ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Doppelganger

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 7 : พลังแฝง

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 50


    -'๑'- Doppelganger -'๑'-

    -' Chapter 7 : พลังแฝง '-

    "ก่อนอื่นขอแนะนำให้รู้จัก... เขาเป็นรุ่นพี่ของพวกเธอ อยู่ปีสี่ ซิล ไทรบัล"
    เดรสอธิบาย ขณะที่ชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวเข้ามาแบบเก้ๆกังๆ "วันนี้มีเฉพาะปีหนึ่งเท่านั้นที่เรียน ดังนั้นครูจึงเชิญรุ่นพี่มาสาธิต อย่าลืมให้ความเคารพล่ะ"

    ซิล ไทรบัลเป็นคนประเภทที่มองแค่ภายนอกก็รู้ว่าไม่ค่อยจะมีความมั่นใจสักเท่าไหร่ บุคลิกเขาแม้จะสุภาพ แต่ก็ดูเกร็งๆไม่เป็นธรรมชาติ
    นัยน์ตาสีน้ำตาลของเขาดูล่อกแล่กเหมือนกับไม่รู้ว่าจะมองไปทางไหนดี ส่วนผมของเขานั้นเป็นสีดำสนิท ยาวประมาณบ่า
    และด้วยรูปร่างที่ออกจะอ้อนแอ้น ประกอบกับโครงหน้าที่ติดจะหวานแบบผู้หญิง ทำให้เหล่านักเรียนปีหนึ่งกระซิบกระซาบกัน...ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มเบ๊

    "เฮ้...หมอนั่น ?" ราเฟรย์อัสนำ
    "ฮื่อ แอบแหงๆ" ชาโดว์ตอบหน้าตาย

    "เอาล่ะๆ ตั้งใจฟังกันหน่อย"
    เดรสตบมือดึงความสนใจจากเหล่านักเรียน "การใช้พลังแฝง...เบื้องต้นนั้นก็ควรจะฝึกเปลี่ยนสภาพระหว่างฟรานส์กับร่างขนานให้ชำนาญเสียก่อน"

    "ร่างขนานคืออะไรหรือครับ ?" เด็กหนุ่มคนที่มีเครื่องหมายบวกอยู่กลางหน้าผาก...คนที่เคยนั่งข้างหน้าชาโดว์ พูดขึ้น
    "เป็นคำถามที่ดี มาคัส ! ร่างขนานนั้นก็หมายถึงการคงอยู่ของทั้งร่างจริงและร่างแฝด ก็เหมือนกับตอนที่พวกเธอมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆนั่นละ"
    "แล้วเราจะฝึกยังไงล่ะคะ ?" คราวนี้ยูริเอลเป็นคนถาม
    เดรสหรี่ตา "ฝึกฝนสิจ้ะฝึกฝน เรื่องนี้นั้นเกี่ยวข้องกับจิตใจของเราโดยตรง ดังนั้นเราก็ต้องรวมรวบสมาธิ จิตใจตั้งมั่น สื่อถึงวิญญาณแฝด ...โดยครูจะให้รุ่นพี่คนนี้แสดงตัวอย่างให้ดู"

    พอสิ้นคำ ร่างของซิลก็ปรากฏขึ้นมาข้างๆอีกหนึ่งทางด้านซ้าย และร่างนั้นก็ส่งยิ้มมาให้พวกปีหนึ่ง

    "เอาล่ะ ใครตอบครูได้บ้างว่าร่างไหนเป็นร่างจริง" เดรสถาม
    "ทางขวา...มังครับ" มาคัสพูด
    "ผิด"

    ขาดคำร่างทางขวาก็หายไป ท่ามกลางความฉงนของพวกเวนัวร์

    "การแยกออกมาเป็นร่างขนานนั้นไม่จำเป็นต้องแยกร่างแฝดออกมา แต่สามารถแยกร่างต้นออกมาก็ได้"
    ครูสาวอธิบาย "อยู่ที่ว่าพวกเธอจะให้พลังงานในร่างไหนมากกว่ากัน... ถ้าหากเธอเชี่ยวชาญในพื้นฐานตรงนี้ เธอก็จะสามารถพลิกแพลงการใช้ร่างแฝดได้หลายรูปแบบ"

