ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : 11-ความช่วยเหลือ 2/3
คนที่เปิดประตูคลินิกเข้ามาทำให้เมขลาลุกขึ้นยืนทันที เธอยกมือไหว้ตามมารยาท ไม่สบตาไม่ยิ้มให้
ภูษิตรับไหว้แบบงงๆ ก่อนหันไปทางแพทย์หญิง
"คิดว่าไม่มีคนไข้"
กังสดาลยิ้มก่อนตอบ
"ไม่ใช่คนไข้ เมมาคุยเฉยๆ คุณภูมีอะไรหรือเปล่า"
เมขลาได้จังหวะชิ่งหนี เธอไม่อยากเจอหน้าเจ้าของตลาด อยู่ใกล้แล้วเหมือนมีรังสีอำมหิตแผ่ออกมาจนรู้สึกหนาวๆร้อนๆ
"เอ่อ พี่หมอแก้มคะ เมกลับก่อนดีกว่าค่ะ"
กังสดาลมองออกว่าสาวรุ่นน้องต้องการหลบหน้าภูษิตเพราะเคืองเรื่องวันก่อน
"จ้ะ อย่าลืมยาของราเชล แล้วก็ขับรถดีล่ะ"
เมขลารับยาแล้วเดินออกไปทันที ไม่สนใจสายตาคมที่มองตามหลังด้วยความสงสัย
"เขาเป็นอะไร" ภูษิตหันมาถามเจ้าของคลินิกแทน แต่กังสดาลไม่เข้าใจว่าเขาถามถึงอะไรกันแน่
"เหมือนไม่พอใจ" ก็ใครๆ เจอเขามีแต่เข้าหา เด็กนี่ทำท่าเหมือนจะวิ่งหนีทุกครั้งที่เจอ
"ก็คุณภูทำอะไรไว้หรือเปล่าคะ" หมอสาวย้อนถามยิ้มๆ ก่อนเปลี่ยนเรื่อง
"มาหาแก้มมีอะไรเหรอ"
เธอกับภูษิตเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่หมอกังสดาลรักษาระยะห่างกับเขาเสมอ เพราะย่าอุไรคือผู้มีพระคุณสูงสุดในชีวิต เธอจึงยกหลานชายของท่านเป็นบุคคลที่เธอไม่กล้าตีตัวเสมอ
เธอเลยใช้สรรพนามเรียกเขาเหมือนคนในตลาด ส่วนหนึ่งเพื่อเตือนตัวเองว่าที่ได้เป็นหมอ มีหน้ามีตาในสังคมได้เพราะเงินส่งเสียจากคุณย่าอุไร
"ไม่ได้อ่านข้อความล่ะสิ "
กังสดาลยิ้มเจื่อน เธอยุ่งมากจริงๆ กว่าคนไข้จะหมดก็เลยทุ่มหนึ่งแล้ว
"เหมือนเดิม ปวดหลัง"
หมอกังสดาลเดินเข้าไปหาร่างสูง ใช้มือกดเบาๆ บนกล้ามเนื้อด้านหลังเขา
"ลองก้มไปข้างหน้าค่ะ"
ชายหนุ่มทำตามอย่างคนว่าง่าย แต่โน้มไปข้างหน้าได้ไม่มากก็ต้องนิ่วหน้า
"ไปโรงพยาบาลให้หมอตรวจละเอียดก็ดีนะคะ" เธอแนะนำไปหลายรอบแล้ว แต่ภูษิตไม่ยอมทำตามสักที
"ไม่มีเวลา" เหตุผลเดิมๆ
"กินยา ทายาก็ทุเลาแหละ แต่จะดีขึ้นถ้าได้ทำกายภาพบ้าง แต่ถ้าไม่อยากทำกายภาพ ก็หาคนนวดให้ก็ได้ค่ะ"
ชายหนุ่มมองหน้าหมอสาวเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้พูดเล่น เรื่องหาคนนวด
กังสดาลยิ้มบางๆ เช่นเคย
"เดี๋ยวแก้มให้ยานวด กับสเปรย์ไปด้วยนะคะ คนนวดไปหาเอาเอง"
"หาให้ด้วยก็ดีนะ"
หมอสาวส่ายหน้าน้อยๆ ขณะหยิบยาใส่ถุงให้ภูษิต เธอเชื่อว่าแค่ภูษิตเอ่ยปาก สาวๆ ทั้งตลาดจะกรูเข้ามาอาสานวดให้เขาแน่นอน"
"บ้านเป็นไงบ้าง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ถ้าผู้รับเหมางี่เง่าก็บอกผมได้นะ"
