ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 10 : เชสต์
-'๑'- Doppelganger -'๑'-
-' Chapter 10 : เชสต์ '-
นัยน์ตาสีม่วงกะพริบปริบๆ คิ้วทั้งสองขมวดมุ่นอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ไม่ต่างกับสีหน้าฉงนสงสัยของเพื่อนร่วมห้องบางคนในขณะนี้
"นี่มันเครื่องบ้าอะไรล่ะเนี่ย !?" เวนัวร์โวยวายให้เพื่อนร่วมกลุ่มคนหนึ่งฟัง
ที่อยู่บนโต๊ะของนักเรียนทุกคน รวมทั้งโต๊ะของเวนัวร์ตอนนี้ก็คืออุปกรณ์บางๆชิ้นหนึ่ง ความยาวประมาณฝ่ามือ
มันมีกรอบสีดำทึบ ข้างในเป็นเหมือนกับกระดานดำที่ว่างเปล่า ส่วนทางซ้ายมือสุดติดกับกรอบเป็นเหมือนกับเครื่องตรวจอะไรสักอย่างสีแดงเรืองๆ ในขณะที่ข้างขวาไม่มี
"ไม่รู้" ราเฟรย์อัสยักไหล่อย่างไม่สนใจ
"เออ... ว่าแต่ไอรินเป็นยังไงมั่งล่ะ" เวนัวร์ถามเมื่อไม่เห็นเพื่อนสาว
ราเฟรย์อัสไม่ตอบ เพียงแต่ชี้ไปยังประตูห้อง
"อ้าว หายดีแล้วเหรอ ?" เวนัวร์มองหน้าคนที่เพิ่งมา ไอรินลุกลี้ลุกลนวางสัมภาระลงข้างๆโต๊ะ
"จ้ะ ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง" ไอรินยิ้มประหม่า ก่อนจะทำหน้าฉงนอีกคนเมื่อเห็นวัตถุที่อยู่บนโต๊ะ
"เฮ้... ไม่ใช่ว่าฝืนนา..." หน้าไอรินดูซีดๆจนทำให้เวนัวร์อดพูดไม่ได้
"ไม่เป็นไรๆ ฉันสบายดีไม่ต้องห่วง"
"งั้นก็ดีไป..." เวนัวร์เลิกเซ้าซี้ เพราะลองพูดอย่างนี้ยังไงเขาก็คงทำอะไรไม่ได้ "ว่าแต่ตกลงเธอเป็นอะไรไปล่ะ ? เมื่อวานน่ะ"
"อ่า..." ไอรินทำท่าอึกอัก "เอ้อ ! อาจารย์มาแล้ว ไว้คุยกันทีหลังนะ" เธอหาทางเลี่ยง ซึ่งเวนัวร์เองก็ไม่ได้ติดใจอะไร
เวนัวร์ไม่ได้จำหรือแม้แต่จะดูตารางสอนสักนิดว่าทั้งสัปดาห์เรียนวิชาอะไรบ้าง แต่การที่ครูสาวคนเดิมเข้ามาก็ทำให้เขาพอเดาได้ว่าคาบนี้คงไม่พ้นวิชาพลังแฝง...
"พวกเราเจอกันเป็นคาบเรียนที่สองแล้ว... วันนี้ครูจะให้พวกเธอทดสอบอะไรบางอย่างกัน"
เดรส เอลลาเนส ผู้สอนวิชาพลังแฝงกล่าวอย่างกระฉับกระเฉงเหมือนเคย "ก่อนอื่นนำหัวแม่โป้งซ้ายทาบลงไปกับอุปกรณ์ข้างหน้าเสียก่อน"
"อย่างนี้เหรอ ?" เวนัวร์กระซิบถาม เขาวางนิ้วลงบนแท่นที่คล้ายๆเครื่องตรวจ
"งั้นมั้ง" ราเฟรย์อัสตอบสั้นๆ พลางยักไหล่แบบไม่รู้ไม่ชี้ตามเคย
เสียงสัญญาณดังขึ้นเบาๆพอให้ได้ยิน ข้อความบางอย่างปรากฏขึ้นในตรงส่วนของกระดานดำ
First Shest : Unknown
Second Shest : Shadow
นัยน์ตาสีม่วงหรี่ลงอย่างไม่เข้าใจ
...อะไรกันล่ะเนี่ย ?
