คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ชีวิตข้าช่างอุดมไปด้วยสีสัน
1
ฟ้ายังไม่สาง ลมหนาวพัดโชยมาพาให้ขนกายลุกซู่
บ่าวไพร่ในเรือนต่างพากันตื่นนอนเพราะได้ยินเสียงระฆังดังตีบอกเวลาที่สมควรแก่การตื่น
ย่างเข้าสู่เดือนสิบเอ็ดฤดูหนาวเข้ามาเยือน แม้จะใกล้เช้าแต่ไอเย็นจากน้ำค้างเมื่อคืนยังคงล่องลอยอยู่ในบรรยากาศ
หญิงสาวร่างบางปรือตาอย่างงัวเงีย อวี้ฮวาใช้มือน้อยทั้งสองของตนขยี้ตาสองสามทีโดยไม่ลืมหยิบผ้าขาวข้างเตียงมาเช็ดน้ำลายที่มักยืดใส่หมอนตลอดทั้งคืนของตนด้วย
งึม งัม
นางหาววอดราวกับคนไม่ได้นอนมาสามวันติด
ก่อนจะส่ายศีรษะเบาๆเพื่อไล่ความง่วงชวนนิทรานี้ให้มลายหายไป พร้อมกับลุกขึ้นบิดขี้เกียจ
ครั้นลุกขึ้นก็ต้องเซถลาเกือบหน้าทิ่มอีกครั้ง
ยังดีที่นางใช้มือยันพื้นไว้ได้ทันศีรษะของนางจึงไม่ฟาดพื้นไม้ อาการปวดเมื่อยตามร่างกายที่ทำเอานางชาไปทั้งร่างคืบคลานเข้าสู่กายอย่างฉับพลัน
อวี้ฮวาทอดถอนใจทีหนึ่งก่อนจะก่นด่าบรรพบุรุษแม่เลี้ยงในใจ
มารดามันเถอะ!
สอนลูกสาวอย่างไรให้เติบโตมามีนิสัยร้ายกาจน่ารังเกียจเช่นนี้
หญิงสาวประท้วงในใจ
ในแคว้นเจี้ยนคังหาได้มีคุณหนูบ้านใดถูกใช้เยี่ยงหมูหมาเช่นนาง
ไม่มี้ ไม่มี! แล้วก็เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่จำความได้
เมื่อครั้นอายุเจ็ดขวบมารดาลาโลกไปด้วยโรคปริศนา บิดาทอดทิ้งให้อยู่เรือนเล็กเก่าๆซอมซ่อไม่สนใจใยดี
ถูกแม่เลี้ยงที่มีศักดิ์เป็นถึงฮูหยินใหญ่ของบ้านรวมหัวกับลูกๆของนางกลั่นแกล้งไม่แม้แต่ละวัน!
เติบใหญ่จึงได้รู้ว่าแท้จริงบิดาตบแต่งมารดานางมาด้วยความไม่เต็มใจ
เพราะถูกท่านปู่ที่กลายเป็นป้ายบรรพชนไปแล้วสั่งเสียเอาไว้ก่อนตายว่าต้องแต่งมารดานางเข้าบ้าน
จูเหลียนฮวามารดาของนางร่ายกายอ่อนแออีกทั้งไร้ซึ่งความสามารถพาสามีขึ้นเตียง ฮูหยินผู้เฒ่าที่มีศักดิ์เป็นแม่สามีเกรงว่าสกุลซ่งจะไร้ผู้สืบสกุลจึงจัดการวางยาปลุกกำหนัดลูกชายให้ได้เสียกับสะใภ้จนกลายเป็นซ่งอวี้ฮวาในปัจจุบันนี้
หลังจากที่จูเหลียนฮวามารดาของอวี้ฮวากลายเป็นป้ายบรรพชนตามท่านปู่ไป
ฮูหยินผู้เฒ่าที่คอยเอ็นดูหลานสาวตัวน้อยๆอย่างนางก็เร่งตามกันไปปรโลกเเบบติดๆ
ครั้นพอฮูหยินผู้เฒ่าตายไป ชีวิตของนางแต่ละวันต้องดำเนินไปด้วยความยากแค้นลำบากแสนสาหัส
ไร้ซึ่งที่พึ่งพิง
“ยังดีที่บิดาที่เคารพยังเหลือเรือนหลังเดิมของมารดาเอาไว้ให้
ไม่เช่นนั้น ข้าคงไม่รู้จะไปซุกหัวนอนอยู่ที่ใดแล้ว”ซ่งอวี้ฮวาเอ่ยอย่างปลงๆ
บิดาคงกลัวว่าจะถูกชาวบ้านร้านตลาดนินทาครหาว่าเป็นขุนนางไร้หัวใจ
เป็นบิดาใจชั่วที่ขนาดบุตรีที่เกิดจากฮูหยินใหญ่คนก่อนยังไม่ดูดำดูดี
ทิ้งให้เลือดเนื้อเชื้อไขของตนต้องมีชีวิตไม่ต่างจากสุกรกระมัง
ซ่งอวี้ฮวาใช้ผ้าชุบน้ำที่อยู่ในอ่างล้างหน้าที่ตนเองเป็นคนเตรียมไว้เมื่อคืน
เช็ดหน้าเช็ดตา บิดานางก็ช่างแสนดีเหลือเกินแม้แต่บ่าวรับใช่สักคนก็ไม่มีให้นาง!
