คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : น่ารักสไตล์พอร์ช
ผมมาโรงเรียนสาย โดนหักคะแนนไป 5 คะแนน แต่รู้สึกว่าอารมณ์ดี๊ดี คงเป็นเพราะเหตุการณืเมื่อเช้าที่พี่ชายข้างบ้านชวนไปดูหนังด้วยกัน
สารภาพเลยแล้วกันว่าเมื่อวานที่ผมคุยกับพี่เต้ เล่าให้ฟังว่ารู้สึกยังไงกับพี่เกรท เล่นเอาพี่แกช็อคใหญ่เลย มีขอตัวไปทำใจพักนึงด้วย
สุดท้าย… ก็ได้คนร่วมก๊วนมาหนึ่งคน
พี่เต้บอกว่าช่วงนี้ก็ปล่อยพี่เกรทไปก่อน อย่าไปรุกพี่มันมาก ปล่อยความรู้สึกออกไปทีละนิดให้พี่เกรทค่อยๆ ซึมซับ
เอาไว้ให้พี่มันทำใจได้เมื่อไหร่ค่อยบุก
“ทำไมวันนี้พอร์ชมาสาย” ยังไม่ทันได้วางกระเป๋า ไอ้มิวซ์ก็ถามขึ้นมาเสียก่อน
“เมื่อคืนคุยกับพี่เต้จนดึก วันนี้เลยตื่นสาย”
พี่เต้เพิ่งมาบอกตอนเกือบๆ เที่ยงคืน ว่าเสาร์นี้ผมต้องไปดูหนังกับพี่เกรท ไม่รู้ไปคุยกันอีท่าไหน ไอ้พี่เกรทถึงยอมให้ผมไปด้วย
อันที่จริงก็รอเจอพี่เกรทตอนเช้าด้วยแหละ ใช้ของที่พ่อฝากให้คุณป้าเป็นข้ออ้างซะเลย ปกติแล้วข้างบ้านผมจะกินข้าวเช้าช่วง 8 โมง ซึ่งผมต้องไปโรงเรียน 7 โมงครึ่งไง เวลานั้นไอ้พี่เกรทอาจจะยังไม่ลุกจากเตียงเลยด้วยซ้ำ
พอตื่นนอนผมเลยทำตัวอืดอาด คิดภาพสล็อตออกใช่ปะ
แบบนั้นเลย
การได้คุยกับพี่เกรทตอนเช้า
แลกกับการโดนคุณนายดุเรื่องที่ผมชักช้าจนรถติด แลกกับคะแนนที่เสียไป
ก็ถือว่าคุ้มนะ
“พี่เต้ ใครหรอ?”
ลืมไปว่ามิวซ์มันรู้จักแค่พี่เกรทนี่หว่า
“เพื่อนพี่เกรทน่ะ” ได้ยินเสียงมันร้อง 'อ้อ' เบาๆ “เอ้อ เกือบลืมไปเลย จำที่เรานัดกันวันเสาร์นี้ได้ไหม”
ชิบหาย… ลืมไปได้ยังไงว่าผมนัดกับมิวซ์วันเสาร์ ไอ้บ้าพอร์ช! อยากจะเอาหัวโขกกับโต๊ะจริง ๆเลย
“มิวซ์” ผมเรียกชื่อมันด้วยเสียงอ่อนๆ
ก่อนจะพูดต่อ “เสาร์นี้กูไม่ว่างว่ะ” ส่งยิ้มแหยๆ ให้อีกที
พนมมือพร้อมกระพริบตาปริบๆ ให้มันเห็นใจ
คือผมกับมิวซ์เคยพูดไว้ว่าวันเสาร์นี้จะติวเลขกัน
แต่ผมดันลืม โคตรรู้สึกผิดเลยว่ะ
“มีนัดกับพี่เกรทล่ะสิ” ผมพยักหน้า แม้เสียงจะฟังดูเคืองๆ แต่มันก็ยังเป็นเพื่อนที่เข้าใจผมดี
ขอบคุณที่เข้าใจว่าเพื่อนพอร์ชคนนี้ชอบพี่เกรทแค่ไหน แล้วมันก็ยากมากเลยด้วยกว่าจะมีโมเมนต์อะไรอย่างนี้
“งั้นเดี๋ยวเลื่อนไปวันหลังก็ได้”
“ขอโทษนะเว้ย”
“เฮ้ย ไม่เป็นไร เราไม่โกรธหรอก”
เราจบบทสนทนากันแค่นั้น
มิวซ์ไม่ได้ถามต่อว่านัดไปทำอะไรที่ไหน เพราะครูเดินเข้ามาในห้องพอดี
…….
