คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เสื้อคู่
“เมื่อดวงใจมีรัก ดั่งเจ้านกโผบิน บินไปไกลแสนไกล~”
ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเพลงซึ่งไม่ค่อยจะลื่นหูสักเท่าไหร่
เสียงอย่างนี้ก็มีแต่พี่เกรทนั่นแหละ
ถามจริง คนอกหักเขาร้องเพลงนี้กันหรอ
หรือว่าพี่มันจะเพี้ยนไปแล้ว ผมว่าต้องใช่แน่ๆ
ว่าแต่นี่กี่โมงแล้ววะ ปวดท้องชิบหาย
“ตื่นแล้วหรอมึง” อยากจะตอบกลับไปว่า ยังไม่ตื่นมั้ง ยืนหัวโด่อยู่ตรงหน้าเนี่ย แต่กลัวจะโดนถีบแต่เช้า เพราะงั้นยังไม่พี่มันกวนก็ได้
“อื้ม! กี่โมงแล้วอ่ะ” เพิ่งสังเกตว่าพี่มันใส่ผ้ากันเปื้อนสีชมพูด้วยว่ะ
แบ๊วโคตร เห็นละอยากถ่ายรูปลงทวิตเตอร์
“มองไร
เดี๋ยวก็จิ้มแม่ง” เฮ้ย! ดีนะหลบทัน
มองแค่นี้กะจะเอาให้ตาบอดเลยหรือไง “อีกครึ่งชั่วโมงเที่ยง
ไปล้างหน้าแล้วมากินข้าวด้วยกันให้ไวเลย”
นี่ถ้าไม่ปวดท้องปานไส้จะขาดไม่ทำตามหรอก
คนอะไรชอบใช้คำสั่ง คิดถึงพี่เกรทคนดีสมัยเด็กๆ ชิบหาย น้องพอร์ชอย่างนั้น น้องพอร์ชอย่างนี้
ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน สุภาพสุดก็ไอ้พอร์ชนี่แหละ
“ไอ้พอร์ช!!”
นั่นไง.. เห็นไหมล่ะ
พูดไม่ทันขาดคำ
“คร้าบๆ
ไปแล้วคร้าบ” สถานการณ์เป็นรองก็ต้องยอมอย่างนี้ล่ะครับ
จัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยผมก็มานั่งรอพี่เกรทอยู่ที่เก้าอี้
มองพ่อครัวที่บรรจงจัดเส้นใส่จานอย่างละเมียดละไม
ไอ้พี่เกรทตอนนิ่งโคตรทำให้ใจสั่นเลย
ให้ตายเถอะโรบิ้น นี่คนหรือกาแฟ
“มองไร?” แต่พอขยับปากก็เปลี่ยนจากเทพบุตรเป็นซาตาน
“เปล๊า! แค่คิดว่าถ้าถ่ายรูปพี่ลงทวิตแฟนคลับพี่จะหายหมดไหม”
ไอ้พี่เกรทจ้องผมตาเขม็ง รับรู้ได้ถึงแรงอาฆาตที่ถูกส่งมา
“อยากกินไหม” ผมพยักหน้าหงึกๆ โดนแน่ไอ้พอร์ช มึงได้อดแน่
ผมมองพ่อครัวที่ตั้งท่าจะเทของในจานทิ้ง
ใจก็ภาวนาว่าอย่าเทนะเว้ย เสียดายของ
