คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ความทรงจำที่ถูกขโมย
ความทรงจำที่ถูกขโมย
อัลทรอยหลบหนีความหวังดีที่รัฐบาลโลกหยิบยื่นให้
เขาไม่ได้ขึ้นยานกลับบ้านตามกำหนดการ
เพราะเขาต้องการรู้เรื่องราวทั้งหมด...สืบหาความจริงที่แอบแฝง
จริงอย่างที่ดิมเคยบอก
บางที...การ ’ไม่รู้’ มีความสุขกับ ’การรับรู้’ มากมายนัก...
เขาถูกขโมยสมอง !
เปล่าครับ... ไม่มีใครแอบมาผ่าตัดและยกเอาสมองของเขาออกไปทั้งอันแบบขโมยของ...
ในโลกยุคปลายศตวรรษที่ 21...
ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพเจริญสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว... ทำให้กระแสการทำชีวิตให้เป็นอมตะเป็นที่นิยม ระบาดไปทั่วโลก...
มันเกิดขึ้นมาจากการรวมตัวกันของ 2 สถาบันที่มุ่งพัฒนา 2 วิทยาการซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการทำให้ชีวิตมษุษย์เป็นอมตะ
หนึ่งคือการโคลนนิ่ง... ทำซ้ำสิ่งมีชีวิต
และอีกหนึ่งคือการดาวน์โหลดสมอง !
เมื่อมนุษย์สามารถสร้างกายภาพที่เหมือนร่างกายของคนเดิมทุกประการได้ และใส่ข้อมูลเดิมของเจ้าของกลับเข้าไปได้แล้ว
มนุษย์ย่อมสามารถเป็นอมตะได้...
นี่คือความเชื่อ ความหวังใหม่ของโลกในยุคนั้น
GOD ... เป็นชื่อบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ประมูลได้สัมปทานเพื่อใช้ผลงานวิจัยนี้ในเชิงธุรกิจเป็นรายแรก
และเป็นบริษัทเดียวที่ครองสถิติร่ำรวยที่สุดในโลกกว่าครึ่งศตวรรษ !
บุคคลสำคัญของโลกในแวดวงต่าง ๆ ทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ เชื้อพระวงศ์ชั้นสูงของแต่ละประเทศ รวมไปถึง นักกีฬา ดาราและไฮโซชื่อดัง
ต่างก็เลี้ยงตัวทำซ้ำของตัวเองเอาไว้อย่างดี คนละไม่ต่ำกว่า 4 คน !
ผู้คนทั่วโลกกระเสือกกระสน ดิ้นรนสร้างฐานะ เก็บหอมรอมริตเพื่อทำชีวิตให้เป็นอมตะ
จนแทบจะลืมการมีครอบครัว... การมีลูกที่เกิดจากการรวมตัวกันของเซลล์สองเซลล์ที่แตกต่างกัน ความรักของคนสองคน
และการเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูชีวิตที่เกิดจากธรรมชาติให้มานั้นจนเติบใหญ่ตามระบบการสืบสายพันธุ์ที่พระเจ้าประทานมาให้...
แต่ทว่า... ในที่สุด
ความนิยมที่แพร่หลายนั้นก็จบไป...
พร้อมกับคำตอบที่ยังไม่มีใครตอบได้จนถึงยุคนี้
เมื่อมนุษย์ได้พบว่า... แม้จะสามารถดาวน์โหลดข้อมูลทั้งหมดที่เป็นความรู้ ความคิด และความทรงจำในอดีตจากการเรียงตัวของเซลล์สมองได้นั้น
แต่จิตวิญญาณที่แท้จริงของตัวตนนั้นไม่ได้ติดตามมาด้วย !
ตัวทำซ้ำกับคนเดิมเป็นคนละจิตวิญญาณกัน
ความคิดเหมือนกัน คนละความรู้สึก
คนละคนกัน
เมื่อคนเดิมตายไป... จิตวิญญาณนั้นก็หลุดลอยจากไป...
