ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 11 : ศึกพลังแฝง
-'๑'- Doppelganger -'๑'-
-' Chapter 11 : ศึกพลังแฝง '-
"เริ่มการประลองได้ !"
ชายผมขาวจอนยาวในชุดครุยตัวยาวยืนอย่างสงบรอดูท่าทีจากฝ่ายตรงข้าม
เช่นเดียวกับอีกฝ่าย... มือขวาของซิลกระชับดาบเรียวยาวในมือ ในขณะที่มือซ้ายกุมดาบยาวอีกเล่มตรงเอวแน่น
หัวลูกแก้วบนคทาที่เดิมสีแดงหม่นๆ บัดนี้มันส่องแสงสีแดงจ้า เรียกเปลวเพลิงตีขนาบอีกฝ่ายราวกับปีกยักษ์ที่กำลังโอบล้อม
ซิลไม่รอช้า เขาวาดดาบเป็นวงกลมล้อมรอบตัวเอง ฉับพลันเปลวเพลิงเหล่านั้นก็พุ่งเข้าปะทะกับกำแพงน้ำที่พวยพุ่งขึ้นจากผืนดิน
แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็บังเกิด ราวกับกำแพงน้ำของเขาพิโรธ... มันขยายตัวเป็นคลื่นยักษ์โถมเข้าใส่ผู้เป็นนาย
"นายก็เป็นผู้ควบคุมน้ำเหมือนกันงั้นสินะ" ซิลอุบอิบ เขายังคงยืนนิ่งอย่างใจเย็น
คลื่นยักษ์ที่รายล้อมบดบังตัวซิลจนมิดราวกับโดมน้ำ บรรดาคนดูหรือแม้แต่ครี้ดก็ไม่อยู่ในมุมที่จะมองเห็น
บางสิ่งบางอย่างพุ่งขึ้นผ่านโดมน้ำด้านบนซึ่งเป็นส่วนที่แรงดันเบาบางที่สุด เขาลอยอยู่กลางอากาศโดยไม่มีแม้แต่อุปกรณ์ช่วยใดๆ
"รับมือ !" ดาบทั้งสองที่ตอนนี้อยู่บนมือเป็นที่เรียบร้อยฟาดฟันอย่างรวดเร็วและรุนแรง
ถึงระยะจะห่างกันหลายเมตร แต่คมดาบลมก็ปรากฎให้เห็นเบื้องหน้าครี้ดในอึดใจ
เสียงแสบหูดังขึ้นเมื่อคมดาบปะทะเข้ากับคทารูปสลักมังกรสีทองของครี้ด แต่กระนั้นคมดาบบางส่วนก็ยังเชือดเฉือนเขาจนเลือดไหลพรากหลายแห่ง
ทำไมถึงไม่ยอมป้องกัน...
ความคิดของซิลถูกเฉลยในทันทีที่ทั่วร่างของเขาเริ่มเกิดการลุกไหม้ !
***
"อย่างนี้นี่เอง ! ยิ่งลมอัดแน่นมากยิ่งทำให้ไฟยิ่งโหมกระหน่ำ" วูฟร้องเป็นเชิงเข้าใจ ซึ่งมันก็เข้าทีคนช่างซักพอดี
"ยังไงเหรอพี่ ? อธิบายให้ผมเข้าใจด้วยสิ"
"การที่รุ่นพี่ซิลลอยอยู่บนอากาศน่ะเพราะเขาทำให้บริเวณนั้นเกิดกระแสลมอย่างรุนแรงรอบๆ ซึ่งก็แพ้ทางรุ่นพี่ครี้ดที่สามารถควบคุมไฟได้พอดี"
***
ตอนนี้โดมน้ำหายไปแล้ว และเขาก็ขึ้นมาสูงพอสมควร... ถ้าหยุดลมตอนนี้ก็ตกไปกระแทกพื้นกระดูกหักซักท่อนสองท่อนแหงๆ
ซิลคิดพลางดิ้นรนอย่างแสบร้อน... ลองเสกน้ำขึ้นมาดับไฟก็โดนขัดขวางด้วยพลังของคนข้างล่าง ฮึ่ม ! ไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกเฟ้ย !
ซิลตัดสินใจดีดตัวเองพุ่งลงไปอย่างแรงจนดูคล้ายอุกกาบาตเพลิงขนาดจิ๋ว... ด้วยไม่มีทางเลือกอื่นที่จะดับไฟ...