“เมื่อกี้มึงพูดอะไรนะ ให้พูดอีกรอบ”
นี่คือสิ่งที่ตอบแทนคนดีอย่างผมหรอ เสื้อก็เปลี่ยนให้
แถมยังเช็ดหน้าให้อีก เตียงนอนก็ยังแบ่งให้นอนด้วยเลย นี่ผมเป็นคนที่มีบุญคุณต่อพี่มันนะเว้ย
“ไม่ต้องมาทำหน้าหงอยอย่างนั้น
กูไม่สงสารหรอก ไม่ใช่ไอ้เต้นะ” ก็รู้… พี่เต้แม่งใจดีกว่านี้เยอะ
“เอาไปแล้วก็นั่งกินดีๆ” ผีเข้าหรอ ตามอารมณ์ไม่ทันแล้วนะ “เมื่อเช้าแม่มึงโทรมา”
ชิบหาย… ลืมไปเลยว่าคุณนายจะโทรมาเช็ค
“แล้วแม่พูดไรบ้างอ่ะ” พูดจบก็ม้วนเส้นเข้าปาก ฝีมือพี่เกรทใช้ได้เลยนี่หว่า
คิดแล้วก็รู้สึกอิจฉาผู้หญิงที่พี่มันเคยทำให้กิน เรื่องมันเศร้าขอเพิ่มอีกได้ปะ
“ก็ถามว่ามึงตื่นหรือยัง แต่สบายใจได้กูบอกแม่ว่ามึงตื่นแล้ว” ทำดีๆ เดี๋ยวมีรางวัลให้
“พี่เกรท” ทำไมคนอกหักไม่แสดงอาการอะไรเลยวะ ไม่โวยวาย
ไม่เพ้อเหมือนที่ผมเคยเห็นเพื่อนเป็นเลย
“อะไร”
“เลิกกับพี่พายจริงดิ” ไรวะ… แค่ถามทำไมต้องมองตาขวางขนาดนั้น
“ไม่จริงมั้ง” เอ้า! แล้วสรุปจริงหรือไม่จริงอ่ะ
ขอชัดๆ หน่อยดิ “ทำหน้างงอีก
เรื่องนี้ใครเขาพูดเล่นกันวะ” แหม… ถ้าบอกว่าพี่มันเคยโกหกให้ผมดีใจ(?)เก้อเนี่ยจะโดนว่าไหมวะ จำได้ว่าปีที่แล้วแม่งทำหน้าเครียดแค่ไหน
ไอ้ผมก็อุตส่าห์เป็นห่วงเลยถามเล่นๆ
ว่าทำหน้าอย่างนั้นเลิกกับแฟนมาเหรอ แล้วพี่มันดันตอบมาว่าจริงนี่สิ
ไปไม่ถูกกันเลยทีเดียว สุดท้ายก็มารู้ว่ามันเป็นวันแห่งการโกหก
ไอ้พี่เกรทเลยเอาเรื่องเลิกกับแฟนมาหลอกผมไง
ซึ่ง… ผมก็โง่ไปเชื่อ ดีใจแทบตายสุดท้ายเหมือนตกเหว ยังแค้นไม่หาย ถ้าไม่ติดว่าชอบพี่มันอยู่คงวางแผนฆาตรกรรมไปนานแล้ว คนบ้าอะไรหาความดีไม่มีสักอย่าง
“ทำไมพี่ดูเหมือนไม่เหมือนคนอกหักเลยวะ”
“คนอกหักในความคิดมึงเป็นแบบไหนล่ะ
ใช่ที่เมาเหล้าคุยไม่รู้เรื่องปะ ใช่ที่โวยวายด่าคนนู้นทีคนนี้ทีปะ
หรือเป็นคนคิดสั้นจะฆ่าตัวตายเพราะเขาไม่รัก”
“….”
