ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The meaning of pain : ความรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : Nostalgia ความคิดถึง

    • อัปเดตล่าสุด 6 มี.ค. 60


               ราวกับติดอยู่ในอุโมงค์ยาวที่ไร้ทางออก แต่แล้วความมืดมิดก็ผลันคลายลง แสงสว่างค่อยๆก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆตรงหน้าของไบร์ท เขายื่นมือออกไปหาแสงสว่างนั้นราวกับจะไขว้คว้ามันไว้ แล้วเขาก็สัมผัสกับอะไรสักอย่าง สัมผัสที่ชวนให้คิดถึง เธออยู่นี่ อยู่ตรงหน้าเขา คนที่เขาต้องการพบมาตลอด

               ร่างบางสะดุ้งเมื่อถูกคว้าตัว แต่ไม่ทันได้ตั้งสติ ตัวของเธอก็ถูกเหวี่ยงเข้าสู่อ้อมแขนของใครสักคน เธอพยายามดิ้น พยายามเงยหน้าขึ้นมองใครคนนั้นที่มาหยุดเธอเอาไว้ ต้องใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อให้สายตาปรับภาพที่เบลอให้ค่อยๆชัดเจนขึ้น แสงไฟเล็กๆจากตัวเมืองแม้จะน้อยนิดแต่ก็เพียงพอ

                ไม่จริง! ความฝันเหรอ...

                ไม่มีคำพูดใดๆทั้งสิ้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้อยากเจอมากแท้ๆแต่ปรางไม่แม้แต่จะเอ่ยปากพูด อาจจะเพราะยังสับสนและไม่รู้จะต้องทำยังไง สิ่งที่เธอทำได้คือกอดคนตรงหน้าเอาไว้ให้แน่นที่สุดราวกับจะพิสูจน์สิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่อันน้อยนิดที่แขนเล็กๆของตัวเองจะทำได้ น้ำตาของปรางค่อยๆไหลช้าๆ แค่อีกสักครั้งที่เธออยากจะงอแงและทำตัวขี้แยถึงแม้จะเป็นความฝันก็ตาม เธอก็อยากจมอยู่กับความฝันนี้ตลอดไป
                เวลาค่อยๆผ่านไปอย่างช้าๆ ปรางหยุดร้องไห้และหลับไปเพราะความอ่อนล้าในอ้อมกอดของไบร์ท คนตัวใหญ่พยุงเธอและพาเดินกลับไปที่ห้อง เขาใช้กุญแจห้องที่ค้นเจอในกระเป๋าของปรางและโชคดีที่รหัสของห้องพักยังไม่เปลี่ยน เขาเคยมาห้องเธอตอนช่วยเธอย้ายของ ปกติแล้วครอบครัวของปรางจะค่อนข้างเข้มงวดและดูแลเธอเหมือนไข่ในหิน จึงมีปัญหาในช่วงแรกๆเพราะทางบ้านอยากให้เธอพักที่บ้าน แต่ก็แน่ละ ด้วยความหัวดื้อของลูกสาวที่อยากพิสูจน์ให้พ่อแม่เห็นว่าดูแลตัวเองได้ก็เป็นฝ่ายชนะ เธอจึงได้ย้ายมาอยู่คอนโดที่ติดกับมหาลัย ถึงจะเข้มงวดแต่ก็ไม่ขัดใจลูก หรือนี่อาจจะเป็นปกติของครอบครัวคนที่มีฐานะ

                " เรียบร้อย " ไบร์ทพูดหลังจากที่ค่อยๆวางปรางลงบนเตียงและห่มผ้าให้ เขาถอดแว่นของเธอออกวางมันลงบนโต๊ะข้างหัวเตียงและมองเธอใกล้ๆ
                
                ผอมลงไปเยอะเลย

                เขานึกพลางยื่นมืออกไปลูบหัวคนตรงหน้าเบาๆ สาวเจ้ายังหลับตาพริ้มราวกับหลับลึกติดอยู่ในห้วงของความฝัน แล้วเขาก็สังเกตเห็นมือข้างหนึ่งที่ยังกำแน่น ไบร์ทค่อยๆคลายมือของเธอออก เขาเห็นแหวนที่ปรางมักจะใส่เสมอ เป็นแหวนที่เธอกับเขาเลือกด้วยกันตอนไปถนนคนเดิน เขาสลักชื่อเธอลงบนแหวนของตัวเอง และเธอก็สลักชื่อเขาลงไป เป็นแหวนโลหะสีเงินธรรมดาที่ไม่มีราคาอะไรมากมาย แต่ทั้งคู่ก็ใส่ใจเสมอมา ไบร์ทหยิบแหวนและพินิจมันอยู่ครู่นึงก่อนจะวางไว้ข้างๆแว่นของเธอ
                