"จะกระแทกตัวเองเข้ากับพื้นเรอะ ! บ้าน่า !" ครี้ดอุทาน มองภาพตรงหน้าอย่างไม่สนใจเลือดที่ไหลท่วม
จู่ๆไฟก็ดับลงโดยที่ครี้ดไม่รู้สาเหตุ ก่อนที่ซิลจะยันตัวเองลงกับพื้นอย่างนิ่มนวล... ครี้ดอดสังเกตไม่ได้ว่าร่างของอีกฝ่ายนั้นเปียกหมาดๆ
"รู้แล้วสินะ ฉันใช้ไอน้ำดับไฟเพื่อไม่ให้นายรู้ตัวไงล่ะ" ซิลพูดออกมาอย่างยากลำบากเพราะรู้สึกร้อนๆในลำคอ
"..." ลำพังเรื่องนั้นครี้ดก็น่าจะคิดได้ทัน แต่ด้วยการกระทำบ้าบิ่นที่เพิ่มแรงไหม้อย่างการพุ่งตัวลงมาทำให้เขาตกใจจนไม่ทันรับรู้
เอาล่ะสิ... ใช้น้ำก็ไม่ได้... ใช้ลมก็แพ้ทางไฟของหมอนั่นอีก...
ถึงจะพ้นวิกฤตมาได้แต่ตอนนี้ซิลก็มีปัญหาหนักที่ต้องขบคิด... ถึงชั้นปีจะสูงกว่าแต่แพ้ทางกันแบบนี้หนทางชนะก็เลือนรางเต็มทน
ระหว่างที่ซิลกำลังใช้ความคิด... แสงสีฟ้าอ่อนๆจากคทาคนตรงหน้าก็เรียกความสนใจ...
บาดแผลจากคมดาบของครี้ดถูกห่อหุ้มไว้ด้วยหยดน้ำขนาดใหญ่ ก่อนหยดน้ำจะค่อยๆหดตัวเล็กลงๆจนหายไปในที่สุด...
แต่ที่น่าแปลกใจคือบาดแผลทุกแห่งก็หายไปพร้อมๆกันด้วย !!
***
"อะไรครับน่ะ ?" เวนัวร์แปลกใจ
"เป็นการนำพลังแฝงมาใช้รักษาบาดแผล... รุ่นพี่ครี้ดน่ะเป็นผู้เชี่ยวชาญการรักษายิ่งกว่ารุ่นพี่ปี 4 ด้วยซ้ำ" ซาร์ฟัสชี้แจง
"หา... อย่างนี้พี่ซิลก็ปิดประตูชนะแล้วสิ... เชสต์ก็แพ้ทาง ไหนจะการโจมตีไม่เป็นผล... เฮ้อ"
ว่าแล้วก็ถอนหายใจผิดหวัง... เกมที่รู้ๆอยู่แล้วว่าใครจะชนะจะไปสนุกอะไรเล่า
"จะด่วนตัดสินอย่างนั้นก็ไม่ได้หรอก ศึกระหว่างผู้ใช้พลังแฝงน่ะพลิกแพลงได้ตลอดเวลาแหละ" ผู้เป็นรุ่นพี่พูดเตือน
***
ซิลชี้ดาบยาวในมือขวาไปตรงหน้า ครี้ดรีบยกมือขึ้นป้องกันตามสัญชาตญาณแม้จะอยู่ไกลพอสมควร
ผู้ใช้เชสต์ลมไม่มีปัญหาเรื่องระยะทางอยู่แล้ว...
ความคิดนี้ทำให้ครี้ดสร้างกำแพงน้ำขึ้นมาโดยรอบ... กันไว้ดีกว่าแก้
ฉัวะ !
เสียงหลายเสียงดังพร้อมกันจนแทบจะรวมเป็นเสียงเดียว... บาดแผลตื้นๆปรากฏขึ้นทั่วกายครี้ด !
"ยอมแพ้ซะเถอะ...อย่าบังคับให้ผมต้องลงมือหนักกว่านี้" ซิลกล่าวด้วยสีหน้าลำบากใจ... เขายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม และไม่มีวี่แววว่าจะขยับตัว
"ง่ายไปมั้ง" น้ำที่อยู่รอบกายโอบล้อมตัวครี้ด มันกำลังรักษาบาดแผลให้เขาเหมือนเมื่อครู่
ฉัวะ !!