    เดรสดีดนิ้วเปาะ ซิลก้าวไปประชิดยูริเอลซึ่งยืนอยู่แถวหน้าด้วยท่าทีประหม่าเล็กน้อย ก่อนจะแยกร่างหนึ่งออกมาทางซ้ายเหมือนเมื่อครู่
    ต่อมาร่างทางขวาก็หายไป และในพริบตาถัดมาก็เกิดร่างใหม่ขึ้นมาทางซ้ายอีกครั้ง
    ซิลทำอย่างนี้ซ้ำหลายต่อหลายครั้ง ทำให้เหมือนกับว่าเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วโดยไม่ขยับเท้าสักก้าว
    เขาเคลื่อนที่เป็นวงกลมล้อมรอบหมู่นักเรียน จนสุดท้ายจังมาหยุดที่ตำแหน่งเดิม

    ราเฟรย์อัสอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มปรบมือชื่นชม ซึ่งก็ทำให้คนอื่นๆรวมทั้งเวนัวร์ปรบมือตาม ทำเอาซิลหน้าแดงแจ๋

    ...ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนผู้หญิงแฮะ...

    "เอาล่ะ เมื่อครู่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น การเคลื่อนไหวสามารถทำแบบอื่นได้ อย่างเช่นไปข้างหน้าข้างหลัง ไม่จำเป็นต้องเป็นด้านข้างแบบที่รุ่นพี่แสดงให้เห็นเมื่อครู่"
    เดรสอธิบายต่อ "ว่าแต่... เมื่อครู่มีใครสังเกตอะไรบ้างไหม ?"

    เงียบกริบ... เวนัวร์ไม่แน่ใจว่า คนอื่นๆไม่อยากจะตอบ หรือว่าไม่ได้สังเกตแบบเดียวกับเขา
    ซึ่งเวนัวร์พยายามคิดว่ามันเป็นอย่างหลังมากกว่า

    "มือ... ร่างทั้งสองร่างจับมือกันเสมอ" ใครบางคนพูดขึ้นมาพลางหาวหวอดใหญ่

    ใครคนนั้นเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง จนถ้ามีใครบอกทีหลังว่าคนตรงหน้าอายุแค่ 15 หัวเด็ดตีนขาดยังไงเวนัวร์ก็ไม่มีทางเชื่อแน่ๆ ...แม้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆก็เถอะ
    นัยน์ตาสีเหลืองของคนตรงหน้าคมกริบจนให้ความรู้สึกเหมือนถูกมองทะลุ ผมสีขาวยาวประบ่าที่ถูกรวบไว้ด้วยที่คาดผมทำให้เขาดูเป็นคนเย็นชากว่าที่ควร

    "เยี่ยมมาก ไอร์ซิดร์ อย่างที่เธอว่านั่นล่ะ การที่จะเปลี่ยนสภาพไม่ว่าจะร่างขนาเป็นฟรานส์ หรือฟรานส์เป็นร่างขนาน เธอก็จำเป็นจะต้องสัมผัสกับร่างแฝด ดังนั้นขอให้ระวังในส่วนนี้ด้วย"
    เดรสตบมืออีกครั้ง "จบการอธิบายแต่เพียงเท่านี้ เริ่มฝึกกันเองได้แล้ว !"

    "อืม... ตั้งสมาธิ" ชาโดว์พึมพัม
    "พูดน่ะมันง่าย เรื่องเกี่ยวกับสมาธิหรือจิตใจเนี่ยฉันไม่ถนัดเอาซะเลย" เวนัวร์บ่นอุบ
    "ฝึกสิฟะฝึก" ชาโดว์ลอกคำพูดครูสาว

    ขณะที่เวลาค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ ชาโดว์และเวนัวร์ก็ได้ยินเสียงของเดรสไม่ขาดสาย

    "โอ้ว เรียนรู้ได้ไวมากจ้ะ"
    "เยี่ยมมากจ้ะ รินเรต !"
    "อีกนิดเดียวจ้ะ พยายามเข้า !"
    "อืม... ครูว่าเธอเกร็งไปหน่อยนะ"

    จนกระทั่งเธอเดินมาถึงกลุ่มของเวนัวร์ ชาโดว์กำลังหลับตาแน่น ระหว่างคิ้วมีรอบขมวดจางๆ
    และเธอก็เลือกที่จะพูดกับชาโดว์เป็นคนแรก

    "ท่าทางเธอดูไม่มีสมาธิเลยนะ ผ่อนคลายลงบ้างสิจ้ะ"
    "ที่ผมไม่มีสมาธิก็เพราะมีใครคนนึงพูดไม่หยุดนี่แหละ" ชาโดว์บ่นอุบอิบ ...แต่เขาคงลืมไปว่าครูสาวอยู่ห่างจากเขาไม่ถึงคืบ

