ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 7
บทที่ 7
“ไปซื้อของ แล้วตอนค่ำๆ ฉันจะพาแกไปคลายเครียด” ยัยพิมพ์ตอบอย่างมีเลศนัย
“ที่ไหนละ” ฉันถาม เสียงฉันยังแหบอยู่เลยนะ สงสัยอีกหลายวันกว่าจะหาย -_-
“ห้างฯxxx” ยัยนั่นตอบ แต่นั่นไม่ใช่คำตอบที่ฉันต้องการซะหน่อย -_-\"
“ฉันหมายถึงที่คลายเครียดของแกนะ” ฉันบอกมัน
“ไม่บอก อุบ ไว้ก่อน” ยัยนี่ไม่ยอมบอกด้วยแหะ แต่หนูอยากรู้อ่า บอกหนูหน่อยน้า >.< ถ้าเป็นตอนอื่นฉันคงจะตื้อถามเอาคำตอบจากยัยนั่นให้ได้เลย แต่เวลานี้เสียงฉันแหบ ฉันว่าฉันเก็บเสียงไว้ใช้ยามจำเป็นดีกว่า
“นี่ เล่าตอนที่แกวิ่งบ้าไปรอบโรงเรียนให้ฟังหน่อยซิ” ยัยพิมพ์เปลี่ยนเรื่อง
“อะ...” ฉันตอบ แต่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา อย่างมากก็เป็นเสียงเออออไปเป็นคำ อย่าบอกนะว่าเสียงฉันหมดแล้ว >~< ฉันไม่น่าตะโกนไปรอบโรงเรียนเลย ToT แล้วนี่เมื่อไหร่จะหายละ
“เสียงหมดหรอ คิกคิก สมน้ำหน้า” ยัยพิมพ์พูดแล้วหัวเราะคิกคัก
“ -3- ” ฉันไม่ตอบทำท่างอนแทน ก็ฉันตอบไม่ได้ยังไงละ เสียงฉันหมดไปกับการตะโกนรอบโรงเรียนแล้วนะซิ คิดแล้วก็เศร้าชะมัด ToT
“เอาน่าอย่างอนเลย” ยัยพิมพ์ง้อฉัน แล้วจากนั้นยัยนั่นก็ต้องง้อฉันไปตลอดทาง
แบร่ >_< สมน้ำน่า อยากหัวเราะฉันเอง เป็นไงละ เลยต้องง้อฉันไปตลอดทางเลย ถึงปากฉันจะด่าไม่ได้เพราะเสียงหมด ฉันก็ยังไม่หมดฤทธิ์ง่ายๆนะจะบอกให้
“นี่ถึงห้างฯแล้วนะ เลิกงอนซะทีเถอะ” ยัยพิมพ์บอกฉันหลังจากลงจากรถแล้วเข้ามาในห้างฯเรียบร้อยแล้ว
“(- -)(_ _)” ฉันพยักหน้าตอบ
“เราไปซื้อชุดนักเรียนกันก่อนนะ แล้วก็ค่อยไปซื้อรองเท้านักเรียนกับรองเท้าพละ” ยัยพิมพ์บอกฉันด้วยความดีใจ เดาว่าเพราะฉันยอมหายงอน ก่อนฉุดฉันไปเข้าร้านเสื้อนักเรียนแล้วตามด้วยร้านรองเท้า กว่าจะซื้อเสร็จก็กินเวลาไปครึ่งชั่วโมงแล้วรวมกับเวลาตอนที่ผ่านมา ตอนนี้ก็บ่าย 3 โมงแล้วละ
“เหลือเครื่องเขียนอย่างเดียวแล้วก็เสร็จ แต่ยังไม่จบเพราะเราต้องไปซื้อเสื้อผ้าและอื่นๆอีก” ยัยพิมพ์บอกแล้วพาฉันไปช็อปต่อ ฉันรู้สึกว่าเธอจะเดินพาฉันไปทั่วห้างฯแล้วนะ
