ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ✰ ✡ Crazy Love ✰ ✡ {เกรทพอร์ช : END}

    ลำดับตอนที่ #8 : ครึ่งใจ

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 61



    นานทีจะเป็นฝ่ายหยอดคำเสี่ยวแต่ดันลืมสกิลความฝีปากร้ายของพี่เกรทไปได้ จริงอย่างพี่มันว่าแหละ คิดจะเป็นคนสำคัญก็ต้องไต่เต้ามาให้ถึงตัวสำรองให้ได้ซะก่อน


    ผมว่าการที่เราทะเลาะกันครั้งนี้มันก็สร้างความใกล้ชิดบางอย่างขึ้น พี่มันยอมคุยกับผมมากกว่าเดิม ถึงแม้จะเป็นการคุยไปกวนไปก็เถอะ แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีล่ะมั้ง


    [ยังอยู่หรือเปล่า

    เสียงของไอ้มิวซ์เรียกสติผมกลับคืนมา เอาแต่คิดถึงเรื่องพี่เกรทจนลืมไปว่าตอนนี้คุยกับมันอยู่ แน่นอนว่าผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้มันฟัง แรกๆ มันก็ด่าไอ้พี่เกรทนั่นแหละ จบเรื่องกลายเป็นผมโดนด่าซะงั้น  


    ยังอยู่ๆ


    [ถ้าพี่เกรทไม่ได้กลับไปคืนดีกับพี่พาย พอร์ชก็มีหวังน่ะสิ

    พูดอีกก็ถูกอีก


    ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อวานพี่มันจะขอโทษผมด้วย ฟังจากที่เล่าก็รู้สึกเห็นใจอ่ะนะ คนที่แฟน(เก่า) บอกว่าชอบคนอื่นมากกว่าตัวเองแม่งจะเจ็บแค่ไหนวะ 

    ถ้าผมเป็นพี่เกรทก็ไม่รู้ว่าจะควบคุมอารมณ์ได้เท่าพี่มันไหม ดีไม่ดีผมอาจจะกลับบ้านไปแล้วก็ได้ ไม่เดินตามหาเด็กข้างบ้านให้เหนื่อยหรอก คิดแล้วก็ปลื้มใจที่รู้ว่าพี่เกรทเป็นห่วงขนาดนี้


    ก็คงงั้น กูว่าจะเนียนเป็นคนปลอบใจพี่เกรทเรื่อยๆ งี้แหละ” 

    นี่คือสิ่งที่ผมคิดหลังจากที่ได้ฟังเรื่องของพี่เกรทบ้าง


    การได้เป็นคนปลอบใจพี่เกรทก็คงทำให้ผมอยู่ในสายตาพี่มันบ้าง แอบหยอดให้พี่มันรู้ตัวสักนิด กวนพี่มันให้โมโหบ้างบางคราว ไม่นานก็คงตกหลุม


    [งี้พอร์ชก็ต้องคุยกับพี่เกรทบ่อยๆ นะ]


    รู้แล้วน่า~”


    ติ๊ง~


    ผมกดเข้าไปดูแจ้งเตือนของเฟซบุ๊ค ส่วนใหญ่ก็มีแต่แจ้งเตือนตอนที่เพื่อนมาไลค์นี่แหละ เว้นก็แต่คราวนี้ที่มีแจ้งเตือนถึงคนที่ผมติดดาวเอาไว้


    ไว้คุยกันนะ แม่เรียกว่ะผมบอกคนปลายสาย กลัวว่าจะคุยกันไม่รู้เรื่องเพราะสติผมหลุดไปกับโพสต์ล่าสุดของไอ้พี่เกรทแล้ว


    [โอเค บาย

    สายถูกตัดไป ผมเลยกลับมาโฟกัสที่โพสต์ของพี่เกรทอีกครั้ง


    สุดทางแค่นี้ความรัก ไม่ว่าฉันคิดไกลสักแค่ไหน..