                ทำไมไม่รักตัวเองบ้างน้า

                คนตัวใหญ่กลั้นน้ำตาคลอ เขามองไปรอบๆห้องที่ถูกตกแต่งอย่างทันสมัยสไตล์โมเดิลอาร์ต ก่อนจะพบซองจดหมายวางอยู่บนโต๊ะกลางห้องของเธอ เมื่อเปิดซองออกเขาเห็นรูปของตัวเองกับปรางใส่ชุดไปรเวทมีฉากหลังเป็นช้างแม่ลูกตัวใหญ่และควาญช้างข้างหลัง ไบร์ทจำได้ว่านั้นเป็นเดทแรกของเขากับเธอที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ปรางอยากไปเพราะเบื่อที่จะไปห้างและเขาก็คิดว่าน่าสนุกดี เขาพลิกดูข้างหลังรูปพบคำสั้นๆว่า

                ตลอดไป

                มันถูกเขียนด้วยลายมือของเธอ ทั้งหมดในซองจดหมายนั้น มีแค่นี้ มีแค่ภาพของเขากับเธอ ไม่มีแม้แต่คำสั่งเสียใดๆ ไม่มีเลย คงอาจจะเป็นเพราะเธอสิ่งเดียวที่เธออยากทิ้งเอาไว้ที่เหลือบนโลกคือความทรงจำนี้ และนั้นทำให้ไบร์ทรู้ว่าเธอรักเขามากแค่ไหน

                เมฆดำค่อยๆเคลื่อนตัวแล้วกลั่นเป็นหยดฝนซัดสาดไปทั่วทั้งเมือง เสียงฝนดังขึ้นราวกลับอยากให้คืนนี้ไม่จบลงง่ายๆ

                ใช่ มันไม่เคยมีอะไรง่าย







                 เป็นยังไงบ้างความรู้สึกที่เหมือนมีชีวิตอีกครั้ง

                 เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง เป็นเสียงที่เขาจะไม่มีวันลืม 

                 " ก็แปลกใจนิดๆ ใครจะคิดว่าเป็นวิญญาณแล้วจะจับสิ่งของได้ "ไบร์ทตอบ " อย่างกับว่าไม่ใช่อะไรอย่างนั้นเลย "

                  วิญญาณก็คือพลังงานอย่างหนึ่ง แต่เจ้าก็แค่พิเศษกว่าเล็กน้อย

                  " ท่านเป็นใครกันแน่ ท่านบอกว่าท่านไม่ใช่พระเจ้า "เขาถาม

                  เราคืออัลฟ่าและโอเมก้า เสียงนั้นบอก เรียกเราว่าแบบนั้นผู้สิ้นอายุขัย

                   เรื่องราวชักไปกันใหญ่และสับสนมากขึ้น 

                  ถึงจะอยากถามต่อว่าไอ้อัลฟ่าหรือโอเมก้านี่คืออะไรแต่ถามไปก็คงเหมือนหาเรื่องให้ยิ่งปวดหัว

                 " เฮ้อ "ไบร์ทยกมือขึ้นกุมหัวเขาและถอนหายใจ เขาตัดสินใจจะไม่ถามเรื่องนั้นและกลับมาเรื่องของตัวเองต่อ " แล้วตัวผมตอนนี้จะไม่แปลกเหรอถ้ามีคนอื่นมาเห็นเข้า แบบว่าผมตายแล้วถ้าพ่อแม่มาเห็นละ "
                  
                  นอกจากคนรักของเจ้า ถึงแม้คนอื่นจะมองเห็นเจ้าแต่ก็จะไม่รู้ว่าเป็นเจ้า เขาจะเดินผ่านเจ้าเหมือนคนที่เดินสวนกัน ถึงแม้เจ้าจะพูดกับเขาแต่ความทรงจำของเขาเกี่ยวกับเจ้าจะถูกแทนที่ด้วยคนอื่น เพราะธรรมชาติมีกฎของมัน

                  ถึงจะยังไม่ค่อยเข้าใจแต่ไบร์ทก็พอรับได้กับเหตุผลนี้ ถึงแม้เจ้าตัวที่พูดเรื่องกฏธรรมชาติจะฝ่าฝืนเองก็เถอะ 

                 " แล้วผมจะอยู่ได้นานแค่ไหน " 

                  ไม่ช้าและก็ไม่เร็ว อัลฟ่าและโอเมก้าตอบกลับ ขึ้นอยู่กับตัวของพวกเจ้าทั้งสอง

                 " หมายความว่ายังไง "ไบร์ทเริ่มหัวเสียกับท่าทางการพูดที่ราวกับจะหยั่งเชิงเขาตลอดเวลาของเสียงปริศนานั้น " บอกผมมาเลยดีกว่าไม่มีอะไรที่ผมรับไม่ได้อีกแล้ว อัลฟ่า! โอเมก้า! "

                  เราบอกไปแล้วใช่ไหมว่าวิญญาณก็คือพลังงาน และมันย่อมมีแหล่งที่มา 
     
                 เสียงปริศนานั้นเริ่มเท้าความขึ้น และนั่นทำให้ไบร์ทรู้สึกไม่ดีเลย เวลาผ่านไปแค่ครู่เดียวกับคำตอบที่อัลฟ่าและโอเมก้าพูด ประกายในตาของไบร์ทก็สั่นไหว เพราะสิ่งที่เขาได้ยินนั้นมันแทบจะทำให้คนที่ฟังแทบจะล้มทั้งยืน









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×