"ข้อความที่ปรากฎขึ้นมานั้นหมายถึง เชสต์ หรือหมายถึงพลังที่เธอสามารถควบคุมได้ อย่าง Flame ก็ควบคุมเพลิงและอุณหภูมิ Ground ก็ควบคุมผืนพสุธาและแรงสั่นสะเทือน"
เดรสอธิบายเมื่อเห็นสีหน้าฉงนของนักเรียนหลายๆคน "โดยส่วนใหญ่จะมีแยกเป็นเชสต์หลักและเชสต์รอง อย่างละชนิด แต่บางคนอาจจะไม่มี หรือบางคนอาจจะมีหลายชนิดก็ได้"
อ้อ... งั้นที่เชสต์รองของเราก็คือ Shadow ...หมายความว่าเราสามารถควบคุมเงาได้ระดับหนึ่งสินะ...
จะว่าไปก็เหมาะกับชื่อเจ้าชาโดว์ดีเหมือนกัน... ว่าแต่ว่า... Unknown นี่ล่ะ... คืออะไร ??
"อาจารย์... แล้ว Unknown นี่หมายความว่ายังไงหรือครับ"
เป็นคำถามที่อยู่ในใจเวนัวร์พอดี... เวนัวร์เงยหน้ามองคนถามที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน
ไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหน... ซีลุคนั่นเอง...
"Unknown... อืม... ไหนใครที่มีข้อความนี้ขึ้นมาบ้าง ลุกขึ้นยืนซิ"
เวนัวร์ลังเลเล็กน้อย... มีคนลุกขึ้นไม่กี่คน... ซีลุค... ยูริเอล... และคนสุดท้าย... คนที่ทำให้เขาถึงกับตะลึงงัน...
แม้จะเห็นเพียงแผ่นหลังของร่างบาง ไหล่เล็กๆที่ลู่ลง และผมเส้นเล็กๆสีเทาที่ยาวคลอบ่า แต่เวนัวร์ก็มั่นใจ...
ผู้หญิงคนเมื่อคืน !?
"มีแค่ 3 คนใช่ไหม ?" เสียงของเดรสทำเอาเขาสะดุ้งเฮือก รู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง
"อ๊ะ ผมด้วยๆ !" เวนัวร์พูดเสียงดังโดยไม่ตั้งใจ แต่ผลคือหลายๆคนหันมามองเขาเป็นเป้าสายตา... รวมทั้งเด็กสาวคนนั้นด้วย...
เวนัวร์รู้สึกเสียวสันหลัง... เจ้าหล่อนจะจำเขาได้ไหมล่ะนี่...
"อืม... พลังแฝงของแต่ละคนจะมีลักษณะพิเศษแตกต่างกันไป โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้จะตรวจจับในส่วนของเชสต์ในแต่ละคน"
ครูสาวพูดต่อ "ปกติแล้วเราจะอ้างอิงมาจากลักษณะเฉพาะที่เคยปรากฏในปีก่อนๆ ฉะนั้นถ้าขึ้นว่า Unknown ก็หมายถึงเชสต์นั้นยังไม่เคยปรากฎให้เห็น... เพราะฉะนั้นพวกเธอก็ฝึกลำบากกันหน่อย แต่ก็ขอให้พยายามค้นหาตัวเองให้พบว่าสามารถควบคุมอะไรได้... เอาล่ะ นั่งลงได้"
ทั้งสี่คนนั่งลงด้วยความรู้สึกที่ต่างกันออกไป แต่สำหรับเวนัวร์แล้วเขารู้สึกโล่งใจเป็นที่สุดที่เห็นว่าเด็กสาวจำเขาไม่ได้
...แต่ก็น่าเสียดายนิดๆแฮะ
"คาบเรียนนี้จบแค่นี้แหละ ! มีคำสั่งให้พาพวกเธอไปศึกษาวิธีการต่อสู้และวิธีการใช้พลังแฝงตลอดทั้งสัปดาห์ เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันนี้และอีกราว 3 วัน พวกเธอจะเรียนไม่มากนัก"
เสียงดังจ้อกแจ้กอย่างเริงร่าดังขึ้นทันทีที่เดรสพูดจบประโยค "เอ้า ! ตามมาได้แล้ว !" เธอเดินนำออกจากห้องไป
"ราฟๆ รู้ไหมว่าผู้หญิงผมสีเทาๆเมื่อกี้น่ะเป็นใคร ?" เวนัวร์กระซิบถาม
"อย่ามาย่อชื่อคนอื่นตามใจชอบสิฟะ แล้วนายนี่ก็ช่างซักช่างถามจริงนะ เรื่องพรรค์นั้นฉันไม่รู้หรอก" ราเฟรย์อัสขมวดคิ้วเล็กน้อย
"ก็คนมันไม่รู้นี่นา จะให้ทำยังไงเล่า ?" และแล้วเจ้าคนช่างถามก็หลุดคำถามออกมาอีกคำ
"เจมม่า เทอร์มินัส อายุสิบเจ็ดปี ส่วนสูงประมาณ 160 น้ำหนัก 49 นิดๆ อกคัพ B ...นายสนใจงั้นรึ ?"