"ก็คืบหน้าไปเยอะแล้วล่ะ ถ้าไม่ได้คุณภูช่วยหาช่างให้ แก้มคงปวดหัวกับเรื่องสร้างบ้านมากเลย เห็นหลายคนเจอผู้รับเหมาทิ้งงานแล้วใจไม่ดี"
"มีปัญหาอะไรก็บอกนะ ถ้ามีเวลาเดี๋ยวจะแวะไปดู"
กังสดาลทำงานเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง จึงคิดขยับขยาย เพราะปัจจุบันเธอพักบนชั้นสองของคลินิก ซึ่งเป็นตึกแถวในตลาดโรยทองที่ย่าอุไรให้เธอเช่าราคาถูก เพราะอยากให้หมอสาวกลับมมาเปิดคลินิกช่วยชาวบ้านย่านนี้ มันเป็นเงื่อนไขที่คุณย่าอุไรตั้งไว้ และเธอก็เต็มใจ เพราะที่นี่คือบ้านเกิดเธอ
"สร้างบ้านแล้วจะอยู่กับใคร อย่าบอกว่าอยู่คนเดียว"
กังสดาลเลิกคิ้วขึ้นมอง หน้าร้อนขึ้นมาทันใด
"ผู้หญิงอยู่คนเดียวเยอะไป"
"อยู่สองคน มันดีกว่าอยู่คนเดียวอยู่แล้ว"
"ทีคุณภูยังออกมาอยู่คนเดียวเลย"
ภูษิตยิ้ม เป็นเพื่อนกันมาหลายปี นานๆ กังสดาลจะคุยเล่นกับเขา
"ผมเป็นผู้ชาย ดูแลตัวเองได้ อยู่คนเดียวทำอะไรสะดวกกว่า"
ไม่มีย่าค่อยสอดส่องให้อึดอัดใจ
"แก้มดูแลตัวเองได้ค่ะ"
ผู้หญิงมักจะอวดเก่งแบบนี้แหละ
เขาพอจะรู้มาบ้างว่ามีคนขายขนมจีบหมอกังสดาลอยู่สองสามคน แต่หมอยังไม่มีท่าทีว่าจะชอบใครเป็นพิเศษ ชายหนุ่มในฐานะเพื่อนเลยได้แต่ลุ้นเงียบๆ
"เลิกคุยเรื่องนี้เถอะค่ะ แก้มมีเรื่องขอความช่วยเหลือจากคุณภู"
ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นมองด้วยความแปลกใจ
ภูษิตรับไหว้แบบงงๆ ก่อนหันไปทางแพทย์หญิง
"คิดว่าไม่มีคนไข้"
กังสดาลยิ้มก่อนตอบ
"ไม่ใช่คนไข้ เมมาคุยเฉยๆ คุณภูมีอะไรหรือเปล่า"
เมขลาได้จังหวะชิ่งหนี เธอไม่อยากเจอหน้าเจ้าของตลาด อยู่ใกล้แล้วเหมือนมีรังสีอำมหิตแผ่ออกมาจนรู้สึกหนาวๆร้อนๆ
"เอ่อ พี่หมอแก้มคะ เมกลับก่อนดีกว่าค่ะ"
กังสดาลมองออกว่าสาวรุ่นน้องต้องการหลบหน้าภูษิตเพราะเคืองเรื่องวันก่อน
"จ้ะ อย่าลืมยาของราเชล แล้วก็ขับรถดีล่ะ"
เมขลารับยาแล้วเดินออกไปทันที ไม่สนใจสายตาคมที่มองตามหลังด้วยความสงสัย
"เขาเป็นอะไร" ภูษิตหันมาถามเจ้าของคลินิกแทน แต่กังสดาลไม่เข้าใจว่าเขาถามถึงอะไรกันแน่
"เหมือนไม่พอใจ" ก็ใครๆ เจอเขามีแต่เข้าหา เด็กนี่ทำท่าเหมือนจะวิ่งหนีทุกครั้งที่เจอ
"ก็คุณภูทำอะไรไว้หรือเปล่าคะ" หมอสาวย้อนถามยิ้มๆ ก่อนเปลี่ยนเรื่อง
"มาหาแก้มมีอะไรเหรอ"
เธอกับภูษิตเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่หมอกังสดาลรักษาระยะห่างกับเขาเสมอ เพราะย่าอุไรคือผู้มีพระคุณสูงสุดในชีวิต เธอจึงยกหลานชายของท่านเป็นบุคคลที่เธอไม่กล้าตีตัวเสมอ
เธอเลยใช้สรรพนามเรียกเขาเหมือนคนในตลาด ส่วนหนึ่งเพื่อเตือนตัวเองว่าที่ได้เป็นหมอ มีหน้ามีตาในสังคมได้เพราะเงินส่งเสียจากคุณย่าอุไร
