ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 : มณีจันทร์
-'๑'- Doppelganger -'๑'-
-' Chapter 5 : มณีจันทร์ '-
"หนึ่ง กลับบ้านไปใช้ชีวิตแบบเดิมเสีย"
ฮีธพูด "ถ้าเธอเลือกทางนี้ ใบลงทะเบียนเรียนที่เธอส่งเข้ามาก็จะถือเป็นโมฆะ ฉันจะส่งตัวเธอกลับไปยังที่อยู่เก่าทันที"
เวนัวร์ขยับปากจะถาม แต่ฮีธยกมือห้ามไว้
"สอง เข้าเรียนที่นี่"
เขาพูดต่อ "เธอต้องใช้เวลา 4 ปีขึ้นไปในการเรียนรู้บทเรียนต่างๆ ซึ่งในระหว่างนั้นเธอไม่มีสิทธิออกจากทวีปนี้เด็ดขาด แม้แต่ช่วงปิดภาคเรียน"
"ท่านก็น่าจะรู้ว่าผมต้องเลือกที่จะเรียนอยู่แล้ว" เวนัวร์ตอบทันที ในขณะที่มิลล่านอนหลับตาพริ้มอยู่บนตัก
แต่ประโยคที่เวนัวร์พูดกลับทำให้ฮีธส่ายหน้าช้าๆ
"เธอยังไม่เข้าใจ เวนัวร์... คนที่กลายเป็นสภาพฟรานส์นั้นมีอยู่ 2 เงื่อนไข คือ ถูกกดดันอย่างหนัก และอยู่เพียงลำพัง"
"แล้วมันเป็นยังไงหรือครับ ?" เวนัวร์ถาม ด้วยเห็นว่าเรื่องเมื่อครู่ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเขาตรงไหน
"เงื่อนไขเหล่านั้นทำให้นักเรียนที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กกำพร้า หรืออย่างน้อยก็ถูกรังเกียจจากสังคม... ซึ่งเธอไม่ใช่ทั้งสองอย่าง"
"ก็แล้วมันเกี่ยวอะไรกับครอบครัวของผม..." เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
"เกี่ยวแน่ ก็เพราะหมายความว่าถ้าเธอเลือกที่จะเรียน เธอจะเปรียบเสมือนบุคคลหายสาบสูญไปตลอด 4 ปีหรืออาจจะมากกว่านั้น"
ฮีธสรุป "พ่อแม่พี่น้อง ญาติสนิทมิตรสหาย คงจะออกตามหาตัวเธอกันให้วุ่น... ถ้าเธอกลับไปตอนนี้ก็เพิ่งจะวันเดียว หาข้ออ้างเหมาะๆผ่านไปไม่นานก็ลืมกันหมด แต่ถ้าผ่านไป 4 ปีล่ะ ? เธอจะว่ายังไงเมื่อพบหน้าพวกเขาอีกครั้ง"
เวนัวร์นิ่งอึ้งไปพักใหญ่
"ถ้าผม..." เวนัวร์เอ่ยปากอย่างยากเย็น
"ถ้าเธอเลือกที่จะกลับไป เธอต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างสามัญชน ห้ามให้ใครรับรู้ถึงทวีปนี้หรือร่างแฝดในตัวเด็ดขาด" ฮีธพูดดักคอ
เวนัวร์ยักไหล่ "แล้วถ้าผมทำไม่ได้ล่ะ ?"
