ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 12 : สายฟ้าคลั่ง
-'๑'- Doppelganger -'๑'-
-' Chapter 12 : สายฟ้าคลั่ง '-
เนียน่ามองภาพตรงหน้าด้วยความพึงพอใจ สีหน้าของเธอแสดงถึงความเย้ยหยันในตัวรุ่นพี่ที่ถูกเธอพิชิตได้อย่างง่ายดาย
ร่างของกิล อาทาราเซีย โชกไปด้วยเลือด... ด้วยฤทธิ์ของใบมีดลมนับไม่ถ้วนที่จมลึกลงไปจนเกือบถึงกระดูก
"ว้า... คงไม่ถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตหรอกนะ" หญิงสาวรำพึง
"จะพยายามก็แล้วกัน"
สิ้นเสียง... ร่างของเนียน่าก็ถูกตะครุบเข้าด้วยอุ้งมือสีดำมืดขนาดใหญ่
เธอรู้สึกว่าได้ยินเสียงกระดูกลั่น หลังจากอุ้งมือนั้นบีบตัวเธอแรงขึ้น
"อะ... ทำไม..." เนียน่าเปล่งเสียออกมาอย่างยากลำบาก สายตาของเธอจับจ้องไปยังรุ่นพี่สาวตรงหน้าที่ไร้ร่องรอยบาดแผลใดๆ
"ยอมแพ้ซะสิ !" กิลยิ้มกริ่มอย่างเป็นต่อ ตอนนี้เนียน่าติดอยู่ในอุ้งมือที่สร้างจากพลังแฝงของเธอ ไม่ต่างอะไรไปกับลูกไก่ในกำมือ
"บ้าชะมัดเลย... เธอโดนมีดลมของฉันเข้าไปเต็มๆแล้วนี่" เนียน่ายังคงกัดฟันพูดต่อไป
"ยอมแพ้ซะ" คราวนี้กิลเปลี่ยนมาพูดเสียงหวาน อุ้งมือสีดำของเธอเพิ่มความรุนแรงในการบีบยิ่งขึ้น เนียน่าร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด
...และสุดท้ายเธอก็สิ้นสติไป
"ผู้ชนะได้แก่...กิล อาทาราเซีย !!" โฆษกสนามเอ่ยขึ้นอย่างรู้งาน
เขารีบพยักเพยิดให้หน่วยแพทย์ไปดูอาการของเนียน่าที่บัดนี้ถูกกิลปลดปล่อยออกมาจากอุ้งมือแล้ว
กิลเดินออกจากสนาม แต่ก็ยังไม่วายหันกลับมาพูดกับร่างที่ไร้สติของเนียน่า
"เธอมันยังต้องฝึกอีกเยอะ"
***
"ว้าว เจ๋งแฮะ เชสต์ลวงตา ของเจ๊กิล" ซาร์ฟัสผิวปาก
"หึๆ จะภาพลวงตากี่ภาพก็ช่าง แค่ใช้ดาบฟันมันให้หมดก็จบเรื่อง" นัยน์ตาของวูฟสั่นระริกเหมือนอยากจะกระโจนไปต่อสู้ด้วยเต็มที
"เฮ้ๆ ใจเย็นๆ" ซาร์ฟัสร้องปราม... เขารู้ดีว่าเพื่อนคนนี้ชอบการต่อสู้ยิ่งกว่าอะไรดี
"เออ จะว่าไปเจ้าเวนัวร์หายไปไหนเนี่ย ? ไม่มีมันแล้วเงียบๆชอบกล"
***
เวนัวร์ออกมาจากลานประลอง...ที่เขาเรียกว่าโคลอสเซี่ยมมาตั้งแต่การแข่งเริ่มไม่นาน เพราะเขาคิดว่าได้ยินเสียงแมวแว่วๆ
คิดถึงมิลล่าก็เหตุผลหนึ่ง... แต่เหตุผลจริงๆน่ะ... เพราะเขาเห็นเงาของคนๆหนึ่งออกมาจากลานประลองนี้ด้วยต่างหาก
"มานี่มา เมี้ยวๆ" เด็กสาวคนที่เขาเห็นเมื่อครู่ยื่นมือไปทางแมวตัวหนึ่ง... มันมีทีท่าหวาดกลัวสุดขีด
ขนสีขาวสลับดำ... ไม่ใช่มิลล่าแฮะ... แต่ช่างมันเถอะ