♫ ให้เธอแชร์ความช้ำในหัวใจมาให้ฉัน
แบ่งมันมาจนเธอนั้นสบายใจ ~
ผมร้องคลอตามเพลงที่ชมรมเสียตามสายเปิด เนื้อเพลงสื่อถึงการแชร์เรื่องราวให้กันและกันเพื่อระบายความทุกข์ที่มี
อารมณ์เหมือนผมกับพี่เกรทเลย
ผมไม่อยากให้พี่มันเศร้า รู้สึกอะไรก็อยากให้พี่มันพูดออกมา ยอมให้ด่า
ยอมให้กวนทั้งวัน ถ้ามันแลกกับการที่จะทำให้พี่เกรทรู้สึกดีขึ้น
“พอร์ช!” ผมสะดุ้ง
หลุดออกจากภวังค์
จู่ๆ หัวหน้าห้องคนสวยก็โผล่พรวดมาอยู่ตรงหน้า พร้อมเรียกชื่อผมเสียงดังลั่น ที่จำได้เรื่องมาสายก็เคลียร์แล้วนี่หว่า
“ไง” เธอลากเก้าอี้มานั่งตรงหน้าผม
‘เบล’
เป็นผู้หญิงที่มีใบหน้ารูปไข่ มีดวงตาเป็นประกาย
ผิวสีขาวอมชมพูสื่อถึงการดูแลตัวเองที่ดี ถ้าไม่ติดว่ามีพี่ชายโหด
ผมว่าคงมีคนจีบไม่น้อยเหมือนกัน
“พี่คนที่มารับพอร์ชเมื่อวานนี้เป็นใครอ่ะ
สนิทกับพอร์ชไหม พี่เขาชื่ออะไร เรียนที่ไหนเหรอ”
โอ้โห! ถามเยอะขนาดนี้
รู้เลยว่าเคิดอะไรอยู่ คิ้วกระตุกเหมือนเจอคู่แข่งเลยว่ะ
“แค่พี่ข้างบ้านน่ะ ไม่สนิทกันมากหรอก นานๆ คุยกันที” ได้โปรดอย่างมองพอร์ชแบบนั้นครับ พอร์ชคนดีไง โกหกคนเก่งซะที่ไหน
“ว้า~ แล้วพอร์ชพอจะรู้ไหมว่าพี่เขาเรียนอะไร”
ผมมองไอ้มิวซ์อย่างขอความช่วยเหลือ แต่มันกลับถือหนังสือแล้วลุกไปที่อื่นเฉย ไอ้มิวซ์! ไอ้เพื่อนทรยศ! คอยดูนะ มีอะไรจะไม่บอกมันเลย เย็นนี้จะไม่เลี้ยงฮันนี่โทสด้วย
“ลืมว่ะ เดี๋ยวถามให้ละกัน”
เบลยิ้มกว้างจนตาหยี ที่มุมปากมีลักยิ้มด้วย
“เราว่าเราชอบพี่เกรทอ่ะ
พอร์ชมีไลน์พี่เกรทไหม เราขอหน่อยสิ”
เกิดอาการสมองตื้อไปชั่วขณะ
ใครก็ได้เรียกพี่ชายเบลให้ผมที มาจัดการน้องสาวพี่ด่วนเลย
น้องสาวพี่จะแย่งผู้ชายผม!! จีบก็ยังไม่ได้จีบนี่มีคู่แข่งแล้วเหรอวะ สงสารตัวเอง…
“ไม่มีอ่ะ” อันนี้ความจริงครับ
“ช่วยขอให้เราหน่อยได้ไหม” ใครมีภูมิต้านทานเวลาโดนเพื่อนขอร้องลงขายที่เว็บด่วนครับ
“ไม่รู้ว่าพี่เกรทจะให้ไหมนี่สิ”
แล้วดวงตาทอประกายก็หม่นลง ผมอยากให้เบลเลิกถามถึงพี่เกรท เลิกยุ่งไปเลยยิ่งดี แต่มันก็รู้สึกผิดว่ะ เหมือนเมื่อกี้พูดตัดโอกาสเพื่อนเลย
ลองคิดภาพตอนที่ผมกับเบลแข่งกันจริงๆ สิ
มีผู้หญิงสวยๆ เดินเข้าไปในชีวิตพี่เกรทกับมีผู้ชายนิสัยกวนๆ อย่างผมเดินเข้าไป
คิดว่าพี่เกรทจะเลือกใครล่ะ
อย่าตอบออกมานะ เก็บไว้ในใจเถอะ
“พี่เกรทมีแฟนแล้วหรอ” ถ้าตอบว่ามี ผมรู้ว่าเบลจะเลิกยุ่งกับพี่เกรท ถือว่าตัดคู่แข่งไปเลย
“มีแล้ว แต่ก็เลิกแล้ว” ทว่าความดียังคงชนะความคิดร้ายๆ อย่างน้อยถ้าเบลจะเลิกสนใจพี่เกรท เลิกชอบพี่เกรท ก็ขอให้ตัวเขาเป็นคนเลือกดีกว่า ผมไม่ควรไปตัดโอกาสเขาอย่างนี้
“จริงดิ!!”