หญิงสาวพ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างหมดความอดทน
นางเฝ้ารอเพียงวันที่จะได้แต่งงานกับคนดีๆสักคนและออกจากจวนไปเยี่ยงผู้ชนะ
ใช้ชีวิตจนถึงบั้นปลายกับสามีที่รักนาง ตอนนี้อายุของนางเองพ้นวัยปักปิ่นมาสองปีแล้ว
ใจในรู้สึกว่าอีกไปนานบิดาของนางจะต้องกำจัดลูกที่ตนเกลียดนักชังหนาให้ออกไปจากจวนในเร็ววันเป็นแน่
และจะดีอย่างยิ่งหากบิดาเลือกสามีดีๆให้นางสักหน่อย
พอล้างหน้าล้างตาเสร็จซ่งอวี้ฮวารีบแต่งเนื้อแต่งตัวด้วยชุดเต็มยศเหมือนในทุกๆวัน
เป็นที่รู้กันดีว่าในจวนนี้เสนาบดีซ่อเหอรักลูกไม่เท่ากัน
โดยเฉพาะลูกที่เกิดจากหญิงที่ตนเองชิงชัง เสื้อผ้าข้าวของของนางจึงดูจืดชืดไม่สวยงามราวกับแม่ชีที่พึ่งหยุดจำศีลภาวนา
แม้นางจะเป็นคุณหนูใหญ่ทว่าไม่อาจมีอภิสิทธิ์เหนือลูกรักของบิดาอย่างน้องรองคนงามไปได้
“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ
ท่านเสนาบดีเรียกท่านไปพบที่เรือนอักษรเจ้าค่ะ”เสียงใสของบ่าวรับใช้นางหนึ่งดังขึ้นด้านหน้าประตูบานใหญ่ของเรือน
ซ่งอวี้ฮวารีบขานรับในทันใด“สักครู่ข้าจะออกไป”
ครู่ต่อมาร่างระหงของหญิงสาวจึงปรากฏอยู่หน้าเรือนอักษรของบิดาที่อยู่ไม่ใกล้จากเรือนของนางนัก
อวี้ฮวาไม่นึกว่าฝันว่าบิดาจะยังนึกถึงกันอยู่
นานเท่าใดแล้วที่นางไม่ได้ย่างเท้ามาในเรือนอักษรแห่งนี้
หลายปีแล้วกระมัง แต่จะด้วยเจตนาหรือไม่บิดาคนดีผู้มีสมองปราศเปรื่องของนางจะต้องมีแผนการอันใดในใจอยู่ก่อนแล้วเป็นแน่
มิเช่นนั้นคงไม่เรียกหานางแต่เช้า
และยามเช้านี่เองเป็นเวลาที่ฮูหยินใหญ่และลูกของนางยังมิทันตื่นนอน!