ไปไหน...ไม่มีใครบอกได้... ไม่สามารถเรียกกลับมา...
เหมือนพระเจ้าได้เขียนโปรแกรมป้องกันการสอดรู้สอดเห็นของพวกเราไว้
ตัวตนของมนุษย์แต่ละคน ยังคงเป็นปริศนา ...
จนแล้วจนรอด... มนุษย์ก็ยังไม่สามารถ Crack รหัสลับแห่งการสร้างคนของพระองค์ได้
ทำได้แต่เรื่องวุ่นวายสับสน...
ความฝันสลายลง... เกิดการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย การประท้วงการทำลายตัวทำซ้ำซึ่งถือเป็นความผิดเชิงมนุษยธรรม
การทิ้งชีวิตของตัวทำซ้ำตามยัตถากรรมทำให้เกิดสภาพสังคมที่แย่ที่สุด โดยเฉพาะ
...เมื่อมีคนด้อยโอกาสที่มีกายภาพเหมือนกันหลาย ๆ คน... มีบ้างที่แอบฆาตกรรมแล้วสมอ้างเป็นตัวจริงไปเลย
ที่น่ากลัวกว่านั้น...
การดาวน์โหลดสมองกลับสร้างปรากฏการณ์วุ่นวายให้โลกในยุคนั้นได้อย่างมหาศาล
จนเป็นเป็นยุคมืดที่ตกต่ำกว่าโลกในยุคสงครามครั้งใด ๆ
เมื่อความลับของบุคคลระดับผู้นำระดับโลก ในวงการต่าง ๆ ทั้งการเมือง การเงิน การทหาร อุตสาหกรรม และธุรกิจ
ถูกยักยอกออกมาแอบซื้อขายกันในระดับต่าง ๆ เพื่อหลายวัตถุประสงค์
ทั้งเพื่อการสงคราม การขยายอำนาจ การแย่งชิงตำแหน่งทางการเมือง การแทรกแซงทางเศรษฐกิจ
การจารกรรมข้อมูลการผลิตในวงการอุตสาหกรรม การแข่งขันงานวิจัยและพัฒนา การล้วงความลับทางธุรกิจระหว่างคู่แข่งทางการค้า...
ที่นิยมเอามาเผยแพร่ในวงการข่าว เห็นจะเป็นความลับของดาราและไฮโซชื่อดัง
จนต้องมีกฎหมายคุ้มครอง สั่งห้ามไม่ให้ใช้เทคโนโลยีดาวน์โหลดสมองอีกเลย
ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน มีโทษอย่างแรงทีเดียว
แต่ตัวเทคโนโลยีนั้นยังถูกแอบวิจัยและพัฒนาต่อมาเรื่อย ๆ โดยการสนับสนุนของชาติมหาอำนาจ จนกลายเป็นรัฐบาลโลกในยุคนี้...
มันถูกใช้เป็นเครื่องมือในการจารกรรมข้อมูลลับของพวกเขาซึ่งเป็นผู้ตรากฎหมายห้ามนั้นเอง
แน่นอน... ในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่ายุคโบราณนั้นอย่างเปรียบเทียบกันไม่ได้
พวกเขาเพียงแค่ฉีดเซลล์หุ่นยนต์เข้าไปในสมองของเขา...แล้วส่งสัญญาณคลื่นความถี่ออกไปในขณะที่เขาหลับ
เพื่อสำรวจและรายงานการเรียงตัวของเซลล์สมองของเขา
อีกด้านหนึ่ง เครื่องรับสัญญาณจะพล๊อตข้อมูลนั้นเป็น 4 มิติ
พวกเขาก็แค่ทำซ้ำสมองของผมโดยการสร้างเซลล์ตามแบบจำลองนั้นแล้วใส่เข้าไปในหุ่นยนต์มนุษย์สักตัวเพื่อเรียกข้อมูลออกมาประมวลในคอมพิวเตอร์...
