ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 7 : พลังแฝง
-'๑'- Doppelganger -'๑'-
-' Chapter 7 : พลังแฝง '-
"ก่อนอื่นขอแนะนำให้รู้จัก... เขาเป็นรุ่นพี่ของพวกเธอ อยู่ปีสี่ ซิล ไทรบัล"
เดรสอธิบาย ขณะที่ชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวเข้ามาแบบเก้ๆกังๆ "วันนี้มีเฉพาะปีหนึ่งเท่านั้นที่เรียน ดังนั้นครูจึงเชิญรุ่นพี่มาสาธิต อย่าลืมให้ความเคารพล่ะ"
ซิล ไทรบัลเป็นคนประเภทที่มองแค่ภายนอกก็รู้ว่าไม่ค่อยจะมีความมั่นใจสักเท่าไหร่ บุคลิกเขาแม้จะสุภาพ แต่ก็ดูเกร็งๆไม่เป็นธรรมชาติ
นัยน์ตาสีน้ำตาลของเขาดูล่อกแล่กเหมือนกับไม่รู้ว่าจะมองไปทางไหนดี ส่วนผมของเขานั้นเป็นสีดำสนิท ยาวประมาณบ่า
และด้วยรูปร่างที่ออกจะอ้อนแอ้น ประกอบกับโครงหน้าที่ติดจะหวานแบบผู้หญิง ทำให้เหล่านักเรียนปีหนึ่งกระซิบกระซาบกัน...ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มเบ๊
"เฮ้...หมอนั่น ?" ราเฟรย์อัสนำ
"ฮื่อ แอบแหงๆ" ชาโดว์ตอบหน้าตาย
"เอาล่ะๆ ตั้งใจฟังกันหน่อย"
เดรสตบมือดึงความสนใจจากเหล่านักเรียน "การใช้พลังแฝง...เบื้องต้นนั้นก็ควรจะฝึกเปลี่ยนสภาพระหว่างฟรานส์กับร่างขนานให้ชำนาญเสียก่อน"
"ร่างขนานคืออะไรหรือครับ ?" เด็กหนุ่มคนที่มีเครื่องหมายบวกอยู่กลางหน้าผาก...คนที่เคยนั่งข้างหน้าชาโดว์ พูดขึ้น
"เป็นคำถามที่ดี มาคัส ! ร่างขนานนั้นก็หมายถึงการคงอยู่ของทั้งร่างจริงและร่างแฝด ก็เหมือนกับตอนที่พวกเธอมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆนั่นละ"
"แล้วเราจะฝึกยังไงล่ะคะ ?" คราวนี้ยูริเอลเป็นคนถาม
เดรสหรี่ตา "ฝึกฝนสิจ้ะฝึกฝน เรื่องนี้นั้นเกี่ยวข้องกับจิตใจของเราโดยตรง ดังนั้นเราก็ต้องรวมรวบสมาธิ จิตใจตั้งมั่น สื่อถึงวิญญาณแฝด ...โดยครูจะให้รุ่นพี่คนนี้แสดงตัวอย่างให้ดู"
พอสิ้นคำ ร่างของซิลก็ปรากฏขึ้นมาข้างๆอีกหนึ่งทางด้านซ้าย และร่างนั้นก็ส่งยิ้มมาให้พวกปีหนึ่ง
"เอาล่ะ ใครตอบครูได้บ้างว่าร่างไหนเป็นร่างจริง" เดรสถาม
"ทางขวา...มังครับ" มาคัสพูด
"ผิด"
ขาดคำร่างทางขวาก็หายไป ท่ามกลางความฉงนของพวกเวนัวร์
"การแยกออกมาเป็นร่างขนานนั้นไม่จำเป็นต้องแยกร่างแฝดออกมา แต่สามารถแยกร่างต้นออกมาก็ได้"
ครูสาวอธิบาย "อยู่ที่ว่าพวกเธอจะให้พลังงานในร่างไหนมากกว่ากัน... ถ้าหากเธอเชี่ยวชาญในพื้นฐานตรงนี้ เธอก็จะสามารถพลิกแพลงการใช้ร่างแฝดได้หลายรูปแบบ"
เดรสดีดนิ้วเปาะ ซิลก้าวไปประชิดยูริเอลซึ่งยืนอยู่แถวหน้าด้วยท่าทีประหม่าเล็กน้อย ก่อนจะแยกร่างหนึ่งออกมาทางซ้ายเหมือนเมื่อครู่
ต่อมาร่างทางขวาก็หายไป และในพริบตาถัดมาก็เกิดร่างใหม่ขึ้นมาทางซ้ายอีกครั้ง
ซิลทำอย่างนี้ซ้ำหลายต่อหลายครั้ง ทำให้เหมือนกับว่าเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วโดยไม่ขยับเท้าสักก้าว
เขาเคลื่อนที่เป็นวงกลมล้อมรอบหมู่นักเรียน จนสุดท้ายจังมาหยุดที่ตำแหน่งเดิม
ราเฟรย์อัสอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มปรบมือชื่นชม ซึ่งก็ทำให้คนอื่นๆรวมทั้งเวนัวร์ปรบมือตาม ทำเอาซิลหน้าแดงแจ๋
...ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนผู้หญิงแฮะ...
