ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปลายฝัน โค้งฟ้า รักเธอ(ฉัน)นิรันดร์

    ลำดับตอนที่ #8 : เรื่องบ้าๆ..ทำไมต้องเกิดกับฉัน.. {TOT}

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 48


    ตอนที่ 7

        

    หลังจากวันนั้น  ปลายฝันก็เข้าใจคุณป้ามากขึ้น   และตอนนี้คุณป้าให้ปลายฝันและฟ้าใสเข้าครอสฝึกการเข้าสังคม(แบบไฮโซ)



    ซึ่งเป็นอะไรที่ต้องฝึกอย่างหนักทุกเย็น  ทำให้ไม่ได้ไปทำงานที่ร้านอีก  ส่วนโคจิก็ไม่ได้มากินข้าวเย็นที่บ้านเหมือนเมื่อก่อน



    เพราะเราต้องแยกกันหลังเลิกเรียน   ผิดจากพอลที่ตอนนี้กลายเป็นนักเรียนอิทธิพลในโรงเรียนอย่างรวดเร็ว



    พอลไม่ต้องรับการฝึกเหมือนพวกปลายฝันเพราะเค้าอยู่กับสังคมแบบนี้จนชินจึงไม่ต้องเข้ารับการฝึกอีก



    และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ปลายฝันและฟ้าใสต้องไปฝึก...



    “โอ้ย!!!เมื่อยตัวไปหมด  ทำไมเราต้องมาเต้นลีลาสบ้าๆ  บอๆนี้ด้วย  เหนื่อยชะมัด”ฟ้าใส เมื่อกลับถึงบ้าน ก็โวยวายไม่เลิก



    (บ่นตั้งแต่อยู่บนรถ -_-!!!)



    “ก็เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าสังคมไงล่ะ  ฟ้าใส”ปลายฝันเองก็อธิบายเรื่องนี้ให้ฟ้าใสฟังตั้งแต่บนรถแล้วเช่นกัน



    (นิสัยเหมือนตาโคจิเลย(จำได้กันไหมเอ่ย) ;เจ๊)



    “แล้วเต้นคล่องกันรึยัง”พอล พอดีลงมาดื่มน้ำจึงได้ยินเรื่องที่ฟ้าใสบ่น(ตอนนี้พวกเราเริ่มสนิทกันมากขึ้นแล้ว;ปลายฝัน^_^ )



    “ก็ยัง งงๆอยู่เลย”ปลายฝันตอบตามความจริง



    “ก็แหง๋! อยู่แล้วก็เธอมันทึ่มนี่ 555+”เป็นคำพูดที่พอลมักว่าเธอเสมอ เมื่อเธอตอบตามตรง



    “หนอย !น้อยๆหน่อยเถอะย่ะ  แล้วนายล่ะเก่งนักรึไงยะ”ปลายฝันกับพอลมักทะเลาะกันเสมอ เมื่อคุยกันเกินประโยค  



    แต่ก็ไม่เคยโกรธกันจริงๆเลยซักครั้ง(กัดกันวันละนิดจิตแจ่มใส;เจ๊)



    “งั้นเธอลองเต้นกับฉันซักเพลง”ด้วยความปากดีของทั้งคู่  ทำให้ลืมไปว่าการเต้นลีลาสจะต้องอยู่ใกล้ชิดกันมาก



    ปกติแล้วไม่เคยอยู่ใกล้กันเกิน 1 เมตรเป็นอย่างน้อย(กัดกันก่อนทุกครั้ง)



    เมื่อเพลงเริ่ม



    “โอ้ย!เธอเหยียบเท้าฉันอีกแล้วนะ”พอลเริ่มหงุดหงิด เมื่อถูกเหยียบเท้าซ้ำแล้วซ้ำเร่า



    “ก็ช่วยไม่ได้  นายอยากจะเอาเท้ามาขวางเท้าฉันเองนี่”ปลายฝันทำหน้ายียวน



    “เธอ!..นี่มันแย่จริงๆเลย  รู้ตัวรึเปล่าว่าตัวเองเต้นผิด”ปลายฝันยังคงทำท่ายียวนไม่เลิก(ชักน่าหมันไส้แล้วย่ะ;เจ๊)



    “หรอ..ผิดแล้วไง  ถ้าฉันจะบอกนายว่าฉันตั้งใจล่ะ  555+”ปลายฝันยังคงกวนประสาทไม่เลิก



    “ดี  งั้นเต้นจังหวะละตินเลยแล้วกัน”พอล  ยิ้มมีชัยเมื่อนึกแผนแก้เผ็ดออก(จังหวะละตินเป็นจังหวะที่รุนแรงและรวดเร็ว



    ซึ่งทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงต้องมีทักษะการฝึกฝนที่ดี)



    “นี่!นาย แต่ฉันยังไม่..”



