ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Falcon High โรงเรียนขมังเวทย์

    ลำดับตอนที่ #2 : เปิดโรงเรียน

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 48


                                   ค่ำคืนวันเสาร์  ในบ้านหลังน้อยกลางป่า    ภายนอกฝนตกหนัก   ฟ้าร้องดังไปทั่วราวกับคน



    โกรธบ้าคลั่ง    เหล่าบรรดาเป็ดที่คุณยายเลี้ยงไว้ต่างพลอยดีใจ   ออกมาเล่นน้ำฝนกันให้ทั่วบึง     เสียงอึ่งอ่าง



    ร้องระงมไปทั่ว ส่งเสียงแข่งกับเสียงฝน         แต่เสียงทั้งสองหรือจะสู้เสียงเพลงของคุณยาย  ที่ตอนนี้มันดังกลบ



    เสียงทุกสิ่ง ทุกอย่างในอาณาบริเวณนี้



            หญิงชรา  วัย  60     กับหญิงสาววัย  30   สองแม่ลูกผลัดกันร้องผลัดกันเต้น  ภายในบ้าน



    อย่างสนุกสนาน   งานปาร์ตี้ย่อมๆ ของ คน 3 คน   ที่สนุกแต่เพียงสองแม่ลูกเท่านั้น      จนวินาทีนี้   ไม้น้ำยังไม่รู้



    เลยว่า  ทำไมต้องเฉลิมฉลองเอิกเหริกกันมากมายขนาดนี้       แสงไฟจากโคมที่โยงระโย้ระย้า  ไฟกะพริบ  



    สายรุ้งสีสดใสที่พันกันไปพันกันมา   จนไม้น้ำเวียนหัว   เสียงเพลงที่ดังกรอกหูเขาจนแทบไม่ได้ยินเสียงจาก



    ภายนอก…………



    “   แม่ครับ…..แม่!!!     ไม้ไปนอนนะฮะ “



    “   อะไรกันจะนอนแล้วเหรอ  “  



    “  มาเต้น  กันหน่อยสิจ้ะ  หลานจ๋า  “



    ท่าทางการเต้นที่สุดสวิงดิงโก้   ของคนทั้งสอง   ทำเอาไม้น้ำส่ายหัวขึ้นมาทันที     ทำไมแม่และยายร่าเริงกันมาก



    จนผิดปกติ   คำถามนี้ยังค้างคาใจจนไม้น้ำขึ้นนอน



            ไม้น้ำก้าวขึ้นบันไดวน     ตรงสู่ประตูสีรุ้ง     ห้องนอนใต้หลบังคาของเขา   ภายในห้อง



    นอกจากเตียงเล็กๆ  เก่าๆ  ที่อยู่ริมข้างหน้าต่างแล้วนั้น   ชั้นหนังสือการ์ตูนเล่มโปรดก็คงเป็นสิ่งหนึ่งที่ไม้น้ำ



    ชอบมากเมื่อได้มาอยู่ในห้องเล็กๆห้องนี้   มันถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย   ตรงหัวนอนโปสเตอร์



    นักฟุตบอลที่ไม้น้ำชื่นชอบยังคงอยู่คงเดิม  ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปไหน  แม้สภาพห้องจะดูเก่าลงไปก็ตาม  



            “ เฮ้อ “    เสียงไม้น้ำถอนหายใจ   นอนตาแป๋วอยู่บนเตียง   จะให้เขาหลับลงได้ยังไงล่ะ



    ในเมื่อข้างล่างยังเปิดเพลงครึกโครม   สนั่นหวั่นไหวจนมาถึงชั้นบน     เขาพยายามข่มตานอนแต่ทำยังไงก็ยังนอน



    ไม่หลับซะที      “  อยู่ไหนนะ “    ไม้น้ำบ่นพึมพำ  ขณะกำลังค้นหนังสือการ์ตูนเล่มโปรดจากชั้นหนังสืออยู่  



    “  ไม่ไหวแล้วนะ   หาเท่าไรๆ  ก็ไม่เจอซะที “    ไม้น้ำเริ่มแสดงอาการหงุดหงิด   เขาหลับตาปี๋  นึกในใจว่าหยิบ