"หึๆ ไม่มีใครเชื่อเธอหรอก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็จะถูกนำตัวมาที่นี่อีกครั้ง... ในฐานะนักโทษ"
"เอาไง ? ชาโดว์" เวนัวร์พูดขึ้นในใจ นัยน์ตาสีม่วงของเขาสบกับนัยน์ตาคู่โตสีน้ำผึ้งของมิลล่า
"ฉันไม่มีความผูกพันกับครอบครัว... นายเป็นคนเลือกเถอะ" เป็นครั้งแรกที่เสียงของชาโดว์ดูจะอ่อนโยนขึ้น
เวนัวร์ชั่งใจคิดน้ำหนักในทางเลือกทั้งสองข้าง... แน่ล่ะ ถ้าเขาเป็นชาโดว์ เขาก็ต้องอยากอยู่ที่นี่เป็นธรรมดา
"ผมเลือกที่จะเรียน" เวนัวร์พูดอย่างสิ้นความลังเล จนตัวเองอดที่จะแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมถึงคิดถึงความรู้สึกของชาโดว์มาเป็นอันดับแรก
"...ถ้าเธอแน่ใจแล้วก็รับนี่ไป" ฮีธควานหาอะไรบางอย่างในล็อกเกอร์ ไม่นานนักเขาก็หยิบถุงสีน้ำตาลขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ออกมาถุงหนึ่ง ก่อนจะเทของในถุงนั้นออกมา
คริสตัลใสทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ส่งเสียงกุกกักเป็นจังหวะบนโต๊ะ มันมีหลากหลายสีส่องแสงแข่งกันอย่างงดงาม
มิลล่าแสดงความสนอกสนใจเป็นพิเศษ มันกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะอย่างชำนาญพลางเขี่ยคริสตัลแต่ละลูกเล่น
"นี่คือหน่วยเงินของทวีปนี้... เจ้านี่มีค่า 1 รีม"
ฮีธหยิบคริสตัลสีม่วงใสขึ้นมา "ต่อมาก็ 10 รีม 100 รีม เป็นลำดับ ไล่เป็นสีรุ้งไป"
เวนัวร์เพิ่งสังเกตว่ามันเป็นองค์ประกอบของสีรุ้งจริงๆเสียด้วย
"นี่เป็นเงินของเธอ" ฮีธกวาดคริสตัลตรงหน้าทั้งหมดมาให้เขา
คริสตัลสีม่วง 10 ก้อน สีฟ้าคราม 10 ก้อน สีน้ำเงิน 10 ก้อน สีเขียวสด 10 ก้อน สีเหลืองอำพัน 1 ก้อน
"สองหมื่นหนึ่งพันหนึ่งร้อยสิบ"
"ผมยังไม่รู้เลยว่าที่นี่ใช้เงินทำอะไรบ้าง" เวนัวร์ยังไม่ยื่นมือไปรับทันที
"หนึ่งหมื่นรีมที่เธอต้องเก็บไว้สำหรับค่าเทอม และหนึ่งรีมสำหรับอาหารทุกมื้อ นอกจากนั้นก็จิปาถะ... เธอสามารถนำเงินพวกนี้ไปใช้ซื้อของในย่านการค้าได้อย่างอิสระ แต่ขอให้อย่าลืมว่าที่นี่เธอไม่มีสิทธิยืมเงินใครทั้งสิ้น และแน่นอนว่าห้ามให้ใครยืมด้วยเช่นกัน"
"ถ้าผมยืมหรือให้คนอื่นยืมแล้วมันจะทำไมหรือ ?" เวนัวร์เลิกคิ้ว... เขาเริ่มจะชินกับที่นี่เสียแล้วล่ะมั้ง มาดนักเรียนตัวแสบถึงได้กลับมาทีละนิดๆ
"ก็คงต้องลองดู... แต่ฉันไม่แนะนำหรอกนะ" ฮีธระบายยิ้มจางๆ
เวนัวร์กวาดคริสตัลทั้งหมดลงในถุงผ้าสีน้ำตาลอีกใบที่ฮีธยื่นมาให้ พลางคิดว่าจะมีทางเหรอที่เขาจะใช้เงินได้มากถึงหลักหมื่น
...แต่จะคิดอย่างนั้นก็ไม่ถูก เพราะเขายังไม่รู้เลยว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจล่อตาล่อใจบ้าง
"เรื่องอุปกรณ์การเรียนไม่ต้องห่วง เธอไม่ต้องเสียเงินสักกระพีกเดียว"
ฮีธพูดในสิ่งที่เวนัวร์กำลังจะถามอยู่พอดี "แล้วก็ส่งแมวตัวนั้น... มิลล่าน่ะแหละ มาให้ฉันก่อน ไว้คงต้องให้ร่างจริงตื่นก่อนถึงจะปล่อยให้เป็นอิสระได้"
อีกครั้งที่เวนัวร์รู้สึกว่าเจ้าแมวตรงหน้ามันจะฉลาดเกินไปหน่อยแล้ว เพราะสิ้นคำของผู้อำนวยการ มันก็กระโดดแผล็วไปหาทันทีโดยไม่ส่งเสียงร้องอะไรสักแอะ
===============================================================================================================
"เอาล่ะ... เราจะไปไหนกันดี" เวนัวร์ถามตัวเอง... และชาโดว์ หลังจากออกมาจากห้องผู้อำนวยการได้ครู่หนึ่ง
"ถ้าเป็นฉัน... ฉันจะแนะนำให้เธอไปย่านการค้าเป็นอันดับแรก" เสียงใสๆของใครบางคนเรียกให้เวนัวร์หันไป
ผู้หญิงอีกแล้ว... ทำไมพักนี้เขาถึงเจอผู้หญิงบ่อยจริงแฮะ
เวนัวร์อดคิดอะไรแปลกๆอย่างนี้ไม่ได้
แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนี่นะ...