เวนัวร์มองหน้าเจ้าคนที่ตอบคำถามของเขาซะละเอียดยิบ... มาคัส เวนเซน
เจ้าของนัยน์ตากรุ้มกริ่มส่อแววเจ้าชู้ที่เวนัวร์เคยเห็น... และตอนนี้เขาก็สามารถฟันธงลงไปได้แล้วว่ามันเจ้าชู้จริงๆ
แต่เจ้าเครื่องหมายบวกกลางหน้าผากนั่น... เห็นทีไรก็ทำให้เวนัวร์รู้สึกหงุดหงิดทุกที...
"แฟชั่นของทวีปอะไรล่ะนั่น ?" เขาลองถามดู
"นายนี่ช่างถามเหมือนที่เพื่อนนายบอกเลยแฮะ" มาคัสถอนหายใจ
"เรื่องของฉันน่า ว่าแต่นายแอบฟังตลอดเลยเรอะเนี่ย ?" เวนัวร์ถามโดยไม่รู้ตัวอีกครั้ง
"เฮ้ๆ หน้าที่ของหัวหน้าห้องก็ต้องดูแลทุกข์สุขของลูกน้องสิ"
มาคัสยืดอก เขาดึงตัวเวนัวร์มาใกล้ๆพลางกระซิบ "ในฐานะของผู้เชี่ยวชาญเกมรัก ฉันขอแนะนำนะ ถ้าคิดจะจีบเจ้าหล่อนล่ะก็... เตรียมชุดปฐมพยาบาลไว้หน่อยก็ดี" เขายิ้มจนเห็นฟันขาว
เวนัวร์เหลือบมองผ้าพันแผลที่ไหล่ซ้ายของผู้เชี่ยวชาญเกมรัก พลางทำเสียงรับรู้เบาๆในลำคอ
"เฮ้ยๆ อย่าเข้าใจผิดนะเฟ้ย ! อย่างฉันน่ะเอาเข้าจริงก็ไม่พลาดหรอก แค่ยัยนั่นไม่ค่อยตรงสเป็คฉันเท่านั้นแหละ" มาคัสแก้ตัวเป็นพัลวัน
"โอเค... เข้าใจแล้ว... คุณผู้เชี่ยวชาญ" เวนัวร์ย้ำคำสุดท้ายชัดถ้อยชัดคำ แต่อาการกลั้นหัวเราะของเขาทำเอามาคัสร้อนตัว
...ถ้ามาคัสหูไม่ฝาด... เขาคิดว่าเขาได้ยินคนตรงหน้าที่เพิ่งวิ่งไปพูดคำว่า 'องุ่นเปรี้ยว' เบาๆ
=============================================================
นี่มันภายในโรงเรียนจริงๆเรอะ !?
นัยน์ตาสีม่วงที่ปกติเคยเรียวยาวคมกริบ... บัดนี้มันกลับเบิกกว้าง
ลานประลอง... ซึ่งที่ถูกน่าจะเรียกว่าโคลอสเซี่ยมตรงหน้า หรูหราและโอ่อ่าชนิดที่เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็น
ยังดีที่ว่าพื้นสนามและที่นั่งทำมาจากคอนกรีต ไม่ใช่ทองคำ... เพราะไม่งั้นเขาก็คงตัดสินใจได้ว่าแค่สถานที่นี้สถานที่เดียวก็คิดเป็นมูลค่าสูงกว่าทรัพย์สมบัติของกษัตริย์บางทวีปเสียอีก
"ทำไมทำซะเวอร์อย่างนี้ล่ะเนี่ย ?" เสียงจากตัวปัญหา ที่ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็เอามาถามได้เสมอ
"ฉันจะรู้เรอะ" ราเฟรย์อัสยักไหล่เป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวัน
"นายรู้อะไรบ้างเนี่ย ?" เจ้าตัวดีเอ่ยประชด
"จะไปรู้เรอะ" คำตอบเดิมๆ
"..."
พื้นสนามที่เป็นวงกลม บัดนี้มีชายหญิงสี่คนมายืนประจำทิศทั้งสี่ทิศรอบๆ
เวนัวร์เห็นลินน์ยืนอยู่เป็นหนึ่งในนั้น ส่วนอีก 3 คนเขาไม่แม้แต่จะเคยเห็น
เกือบติดขอบสนาม มีนั่งร้านยื่นออกมา ซึ่งน่าจะเป็นที่สำหรับพวกกรรมการหรือคนใหญ่คนโต
เพราะตอนนี้ผู้อำนวยการฮีธนั่งอยู่ตรงนั้น นอกจากนั้นยังมีคนอื่นๆอีก 3-4 คน
...แต่ที่น่าแปลกใจก็คือมายาเป็นหนึ่งในนั้น ??