"เอาล่ะ เมื่อครู่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น การเคลื่อนไหวสามารถทำแบบอื่นได้ อย่างเช่นไปข้างหน้าข้างหลัง ไม่จำเป็นต้องเป็นด้านข้างแบบที่รุ่นพี่แสดงให้เห็นเมื่อครู่"
เดรสอธิบายต่อ "ว่าแต่... เมื่อครู่มีใครสังเกตอะไรบ้างไหม ?"
เงียบกริบ... เวนัวร์ไม่แน่ใจว่า คนอื่นๆไม่อยากจะตอบ หรือว่าไม่ได้สังเกตแบบเดียวกับเขา
ซึ่งเวนัวร์พยายามคิดว่ามันเป็นอย่างหลังมากกว่า
"มือ... ร่างทั้งสองร่างจับมือกันเสมอ" ใครบางคนพูดขึ้นมาพลางหาวหวอดใหญ่
ใครคนนั้นเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง จนถ้ามีใครบอกทีหลังว่าคนตรงหน้าอายุแค่ 15 หัวเด็ดตีนขาดยังไงเวนัวร์ก็ไม่มีทางเชื่อแน่ๆ ...แม้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆก็เถอะ
นัยน์ตาสีเหลืองของคนตรงหน้าคมกริบจนให้ความรู้สึกเหมือนถูกมองทะลุ ผมสีขาวยาวประบ่าที่ถูกรวบไว้ด้วยที่คาดผมทำให้เขาดูเป็นคนเย็นชากว่าที่ควร
"เยี่ยมมาก ไอร์ซิดร์ อย่างที่เธอว่านั่นล่ะ การที่จะเปลี่ยนสภาพไม่ว่าจะร่างขนาเป็นฟรานส์ หรือฟรานส์เป็นร่างขนาน เธอก็จำเป็นจะต้องสัมผัสกับร่างแฝด ดังนั้นขอให้ระวังในส่วนนี้ด้วย"
เดรสตบมืออีกครั้ง "จบการอธิบายแต่เพียงเท่านี้ เริ่มฝึกกันเองได้แล้ว !"
"อืม... ตั้งสมาธิ" ชาโดว์พึมพัม
"พูดน่ะมันง่าย เรื่องเกี่ยวกับสมาธิหรือจิตใจเนี่ยฉันไม่ถนัดเอาซะเลย" เวนัวร์บ่นอุบ
"ฝึกสิฟะฝึก" ชาโดว์ลอกคำพูดครูสาว
ขณะที่เวลาค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ ชาโดว์และเวนัวร์ก็ได้ยินเสียงของเดรสไม่ขาดสาย
"โอ้ว เรียนรู้ได้ไวมากจ้ะ"
"เยี่ยมมากจ้ะ รินเรต !"
"อีกนิดเดียวจ้ะ พยายามเข้า !"
"อืม... ครูว่าเธอเกร็งไปหน่อยนะ"
จนกระทั่งเธอเดินมาถึงกลุ่มของเวนัวร์ ชาโดว์กำลังหลับตาแน่น ระหว่างคิ้วมีรอบขมวดจางๆ
และเธอก็เลือกที่จะพูดกับชาโดว์เป็นคนแรก
"ท่าทางเธอดูไม่มีสมาธิเลยนะ ผ่อนคลายลงบ้างสิจ้ะ"
"ที่ผมไม่มีสมาธิก็เพราะมีใครคนนึงพูดไม่หยุดนี่แหละ" ชาโดว์บ่นอุบอิบ ...แต่เขาคงลืมไปว่าครูสาวอยู่ห่างจากเขาไม่ถึงคืบ
เดรสหน้าตึงขึ้นมาทันที "เธอว่ายังไงนะ...เวนัวร์ ?"