     

    เพียงไม่กี่นาทียอดไลค์ก็พุ่งไปถึงสองร้อย แฟนคลับพี่มันคงจะเยอะสิท่า เฮ้อบางทีผมก็ไม่ชอบที่มีคนรู้จักพี่เกรทเยอะอย่างนี้ ไม่ชอบที่พี่มันไปประกวดหุ่นอะไรนั่นด้วย แม่งโคตรไม่ชอบเลย  ทำไมไม่เป็นพี่เกรทที่ผมรู้จักแค่คนเดียววะ


    ผมกดถูกใจไปเรียบร้อย คิดว่าถ้าทักไปพี่มันจะตอบผมไหม


    #เพ้อจังนะ

    ส่งปุ๊บก็ read ปั๊บ นึกว่าจะได้รอนานข้ามวัน ลุ้นว่ะพี่มันจะตอบอะไรกลับมาวะ


    *เสือกว่ะ

    อยากเสือกไม่ได้หรือไงเล่า!


    #คิดถึงพี่พายอ่ะดิ

    ไม่ได้จงใจจี้ปมความรักของพี่มันนะ แต่ใครบอกให้ด่ากันก่อนล่ะ


    *เรื่องของกู


    ไม่ได้ต่างจากเมื่อกี้เท่าไหร่ แต่ถือว่ามันซอฟท์ลงกว่าเยอะเลย ผมว่าในหัวพี่เกรทต้องถูกแบ่งเป็นซีกซ้ายกับซีกขวา ทางซ้ายก็จะมีแต่คำพูดดีๆ เพราะๆ ซึ่งนั่นเอาไว้พูดกับครอบครัว แฟน เพื่อน ส่วนทางขวาพี่มันต้องมีแต่คำกวนๆ อย่างนี้ และแน่นอนว่ามีแต่ผมที่ได้รับฟังคำเหล่านั้น รู้สึกพิเศษแบบแปลกๆ แฮะ 


    #มีอะไรก็บอกพอร์ชได้นะเว้ย คุยกับพอร์ชได้

    ผมบอกด้วยความหวังดี อย่างน้อยก็อยากเป็นคนที่พี่เกรทระบายเรื่องนี้ให้ฟังได้ จะได้รู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์บ้าง


    *บอกไปมึงก็ไม่เข้าใจกูหรอก

    ช่วงที่ผมต้องทำใจว่าพี่เกรทมีแฟนมันก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก ไอ้พี่เกรทไม่ได้มีท่าทีเหมือนจะสนใจใคร พี่พายก็คงจะเหมือนกัน คงไม่ได้แสดงท่าทีว่าชอบคนอื่นนอกจากพี่เกรทแน่ พี่เกรทไม่มีคำว่า กูชอบคนนี้ว่ะ หลุดปากมาให้ได้ยินเลยสักครั้ง และมันก็ทำให้ผมตั้งตัวไม่อยู่เมื่อได้ยินว่าพี่พายคือแฟนพี่เกรท เหมือนที่พี่เกรทรู้ว่าพี่พายชอบคนอื่นนั่นแหละ


    ในตอนนั้นร่างกายที่ว่าแย่ยังไม่เท่าใจที่พังเลย ผมตัดสินใจเรียนพิเศษทุกเลิกเรียนเพื่อหลบหน้าพี่เกรท เพื่อหนีความจริง เพื่อให้สมองไม่ต้องมีเวลาว่างมานั่งคิดถึงคนข้างบ้าน ทำทุกอย่างให้ตัวเองยุ่งอยู่ตลอดเวลา ใช้ข้ออ้างที่ว่าอยากเป็นหมอฟันเพื่อให้แม่ไม่ขัด 

    แต่สุดท้ายถึงผมจะขัดพ่อกับแม่ได้ ถึงวิธีนี้จะทำให้ผมไม่มีเวลาว่างมาคิดถึงพี่เกรท ร่างกายของผมกลับไม่ไหว