“อื้ม” ไอ้พอร์ช… หยุดเศร้าเลยนะมึง
เป็นคนเลือกที่จะบอกเขาอย่างนั้นเองนี่หว่า
“งั้นพอร์ขช่วยเราจีบพี่เกรทหน่อยได้ปะ”
เหมือนเดจาวูเลย เมื่อคืนผมขอให้พี่เต้ช่วย
ตอนนี้มีคนมาขอให้ผมช่วย ถึงผมจะทำในบทบาทที่ต่างกัน
แต่เป้าหมายของคนขอร้องคือสิ่งเดียวกัน
เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ผมรู้สึกว่านานเหลือเกิน มันตอบยากเหมือนกันนะ เพราะไม่ว่าจะเลือกช่วยหรือไม่ช่วย ผมก็รู้สึกไม่ดีเหมือนเดิม
“ขอคิดดูก่อนได้ไหม”
“โอเค เราไม่รีบหรอก” เฮ้อ! เพิ่งรู้สึกดีแท้ๆ
“วันจันทร์หน้าได้ไหม”
“ได้สิ”
หวังว่าเสาร์นี้ที่ไปดูหนังกับพี่เกรทจะให้คำตอบผมได้ละกันว่าควรทำยังไง
ผมมองตามหลังเบลไปจนกระทั่งเจ้าตัวนั่งลงที่โต๊ะตัวเอง
พลางคิดข้อดีของเธอไปด้วย
นอกจากความสวยที่มี เธอก็เป็นผู้หญิงที่มีความสามารถรอบด้าน อารมณ์ดีอีกต่างหาก เหมือนดวงอาทิตย์ที่ดึงดูดทุกสิ่งให้เข้าหา
แล้วผมจะมีอะไรไปสู้วะ ตัดเรื่องเรียนออกก็มีแต่นิสัยกวนตีนพี่เกรทไปเรื่อย
กินเก่งอีก ถ้าให้เลือกจริงๆ
คิดว่าคนอย่างพี่เกรทจะเลือกคนที่เผาผลาญเงินของเขาไหมล่ะ
อ้อ! อันนี้ก็ไม่ต้องตอบ
เก็บไว้ในใจเถอะ
…….
►คุณไม่อาจโทษแรงดึงดูดของโลกได้ เมื่อคุณชอบใครสักคน และคุณก็ไม่อาจโทษความบังเอิญของโลกได้ เมื่อมันทำให้คุณได้เจอกับคู่แข่ง
ข้อความที่พิมพ์ถูกโพสต์ลงบนโลกโซเชียล ตอนนี้ผมนั่งเป็นหมาหงอยอยู่ในห้องนอน
การบ้านก็กางอยู่ตรงหน้าแต่ไม่มีอารมณ์จะจับปากกามาเขียน
ติ๊ง~
*ไหนคู่แข่งของน้องชายพี่
อยากเห็นหน้า
แชทพี่เต้เด้งขึ้นมาเป็นคนแรกหลังจากที่ผมโพสต์ไปได้ไม่ถึงนาที
#พี่เต้~ พอร์ชไม่รู้จะทำยังไงแล้วว่ะ
#วันนี้มีเพื่อนผู้หญิงมาคุยกับพอร์ช
บอกว่าชอบพี่เกรทด้วย นี่ให้พอร์ชมาขอไลน์พี่เกรทอีก อยากจะร้องห้ายยยย
*สวยไหม? ไอ้เกรทมันชอบคนสวย
ไอ้พี่เต้! นี่จะช่วยจีบหรือจะช่วยซ้ำเติมวะ
#สวยดิ ยอมแพ้เลยดีปะ?