เวนัวร์ก้าวเท้าอย่างเงียบกริบไปยืนอยู่ข้างหลังเด็กสาว
สมองของเขาสั่งการให้พูดประโยคอะไรที่ฟังดูฉลาดๆสักประโยค
"เธอรู้จักแมวตัวนั้นเหรอ เจมม่า" เขาโพล่งออกไปก่อนจะหยุดตัวเองทัน
งี่เง่าชะมัด ! นี่ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย
มันได้ผลในทันที... เด็กสาวหันหน้ามาจ้องเขาเขม็ง ทว่านัยน์ตาสีนิลคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยความแข็งกร้าว... และไม่เป็นมิตร
ภาพที่วาดฝันไว้พังลงมาอย่างไม่เป็นท่า... เวนัวร์บอกไม่ถูกว่าเขารู้สึกยังไง
เธอเหมาะจะเป็นเด็กสาวจอมแก่นมากกว่านางฟ้าผู้เลอโฉมที่เขาเห็นเมื่อคืนก่อนลิบลับ
"นายเป็นใคร ?" เด็กสาวหรี่ตา อากัปกิริยาของเธอตอนนี้ดูเหมือนแมวตัวเมื่อกี้ไม่มีผิด
"เวนัวร์... เวนัวร์ ชาโกนอฟ เธอไม่ได้ฟังในคาบแนะนำตัวหรอกเหรอ" เขาหัวเราะแห้งๆ
"ฉันไม่ว่างจำชื่อคนทั้งห้องหรอกนะ" เธอพูดแบบหน่ายๆ "แล้วนี่มีธุระอะไร ?" เสียงเชิดขึ้นจมูก
"แหะๆ เปล่าหรอก ฉันแค่ได้ยินเสียงแมวร้องเลยออกมาดูน่ะ"
ก็ไม่ได้โกหกสักหน่อยนี่นะ...
เจมม่าหันกลับไปหาแมวอีกครั้งโดยไม่สนใจเขาสักเท่าไหร่ ทำเอาเขารู้สึกเก้อๆชอบกล
แต่เมื่อมองไปทางซ้าย เวนัวร์ก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง เขายิ้มระรื่นทันที... อย่างน้อยๆก็มีข้ออ้างคุยแล้ว
"มิลล่า !" เวนัวร์ส่งเสียงดังอย่างไม่จำเป็น เรียกให้แมวขนสีดำสั้นวิ่งเข้ามาหา
"เมลานี่ต่างหาก" เสียงหวานใสดังขึ้นข้างๆหู ในตำแหน่งที่เจ้าเหมียวคลอเคลียพอดี
เขาทำหน้างง หันไปถามเจมม่าที่มองลูกแมวในอ้อมแขนเขาอย่างสนอกสนใจ "เมื่อกี้เธอพูดอะไรรึเปล่า ?"
"หือ ? เปล่านี่" เธอปฏิเสธ "นี่ๆนายรู้จักมันด้วยเหรอ ? ชื่อมิลล่าใช่ไหม ? แล้วนี่นายรู้จักมันได้ยังไง ?"
เจอคำถามเป็นชุดแบบนี้ แม้แต่เวนัวร์ก็อดอ้าปากค้างไม่ได้เหมือนกัน
"ว่าไงล่ะ !" เด็กสาวเริ่มรำคาญ เวนัวร์เพิ่งรู้สึกตัวตอนนี้นี่เองว่าไม่น่าเข้ามาทักเจ้าหล่อนตอนนี้เลย
"เอ่อ... ใช่แล้ว" เวนัวร์ถอนหายใจ "สำหรับข้อสอง ฉันเข้าใจผิด เจ้านี่น่ะชื่อเมลานี่... ส่วนข้อสาม ฉันรู้จักเพราะตอนที่เจ้านี่ถูกพาตัวมาฉันอยู่ด้วยพอดี"
เมลานี่มองเขาตาแป๋ว ตอนนั้นเองที่เวนัวร์รู้สึกแปลกๆเหมือนโดนอ่านความคิด
จากนั้นมันก็วิ่งเหยาะๆไปทางเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ แต่แมวอีกตัวยังคงขู่ฟ่อแบบไม่ไว้วางใจ
"หลงทางมาหรือเปล่าหว่า ? ท่าทางตื่นๆชอบกล" เวนัวร์ยกมือขึ้นเกาแก้ม