"หือ ? มีอะไรกันน่ะ" เวนัวร์รู้สึกผิดสังเกต เมื่อเห็นมายาทำหน้าเครียดกระซิบคุยกับอาจารย์หญิงที่เคยแปลงร่างเป็นนกอินทรี ต่อจากนั้นหญิงสาวก็กระซิบต่อให้ผู้อำนวยการได้รับรู้
"ไม่รู้เหมือนกัน" เสียงที่คุ้นๆหูนี้ไม่ใช่ของราเฟรย์อัส แต่หากเป็นของชาโดว์
"อ้าว... เพิ่งตื่นเรอะ ?"
"เปล่า... ตื่นนานแล้ว... แค่ไม่อยากพูดมากถามมากเหมือนใครบางคน"
เสียงบ่นงึมงำว่าเมื่อไหร่จะเริ่มเสียทีดังขึ้นในหมู่นักเรียนที่นั่งประปรายอยู่เป็นกลุ่มๆ
"เอ่อ... เนื่องจากเหตุไม่คาดฝันบางประการ ทำให้จำนวนผู้แข่งขันที่มาในที่นี้มีแค่ 8 คน จากรายชื่อ 9 คน ขออภัยทุกท่านที่ต้องรอนะครับ"
ชายชุดดำคนที่นั่งอยู่ข่างๆผู้อำนวยการฮีธเอ่ย เขาใส่แว่นดำจนเวนัวร์มองสีหน้าไม่ออก... ยิ่งระยะไกลอย่างนี้ด้วยแล้ว
"หึๆ เจ๊เอจิสแหงๆ" เสียงคุ้นหูดังขึ้นอีกครั้ง
"อ้าวพี่ซาร์ฟัส พี่วูฟด้วย" เวนัวร์หันไปทักทาย
"บอกกี่รอบแล้วว่าไม่ต้องเรียกพี่" ซาร์ฟัสเอ่ยเสียงหงุดหงิด ส่วนวูฟโบกมือรับอย่างสนิทสนม
"ทำใจเหอะพี่ มันชินแล้ว ว่าแต่เจ๊เอจิสที่พี่ว่าน่ะใครรึ ?"
ทั้งซาร์ฟัสทั้งวูฟหัวเราะหึๆในลำคอเมื่อนึกถึงเจ้าหล่อน
"เจ๊เอจิส... นักเรียนหญิงเพียงคนเดียวที่สามารถหลบหนีการจับกุมของผู้คุมกฎได้" วูฟยังหัวเราะไม่หาย
"ใช่ๆ เจ๊แกไม่ชอบออกงาน ยิ่งงานประลองด้วยแล้วนี่ยิ่งอย่าหวังจะได้เห็น" ซาร์ฟัสเสริม
"สรุปว่านายจะไม่ได้เจอเจ๊แกง่ายๆหรอก ฉันพนันหมดตัวเลยว่างานนี้เจ๊แกก็ขอบายตามเคย"
เวลาผ่านไปไม่นานนัก ผู้อำนวยการฮีธก็หันไปพูดอะไรบางอย่างกับชายชุดดำ ซึ่งทำเอาชายคนนั้นถอนหายใจอย่างปลงตก
"อ่า... เอาเป็นว่า... ผมขอเริ่มการประลองเลยก็แล้วกันนะครับ มี 8 คนก็ดีเหมือนกัน จับคู่กันลงตัวพอดี"
ชายชุดดำพูด วูฟกระพริบตาข้างหนึ่งพลางถองเวนัวร์เป็นเชิงบอกว่า 'เห็นไหมล่ะ ? อย่างที่บอกเลย'
"สำหรับคู่แรกในวันนี้... ครี้ด ดิกเค้น ! ปะทะกับ ซิล ไทรบัล ! เป็นที่น่าจับตามองว่านักเรียนปี 3 อย่างครี้ดจะนำกลยุทธ์ไหนมาเผชิญหน้ากับซิลซึ่งเป็นนักเรียนปี 4 นะครับ"
ชายชุดดำซึ่งดูเหมือนจะทำหน้าที่เป็นโฆษกอธิบาย
กลุ่มควันลอยโขมงขึ้นมาจากซุ้มประตูทั้งสองบานที่อยู่ตรงข้ามกัน... ชายสองคนก้าวเดินฝ่าควันออกมายืนอยู่บนพื้นสนาม...
นัยน์ตาของคนทั้งคู่จ้องประสาน... บนมือถืออาวุธคู่กายเพียบพร้อม... หนึ่งคทา หนึงดาบ ต่างถูกยกขึ้นพร้อมใช้งาน...
"เอาล่ะครับ ! เริ่มได้ !!"