"ไม่ได้อ่านข้อความล่ะสิ "
กังสดาลยิ้มเจื่อน เธอยุ่งมากจริงๆ กว่าคนไข้จะหมดก็เลยทุ่มหนึ่งแล้ว
"เหมือนเดิม ปวดหลัง"
หมอกังสดาลเดินเข้าไปหาร่างสูง ใช้มือกดเบาๆ บนกล้ามเนื้อด้านหลังเขา
"ลองก้มไปข้างหน้าค่ะ"
ชายหนุ่มทำตามอย่างคนว่าง่าย แต่โน้มไปข้างหน้าได้ไม่มากก็ต้องนิ่วหน้า
"ไปโรงพยาบาลให้หมอตรวจละเอียดก็ดีนะคะ" เธอแนะนำไปหลายรอบแล้ว แต่ภูษิตไม่ยอมทำตามสักที
"ไม่มีเวลา" เหตุผลเดิมๆ
"กินยา ทายาก็ทุเลาแหละ แต่จะดีขึ้นถ้าได้ทำกายภาพบ้าง แต่ถ้าไม่อยากทำกายภาพ ก็หาคนนวดให้ก็ได้ค่ะ"
ชายหนุ่มมองหน้าหมอสาวเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้พูดเล่น เรื่องหาคนนวด
กังสดาลยิ้มบางๆ เช่นเคย
"เดี๋ยวแก้มให้ยานวด กับสเปรย์ไปด้วยนะคะ คนนวดไปหาเอาเอง"
"หาให้ด้วยก็ดีนะ"
หมอสาวส่ายหน้าน้อยๆ ขณะหยิบยาใส่ถุงให้ภูษิต เธอเชื่อว่าแค่ภูษิตเอ่ยปาก สาวๆ ทั้งตลาดจะกรูเข้ามาอาสานวดให้เขาแน่นอน"
"บ้านเป็นไงบ้าง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ถ้าผู้รับเหมางี่เง่าก็บอกผมได้นะ"
"ก็คืบหน้าไปเยอะแล้วล่ะ ถ้าไม่ได้คุณภูช่วยหาช่างให้ แก้มคงปวดหัวกับเรื่องสร้างบ้านมากเลย เห็นหลายคนเจอผู้รับเหมาทิ้งงานแล้วใจไม่ดี"
"มีปัญหาอะไรก็บอกนะ ถ้ามีเวลาเดี๋ยวจะแวะไปดู"
กังสดาลทำงานเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง จึงคิดขยับขยาย เพราะปัจจุบันเธอพักบนชั้นสองของคลินิก ซึ่งเป็นตึกแถวในตลาดโรยทองที่ย่าอุไรให้เธอเช่าราคาถูก เพราะอยากให้หมอสาวกลับมมาเปิดคลินิกช่วยชาวบ้านย่านนี้ มันเป็นเงื่อนไขที่คุณย่าอุไรตั้งไว้ และเธอก็เต็มใจ เพราะที่นี่คือบ้านเกิดเธอ
"สร้างบ้านแล้วจะอยู่กับใคร อย่าบอกว่าอยู่คนเดียว"
กังสดาลเลิกคิ้วขึ้นมอง หน้าร้อนขึ้นมาทันใด
"ผู้หญิงอยู่คนเดียวเยอะไป"
"อยู่สองคน มันดีกว่าอยู่คนเดียวอยู่แล้ว"
"ทีคุณภูยังออกมาอยู่คนเดียวเลย"
ภูษิตยิ้ม เป็นเพื่อนกันมาหลายปี นานๆ กังสดาลจะคุยเล่นกับเขา
"ผมเป็นผู้ชาย ดูแลตัวเองได้ อยู่คนเดียวทำอะไรสะดวกกว่า"
ไม่มีย่าค่อยสอดส่องให้อึดอัดใจ
"แก้มดูแลตัวเองได้ค่ะ"
ผู้หญิงมักจะอวดเก่งแบบนี้แหละ
เขาพอจะรู้มาบ้างว่ามีคนขายขนมจีบหมอกังสดาลอยู่สองสามคน แต่หมอยังไม่มีท่าทีว่าจะชอบใครเป็นพิเศษ ชายหนุ่มในฐานะเพื่อนเลยได้แต่ลุ้นเงียบๆ
"เลิกคุยเรื่องนี้เถอะค่ะ แก้มมีเรื่องขอความช่วยเหลือจากคุณภู"
ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นมองด้วยความแปลกใจ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น