คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เหตุผลของการมาเยือน
เหตุผลของการมาเยือน “เถอะน่า
”
“ไอ้บ้า
แกไม่เกี่ยวซักหน่อย แกก็รู้ ๆ อยู่แล้ว
ฉันไม่ได้ไปเที่ยวนะโว้ย”
“ไอ้งก”
“ใช่
เปลืองงบ”
“โธ่เว้ย
ฉันไม่ปรบกวนแกมากหรอกน่า ขอแค่ติดไปด้วย ถึงที่โน่นฉันจัดการตัวเองได้”
“นี่
ทรอย โลกของเราก็ไม่ได้แคบอะไร มีให้แกวาดได้ทั้งชาติก็ไม่จบ แกจะไปทำไมวะ ไอ้ดาวที่มันมีมนุษย์กินคนเดินเพ่นพ่าน ไม่รู้มันจะลากแกไปแล่กินเมื่อไหร่
ฉันยังไม่อยากไปเสี่ยงเลย แต่ในเมื่อเป็นงานขององค์การจ้างมาฉันก็เลี่ยงไม่ได้ ฉันละหน่ายไอ้พวกศิลปินพวกบ้านี่จริง ๆ” ดิมมองเพื่อนของเขาอย่างเหนื่อยหน่าย
อัลทรอยเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่จำความได้
เขาเป็นคนดื้อเงียบที่สุด ทำหรือคิดอะไรไม่เหมือนคนปกติ แต่ก็เป็นคนมีเสน่ห์โดยไม่ต้องบริหาร ผิวสีแทนไม่ขาวไม่คล้ำ รูปร่างสูงสมส่วน แววตาสีน้ำตาลอ่อน ดูหวานปน
ไม่ถึงเศร้า แต่ซึมนิด ๆ เหมือนคิดอะไรไกลไปจากสิ่งที่เห็นตลอดเวลา
ผมยาวประบ่า 2 สี น้ำตาลแกมทอง ซอยรวบไว้หลวม ๆ ที่ท้ายทอยแบบไม่ใส่ใจเป็นประจำ เข้ากับเสื้อผ้าแบบเรียบเก๋แต่ปล่อยให้ยับยู่ยี่ และไม่เคยจัดเข้าที่เข้าทาง
ทั้งหมดนั่นยังไม่เท่ากับปากบางที่เผยอน้อย ๆ อย่างไม่ตั้งใจตอนเผลอเข้ากับลักยิ้มลึก 2 ข้าง ไว้กระชากใจสาวเวลายิ้มหรือกระทั่งเบ้ปากเวลาไม่เห็นด้วยหรือเซ็ง ๆ
เขาชอบมีปัญหาโลกหรือคำถามขวางโลกที่ไม่รู้ใช้อวัยวะอะไรคิดออกมาได้เสมอ ๆ
ไม่รู้ว่าควรจะแนะนำว่าเขามีอาชีพอะไรแน่ นักคิด นักปรัชญา หรือศิลปินใด
แต่ที่แน่ ๆ เมื่อเขาสนใจเรื่องอะไร เขาจะศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจัง ราวกับนักศึกษาปริญญาเอกที่กำลังทำวิทยานิพนธ์
จะว่าไปก็เหมือนกำลังทำ Post Doctor ดี ๆ นี่เอง
แล้วในที่สุด คิมก็เป็นฝ่ายแพ้ และเพื่อนของเขา
อัลทรอยก็ได้เดินทางกับกลุ่มนักสำรวจดวงดาวที่เขาทำงานอยู่ไปยังดาวเคราะห์น้อยดวงใหม่อีกแกแลคซีหนึ่งในทางช้างเผือก
อย่างไม่สบายใจที่สุด
ด้วยความเป็นห่วงสวัสดิภาพของตัวเองและผู้เป็นเพื่อน ไม่ใช่คำล่ำลือเกี่ยวกับความดิบเถื่อนของเผ่าคองกา
แต่เนื่องจากการสำรวจคราวนี้มันมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรสักอย่างซึ่งเป็นแผนงานลับของรัฐบาลโลกแอบแฝงอยู่ แต่เขาก็ยังจับความไม่ได้ว่ามันคืออะไร