“แค่โดนเขาทิ้งก็เหมือนคนไร้ค่ามากพอแล้ว
กูคงไม่ทำตัวเองให้ไร้ค่าไปมากกว่านี้หรอก”
เชรด! นี่ถ้าไม่เห็นกับตา
ไม่ได้ยินกับหู จะไม่มีวันเชื่อเลยว่าสิ่งเหล่านี้ออกมาจากปากของคุณสพล
พูดดีมีสาระแทบไม่เหลือมาดซาตานแสนกวนเลยสักนิด
“แล้วพี่จะเอาไงต่ออ่ะ” ผู้ชายอย่างพี่เกรท จะไม่มีวันหันหลังกลับไปหาคนที่ทิ้งเขา
“ใช้ชีวิตปกติดิ
เลิกกันแล้วก็แล้วกันไป”
สิ่
งที่พี่เกรททำดูเหมือนคนไร้หัวใจ
ไม่มีความรู้สึก แต่ผมก็รู้ว่ากว่าพี่เกรทจะทำใจยอมรับได้มันยากขนาดไหน
เหมือนที่ผมเข้าใจมาตลอดมาว่าพี่ชายข้างบ้านคนนี้ไม่มีวันมาชอบน้องชายอย่างผมหรอก
เอาแค่พูดเพราะๆ ด้วยยังยากเลย ดราม่าเพื่อ?
“ไม่ต้องมาเศร้ากับกูเลยมึง
เห็นแล้วขัดตา” ไม่ใช่แค่พูดเพราะแล้วว่ะ
การกระทำก็ไม่ดีด้วย
มึงชอบผู้ชายอย่างนี้ไปได้ยังไงวะพอร์ช
“เลิกกันตอนไหนอ่ะ”
“สัด! เลิกถามแล้วแดกไปเลยมึง
ไม่พูดก็ใช่ว่าจะไม่รู้สึกอะไรนะเว้ย แม่งถามอยู่ได้” ผิดอีกละกู
เฮ้อ!
“ก็อยากรู้ไง”
“เมื่อคืนนี้เลย สดๆ ร้อนๆ”
“ก็เลยไปร้านเหล้า กลับเช้า เข้าบ้านไม่ได้
เลยมากวนพอร์ชใช่ปะ” ใครที่สงสัยว่าทำไมพี่เกรทถึงเข้าบ้านไม่ได้
คืองี้ครับ ครอบครัวพี่เกรทเขาไม่ชอบให้ดื่มของมึนเมาสักเท่าไหร่
ลูกชายเลยต้องทำตามกฎของบ้าน
แต่ดูจากที่โผล่มาบ้านผมตอนเช้ากลิ่นนี่หึ่งเชียว
ถึงอย่างนั้นพี่เกรทก็ไม่ค่อยเข้าร้านพวกนี้สักเท่าไหร่หรอก ถ้าไม่จำเป็นอ่ะนะ
“ทำเป็นรู้ดี”
“พี่เต้รู้ยังล่ะ” ถามถึงเพื่อนสนิทของพี่มันบ้าง เดาว่าน่าจะรู้แล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนเมื่อคืน
“ยัง กะว่าจะบอกวันนี้แหละ”
ห๊ะ! เพื่อนสนิทก็ยังไม่รู้อีก โอ้โห!
อย่าบอกว่าเมื่อคืนไปนั่งคนเดียวนะเว้ย หรือจะเป็นอย่างนั้นวะ
“อย่าบอกนะว่าพอร์ชรู้คนแรก”
“ถามมากว่ะ” อยากถามต่อว่าทำไมถึงเลิกกันอยู่หรอก
แต่พี่มันพูดมาขนาดนี้ละ ไม่ถามก็ได้
“วันนี้ว่างปะ
ต้องไปทำรายงานที่ไหนไหม”
ผมส่ายหน้า พูดอย่างงี้จะชวนไปไหนแน่เลย ถ้าเป็นพี่เกรทชวนพอร์ชว่างตลอดแหละ
“ไปเก็บห้องช่วยหน่อย” ที่ถามเพราะจะชวนไปเก็บห้อง? แค่นี้นะ
คนเขาก็คิดไปตั้งไกล ไอ้พี่เกรทจอมดับฝัน
“พอร์ชยังอาบน้ำเลย” พยายามหาเรื่องบ่ายเบี่ยง ห้องใครก็เก็บเองดิวะ
“กูยังไม่อาบเหมือนกันไหมล่ะ
ไปเก็บเป็นเพื่อนหน่อย”
“ช่วยแล้วได้ไร” ลองถามหยั่งเชิงดูก่อน ถ้ารางวัลน่าสนใจค่อยช่วย
“แซลม่อนชุดใหญ่” แค่ได้ยินแซลม่อนชุดใหญ่ตาก็ลุกวาวแล้ว แต่แค่นี้มันไม่พอว่ะ
“แค่นี้?”