มิน่าล่ะ ระหว่างนี้ เขารู้สึกแปลก ๆและคิดว่าเขาถูกขโมยเวลา...
เขาถูกขโมยความทรงจำต่างหาก!!!
เพราะการดาวน์โหลดสมองโดยเซลล์หุ่นยนต์จารกรรมนั้นต้องใช้เวลามากกว่าเครื่องสแกนขนาดใหญ่มาก
ถ้าทำอย่างเร่งรีบจะสร้างความเจ็บปวดให้กับเจ้าของสมองนั้น เพราะถูกกระทบกระเทือนโดยตรง
ถือโอกาสที่เขาสับสนกับการนับคาบเวลาของดาวดวงนี้ แอบวางยานอนหลับให้เขานอนยาวนานเพื่อลักลอบขโมยสิ่งที่อยู่ในสมองของเขาออกไป
ที่เลวร้ายอย่างน่าตกใจที่สุด...
ถ้าเขาไม่ได้ไปพบกับเธอ...
ถ้าเขาไม่ได้ให้ดิมช่วยหาหมอมาตรวจร่างกายของเขาทันการณ์...
ถ้าเขากลับโลกและเชื่อฟังตามที่ทางรัฐบาลจัดการ...
เมื่อถึงบ้าน... เขาจะไม่เหลืออะไรเลย
กลายเป็นคนสูญเสียความทรงจำ !
ข้อมูลคำสั่งแบบตั้งเวลาในเซลล์หุ่นยนต์ที่ถูกเรียกออกมาคือโปรแกรมลบความทรงจำของเขาออกไปให้หมดสิ้นระหว่างอยู่บนยานกลับโลก... !
เพื่ออะไรกัน...เขาเป็นเพียงแค่ศิลปินอิสระที่ยังไม่มีชื่อเสียง
เป้าหมายอยู่ที่ซาฟรีรีนา...
จากนโยบายขยายอำนาจของมนุษย์โลกเพื่อสูบพลังงานจากต่างดาว
การครอบครองแหล่งพลังงานใหม่ในป่าหินกันดารของชาวคองกาจะทำได้ง่ายขึ้นเมื่อขาดผู้นำที่เป็นหัวใจอย่างซาฟรีรีนา
ในตอนแรกที่ไม่มีข่าวใด ๆ เล็ดลอดออกมาเลย... เพราะความสงบนิ่งของซาฟรีรีนา
เขานึกถึงภาพที่เห็นเธอครั้งแรก เธอนั่งนิ่งราวรูปปั้น ไม่พูด ไม่ดื่มกิน ไม่แม้แต่เคลื่อนไหว เหมือนไม่หายใจด้วยซ้ำ...
ไม่มีใครรู้เรื่องราวของชาวคองกา... และยิ่งกว่านั้นคือไม่มีใครรู้เรื่องราวของซาฟรีรีนา
แม้แต่พันธมิตรชาวอีบรูเองก็ตาม พวกเขารู้เพียงว่าเธอเป็นผู้นำเผ่าคองกาในฐานะหญิงสาวศักดิ์สิทธิ์
และให้ข้อมูลเพียงน้อยนิดว่าเธอเคยใช้ชีวิตช่วงสั้น ๆ ในโลกภายนอกตอนศึกษาอยู่ แต่ดูเหมือนว่า ไม่มีใครรู้เรื่องของเธอจริง ๆ สักคน
การเจรจาจะไม่มีวันเกิดขึ้น และถ้าหากเป็นแบบนั้นต่อไป
ที่น่ากลัวกว่านั้น หากซาฟรีรีนาตายระหว่างที่อยู่ในความคุ้มครอง หรือถ้าจะพูดให้ถูกคืออยู่ในการจำกัดบริเวณของรัฐบาลโลก
เรื่องคงไม่จบลงด้วยดีเป็นแน่ อาจบานปลายเป็นชนวนก่อให้เกิดสงครามต่างดาวเลยก็ได้
มีมนุษย์โลกเพียงคนเดียวที่รู้เรื่องราวของเธอ
ผู้บุกรุกที่รอดพ้นจากการเป็นเหยื่อ...