เสียงเดิมดังขึ้นอีกครา... มันฝ่าน้ำที่อยู่รอบตัวครี้ดอย่างไม่ยากเย็น... คราวนี้แผลลึกขึ้นกว่าเดิม ทั้งจำนวนแผลก็ยังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว...
"...ยอมแพ้" ครี้ดกัดฟันพูด เขารู้ดีว่าถ้าเป็นการสู้จริงเขาถูกฆ่าได้ง่ายๆด้วยการโจมตีครั้งแรกด้วยซ้ำ
การถ่วงเวลาต่อไปก็จะยิ่งเพิ่มความอับอายให้กับตัวเองที่ต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัยของกฎการประลองเท่านั้นเอง
...กฎการประลองที่ว่าห้ามทำให้อีกฝ่ายถึงแก่ชีวิต หรือทำให้อีกฝ่ายพิกลพิการ
"จบการประลองในรอบแรก ! ซิล ไทรบัล เป็นผู้ชนะ !"
โฆษกคนเดิมประกาศ "เป็นการต่อสู้ที่ดีทีเดียวครับ ขอเสียงปรบมือให้กับผู้เข้าแข่งขันทั้งสองด้วย"
เสียงปรบมือดังขึ้นรอบสนามประลอง มีบุรุษพยาบาลเข้ามาดูแลอาการครี้ด ทว่าเขากลับยกมือห้ามและรักษาแผลด้วยตนเอง
***
"พี่ซิลทำยังไงครับน่ะ ?" เวนัวร์ถามอย่างสนอกสนใจ
"ทำให้ลมหมุนรอบๆอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว แล้วโจมตีพร้อมๆกันจากรอบด้านไงล่ะ"
วูฟเฉลยให้ "ส่วนใหญ่พวกเชสต์ลมก็จะใช้การโจมตีทำนองนี้แหละ จำเอาไว้ให้ดีๆล่ะ"
"ของรุ่นพี่ครี้ด... น้ำกับไฟ... ของเหลวกับอุณหภูมิ..."
เวนัวร์พึมพัม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามความเห็นจากรุ่นพี่ทั้งสอง "นี่ๆ ทำไมรุ่นพี่ครี้ดเขาไม่ทำให้เลือดในตัวของพี่ซิลเดือดปุดๆไปเลยล่ะ แค่นั้นก็ชนะได้แล้ว"
เจ้าตัวดียังคงถามต่อ "จะว่าไปพี่ซิลควบคุมลมไม่ให้เข้าหลอดลมอีกฝ่ายก็ได้ หรือไม่ก็เอาน้ำอุดหน้าซะ ชนะสบายๆ... ทำไมถึงไม่ทำล่ะ ?"
วูฟยิ้มแห้งๆกับคำถามของผู้เป็นรุ่นน้อง "ความคิดของนายนี่สร้างสรรค์จนน่าสยองเลยแฮะเวลล์ โดยเฉพาะความคิดแรกน่ะ"
"ถ้าจะให้อธิบาย... ปกติแล้วทุกสิ่งมีชีวิตจะมีพลังแฝงอยู่ แม้แต่คนธรรมดาๆก็เถอะ ซึ่งพวกเขาใช้ควบคุมกลไกในร่างกายอย่างอัตโนมัติ อย่างเช่นการทำงานของอวัยวะ การไหลเวียนของเลือด ของก๊าซ การรักษาระดับอุณหภูมิ"
ซาร์ฟัสทำท่าครุ่นคิด เขาเองก็ไม่ถนัดทฤษฎีสักเท่าไหร่ "แต่คนธรรมดาก็ไม่สามารถควบคุมพลังแฝงได้ สมมติว่ามันเต็มร้อยก็เอามาใช้ได้ประมาณ 10% เท่านั้นแหละ"
"อย่างที่เจ้าซาร์ฟมันว่า ฉะนั้นพอเราเป็นฟรานส์แล้วพลังก็เพิ่มเป็นสองเท่า แถมยังควบคุมพลังแฝงได้" วูฟเสริม
เวนัวร์เริ่มคิดว่าที่พูดๆมานี่ไม่เห็นจะเกี่ยวกับคำถามของเขาสักเท่าไหร่
"กำลังจะเข้าเรื่องนี่แหละ" ซาร์ฟัสเดาสีหน้ารุ่นน้อง "เพราะฉะนั้นถ้าเราใช้พลังแฝงโจมตีไปยังระบบภายในของผู้อื่น พลังแฝงของเขาที่เก็บกักอยู่ก็จะป้องกันตัวเอง ดังนั้นวิธีที่นายว่าจึงไม่ได้ผลหรอก... แม้แต่กับคนธรรมดา"
"นายต้องมีพลังมากกว่าอีกฝ่ายมหาศาลเลยล่ะถึงจะทำได้ แล้วมันก็สิ้นเปลืองพลังโดยใช่เหตุด้วย เพราะฉะนั้นโจมตีภายนอกง่ายกว่าเยอะ" วูฟสรุป
***
"เอาล่ะครับ ถึงเวลาที่คู่ต่อไปจะเริ่มประลอง... ระหว่างนักเรียนปีสาม เนียน่า อีลาเนสซี่ กับนักเรียนปีสี่ กิล อาราทาเซีย !"