"เอ่อ คุณ..."
"เนียน่าจ้ะ อยู่ปีสาม ส่วนเธอคงเป็นเด็กใหม่สินะ" เนียน่ายื่นมือเรียวของเธอออกมา
เวนัวร์จับมือนั้นอย่างไม่ขัดเขิน... เขาคงเริ่มจะชินแล้วกระมัง
เนียน่าเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างจะดูหรูหรา ผมสีทองของเธอยาวสยายส่องประกายระยิบระยับล้อแสงแดด นัยน์ตาสีฟ้ากลมโตที่ดูสดใสจนแสบตา และสิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือบรรดาเครื่องประดับนับไม่ถ้วนของเธอ
ถ้าหากว่าเขาเห็นเธอจากมุมมองอื่นก็คงจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยแต่เปลือก... และคงจะยโสไม่เบา
แต่การที่เธอเข้ามาทำความรู้จักเขาอย่างเป็นกันเองอย่างนี้ก็ทำให้เขาสำนึกได้ว่าไม่ควรตัดสินใครที่ภายนอกจริงๆนั่นแหละ
"งั้นก็ช่วยพาผมไปหน่อยก็แล้วกัน"
===============================================================================================================
ย่านร้านค้านั้นมีสินค้ามากมายหลายประเภทเรียงรายอยู่อย่างเป็นระเบียบ มีตั้งแต่เครื่องประดับ เสื้อผ้าอาภรณ์ ไล่ไปจนถึงยุทโธปกรณ์
"สิ่งที่เธอควรจะมีอย่างแรกก็คืออาวุธ" เนียน่าหยุดตรงย่านที่มีร้านขายอาวุธรายล้อม
"อาวุธ ? จะเรียนที่นี่ต้องมีอาวุธด้วย ?" เวนัวร์เบิกตาถาม
"หือ ? เธอลงทะเบียนเรียนแล้วไม่ใช่รึ... ถ้าไม่มีอาวุธคงไม่มีวิชาการต่อสู้หรอก เว้นเสียแต่ว่าเธอจะเป็นพวกนักวิชาการน่ะนะ... ซึ่งท่าทางเธอไม่ให้สักนิด" เจ้าหล่อนแลบลิ้นอย่างทะเล้น
ประโยคหลังจิกกัดกันชัดๆ ...แต่ก็แย้งไม่ได้ซะด้วยสิ
"ทำไมนายไม่บอกฉัน" เวนัวร์คาดโทษไปยังผู้เป็นคู่หู
"ก็นายไม่ถาม" ...คำตอบเรียบๆที่ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นอะไรสักนิด
ร้านขายอาวุธต่างๆล้วนแล้วแต่นำอาวุธที่ดูงดงามมาตั้งโชว์ทั้งนั้น ดูแล้วราวกับว่าอาวุธก็เป็นเครื่องประดับอีกรูปแบบหนึ่ง
ถ้ามีประสิทธิภาพได้ครึ่งของความสวยงามนั่นก็ดี... เวนัวร์คิด
เวนัวร์สะดุดตาเข้ากับร้านขายดาบเล็กๆ ที่มีดาบตั้งโชว์อยู่เพียง 2 เล่ม ต่างจากร้านอื่นๆที่ตั้งกันเกือบสิบ...