“จะเอาอะไรอีกวะ!” ไม่ใช่คำถามว่าผมต้องการอะไรอีก แต่เป็นอารมณ์หงุดหงิดกับความเยอะของผม
แน่นอน…ช่วยทั้งทีต้องเอาให้คุ้มดิวะ
“แค่นี้พอร์ชไม่ไปนะ” ผมว่า ตั้งท่าจะลุกเอาจานไปเก็บ
“แซลม่อนก็พอละมั้ง
ไม่มีเงินแล้วเนี่ย” เห็นแก่แซลม่อน เอ้ย! เห็นแก่ความช็อตของเงินในกระเป่าของพี่มัน ลดให้เหลือแค่แซลม่อนก็ได้
“ก็ได้.. ช่วยแล้วก็ห้ามลืมนะ”
“ไม่ลืมหรอก เจอหน้าอยู่ทุกวัน”
ใช่… ไม่ลืมง่ายๆ หรอก
เล่นเจอหน้ากันทุกวันอย่างนี้
“พี่เกรทชอบเบี้ยวพอร์ชตลอดเลย”
“รอบนี้ไม่เบี้ยว”
“ไม่เชื่อหรอก”
“สัญญาเลยอะ”
ผมมองนิ้วก้อยของพี่เกรทที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะยื่นนิ้วของตัวเองไปเกี่ยวไว้
นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ทำอะไรอย่างนี้ ตั้งแต่ผมเป็นแค่ ‘เด็กชายศิฑา’ สูงไม่ถึงอกพี่เกรทหรือเปล่า ก่อนพี่เกรทจะเรียนมหา'ลัยแล้วมีแฟนหรือเปล่า
“เป็นไร”
“เปล่า”
“เพี้ยนนะมึง”
“ไม่เห็นจะรู้” โดนผลักหัวเข้าให้ เอะอะทำร้ายร่างกายตลอด
นี่ถ้าพี่มันได้ความดีถึงครึ่งพี่เต้บ้างก็คงดี
แต่อย่างนี้ก็ดีแล้ว.. เกิดพี่เกรททำดีด้วยมากกว่านี้ ผมคงคิดไปไกลน่าดู เป็นพี่เกรทแบบเถื่อนๆอย่างนี้ก็ดีละ
จัดการล้างจานเสร็จสรรพผมก็เดินตามพี่เกรทมายังบ้านหลังข้างๆ
เป็นบ้านสองชั้นไม่ต่างกัน พี่เกรทเดินนำผมไปยังห้องนอนของตัวเอง สภาพไม่ต่างจากตอนเด็กที่ชอบมาเล่นห้องนี้บ่อยๆ
รกยังไงก็รกเหมือนเดิม
“มีงูปะเนี่ย”
แต่ผมว่าไม่น่าจะมี รกขนาดนี้งูมาอยู่เองยังโดนทับตายเลย
“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ
แต่วันก่อนเห็นมันเข้ามาทางหน้าต่าง” เจ้าของห้องพูดหน้าตาย นี่งูเข้าห้องเลยนะ
ไม่คิดจะกลัวบ้างหรือไง เดินไปเปิดหน้าต่างเฉย เกิดไปจ๊ะเอ๋กับงูจะทำไง
ผมเดินไปนั่งที่เก้าอี้
คงเป็นที่เดียวที่พอจะหย่อนตูดได้ในเวลานี้
ขนาดเตียงที่เอาไว้นอนพี่มันยังใช้เป็นที่วางหนังสือเลย