เมลานี่ส่งเสียงร้องเบาๆอย่างเป็นมิตร อีกฝ่ายดูลดความระมัดระวังตัวลงเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆเจ้าหล่อนอย่างกล้าๆกลัวๆ
ไม่นานนักทั้งคู่ก็ดูสนิทสนมกันดี ต่างส่งเสียงร้องเหมียวๆจนเจมม่ามองพวกมันอย่างเอ็นดู
"น่ารักจัง" เด็กสาวมองภาพตรงหน้าอย่างประทับใจ
"ฮื่อ" เวนัวร์เอื้อมมือไปลูบหัวเมลานี่ มันหลับตาพริ้มอย่างถูกใจ
เจมม่าเห็นดังนั้นก็ไม่ยอมแพ้ เธอเอื้อมมือไปหวังจะเกาใต้คางของแมวอีกตัว
...แต่มันกระโดดถอยหลังหนีไปก้าวหนึ่ง
ท่าทางยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับคนเท่าไหร่
เวนัวร์กลั้นหัวเราะ เจมม่าเลยหันมาเขม่นใส่เขาแทน ก่อนจะลุกขึ้นเดินตามเจ้าแมวขนสีขาวดำไป
"หมอนั่นน่ะชื่อชีดาร์" เสียงหนึ่งพูด
"หมายถึงเจ้าแมวนั่นเหรอ ?" เวนัวร์ถามลอยๆ
เมลานี่หยักหน้าหงึกๆ และในตอนนั้นเองที่เวนัวร์เริ่มรู้สึกตัว... มือที่ลูบหัวเมลานี่หยุดกึกทันที
...มันเป็นอีกครั้งที่เวนัวร์คิดว่าเขาได้ยินที่เมลานี่พูด
"นี่... เมื่อกี้เธอพูดเรอะ ?" ด้วยความเกรงๆทำให้เวนัวร์เผลอใช้สรรพนามสำหรับคนกับแมวดำตรงหน้า
"จะบ้าเหรอ กล่องเสียงคนละแบบกันเลย แล้วแมวจะพูดภาษามนุษย์ได้ยังไงเล่า"
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง... ทั้งๆที่ไม่มีใครอยู่
มันเป็นเสียงของเมลานี่แน่นอน... คราวนี้เวนัวร์มั่นใจเต็มร้อย
เขาลองหยิบเครื่องมือที่ใช้ทดสอบพลังเมื่อเช้าออกมา
ไหนๆอาจารย์ก็ไม่ได้เรียกเก็บคืน... คงไม่ได้ถือว่าเป็นการขโมยสินะ ??
เวนัวร์ดึงมือเมลานี่ลงมาวางบนแท่น เขาต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เล็บของมันไปขูดขีดจนเครื่องเสียหาย แต่เมลานี่ก็ดูให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
First Shest : Sound
Second Shest : Illusion
"โอ้! เครื่องนี้ใช้กับแมวได้ด้วยแฮะ"
เวนัวร์ร้องอย่างแปลกใจ ตอนแรกเขาไม่ได้คิดว่ามันจะได้ผลด้วยซ้ำ "ควบคุมเสียง ? ก็สมเหตุสมผลดี"
"บอกแล้วว่าไม่ได้พูด กล่องเสียงของแมวกับคนมันอย่างละเรื่องกัน" แมวสาวทำท่าค้อนๆ "ฉันควบคุมคลื่นเสียงให้นายได้ยินเท่านั้นแหละ"
"อ้อ..." เวนัวร์พยายามทำท่าเข้าใจ "ว่าแต่ทำไมเธอถึงเรียนรู้เร็วอย่างนี้ล่ะ ? ฉันยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเชสต์เชิสต์อะไรนี่เลย"
"ช่วงอายุขัยแมวมันสั้นมั้ง เลยเรียนรู้เร็วกว่ามนุษย์ อันนี้ก็ไม่รู้แฮะ" พูดจบเจ้าตัวก็หันไปคลอเคลียกับเวนัวร์ต่อ
"กรี๊ด !!"
