ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Nostalgia ความคิดถึง
ราวกับติดอยู่ในอุโมงค์ยาวที่ไร้ทางออก แต่แล้วความมืดมิดก็ผลันคลายลง แสงสว่างค่อยๆก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆตรงหน้าของไบร์ท เขายื่นมือออกไปหาแสงสว่างนั้นราวกับจะไขว้คว้ามันไว้ แล้วเขาก็สัมผัสกับอะไรสักอย่าง สัมผัสที่ชวนให้คิดถึง เธออยู่นี่ อยู่ตรงหน้าเขา คนที่เขาต้องการพบมาตลอด
ร่างบางสะดุ้งเมื่อถูกคว้าตัว แต่ไม่ทันได้ตั้งสติ ตัวของเธอก็ถูกเหวี่ยงเข้าสู่อ้อมแขนของใครสักคน เธอพยายามดิ้น พยายามเงยหน้าขึ้นมองใครคนนั้นที่มาหยุดเธอเอาไว้ ต้องใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อให้สายตาปรับภาพที่เบลอให้ค่อยๆชัดเจนขึ้น แสงไฟเล็กๆจากตัวเมืองแม้จะน้อยนิดแต่ก็เพียงพอ
ไม่จริง! ความฝันเหรอ...
ไม่มีคำพูดใดๆทั้งสิ้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้อยากเจอมากแท้ๆแต่ปรางไม่แม้แต่จะเอ่ยปากพูด อาจจะเพราะยังสับสนและไม่รู้จะต้องทำยังไง สิ่งที่เธอทำได้คือกอดคนตรงหน้าเอาไว้ให้แน่นที่สุดราวกับจะพิสูจน์สิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่อันน้อยนิดที่แขนเล็กๆของตัวเองจะทำได้ น้ำตาของปรางค่อยๆไหลช้าๆ แค่อีกสักครั้งที่เธออยากจะงอแงและทำตัวขี้แยถึงแม้จะเป็นความฝันก็ตาม เธอก็อยากจมอยู่กับความฝันนี้ตลอดไป
เวลาค่อยๆผ่านไปอย่างช้าๆ ปรางหยุดร้องไห้และหลับไปเพราะความอ่อนล้าในอ้อมกอดของไบร์ท คนตัวใหญ่พยุงเธอและพาเดินกลับไปที่ห้อง เขาใช้กุญแจห้องที่ค้นเจอในกระเป๋าของปรางและโชคดีที่รหัสของห้องพักยังไม่เปลี่ยน เขาเคยมาห้องเธอตอนช่วยเธอย้ายของ ปกติแล้วครอบครัวของปรางจะค่อนข้างเข้มงวดและดูแลเธอเหมือนไข่ในหิน จึงมีปัญหาในช่วงแรกๆเพราะทางบ้านอยากให้เธอพักที่บ้าน แต่ก็แน่ละ ด้วยความหัวดื้อของลูกสาวที่อยากพิสูจน์ให้พ่อแม่เห็นว่าดูแลตัวเองได้ก็เป็นฝ่ายชนะ เธอจึงได้ย้ายมาอยู่คอนโดที่ติดกับมหาลัย ถึงจะเข้มงวดแต่ก็ไม่ขัดใจลูก หรือนี่อาจจะเป็นปกติของครอบครัวคนที่มีฐานะ
" เรียบร้อย " ไบร์ทพูดหลังจากที่ค่อยๆวางปรางลงบนเตียงและห่มผ้าให้ เขาถอดแว่นของเธอออกวางมันลงบนโต๊ะข้างหัวเตียงและมองเธอใกล้ๆ
ผอมลงไปเยอะเลย
เขานึกพลางยื่นมืออกไปลูบหัวคนตรงหน้าเบาๆ สาวเจ้ายังหลับตาพริ้มราวกับหลับลึกติดอยู่ในห้วงของความฝัน แล้วเขาก็สังเกตเห็นมือข้างหนึ่งที่ยังกำแน่น ไบร์ทค่อยๆคลายมือของเธอออก เขาเห็นแหวนที่ปรางมักจะใส่เสมอ เป็นแหวนที่เธอกับเขาเลือกด้วยกันตอนไปถนนคนเดิน เขาสลักชื่อเธอลงบนแหวนของตัวเอง และเธอก็สลักชื่อเขาลงไป เป็นแหวนโลหะสีเงินธรรมดาที่ไม่มีราคาอะไรมากมาย แต่ทั้งคู่ก็ใส่ใจเสมอมา ไบร์ทหยิบแหวนและพินิจมันอยู่ครู่นึงก่อนจะวางไว้ข้างๆแว่นของเธอ
ทำไมไม่รักตัวเองบ้างน้า