    มันทำให้ผมรู้ว่าวิธีนี้ไม่ได้ดีสำหรับร่างกายผมเลย มันเป็นวิธีทำร้ายร่างกายอีกทางต่างหาก


    #ถึงพอร์ชจะไม่เข้าใจแต่พอร์ชก็รับฟังได้นะ

    #พี่เกรทเป็นพี่พอร์ช อะไรไม่สบายใจก็บอกน้องคนนี้ได้เสมอ


    นานทีจะเห็นผมจริงจังอย่างนี้ และนี่เหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมได้เข้าใกล้พี่เกรทไปอีกขั้น ถึงไม่รู้ว่าขั้นบันไดมันจะมีเยอะเท่าไหร่ แต่ผมก็ต้องก้าวข้ามมันไปให้ได้


    *กูคิดถึงพาย

    *กูพยายามจะเริ่มใหม่แล้วว่ะ แต่แม่งก็ไม่ได้

    *พยายามจะมองคนใหม่ แต่ก็ไม่มีใครมาแทนพายได้เลย


    ผมยิ้มไม่ใช่รอยยิ้มที่มาจากความสมเพชตัวเอง หรือสงสารตัวเองแต่อย่างใด แต่เป็นรอยยิ้มที่มาจากความพึงพอใจกับสิ่งที่เห็น ผมชอบที่ไอ้พี่เกรทบอกว่าไม่มีใครมาแทนที่พี่พายได้

    ผมจะเกลียดพี่เกรทถ้าพี่มันบอกว่ากำลังมองหาใครเพื่อมาแทนที่คนที่จากไป


    #มันแค่เริ่มต้นเองพี่ จะรีบลืมไปทำไมวะ

    #สิ่งนึงที่พี่ควรเลิกทำคืออย่ามองหาตัวแทน อย่าชอบใครเพราะเห็นว่าเขาเป็นตัวแทนของพี่พาย

    เพราะถ้าเขารู้ว่าเขาเป็นแค่ตัวแทนมันคงจะเจ็บน่าดู เจ็บกว่าฐานะตัวสำรองที่ผมยังไปไม่ถึงอีก


    #อย่าลืมมันแต่ให้เก็บมันไว้ในความทรงจำก็พอ

    #เก็บพี่พายไว้อีกครึ่ง ส่วนอีกครึ่งก็ใช้มันเพื่อเริ่มต้นใหม่ในเวลาที่สมควร


    สิ่งนึงที่ทำให้เราไม่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ เพราะเรามัวแต่คิดว่าเราต้องลืมแฟนเก่าให้ได้ แต่แฟนเก่าก็เป็นคนคนนึงเลยนะ เราสามารถลืมใครสักคนได้จริงๆ หรอ โดยเฉพาะคนที่ทำให้เราเจ็บอย่างนี้ ไม่ได้หรอก วิธีง่ายๆ ซึ่งอาจจะเจ็บหน่อยคือทำใจยอมรับมันซะ ยอมรับว่าเราไม่สามารถทำให้มันกลับไปเป็นเหมือนอดีตได้แล้วเก็บมันไว้เป็นบทเรียน


    *ไปเอามาจากหนังเรื่องไหนอีกล่ะ

    #ดูถูกว่ะ นี่คิดเองเลยนะ


    *คนอย่างมึงเนี่ยนะ รู้จักความรักหรือยัง?


    ก็รู้จักดีกว่าคนที่อกหักแล้วทำใจยังไม่ได้ก็แล้วกัน


    #พอร์ชจริงจังนะเว้ยที่บอกไปอ่ะ

    *อืม


    คำว่า อืมสำหรับใครหลายคน อาจหมายถึงคำตอบส่งๆ เพื่อให้เราเลิกถาม แต่สำหรับผม มันคือการอนุญาตให้ผมก้าวสู่โลกอีกใบ แม้จะไม่รู้ว่าได้สิทธิ์นั้นมากแค่ไหนก็เถอะ

    สเตตัสสุดท้ายหลังจากคุยกับพี่เกรทในวันนี้ ก็คงจะมีแต่เนื้อเพลงนี้เท่านั้นแหละที่แทนความในใจได้


    อยากขอแค่ครึ่งใจให้เธอเริ่มต้นใหม่กับฉัน


    ไม่ขอมากไปใช่ไหมพี่เกรท


    …….