เวนัวร์ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากบริเวณใกล้ๆ... ท่ามกลางเสียงตัดสินผลแพ้ชนะของการต่อสู้รอบที่สอง
==============================================================================================================
ก่อนหน้าเสียงกรีดร้องจะดังขึ้นไม่กี่นาที เจมม่ากำลังวิ่งไล่ชีดาร์อยู่
ซึ่งแน่นอนว่าความปราดเปรียวของแมวที่มากกว่าเยอะทำให้มันทิ้งระยะห่างจากเจมม่าขึ้นเรื่อยๆ
"หนอยแน่ะ~" เจมม่ายังคงดันทุรังวิ่งไล่ตามไป โชคยังดีที่แถวนั้นเป็นบริเวณโล่งปลอด มีเพียงบ่อน้ำพุรูปเทพีขนาดใหญ่สไตล์โรมันเท่านั้น
ไม่มีที่แคบๆที่ไหนที่ชีดาร์จะเข้าไปหลบได้สักที่
หนวดของชีดาร์กระตุกขึ้น เป็นลางสังหรณ์เฉพาะตัวของมันว่ากำลังจะเกิดเรื่องร้ายๆ
...แล้วมันก็จริงซะด้วยสิ
ชีดาร์เผลอวิ่งไปชนคนๆหนึ่ง ก่อนจะสะบัดศีรษะแล้วมองขึ้นไปมองเด็กสาวผมสีน้ำตาลตรงหน้าอย่างหวาดๆ
"กรี๊ด !!"
เธอกรีดเสียงแหลมก่อนที่เธอจะรู้ตัวเสียอีก "อย่าเข้ามานะ !"
...แต่ถึงแม้เธอจะไม่ห้าม ชีดาร์ก็ไม่คิดจะเข้าไปใกล้อยู่แล้ว
ทั้งสามยังคงยืนอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน แต่ด้วยคนละสาเหตุ...
เด็กสาวตัวสั่นไม่หยุด ชีดาร์แผ่เล็บออก มีท่าทีระแวดระวัง ส่วนเจมม่าก็ยังคงยืนอึ้ง ในใจเต็มไปด้วยความสับสน
มีคนกลัวแมวถึงขนาดนี้ด้วยหรือนี่ ??
สุดท้ายคนที่สติแตกก่อนใครก็คือเด็กสาวผู้มาใหม่ เธอเกร็งนิ้วชี้เล็งไปยังชีดาร์ จากนั้นสายฟ้าก็ฟาดเปรี้ยง !!
"จะบ้าเหรอ !"
เจมม่ากระโจนเข้าไปห้าม แต่เด็กสาวไม่สนใจ เธอร่ายมนตร์แห่งลม พัดเอาน้ำจากบ่อน้ำพุสาดเข้าใส่ชีดาร์ที่ยังคงตัวสั่นจากฤทธิ์สายฟ้าไม่หาย
"แง้ว !!" คราวนี้เป็นฝ่ายชีดาร์ที่ส่งเสียงฟ่อ ตัวของมันสั่นเป็นลูกนกทันทีที่สัมผัสกับน้ำ
"เจ้าเหมียว ! เป็นไงบ้าง" เจมม่ารีบวิ่งเข้าไปดู
ยังไม่ทันถึงตัว นัยน์ตาสีเหลืองของชีดาร์ก็เบิกกว้าง บริเวณขนของมันมีกระแสไฟฟ้าวิ่งพล่านจนเห็นด้วยตาเปล่า
เจมม่ายกมือขวาขึ้นมาป้องด้วยสัญชาตญาณ และตอนนั้นเองที่สายฟ้าเส้นเล็กๆก็พุ่งเข้าใส่จนแขนเธอชาระริก
"อะไรกันน่ะ !" เวนัวร์ที่เพิ่งมาถึงอุทาน ภาพที่เขาเห็นก็คือแมวขนฟู ซึ่งมีกระแสไฟฟ้าวิ่งพล่านอย่างบ้าคลั่งจนเขารู้สึกว่านัยน์ตาแทบไหม้
ดูเหมือนสติของชีดาร์จะกระเจิดกระเจิงอย่างควบคุมไม่ได้ สายฟ้าเส้นใหญ่ฟาดลงมาเส้นแล้วเส้นเล่าโดยไม่สนใจเป้าหมาย ราวกับเป็นการลงทัณฑ์จากเบื้องบน
เมลานี่ที่หวังจะเข้าไปยับยั้งก็โดนลูกหลงจนตัวปลิว เวนัวร์คิดได้ว่าสถานการณ์นี้มันวิกฤตจริงๆแล้ว พวกเขาอาจโดนช็อตตายได้ทุกเมื่อ
ยังไม่ทันที่เขาจะคิดวิธีแก้ไขสถานการณ์นี้ นัยน์ตาที่บ้าคลั่งของชีดาร์ก็หันไปจ้องเด็กสาวตัวต้นเหตุ...
แล้วสายฟ้าก็ผ่าโครม !!