ผมสอดส่องสายตาไปทั่ว
เฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้ไม่ต่างอะไรกับสมัยที่ผมมาเล่นนักหรอก
จะต่างก็แค่ความเก่าใหม่เท่านั้น สิ่งที่เพิ่มมาจนผมสัมผัสได้
ส่วนใหญ่จะเป็นรูปคู่ชายหญิงซะมากกว่า
ผู้ชายที่เป็นพี่เกรท
และผู้หญิงที่ตอนนี้กลายเป็นแฟนเก่าไปแล้ว
แต่ภาพทรงจำของคนสองคนกลับวางอยู่เต็มห้อง ทั้งโต๊ะทำงาน หัวเตียง
มีแขวนไว้ที่ผนังห้องอีก
แต่ผู้ชายที่อยู่ในรูปก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมาแม้แต่น้อย
ตอนนี้ผมเดาอารมณ์พี่เกรทได้ยากมาก หรือการที่พี่เกรทบอกว่าจะเดินหน้าต่อคือการตัดใจจากผู้หญิงคนนี้จริงๆ บางทีผมก็คิดว่านี่มันง่ายไป
“เดี๋ยวมึงช่วยเก็บรูปพวกนี้ใส่กล่องด้วยละกัน”
พี่เกรทบอกแค่นั้นก่อนจะผละตัวไปจัดหนังสือซึ่งวางอยู่บนเตียงเข้าชั้น
ผมหยิบรูปที่อยู่ใกล้ตัวมาใส่กล่อง
ใจก็นึกอยากถ่ายคู่กับพี่เกรทอย่างนี้บ้าง คงจะดีไม่น้อย
“พี่เกรท
รูปนี้มันใส่กล่องไม่ได้ว่ะ ให้วางไว้ไหน”
“ทิ้งแม่ง”
“ห๊ะ!” ทิ้งเลยหรอ เสียดายว่ะ กรอบรูปสวยชิบหาย
“ยัดใส่ถุงดำนั่นน่ะ
เดี๋ยวรอเอาไปทิ้งพร้อมกัน” พี่มันชี้ไปยังถุงดำที่วางอยู่ปลายเตียง
ทิ้งจริงดิ?
“ไม่เก็บไว้หน่อยหรอ”
“เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ เดี๋ยวไม่นานก็ทิ้งอยู่ดี มึงก็ทิ้งๆไปเหอะ” เหนือสิ่งอื่นใดคือรูปนี้พี่เกรทหล่อไง ยิ้มสวยด้วย เก็บไว้ไม่ได้หรอ
“งั้นพอร์ชขอนะ”
“เอาไปดิ”
ผมแขวนรูปไว้ที่เดิม
เอาไว้เสร็จค่อยหยิบติดมือไปด้วย ว่าแต่เก็บรูปเสร็จแล้วให้ทำไรต่ออ่ะ
“เสร็จแล้ว ให้ช่วยไรอีกไหม”
“เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้หน่อย
อันใหม่เก็บไว้ในลิ้นชักตรงนั้น ลองค้นดู”
ผมเดินไปยังลิ้นชักที่พี่เกรทชี้
ว่าแต่พี่มันเก็บเอาไว้ชั้นไหนวะ ผมลองดึงชั้นแรกออกมาดูซึ่งมันทำให้ผมพบกับ…
“ไอ้พี่เกรท!!” ผมตะโกนลั่นห้อง ไม่คิดว่าพี่มันจะเป็นคนนิสัยอย่างนี้