    “ทำไมเต้นไม่เป็นหรอ  เธอนี่แย่จริงๆ แค่จังหวะง่ายๆยังไม่ได้555+ ”พอลได้ทียียวนกลับ



    “ใครบอกว่าฉันเต้นไม่เป็น  แค่จังหวะละติน ง่ายจะตาย  ฟ้าใส เปิดเพลง”ฟ้าใส..ที่อุตส่าห์เป็นคนดูอยู่ดีๆแล้วแท้ๆ



    ยังมีเอี่ยวอีกหรือเนี่ย(น่าสงสารจังTOT;เจ๊)



    เมื่อจังหวะเพลงเริ่ม  พอลก็เริ่มบรรเลงความสะใจ  ปลายฝันหมุดติ้วไปตามแรงของพอล  แล้ว..บังเอิญเรื่องก็ดันมาเกิดอีตอน



    จะจบเพลงเนี่ยแหละ



    “โอ้ย!! ไม่ไหวแล้ว”เสียงของปลายฝันอ่อนลงเรื่อยๆ  ตาเริ่มมึนๆ  และ...



    “พึบ...” ปลายฝันเสียหลักล้ม  แต่มันแย่ที่เธอเลือกที่ได้เหมาะจริงๆ  หน้าของเธอทับลงตรงหนอนน้อยของพอลเข้าพอดี

      

    โอ้จอร์จ!!!มันยอดมาก   แต่มันไม่ใช่แค่นั้น  เพราะตอนเธอล้ม เธอยังมีสติอยู่  และนั่น...



    “กรี๊ด.....”เสียงของปลายฝันก้องกังวานไป 3 บ้าน 8 บ้าน



    “นาย...มันแย่จริงๆ  ยี้ !ทำไมฉันต้องโดน..  กรี๊ด......”เสียงกรี๊ดรอบ 2 ทำให้หลายๆบ้านเปิดไฟกันให้พึ้บ..



    “นี่เธอ..เธอจะร้องทำไม..เธอไม่ใช่คนเสียหาย ซักหน่อย  ฉันต่างหากที่เป็นคนเสียหาย  หนอนน้อยของฉันถูกบุกลุกTOT”



    พอลทำหน้าเหมือนจะร้องไห้  หลังจากอาณาจักหนอนน้อยของพอลถูกลุกล้ำ  เค้าไม่สามารถควบคุมความเป็นตัวเองได้อีกต่อไป



    “นายพูดอะไร  ทำไมต้องพูดเสียงเบาด้วย  ใครจะไปได้ยิน”ปลายฝันเดินย่างสามขุนเข้าไปใกล้พอล  พอลได้แต่ถอยหนี



    เธอเหมือนคนเสียสติไปชั่วขณะ ที่พูดจาเสียงดัง  ขี้โวยวาย แบบไม่รู้ตัว  



    “ก็..ช่างมันเถอะ  อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครล่ะ  งั้นเธอโดนแน่..”พอลถอยไปจนติดโต๊ะ  เมื่อไม่มีทางหนี..



    จึงต้องใช้เสียงเพื่อข่มขู่คู่ต่อสู่   และใช้โอกาศนี้หนีไป.. -/-“



    “พี่  กลิ่นหนอนชาเขียวเป็นไงหอมไหม  อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดนะพี่  หลับฝันดีครับพี่สาว  5555+”



    ฟ้าใสเป็นอีกคนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด..



    “TOT...  ทำไมต้องเป็นฉันด้วยนะ  เพราะตานั่นแท้ๆเลย  ยี้ นึกแล้วยัง...อี๋.... TOT”คืนนี้ปลายฝันอาบน้ำนานเป็นพิเศษ



    เพราะเธอต้องขัดหน้า  ลอกหน้า  และพอกหน้า..แถมยังนอนไม่หลับ เพราะเมื่อหลับตาครั้งใด  ภาพตอนที่ล้มก็เป็นอันต้อง



    ปรากฏขึ้นมาในหัวทุกทีไป...