"โอ้คุณลูกค้า... ตาแหลมมากขอรับ" ชายหัวเถิกที่ท่าทางจะเป็นเจ้าของร้านแทบจะพุ่งออกมาต้อนรับเขาทันทีที่หยุดเดินเลยทีเดียว
หึๆ ยังไม่ทันจะรู้เลยว่าหยุดทำไม ก็ใช้คำชมนำมาเป็นอับดับแรกเลยนะ
...แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับร้านรวงพวกนี้ล่ะนะ
"ดาบทางด้านซ้ายนี้ พลานุภาพมหาศาล ว่ากันว่าถูกสร้างขึ้นมาโดยเหล่าทวยเทพ มีประกายเจิดจ้าดั่งแสงสุริยัน... เป็นที่มาของชื่อดาบเทพสุริยันขอรับ ซื้อไปรับรองไม่ผิดหวัง"
เจ้าของร้านโฆษณาดาบที่สะท้อนแสงจนแสบตาราวกับแสงอาทิตย์ยามเที่ยง... ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงมีชื่อนี้ แต่ประสิทธิภาพจะดีจริงรึเปล่านั่นมันอีกเรื่อง
"อ่า... ส่วนด้านนี้เป็นดาบชั้นเลิศเช่นกัน"
ชายหัวเถิกรีบพูดต่อ "ดาบมณีจันทร์... งดงามดั่งอัญมณีล้ำค่า ฟาดฟันรวดเร็วดั่งเงาจันทร์ ...ทั้งคู่เป็นดาบหายากที่รับรองว่าไม่มีที่ไหนอีกแล้วในโลก" เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อกลางหน้าผาก
ดาบเล่มที่สองนั้นค่อนข้างถูกใจเวนัวร์ทีเดียว... ด้วยตัวดาบแม้จะดูเรียบๆแต่ก็มีความอายแห่งความงามแผ่ออกมาจางๆจนรู้สึกได้
คมดาบสีเงินขาว รูปร่างเรียวยาวราวกับดาบจากตะวันออก ด้ามจับสีดำสลับเงิน ยิ่งทำให้รู้สึกว่ามันล้ำค่า... เวนัวร์อดจ้องมันด้วยความหลงใหลไม่ได้
"คิดดีๆนะ... ฉันว่ามันแพงเอาเรื่อง" ชาโดว์พูดเตือน
"เอ่อ... เท่าไหร่หรือลุง" เวนัวร์นึกขึ้นได้
"ไม่แพงๆ ดาบเทพสุริยันราคาหมื่นแปด ดาบมณีจันทร์หมื่นห้า คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม"
เวนัวร์หน้าซีดลงทันทีเมื่อฟังราคา... เจ้าของร้านเห็นดังนั้นรีบพูดต่อทันที "ถ้าซื้อทั้งคู่ลุงลดสุดๆ แค่สองหมื่นแปดเท่านั้น"
"ลุง ขอโทษทีเถอะ ซื้อเจ้าดาบนี่ลุงซักเล่มผมก็ไม่มีเงินเรียนแล้ว" เวนัวร์พูด ทำเอาลุงเจ้าของร้านหน้าเสียทันที
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ระหว่างภาคเรียนมีกิจกรรมเยอะแยะ แค่เข้าร่วมก็ได้เงินเข้ากระเป๋าแล้ว" คำพูดของเนียน่าราวกับเสียงสวรรค์สำหรับชายเจ้าของร้านเลยทีเดียว
"แต่ว่า..."
เขาไม่ชอบกับวิธีคิดที่จะไปตายเอาดาบหน้าสักเท่าไหร่...
ระหว่างที่เวนัวร์กำลังครุ่นคิด... มือหนึ่งก็ล้วงเข้าไปในถุงเงิน ควักเงินมาจ่าย อีกมือก็ชี้ไปยังดาบมณีจันทร์ ทำเอาเจ้าของร้านหน้าบาน รับกุลีกุจอนำดาบเข้าร้านไปห่อให้อย่างเร่งรีบเลยทีเดียว
"เฮ้ !" เวนัวร์สะดุ้งหลังจากคิดอะไรเพลินๆ ...ห่อดาบถูกยัดเข้ามาในมือ