วิ่งบนสนามแข่งที่มองไม่เห็นเส้นชัยว่ายากแล้ว
นี่ฟ้ายังส่งคู่แข่งเป็นผู้หญิงสวยๆ มาอีกหรอ จิตใจทำอะไรอ่ะฟ้า?
*ใจเย็นสิ
ถึงไอ้เกรทมันจะชอบผู้หญิงสวย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนนี่หว่า
พอร์ชก็เอาความน่ารักไปสู้สิ
อยากถามว่ามีที่ไหน ในสายตาพี่เกรทเคยมองผมว่าน่ารักด้วยหรอ? หน้าตาก็ไม่ดียังทำนิสัยให้ตัวเองโดนติดลบอีก
#พอร์ชขอไลน์พี่เกรทหน่อยดิ
*ถ้าขอให้เพื่อนพี่ไม่ให้นะ
ไปขอกับไอ้เกรทเองเลย
#ง่า~
*เจอแค่นี้ก็จะถอยแล้วเหรอ
อย่าลืมสิว่าพอร์ชสนิทกับไอ้เกรทมากกว่าน้องผู้หญิงคนนั้นนะ
พี่เต้ให้กำลังใจ ก็จริงเหมือนที่พี่เขาว่า
ผมสนิทกับพี่เกรทมากกว่า ถือว่านี่คือข้อที่ได้เปรียบ
#แต่พอร์ชเป็นผู้ชายนะ
*แสดงว่าพอร์ชมองความรักที่เพศไง
คนจะชอบกันเขาไม่มองตรงนี้หรอก เหมือนที่พอร์ชชอบไอ้เกรทนั่นแหละ
พอร์ชมองว่ามันเป็นผู้ชายไหมล่ะ ก็ไม่… พอร์ชชอบมันเพราะมันเป็นพี่เกรทของพอร์ชไม่ใช่หรอ
ผมนิ่งไปพักใหญ่
ทำไมต้องมาเครียดเรื่องแบบนี้ด้วยวะ ทีตอนผมชอบพี่เกรท
ผมยังไม่ได้มองด้วยซ้ำว่าพี่มันเป็นผู้ชายเหมือนกัน
บทจะชอบใครสักคนเราไม่มองแค่ภายนอกของเขาหรอก
*คิดได้ยังว่าจะเอาไงต่อ
#พอร์ชจะสู้ ^^
*ดีมาก
*แล้วก็ไม่ต้องทำตัวเป็นเพื่อนที่แสนดีนักก็ได้
#ครับ^^
ผมมีคำตอบให้เบลละ ผมเลือกที่จะช่วย
แต่ช่วยในฐานะที่เราเป็นคู่แข่งกัน ผมรู้ข้อมูลพี่เกรทเยอะกว่า
เดี๋ยวเขาหาว่าเอาเปรียบ ส่วนเรื่องไลน์พี่เกรท
อันนี้ต้องให้เจ้าตัวเขาขอเองแล้วล่ะ แจกแค่เฟซบุ๊กพี่มันก็พอแล้ว
“พอร์ชทำการบ้านเสร็จหรือยังลูก ลงมากินข้าวเร็ว”
“แม่!! เคาะประตูด้วยดิ” ขืนโผล่พรวดมาตอนลูกชายกำลังแก้ผ้าอยู่จะทำไงวะ อายเป็นนะเว้ย
“ก๊อกๆ นี่ไงเคาะแล้ว
ลงไปกินข้าวเร็ว” ไม่ต้องถามว่านิสัยกวนๆ ได้มาจากใคร