“อะไรอีกวะ” เจ้าของห้องยังไม่รู้ตัวว่าผมเจออะไรเข้า
แผ่นเดียวไม่ว่านี่พี่มันมีเยอะจนนับไม่ได้เลย ไม่ใช่สะสมตั้งแต่แผ่นแรกเลยเหรอ
“ทำไมเป็นคนงี้วะ!” ให้ตายเถอะ นี่พี่มันเริ่มดูตอนอายุเท่าไหร่วะเนี่ย
“อะไรของมึงวะพอร์ช” นั่น… เดิมดุ่มๆ มาทางผมแล้ว “มันก็แค่หนังโป๊ปะ
ใครๆ ก็ดูกันเถอะ ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้” ใครๆของพี่ที่ไม่รวมผมไง
เพราะผมไม่ดู
“ดูมานานเท่าไหร่แล้ว” อย่างน้อยก็ขอให้มั่นใจว่าไม่ใช่ช่วงที่พี่มันเรียกผมน้องพอร์ชก็แล้วกัน
เพราะผมคงรับไม่ได้แน่ถ้าเกิดมารู้สิ่งที่ตัวเองคิดผิดมาตลอด ไม่อยากเปลี่ยนภาพลักษณ์พี่เกรทแสนดีหรอกนะ
“จำไม่ได้ละ”
อย่างน้อยเป็นคำตอบนี้ก็ยังดี
--
เราสองคนนอนแผ่อยู่บนพื้น
เหงื่อเปียกชุ่มไปทั่วจนเหนียวตัว แน่นอนแหละ น้ำก็ยังไม่อาบตั้งแต่เช้า
เวลาตอนนี้ก็ล่วงเลยมาบ่ายสองแล้ว รออีกแปบแล้วค่อยอาบน้ำเข้านอนทีเดียวเลยดีไหม
ขี้เกียจเว้ย
“พี่เกรท”
“ว่า?”
“หิวว่ะ” สิ้นคำ
ท้องก็ร้องโครกครากอย่างกับกลัวว่าคนที่นอนอยู่ด้านข้างจะไม่เชื่อ
“ไอ้อ้วนเอ๊ย!” ไม่อ้วนเหอะ ตอนเด็กพอร์ชออกจะผอม ผมเถียงอยู่ในใจ
ขี้เกียจแม้กระทั่งเถียงออกมา วอนกระแสจิตรช่วยสื่อไปให้พี่มันเข้าใจที
“มีอะไรให้กินไหม” ผมถามต่อ ว่าจะให้กระแสจิตรทำงานแต่ดูแล้วไม่น่ารอด
“มีผลไม้อยู่ด้านล่าง ลงไปเอาดิไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง
เอามาเผื่อกูด้วย”
“พอร์ชเหนื่อย”
“…”
“รู้สึกเหมือนขาหมดแรง” ดูท่าพี่มันจะไม่สนใจผมเลยพูดต่อ นี่แกล้งไม่รู้หรือดูไม่ออกจริงๆ
“เป็นง่อยหรือไง ขาอ่อนแรงขึ้นมากะทันหันเชียวนะ
ขี้เกียจล่ะสิไม่ว่า”
“พอร์ชเหนื่อยไม่ได้ขี้เกียจ”
เอาแค่ง้างปากมาคุยกับพี่เกรทยังเหนื่อยเลย พี่มันไม่รู้หรอกว่าเวลาจะยกริมฝีปากมันเหนื่อยแค่ไหน
“ก็ยังมีแรงคุยกับกูอยู่นี่หว่า
ไม่อยากเดินก็กลิ้งลงบันไดไปสิ” คนนะโว้ยไม่ใช่โอ่ง!!
“ไอ้พี่เกรท!”