    เดรสหน้าตึงขึ้นมาทันที "เธอว่ายังไงนะ...เวนัวร์ ?"
    ...คนทั้งลานกว้างหันมามองเขาเป็นจุดเดียว

    "เจ้าบ้าเอ๊ย ! เปลี่ยนตัวเร็วเข้า" เวนัวร์โวยวายในหัว เขาสลับตำแหน่งกับชาโดว์อย่างรวดเร็ว แม้ชาโดว์จะมีท่าทีไม่เต็มใจนักก็เถอะ

    "หืม ? ว่ายังไงจ๊ะ ?" เดรสถามย้ำ
    "แหะๆ ขอโทษทีครับ คู่หูของผมมันปากร้ายไปหน่อย" เวนัวร์ยิ้มแห้งๆ

    ถึงผมจะคิดแบบเดียวกับเขาก็เถอะ... แต่แน่ล่ะ เวนัวร์ไม่พูดออกไปให้โง่หรอก

    "ครูเห็นว่าเป็นครั้งแรกหรอกนะ ทีหลังจำเอาไว้ด้วยว่าไม่ว่าร่างไหนจะทำเรื่องอะไร อีกร่างนึงก็ต้องรับผิดชอบด้วย"
    เดรสเอ่ยเสียงเย็น... และถ้าเวนัวร์คิดไม่ผิด เขาคงเป็นคนแรกของปีที่ได้รับเกียรติเป็นรายชื่อแรกในบัญชีดำของเธอ

    "เฮ้ ! ไอริน !"
    เสียงของราเฟรย์อัสเรียกความสนใจจากทุกคน "เธอเป็นอะไรไป !?"

    ร่างของไอรินทรุดฮวบ เวนัวร์ที่อยู่ใกล้ที่สุดกระโจนเข้าไปประคองทันที และเขาก็ได้เห็นความผิดปกติที่ราเฟรย์อัสเห็น
    ใบหน้าที่เคยเนียนใสของไอรินบัดนี้มันซีดสนิท... เหงื่อกาฬแตกพลั่กทั่วร่าง... ตัวเธอสั่นระริกราวกับกำลังหวาดกลัวบางสิ่ง...

    "ไอริน ! ไอริน !" เวนัวร์พยายามร้องเรียก แต่เธอกลับดิ้นพราดไปมา นัยน์ตาสีวิสกี้ของเธอเบิกกว้างราวกับเห็นเขาเป็นมัจจุราช
    "ไอริน..." ราเฟรย์อัสช่วยเรียกอีกเสียง แต่ไอรินก็ยิ่งสะบัดตัว เธอกรีดร้องเสียงแหลม

    "สายหมอกแห่งนิทราเอ๋ย จงกล่อมเธอผู้นี้ให้ตกอยู่ในภวังค์ฝัน" ครูสาวพูดเสียงเบา... ต่อมาไอรินก็ค่อยๆยิ่งไป... เธอหลับสนิท

    "เอาละ ! อย่าเข้ามามุง !"
    เดรสสั่ง เธอโบกมือให้ทุกคนขยายวงออก "ซิล... ครูวานเธอไปส่งห้องพยาบาลที" เธออุ้มร่างของไอรินขึ้น จากนั้นจึงส่งร่างนั้นให้ซิลที่ยืนรับอยู่ "พวกเธอไปเรียนคาบต่อไปได้แล้ว !" เธอสั่งอีกครั้ง

    เสียงความชุลมุนไม่หยุดโดยง่าย พวกปีหนึ่งต่างพูดคุยกับเวนัวร์และราเฟรย์อัสเป็นการใหญ่ ถึงพวกเขาจะบอกว่าไม่รู้ก็ตามที
    และในที่สุด หลังจากพวกเขาเดินออกมาจากลานกว้าง และร่างของไอรินจะลับสายตาไปแล้ว เสียงก็ค่อยๆซาลงตามลำดับ

    "คาบต่อไปเรียนอะไรรึ ?" เวนัวร์ถามราเฟรย์อัส พลางคิดว่าถ้าถึงเวลาพักน่าจะไปเยี่ยมไอรินเสียหน่อย
    "วันนี้เรียนจบแล้ว เหลือวิชาเลือกการต่อสู้ระยะกลางน่ะ เรียนที่นี่แหละ...นายลงเรียนรึเปล่าล่ะ ? เดี๋ยวฉันจะไปเยี่ยมไอรินสักหน่อย"

    เวนัวร์หันซ้ายหันขวา... คนที่เลือกเรียนวิชานี้น้อยพอดู เท่าที่เห็นก็แค่สองคน เพราะที่เหลือต่างก็แยกย้ายกันไปทางอื่น