"ไม่ต้องขอบใจหรอก... ฉันรู้ว่านายอยากได้" ชาโดว์พูด
"จะบ้าเรอะ" เวนัวร์รีบโวยในห้วงคิดทันที
"จะว่าไปฉันก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าถ้านายเหม่อๆ ฉันก็ควบคุมร่างได้สบาย... สะดวกดีแฮะ"
สุดท้ายเวนัวร์ก็ได้ครอบครองดาบมณีจันทร์อย่างไม่อาจปฏิเสธ... แต่ปัญหาใหญ่คือแค่วันแรก เงินในถุงก็มีเหลือเพียงหกพันกว่าๆเสียแล้ว
เจ้ากิจกรรมระหว่างภาคเรียนน่ะเขาไม่ค่อยอยากจะยุ่งเกี่ยวนักหรอก... แต่คราวนี้ท่าทางจะเลี่ยงไม่ได้ซะแล้ว
-' To Be Continue '-
-' Chapter 5 : มณีจันทร์ '-
"หนึ่ง กลับบ้านไปใช้ชีวิตแบบเดิมเสีย"
ฮีธพูด "ถ้าเธอเลือกทางนี้ ใบลงทะเบียนเรียนที่เธอส่งเข้ามาก็จะถือเป็นโมฆะ ฉันจะส่งตัวเธอกลับไปยังที่อยู่เก่าทันที"
เวนัวร์ขยับปากจะถาม แต่ฮีธยกมือห้ามไว้
"สอง เข้าเรียนที่นี่"
เขาพูดต่อ "เธอต้องใช้เวลา 4 ปีขึ้นไปในการเรียนรู้บทเรียนต่างๆ ซึ่งในระหว่างนั้นเธอไม่มีสิทธิออกจากทวีปนี้เด็ดขาด แม้แต่ช่วงปิดภาคเรียน"
"ท่านก็น่าจะรู้ว่าผมต้องเลือกที่จะเรียนอยู่แล้ว" เวนัวร์ตอบทันที ในขณะที่มิลล่านอนหลับตาพริ้มอยู่บนตัก
แต่ประโยคที่เวนัวร์พูดกลับทำให้ฮีธส่ายหน้าช้าๆ
"เธอยังไม่เข้าใจ เวนัวร์... คนที่กลายเป็นสภาพฟรานส์นั้นมีอยู่ 2 เงื่อนไข คือ ถูกกดดันอย่างหนัก และอยู่เพียงลำพัง"
"แล้วมันเป็นยังไงหรือครับ ?" เวนัวร์ถาม ด้วยเห็นว่าเรื่องเมื่อครู่ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเขาตรงไหน
"เงื่อนไขเหล่านั้นทำให้นักเรียนที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กกำพร้า หรืออย่างน้อยก็ถูกรังเกียจจากสังคม... ซึ่งเธอไม่ใช่ทั้งสองอย่าง"
"ก็แล้วมันเกี่ยวอะไรกับครอบครัวของผม..." เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
"เกี่ยวแน่ ก็เพราะหมายความว่าถ้าเธอเลือกที่จะเรียน เธอจะเปรียบเสมือนบุคคลหายสาบสูญไปตลอด 4 ปีหรืออาจจะมากกว่านั้น"
ฮีธสรุป "พ่อแม่พี่น้อง ญาติสนิทมิตรสหาย คงจะออกตามหาตัวเธอกันให้วุ่น... ถ้าเธอกลับไปตอนนี้ก็เพิ่งจะวันเดียว หาข้ออ้างเหมาะๆผ่านไปไม่นานก็ลืมกันหมด แต่ถ้าผ่านไป 4 ปีล่ะ ? เธอจะว่ายังไงเมื่อพบหน้าพวกเขาอีกครั้ง"
เวนัวร์นิ่งอึ้งไปพักใหญ่
"ถ้าผม..." เวนัวร์เอ่ยปากอย่างยากเย็น
"ถ้าเธอเลือกที่จะกลับไป เธอต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างสามัญชน ห้ามให้ใครรับรู้ถึงทวีปนี้หรือร่างแฝดในตัวเด็ดขาด" ฮีธพูดดักคอ
เวนัวร์ยักไหล่ "แล้วถ้าผมทำไม่ได้ล่ะ ?"