-' To Be Continue '-
-' Chapter 12 : สายฟ้าคลั่ง '-
เนียน่ามองภาพตรงหน้าด้วยความพึงพอใจ สีหน้าของเธอแสดงถึงความเย้ยหยันในตัวรุ่นพี่ที่ถูกเธอพิชิตได้อย่างง่ายดาย
ร่างของกิล อาทาราเซีย โชกไปด้วยเลือด... ด้วยฤทธิ์ของใบมีดลมนับไม่ถ้วนที่จมลึกลงไปจนเกือบถึงกระดูก
"ว้า... คงไม่ถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตหรอกนะ" หญิงสาวรำพึง
"จะพยายามก็แล้วกัน"
สิ้นเสียง... ร่างของเนียน่าก็ถูกตะครุบเข้าด้วยอุ้งมือสีดำมืดขนาดใหญ่
เธอรู้สึกว่าได้ยินเสียงกระดูกลั่น หลังจากอุ้งมือนั้นบีบตัวเธอแรงขึ้น
"อะ... ทำไม..." เนียน่าเปล่งเสียออกมาอย่างยากลำบาก สายตาของเธอจับจ้องไปยังรุ่นพี่สาวตรงหน้าที่ไร้ร่องรอยบาดแผลใดๆ
"ยอมแพ้ซะสิ !" กิลยิ้มกริ่มอย่างเป็นต่อ ตอนนี้เนียน่าติดอยู่ในอุ้งมือที่สร้างจากพลังแฝงของเธอ ไม่ต่างอะไรไปกับลูกไก่ในกำมือ
"บ้าชะมัดเลย... เธอโดนมีดลมของฉันเข้าไปเต็มๆแล้วนี่" เนียน่ายังคงกัดฟันพูดต่อไป
"ยอมแพ้ซะ" คราวนี้กิลเปลี่ยนมาพูดเสียงหวาน อุ้งมือสีดำของเธอเพิ่มความรุนแรงในการบีบยิ่งขึ้น เนียน่าร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด
...และสุดท้ายเธอก็สิ้นสติไป
"ผู้ชนะได้แก่...กิล อาทาราเซีย !!" โฆษกสนามเอ่ยขึ้นอย่างรู้งาน
เขารีบพยักเพยิดให้หน่วยแพทย์ไปดูอาการของเนียน่าที่บัดนี้ถูกกิลปลดปล่อยออกมาจากอุ้งมือแล้ว
กิลเดินออกจากสนาม แต่ก็ยังไม่วายหันกลับมาพูดกับร่างที่ไร้สติของเนียน่า
"เธอมันยังต้องฝึกอีกเยอะ"
***
"ว้าว เจ๋งแฮะ เชสต์ลวงตา ของเจ๊กิล" ซาร์ฟัสผิวปาก
"หึๆ จะภาพลวงตากี่ภาพก็ช่าง แค่ใช้ดาบฟันมันให้หมดก็จบเรื่อง" นัยน์ตาของวูฟสั่นระริกเหมือนอยากจะกระโจนไปต่อสู้ด้วยเต็มที
"เฮ้ๆ ใจเย็นๆ" ซาร์ฟัสร้องปราม... เขารู้ดีว่าเพื่อนคนนี้ชอบการต่อสู้ยิ่งกว่าอะไรดี
"เออ จะว่าไปเจ้าเวนัวร์หายไปไหนเนี่ย ? ไม่มีมันแล้วเงียบๆชอบกล"
***
เวนัวร์ออกมาจากลานประลอง...ที่เขาเรียกว่าโคลอสเซี่ยมมาตั้งแต่การแข่งเริ่มไม่นาน เพราะเขาคิดว่าได้ยินเสียงแมวแว่วๆ
คิดถึงมิลล่าก็เหตุผลหนึ่ง... แต่เหตุผลจริงๆน่ะ... เพราะเขาเห็นเงาของคนๆหนึ่งออกมาจากลานประลองนี้ด้วยต่างหาก
"มานี่มา เมี้ยวๆ" เด็กสาวคนที่เขาเห็นเมื่อครู่ยื่นมือไปทางแมวตัวหนึ่ง... มันมีทีท่าหวาดกลัวสุดขีด
ขนสีขาวสลับดำ... ไม่ใช่มิลล่าแฮะ... แต่ช่างมันเถอะ
เวนัวร์ก้าวเท้าอย่างเงียบกริบไปยืนอยู่ข้างหลังเด็กสาว