    หนังสือการ์ตูนเล่มอะไรมาก็ได้  ขอแค่ให้เขานอนหลับซะที   “  เอาเล่มนี่ก็แล้วกัน   อะไรกันเนี่ย  ไม่ใช่หนังสือ



    การ์ตูนนี่นา  “     ไม้น้ำออกอาการโมโห  เมื่อรู้ว่าหนังสือเล่มนั้นไม่ใช่หนังสือการ์ตูนอย่างที่เขาหวังไว้แต่ทีแรก



    หนังสือสีน้ำตาล หนา เล่มใหญ่ ที่เต็มไปด้วยฝุ่น  ถูกวางบนพื้นอย่างช้าๆ    ดูจากสภาพหนังสือแล้วไม่น่าจะต่ำ



    กว่าสิบปี     ฝุ่นหนาเตอะที่เกาะอยู่บนหน้าปก    จนแทบจะอ่านชื่อของปกไม่ออก  



    “  Falcon High   โรงเรียนขมังเวทย์   หนังสืออะไรกันเนี่ย  “    ไม้น้ำร้องเสียงหลงเมื่อได้เห็นชื่อหนังสือ



    เสียงฟ้าร้องดังคำรามจากภายนอก      ดังลั่นกว่าครั้งไหนๆ     ลมที่พัดเข้ามาทางหน้าต่างก็เริ่มแรงขึ้นๆ ทุกทีๆ



    ลมหนาวจากด้านนอก   มันหนาวซะจนแทบเข้ากระดูก   ไม้น้ำพยายามจะเปิดอ่านหน้าแรกแต่แล้ว……..



    พรึ่บๆๆๆๆๆๆๆ      เสียงกระดาษที่ถูกลมพัดมันแรงซะจน   ไม้น้ำสะดุ้งโหยง      เมื่อลมสงบ  เขาค่อยๆ คลาน



    มาใกล้หนังสือเล่มนั้น  ที่เปิดอ้าอยู่บนพื้น         ไม้น้ำแอบดูทีละนิดๆ    จนเขากล้าเปิดตาดูอย่างเต็มตา



    “  โรงเรียนขมังเวทย์เหรอ    ไหน……ไม่เห็นมีตัวหนังสือเลย   ก็อีแค่กระดาษเปล่าๆ  นี่หว่า  “



    ไม้น้ำหยิบหนังสือขึ้นมาดู    แต่ไม่ว่าจะพลิกไปหน้าไหนหน้าไหน   ก็มีเพียงแต่กระดาษสีน้ำตาลอ่อนๆ  เปล่าๆ  



    เท่านั้น……….แต่หลังจากไม้น้ำวางสมุดลง    เพียงไม่กี่วินาที   เขาก็เริ่มเห็นตัวอักษรสีดำปรากฎขึ้นบนกระดาษ



                       “ วันเวลาล่วงเลยมาปีสิบสาม        ต้องเอ่ยนามศาสตร์หลักสูตรแห่งกรุงศรี



                    มิมลายสลายคว่ำเป็นรากดี                    ที่แห่งนี้จะสอนสั่งศาสตร์เล่ห์กล ”



    ไม้น้ำอึ้งไปชั่วขณะ    เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา  บ้านคุณยาย  มีหนังสือประหลาดๆ  แบบนี้ด้วยเหรอ



    ไม่ทันที่ไม้น้ำจะปิดหนังสือลง  หน้าต่อไปก็ถูกพลิกขึ้น……..



        “ อันศาสตร์แรกเรียกว่าศาสตร์แห่งสิงห์สืบ    มารยาคืบวนเวียนเพียรเสาะหา



                  ใคร่อยากได้วิชาและตำรา            หมั่นศึกษาเจ้าแห่งดินสินธรณี ”



    ตัวอักษรสีดำบรรจงลายไทย   เริ่มจางลงจากหน้ากระดาษ      ไม่ทันให้ไม้น้ำได้ฉุกคิดแม้แต่น้อย  แล้วสักพัก



    กระดาษหน้าต่อไปก็ถูกพลิกขึ้น



        “  ศาสตร์เวทมนต์ดลบันดาลมาหนสอง    เจ้าจะลองรสชาติขมปนผลหวาน



    อันตำราสร้างคนมานมนาน                        ณ  สายธารห้วยสมุทรสุดนที ”