"หึๆ ไม่มีใครเชื่อเธอหรอก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็จะถูกนำตัวมาที่นี่อีกครั้ง... ในฐานะนักโทษ"
"เอาไง ? ชาโดว์" เวนัวร์พูดขึ้นในใจ นัยน์ตาสีม่วงของเขาสบกับนัยน์ตาคู่โตสีน้ำผึ้งของมิลล่า
"ฉันไม่มีความผูกพันกับครอบครัว... นายเป็นคนเลือกเถอะ" เป็นครั้งแรกที่เสียงของชาโดว์ดูจะอ่อนโยนขึ้น
เวนัวร์ชั่งใจคิดน้ำหนักในทางเลือกทั้งสองข้าง... แน่ล่ะ ถ้าเขาเป็นชาโดว์ เขาก็ต้องอยากอยู่ที่นี่เป็นธรรมดา
"ผมเลือกที่จะเรียน" เวนัวร์พูดอย่างสิ้นความลังเล จนตัวเองอดที่จะแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมถึงคิดถึงความรู้สึกของชาโดว์มาเป็นอันดับแรก
"...ถ้าเธอแน่ใจแล้วก็รับนี่ไป" ฮีธควานหาอะไรบางอย่างในล็อกเกอร์ ไม่นานนักเขาก็หยิบถุงสีน้ำตาลขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ออกมาถุงหนึ่ง ก่อนจะเทของในถุงนั้นออกมา
คริสตัลใสทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ส่งเสียงกุกกักเป็นจังหวะบนโต๊ะ มันมีหลากหลายสีส่องแสงแข่งกันอย่างงดงาม
มิลล่าแสดงความสนอกสนใจเป็นพิเศษ มันกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะอย่างชำนาญพลางเขี่ยคริสตัลแต่ละลูกเล่น
"นี่คือหน่วยเงินของทวีปนี้... เจ้านี่มีค่า 1 รีม"
ฮีธหยิบคริสตัลสีม่วงใสขึ้นมา "ต่อมาก็ 10 รีม 100 รีม เป็นลำดับ ไล่เป็นสีรุ้งไป"
เวนัวร์เพิ่งสังเกตว่ามันเป็นองค์ประกอบของสีรุ้งจริงๆเสียด้วย
"นี่เป็นเงินของเธอ" ฮีธกวาดคริสตัลตรงหน้าทั้งหมดมาให้เขา
คริสตัลสีม่วง 10 ก้อน สีฟ้าคราม 10 ก้อน สีน้ำเงิน 10 ก้อน สีเขียวสด 10 ก้อน สีเหลืองอำพัน 1 ก้อน
"สองหมื่นหนึ่งพันหนึ่งร้อยสิบ"
"ผมยังไม่รู้เลยว่าที่นี่ใช้เงินทำอะไรบ้าง" เวนัวร์ยังไม่ยื่นมือไปรับทันที
"หนึ่งหมื่นรีมที่เธอต้องเก็บไว้สำหรับค่าเทอม และหนึ่งรีมสำหรับอาหารทุกมื้อ นอกจากนั้นก็จิปาถะ... เธอสามารถนำเงินพวกนี้ไปใช้ซื้อของในย่านการค้าได้อย่างอิสระ แต่ขอให้อย่าลืมว่าที่นี่เธอไม่มีสิทธิยืมเงินใครทั้งสิ้น และแน่นอนว่าห้ามให้ใครยืมด้วยเช่นกัน"
"ถ้าผมยืมหรือให้คนอื่นยืมแล้วมันจะทำไมหรือ ?" เวนัวร์เลิกคิ้ว... เขาเริ่มจะชินกับที่นี่เสียแล้วล่ะมั้ง มาดนักเรียนตัวแสบถึงได้กลับมาทีละนิดๆ
"ก็คงต้องลองดู... แต่ฉันไม่แนะนำหรอกนะ" ฮีธระบายยิ้มจางๆ
เวนัวร์กวาดคริสตัลทั้งหมดลงในถุงผ้าสีน้ำตาลอีกใบที่ฮีธยื่นมาให้ พลางคิดว่าจะมีทางเหรอที่เขาจะใช้เงินได้มากถึงหลักหมื่น
...แต่จะคิดอย่างนั้นก็ไม่ถูก เพราะเขายังไม่รู้เลยว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจล่อตาล่อใจบ้าง
"เรื่องอุปกรณ์การเรียนไม่ต้องห่วง เธอไม่ต้องเสียเงินสักกระพีกเดียว"
ฮีธพูดในสิ่งที่เวนัวร์กำลังจะถามอยู่พอดี "แล้วก็ส่งแมวตัวนั้น... มิลล่าน่ะแหละ มาให้ฉันก่อน ไว้คงต้องให้ร่างจริงตื่นก่อนถึงจะปล่อยให้เป็นอิสระได้"
อีกครั้งที่เวนัวร์รู้สึกว่าเจ้าแมวตรงหน้ามันจะฉลาดเกินไปหน่อยแล้ว เพราะสิ้นคำของผู้อำนวยการ มันก็กระโดดแผล็วไปหาทันทีโดยไม่ส่งเสียงร้องอะไรสักแอะ
===============================================================================================================
"เอาล่ะ... เราจะไปไหนกันดี" เวนัวร์ถามตัวเอง... และชาโดว์ หลังจากออกมาจากห้องผู้อำนวยการได้ครู่หนึ่ง
"ถ้าเป็นฉัน... ฉันจะแนะนำให้เธอไปย่านการค้าเป็นอันดับแรก" เสียงใสๆของใครบางคนเรียกให้เวนัวร์หันไป
ผู้หญิงอีกแล้ว... ทำไมพักนี้เขาถึงเจอผู้หญิงบ่อยจริงแฮะ
เวนัวร์อดคิดอะไรแปลกๆอย่างนี้ไม่ได้
แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนี่นะ...