สมองของเขาสั่งการให้พูดประโยคอะไรที่ฟังดูฉลาดๆสักประโยค
"เธอรู้จักแมวตัวนั้นเหรอ เจมม่า" เขาโพล่งออกไปก่อนจะหยุดตัวเองทัน
งี่เง่าชะมัด ! นี่ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย
มันได้ผลในทันที... เด็กสาวหันหน้ามาจ้องเขาเขม็ง ทว่านัยน์ตาสีนิลคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยความแข็งกร้าว... และไม่เป็นมิตร
ภาพที่วาดฝันไว้พังลงมาอย่างไม่เป็นท่า... เวนัวร์บอกไม่ถูกว่าเขารู้สึกยังไง
เธอเหมาะจะเป็นเด็กสาวจอมแก่นมากกว่านางฟ้าผู้เลอโฉมที่เขาเห็นเมื่อคืนก่อนลิบลับ
"นายเป็นใคร ?" เด็กสาวหรี่ตา อากัปกิริยาของเธอตอนนี้ดูเหมือนแมวตัวเมื่อกี้ไม่มีผิด
"เวนัวร์... เวนัวร์ ชาโกนอฟ เธอไม่ได้ฟังในคาบแนะนำตัวหรอกเหรอ" เขาหัวเราะแห้งๆ
"ฉันไม่ว่างจำชื่อคนทั้งห้องหรอกนะ" เธอพูดแบบหน่ายๆ "แล้วนี่มีธุระอะไร ?" เสียงเชิดขึ้นจมูก
"แหะๆ เปล่าหรอก ฉันแค่ได้ยินเสียงแมวร้องเลยออกมาดูน่ะ"
ก็ไม่ได้โกหกสักหน่อยนี่นะ...
เจมม่าหันกลับไปหาแมวอีกครั้งโดยไม่สนใจเขาสักเท่าไหร่ ทำเอาเขารู้สึกเก้อๆชอบกล
แต่เมื่อมองไปทางซ้าย เวนัวร์ก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง เขายิ้มระรื่นทันที... อย่างน้อยๆก็มีข้ออ้างคุยแล้ว
"มิลล่า !" เวนัวร์ส่งเสียงดังอย่างไม่จำเป็น เรียกให้แมวขนสีดำสั้นวิ่งเข้ามาหา
"เมลานี่ต่างหาก" เสียงหวานใสดังขึ้นข้างๆหู ในตำแหน่งที่เจ้าเหมียวคลอเคลียพอดี
เขาทำหน้างง หันไปถามเจมม่าที่มองลูกแมวในอ้อมแขนเขาอย่างสนอกสนใจ "เมื่อกี้เธอพูดอะไรรึเปล่า ?"
"หือ ? เปล่านี่" เธอปฏิเสธ "นี่ๆนายรู้จักมันด้วยเหรอ ? ชื่อมิลล่าใช่ไหม ? แล้วนี่นายรู้จักมันได้ยังไง ?"
เจอคำถามเป็นชุดแบบนี้ แม้แต่เวนัวร์ก็อดอ้าปากค้างไม่ได้เหมือนกัน
"ว่าไงล่ะ !" เด็กสาวเริ่มรำคาญ เวนัวร์เพิ่งรู้สึกตัวตอนนี้นี่เองว่าไม่น่าเข้ามาทักเจ้าหล่อนตอนนี้เลย
"เอ่อ... ใช่แล้ว" เวนัวร์ถอนหายใจ "สำหรับข้อสอง ฉันเข้าใจผิด เจ้านี่น่ะชื่อเมลานี่... ส่วนข้อสาม ฉันรู้จักเพราะตอนที่เจ้านี่ถูกพาตัวมาฉันอยู่ด้วยพอดี"
เมลานี่มองเขาตาแป๋ว ตอนนั้นเองที่เวนัวร์รู้สึกแปลกๆเหมือนโดนอ่านความคิด
จากนั้นมันก็วิ่งเหยาะๆไปทางเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ แต่แมวอีกตัวยังคงขู่ฟ่อแบบไม่ไว้วางใจ
"หลงทางมาหรือเปล่าหว่า ? ท่าทางตื่นๆชอบกล" เวนัวร์ยกมือขึ้นเกาแก้ม