“มาแล้วหรือ”น้ำเสียงทุ่มต่ำดังขึ้น อวี้ฮวาตระหนกเล็กน้อย
นานมากแล้วที่บิดาไม่ได้สนทนากับนางสองต่อสองเช่นนี้ มันช่างนานจนนางคิดว่าตนเองได้ลืมเลือนแม้กระทั่งเสียงนี้ไปสิ้นแล้ว
กำยานหอมที่บรรจุให้ถ้วยทองเปล่งประกายส่งกลิ่นรัญจวนใจ
ชวนให้ผ่อนคลายและสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
อวี้ฮวาประสานมือค้อมกายเคารพบิดาตามธรรมเนียมชาวเจี้ยนคัง“คารวะบิดา
ขอให้ท่านพ่อมีสุขภาพแข็งแรงเจ้าค่ะ”
ซ่งเหอเงยหน้าขึ้นจากบัญชีรายรับรายจ่ายประจำตระกูล
นัยน์ตาสีหมึกไล่มองบุตรีที่เกิดจากสตรีน่าชังนางนั้นอย่างรังเกียจ
ครั้นพอเห็นอวี้ฮวาแล้วก็ถึงกับทำให้ซ่งเหอตากระตุบวูบวาว ร่างอรชรของสตรีวัยขบเผาะนางนี้ช่างละม้ายคล้ายมารดาของนางเสียเหลือเกิน
แต่เดิมเขาก็มิได้เอ็นดูลูกสาวคนนี้เป็นพิเศษ
ทว่ายิ่งได้เห็นใบหน้าของนางกลับยิ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ซ่งเหอจึงเมินเฉยต่อการเคารพของซ่งอวี้ฮวา
“ข้าจะให้ได้เจ้าแต่งงาน”ชายวัยกลางคนเอ่ยเพียงสั้นๆก็ทำให้อวี้ฮวาเข้าใจ
แม้บอกวาจะให้นางแต่งงาน แท้จริงแล้วก็เป็นแผนอีกอย่างของบิดาตัวดีของนางนั่นแหละ
จะอย่างไรก็หนีไม่พ้นเรื่องที่น้องสาวสุดที่รักของนางไปแอบมีสัมพันธ์รักใคร่กับฮุ่ยอ๋อง
พระโอรสลำดับที่สี่ขององค์จักรพรรดิ ซ่งอวี้ฮวาที่เป็นพี่สาวคนโตตามกฎหมายบ้านเมืองต้องแต่งงานออกเรือนไปก่อน
คนที่เป็นน้องอย่างซ่งเหมยจึงจะได้ตบแต่งออกไปบ้าง
มุมปากของอวี้ฮวายกขึ้นอย่างเย้ยหยันชั่วพริบตา
สีหน้าของนางไม่ปรากฏความยินดียินร้าย
“...”หญิงสาวได้แต่พยักหน้าเป็นการตอบตกลง
เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้มากที่สุดมิใช่นางแต่เป็นบิดาแลน้องสาวต่างสายเลือด
“วันนี้ ข้าจะพาเจ้าไปดูตัวที่จวนสกุลเซี่ย
อาจิงเอาชุดให้นาง”พ่อบ้านวัยชราที่เข้ามาในเรือนอักษรตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ ปรากฏกายขึ้นพร้อมกับห่อผ้าเนื้อดีห่อหนึ่ง
อวี้ฮวารับมาอย่างว่าง่ายนางเพียงแกะห่อผ้าออกดูเล็กน้อยก่อนจะประสานมือพร้อมกับค้อมกายขอบคุณบิดาตามแต่ธรรมเนียมพึงปฏิบัติ
“พิธีแต่งานของเจ้าจะมีขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า
เตรียมตัวให้พร้อม ข้ารู้ว่าเจ้าตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้มานาน อย่าให้เกิดเรื่อง”น้ำเสียงและแววตาของคนเป็นบิดาช่างห่างเหินราวกับนางและเขาอยู่กันคนละโลกมานานแล้ว
แม้แต่ชื่อของนางบิดายังไม่ยอมเรียก!
ในใจท่านคงอยากให้ข้าออกไปจากจวนหลังนี้เต็มแก่แล้วล่ะสิ!
“ช่างรวดเร็วสมกับเป็นท่าน
ข้าอยู่ที่จวนนี้มาสิบกว่าปีไม่มีวันใดไม่คิดอยากออกไป
เมื่อท่านมอบโอกาสให้ข้าขนาดนี้ใยข้าจะไม่โอบกอดมันเอาไว้”นางกล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเย็นชาไม่ต่างกัน
ก่อนจะสาวเท้าข้ามธรณีประตูออกไป นัยน์ตาสีน้ำหมึกของบิดามองตามแผ่นหลังของผู้เป็นลูกอย่างเฉยชาไร้ซึ่งคำพูดใดๆ
กริยาเมื่อครู่ที่นางปฏิบัติต่อเขานั้นสมควรแล้ว
ดวงของคนเรานั้นจะบอกว่ามีทั้งดีและไม่ดีก็ว่าได้
แต่ไฉนผู้เฒ่าจันทราจึงนำพาความรักของนางใด้บัดซบเยี่ยงนี้!