-' To Be Continue '-
-' Chapter 10 : เชสต์ '-
นัยน์ตาสีม่วงกะพริบปริบๆ คิ้วทั้งสองขมวดมุ่นอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ไม่ต่างกับสีหน้าฉงนสงสัยของเพื่อนร่วมห้องบางคนในขณะนี้
"นี่มันเครื่องบ้าอะไรล่ะเนี่ย !?" เวนัวร์โวยวายให้เพื่อนร่วมกลุ่มคนหนึ่งฟัง
ที่อยู่บนโต๊ะของนักเรียนทุกคน รวมทั้งโต๊ะของเวนัวร์ตอนนี้ก็คืออุปกรณ์บางๆชิ้นหนึ่ง ความยาวประมาณฝ่ามือ
มันมีกรอบสีดำทึบ ข้างในเป็นเหมือนกับกระดานดำที่ว่างเปล่า ส่วนทางซ้ายมือสุดติดกับกรอบเป็นเหมือนกับเครื่องตรวจอะไรสักอย่างสีแดงเรืองๆ ในขณะที่ข้างขวาไม่มี
"ไม่รู้" ราเฟรย์อัสยักไหล่อย่างไม่สนใจ
"เออ... ว่าแต่ไอรินเป็นยังไงมั่งล่ะ" เวนัวร์ถามเมื่อไม่เห็นเพื่อนสาว
ราเฟรย์อัสไม่ตอบ เพียงแต่ชี้ไปยังประตูห้อง
"อ้าว หายดีแล้วเหรอ ?" เวนัวร์มองหน้าคนที่เพิ่งมา ไอรินลุกลี้ลุกลนวางสัมภาระลงข้างๆโต๊ะ
"จ้ะ ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง" ไอรินยิ้มประหม่า ก่อนจะทำหน้าฉงนอีกคนเมื่อเห็นวัตถุที่อยู่บนโต๊ะ
"เฮ้... ไม่ใช่ว่าฝืนนา..." หน้าไอรินดูซีดๆจนทำให้เวนัวร์อดพูดไม่ได้
"ไม่เป็นไรๆ ฉันสบายดีไม่ต้องห่วง"
"งั้นก็ดีไป..." เวนัวร์เลิกเซ้าซี้ เพราะลองพูดอย่างนี้ยังไงเขาก็คงทำอะไรไม่ได้ "ว่าแต่ตกลงเธอเป็นอะไรไปล่ะ ? เมื่อวานน่ะ"
"อ่า..." ไอรินทำท่าอึกอัก "เอ้อ ! อาจารย์มาแล้ว ไว้คุยกันทีหลังนะ" เธอหาทางเลี่ยง ซึ่งเวนัวร์เองก็ไม่ได้ติดใจอะไร
เวนัวร์ไม่ได้จำหรือแม้แต่จะดูตารางสอนสักนิดว่าทั้งสัปดาห์เรียนวิชาอะไรบ้าง แต่การที่ครูสาวคนเดิมเข้ามาก็ทำให้เขาพอเดาได้ว่าคาบนี้คงไม่พ้นวิชาพลังแฝง...
"พวกเราเจอกันเป็นคาบเรียนที่สองแล้ว... วันนี้ครูจะให้พวกเธอทดสอบอะไรบางอย่างกัน"
เดรส เอลลาเนส ผู้สอนวิชาพลังแฝงกล่าวอย่างกระฉับกระเฉงเหมือนเคย "ก่อนอื่นนำหัวแม่โป้งซ้ายทาบลงไปกับอุปกรณ์ข้างหน้าเสียก่อน"
"อย่างนี้เหรอ ?" เวนัวร์กระซิบถาม เขาวางนิ้วลงบนแท่นที่คล้ายๆเครื่องตรวจ
"งั้นมั้ง" ราเฟรย์อัสตอบสั้นๆ พลางยักไหล่แบบไม่รู้ไม่ชี้ตามเคย
เสียงสัญญาณดังขึ้นเบาๆพอให้ได้ยิน ข้อความบางอย่างปรากฏขึ้นในตรงส่วนของกระดานดำ
First Shest : Unknown
Second Shest : Shadow
นัยน์ตาสีม่วงหรี่ลงอย่างไม่เข้าใจ
...อะไรกันล่ะเนี่ย ?
"ข้อความที่ปรากฎขึ้นมานั้นหมายถึง เชสต์ หรือหมายถึงพลังที่เธอสามารถควบคุมได้ อย่าง Flame ก็ควบคุมเพลิงและอุณหภูมิ Ground ก็ควบคุมผืนพสุธาและแรงสั่นสะเทือน"
เดรสอธิบายเมื่อเห็นสีหน้าฉงนของนักเรียนหลายๆคน "โดยส่วนใหญ่จะมีแยกเป็นเชสต์หลักและเชสต์รอง อย่างละชนิด แต่บางคนอาจจะไม่มี หรือบางคนอาจจะมีหลายชนิดก็ได้"
อ้อ... งั้นที่เชสต์รองของเราก็คือ Shadow ...หมายความว่าเราสามารถควบคุมเงาได้ระดับหนึ่งสินะ...