...คนทั้งลานกว้างหันมามองเขาเป็นจุดเดียว
"เจ้าบ้าเอ๊ย ! เปลี่ยนตัวเร็วเข้า" เวนัวร์โวยวายในหัว เขาสลับตำแหน่งกับชาโดว์อย่างรวดเร็ว แม้ชาโดว์จะมีท่าทีไม่เต็มใจนักก็เถอะ
"หืม ? ว่ายังไงจ๊ะ ?" เดรสถามย้ำ
"แหะๆ ขอโทษทีครับ คู่หูของผมมันปากร้ายไปหน่อย" เวนัวร์ยิ้มแห้งๆ
ถึงผมจะคิดแบบเดียวกับเขาก็เถอะ... แต่แน่ล่ะ เวนัวร์ไม่พูดออกไปให้โง่หรอก
"ครูเห็นว่าเป็นครั้งแรกหรอกนะ ทีหลังจำเอาไว้ด้วยว่าไม่ว่าร่างไหนจะทำเรื่องอะไร อีกร่างนึงก็ต้องรับผิดชอบด้วย"
เดรสเอ่ยเสียงเย็น... และถ้าเวนัวร์คิดไม่ผิด เขาคงเป็นคนแรกของปีที่ได้รับเกียรติเป็นรายชื่อแรกในบัญชีดำของเธอ
"เฮ้ ! ไอริน !"
เสียงของราเฟรย์อัสเรียกความสนใจจากทุกคน "เธอเป็นอะไรไป !?"
ร่างของไอรินทรุดฮวบ เวนัวร์ที่อยู่ใกล้ที่สุดกระโจนเข้าไปประคองทันที และเขาก็ได้เห็นความผิดปกติที่ราเฟรย์อัสเห็น
ใบหน้าที่เคยเนียนใสของไอรินบัดนี้มันซีดสนิท... เหงื่อกาฬแตกพลั่กทั่วร่าง... ตัวเธอสั่นระริกราวกับกำลังหวาดกลัวบางสิ่ง...
"ไอริน ! ไอริน !" เวนัวร์พยายามร้องเรียก แต่เธอกลับดิ้นพราดไปมา นัยน์ตาสีวิสกี้ของเธอเบิกกว้างราวกับเห็นเขาเป็นมัจจุราช
"ไอริน..." ราเฟรย์อัสช่วยเรียกอีกเสียง แต่ไอรินก็ยิ่งสะบัดตัว เธอกรีดร้องเสียงแหลม
"สายหมอกแห่งนิทราเอ๋ย จงกล่อมเธอผู้นี้ให้ตกอยู่ในภวังค์ฝัน" ครูสาวพูดเสียงเบา... ต่อมาไอรินก็ค่อยๆยิ่งไป... เธอหลับสนิท
"เอาละ ! อย่าเข้ามามุง !"
เดรสสั่ง เธอโบกมือให้ทุกคนขยายวงออก "ซิล... ครูวานเธอไปส่งห้องพยาบาลที" เธออุ้มร่างของไอรินขึ้น จากนั้นจึงส่งร่างนั้นให้ซิลที่ยืนรับอยู่ "พวกเธอไปเรียนคาบต่อไปได้แล้ว !" เธอสั่งอีกครั้ง
เสียงความชุลมุนไม่หยุดโดยง่าย พวกปีหนึ่งต่างพูดคุยกับเวนัวร์และราเฟรย์อัสเป็นการใหญ่ ถึงพวกเขาจะบอกว่าไม่รู้ก็ตามที
และในที่สุด หลังจากพวกเขาเดินออกมาจากลานกว้าง และร่างของไอรินจะลับสายตาไปแล้ว เสียงก็ค่อยๆซาลงตามลำดับ
"คาบต่อไปเรียนอะไรรึ ?" เวนัวร์ถามราเฟรย์อัส พลางคิดว่าถ้าถึงเวลาพักน่าจะไปเยี่ยมไอรินเสียหน่อย
"วันนี้เรียนจบแล้ว เหลือวิชาเลือกการต่อสู้ระยะกลางน่ะ เรียนที่นี่แหละ...นายลงเรียนรึเปล่าล่ะ ? เดี๋ยวฉันจะไปเยี่ยมไอรินสักหน่อย"
เวนัวร์หันซ้ายหันขวา... คนที่เลือกเรียนวิชานี้น้อยพอดู เท่าที่เห็นก็แค่สองคน เพราะที่เหลือต่างก็แยกย้ายกันไปทางอื่น
"วิชาเลือกนี้เลือกตอนไหนกันหว่า ?" เวนัวร์ถามผู้เป็นคู่หู
"ตอนสมัครเรียน...ที่นายทิ้งฉันน่ะ" ชาโดว์ได้ที
"แล้วนายเลือกวิชาอะไรบ้างเนี่ย ?"