    “ป้านงสวัสดีครับผมเอ่ยทักทายหญิงวัยทำงานด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ป้านงเป็นแม่ของพี่เกรท เป็นป้าข้างบ้านของผม แล้วก็เป็นเหมือนป้าแท้ๆ ของผมด้วย


    อธิบายก่อนว่าทำไมผมมาโผล่ที่หน้าบ้านพี่เกรทในเวลาที่เพลงเคารพธงชาติยังไม่ร้อง คืองี้ผมกำลังทำปฏิบัติการลับๆ ปฏิบัติการหัวใจที่แม้แต่พี่เกรทเองยังไม่รู้ตัว บอกได้ว่าต่อไปนี้ชีวิตไอ้พี่เกรทจะเห็นหน้าผมทุกวันแน่นอน


    เข้ามาก่อนสิพอร์ช.. ” คุณป้ากวักมือให้ผมเข้าไปด้านใน ก่อนจะปิดประตูรั้ว


    เมื่อเช้าป้าไปตลาดเจอขนมที่เราชอบเลยซื้อติดมือมาด้วย ว่าจะให้พี่เกรทเอาไปให้ตอนตื่นพอได้ยินคำว่าไอ้พี่เกรทยังไม่ตื่นเท่านั้นแหละ หูผึ่งเลย

    อยากเห็นหน้าพี่มันตอนเหวอจังเลย เสียดายที่ไม่ได้หยิบโทรศัพท์ติดมือมาด้วย


    ขอบคุณครับป้านี่พี่เกรทนอนอยู่บนห้องใช่ไหมครับเดินเข้ามาบ้านปุ๊บผมก็ชี้ไปยังชั้นสอง พลางคิดว่าแกล้งยังไงให้พี่มันตกใจดี

    ป้านีพยักหน้า แวบนึงที่ป้าและผมสบตากัน เราเข้าใจกันถึงแผนร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะงั้นป้านงเลยเอ่ยขึ้นมา


    ป้าฝากพอร์ชปลุกพี่เกรทหน่อยนะลูก แล้วเดี๋ยวลงมาทานข้าวเช้าด้วยกัน” 

    ใจจริงก็อยากปฏิเสธอยู่หรอกนะเพราะว่าท้องมันอิ่มแล้ว แต่เดี๋ยวแกล้งไอ้พี่เกรทเสร็จค่อยบอกป้านีทีหลังก็ได้เนอะ


    ผมเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง ยิ่งเข้าใกล้ห้องพี่เกรทเท้าสองข้างก็ค่อยๆ ย่องไปอย่างเงียบเชียบ ไอ้พี่เกรทจะล็อคห้องไหมนะ


    แกร๊ก~

    เสร็จโจร หึๆ


    เข้าไปในห้องพี่มันเรียบร้อยก็ตรงดิ่งไปยังคนที่นอนอยู่บนเตียง พี่เกรทใส่เสื้อกล้ามตัวโคร่งกับกางเกงขายาว ผ้าห่มถูกถีบไปอยู่ที่ปลายเท้าอย่างคนขี้ร้อน


    ไม่รู้ตัวว่าเผลอนั่งลงบนเตียงตั้งแต่ตอนไหน แต่รู้ว่าอยากหยุดเวลาเอาไว้ที่ตอนนี้ ตอนที่ได้มองหน้าพี่เกรท คนที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงแต่ก็ยังดูดี คนที่ใส่แค่เสื้อกล้ามก็ยังหล่อ คนที่ผมชอบแอบมองอยู่บ่อยๆ


    หันมาชอบพอร์ชเถอะผมพูดกับคนที่หลับไม่ได้สติ

    ทว่าหลังจากนั้นพี่มันก็เหมือนจะรู้สึกตัว เปลือกตาสองข้างเปิดขึ้น ก่อนจะเบิกกว้างอย่าตกใจ ตามมาด้วยเท้ากระตุก


    โอ๊ย!!”