จะว่าไปก็เหมาะกับชื่อเจ้าชาโดว์ดีเหมือนกัน... ว่าแต่ว่า... Unknown นี่ล่ะ... คืออะไร ??
"อาจารย์... แล้ว Unknown นี่หมายความว่ายังไงหรือครับ"
เป็นคำถามที่อยู่ในใจเวนัวร์พอดี... เวนัวร์เงยหน้ามองคนถามที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน
ไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหน... ซีลุคนั่นเอง...
"Unknown... อืม... ไหนใครที่มีข้อความนี้ขึ้นมาบ้าง ลุกขึ้นยืนซิ"
เวนัวร์ลังเลเล็กน้อย... มีคนลุกขึ้นไม่กี่คน... ซีลุค... ยูริเอล... และคนสุดท้าย... คนที่ทำให้เขาถึงกับตะลึงงัน...
แม้จะเห็นเพียงแผ่นหลังของร่างบาง ไหล่เล็กๆที่ลู่ลง และผมเส้นเล็กๆสีเทาที่ยาวคลอบ่า แต่เวนัวร์ก็มั่นใจ...
ผู้หญิงคนเมื่อคืน !?
"มีแค่ 3 คนใช่ไหม ?" เสียงของเดรสทำเอาเขาสะดุ้งเฮือก รู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง
"อ๊ะ ผมด้วยๆ !" เวนัวร์พูดเสียงดังโดยไม่ตั้งใจ แต่ผลคือหลายๆคนหันมามองเขาเป็นเป้าสายตา... รวมทั้งเด็กสาวคนนั้นด้วย...
เวนัวร์รู้สึกเสียวสันหลัง... เจ้าหล่อนจะจำเขาได้ไหมล่ะนี่...
"อืม... พลังแฝงของแต่ละคนจะมีลักษณะพิเศษแตกต่างกันไป โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้จะตรวจจับในส่วนของเชสต์ในแต่ละคน"
ครูสาวพูดต่อ "ปกติแล้วเราจะอ้างอิงมาจากลักษณะเฉพาะที่เคยปรากฏในปีก่อนๆ ฉะนั้นถ้าขึ้นว่า Unknown ก็หมายถึงเชสต์นั้นยังไม่เคยปรากฎให้เห็น... เพราะฉะนั้นพวกเธอก็ฝึกลำบากกันหน่อย แต่ก็ขอให้พยายามค้นหาตัวเองให้พบว่าสามารถควบคุมอะไรได้... เอาล่ะ นั่งลงได้"
ทั้งสี่คนนั่งลงด้วยความรู้สึกที่ต่างกันออกไป แต่สำหรับเวนัวร์แล้วเขารู้สึกโล่งใจเป็นที่สุดที่เห็นว่าเด็กสาวจำเขาไม่ได้
...แต่ก็น่าเสียดายนิดๆแฮะ
"คาบเรียนนี้จบแค่นี้แหละ ! มีคำสั่งให้พาพวกเธอไปศึกษาวิธีการต่อสู้และวิธีการใช้พลังแฝงตลอดทั้งสัปดาห์ เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันนี้และอีกราว 3 วัน พวกเธอจะเรียนไม่มากนัก"
เสียงดังจ้อกแจ้กอย่างเริงร่าดังขึ้นทันทีที่เดรสพูดจบประโยค "เอ้า ! ตามมาได้แล้ว !" เธอเดินนำออกจากห้องไป
"ราฟๆ รู้ไหมว่าผู้หญิงผมสีเทาๆเมื่อกี้น่ะเป็นใคร ?" เวนัวร์กระซิบถาม
"อย่ามาย่อชื่อคนอื่นตามใจชอบสิฟะ แล้วนายนี่ก็ช่างซักช่างถามจริงนะ เรื่องพรรค์นั้นฉันไม่รู้หรอก" ราเฟรย์อัสขมวดคิ้วเล็กน้อย
"ก็คนมันไม่รู้นี่นา จะให้ทำยังไงเล่า ?" และแล้วเจ้าคนช่างถามก็หลุดคำถามออกมาอีกคำ
"เจมม่า เทอร์มินัส อายุสิบเจ็ดปี ส่วนสูงประมาณ 160 น้ำหนัก 49 นิดๆ อกคัพ B ...นายสนใจงั้นรึ ?"