ชายชุดดำประกาศอีกครั้ง "เป็นการจับคู่ระหว่างเด็กสาวทั้งสองคน เป็นที่น่าสนใจครับว่าการประลองจะมีผลออกมาเป็นแบบใด... เริ่มการประลองได้ !" เขาพูดเมื่อเห็นทั้งสองฝ่ายขึ้นมาเตรียมพร้อมเรียบร้อย
คนหนึ่งคือรุ่นพี่เนียน่าที่เวนัวร์เคยเจอครั้งหนึ่ง เธอยังคงแต่งตัวหรูหราฟุ่มเฟือยเช่นเคยแม้ในยามอยู่บนพื้นสนาม
ส่วนอีกหนึ่งเป็นหญิงสาวหน้าใหม่ที่เขาไม่รู้จัก ท่าทางหันรีหันขวางดูเปิ่นๆ นัยน์ตาสีแดงสดสอดส่องไปมาเหมือนทำอะไรไม่ถูก
เสียงตวัดมีดแหวกอากาศดังขึ้นอย่างชัดเจนบ่งบอกถึงความคมของใบมีด ทว่ามันดังขึ้นมาจากด้านหลังของเจ้าของนัยน์ตาสีแดง
เธอกระโจนไปข้างหน้า ก้มตัวหลบในทันที แต่กระนั้นปลายผมส่วนหนึ่งก็ถูกคมมีดนั้นเฉือนออกไป เศษผมสีทองดูระยิบระยับอยู่กลางอากาศก่อนมันจะร่วงลงสู่พื้นสนาม
"สัญญาณเริ่มดังแล้วนะคะ" เนียน่าพูดยิ้มๆ
"เธอเองก็เป็นผู้หญิง..." สาวผู้สูงวัยกว่าเอ่ยช้าๆ "น่าจะรู้นะว่าเส้นผมน่ะเป็นชีวิตของหญิงสาว !" ลงท้ายด้วยเสียงเฉียบขาด
โดยไม่รู้ตัว เข็มโลหะเล่มเล็กๆสองเล่มก็แทงทะลุผิวบางบนหลังมือขวาของเนียน่า มีดสั้นบนมือร่วงสู่พื้นอย่างช่วยไม่ได้
"ต่อไปจะเป็นคอ" หญิงสาวปีสี่ร้องขู่
"น่ากลัวจัง" เนียน่าทำท่าตกใจ... ซึ่งแม้แต่เด็กประถมก็คงรู้ว่าเสแสร้งชัดๆ
เนียน่าใช้เท้าเตะมีดเสยขึ้นมาเข้ามือซ้ายพอดิบพอดี เธอใช้เปลี่ยนลมให้เป็นใบมีดหมุนวนอยู่รอบตัวรุ่นพี่สาว... แบบเดียวกับที่ซิลใช้เมื่อครู่
"พี่กิล... พี่นั่นแหละที่ควรจะยอมแพ้ได้แล้ว" หญิงสาวพูดอย่างเป็นต่อ
"ไม่มีทาง~ ให้ยอมแพ้เธอล่ะก็ ฉันยอมตายเสียดีกว่า" หญิงสาวเจ้าของนามกิลไม่มีท่าทียี่หระแม้แต่น้อย
"...พี่เลือกทางนี้เองนะ"
แล้วคมมีดทั้งหมดก็พุ่งเข้าโจมตีกิลทันที !