“อะไรอีกล่ะ”
“พอร์ชหิว ไปเอามาให้หน่อยดิ”
โคตรอยากให้พี่เต้อยู่ด้วยตอนนี้เลย รายนั้นบอกว่าเหนื่อยก็วิ่งไปเอามาให้ละ
อีกอย่าง… ให้พี่เต้ตบหัวพี่เกรทสักรอบสองรอบคงจะดี วันนี้ผมโดนไปหลายรอบละ
เพี้ยนขึ้นมาจะโยนความผิดให้พี่มันนี่แหละ
“เออๆ ยุ่งยากจริงนะมึง
กินเยอะชิบหายกูยังไม่หิวเลย สมแล้วที่เป็นไอ้หมูอ้วน แก้มก็ไม่มีสันกรามก็หาย”
พี่มันลุกขึ้นก่อนจะบ่นพึมพำให้ผมได้ยิน แทบจะยื่นขาไปขวางทางให้คนพูดมากสะดุดล้ม
แต่สงสารท้องที่ร้องอยู่หรอกนะ ไม่ได้กลัวพี่เกรทฆ่าตายเลยจริงๆ
กล้าพูดว่าผมอ้วนได้ยังไง เดี๋ยวจะได้เจอดี
ผมลุกขึ้นมานั่งที่เตียง ห้องพี่เกรทตอนไม่รกก็น่านอนอยู่เหมือนกัน
ยิ่งไม่มีรูปคู่แล้วยิ่งสบายตา
พี่เกรทเคยพาแฟนมานอนที่ห้องนี้ไหม? เป็นคำถามที่ติดอยู่ในหัวตอนนี้
ไม่กล้าถาม ไม่กล้าคิดด้วย แปลกดีที่ตอนนี้ผมเกิดความรู้สึกหวงพี่ชายข้างบ้านขึ้นมา
แกร๊ก!
“เฮ้ย! ถอดเสื้อทำไม”
ขนาดนอนนิ่งๆ ให้ใส่เสื้อก็ทำใจอยู่นาน
นี่เจ้าตัวเล่นถอดโชว์อย่างนี้จะให้ผมจะทำยังไง
“ก็มันร้อน เหงื่อออก โคตรเหม็นเลย
เสื้อแม่งเล็กด้วยไม่รู้ของใคร”
ไม่รู้ของใคร? โคตรจุกเลยเถอะ
ตอนนั้นยังไปเลือกด้วยกันอยู่เลย
หรือเพราะไม่ได้ตั้งใจจะให้ผมตั้งแต่แรกเลยจำไม่ได้แล้ว
ถ้านี่ยังจำไม่ได้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเสื้อลายเดียวกันแต่ต่างไซส์อีกตัวจะยังอยู่ในตู้เสื้อผ้าพี่เกรทหรือเปล่า
คงจะทิ้งไปแล้วหรือไม่ก็กลายเป็นผ้าเช็ดโต๊ะ
“นั่งนิ่งอยู่ทำไม ลงมากินข้างล่าง”
ไม่อยากกินแล้วเว้ย ไม่อยากเห็นหน้าพี่มันด้วย
“ไอ้พอร์ช! จะไปไหน”
แม่งเอ๊ย! ทำไมต้องจับเขนไว้ด้วย
“กลับบ้าน!”
“ไหนบอกว่าหิว เอามาให้แล้วนี่ไง”
ผมปรายตาไปยังแอปเปิลที่สองลูก มีองุ่นดำด้วย แต่โทษที..
“พอร์ชไม่กินแอปเปิ้ลที่ยังไม่ปอกเปลือก”
จะมองผมเรื่องมากไหมไม่รู้ แต่รู้ว่าอยู่ไม่ได้แล้วว่ะ
“ไอ้พอร์ช!” ผมสลัดแขนจนหลุด
ก่อนจะเดินออกจากห้อง ได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อตามหลังแต่ไม่อยากหันกลับไปมอง
กับพี่เกรท… ผมควบคุมอารมณ์ตัวเองยากจริงๆ
รู้ว่าเมื่อกี้ตัวเองผิด แต่ผมก็น้อยใจที่พี่เขาลืมเรื่องที่ผมจำได้จนขึ้นใจ อุตส่าห์เก็บเสื้อตัวนั้นเอาไว้อย่างดี
ไม่ให้ใครใส่เลยสักครั้ง เพิ่งรู้ว่าพี่เกรทจะลืมมันไปแล้ว
*******
ความคิดเห็น