“ยังทำการบ้านไม่เสร็จเลย
เอามากินในห้องได้ไหม”
“ไม่ต้องเลย
เดี๋ยวห้องมีกลิ่นเราก็บ่นอีก แม่ลงไปตักข้าวรอดีกว่า”
“เดี๋ยวพอร์ชตามลงไปนะ”
ผมปิดคอมฯไว้ก่อนจะวิ่งตามแม่ลงไปยังห้องครัว
กลิ่นอาหารหอมฉุยของคุณนายลอยมาแตะจมูกอย่างรวดเร็ว วันนี้มีแกงจืดตำลึงใส่หมูสับ
ผัดเผ็ดปลาดุก แล้วก็ยำรวมมิตร
“เสาร์นี้พอร์ชไปดูหนังนะ” ผมเป็นคนเปิดบทสนทนาบนโต๊ะอาหาร
“ไปกับเพื่อนหรอ” คุณชายถามกลับ ได้ยินเสียซดน้ำแกงอย่างอร่อย
“พอร์ชไปกับพี่เกรท”
พูดจบก็ตักหมูสับใส่จานตัวเอง
ผมชอบเวลาที่ครอบครัวนั่งพร้อมหน้ากันจังเลย
มันดูอบอุ่นแถมยังได้กินกับข้าวฝีมือแม่อีก
คุณนายบอกว่าถ้าอยู่ไม่ครบก็จะซื้อกับข้าวมาจากตลาด เอาไว้พร้อมหน้าพร้อมตากันค่อยจัดมื้อใหญ่
จะได้รู้สึกพิเศษ
ตรรกะอะไรของคุณนายก็ไม่รู้…
“เดี๋ยวนี้กลับมาสนิทกันแล้วหรอ” ก็มีแต่พี่เกรทนั่นแหละที่ตีตัวออกห่างลูกชายพ่อ พอมีแฟนก็ลืมน้อง
“ใครจะอยากสนิทด้วย พี่เกรทชอบพูดไม่เพราะกับพอร์ชอ่ะ” ได้ทีก็ฟ้องซะเลย เอ็นดูลูกชายข้างบ้านนักใช่ไหม
“เราไปกวนพี่เขาเยอะล่ะสิ” ผมพรูลมหายใจ วางช้อนส้อมอย่างหมดอารมณ์ ฮัลโหล~ นี่ลูกแม่นะ เข้าข้างกันบ้างก็ได้
“สนิทกันไว้ก็ดีแล้ว พี่เกรทเขาเรียนเก่ง จะได้ให้พี่เขาช่วยติวให้”
“พี่เกรทชอบว่าพอร์ช ไม่เอาหรอก”
สำหรับบ้านใครที่สนิทสนมกับคนข้างบ้าน
มันก็จะเป็นแบบนี้แหละครับ พ่อแม่เราชมลูกเขา พ่อแม่เขาเอ็นดูเรา ดี๊ดี! แต่ให้สลับพ่อแม่กัน
อันนี้ไม่ยอมว่ะ ผมยังอยากกินฝีมือกับข้าวคุณนายอยู่
แล้วก็อยากได้ของฝากจากบอสคุณชายด้วย
“เพราะเรายังเด็กไง พี่เกรทเขาโตแล้วเลยต้องดุ” พี่เกรทปีสาม ผมม.6 ห่างกันไม่กี่ปีเองเหอะ ทำเป็นบอกว่าพี่เกรทโตแล้ว สองมาตรฐาน ตอนไอ้พี่เกรทอยู่ม.6 ก็บอกว่าพี่มันโต แล้วทำไมไม่เคยมองว่าผมโตเลยวะ ฮึ่ย!