-' To Be Continue '-
-' Chapter 11 : ศึกพลังแฝง '-
"เริ่มการประลองได้ !"
ชายผมขาวจอนยาวในชุดครุยตัวยาวยืนอย่างสงบรอดูท่าทีจากฝ่ายตรงข้าม
เช่นเดียวกับอีกฝ่าย... มือขวาของซิลกระชับดาบเรียวยาวในมือ ในขณะที่มือซ้ายกุมดาบยาวอีกเล่มตรงเอวแน่น
หัวลูกแก้วบนคทาที่เดิมสีแดงหม่นๆ บัดนี้มันส่องแสงสีแดงจ้า เรียกเปลวเพลิงตีขนาบอีกฝ่ายราวกับปีกยักษ์ที่กำลังโอบล้อม
ซิลไม่รอช้า เขาวาดดาบเป็นวงกลมล้อมรอบตัวเอง ฉับพลันเปลวเพลิงเหล่านั้นก็พุ่งเข้าปะทะกับกำแพงน้ำที่พวยพุ่งขึ้นจากผืนดิน
แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็บังเกิด ราวกับกำแพงน้ำของเขาพิโรธ... มันขยายตัวเป็นคลื่นยักษ์โถมเข้าใส่ผู้เป็นนาย
"นายก็เป็นผู้ควบคุมน้ำเหมือนกันงั้นสินะ" ซิลอุบอิบ เขายังคงยืนนิ่งอย่างใจเย็น
คลื่นยักษ์ที่รายล้อมบดบังตัวซิลจนมิดราวกับโดมน้ำ บรรดาคนดูหรือแม้แต่ครี้ดก็ไม่อยู่ในมุมที่จะมองเห็น
บางสิ่งบางอย่างพุ่งขึ้นผ่านโดมน้ำด้านบนซึ่งเป็นส่วนที่แรงดันเบาบางที่สุด เขาลอยอยู่กลางอากาศโดยไม่มีแม้แต่อุปกรณ์ช่วยใดๆ
"รับมือ !" ดาบทั้งสองที่ตอนนี้อยู่บนมือเป็นที่เรียบร้อยฟาดฟันอย่างรวดเร็วและรุนแรง
ถึงระยะจะห่างกันหลายเมตร แต่คมดาบลมก็ปรากฎให้เห็นเบื้องหน้าครี้ดในอึดใจ
เสียงแสบหูดังขึ้นเมื่อคมดาบปะทะเข้ากับคทารูปสลักมังกรสีทองของครี้ด แต่กระนั้นคมดาบบางส่วนก็ยังเชือดเฉือนเขาจนเลือดไหลพรากหลายแห่ง
ทำไมถึงไม่ยอมป้องกัน...
ความคิดของซิลถูกเฉลยในทันทีที่ทั่วร่างของเขาเริ่มเกิดการลุกไหม้ !
***
"อย่างนี้นี่เอง ! ยิ่งลมอัดแน่นมากยิ่งทำให้ไฟยิ่งโหมกระหน่ำ" วูฟร้องเป็นเชิงเข้าใจ ซึ่งมันก็เข้าทีคนช่างซักพอดี
"ยังไงเหรอพี่ ? อธิบายให้ผมเข้าใจด้วยสิ"
"การที่รุ่นพี่ซิลลอยอยู่บนอากาศน่ะเพราะเขาทำให้บริเวณนั้นเกิดกระแสลมอย่างรุนแรงรอบๆ ซึ่งก็แพ้ทางรุ่นพี่ครี้ดที่สามารถควบคุมไฟได้พอดี"
***
ตอนนี้โดมน้ำหายไปแล้ว และเขาก็ขึ้นมาสูงพอสมควร... ถ้าหยุดลมตอนนี้ก็ตกไปกระแทกพื้นกระดูกหักซักท่อนสองท่อนแหงๆ
ซิลคิดพลางดิ้นรนอย่างแสบร้อน... ลองเสกน้ำขึ้นมาดับไฟก็โดนขัดขวางด้วยพลังของคนข้างล่าง ฮึ่ม ! ไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกเฟ้ย !
ซิลตัดสินใจดีดตัวเองพุ่งลงไปอย่างแรงจนดูคล้ายอุกกาบาตเพลิงขนาดจิ๋ว... ด้วยไม่มีทางเลือกอื่นที่จะดับไฟ...