ที่สำคัญ... เธอกลับยอมสละแขนและเสี่ยงชีวิต แม้กระทั่งยอมสูญเสียอิสรภาพเพื่อรักษาชีวิตของมนุษย์โลกผู้นั้น
ความทรงจำของเขาจึงกลายเป็นคำตอบที่ดี
เรื่องราวบนผาหินแห่งกำเนิด... เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรอยร้าวของดวงดาว...
เหมือนเป็นคำเฉลยที่ต้องการ รัฐบาลโลกจึงใช้ชีวิตผมเป็นตัวประกัน ในการต่อรองกับเธอ
ในที่สุด...
เธอจึงยอมร่วมมือในการเจรจา...หลังจากได้รับความเห็นชอบความคณะผู้นำเผ่า...
และเมื่อทุกอย่างสำเร็จลงด้วยดีในทางการข่าว...
มันดีเพียงพอสำหรับสร้างภาพแล้ว แต่ไม่ดีพอสำหรับข้อตกลงด้านผลประโยชน์
รัฐบาลโลกจึงต้องการปิดฉากทุกอย่างลง
หักหลัง...
ในเมื่อข้อมูลจากความทรงจำผมบอกว่า การกำจัดซาฟรีรีนา ไม่ใช่การวางแผนฆ่าหญิงสาวผู้ดำรงตำแหน่งซาฟรีรีนาผู้นั้น
แต่ต้องป้องกันไม่ให้เกิดการถ่ายทอดวิญญาณ... จะต้องไม่มีซาฟรีรีนาอีกต่อไป !!
มนุษย์จะได้สร้างโลกใหม่ให้คองกา... !
ซาฟรีรีนาจึงถูกวางยา...
สารเคมีชนิดหนึ่ง ที่จะไหลซึมสู่ระบบหมุนเวียนโลหิต ให้เกิดปฏิกิริยาเคมีในเลือด เปลี่ยนร่างกายของคนคนหนึ่งให้กลายเป็นระเบิดเวลา !!!
จะไม่มีใครสามารถรับการถ่ายทอดวิญญาณได้อีกในทุกกรณี...
หากชาวคองการู้ตัวก่อนการระเบิด ก็ไม่มีใครสามารถรับการถ่ายทอดวิญญาณแห่งซาฟรีรีนาด้วยการกินเลือดเนื้อตามความเชื่อได้
และการตายโดยระเบิดจนไม่เหลือซากสังขารใด...
จะทำให้ไม่มีผู้ใดสามารถรับการถ่ายทอดวิญญาณตามความเชื่อแห่งเผ่าพงศ์เดิมได้อีกเลยตลอดกาล
เป็นแผนการอำมหิต รอบคอบ
พวกเขาคำนวณให้เกิดการระเบิดหลังการเจรจาจบสิ้นลง 2 วันซึ่งตรงกับการเดินทางกลับถึงเขตแดนของชาวคองกา
ซึ่งการระเบิดนี้จะสามารถทำลายชีวิตผู้นำเผ่าอีกหลายคน
ที่สำคัญยังสร้างความสับสน ป้ายสีความผิดให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายชาวอีบรูผู้ต่อต้านมนุษย์โลกที่มารอรับการกลับดินแดนของซาฟรีรีนาอีกด้วย
สร้างความสับสน หวาดระแวง และแตกแยก... จุดเริ่มต้นของการยึดครองดวงดาวที่มนุษย์โลกถนัดนัก
แต่ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน...