เวนัวร์มองหน้าเจ้าคนที่ตอบคำถามของเขาซะละเอียดยิบ... มาคัส เวนเซน
เจ้าของนัยน์ตากรุ้มกริ่มส่อแววเจ้าชู้ที่เวนัวร์เคยเห็น... และตอนนี้เขาก็สามารถฟันธงลงไปได้แล้วว่ามันเจ้าชู้จริงๆ
แต่เจ้าเครื่องหมายบวกกลางหน้าผากนั่น... เห็นทีไรก็ทำให้เวนัวร์รู้สึกหงุดหงิดทุกที...
"แฟชั่นของทวีปอะไรล่ะนั่น ?" เขาลองถามดู
"นายนี่ช่างถามเหมือนที่เพื่อนนายบอกเลยแฮะ" มาคัสถอนหายใจ
"เรื่องของฉันน่า ว่าแต่นายแอบฟังตลอดเลยเรอะเนี่ย ?" เวนัวร์ถามโดยไม่รู้ตัวอีกครั้ง
"เฮ้ๆ หน้าที่ของหัวหน้าห้องก็ต้องดูแลทุกข์สุขของลูกน้องสิ"
มาคัสยืดอก เขาดึงตัวเวนัวร์มาใกล้ๆพลางกระซิบ "ในฐานะของผู้เชี่ยวชาญเกมรัก ฉันขอแนะนำนะ ถ้าคิดจะจีบเจ้าหล่อนล่ะก็... เตรียมชุดปฐมพยาบาลไว้หน่อยก็ดี" เขายิ้มจนเห็นฟันขาว
เวนัวร์เหลือบมองผ้าพันแผลที่ไหล่ซ้ายของผู้เชี่ยวชาญเกมรัก พลางทำเสียงรับรู้เบาๆในลำคอ
"เฮ้ยๆ อย่าเข้าใจผิดนะเฟ้ย ! อย่างฉันน่ะเอาเข้าจริงก็ไม่พลาดหรอก แค่ยัยนั่นไม่ค่อยตรงสเป็คฉันเท่านั้นแหละ" มาคัสแก้ตัวเป็นพัลวัน
"โอเค... เข้าใจแล้ว... คุณผู้เชี่ยวชาญ" เวนัวร์ย้ำคำสุดท้ายชัดถ้อยชัดคำ แต่อาการกลั้นหัวเราะของเขาทำเอามาคัสร้อนตัว
...ถ้ามาคัสหูไม่ฝาด... เขาคิดว่าเขาได้ยินคนตรงหน้าที่เพิ่งวิ่งไปพูดคำว่า 'องุ่นเปรี้ยว' เบาๆ
=============================================================
นี่มันภายในโรงเรียนจริงๆเรอะ !?
นัยน์ตาสีม่วงที่ปกติเคยเรียวยาวคมกริบ... บัดนี้มันกลับเบิกกว้าง
ลานประลอง... ซึ่งที่ถูกน่าจะเรียกว่าโคลอสเซี่ยมตรงหน้า หรูหราและโอ่อ่าชนิดที่เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็น
ยังดีที่ว่าพื้นสนามและที่นั่งทำมาจากคอนกรีต ไม่ใช่ทองคำ... เพราะไม่งั้นเขาก็คงตัดสินใจได้ว่าแค่สถานที่นี้สถานที่เดียวก็คิดเป็นมูลค่าสูงกว่าทรัพย์สมบัติของกษัตริย์บางทวีปเสียอีก
"ทำไมทำซะเวอร์อย่างนี้ล่ะเนี่ย ?" เสียงจากตัวปัญหา ที่ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็เอามาถามได้เสมอ
"ฉันจะรู้เรอะ" ราเฟรย์อัสยักไหล่เป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวัน
"นายรู้อะไรบ้างเนี่ย ?" เจ้าตัวดีเอ่ยประชด
"จะไปรู้เรอะ" คำตอบเดิมๆ
"..."
พื้นสนามที่เป็นวงกลม บัดนี้มีชายหญิงสี่คนมายืนประจำทิศทั้งสี่ทิศรอบๆ
เวนัวร์เห็นลินน์ยืนอยู่เป็นหนึ่งในนั้น ส่วนอีก 3 คนเขาไม่แม้แต่จะเคยเห็น
เกือบติดขอบสนาม มีนั่งร้านยื่นออกมา ซึ่งน่าจะเป็นที่สำหรับพวกกรรมการหรือคนใหญ่คนโต
เพราะตอนนี้ผู้อำนวยการฮีธนั่งอยู่ตรงนั้น นอกจากนั้นยังมีคนอื่นๆอีก 3-4 คน
...แต่ที่น่าแปลกใจก็คือมายาเป็นหนึ่งในนั้น ??
