรียนในชั้นม.6 แค่นั้นเอง  “อ๋อ พรุ่งนี้ก็วันปัจฉิมนิเทศแล้ว แกมีของอะไรให้เราป่าวเนี่ย”

     

     

    “มีอยู่แล้วสิ… ก็มิลค์เป็นเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดของเราเลยนะ”

     

    จู่ ๆ มุมปากฉันมันก็เผยรอยยิ้มออกมาไม่รู้ตัว “แหม เขินนะ อยู่ ๆ ก็มาชมกันแบบนี้~ โอเค ๆ งั้นนอนเถอะ ดึกมากแล้วเอาไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ ฝันดีแทนรัก”

     

    “อื้ม ฝันดีมิลค์…”

                   

     

    หลังจากนั้นฉันก็กดวางสายไป หลงเหลือแต่รอยยิ้มกว้าง ๆ ของฉันในตอนนี้ ที่มีความสุขจนแถบจะระเบิดออกมาได้อยู่แล้ว ก่อนที่ฉันจะไฟนอนเพื่อตื่นมาพรอมกับวันปัจฉิมนิเทศที่รอคอย

                   

     

     

     

    .

                   

     

    เมื่อเช้าวันปัจฉิมนิเทศวันสุดท้ายของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่ที่ 6 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายได้เริ่มต้นขึ้น เหล่านักเรียนหลายหลายคนก็ได้ซื้อดอกไม้ซื้อของขวัญมาแสดงความยินดีให้แก่พวกเขาที่สำเร็จการศึกษา และวันพิเศษแบบนี้ก็เป็นวันที่เด็กม.6 มีทั้งความสุขและความเศร้าไปพร้อม ๆ กัน

     

    ทุกคนต่างถ่ายภาพความทรงจำนี้เก็บเป็นที่ระลึกซึ่งมันจะคงอยู่ต่อไปอีกนาน แม้ว่าความสัมพันธ์เหล่านี้อาจจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม จนกระทั่งถึงตอนเย็นเมื่องานปัจฉิมนิเทศได้จบลงอย่างเป็นทางการ

     

     

    ทว่า… ฉันยังคงไม่เห็นแทนรัก

     

    “อีฟ…วันนี้มึงเห็นแทนรักปะ กูมองหาตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่เจอเลยว่ะ”
     

    “ไม่รู้ดิ ไม่เห็นเหมือนกัน… เฮ้อ หรือว่าเพื่อนกูจะอาภัพรักแล้ววะเนี่ย คนแอบชอบดันไม่มาโรงเรียนวันสุดท้ายเอาซะได้” อีฟพูดด้วยน้ำเสียงกวน ๆ แต่ฉันกลับไม่มีอารมณ์เล่นด้วย

     

    “ต้องมาดิ” ฉันขมวดคิ้วมุ่ยพร้อมกับมองหาแทนรักไปรอบ ๆ เผื่อว่าจะเจอ …จะไม่มาได้ยังไง เขาบอกว่ามีของจะให้ฉันนะ ต้องมาอยู่แล้วสิ ฉันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาเลยนะ

     

     

    และในทันใดนั้นเองก็มีเสียงตะโดนจากเพื่อนสาวอีกคนดังขึ้น  “พวกมึง!!! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว ๆ!” กิ่งรีบวิ่งหน้าตั้งเข้ามาทางฉัน 

     

    “อะไรวะ?” ฉันถามออกไป

     

    “มึงทำใจดี ๆ นะ” 

     

    “หา?”

     

    “คือ… แม่ของแทนรักโทรมาบอกอาจารย์บุ๋มว่า… แทนรัก...”

     

    “ทำไม? แทนรักทำไมวะมึง”

     

    “แทนรัก… ฆ่าตัวตาย ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลซึ่ง…โอกาสรอดน้อยมาก”

     

    “หะ?...”   ฉันไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม “มึง…ว่าไงนะ”

     

     

    เป็นไปไม่ได้… ราวกับว่าโลกทั้งใบหยุดหมุนทุกอย่างมันค่อย ๆ ช้าลง เหมือนความรู้สึกในตอนนี้ที่มันหยุดชะงัก มันสับสน มึนงงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนไม่รู้ว่าต้องเสียใจแบบไหน ความรู้สึกมันอัดแน่นอยู่กลางอก น้ำตาที่ควรจะไหลมันกลับไม่ไหลออกมา 

     

    เมื่อวานฉันยังโทรคุยกับเขาอยู่เลยไม่ใช่เหรอ เขาบอกว่ามีของจะให้ฉันนี่ ทะ…ทำไม ถึงได้โกหกกันแบบนี้ล่ะ 

     

     

    “มันไม่จริงใช่ปะ…”

     

     

    กิ่งไม่ตอบอะไรกลับมาแต่เพียงแค่ฉันมองเข้าไปในแววตาของอีกฝ่ายก็รับรู้ได้แล้ว ว่ามันทั้งหมดคือเรื่องจริง…

                   

     

     

     

    .