"จะกระแทกตัวเองเข้ากับพื้นเรอะ ! บ้าน่า !" ครี้ดอุทาน มองภาพตรงหน้าอย่างไม่สนใจเลือดที่ไหลท่วม
จู่ๆไฟก็ดับลงโดยที่ครี้ดไม่รู้สาเหตุ ก่อนที่ซิลจะยันตัวเองลงกับพื้นอย่างนิ่มนวล... ครี้ดอดสังเกตไม่ได้ว่าร่างของอีกฝ่ายนั้นเปียกหมาดๆ
"รู้แล้วสินะ ฉันใช้ไอน้ำดับไฟเพื่อไม่ให้นายรู้ตัวไงล่ะ" ซิลพูดออกมาอย่างยากลำบากเพราะรู้สึกร้อนๆในลำคอ
"..." ลำพังเรื่องนั้นครี้ดก็น่าจะคิดได้ทัน แต่ด้วยการกระทำบ้าบิ่นที่เพิ่มแรงไหม้อย่างการพุ่งตัวลงมาทำให้เขาตกใจจนไม่ทันรับรู้
เอาล่ะสิ... ใช้น้ำก็ไม่ได้... ใช้ลมก็แพ้ทางไฟของหมอนั่นอีก...
ถึงจะพ้นวิกฤตมาได้แต่ตอนนี้ซิลก็มีปัญหาหนักที่ต้องขบคิด... ถึงชั้นปีจะสูงกว่าแต่แพ้ทางกันแบบนี้หนทางชนะก็เลือนรางเต็มทน
ระหว่างที่ซิลกำลังใช้ความคิด... แสงสีฟ้าอ่อนๆจากคทาคนตรงหน้าก็เรียกความสนใจ...
บาดแผลจากคมดาบของครี้ดถูกห่อหุ้มไว้ด้วยหยดน้ำขนาดใหญ่ ก่อนหยดน้ำจะค่อยๆหดตัวเล็กลงๆจนหายไปในที่สุด...
แต่ที่น่าแปลกใจคือบาดแผลทุกแห่งก็หายไปพร้อมๆกันด้วย !!
***
"อะไรครับน่ะ ?" เวนัวร์แปลกใจ
"เป็นการนำพลังแฝงมาใช้รักษาบาดแผล... รุ่นพี่ครี้ดน่ะเป็นผู้เชี่ยวชาญการรักษายิ่งกว่ารุ่นพี่ปี 4 ด้วยซ้ำ" ซาร์ฟัสชี้แจง
"หา... อย่างนี้พี่ซิลก็ปิดประตูชนะแล้วสิ... เชสต์ก็แพ้ทาง ไหนจะการโจมตีไม่เป็นผล... เฮ้อ"
ว่าแล้วก็ถอนหายใจผิดหวัง... เกมที่รู้ๆอยู่แล้วว่าใครจะชนะจะไปสนุกอะไรเล่า
"จะด่วนตัดสินอย่างนั้นก็ไม่ได้หรอก ศึกระหว่างผู้ใช้พลังแฝงน่ะพลิกแพลงได้ตลอดเวลาแหละ" ผู้เป็นรุ่นพี่พูดเตือน
***
ซิลชี้ดาบยาวในมือขวาไปตรงหน้า ครี้ดรีบยกมือขึ้นป้องกันตามสัญชาตญาณแม้จะอยู่ไกลพอสมควร
ผู้ใช้เชสต์ลมไม่มีปัญหาเรื่องระยะทางอยู่แล้ว...
ความคิดนี้ทำให้ครี้ดสร้างกำแพงน้ำขึ้นมาโดยรอบ... กันไว้ดีกว่าแก้
ฉัวะ !
เสียงหลายเสียงดังพร้อมกันจนแทบจะรวมเป็นเสียงเดียว... บาดแผลตื้นๆปรากฏขึ้นทั่วกายครี้ด !
"ยอมแพ้ซะเถอะ...อย่าบังคับให้ผมต้องลงมือหนักกว่านี้" ซิลกล่าวด้วยสีหน้าลำบากใจ... เขายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม และไม่มีวี่แววว่าจะขยับตัว
"ง่ายไปมั้ง" น้ำที่อยู่รอบกายโอบล้อมตัวครี้ด มันกำลังรักษาบาดแผลให้เขาเหมือนเมื่อครู่
ฉัวะ !!