“เข้าสู่สนามแรงดึงดูดแล้ว ประจำที่ด้วย”
อัลทรอยได้ยินเสียงซ้ำเป็นรอบที่สองเมื่ออยู่ในแคปซูลนิรภัยเรียบร้อยแล้ว
ชายหนุ่มตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียวที่กำลังจะถึงดินแดนแห่งใหม่อันแปลกประหลาดของดาวเคราะห์ซึ่งถูกค้นพบล่าสุด
และทำสัมพันธไมตรีกับโลกเมื่อไม่ถึงสิบปีมานี้เอง
มันจึงยังมีเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างเด่นชัด เพราะยังไม่ได้ถูกคุกคามโดยองค์การพัฒนาวัฒนธรรมสากลบ้า ๆ นั่น
เหมือนเครื่องมือล้างสมองของมนุษย์ชัด ๆ ถ้าทั้งจักรวาลเป็นระบบสากลหมดอย่างที่มนุษย์โลกเป็นอยู่ทุกวันนี้ละก็ ไม่ใช่ว่าจะได้ความสงบสุขอย่างในโฆษณาห่วยแตกนั่น
แต่เรื่องวุ่นวายต้องเกิดขึ้นแน่นอน
อย่างน้อยก็ “มนุษย์ครองจักรวาล” เหมือนอย่างที่ครั้งหนึ่งเคยครองโลกเหนือสิ่งมีชีวิตทั้งหลายมาแล้ว !
เมื่อ “วิถี” ธรรมชาติ ถูก “วิธี” ของมนุษย์ทวนกระแส ละก็
ทันใดนั้น ๆ เอง เสียงระเบิดกึกก้องกัมปนาทขึ้น
ท่ามกลางอากาศที่กำลังปลิวว่อน
อัลทรอยหมุนเคว้างอยู่ในแคปซูลนิรภัยอย่างไร้ทิศทาง แรงกระแทกทำให้เขาสลบไปไม่รู้นานเท่าไรในความมืดมิดราวกับอยู่ก้นเหว
ไม่ใช่ “ราวกับ” กว่าเขาจะคืนสติขึ้นมา
เขาก็อยู่ก้นเหลวจริง ๆ นั่นแหละ!
“เถอะน่า
”
“ไอ้บ้า
แกไม่เกี่ยวซักหน่อย แกก็รู้ ๆ อยู่แล้ว
ฉันไม่ได้ไปเที่ยวนะโว้ย”
“ไอ้งก”
“ใช่
เปลืองงบ”
“โธ่เว้ย
ฉันไม่ปรบกวนแกมากหรอกน่า ขอแค่ติดไปด้วย ถึงที่โน่นฉันจัดการตัวเองได้”
“นี่
ทรอย โลกของเราก็ไม่ได้แคบอะไร มีให้แกวาดได้ทั้งชาติก็ไม่จบ แกจะไปทำไมวะ ไอ้ดาวที่มันมีมนุษย์กินคนเดินเพ่นพ่าน ไม่รู้มันจะลากแกไปแล่กินเมื่อไหร่
ฉันยังไม่อยากไปเสี่ยงเลย แต่ในเมื่อเป็นงานขององค์การจ้างมาฉันก็เลี่ยงไม่ได้ ฉันละหน่ายไอ้พวกศิลปินพวกบ้านี่จริง ๆ” ดิมมองเพื่อนของเขาอย่างเหนื่อยหน่าย
อัลทรอยเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่จำความได้
เขาเป็นคนดื้อเงียบที่สุด ทำหรือคิดอะไรไม่เหมือนคนปกติ แต่ก็เป็นคนมีเสน่ห์โดยไม่ต้องบริหาร ผิวสีแทนไม่ขาวไม่คล้ำ รูปร่างสูงสมส่วน แววตาสีน้ำตาลอ่อน ดูหวานปน
ไม่ถึงเศร้า แต่ซึมนิด ๆ เหมือนคิดอะไรไกลไปจากสิ่งที่เห็นตลอดเวลา
ผมยาวประบ่า 2 สี น้ำตาลแกมทอง ซอยรวบไว้หลวม ๆ ที่ท้ายทอยแบบไม่ใส่ใจเป็นประจำ เข้ากับเสื้อผ้าแบบเรียบเก๋แต่ปล่อยให้ยับยู่ยี่ และไม่เคยจัดเข้าที่เข้าทาง