เมลานี่ส่งเสียงร้องเบาๆอย่างเป็นมิตร อีกฝ่ายดูลดความระมัดระวังตัวลงเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆเจ้าหล่อนอย่างกล้าๆกลัวๆ
ไม่นานนักทั้งคู่ก็ดูสนิทสนมกันดี ต่างส่งเสียงร้องเหมียวๆจนเจมม่ามองพวกมันอย่างเอ็นดู
"น่ารักจัง" เด็กสาวมองภาพตรงหน้าอย่างประทับใจ
"ฮื่อ" เวนัวร์เอื้อมมือไปลูบหัวเมลานี่ มันหลับตาพริ้มอย่างถูกใจ
เจมม่าเห็นดังนั้นก็ไม่ยอมแพ้ เธอเอื้อมมือไปหวังจะเกาใต้คางของแมวอีกตัว
...แต่มันกระโดดถอยหลังหนีไปก้าวหนึ่ง
ท่าทางยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับคนเท่าไหร่
เวนัวร์กลั้นหัวเราะ เจมม่าเลยหันมาเขม่นใส่เขาแทน ก่อนจะลุกขึ้นเดินตามเจ้าแมวขนสีขาวดำไป
"หมอนั่นน่ะชื่อชีดาร์" เสียงหนึ่งพูด
"หมายถึงเจ้าแมวนั่นเหรอ ?" เวนัวร์ถามลอยๆ
เมลานี่หยักหน้าหงึกๆ และในตอนนั้นเองที่เวนัวร์เริ่มรู้สึกตัว... มือที่ลูบหัวเมลานี่หยุดกึกทันที
...มันเป็นอีกครั้งที่เวนัวร์คิดว่าเขาได้ยินที่เมลานี่พูด
"นี่... เมื่อกี้เธอพูดเรอะ ?" ด้วยความเกรงๆทำให้เวนัวร์เผลอใช้สรรพนามสำหรับคนกับแมวดำตรงหน้า
"จะบ้าเหรอ กล่องเสียงคนละแบบกันเลย แล้วแมวจะพูดภาษามนุษย์ได้ยังไงเล่า"
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง... ทั้งๆที่ไม่มีใครอยู่
มันเป็นเสียงของเมลานี่แน่นอน... คราวนี้เวนัวร์มั่นใจเต็มร้อย
เขาลองหยิบเครื่องมือที่ใช้ทดสอบพลังเมื่อเช้าออกมา
ไหนๆอาจารย์ก็ไม่ได้เรียกเก็บคืน... คงไม่ได้ถือว่าเป็นการขโมยสินะ ??
เวนัวร์ดึงมือเมลานี่ลงมาวางบนแท่น เขาต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เล็บของมันไปขูดขีดจนเครื่องเสียหาย แต่เมลานี่ก็ดูให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
First Shest : Sound
Second Shest : Illusion
"โอ้! เครื่องนี้ใช้กับแมวได้ด้วยแฮะ"
เวนัวร์ร้องอย่างแปลกใจ ตอนแรกเขาไม่ได้คิดว่ามันจะได้ผลด้วยซ้ำ "ควบคุมเสียง ? ก็สมเหตุสมผลดี"
"บอกแล้วว่าไม่ได้พูด กล่องเสียงของแมวกับคนมันอย่างละเรื่องกัน" แมวสาวทำท่าค้อนๆ "ฉันควบคุมคลื่นเสียงให้นายได้ยินเท่านั้นแหละ"
"อ้อ..." เวนัวร์พยายามทำท่าเข้าใจ "ว่าแต่ทำไมเธอถึงเรียนรู้เร็วอย่างนี้ล่ะ ? ฉันยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเชสต์เชิสต์อะไรนี่เลย"
"ช่วงอายุขัยแมวมันสั้นมั้ง เลยเรียนรู้เร็วกว่ามนุษย์ อันนี้ก็ไม่รู้แฮะ" พูดจบเจ้าตัวก็หันไปคลอเคลียกับเวนัวร์ต่อ
"กรี๊ด !!"