"อืม ตอนนั้นฉันกำลังหมั่นไส้นาย ก็เลย... ลงเรียนมันทุกวิชานั่นแหละ"
"หา !" เวนัวร์โวยวาย
"อะไร ? นายบอกเองนี่ว่าให้ฉันทำตามใจชอบ" ชาโดว์ตอบเสียงเรียบ
"หวัดดี นายคือเวลล์... เวนัวร์สินะ ?" นักเรียนคนหนึ่งถาม
"หือ ? ใช่ ส่วนนายก็..." เวนัวร์พูดค้างไว้
...ก็คาบแนะนำตัวเขายังหลับอยู่เลย... จะให้รู้ชื่อได้ยังไงเล่า
"ซีลุค... ซีลุค สตาร์ ยินดีที่ได้รู้จัก"
ซีลุคยิ้มให้เขา "ท่าทางคาบนี้คงมีเราแค่ 3 คนสินะ" ซีลุคชี้ไปทางไอร์ซิดร์
ซีลุคเป็นคนที่ดูออกทันทีว่าเขาเป็นคนที่กระตือรืนร้นพอตัว ใบหน้าของเขาประดับด้วยรอยยิ้มตลอดเวลาเลยทีเดียว
ตาสีฟ้าดูร่าเริงสดใสเหมาะกับบุคลิก ส่วนผมสีทองของเขานั้นตัดจนสั้นทีเดียว
สิ่งที่โดดเด่นของเขาก็คือหมวกหนังสีน้ำตาลที่วางอยู่บนศีรษะอย่างหลวมๆ และสร้อยคอที่ร้อยด้วยคริสตัลสีม่วง 3 อัน ... 3 รีม
"นายรู้ไหมว่าทำไมเงินที่นี่ถึงเป็นรูปลูกบาศก์" ซีลุคพูดขึ้น หลังจากเห็นเวนัวร์จ้องไปที่สร้อยคอของเขา
"ทำไมรึ ?" เวนัวร์ถามงงๆ
"ก็เพราะอย่างนี้ไง..." ซีลุคหยิบคริสตัลสีม่วงขึ้นมาก้อนหนึ่ง ก่อนจะหยิบปากกาเมจิคขึ้นมาแต้มจุดลงไปในแต่ละด้าน จนกลายเป็นลูกเต๋ากลายๆ
"เฮ้..." เวนัวร์มองตามอย่างรู้สึกเสียดาย...แม้จะแค่รีมเดียวก็เถอะ
"เอาละ... คี่หรือคู่ ?" ซีลุคใส่คริสตัลก้อนนั้นลงไปในถ้วยทรงกระบอกสีครีมที่เขาเอาติดตัวมา เขย่าสองสามครั้ง ก่อนจะวางมันลงกับพื้นหญ้า
ตอนนั้นเองที่ไอร์ซิดร์เข้ามาร่วมวงด้วย "หึ... หมอนี่น่ะมันนักพนัน นายชนะมันไม่ได้หรอก" เขาพูดกับเวนัวร์
"ไม่แน่มั้ง... ฉันว่าคู่" เวนัวร์เดา
"เสียใจเพื่อน ออก 1ชัวร์"
ซีลุคพูดก่อนที่จะยกถ้วยด้วยซ้ำ เขาค่อยๆเปิดถ้วยออก
...และก็จริงดังว่า มันออกหน้า 1 จุดจริงๆ
"ว้าว" เวนัวร์ส่งเสียงชื่นชม
"บอกแล้วว่ามันเป็นนักพนัน" ไอร์ซิดร์ย้ำ ซีลุคยิ้มรับคำนั้นเป็นคำชม
"รู้ไหม ? เล่นพนันในโรงเรียนน่ะ ถูกหัก 5 คะแนนนะ"
เสียงหวานของบุคคลผู้มาใหม่ทำเอาทั้งสามสะดุ้งโหยง... เสียงที่คุ้นหูเวนัวร์
...เสียงของผู้คุมกฎ... ลินน์ เฟย์นอส
-' Chapter 7 : พลังแฝง '-
"ก่อนอื่นขอแนะนำให้รู้จัก... เขาเป็นรุ่นพี่ของพวกเธอ อยู่ปีสี่ ซิล ไทรบัล"
เดรสอธิบาย ขณะที่ชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวเข้ามาแบบเก้ๆกังๆ "วันนี้มีเฉพาะปีหนึ่งเท่านั้นที่เรียน ดังนั้นครูจึงเชิญรุ่นพี่มาสาธิต อย่าลืมให้ความเคารพล่ะ"
ซิล ไทรบัลเป็นคนประเภทที่มองแค่ภายนอกก็รู้ว่าไม่ค่อยจะมีความมั่นใจสักเท่าไหร่ บุคลิกเขาแม้จะสุภาพ แต่ก็ดูเกร็งๆไม่เป็นธรรมชาติ