ซาฟรีรีนารู้สึกตัวก่อนถึงความผิดปกติในร่างกาย
... เธอจึงแยกตัวออกมาจากขบวนเดินทางกลับกลางทาง ลอบเข้ามาพบดิมและอ้อนวอนให้เขาช่วยส่งข่าวเพื่อที่จะได้พบอัลทรอยเป็นครั้งสุดท้าย
เขาหวนนึกถึงคำพูดของเธอวันนั้น...
“เพราะข้าแท้ ๆ ... “
“โอ... ไม่ผิดเลยจริง ๆ ข้ารู้อยู่แล้วว่า ท่านไม่มีทางหักหลังข้า ข้าเชื่อมั่นเช่นนั้นมาตลอด แล้วท่านก็ไม่ทำให้ข้าผิดหวังเลย...
ข้าดีใจที่สุด...ข้าขอแค่พิสูจน์ความจริงอันนี้ให้หายกังวลแล้วข้าก็ไม่ต้องการอะไรอีก ข้าจะได้จากไปอย่างมีความสุข...”
เธอเป็นห่วงเขา...
เธอคงรู้ว่าเขาไม่ได้หักหลังเธอ... แต่มีคนอื่นที่หักหลังเขาและเขากำลังอยู่ในระหว่างอันตราย...
เธอจึงทำทุกอย่างเพียงเพื่อพบหน้าเขาอีกครั้งก่อนจากไป
เขาเองก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเธอทำอย่างไรถึงได้รู้ตัวก่อนว่าเธอได้กลายเป็นระเบิดชีวภาพลูกหนึ่งไปแล้ว
และชีวิตกำลังนับถอยหลังลงเรื่อย ๆ ...
น่าแปลกที่เธอสามารถคำนวณแม้แต่เวลาระเบิดได้อย่างแม่นยำ
เธอไม่อยากให้เขารับรู้ว่าเธอจากไปอย่างไร เธอถึงย้ำกับดิมนักหนาว่าเขาต้องกลับมาก่อนพระจันทร์ขึ้น...
และเมื่อเขาและเธอไม่รักษาเวลาที่วางแผนไว้ เธอจึงให้เขาสัญญาว่าจะไม่หันกลับไป...
เขาก็ไม่ได้หันกลับไปจริง ๆ ตามสัญญา...
เอเกรธา...
เธอคือขนนกสีขาวบริสุทธิ์ของเขา
เหมือนเป็นความหมายของชีวิต เป็นพลัง เป็นแรงบัลดาลใจที่เขาค้นหามานานแสนนาน...
เขาเสียใจที่สุดที่ไม่ได้ให้เกียรติเธอตามที่เธอเข้าใจ
ผู้ที่ต้องมีร่างสุดท้ายเป็นซากศพอันเน่าเปื่อย แตกสลายสู่รูปของอนินทรีย์แห่งธาตุทั้งสี่
วิญญาณจากฟากฟ้า
ธาตุที่ห้า หรือธาตุชีวิตจะล่องลอยจากไปสู่ความมืดมิดนอกจักรวาล จากความเป็นคองกาชั่วนิรันดร์
เขาได้แต่ภาวนาว่าอย่าได้เป็นเช่นนั้นเลย
สำหรับเขาแล้ว การที่เขาเฝ้าคิดถึงเธออยู่เสมอ คือการที่เธอไม่ได้ตายจากไปไหน เธอจะมีชีวิตสถิตอยู่ในจิตใจของเขาตลอดไป
แต่ทว่า...สำหรับเธอ
ความเชื่อของชาวคองกา ทำให้เขาไม่แน่ใจ
สิ่งเดียวที่เขาตั้งใจจะทำก่อนไปจากที่นี่ คือการตามหาสิ่งล้ำค่าที่เขาได้ทำหายไป...
เขาจะไม่จากไปไหนจนกว่า...
ได้ให้เกียรติเธอตามสัญญา
ความคิดเห็น