    เช้าวันรุ่งขึ้น..







    “ปี๊มๆๆๆๆๆ..........” เสียงแตรรถ  สมิท ยังคงมารับตามเวลาเดิมและวันนี้ ไม่มีคนเปิดประตูบ้าน...  สมิท



    จึงต้องกด กริ่ง เรียก

    “ค่ะ  มาหาใครค่ะ”ปลายฝันเดินงัวเงียลงมาเปิดประตูทั้งที่ตายังไม่ลืม



    “คุณหนู  สายแล้วยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าอีกหรือ  แล้ว..เออ..หน้าของคุณหนู..” สมิทมองสภาพของปลายฝัน



    “หา..จริงด้วย..  แย่แล้ว.. ฟ้าใส  พอล ตื่นเร็วเข้า สายแล้วนะ”ปลายฝันลืมเรื่องเมื่อคืนไปชั่วขณะ  เธอยังทำเหมือนเคย...



    ที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น   เวลาผ่านไป  30 นาที  ทั้ง ปลายฝัน  ฟ้าใส  และพอล ก็แต่งตัวเสร็จกันเรียบร้อย  



    วันนี้พวกเราต้องไปทานอาหารเช้ากันบนรถ(อีกแล้ว)  สมิท  ซึ่งเตรียมไว้ให้ตอนที่พวกเราแต่งตัวกันอยู่



    แต่วันนี้ต่างไปจากทุกวันเพราะมีแต่ฟ้าใสเท่านั้นที่ร่าเริง  อีกทั้งปลายฝันและพอล ทั้ง 2 คนก็มานอนต่อบนรถ



    ทำให้ สมิท ผิดสังเกต แต่ไม่ได้ถาม เพราะฟ้าใสเล่าให้ฟังหมดแล้ว

      

    “คุณหนูครับถึงโรงเรียนแล้วครับ”สมิท เอ่ยเบาๆ เพื่อไม่ให้พอลกับปลายฝันตกใจ ส่วนฟ้าใสนั้นลงรถไปนานแล้ว..



    “ค่ะ/ครับ”ปลายฝัน  พอล ตอบพร้อมกัน แต่ยังคงสะลึมสะลืออยู่ทั้งคู่



    “ปึ้งงงง...” ปลายฝันปิดประตูรถเมื่อเท้าแตะถึงพื้น  รถเก๋งคันยาว  สีดำสนิท ค่อยๆเคลื่อนออกไปอย่างช้าๆ



    ปลายฝันซึ่งเดินตามแรงและทิศทางของรถอย่างช้าๆ  แต่พอรถเริ่มออกตัวเร็วขึ้น  ปลายฝันก็ยิ่งต้องเร่งฝีเท้าตาม  



    เธอปิดประตูทับกระโปรงตัวเอง...  ความอายเริ่มปรากฏบนใบหน้าใสๆ เมื่อรถวิ่งผ่านนักเรียนในโรงเรียน



    ปลายฝันพยายามทุบกระจกเพื่อให้สมิท ได้รับรู้  แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล   แต่โชคยังดีที่รถไม่ได้แล่นออกไปไกล  



    ยามหน้าโรงเรียนเห็นเข้าจึงให้สมิทหยุดรถ  สมิทขอโทษปลายฝันยกใหญ่   สมิทโทษตัวเองว่าเป็นความผิดของเค้า



    ปลายฝันต้องปลอบสมิท



    อยู่พักใหญ่จึงแยกย้ายกัน  เมื่อปลายฝันเอากระโปรงออกจากประตูรถได้  เธอต้องเดินกลับไปที่ห้องของเธอ



    ซึ่งมันก็ไกลมากจากหน้าโรงเรียน  เธอต้องทนเสียงหัวเราะตลอดทาง  กว่าเธอจะมาถึงห้องเพื่อนๆก็เต็มห้องหมดแล้ว



    (รวมทั้ง พอล ด้วย)   สภาพของเธอในตอนนี้เหงื่อโชคเต็มตัวไปหมด  หน้าที่ขาวนวลกลับแดง เพราะอายผสมกับ



    พลังงานความร้อนในตัวสูงขึ้นตอนวิ่ง  พอล อดไม่ได้ที่จะมองเธอว่าเกิดอะไรขึ้น



    “ขออนุญาตค่ะ อาจารย์”