นัยน์ตาสีน้ำตาลของเขาดูล่อกแล่กเหมือนกับไม่รู้ว่าจะมองไปทางไหนดี ส่วนผมของเขานั้นเป็นสีดำสนิท ยาวประมาณบ่า
และด้วยรูปร่างที่ออกจะอ้อนแอ้น ประกอบกับโครงหน้าที่ติดจะหวานแบบผู้หญิง ทำให้เหล่านักเรียนปีหนึ่งกระซิบกระซาบกัน...ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มเบ๊
"เฮ้...หมอนั่น ?" ราเฟรย์อัสนำ
"ฮื่อ แอบแหงๆ" ชาโดว์ตอบหน้าตาย
"เอาล่ะๆ ตั้งใจฟังกันหน่อย"
เดรสตบมือดึงความสนใจจากเหล่านักเรียน "การใช้พลังแฝง...เบื้องต้นนั้นก็ควรจะฝึกเปลี่ยนสภาพระหว่างฟรานส์กับร่างขนานให้ชำนาญเสียก่อน"
"ร่างขนานคืออะไรหรือครับ ?" เด็กหนุ่มคนที่มีเครื่องหมายบวกอยู่กลางหน้าผาก...คนที่เคยนั่งข้างหน้าชาโดว์ พูดขึ้น
"เป็นคำถามที่ดี มาคัส ! ร่างขนานนั้นก็หมายถึงการคงอยู่ของทั้งร่างจริงและร่างแฝด ก็เหมือนกับตอนที่พวกเธอมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆนั่นละ"
"แล้วเราจะฝึกยังไงล่ะคะ ?" คราวนี้ยูริเอลเป็นคนถาม
เดรสหรี่ตา "ฝึกฝนสิจ้ะฝึกฝน เรื่องนี้นั้นเกี่ยวข้องกับจิตใจของเราโดยตรง ดังนั้นเราก็ต้องรวมรวบสมาธิ จิตใจตั้งมั่น สื่อถึงวิญญาณแฝด ...โดยครูจะให้รุ่นพี่คนนี้แสดงตัวอย่างให้ดู"
พอสิ้นคำ ร่างของซิลก็ปรากฏขึ้นมาข้างๆอีกหนึ่งทางด้านซ้าย และร่างนั้นก็ส่งยิ้มมาให้พวกปีหนึ่ง
"เอาล่ะ ใครตอบครูได้บ้างว่าร่างไหนเป็นร่างจริง" เดรสถาม
"ทางขวา...มังครับ" มาคัสพูด
"ผิด"
ขาดคำร่างทางขวาก็หายไป ท่ามกลางความฉงนของพวกเวนัวร์
"การแยกออกมาเป็นร่างขนานนั้นไม่จำเป็นต้องแยกร่างแฝดออกมา แต่สามารถแยกร่างต้นออกมาก็ได้"
ครูสาวอธิบาย "อยู่ที่ว่าพวกเธอจะให้พลังงานในร่างไหนมากกว่ากัน... ถ้าหากเธอเชี่ยวชาญในพื้นฐานตรงนี้ เธอก็จะสามารถพลิกแพลงการใช้ร่างแฝดได้หลายรูปแบบ"
เดรสดีดนิ้วเปาะ ซิลก้าวไปประชิดยูริเอลซึ่งยืนอยู่แถวหน้าด้วยท่าทีประหม่าเล็กน้อย ก่อนจะแยกร่างหนึ่งออกมาทางซ้ายเหมือนเมื่อครู่
ต่อมาร่างทางขวาก็หายไป และในพริบตาถัดมาก็เกิดร่างใหม่ขึ้นมาทางซ้ายอีกครั้ง
ซิลทำอย่างนี้ซ้ำหลายต่อหลายครั้ง ทำให้เหมือนกับว่าเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วโดยไม่ขยับเท้าสักก้าว
เขาเคลื่อนที่เป็นวงกลมล้อมรอบหมู่นักเรียน จนสุดท้ายจังมาหยุดที่ตำแหน่งเดิม
ราเฟรย์อัสอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มปรบมือชื่นชม ซึ่งก็ทำให้คนอื่นๆรวมทั้งเวนัวร์ปรบมือตาม ทำเอาซิลหน้าแดงแจ๋
...ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนผู้หญิงแฮะ...