"เอ่อ คุณ..."
"เนียน่าจ้ะ อยู่ปีสาม ส่วนเธอคงเป็นเด็กใหม่สินะ" เนียน่ายื่นมือเรียวของเธอออกมา
เวนัวร์จับมือนั้นอย่างไม่ขัดเขิน... เขาคงเริ่มจะชินแล้วกระมัง
เนียน่าเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างจะดูหรูหรา ผมสีทองของเธอยาวสยายส่องประกายระยิบระยับล้อแสงแดด นัยน์ตาสีฟ้ากลมโตที่ดูสดใสจนแสบตา และสิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือบรรดาเครื่องประดับนับไม่ถ้วนของเธอ
ถ้าหากว่าเขาเห็นเธอจากมุมมองอื่นก็คงจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยแต่เปลือก... และคงจะยโสไม่เบา
แต่การที่เธอเข้ามาทำความรู้จักเขาอย่างเป็นกันเองอย่างนี้ก็ทำให้เขาสำนึกได้ว่าไม่ควรตัดสินใครที่ภายนอกจริงๆนั่นแหละ
"งั้นก็ช่วยพาผมไปหน่อยก็แล้วกัน"
===============================================================================================================
ย่านร้านค้านั้นมีสินค้ามากมายหลายประเภทเรียงรายอยู่อย่างเป็นระเบียบ มีตั้งแต่เครื่องประดับ เสื้อผ้าอาภรณ์ ไล่ไปจนถึงยุทโธปกรณ์
"สิ่งที่เธอควรจะมีอย่างแรกก็คืออาวุธ" เนียน่าหยุดตรงย่านที่มีร้านขายอาวุธรายล้อม
"อาวุธ ? จะเรียนที่นี่ต้องมีอาวุธด้วย ?" เวนัวร์เบิกตาถาม
"หือ ? เธอลงทะเบียนเรียนแล้วไม่ใช่รึ... ถ้าไม่มีอาวุธคงไม่มีวิชาการต่อสู้หรอก เว้นเสียแต่ว่าเธอจะเป็นพวกนักวิชาการน่ะนะ... ซึ่งท่าทางเธอไม่ให้สักนิด" เจ้าหล่อนแลบลิ้นอย่างทะเล้น
ประโยคหลังจิกกัดกันชัดๆ ...แต่ก็แย้งไม่ได้ซะด้วยสิ
"ทำไมนายไม่บอกฉัน" เวนัวร์คาดโทษไปยังผู้เป็นคู่หู
"ก็นายไม่ถาม" ...คำตอบเรียบๆที่ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นอะไรสักนิด
ร้านขายอาวุธต่างๆล้วนแล้วแต่นำอาวุธที่ดูงดงามมาตั้งโชว์ทั้งนั้น ดูแล้วราวกับว่าอาวุธก็เป็นเครื่องประดับอีกรูปแบบหนึ่ง
ถ้ามีประสิทธิภาพได้ครึ่งของความสวยงามนั่นก็ดี... เวนัวร์คิด
เวนัวร์สะดุดตาเข้ากับร้านขายดาบเล็กๆ ที่มีดาบตั้งโชว์อยู่เพียง 2 เล่ม ต่างจากร้านอื่นๆที่ตั้งกันเกือบสิบ...