หากนางจำไม่ผิดแล้วไซร้บิดาคนดีบอกกับนางว่าจะพาไปดูตัวที่จวนสกุลเซี่ย!
ไอ้หยา! มารดามันเถอะ!
สกุลเซี่ยที่ว่านี้เป็นตระกูลขุนศึก บุตรที่เป็นชายทุกคนในตระกูลล้วนร่างกายกำยำล่ำสันราวกับหุ่นปั้นที่รังสรรค์โดยเทพเจ้าแห่งการสงคราม
และรับใช้ชาติด้วยร่างกายกันทุกคน
ว่ากันว่าวิสัยชายชาติทหารของพวกเขาก็ทำให้พวกเขาโหยหาในเรือนร่างของอิสตรี
หื่นกาม และบ้าราคะเป็นที่สุด! สกุลเซี่ยกุมอำนาจทางการทหาร
มีกองกำลังภายใต้บัญชากว่าสามหมื่นนาย อำนาจทางทหารว่ามากแล้วทางการเมืองยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ทั้งยังเป็นที่โปรดปราณขององค์จักรพรรดิเป็นอย่างมากในเรื่องของฝีมือด้านการรบที่ไม่เป็นสองรองใคร
เมื่อเป็นเช่นนี้ใยบิดานางจะไม่รีบกระโดดกอดขุมอำนาจนี้ไว้เล่า
เห็นได้ชัดว่าหากสกุลซ่งของนางได้เกี่ยวดองเป็นญาติกับสกุลเซี่ยแล้วจะดีแค่ไหน
ช่องทางที่หน้าที่การงานของบิดาจะก้าวไกลอยู่เพียงแค่เอื้อมมือเดียว!
ปวดหัวยิ่งแล้ว!
หญิงสาวย่ำเดินตามรอยเท้าบิดาแสร้งทำทีไม่คุ้นชินพื้นที่
หวาดระแวงผู้คนเล็กน้อยพอเป็นพิธี นางอยู่เรือนหลังฝ่าฟันกับเหล่าแม่เลี้ยงน่ารังเกียจและคนใช้มามากว่าสิบปีหากไม่ฉลาดและพอหัวไวอยู่บ้างก็คงตายไปแล้วหลายรอบ
วันนี้อากาศดีลมฝนเป็นใจ บ้านสกุลเซี่ยต้อนรับนางและบิดาเป็นอย่างดี
เรือนรับรองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับโรงฝึกทหารเท่าใดนักทำให้ได้ยินเสียงคนหนุ่มหลายสิบชีวิตกำลังส่งเสียงร้องอย่างอึกทึกครึกโครม โดยคนด้านในอย่างซ่งเหอและซ่งอวี้ฮวาหารู้ไม่ว่าที่พวกเขาดีใจส่วนหนึ่งมาจากข่าวที่ท่านแม่ทัพรองจะแต่งงาน!
“ยินดีที่ท่านพาบุตรสาวมาในวันนี้
หน้าตานางงดงามใช้ได้เลย”ฮูหยินเซี่ยเอ่ยชมอย่างออกนอกหน้า งดงามใช้ได้?...ต่อให้ไม่มองตาอวี้ฮวาก็รู้ว่าสตรีนางนี้กำลังเสแสร้งอย่างที่สุด!