ทั้งหมดนั่นยังไม่เท่ากับปากบางที่เผยอน้อย ๆ อย่างไม่ตั้งใจตอนเผลอเข้ากับลักยิ้มลึก 2 ข้าง ไว้กระชากใจสาวเวลายิ้มหรือกระทั่งเบ้ปากเวลาไม่เห็นด้วยหรือเซ็ง ๆ
เขาชอบมีปัญหาโลกหรือคำถามขวางโลกที่ไม่รู้ใช้อวัยวะอะไรคิดออกมาได้เสมอ ๆ
ไม่รู้ว่าควรจะแนะนำว่าเขามีอาชีพอะไรแน่ นักคิด นักปรัชญา หรือศิลปินใด
แต่ที่แน่ ๆ เมื่อเขาสนใจเรื่องอะไร เขาจะศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจัง ราวกับนักศึกษาปริญญาเอกที่กำลังทำวิทยานิพนธ์
จะว่าไปก็เหมือนกำลังทำ Post Doctor ดี ๆ นี่เอง
แล้วในที่สุด คิมก็เป็นฝ่ายแพ้ และเพื่อนของเขา
อัลทรอยก็ได้เดินทางกับกลุ่มนักสำรวจดวงดาวที่เขาทำงานอยู่ไปยังดาวเคราะห์น้อยดวงใหม่อีกแกแลคซีหนึ่งในทางช้างเผือก
อย่างไม่สบายใจที่สุด
ด้วยความเป็นห่วงสวัสดิภาพของตัวเองและผู้เป็นเพื่อน ไม่ใช่คำล่ำลือเกี่ยวกับความดิบเถื่อนของเผ่าคองกา
แต่เนื่องจากการสำรวจคราวนี้มันมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรสักอย่างซึ่งเป็นแผนงานลับของรัฐบาลโลกแอบแฝงอยู่ แต่เขาก็ยังจับความไม่ได้ว่ามันคืออะไร
“เข้าสู่สนามแรงดึงดูดแล้ว ประจำที่ด้วย”
อัลทรอยได้ยินเสียงซ้ำเป็นรอบที่สองเมื่ออยู่ในแคปซูลนิรภัยเรียบร้อยแล้ว
ชายหนุ่มตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียวที่กำลังจะถึงดินแดนแห่งใหม่อันแปลกประหลาดของดาวเคราะห์ซึ่งถูกค้นพบล่าสุด
และทำสัมพันธไมตรีกับโลกเมื่อไม่ถึงสิบปีมานี้เอง
มันจึงยังมีเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างเด่นชัด เพราะยังไม่ได้ถูกคุกคามโดยองค์การพัฒนาวัฒนธรรมสากลบ้า ๆ นั่น
เหมือนเครื่องมือล้างสมองของมนุษย์ชัด ๆ ถ้าทั้งจักรวาลเป็นระบบสากลหมดอย่างที่มนุษย์โลกเป็นอยู่ทุกวันนี้ละก็ ไม่ใช่ว่าจะได้ความสงบสุขอย่างในโฆษณาห่วยแตกนั่น
แต่เรื่องวุ่นวายต้องเกิดขึ้นแน่นอน
อย่างน้อยก็ “มนุษย์ครองจักรวาล” เหมือนอย่างที่ครั้งหนึ่งเคยครองโลกเหนือสิ่งมีชีวิตทั้งหลายมาแล้ว !
เมื่อ “วิถี” ธรรมชาติ ถูก “วิธี” ของมนุษย์ทวนกระแส ละก็
ทันใดนั้น ๆ เอง เสียงระเบิดกึกก้องกัมปนาทขึ้น
ท่ามกลางอากาศที่กำลังปลิวว่อน
อัลทรอยหมุนเคว้างอยู่ในแคปซูลนิรภัยอย่างไร้ทิศทาง แรงกระแทกทำให้เขาสลบไปไม่รู้นานเท่าไรในความมืดมิดราวกับอยู่ก้นเหว
ไม่ใช่ “ราวกับ” กว่าเขาจะคืนสติขึ้นมา
เขาก็อยู่ก้นเหลวจริง ๆ นั่นแหละ!
ความคิดเห็น