"เอาล่ะ เมื่อครู่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น การเคลื่อนไหวสามารถทำแบบอื่นได้ อย่างเช่นไปข้างหน้าข้างหลัง ไม่จำเป็นต้องเป็นด้านข้างแบบที่รุ่นพี่แสดงให้เห็นเมื่อครู่"
เดรสอธิบายต่อ "ว่าแต่... เมื่อครู่มีใครสังเกตอะไรบ้างไหม ?"
เงียบกริบ... เวนัวร์ไม่แน่ใจว่า คนอื่นๆไม่อยากจะตอบ หรือว่าไม่ได้สังเกตแบบเดียวกับเขา
ซึ่งเวนัวร์พยายามคิดว่ามันเป็นอย่างหลังมากกว่า
"มือ... ร่างทั้งสองร่างจับมือกันเสมอ" ใครบางคนพูดขึ้นมาพลางหาวหวอดใหญ่
ใครคนนั้นเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง จนถ้ามีใครบอกทีหลังว่าคนตรงหน้าอายุแค่ 15 หัวเด็ดตีนขาดยังไงเวนัวร์ก็ไม่มีทางเชื่อแน่ๆ ...แม้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆก็เถอะ
นัยน์ตาสีเหลืองของคนตรงหน้าคมกริบจนให้ความรู้สึกเหมือนถูกมองทะลุ ผมสีขาวยาวประบ่าที่ถูกรวบไว้ด้วยที่คาดผมทำให้เขาดูเป็นคนเย็นชากว่าที่ควร
"เยี่ยมมาก ไอร์ซิดร์ อย่างที่เธอว่านั่นล่ะ การที่จะเปลี่ยนสภาพไม่ว่าจะร่างขนาเป็นฟรานส์ หรือฟรานส์เป็นร่างขนาน เธอก็จำเป็นจะต้องสัมผัสกับร่างแฝด ดังนั้นขอให้ระวังในส่วนนี้ด้วย"
เดรสตบมืออีกครั้ง "จบการอธิบายแต่เพียงเท่านี้ เริ่มฝึกกันเองได้แล้ว !"
"อืม... ตั้งสมาธิ" ชาโดว์พึมพัม
"พูดน่ะมันง่าย เรื่องเกี่ยวกับสมาธิหรือจิตใจเนี่ยฉันไม่ถนัดเอาซะเลย" เวนัวร์บ่นอุบ
"ฝึกสิฟะฝึก" ชาโดว์ลอกคำพูดครูสาว
ขณะที่เวลาค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ ชาโดว์และเวนัวร์ก็ได้ยินเสียงของเดรสไม่ขาดสาย
"โอ้ว เรียนรู้ได้ไวมากจ้ะ"
"เยี่ยมมากจ้ะ รินเรต !"
"อีกนิดเดียวจ้ะ พยายามเข้า !"
"อืม... ครูว่าเธอเกร็งไปหน่อยนะ"
จนกระทั่งเธอเดินมาถึงกลุ่มของเวนัวร์ ชาโดว์กำลังหลับตาแน่น ระหว่างคิ้วมีรอบขมวดจางๆ
และเธอก็เลือกที่จะพูดกับชาโดว์เป็นคนแรก
"ท่าทางเธอดูไม่มีสมาธิเลยนะ ผ่อนคลายลงบ้างสิจ้ะ"
"ที่ผมไม่มีสมาธิก็เพราะมีใครคนนึงพูดไม่หยุดนี่แหละ" ชาโดว์บ่นอุบอิบ ...แต่เขาคงลืมไปว่าครูสาวอยู่ห่างจากเขาไม่ถึงคืบ
เดรสหน้าตึงขึ้นมาทันที "เธอว่ายังไงนะ...เวนัวร์ ?"