     

      

                 

     

     

     

                   กลับมาที่ ณ ตอนนี้…

                   

    หลังจากที่แทนรักเริ่มตั้งสติกลับมาได้ เขาก็นั่งกอดเข่าผิงกำแพงตรงข้ามมิลค์ที่กำลังนั่งขัดสมาธิพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยความคิดถึง แฝงความอบอุ่นอ่อนโยนที่ส่งไปยังชายหนุ่มตรงหน้า  

    …แววตาใสซื่อแบบนี้ จมูกโด่งโค้งมนแบบนี้ ริมฝีปากบางแบบนี้ ผิวขาวละมุนแบบนี้ นี่แหละ…คนที่ฉันรอคอยมาเนิ่นนาน

     

     

    “เอ่อ… ขอบคุณนะ ที่ช่วยเราไว้”

     

    “…”

     

    “ว่าแต่เธอชื่ออะไรเหรอ”

     

    “…”

     

    “อะ…เอ่อ เราชื่อแทนรักนะ   

     

    “…”

     

    “คือ… มีอะไรหรือเปล่า ทำไมจ้องหน้าเราแล้วเอาแต่ยิ้ม ไม่พูดอะไรหน่อยเลย”

     

     

    “เราชอบแกอะ”

     

    “หืม?”

     

     

    คนตรงหน้าขมวดคิ้วงุนงงพร้อมกับเบิกตาโพลงโตทันที …ฉันตระหนักได้แล้ว ว่าตอนนั้นฉันบอกเขาช้าไปจริง ๆ เมื่อได้โอกาสอีกครั้งฉันจะไม่ปล่อยให้เขาได้โดดเดี่ยวเหมือนเดิมแล้ว

     

    “เราขอจีบแกได้ปะ”

     

    “…”

     

     

    “เงียบแบบนี้แสดงว่าตกลง งั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราจะเริ่มจีบแกอย่างเป็นทางการ โอเค!” ฉันพูดพร้อมกับยกมือที่ทำเป็นสัญลักษณ์ OK ขึ้นมา

     

    “ดะ…เดี๋ยว แต่…เรายังไม่รู้จักกันเลยนะ”

     

    “งั้นเหรอ…อืม เราชื่อมิลค์ อยู่ ม.6/9 เรียนแผนวิทย์คณิตที่เป้าหมายคือการสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ แล้วก็อยากเรียนจบมัธยมไว ๆ แล้ว เพราะเกลียดวิทย์คณิตมาก วันเดือนปีเกิดก็ไปดูใน Instagram เราก็แล้วกัน milkylovelyu อ๋อ! แล้วก็เราขอเบอร์แกหน่อย ตอนนี้เรายังไม่มีอะ”

     

     

    ฉันยืนโทรศัพท์มือถือของตัวเองส่งไปให้คนตรงหน้า ที่ในตอนนี้เขามีสีหน้าเอ๋อกินไปแล้ว แต่ก็รับโทรศัพท์ก่อนจะกดเบอร์ลงไปแบบงง ๆ 

     

    “โอเค! ขอบคุณค่ะที่ว่านอนสอนง่ายมาก ๆ” ฉันยิ้มกว้างอออกมากับการกระทำของแทนรักที่ยังคงเป็นเขาเหมือนเดิม “เอาเป็นว่าตอนนี้เราก็รู้จักกันแล้ว งั้นบ๊ายบายกลับบ้านดี ๆ นะ พรุ่งนี้เจอกัน”


     

    ฉันโบกมือส่งท้ายก่อนจะเดินออกมาด้วยความร่าเริง ทิ้งไว้ให้แทนรักได้แต่เกาหัวไปมาด้วยความสับสนว่าเหตุการณ์ทุกอย่างมันถึงเกิดขึ้นได้รวดเร็วขนาดนี้

     

     

     

                   อ่า…วันนี้มีความสุขดีจัง!

     

     

     

     

    TBC.

    .

     

    เจอกันวันแรกก็ขอจีบเขาเลย มิลค์จ๊ะผู้งงไปหมดแล้วจ้าาาา

    แต่รับบทหญิงแกร่งแล้วหนึ่ง ช่วยผู้จากแก๊งอันธพาลนี่แหละนางเอกยุค 2023

    จะมาทำตัวเหนียมอายรอให้เขามาชอบไมไ่ด้ ต้องกระโจนใส่เท่านั้น5555555

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×