เสียงเดิมดังขึ้นอีกครา... มันฝ่าน้ำที่อยู่รอบตัวครี้ดอย่างไม่ยากเย็น... คราวนี้แผลลึกขึ้นกว่าเดิม ทั้งจำนวนแผลก็ยังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว...
"...ยอมแพ้" ครี้ดกัดฟันพูด เขารู้ดีว่าถ้าเป็นการสู้จริงเขาถูกฆ่าได้ง่ายๆด้วยการโจมตีครั้งแรกด้วยซ้ำ
การถ่วงเวลาต่อไปก็จะยิ่งเพิ่มความอับอายให้กับตัวเองที่ต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัยของกฎการประลองเท่านั้นเอง
...กฎการประลองที่ว่าห้ามทำให้อีกฝ่ายถึงแก่ชีวิต หรือทำให้อีกฝ่ายพิกลพิการ
"จบการประลองในรอบแรก ! ซิล ไทรบัล เป็นผู้ชนะ !"
โฆษกคนเดิมประกาศ "เป็นการต่อสู้ที่ดีทีเดียวครับ ขอเสียงปรบมือให้กับผู้เข้าแข่งขันทั้งสองด้วย"
เสียงปรบมือดังขึ้นรอบสนามประลอง มีบุรุษพยาบาลเข้ามาดูแลอาการครี้ด ทว่าเขากลับยกมือห้ามและรักษาแผลด้วยตนเอง
***
"พี่ซิลทำยังไงครับน่ะ ?" เวนัวร์ถามอย่างสนอกสนใจ
"ทำให้ลมหมุนรอบๆอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว แล้วโจมตีพร้อมๆกันจากรอบด้านไงล่ะ"
วูฟเฉลยให้ "ส่วนใหญ่พวกเชสต์ลมก็จะใช้การโจมตีทำนองนี้แหละ จำเอาไว้ให้ดีๆล่ะ"
"ของรุ่นพี่ครี้ด... น้ำกับไฟ... ของเหลวกับอุณหภูมิ..."
เวนัวร์พึมพัม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามความเห็นจากรุ่นพี่ทั้งสอง "นี่ๆ ทำไมรุ่นพี่ครี้ดเขาไม่ทำให้เลือดในตัวของพี่ซิลเดือดปุดๆไปเลยล่ะ แค่นั้นก็ชนะได้แล้ว"
เจ้าตัวดียังคงถามต่อ "จะว่าไปพี่ซิลควบคุมลมไม่ให้เข้าหลอดลมอีกฝ่ายก็ได้ หรือไม่ก็เอาน้ำอุดหน้าซะ ชนะสบายๆ... ทำไมถึงไม่ทำล่ะ ?"
วูฟยิ้มแห้งๆกับคำถามของผู้เป็นรุ่นน้อง "ความคิดของนายนี่สร้างสรรค์จนน่าสยองเลยแฮะเวลล์ โดยเฉพาะความคิดแรกน่ะ"
"ถ้าจะให้อธิบาย... ปกติแล้วทุกสิ่งมีชีวิตจะมีพลังแฝงอยู่ แม้แต่คนธรรมดาๆก็เถอะ ซึ่งพวกเขาใช้ควบคุมกลไกในร่างกายอย่างอัตโนมัติ อย่างเช่นการทำงานของอวัยวะ การไหลเวียนของเลือด ของก๊าซ การรักษาระดับอุณหภูมิ"
ซาร์ฟัสทำท่าครุ่นคิด เขาเองก็ไม่ถนัดทฤษฎีสักเท่าไหร่ "แต่คนธรรมดาก็ไม่สามารถควบคุมพลังแฝงได้ สมมติว่ามันเต็มร้อยก็เอามาใช้ได้ประมาณ 10% เท่านั้นแหละ"
"อย่างที่เจ้าซาร์ฟมันว่า ฉะนั้นพอเราเป็นฟรานส์แล้วพลังก็เพิ่มเป็นสองเท่า แถมยังควบคุมพลังแฝงได้" วูฟเสริม
เวนัวร์เริ่มคิดว่าที่พูดๆมานี่ไม่เห็นจะเกี่ยวกับคำถามของเขาสักเท่าไหร่
"กำลังจะเข้าเรื่องนี่แหละ" ซาร์ฟัสเดาสีหน้ารุ่นน้อง "เพราะฉะนั้นถ้าเราใช้พลังแฝงโจมตีไปยังระบบภายในของผู้อื่น พลังแฝงของเขาที่เก็บกักอยู่ก็จะป้องกันตัวเอง ดังนั้นวิธีที่นายว่าจึงไม่ได้ผลหรอก... แม้แต่กับคนธรรมดา"
"นายต้องมีพลังมากกว่าอีกฝ่ายมหาศาลเลยล่ะถึงจะทำได้ แล้วมันก็สิ้นเปลืองพลังโดยใช่เหตุด้วย เพราะฉะนั้นโจมตีภายนอกง่ายกว่าเยอะ" วูฟสรุป
***
"เอาล่ะครับ ถึงเวลาที่คู่ต่อไปจะเริ่มประลอง... ระหว่างนักเรียนปีสาม เนียน่า อีลาเนสซี่ กับนักเรียนปีสี่ กิล อาราทาเซีย !"