    ตัวอักษรสีดำบนหน้ากระดาษเริ่มจางลงช้าๆ    ทันทีที่ไม้น้ำอ่านเสร็จ     เขาถอนหายใจอย่างแรง  เมื่อเห็นหน้า



    กระดาษแผ่นต่อไปไม่กระดิก  แต่แล้ว………



        “ อันวาโยลมปราชญ์เป่าแห่งเนาไพร        ฤายิ่งใหญ่หรือจะเท่าศาสตร์แห่งศรี



    ความสุขเจ้าหาแห่งใดมิเคยมี            มาที่นี่จะประจักษ์กับวาโย ”





    “ อะไรกัน   นึกว่าหมดแล้วนะเนี่ยยังมีอีกเหรอ  “   ไม้น้ำนั่งบ่นอยู่คนเดียว   เมื่อเขาเห็นหน้ากระดาษ



    เริ่มขยับ………



        “  ศาสตร์สุดท้ายเรียกว่าศาสตร์แห่งมนต์ดำ        จะชอกช้ำหรือเป็นทุกข์สุขศาสตร์นี้



    ไฟมลายปรโลกโชกกากี                    เหล่าภูติผีวิญญาณมารเปลวเพลิง ”



        ไม้น้ำอ่านมาถึงบรรทัดสุดท้าย   เขาเริ่มเกิดอาการสั่นหลังวาบ   ลมหนาวที่เล็ดลอดออกมาทางช่อง



    หน้าต่างคราวนี้ดูเยือกเย็นกว่าครั้งก่อนๆ   เขาไม่เคยรู้สึกกลัวอะไรมากมายถึงขนาดนี้   เขาเพ่งมองไปที่กระดาษ



    เพื่อจะดูว่าจะมีอะไรปรากฎขึ้นอีก ……………….



    พรึ่บๆๆๆๆๆๆๆ   หน้ากระดาษถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง   คราวนี้มันเปิดไปแรงมาก  แรงพอที่ทำให้ไม้น้ำเห็นภาพอะไร



    บางอย่าง ขยับเขยื้อน  ตามหน้าหนังสือ    เขาเห็นภาพปราสาทเก่าๆ  หลังใหญ่อยู่ตรงหน้า  อิฐสีเทาเก่าๆ  ก่อ



    ตัวขึ้น  จนถึงยอดสูง   ด้านข้างถูกรายล้อมด้วยปราสาทเล็กๆ   4   แห่ง  ซึ่งแต่ละแห่งถูกตกแต่งแตกต่างกันออก



    ไปอย่างสิ้นเชิง    ปราสาทหลังแรกเป็นปราสาทสีออก น้ำตาลแดงเข้ม    ตัวปราสาทตบแต่งออกมาดูดี  ดูสง่า



    กว่าหลังอื่นๆ   ผ้าสีน้ำตาลแดงเข้มผืนใหญ่ถูกทักถอ ลงมาจากยอดปราสาทหอคอย   เขาเพ่งอ่านข้อความบนผ้า



    ดูเหมือนจะเขียนว่า  “ ศาสตร์สิงห์สืบ ”   ต้นไม้ใบหญ้าของปราสาทหลังนี้ดูจะร่มรื่นที่สุด  ดอกไม้นานาพันธุ์



    ต่างแข่งกันออกดอกชูช่อ  อวดโฉมผู้พบเห็น  ปราสาทเล็กหลังต่อมาคือปราสาท สีน้ำทะเลเข้ม   ด้านหน้า



    ปราสาทหลังนี้  มีแม่น้ำสายยาวทอดออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา  เห็นเพียงแต่ประกายของละอองน้ำเล็กๆ



    ที่กระทบกับแสงแดดเพียงเท่านั้น       ไม้น้ำพยายามมองทะลุเข้าไปใกล้ๆ  กับจุดเล็กๆ  ดำๆ  จุดหนึ่ง  ตรงกลาง