คนตัวใหญ่กลั้นน้ำตาคลอ เขามองไปรอบๆห้องที่ถูกตกแต่งอย่างทันสมัยสไตล์โมเดิลอาร์ต ก่อนจะพบซองจดหมายวางอยู่บนโต๊ะกลางห้องของเธอ เมื่อเปิดซองออกเขาเห็นรูปของตัวเองกับปรางใส่ชุดไปรเวทมีฉากหลังเป็นช้างแม่ลูกตัวใหญ่และควาญช้างข้างหลัง ไบร์ทจำได้ว่านั้นเป็นเดทแรกของเขากับเธอที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ปรางอยากไปเพราะเบื่อที่จะไปห้างและเขาก็คิดว่าน่าสนุกดี เขาพลิกดูข้างหลังรูปพบคำสั้นๆว่า
ตลอดไป
มันถูกเขียนด้วยลายมือของเธอ ทั้งหมดในซองจดหมายนั้น มีแค่นี้ มีแค่ภาพของเขากับเธอ ไม่มีแม้แต่คำสั่งเสียใดๆ ไม่มีเลย คงอาจจะเป็นเพราะเธอสิ่งเดียวที่เธออยากทิ้งเอาไว้ที่เหลือบนโลกคือความทรงจำนี้ และนั้นทำให้ไบร์ทรู้ว่าเธอรักเขามากแค่ไหน
เมฆดำค่อยๆเคลื่อนตัวแล้วกลั่นเป็นหยดฝนซัดสาดไปทั่วทั้งเมือง เสียงฝนดังขึ้นราวกลับอยากให้คืนนี้ไม่จบลงง่ายๆ
ใช่ มันไม่เคยมีอะไรง่าย
เป็นยังไงบ้างความรู้สึกที่เหมือนมีชีวิตอีกครั้ง
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง เป็นเสียงที่เขาจะไม่มีวันลืม
" ก็แปลกใจนิดๆ ใครจะคิดว่าเป็นวิญญาณแล้วจะจับสิ่งของได้ "ไบร์ทตอบ " อย่างกับว่าไม่ใช่อะไรอย่างนั้นเลย "
วิญญาณก็คือพลังงานอย่างหนึ่ง แต่เจ้าก็แค่พิเศษกว่าเล็กน้อย
" ท่านเป็นใครกันแน่ ท่านบอกว่าท่านไม่ใช่พระเจ้า "เขาถาม
เราคืออัลฟ่าและโอเมก้า เสียงนั้นบอก เรียกเราว่าแบบนั้นผู้สิ้นอายุขัย
เรื่องราวชักไปกันใหญ่และสับสนมากขึ้น
ถึงจะอยากถามต่อว่าไอ้อัลฟ่าหรือโอเมก้านี่คืออะไรแต่ถามไปก็คงเหมือนหาเรื่องให้ยิ่งปวดหัว
" เฮ้อ "ไบร์ทยกมือขึ้นกุมหัวเขาและถอนหายใจ เขาตัดสินใจจะไม่ถามเรื่องนั้นและกลับมาเรื่องของตัวเองต่อ " แล้วตัวผมตอนนี้จะไม่แปลกเหรอถ้ามีคนอื่นมาเห็นเข้า แบบว่าผมตายแล้วถ้าพ่อแม่มาเห็นละ "
นอกจากคนรักของเจ้า ถึงแม้คนอื่นจะมองเห็นเจ้าแต่ก็จะไม่รู้ว่าเป็นเจ้า เขาจะเดินผ่านเจ้าเหมือนคนที่เดินสวนกัน ถึงแม้เจ้าจะพูดกับเขาแต่ความทรงจำของเขาเกี่ยวกับเจ้าจะถูกแทนที่ด้วยคนอื่น เพราะธรรมชาติมีกฎของมัน
ถึงจะยังไม่ค่อยเข้าใจแต่ไบร์ทก็พอรับได้กับเหตุผลนี้ ถึงแม้เจ้าตัวที่พูดเรื่องกฏธรรมชาติจะฝ่าฝืนเองก็เถอะ
" แล้วผมจะอยู่ได้นานแค่ไหน "
ไม่ช้าและก็ไม่เร็ว อัลฟ่าและโอเมก้าตอบกลับ ขึ้นอยู่กับตัวของพวกเจ้าทั้งสอง
" หมายความว่ายังไง "ไบร์ทเริ่มหัวเสียกับท่าทางการพูดที่ราวกับจะหยั่งเชิงเขาตลอดเวลาของเสียงปริศนานั้น " บอกผมมาเลยดีกว่าไม่มีอะไรที่ผมรับไม่ได้อีกแล้ว อัลฟ่า! โอเมก้า! "
เราบอกไปแล้วใช่ไหมว่าวิญญาณก็คือพลังงาน และมันย่อมมีแหล่งที่มา
เสียงปริศนานั้นเริ่มเท้าความขึ้น และนั่นทำให้ไบร์ทรู้สึกไม่ดีเลย เวลาผ่านไปแค่ครู่เดียวกับคำตอบที่อัลฟ่าและโอเมก้าพูด ประกายในตาของไบร์ทก็สั่นไหว เพราะสิ่งที่เขาได้ยินนั้นมันแทบจะทำให้คนที่ฟังแทบจะล้มทั้งยืน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น