ชายชุดดำประกาศอีกครั้ง "เป็นการจับคู่ระหว่างเด็กสาวทั้งสองคน เป็นที่น่าสนใจครับว่าการประลองจะมีผลออกมาเป็นแบบใด... เริ่มการประลองได้ !" เขาพูดเมื่อเห็นทั้งสองฝ่ายขึ้นมาเตรียมพร้อมเรียบร้อย
คนหนึ่งคือรุ่นพี่เนียน่าที่เวนัวร์เคยเจอครั้งหนึ่ง เธอยังคงแต่งตัวหรูหราฟุ่มเฟือยเช่นเคยแม้ในยามอยู่บนพื้นสนาม
ส่วนอีกหนึ่งเป็นหญิงสาวหน้าใหม่ที่เขาไม่รู้จัก ท่าทางหันรีหันขวางดูเปิ่นๆ นัยน์ตาสีแดงสดสอดส่องไปมาเหมือนทำอะไรไม่ถูก
เสียงตวัดมีดแหวกอากาศดังขึ้นอย่างชัดเจนบ่งบอกถึงความคมของใบมีด ทว่ามันดังขึ้นมาจากด้านหลังของเจ้าของนัยน์ตาสีแดง
เธอกระโจนไปข้างหน้า ก้มตัวหลบในทันที แต่กระนั้นปลายผมส่วนหนึ่งก็ถูกคมมีดนั้นเฉือนออกไป เศษผมสีทองดูระยิบระยับอยู่กลางอากาศก่อนมันจะร่วงลงสู่พื้นสนาม
"สัญญาณเริ่มดังแล้วนะคะ" เนียน่าพูดยิ้มๆ
"เธอเองก็เป็นผู้หญิง..." สาวผู้สูงวัยกว่าเอ่ยช้าๆ "น่าจะรู้นะว่าเส้นผมน่ะเป็นชีวิตของหญิงสาว !" ลงท้ายด้วยเสียงเฉียบขาด
โดยไม่รู้ตัว เข็มโลหะเล่มเล็กๆสองเล่มก็แทงทะลุผิวบางบนหลังมือขวาของเนียน่า มีดสั้นบนมือร่วงสู่พื้นอย่างช่วยไม่ได้
"ต่อไปจะเป็นคอ" หญิงสาวปีสี่ร้องขู่
"น่ากลัวจัง" เนียน่าทำท่าตกใจ... ซึ่งแม้แต่เด็กประถมก็คงรู้ว่าเสแสร้งชัดๆ
เนียน่าใช้เท้าเตะมีดเสยขึ้นมาเข้ามือซ้ายพอดิบพอดี เธอใช้เปลี่ยนลมให้เป็นใบมีดหมุนวนอยู่รอบตัวรุ่นพี่สาว... แบบเดียวกับที่ซิลใช้เมื่อครู่
"พี่กิล... พี่นั่นแหละที่ควรจะยอมแพ้ได้แล้ว" หญิงสาวพูดอย่างเป็นต่อ
"ไม่มีทาง~ ให้ยอมแพ้เธอล่ะก็ ฉันยอมตายเสียดีกว่า" หญิงสาวเจ้าของนามกิลไม่มีท่าทียี่หระแม้แต่น้อย
"...พี่เลือกทางนี้เองนะ"
แล้วคมมีดทั้งหมดก็พุ่งเข้าโจมตีกิลทันที !
-' To Be Continue '-
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น