    หน้าปราสาทหลังนี้ว่ามันเป็นจุดอะไรกันแน่    “  โอ้ย !!! “  ไม้น้ำร้องเสียงหลง  เมื่อน้ำพุ่งเข้าตาเขาเข้าเต็มๆ    



    เขาเพิ่งถึงบางอ้อ ว่าจุดนี้ คือน้ำพุของปราสาทหลังงามหลังนี้นี่เอง    น้ำพุพุ่งอออกมาสูงมาก  ถ้ามองจากหน้า



    กระดาษ  มันสูงกว่ายอดหอคอยของปราสาทเสียอีก     ผ้าแพรผืนใหญ่สีน้ำทะเล  ถูกปล่อยลงมาจากยอด



    ปราสาทหลังเล็กว่า     “ ศาสตร์เวทมนต์ “     ถัดออกไปบริเวณทิวเขามีปราสาทหลังงามสีขาวสะอาดตั้งอยู่  



    ด้านบนบริเวณยอดภูเขาหลังปราสาท   มีกังหันลมขนาดยักษ์หมุนปลิวหวิวไหวอยู่    ใบพัดของมันใหญ่เท่า



    หลังคาบ้านเลยได้มั้ง    ยิ่งเข้าใกล้ปราสาทหลังนี้เท่าไหร่   ไม้น้ำเริ่มรู้สึกอุ่นขึ้นมาทุกทีๆ   หมอกจางๆ  บริเวณ



    ยอดปราสาท   กับผ้าแพรไหมสีขาวที่ปลิวว่อนจากตัวปราสาทนั้นเขียนไว้ว่า  “ ศาสตร์สุขสันต์ ”    และแล้วก็



    มาถึงปราสาทหลังสุดท้ายปราสาทสีเทาดำทะมึน   ชวนขนลุก   อาณาบริเวณโดยรอบของปราสาทนั้นดูลึกลับ



    จนไม้น้ำแทบมองไม่เห็นว่าอะไรเป็นอะไร    ฝูงค้างคาวโฉบบินผ่านกระทบหน้ากระดาษ  เสียงปีกที่กระพือบิน



    ของมันดังจนเขาแทบอุดหูหนี   สีแดงสลัวๆ  เป็นฉากด้านหลังที่ดูทรงพลังกว่าใคร    ผ้าแพรสีแดงผืนใหญ่ถูก



    ปล่อยออกมาจากยอดหอคอย   ด้วยข้อความที่ว่า   “ ศาสตร์มนต์ดำ “     ทันทีที่เขาอ่านข้อความนั้นจบ  



    พรึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆ   กระดาษนั้นมันเริ่มเปิดขึ้นอีกครั้ง  แต่ที่นี้มันดังขึ้น และแรงขึ้นกว่าครั้งก่อนๆ   ไม้น้ำไม่รู้ว่า



    ข้างล่างเลิกรางานเลี้ยงไปตั้งแต่เมื่อไร  แต่ตอนนี้หน้ากระดาษที่เปิดมันแรงซะจนเขาแทบไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้ว  



    พรึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  เสียงหนังสือเล่มนั้นเริ่มฉีกขาด   ซักพักหน้ากระดาษก็ปลิวว่อน   มันปลิวไปปลิวมาทั่งห้อง



    เหมือนพายุยังไงยังงั้น   หนังสือเริ่มฉีกขาด  พรึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆ   มันขาดลงเรื่อยๆ    ขาดลงเรื่อยๆ   จนหมดเล่ม    



    พายุก็เริ่มค่อยๆ  สงบ   กระดาษบางใบเริ่มตกลงสู่พื้น    แล้วมันก็ตกลงบนพื้น   ตรงหน้าไม้น้ำที่ยืนอึ้งชิดข้าง



    ผนัง   ไม้น้ำข่มใจ  พลิกหน้ากระดาษ  นั้นดูทีละน้อยๆ   เขาเริ่มเห็นตัวอักษรสีแดงราวกับสีเลือด   อยู่บนหน้า



    กระดาษข้างใต้   ตัวอักษรนั้นใหญ่จนเต็มหน้ากระดาษ    เขาค่อยๆ อ่านข้อความที่ปรากฎนั้นว่า  



    “ คุณคือคนต่อไป ”…………..





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×