“ฮูหยินเซี่ย ท่านชมข้าเกินไปแล้ว”เมื่อแสร้งมานางก็แสร้งกลับ
ทำเป็นเอียงอายใสซื่อเล็กน้อยให้อีกฝ่ายตายใจ
ซ่งอวี้ฮวาที่ไม่เคยถูกขัดสีฉวีวรรณให้งดงามอย่างสตรีทั่วไปย่อมรู้ตัวเองดี
จะหาส่วนที่งามเจอได้อย่างไร ในเมื่อวันๆนางก็ทำงานหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินแลกข้าวสามมื้อกินมาตลอด
หากเทียบความงามกับซ่งเหมยที่เป็นน้องคงเปรียบดั่งหงส์ฟ้ากับอีกาดำ และนางคงมิใช่หงส์ฟ้าอย่างแน่นอน
แม่ทัพใหญ่เซี่ยเหลียงไม่อาจอยู่ต้อนรับนางและบิดาได้เนื่องจากมีราชการสำคัญต้องเข้าวังไปพบฮ่องเต้
เห็นให้ชัดว่าสกุลเซี่ยมีความสำคัญต่อพระทัยขององค์จักรพรรดิมากมายเพียงใด
เหลือก็แต่ฮูหยินใหญ่ที่ออกมาต้อนรับ
พวกผู้ใหญ่แลดูจะคุยกับถูกคอ แลสายตาที่ท่านพ่อใช้คุยกับฮูหยินเซี่ยคล้ายกับพ่อค้ามือหนึ่งกำลังต่อราคาขายกับลูกค้าชั้นดี
เขามองออกทุกช่องทางว่าเดินไปทางใดกำไรจึงจะมากที่สุด
ฝ่ายฮูหยินเซี่ยเองก็ใช่ย่อยมองซ่งอวี้ฮวาขึ้นๆลงๆราวกับกำลงประเมินค่าราคาของกระนั้น
ผ่านไปหนึ่งชั่วยามคนที่บอกจะมาดูตัวกลับไม่เห็นแม้แต่เงา
จนแม้แต่บิดานางยังต้องเกิดอาการร้อนรน
เพ่ย!
พวกท่านคิดว่าข้าโง่หรือ ไม่อยากแต่งกับข้าก็บอกมาเถิด เหตุใดต้องหนีด้วยเล่า!
สงสัยท่าทีใสซื่อไม่ทันคนของซ่งอวี้ฮวาคงถูกแสดงออกสมจริงจนเกินไป
อ้อ สิ่งที่คนสกุลเซี่ยรังเกียจมากที่สุดนั้นมิใช่คนทรยศ แต่เป็นคนโง่เง่าที่ใช่การอันใดไม่ได้
ในสายตาของฮูหยินเซี่ยอวี้ฮวาคงกลายเป็นเช่นนั้นไปแล้ว แต่หากรู้ความจริงที่ว่าแท้จริงแล้วอวี้ฮวาเป็นเพียงบุตรที่มารดาตายจากบิดารังเกียจพวกเขาคงไม่แม้แต่จะเปิดประตูรับนาง
“ท่านเสนาบดีซ่ง
รออีกสักครู่เถิด”ฮูหยินเซี่ยเริ่มหน้าเสียขึ้นมาเล็กน้อย
นางสั่งบ่าวไพร่หลายคนไปตามเซี่ยจิ้นหรงแล้ว แต่ว่าลูกไม่รักดีของนางกลับหนีหายไปแบบไร้ร่องรอยเสียนี่แล้วจะให้นางไปตามที่ใดอีก
“ท่านคิดว่าข้าโง่นักหรือ
ฮูหยินเซี่ยหากท่านบอกแต่แรกว่าไม่อยากเกี่ยวดองเป็นญาติกับข้าก็ไม่ควรให้ข้ามารอนานเช่นนี้
บุตรชายท่านช่างไร้การถูกอบรม”ซ่งเหอเอ่ยเสียงเย็น เขาเป็นขุนนางผู้ใหญ่แม้จะถูกใจในอำนาจบารมีของแม่ทัพเซี่ยเหลียงเพียงใด
หากไม่ให้เกียรติกันเยี่ยงนี้ซ่งเหอเองก็รับไม่ได้
“ท่านพ่อ
อย่ารั้งรออีกเลยเจ้าค่ะ”ท่านไม่ควรสร้างวิมานในอากาศไปมากกว่านี้แล้วนะเจ้าคะ อวี้ฮวาเหลือบมองไปรอบๆอีกครั้ง
จวนสกุลเซี่ยโอ่อ่าน่าท่องเที่ยวก็จริงอยู่
แต่ข่าวลือที่ว่าสตรีเรือนหลังตบตีกันจนอยู่ไม่สุขเห็นทีจะเป็นเรื่องจริง
เพราะตั้งแต่นางย่างเท้าเข้ามาเหล่านางจิ้งจอกในคราบบุปผาแสนสวยก็จ้องนางจนตาแทบทะลุแล้ว
