คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ : พุทธะ คือ ผู้รู้
พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสเรื่องของวิธีปฏิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย หรือหลักของความเชื่อ ไว้ในพระสูตรชื่อกาลามสูตร ว่า
๑. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา
๒. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา
๓. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
๔. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
๕. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก
๖. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน
๗. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล
๘. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว
๙. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเห็นรูปการณ์ว่าน่าจะเป็นไปได้
๑๐. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา
ต่อเมื่อได้รู้ และเข้าใจด้วยตนว่า ธรรมเหล่านั้นเป็นกุศล เป็นอกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้ว จึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น
ในภาวการณ์ปัจจุบัน ที่เหล่าผู้มีศรัทธาและทิฏฐินอกพระพุทธศาสนา ได้ใช้ความได้เปรียบทางทุนทรัพย์ และจังหวะที่องค์กรทางพระพุทธศาสนาขาดความเข็มแข็ง เผยแผ่ลัทธิมิจฉาทิฐิ ผ่านเข้ามาทางสื่อต่างๆ ที่เห็นแก่ทรัพย์เล็กๆ น้อยๆ นำเอาอวิชชา เข้ามามอมเมาแก่เยาวชนของเราชาวไทย
และแม้ว่าเราชาวพุทธส่วนใหญ่ จะมีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา เพราะเคยได้ศึกษาปฏิบัติ จนเกิดผลแก่ใจแล้วว่า พระพุทธศาสนานั้น โดยเนื้อหาสาระแล้ว เป็นภูมิปัญญาสุดยอดของมนุษยชาติ ที่สามารถตอบปัญหา แก้ข้อข้องใจ ในการที่จะขจัดทุกข์ทั้งหมดทั้งปวงได้โดยสิ้นเชิง
แต่ตราบใดก็ตามที่สื่อต่างๆ ยังนำเสนอสิ่งอันไม่ประกอบด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง ชักชวนให้ผู้ที่ยังด้วยสติปัญญา หลงไปพึ่งพาสิ่งที่ไม่ได้มีการพิสูจน์อย่างชัดแจ้ง “ถึงความมีอยู่จริง” พากันร่ำร้อง ขอพรกันด้วยความงมงายลุ่มหลง
ตราบนั้นเยาวชนของเรา ผู้ยังใหม่ต่อโลก ผู้ยังมีประสบการณ์น้อย อ่อนเยาว์ต่อกระแสค่านิยมแฟชั่น ที่เหล่าผู้มีศรัทธาและทิฏฐินอกพระพุทธศาสนา แต่มากด้วยทุนทรัพย์เหล่านั้น พากันสร้างภาพหลอกลวง ก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะพลาดพลั้ง หลงเชื่อ จนถึงขั้นฝังหัว ปิดตาปิดหู ปิดโอกาสตัวเองจากพุทธธรรม อันเป็นดุจกองมรดกที่บุพพการีของเรา ได้เคยพลีชีพ สละเลือดเนื้อปกป้องเอาไว้ ด้วยหมายจะมองสิ่งสูงค่าสูงสุด ทั้งทางจิตและวิญญาณ ไว้ให้แก่เราผู้เป็นอนุชนรุ่นหลัง
ด้วยสำนึกในหน้าที่ของพุทธสาวก ที่จะธำรงไว้ซึ่งมรดกธรรมอันเป็นภูมิปัญญาสูงสุดของมนุษยชาติ ที่พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้ ค้นพบ และนำมาเผยแผ่ เพื่อสงเคราะห์แก่มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยน้ำพระทัยอันเต็มเปี่ยมท่วมท้น ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยความเสียสละอันยิ่งใหญ่ ด้วยชีวิตและเลือดเนื้อของพระองค์ ในการบำเพ็ญบารมีตลอดภพชาติยาวนานหาประมาณมิได้ พวกเราชาวพุทธทุกคนจึงควรขวนขวายที่จะเข้ามาศึกษา และปฏิบัติในพระพุทธศาสนา ให้บังเกิดความเข้าใจ มั่นใจ และแจ้งใจในธรรม ไม่หวั่นคลอนต่อกระแสมิจฉาทิฏฐิ ที่กำลังไหลบ่าท่วมโลกสงสารอยู่ทุกวันนี้
ศึกษาให้สามารถมั่นใจและมั่นคง เพราะประจักษ์ชัดแจ้งแก่ตนเอง จนเกิดความแกล้วกล้าที่จะไปประกาศแก่ผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด สิ่งๆ นี้ ธรรมๆ นี้ สามารถนำความสุขมาให้แก่ท่าน อย่างที่เราท่านได้ทำแล้ว ได้เข้าถึง ได้เข้าใจแล้ว มาเถิด มาเร็วๆ อย่ามัวเฉื่อยชาอยู่ ให้เสียเวลา เสียโอกาสที่ได้เกิดมามีโชคได้พบพระพุทธศาสนา อันเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง ในสกลจักรวาลอันยาวนานหาที่สุดมิได้นี้
ปัญญาชนพึงเปิดใจ เปิดโอกาสให้แก่ตน ในการที่จะเรียนรู้ และใช้วิจารณญาณของตน ในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ชีวิตของตน ศาสนาพุทธิไม่เคยที่จะใช้อาวุธหรือกำลัง ในการบีบบังคับให้ใครเข้ามานับถือ เพราะเราชาวพุทธไม่ได้หวังเงินทางหรือเปอร์เซ็นต์จากหยาดเหงื่อแรงงานของใครมาสร้างอาณาจักร เราเพียงปรารถนา หวังให้เพื่อร่วมโลก ที่มาร่วม เกิด แก่ เจ็บ ตาย นี้นั้น ได้มีความสุข ปราศจากทุกข์ มีความสันติ สงบ และอยู่ร่วมกันโดยสันติภาพ
การได้เข้าใจ เข้าถึง และยอมรับในกฎของธรรมชาติ คือธรรมะนั้น จะเป็นดุจสะพาน ที่นำมนุษยชาติไปสู่ความรุ่งเรือง ไม่ว่าจะเป็นทางวัตถุหรือทางจิตใจ เราคงไม่หวังที่จะอยู่ในโลกที่ทันสมัย แต่หัวใจเป็นสัตว์ป่า ที่ฆ่าฟันกันอย่างน่าสลดสังเวช แต่เราท่านทุกคนนี้แหละจะเป็นกำลังสำคัญในการที่จะพลิกโลก ที่กำลังมุ่งหน้าเข้าไปสู่กลียุคนี้ ให้กลับคืนมาเป็นโลกที่เต็มไปด้วยสันติสุข พลิกให้เป็นโลกที่สัปปายะสบายแก่การปฏิบัติพัฒนา เพื่อลูกหลานเหลนโหลนในภายหน้าของเรา จะได้ไม่ก่นด่าเราผู้เป็นบรรพบุรุษของเขาว่า เป็นผู้ผลาญโอกาสมรรคผลนิพพานของเขาทั้งหลาย
เราจงอาจหาญ ร่าเริง เข้ามาศึกษาและปฏิบัติ ในธรรมของพระพุทธองค์ ด้วยความเคารพและภาคภูมิใจยิ่งว่า เราโชคดีเหลือเกิน และเราจะไม่ปล่อยให้ความโชคดีอันยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ หลุดมือเราไปอย่างแน่นอน
โมทนาสาธุ โมทนาสาธุ โมทนาสาธุ
พระภาสกร ภูริวฑฺฒโน (ภาวิไล)
ผู้อำนวยการธรรมสถานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ความคิดเห็น