"โอ้คุณลูกค้า... ตาแหลมมากขอรับ" ชายหัวเถิกที่ท่าทางจะเป็นเจ้าของร้านแทบจะพุ่งออกมาต้อนรับเขาทันทีที่หยุดเดินเลยทีเดียว
หึๆ ยังไม่ทันจะรู้เลยว่าหยุดทำไม ก็ใช้คำชมนำมาเป็นอับดับแรกเลยนะ
...แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับร้านรวงพวกนี้ล่ะนะ
"ดาบทางด้านซ้ายนี้ พลานุภาพมหาศาล ว่ากันว่าถูกสร้างขึ้นมาโดยเหล่าทวยเทพ มีประกายเจิดจ้าดั่งแสงสุริยัน... เป็นที่มาของชื่อดาบเทพสุริยันขอรับ ซื้อไปรับรองไม่ผิดหวัง"
เจ้าของร้านโฆษณาดาบที่สะท้อนแสงจนแสบตาราวกับแสงอาทิตย์ยามเที่ยง... ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงมีชื่อนี้ แต่ประสิทธิภาพจะดีจริงรึเปล่านั่นมันอีกเรื่อง
"อ่า... ส่วนด้านนี้เป็นดาบชั้นเลิศเช่นกัน"
ชายหัวเถิกรีบพูดต่อ "ดาบมณีจันทร์... งดงามดั่งอัญมณีล้ำค่า ฟาดฟันรวดเร็วดั่งเงาจันทร์ ...ทั้งคู่เป็นดาบหายากที่รับรองว่าไม่มีที่ไหนอีกแล้วในโลก" เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อกลางหน้าผาก
ดาบเล่มที่สองนั้นค่อนข้างถูกใจเวนัวร์ทีเดียว... ด้วยตัวดาบแม้จะดูเรียบๆแต่ก็มีความอายแห่งความงามแผ่ออกมาจางๆจนรู้สึกได้
คมดาบสีเงินขาว รูปร่างเรียวยาวราวกับดาบจากตะวันออก ด้ามจับสีดำสลับเงิน ยิ่งทำให้รู้สึกว่ามันล้ำค่า... เวนัวร์อดจ้องมันด้วยความหลงใหลไม่ได้
"คิดดีๆนะ... ฉันว่ามันแพงเอาเรื่อง" ชาโดว์พูดเตือน
"เอ่อ... เท่าไหร่หรือลุง" เวนัวร์นึกขึ้นได้
"ไม่แพงๆ ดาบเทพสุริยันราคาหมื่นแปด ดาบมณีจันทร์หมื่นห้า คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม"
เวนัวร์หน้าซีดลงทันทีเมื่อฟังราคา... เจ้าของร้านเห็นดังนั้นรีบพูดต่อทันที "ถ้าซื้อทั้งคู่ลุงลดสุดๆ แค่สองหมื่นแปดเท่านั้น"
"ลุง ขอโทษทีเถอะ ซื้อเจ้าดาบนี่ลุงซักเล่มผมก็ไม่มีเงินเรียนแล้ว" เวนัวร์พูด ทำเอาลุงเจ้าของร้านหน้าเสียทันที
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ระหว่างภาคเรียนมีกิจกรรมเยอะแยะ แค่เข้าร่วมก็ได้เงินเข้ากระเป๋าแล้ว" คำพูดของเนียน่าราวกับเสียงสวรรค์สำหรับชายเจ้าของร้านเลยทีเดียว
"แต่ว่า..."
เขาไม่ชอบกับวิธีคิดที่จะไปตายเอาดาบหน้าสักเท่าไหร่...
ระหว่างที่เวนัวร์กำลังครุ่นคิด... มือหนึ่งก็ล้วงเข้าไปในถุงเงิน ควักเงินมาจ่าย อีกมือก็ชี้ไปยังดาบมณีจันทร์ ทำเอาเจ้าของร้านหน้าบาน รับกุลีกุจอนำดาบเข้าร้านไปห่อให้อย่างเร่งรีบเลยทีเดียว
"เฮ้ !" เวนัวร์สะดุ้งหลังจากคิดอะไรเพลินๆ ...ห่อดาบถูกยัดเข้ามาในมือ
"ไม่ต้องขอบใจหรอก... ฉันรู้ว่านายอยากได้" ชาโดว์พูด
"จะบ้าเรอะ" เวนัวร์รีบโวยในห้วงคิดทันที
"จะว่าไปฉันก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าถ้านายเหม่อๆ ฉันก็ควบคุมร่างได้สบาย... สะดวกดีแฮะ"
สุดท้ายเวนัวร์ก็ได้ครอบครองดาบมณีจันทร์อย่างไม่อาจปฏิเสธ... แต่ปัญหาใหญ่คือแค่วันแรก เงินในถุงก็มีเหลือเพียงหกพันกว่าๆเสียแล้ว
เจ้ากิจกรรมระหว่างภาคเรียนน่ะเขาไม่ค่อยอยากจะยุ่งเกี่ยวนักหรอก... แต่คราวนี้ท่าทางจะเลี่ยงไม่ได้ซะแล้ว
-' To Be Continue '-
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น