ชั่วอึดใจนางรู้สึกว่าตนเองไม่เหมาะกับสถานที่แห่งนี้เลยแม้แต่นิดเดียว
ดีแล้วที่เจ้าคนหน้าไม่อายนั่นไม่ยอมปรากฏกายออกมา
เพราะหากเป็นจริงดั่งที่บิดาคาดหวังนางคงต้องชอกช้ำจนตายเป็นแน่ หึ
อย่างมากหญิงจากสกุลซ่ง สกุลเล็กๆอย่างนางแต่งออกไปอย่างหรูก็คงเป็นได้แค่อนุเท่านั้น
เส้นสายทางบิดานางเล็กจ้อยเสียจนไม่อาจเอาไปวัดรอยเท้ากับผู้ใดได้ อาศัยแต่บิดานางเป็นคนฉลาดจึงทำให้เป็นที่โปรดปราณของฮ่องเต้เท่านั้นเอง
“ข้าขอตัว”เสนาบดีซ่งลุกพรวดพราดขึ้นทันใด
เขาเดินออกไปด้วยท่าทีไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ชั่วอึดใจก็เห็นแต่หลังไวๆอยู่ประตูทางออกเสียแล้ว
ทางอวี้ฮวาครั้นเห็นบิดาเดินออกไปไม่แม้แต่เรียกตนก็ให้รู้สึกขันในใจนัก
ท่าทางอ่อนต่อโลกที่เมื่อครู่เพียรแสดงมลายหายไปสิ้น
เหลือเพียงแววตาฉลาดรู้ทันที่มีดีมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอกของนาง
ชีวิตช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสัน!
หญิงสาวยกยิ้ม พลางกล่าวอย่างยินดี“ขอให้รองแม่ทัพเซี่ยสุขภาพแข็งแรง
พบเจอสตรีที่ดี มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง!”
สิ้นประโยคคนที่นั่งจิบชาอยู่อีกฝั่งก็สะดุ้งจนชาในปากแทบพุ่งในทันที
ถ้วยชาในมือชายหนุ่มสั่นระริก นางรู้ได้อย่างไรว่าเขาอยู่ที่ใด ไม่ เป็นไปไม่ได้!
นางไม่ได้มีตาหลังเสียหน่อย! แล้วน้ำเสียงยินดีปรีดาเมื่อครู่นั่นมันอะไร!
ร่างระหงในชุดผ้าแพรสีฟ้าใสค่อยเคลื่อนกายออกจากห้องไปอย่างช้าๆ
พร้อมกับปรบมือเป็นจังหวะสุนทรี เมื่อเห็นท่าทีไม่อนาทรร้อนใจที่ถูกปฏิเสธการดูตัวของสตรีตรงหน้ายิ่งทำให้ฮูหยินเซี่ยและบุตรชายใจสะท้านขึ้นครู่หนึ่ง
รู้สึกราวกับพวกเขากำลังทำบางอย่างผิดพลาดไปเสียแล้ว!
เหมันตะเคลื่อนผ่าน สายธารแห่งโชคชะตายังคงเคลื่อนคล้อย
ลมหนาวพัดผ่านกิ่งหลิวส่งเสียงเสียดสีกัน เมฆาอวดโฉมท้าทายแสงสุริยามองแล้วให้รู้สึกราวกับมองภาพจิตกรชื่อดังกระนั้น
ในเวลาเดียวกันเทพแห่งจันทราเองก็ยังคงทำให้ที่ของพระองค์ได้อย่างดีเยี่ยมเช่นเดิม
เมื่อมิใช่คู่แท้ใยต้องฝืนชะตา เซี่ยจิ้นหรงชาตินี้เจ้ากับนางมิใช่คู่กัน!
.
.
ด้ายแดงเชื่อมประสาน สองใจรักมั่นยืนยง.
*****
จบเเล้วหนึ่งบท ขอโทษนะถ้าไรท์เขียนเเล้วภาษาเค้าวิบัติ555+
เเค่อยากลองเขียนเพื่อความบรรเทิงก็เท่านั้นเอง สถานที่กับยศอะไรต่างๆไม่อิงประวัติศาสตร์
เน้นเข้าใจง่ายๆเเละเน้นเขียนเพียงเพื่อผ่อนคลายความเคลียดของตัวเองล้วนๆ
ป.ลิง.เเค่มีคนชอบไรท์ก็ดีใจเเล้วจ้า
ความคิดเห็น