"หือ ? มีอะไรกันน่ะ" เวนัวร์รู้สึกผิดสังเกต เมื่อเห็นมายาทำหน้าเครียดกระซิบคุยกับอาจารย์หญิงที่เคยแปลงร่างเป็นนกอินทรี ต่อจากนั้นหญิงสาวก็กระซิบต่อให้ผู้อำนวยการได้รับรู้
"ไม่รู้เหมือนกัน" เสียงที่คุ้นๆหูนี้ไม่ใช่ของราเฟรย์อัส แต่หากเป็นของชาโดว์
"อ้าว... เพิ่งตื่นเรอะ ?"
"เปล่า... ตื่นนานแล้ว... แค่ไม่อยากพูดมากถามมากเหมือนใครบางคน"
เสียงบ่นงึมงำว่าเมื่อไหร่จะเริ่มเสียทีดังขึ้นในหมู่นักเรียนที่นั่งประปรายอยู่เป็นกลุ่มๆ
"เอ่อ... เนื่องจากเหตุไม่คาดฝันบางประการ ทำให้จำนวนผู้แข่งขันที่มาในที่นี้มีแค่ 8 คน จากรายชื่อ 9 คน ขออภัยทุกท่านที่ต้องรอนะครับ"
ชายชุดดำคนที่นั่งอยู่ข่างๆผู้อำนวยการฮีธเอ่ย เขาใส่แว่นดำจนเวนัวร์มองสีหน้าไม่ออก... ยิ่งระยะไกลอย่างนี้ด้วยแล้ว
"หึๆ เจ๊เอจิสแหงๆ" เสียงคุ้นหูดังขึ้นอีกครั้ง
"อ้าวพี่ซาร์ฟัส พี่วูฟด้วย" เวนัวร์หันไปทักทาย
"บอกกี่รอบแล้วว่าไม่ต้องเรียกพี่" ซาร์ฟัสเอ่ยเสียงหงุดหงิด ส่วนวูฟโบกมือรับอย่างสนิทสนม
"ทำใจเหอะพี่ มันชินแล้ว ว่าแต่เจ๊เอจิสที่พี่ว่าน่ะใครรึ ?"
ทั้งซาร์ฟัสทั้งวูฟหัวเราะหึๆในลำคอเมื่อนึกถึงเจ้าหล่อน
"เจ๊เอจิส... นักเรียนหญิงเพียงคนเดียวที่สามารถหลบหนีการจับกุมของผู้คุมกฎได้" วูฟยังหัวเราะไม่หาย
"ใช่ๆ เจ๊แกไม่ชอบออกงาน ยิ่งงานประลองด้วยแล้วนี่ยิ่งอย่าหวังจะได้เห็น" ซาร์ฟัสเสริม
"สรุปว่านายจะไม่ได้เจอเจ๊แกง่ายๆหรอก ฉันพนันหมดตัวเลยว่างานนี้เจ๊แกก็ขอบายตามเคย"
เวลาผ่านไปไม่นานนัก ผู้อำนวยการฮีธก็หันไปพูดอะไรบางอย่างกับชายชุดดำ ซึ่งทำเอาชายคนนั้นถอนหายใจอย่างปลงตก
"อ่า... เอาเป็นว่า... ผมขอเริ่มการประลองเลยก็แล้วกันนะครับ มี 8 คนก็ดีเหมือนกัน จับคู่กันลงตัวพอดี"
ชายชุดดำพูด วูฟกระพริบตาข้างหนึ่งพลางถองเวนัวร์เป็นเชิงบอกว่า 'เห็นไหมล่ะ ? อย่างที่บอกเลย'
"สำหรับคู่แรกในวันนี้... ครี้ด ดิกเค้น ! ปะทะกับ ซิล ไทรบัล ! เป็นที่น่าจับตามองว่านักเรียนปี 3 อย่างครี้ดจะนำกลยุทธ์ไหนมาเผชิญหน้ากับซิลซึ่งเป็นนักเรียนปี 4 นะครับ"
ชายชุดดำซึ่งดูเหมือนจะทำหน้าที่เป็นโฆษกอธิบาย
กลุ่มควันลอยโขมงขึ้นมาจากซุ้มประตูทั้งสองบานที่อยู่ตรงข้ามกัน... ชายสองคนก้าวเดินฝ่าควันออกมายืนอยู่บนพื้นสนาม...
นัยน์ตาของคนทั้งคู่จ้องประสาน... บนมือถืออาวุธคู่กายเพียบพร้อม... หนึ่งคทา หนึงดาบ ต่างถูกยกขึ้นพร้อมใช้งาน...
"เอาล่ะครับ ! เริ่มได้ !!"
-' To Be Continue '-
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น