เวนัวร์ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากบริเวณใกล้ๆ... ท่ามกลางเสียงตัดสินผลแพ้ชนะของการต่อสู้รอบที่สอง
==============================================================================================================
ก่อนหน้าเสียงกรีดร้องจะดังขึ้นไม่กี่นาที เจมม่ากำลังวิ่งไล่ชีดาร์อยู่
ซึ่งแน่นอนว่าความปราดเปรียวของแมวที่มากกว่าเยอะทำให้มันทิ้งระยะห่างจากเจมม่าขึ้นเรื่อยๆ
"หนอยแน่ะ~" เจมม่ายังคงดันทุรังวิ่งไล่ตามไป โชคยังดีที่แถวนั้นเป็นบริเวณโล่งปลอด มีเพียงบ่อน้ำพุรูปเทพีขนาดใหญ่สไตล์โรมันเท่านั้น
ไม่มีที่แคบๆที่ไหนที่ชีดาร์จะเข้าไปหลบได้สักที่
หนวดของชีดาร์กระตุกขึ้น เป็นลางสังหรณ์เฉพาะตัวของมันว่ากำลังจะเกิดเรื่องร้ายๆ
...แล้วมันก็จริงซะด้วยสิ
ชีดาร์เผลอวิ่งไปชนคนๆหนึ่ง ก่อนจะสะบัดศีรษะแล้วมองขึ้นไปมองเด็กสาวผมสีน้ำตาลตรงหน้าอย่างหวาดๆ
"กรี๊ด !!"
เธอกรีดเสียงแหลมก่อนที่เธอจะรู้ตัวเสียอีก "อย่าเข้ามานะ !"
...แต่ถึงแม้เธอจะไม่ห้าม ชีดาร์ก็ไม่คิดจะเข้าไปใกล้อยู่แล้ว
ทั้งสามยังคงยืนอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน แต่ด้วยคนละสาเหตุ...
เด็กสาวตัวสั่นไม่หยุด ชีดาร์แผ่เล็บออก มีท่าทีระแวดระวัง ส่วนเจมม่าก็ยังคงยืนอึ้ง ในใจเต็มไปด้วยความสับสน
มีคนกลัวแมวถึงขนาดนี้ด้วยหรือนี่ ??
สุดท้ายคนที่สติแตกก่อนใครก็คือเด็กสาวผู้มาใหม่ เธอเกร็งนิ้วชี้เล็งไปยังชีดาร์ จากนั้นสายฟ้าก็ฟาดเปรี้ยง !!
"จะบ้าเหรอ !"
เจมม่ากระโจนเข้าไปห้าม แต่เด็กสาวไม่สนใจ เธอร่ายมนตร์แห่งลม พัดเอาน้ำจากบ่อน้ำพุสาดเข้าใส่ชีดาร์ที่ยังคงตัวสั่นจากฤทธิ์สายฟ้าไม่หาย
"แง้ว !!" คราวนี้เป็นฝ่ายชีดาร์ที่ส่งเสียงฟ่อ ตัวของมันสั่นเป็นลูกนกทันทีที่สัมผัสกับน้ำ
"เจ้าเหมียว ! เป็นไงบ้าง" เจมม่ารีบวิ่งเข้าไปดู
ยังไม่ทันถึงตัว นัยน์ตาสีเหลืองของชีดาร์ก็เบิกกว้าง บริเวณขนของมันมีกระแสไฟฟ้าวิ่งพล่านจนเห็นด้วยตาเปล่า
เจมม่ายกมือขวาขึ้นมาป้องด้วยสัญชาตญาณ และตอนนั้นเองที่สายฟ้าเส้นเล็กๆก็พุ่งเข้าใส่จนแขนเธอชาระริก
"อะไรกันน่ะ !" เวนัวร์ที่เพิ่งมาถึงอุทาน ภาพที่เขาเห็นก็คือแมวขนฟู ซึ่งมีกระแสไฟฟ้าวิ่งพล่านอย่างบ้าคลั่งจนเขารู้สึกว่านัยน์ตาแทบไหม้
ดูเหมือนสติของชีดาร์จะกระเจิดกระเจิงอย่างควบคุมไม่ได้ สายฟ้าเส้นใหญ่ฟาดลงมาเส้นแล้วเส้นเล่าโดยไม่สนใจเป้าหมาย ราวกับเป็นการลงทัณฑ์จากเบื้องบน
เมลานี่ที่หวังจะเข้าไปยับยั้งก็โดนลูกหลงจนตัวปลิว เวนัวร์คิดได้ว่าสถานการณ์นี้มันวิกฤตจริงๆแล้ว พวกเขาอาจโดนช็อตตายได้ทุกเมื่อ
ยังไม่ทันที่เขาจะคิดวิธีแก้ไขสถานการณ์นี้ นัยน์ตาที่บ้าคลั่งของชีดาร์ก็หันไปจ้องเด็กสาวตัวต้นเหตุ...
แล้วสายฟ้าก็ผ่าโครม !!
-' To Be Continue '-
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น