“อิ่มแล้วหรอ”
“ครับ”
“ขนมในตู้เย็นนะ” รักคุณชายจังเลย><
“เอาไปให้พี่เกรทด้วย” แม่!! คุณชายซื้อมาให้พอร์ชปะล่ะ “กินหมดนั่นคนเดียว เดี๋ยวก็อ้วนหรอก” ผอมขึ้นมาก็อย่าบอกพอร์ชให้กินเยอะก็แล้วกัน
“พี่เกรทไม่ชอบขนมหวานหรอก”
“จะกินคนเดียวก็ตามใจ อ้วนแล้วก็อย่ามาบ่นให้แม่ได้ยินนะ” ผมเปิดตู้เย็นหาขนมที่คุณชายซื้อมา ไม่แปลกใจที่คุณนายบอกให้ผมเอาไปแบ่งให้พี่เกรทด้วย
มีตั้งสองกล่อง กินหมดคนเดียวท้องผมคงได้แตกพอดี
“พอร์ชเอาไปให้พี่เกรทดีกว่า”
วันนี้จะได้เจอหน้าพี่เกรทก่อนนอนด้วยว่ะ
อิจฉาตัวเองได้ไหม
ติ๊งต่อง~
กดออดเรียบร้อยก็ยืนรอคนออกมาเปิดประตู
ภาวนาว่าขอให้เป็นคนเดียวกันกับเมื่อเช้า
“นี่มึงอีกแล้วหรอ” เสียงนี้… ไอ้พี่เกรท
“เอาหนมมาฝาก” พี่เกรทมองผมสลับกับขนม พี่มันคงกำลังนินทาผมอยู่ในใจแน่เลย
“ไม่เก็บไว้กินเองล่ะ” ถ้าจะเก็บไว้กินเองจะเอามาให้ไหมล่ะ คนเรา… คิดบ้างสิ
“โดนคุณนายสั่ง” จริงๆ แล้วมีสองกล่องต่างหาก
“บอกแม่ไปดิว่ากูไม่กินขนม”
เอ๊ะ! ก็คนอุตส่าห์เอามาให้ ช่วยรับไว้หน่อยไม่ได้หรือไงล่ะ
“ไม่เอาใช่ปะจะได้เอากลับ” ไอ้พี่เกรท ไอ้คนกวนตีน ทำเป็นไม่อยากรับไว้ สุดท้ายก็แย่งไปไว้ในมือตัวเองเฉย
“กลัวเด็กแถวนี้ไม่อิ่มหรอกเลยไม่อยากแย่งกิน”
พี่มันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
แต่ทำใจผมเต้นแรงชิบหาย ตอนคุยกับคุณนายไม่เห็นชอบที่คุณนายมองผมเป็นเด็กเลยวะ
ทำไมกลับพี่เกรทผมถึงชอบจนเก็บอาการแทบไม่อยู่
“ว่าพอร์ชกินเยอะหรอ!”
“นี่ยังไม่รู้ตัวอีก” โครม! พังพินาศ หมดกันความรู้สึกดีเมื่อกี้
“เกลียดพี่ว่ะ”
“เรื่องของมึง” พูดเพราะกับน้องมันจะตายหรือไงวะ
“นึกว่าพี่เกรทจะพูดว่าเกลียดพอร์ชกลับซะอีก แสดงว่าพี่เกรทชอบพอร์ชอ่ะดิ”
“ละเมออยู่เหรอ ง่วงก็ไปนอนไป๊!” ไรวะ เล่นด้วยหน่อยก็ไม่ได้
“ถามไรหน่อยดิ” ไอ้พี่เกรทถอนหายใจ ทำหน้าเบื่อหน่ายผมเต็มทน
“ว่ามา กูหิวข้าว”
“ถ้าพอร์ชลดหุ่น
พี่ว่าพอร์ชจะเป็นไงอ่ะ”
ไอ้พี่เกรทถอยหลังไปสามก้าว มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ความจริงก็ไม่ได้อ้วนอะไรขนาดนั้นหรอก ไม่ได้มีพุงยื่นอะไรขนาดนั้น แต่มีเหนียงนี่ดิ เห็นชัดเลยด้วย
“ก็ไม่ไง” ช่วยพูดอะไรให้คนอื่นเขาฟังเข้าใจหน่อยได้ไหม
“ไม่ไงนี่คือยังไงวะ”
“ไม่รู้เว้ย”
“แล้วพี่ว่าแบบนี้กับลดหุ่นอีกหน่อยแบบไหนโอล่ะ ลองเล่นกล้ามดีปะ” จะจีบใครเราก็ต้องถามเขาก่อนว่าในสายตาเขา เราดูดีพอไหม ต้องปรับตรงไหนอีก
ถ้าพี่มันบอกให้ผมเข้าฟิตเนสด้วย ผมก็จะทำ… ทำวันเดียวก็พอ
เคยลองแล้วโคตรปวดตัวเลย
“หน้าอย่างมึงไม่เหมาะกับการมีซิคแพคว่ะ
อันนี้ไม่แนะนำ ห้ามเลย ถามว่าแบบไหนดูแล้วโอ กูว่าแบบนี้โอละ น่ารักสไตล์มึงนี่แหละ”
เรียกคนมาเก็บศพด้วยครับไม่ไหวแล้ว~~
*******
ความคิดเห็น