    เฮ้ย! มึงเข้ามาได้ไงเนี่ย แล้วเป็นไรมากไหม โทษทีว่ะพี่มันรีบลุกจากเตียงมาดูผมที่นั่งอยู่กับพื้น บอกได้คำเดียวว่าปวด ถีบมาได้ไง?


    ถีบพอร์ชทำไมวะลุกขึ้นเสร็จผมก็ย้ายไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน กลัวพี่มันจะมีอาการเท้ากระตุกอีกรอบ เอาแค่รอบเดียวก็ปวดสะโพกแล้วเนี่ย


    เพราะมึงนั่นแหละทำกูตกใจอ้าวว ผิดเองสินะ แล้วนี่เข้ามาในห้องกูได้ไง


    เดินทะลุกำแพงมามั้งรู้กันอยู่ว่าต้องเปิดประตูเข้ามา ถามทำไมวะ แต่เหมือนคำตอบจะไม่เข้าหูพี่ชายสักเท่าไหร่


    อยากกินตีนไหมไอ้พอร์ช

    ขอตีนไก่นะ ชุบแป้งทอดมาด้วยก็ได้

    มีแต่ตีนกูจะกินไหมอูยยย เกรี้ยวกราดว่ะคนเรา


    มาปลุกไปกินข้าว” 

    แล้วก็ยอมบอกเหตุผลที่เข้ามาในห้องนอน กวนอีกทีมีหวังโดนเตะออกจากห้องแน่ ไหนใครว่าหลังตื่นนอนเราจะอารมณ์ดีไงวะ

    บอกแม่ว่าเดี๋ยวกูลงไปง่ะเศร้าอีกละ


    พี่จะประชดรักด้วยการไม่กินข้าวไม่ได้นะเว้ยผมลุกพรวดไปนั่งที่เตียง เอาหน้าวางบนเข่าทั้งสองข้างพร้อมมองพี่เกรทที่นั่งพิงพนักเตียง

    ไอ้บ้า! ใครมันจะไปทำอย่างนั้นวะเอ้า! ก็นึกว่าพี่มันจะทำใจไม่ได้จนคิดทำอะไรบ้าๆ ไง เป็นห่วงก่อนไม่ได้หรอ


    นี่อย่าบอกว่าจะมาชวนกูคุยให้หายเครียดนะ” ได้แต่ยิ้มแหยๆ ให้คนรู้ทัน นั่นไงมึงไม่ต้องมายิ้มเลย


    กลัวพี่เครียดนี่

    กูจะได้รำคาญมึงตอนนี้นี่แหละพี่มันพึมพำเบาๆ แล้วนี่อย่าบอกว่าจะมาหากูทุกวันนะ


    ไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องแปลกตรงไหนในเมือแต่ก่อนเราก็สนิทกัน กลับมาคุยกันเหมือนเดิม กลับมาเจอหน้ากันเหมือนเดิม สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมเห็นจะเป็นความรู้สึกตอนนี้ที่มันก่อตัวเพิ่มขึ้นทุกวัน มันก็ดีไม่ใช่หรือไง


    เหมือนแต่ก่อนที่เราสนิทกันไง

    ถามกูสักคำยังว่าอยากสนิทกับคนหน้าหมูอย่างมึงไหมนี่มันด่ากันทางอ้อมว่าผมเหมือนหมูนี่หว่า


    ไหนบอกเท่านี้พอดี น่ารักสไตล์พอร์ช เหอะ! กลับคำว่ะ ทีงี้ว่าผมอ้วนเฉย แต่ถึงจะว่าผมเป็นหมู ขอแค่ได้เป็นหมูของพี่เกรทคนเดียวก็พอ


    ถึงพี่เกรทจะไม่อยากสนิทกับพอร์ช ไม่อยากเจอหน้าพอร์ช แต่พอร์ชอยากเจอพี่เกรททุกวันเลยนะ


    ปัง!


    ผมลุกพรวดมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้อง อวัยวะที่เป็นแหล่งสูบฉีดเลือดก็เต้นแรงชิบหาย อีกนิดคงทะลุออกมานอกร่างแล้วมั้ง


    หลังจากที่สมองประมวลผลได้ว่าเมื่อกี้เผลอพูดอะไรออกไปผมก็รีบเปิดประตูออกมาจากห้องทันที ไม่มีเวลาไปมองหรอกว่าพี่มันทำสีหน้าแบบไหน ได้แต่ภาวนาว่าอย่าคิดอะไรกับคำพูดของผมเลย


    ก็นะมันเหมือนคำสารภาพเลยนี่หว่า มีอย่างที่ไหนไปบอกว่าอยากเจอพี่มัน

    ขาสองข้างเดินลงบันไดอย่างเอื่อยๆ แอบชำเลืองดูประตูห้องข้างบนเป็นระยะว่าเจ้าของจะเปิดมันออกมาตอนไหน


    พอร์ชมาทานข้าวเช้าด้วยกันเร็วลูกเพิ่งหนีจากลูกชายป้ามาเมื่อกี้ เห็นทีว่าผมคงอยู่ไม่ได้หรอกครับ


    พอร์ชอิ่มแล้วครับป้า เดี๋ยวยังไงแวะมาหาใหม่นะครับชิ่งสิ จะอยู่ทำไม


    *******

    [พี่เกรท]


    หนึ่งสัปดาห์กับการใช้ชีวิตชายโสด หลายอย่างเปลี่ยนไปจากเดิม รับรู้ถึงความอิสระที่ไอ้เต้พูดอยู่บ่อยๆ ว่าผมไม่มีวันเข้าใจ

    ไม่เชิงว่าช่วงคบกันต้องคอยรายงานพายทุกเรื่องเวลาที่ไปไหน แค่บอกให้รู้คร่าวๆ ว่าช่วงเวลานี้ไม่ว่าง ไม่จำเป็นต้องเจาะจงว่าทำธุระอะไร


    พายหายไปจากชีวิตผมเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ผมหมายถึงความใกล้ชิดที่เรามีมันหายไป เพราะยังไงผมก็ยังเจอเธอที่คณะอยู่ดี แรกๆ ก็มันทำใจไม่ค่อยได้หรอก แต่ผ่านไปสักห้าวันมันก็เริ่มชิน

    กลายเป็นไอ้หมูข้างบ้านที่ย้ายเข้าอยู่ในวงโคจรชีวิตผม ทั้งตัวทั้งชื่อคอยวนเวียนอยู่ตลอด จนบางทีก็รำคาญคำว่าพอร์ชไปเลย ยิ่งไอ้เต้ยิ่งบ่อยเลยเถอะ ประหนึ่งว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์น้องพอร์ชของมัน


    สามนาฬิกาอย่างแจ่มเลยว่ะมึงมันใช้เท้าสะกิดเท้าผม ว่างอย่างนี้ก็ไม่เคยคิดจะหาอะไรใส่สมองเลยนะ เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ามันมาเรียนหรือมาส่องสาว


    รู้ว่าผมไม่สนใจก็ยังชวนมองอยู่ได้ แม่งลืมแล้วหรือไงว่าเพื่อนอกหักน่ะ


    เชี่ยเกรทน้องคนนั้นมองมึงว่ะมันป้องปากกระซิบ ด้วยควมรำคาญเลยเงยหน้าจากโทรศัพท์หันไปมองตาม