    “ไปฟัดกับสุนัขที่บ้านมาหรอหนู เหงื่อโชคเชียว”อีกครั้งที่เสียงหัวเราะดังขึ้น  ยิ่งทำให้เธอ.... มีแค่พอล  ฤดูหนาว  



    และวันหวาน เท่านั้น  ที่ไม่หัวเราะเธอ(กลับสงสารเธอด้วยซ้ำ )



                                                  …………………………………………………………



    “กรี๊ง............งงงง...........”เสียงกริ่งบอกสัญญาณหมดเวลาเรียน  ปลายฝันรีบวิ่งออกจากห้องเป็นคนแรก  



    เพราะเพื่อนๆต่างล้อและหัวเราะเยาะเธอ

      

    “ปึ้ง..” เสียงทุบโต๊ะด้วยแรงมหาศาลดังขึ้น ทำให้ทุกคนในห้องอยู่ในความสงบ



    “ใครหัวเราะ   อยากโดนหรอ..”พอลเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบง่าย  สายตาเฉียบคมที่เพ่งมาทางกลุ่มที่หัวเราะปลายฝัน



    ทำให้คนพวกนั้นเสียวสันหลัง..วาบ..  พอลเอง..ไม่รู้ว่า ทำไมเค้าถึงปกป้องเธอ  ทำไมเห็นสีหน้าเธอเมื่อเช้า



    แล้วเค้าไม่สบายใจ...ทำไม...หรือว่า...เขา......





                                      ................................................................................................................



    ห้องสมุดโรงเรียน



    ปลายฝันมาที่นี่เสมอ  ไม่ว่าจะมีเรื่องเสียใจหรือดีใจ  เธอมักจะมาหลบอยู่ในมุมหนึ่งของห้องสมุดเสมอ  วันหวาน



    และฤดูหนาวตามมาจนพบ

      

    “ปลายฝัน แกมีเรื่องอะไร  เล่าให้ฉันฟังซิ”วันหวานเข้ามาปลอบปลายฝัน



    “อย่าพึ่งถามเลยหวาน  ฝันยังไม่พร้อมเล่าหรอก”ฤดูหนาวเป็นเพื่อนสนิทที่สนิทกันตั้งแต่ที่โรงเรียนเก่า

      

    ฤดูหนาวมักดูออกเสมอว่าปลายฝันมีเรื่องสบายใจหรือไม่สบายใจ  เค้ารู้ใจเธอที่สุด..อาจเพราะเธอเป็นคนพิเศษของเค้า...



    “ฮื่อๆๆ  ฉ ..ฉัน...ฮื่อๆๆๆๆ”ปลายฝันโผเข้ากอดเพื่อนทั้ง 2 เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น



    “ใจเย็นๆนะ ฝัน  เธอค่อยๆเล่า  เรา 2 คนฟังไม่รู้เรื่องแล้ว”หลังจากที่ฤดูหนาวกับวันหวาน แกะเธอออกมาจากมุมนั้นได้  



    พวกเธอก็ลงไปทานข้าวกัน  เธอเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนทั้ง 2 ฟัง เมื่อฟังแล้ว  พวกเค้าก็อดขำไม่ได้  โดยเฉพาะวันหวาน



    “นี่!ยัยหวาน เธอจะขำมากไปแล้วนะยะ”ปลายฝันทำเสียงดุ



    “ก็ได้ ...งั้นฉันขอนับ 1-100 ก่อนนะจะหยุดขำ 555+”วันหวานยังคงไม่หยุดขำ ทำให้ปลายฝันหน้าบูดลงนิดหน่อย  



    พอดีพวกของพอลเดินผ่านมา  ปลายฝันนึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อคืนขึ้นมา  ยิ่งทำให้เธออารมณ์เสียเข้าไปใหญ่..



    “ เป็นอะไรรึเปล่า”ฤดูหนาวช่วยเรียกสติสตางค์(ที่มีอยู่น้อยนิด) ของปลายฝันให้กลับมา



    “เปล่า  แค่เหม็นขี้หน้าคนนิดหน่อยหน่ะ”ปลายฝันพูดเสียงดังพอที่กลุ่มของ พอล จะได้ยิน



        

      *********โปรดติดตามต่อไปในตอนหน้าจ้า  รับรองมันกว่านี้แน่  เป็นกำลังใจให้ด้วยนะจ๊ะ**********



           *******************************************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×