    "วิชาเลือกนี้เลือกตอนไหนกันหว่า ?" เวนัวร์ถามผู้เป็นคู่หู
    "ตอนสมัครเรียน...ที่นายทิ้งฉันน่ะ" ชาโดว์ได้ที
    "แล้วนายเลือกวิชาอะไรบ้างเนี่ย ?"
    "อืม ตอนนั้นฉันกำลังหมั่นไส้นาย ก็เลย... ลงเรียนมันทุกวิชานั่นแหละ"
    "หา !" เวนัวร์โวยวาย
    "อะไร ? นายบอกเองนี่ว่าให้ฉันทำตามใจชอบ" ชาโดว์ตอบเสียงเรียบ

    "หวัดดี นายคือเวลล์... เวนัวร์สินะ ?" นักเรียนคนหนึ่งถาม
    "หือ ? ใช่ ส่วนนายก็..." เวนัวร์พูดค้างไว้

    ...ก็คาบแนะนำตัวเขายังหลับอยู่เลย... จะให้รู้ชื่อได้ยังไงเล่า

    "ซีลุค... ซีลุค สตาร์ ยินดีที่ได้รู้จัก"
    ซีลุคยิ้มให้เขา "ท่าทางคาบนี้คงมีเราแค่ 3 คนสินะ" ซีลุคชี้ไปทางไอร์ซิดร์

    ซีลุคเป็นคนที่ดูออกทันทีว่าเขาเป็นคนที่กระตือรืนร้นพอตัว ใบหน้าของเขาประดับด้วยรอยยิ้มตลอดเวลาเลยทีเดียว
    ตาสีฟ้าดูร่าเริงสดใสเหมาะกับบุคลิก ส่วนผมสีทองของเขานั้นตัดจนสั้นทีเดียว
    สิ่งที่โดดเด่นของเขาก็คือหมวกหนังสีน้ำตาลที่วางอยู่บนศีรษะอย่างหลวมๆ และสร้อยคอที่ร้อยด้วยคริสตัลสีม่วง 3 อัน ... 3 รีม

    "นายรู้ไหมว่าทำไมเงินที่นี่ถึงเป็นรูปลูกบาศก์" ซีลุคพูดขึ้น หลังจากเห็นเวนัวร์จ้องไปที่สร้อยคอของเขา
    "ทำไมรึ ?" เวนัวร์ถามงงๆ
    "ก็เพราะอย่างนี้ไง..." ซีลุคหยิบคริสตัลสีม่วงขึ้นมาก้อนหนึ่ง ก่อนจะหยิบปากกาเมจิคขึ้นมาแต้มจุดลงไปในแต่ละด้าน จนกลายเป็นลูกเต๋ากลายๆ
    "เฮ้..." เวนัวร์มองตามอย่างรู้สึกเสียดาย...แม้จะแค่รีมเดียวก็เถอะ
    "เอาละ... คี่หรือคู่ ?" ซีลุคใส่คริสตัลก้อนนั้นลงไปในถ้วยทรงกระบอกสีครีมที่เขาเอาติดตัวมา เขย่าสองสามครั้ง ก่อนจะวางมันลงกับพื้นหญ้า

    ตอนนั้นเองที่ไอร์ซิดร์เข้ามาร่วมวงด้วย "หึ... หมอนี่น่ะมันนักพนัน นายชนะมันไม่ได้หรอก" เขาพูดกับเวนัวร์

    "ไม่แน่มั้ง... ฉันว่าคู่" เวนัวร์เดา
    "เสียใจเพื่อน ออก 1ชัวร์"

    ซีลุคพูดก่อนที่จะยกถ้วยด้วยซ้ำ เขาค่อยๆเปิดถ้วยออก
    ...และก็จริงดังว่า มันออกหน้า 1 จุดจริงๆ

    "ว้าว" เวนัวร์ส่งเสียงชื่นชม
    "บอกแล้วว่ามันเป็นนักพนัน" ไอร์ซิดร์ย้ำ ซีลุคยิ้มรับคำนั้นเป็นคำชม

    "รู้ไหม ? เล่นพนันในโรงเรียนน่ะ ถูกหัก 5 คะแนนนะ"

    เสียงหวานของบุคคลผู้มาใหม่ทำเอาทั้งสามสะดุ้งโหยง... เสียงที่คุ้นหูเวนัวร์
    ...เสียงของผู้คุมกฎ... ลินน์ เฟย์นอส

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×