...คนทั้งลานกว้างหันมามองเขาเป็นจุดเดียว
"เจ้าบ้าเอ๊ย ! เปลี่ยนตัวเร็วเข้า" เวนัวร์โวยวายในหัว เขาสลับตำแหน่งกับชาโดว์อย่างรวดเร็ว แม้ชาโดว์จะมีท่าทีไม่เต็มใจนักก็เถอะ
"หืม ? ว่ายังไงจ๊ะ ?" เดรสถามย้ำ
"แหะๆ ขอโทษทีครับ คู่หูของผมมันปากร้ายไปหน่อย" เวนัวร์ยิ้มแห้งๆ
ถึงผมจะคิดแบบเดียวกับเขาก็เถอะ... แต่แน่ล่ะ เวนัวร์ไม่พูดออกไปให้โง่หรอก
"ครูเห็นว่าเป็นครั้งแรกหรอกนะ ทีหลังจำเอาไว้ด้วยว่าไม่ว่าร่างไหนจะทำเรื่องอะไร อีกร่างนึงก็ต้องรับผิดชอบด้วย"
เดรสเอ่ยเสียงเย็น... และถ้าเวนัวร์คิดไม่ผิด เขาคงเป็นคนแรกของปีที่ได้รับเกียรติเป็นรายชื่อแรกในบัญชีดำของเธอ
"เฮ้ ! ไอริน !"
เสียงของราเฟรย์อัสเรียกความสนใจจากทุกคน "เธอเป็นอะไรไป !?"
ร่างของไอรินทรุดฮวบ เวนัวร์ที่อยู่ใกล้ที่สุดกระโจนเข้าไปประคองทันที และเขาก็ได้เห็นความผิดปกติที่ราเฟรย์อัสเห็น
ใบหน้าที่เคยเนียนใสของไอรินบัดนี้มันซีดสนิท... เหงื่อกาฬแตกพลั่กทั่วร่าง... ตัวเธอสั่นระริกราวกับกำลังหวาดกลัวบางสิ่ง...
"ไอริน ! ไอริน !" เวนัวร์พยายามร้องเรียก แต่เธอกลับดิ้นพราดไปมา นัยน์ตาสีวิสกี้ของเธอเบิกกว้างราวกับเห็นเขาเป็นมัจจุราช
"ไอริน..." ราเฟรย์อัสช่วยเรียกอีกเสียง แต่ไอรินก็ยิ่งสะบัดตัว เธอกรีดร้องเสียงแหลม
"สายหมอกแห่งนิทราเอ๋ย จงกล่อมเธอผู้นี้ให้ตกอยู่ในภวังค์ฝัน" ครูสาวพูดเสียงเบา... ต่อมาไอรินก็ค่อยๆยิ่งไป... เธอหลับสนิท
"เอาละ ! อย่าเข้ามามุง !"
เดรสสั่ง เธอโบกมือให้ทุกคนขยายวงออก "ซิล... ครูวานเธอไปส่งห้องพยาบาลที" เธออุ้มร่างของไอรินขึ้น จากนั้นจึงส่งร่างนั้นให้ซิลที่ยืนรับอยู่ "พวกเธอไปเรียนคาบต่อไปได้แล้ว !" เธอสั่งอีกครั้ง
เสียงความชุลมุนไม่หยุดโดยง่าย พวกปีหนึ่งต่างพูดคุยกับเวนัวร์และราเฟรย์อัสเป็นการใหญ่ ถึงพวกเขาจะบอกว่าไม่รู้ก็ตามที
และในที่สุด หลังจากพวกเขาเดินออกมาจากลานกว้าง และร่างของไอรินจะลับสายตาไปแล้ว เสียงก็ค่อยๆซาลงตามลำดับ
"คาบต่อไปเรียนอะไรรึ ?" เวนัวร์ถามราเฟรย์อัส พลางคิดว่าถ้าถึงเวลาพักน่าจะไปเยี่ยมไอรินเสียหน่อย
"วันนี้เรียนจบแล้ว เหลือวิชาเลือกการต่อสู้ระยะกลางน่ะ เรียนที่นี่แหละ...นายลงเรียนรึเปล่าล่ะ ? เดี๋ยวฉันจะไปเยี่ยมไอรินสักหน่อย"
เวนัวร์หันซ้ายหันขวา... คนที่เลือกเรียนวิชานี้น้อยพอดู เท่าที่เห็นก็แค่สองคน เพราะที่เหลือต่างก็แยกย้ายกันไปทางอื่น
"วิชาเลือกนี้เลือกตอนไหนกันหว่า ?" เวนัวร์ถามผู้เป็นคู่หู
"ตอนสมัครเรียน...ที่นายทิ้งฉันน่ะ" ชาโดว์ได้ที
"แล้วนายเลือกวิชาอะไรบ้างเนี่ย ?"