    น้องผู้หญิงคนที่มันบอกส่งยิ้มหวานให้ ผมเลยยิ้มกลับ.. ไม่ได้จะหว่านเสน่ห์ ไม่ได้อ่อยใคร แต่ทำเพราะมารยาทต่างหาก ก่อนจะวกกลับมาทำหน้าบึ้งใส่เพื่อน


    มึงเลิกพูดเรื่องนี้สักทีได้ไหมวะ” 

    ผมบอกมันตรงๆ เหมือนจะเข้าใจเพราะมันพยักหน้ารัวๆ และใช่มันเข้าใจว่าควรเลิกพูดถึงผู้หญิง แต่ไม่เข้าใจว่าผมก็ไม่ได้อยากได้ยินชื่อไอ้หมูข้างบ้านเหมือนกัน


    เย็นนี้กูไปบ้านมึงนะ อยากเจอน้องพอร์ช


     “ย้ายไปอยู่กับมันเลยไหมล่ะผมประชด เริ่มอารมณ์ขุ่นขึ้นมา ถ้าวันนึงไอ้เต้เดินมาบอกผมว่าชอบไอ้พอร์ชผมจะไม่แปลกใจเลย หรือจริงๆ แล้วมันชอบแต่ไม่กล้าบอกวะ 


    ถามจริงๆ นะมึงชอบไอ้พอร์ชหรอ

    คนตรงหน้าชะงักไป ถ้ามันชอบไอ้พอร์ชจริงผมไม่สนับสนุนมันแน่พูดเลย วันๆ มองแต่ผู้หญิง เจ้าชู้จะตายไป เห็นผมไม่สนใจไอ้พอร์ชแต่ผมก็อยากให้มันได้คนดีๆนะเว้ย คนที่ยังไงก็ไม่ใช่ไอ้เต้เพื่อนผมแน่นอน


    มึงคิดไงล่ะ” 

    ผมเป็นเพื่อนกับมันสองปีกว่า สองปีที่รู้ทุกความคิด แค่มองตาก็รู้ใจ แล้วทำไมตอนนี้ผมจะมองไม่ออกว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ อีกอย่างมันก็ไม่ได้จงใจปิดผมแต่แรก ไม่บอกแต่ให้คิดเอาเองก็เหมือนบอกว่าใช่นั่นแหละ


    กูขอเตือนให้มึงเลิกคิด

    มึงจะกันท่ากูทำไมวะ


    นี่มันไม่รู้ตัวหรอว่าตัวเองนิสัยยังไง มีใครเคยได้สถานะแฟนจากไอ้เต้บ้างล่ะ ไม่ไม่มีสักคน เล่นไปวันๆ แต่ไอ้พอร์ชคนที่ผมเห็นว่าถึงมันจะทำเล่นไปซะทุกเรื่อง แต่ลึกๆ แล้วมันจริงจัง ยังไงสองคนนี้ก็ไปด้วยกันไม่ได้ 


    ไม่มีทาง… ผมไม่ให้มันเป็นไปได้แน่ๆ


    เพราะมึงเป็นคนเจ้าชู้ไง มึงก็แค่เล่นไปวันๆ ไอ้เต้ กับไอ้พอร์ชกูขอเหอะปล่อยมันไปได้ไหมวะ” 

    มันตบบ่าผมสองทีก่อนจะทำสีหน้าจริงจัง พร้อมกับเอ่ยคำพูดที่เพื่อนอย่างผมไม่เคยได้ยิน คำพูดที่บ่งบอกว่าครั้งนี้มันจะไม่ใช่แค่เล่นๆ


    กูรู้ว่ากูเล่นแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่กูเจอคนที่ใช่ขึ้นมากูก็พร้อมสลัดนิสัยสิ่ง นั่นทิ้งไป กูพร้อมเปลี่ยนเป็นคนจริงใจนะเว้ย

    “…”

    คนนี้มึงหลีกทางให้กูได้ไหมวะ  


    และแล้วมันก็พูดในสิ่งที่ผมไม่อยากได้ยิน

    *******


    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?
     Tiny Hand
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×