"อืม ตอนนั้นฉันกำลังหมั่นไส้นาย ก็เลย... ลงเรียนมันทุกวิชานั่นแหละ"
"หา !" เวนัวร์โวยวาย
"อะไร ? นายบอกเองนี่ว่าให้ฉันทำตามใจชอบ" ชาโดว์ตอบเสียงเรียบ
"หวัดดี นายคือเวลล์... เวนัวร์สินะ ?" นักเรียนคนหนึ่งถาม
"หือ ? ใช่ ส่วนนายก็..." เวนัวร์พูดค้างไว้
...ก็คาบแนะนำตัวเขายังหลับอยู่เลย... จะให้รู้ชื่อได้ยังไงเล่า
"ซีลุค... ซีลุค สตาร์ ยินดีที่ได้รู้จัก"
ซีลุคยิ้มให้เขา "ท่าทางคาบนี้คงมีเราแค่ 3 คนสินะ" ซีลุคชี้ไปทางไอร์ซิดร์
ซีลุคเป็นคนที่ดูออกทันทีว่าเขาเป็นคนที่กระตือรืนร้นพอตัว ใบหน้าของเขาประดับด้วยรอยยิ้มตลอดเวลาเลยทีเดียว
ตาสีฟ้าดูร่าเริงสดใสเหมาะกับบุคลิก ส่วนผมสีทองของเขานั้นตัดจนสั้นทีเดียว
สิ่งที่โดดเด่นของเขาก็คือหมวกหนังสีน้ำตาลที่วางอยู่บนศีรษะอย่างหลวมๆ และสร้อยคอที่ร้อยด้วยคริสตัลสีม่วง 3 อัน ... 3 รีม
"นายรู้ไหมว่าทำไมเงินที่นี่ถึงเป็นรูปลูกบาศก์" ซีลุคพูดขึ้น หลังจากเห็นเวนัวร์จ้องไปที่สร้อยคอของเขา
"ทำไมรึ ?" เวนัวร์ถามงงๆ
"ก็เพราะอย่างนี้ไง..." ซีลุคหยิบคริสตัลสีม่วงขึ้นมาก้อนหนึ่ง ก่อนจะหยิบปากกาเมจิคขึ้นมาแต้มจุดลงไปในแต่ละด้าน จนกลายเป็นลูกเต๋ากลายๆ
"เฮ้..." เวนัวร์มองตามอย่างรู้สึกเสียดาย...แม้จะแค่รีมเดียวก็เถอะ
"เอาละ... คี่หรือคู่ ?" ซีลุคใส่คริสตัลก้อนนั้นลงไปในถ้วยทรงกระบอกสีครีมที่เขาเอาติดตัวมา เขย่าสองสามครั้ง ก่อนจะวางมันลงกับพื้นหญ้า
ตอนนั้นเองที่ไอร์ซิดร์เข้ามาร่วมวงด้วย "หึ... หมอนี่น่ะมันนักพนัน นายชนะมันไม่ได้หรอก" เขาพูดกับเวนัวร์
"ไม่แน่มั้ง... ฉันว่าคู่" เวนัวร์เดา
"เสียใจเพื่อน ออก 1ชัวร์"
ซีลุคพูดก่อนที่จะยกถ้วยด้วยซ้ำ เขาค่อยๆเปิดถ้วยออก
...และก็จริงดังว่า มันออกหน้า 1 จุดจริงๆ
"ว้าว" เวนัวร์ส่งเสียงชื่นชม
"บอกแล้วว่ามันเป็นนักพนัน" ไอร์ซิดร์ย้ำ ซีลุคยิ้มรับคำนั้นเป็นคำชม
"รู้ไหม ? เล่นพนันในโรงเรียนน่ะ ถูกหัก 5 คะแนนนะ"
เสียงหวานของบุคคลผู้มาใหม่ทำเอาทั้งสามสะดุ้งโหยง... เสียงที่คุ้นหูเวนัวร์
...เสียงของผู้คุมกฎ... ลินน์ เฟย์นอส
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น