***************************************************************************
ผ่านไป 3 ชั่วโมง ในที่สุดยัยนั่นก็พาฉันช็อปเสร็จแล้ว ฉันรู้สึกดีใจจังเลยที่ฉันจะไม่ต้องเดินต่อแล้ว เพราะฉันรู้สึกว่าขาฉันเมื่อยไปหมดทั้งขาแล้ว ก็จะไม่ให้ฉันเมื่อยได้ยังไงละ ก็ยัยนั่นเล่นพาฉันเดินช็อปไปทั่วห่างโดยไม่พักเลยกินเวลา 3 ชั่วโมงกว่าโดยประมาณ คิดดูแล้วกัน ขาจ๋า ชมพูขอโทษน้า >.< ถ้าจะโทษต้องโทษยัยพิมพ์นั่น ที่ใจร้ายไม่ให้หยุดพักเลย -_-
“เมื่อยยัง ไปพักกินข้าวก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยไปคลายเครียดกัน” ยัยพิมพ์บอกแล้วพาฉันเข้าไปทานข้าวในร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่ง
“สั่งไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันโทรเรียกลุงมั่นให้มาเอาของไปเก็บที่รถก่อน” ยัยพิมพ์บอกฉันแล้วยื่นเมนูให้ ฉันละอยากจะฆ่ายัยนี่จริงๆเลย ก็รู้ว่าฉันไม่มีเสียงยังให้สั่งอาหารอีก ฮึ่ม คอยดูแล้วกันฉันจะสั่งอาหารให้เธอดูโดยที่ไม่ต้องใช้เสียง -_-^ อ้อ ลืมบอกไปลุงมั่นก็คือคุณลุงคนขับรถยังไงละ
ฉันดูรายการอาหาร และทุกครั้งที่ฉันจะสั่งฉันก็จะสะกิดพี่คนเสริฟอาหารแล้วชี้ที่เมนูให้เขาดู ฉันดูหน้าพี่เขา ตอนแรกๆแกก็ทำหน้างงอยู่หรอกที่ฉันไม่พูดแต่ใช้สะกิดแล้วชี้เอา ตอนหลังๆพี่แกท่าคงชินแล้วละ จึงทำหน้าปกติเวลาฉันสะกิดแล้วจิ้มๆที่โน่นที่นี่บนเมนู เป็นอันรู้กันว่าฉันสั่งรายการนี้
“ยัยชมพู ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอเสียงหมดแล้วเธอจะสั่งอาหารได้ยังไง” ยัยพิมพ์วางสายจากโทรศัพท์แล้วก็หันมาพูดกับฉัน
“พี่ๆ เดี๋ยวก่อนคะ ยังไม่ได้สั่งอาหารเลย” ยัยพิมพ์รีบเรียกพี่คนเสริฟอาหารให้กลับมาเมื่อเห็นเขากำลังจะเดินออกไปจากห้อง
“อ๋อ คุณคนนี้สั่งเรียบร้อยแล้วครับ จะสั่งเพิ่มรึป่าวละครับ” พี่คนเสริฟอาหารหยุดตามเสียงเรียกแล้วหันมาถามยัยพิมพ์
“อ๋อ งั้นไม่ต้องคะ” ยัยพิมพ์ตอบงงๆ แล้วพี่เค้าก็เดินออกไปจากห้อง
“นี่ แกสั่งอาหารยังไงนะ” ยัยพิมพ์ถามฉันอย่างไม่เชื่อว่าฉันจะสั่งอาหารได้โดยไม่ใช้เสียง ฉันก็ทำท่าสะกิดข้างๆเหมือนมีคนอยู่แล้วก็เอามือจิ้มๆบนมือที่เป็นเสมือนเมนูอาหารจำเป็น
“อ๋อ เข้าใจแล้ว ฉลาดนิ” ยัยพิมพ์ชมฉัน เชอะ 3- ฉันฉลาดอยู่แล้วละยะ ไม่ต้องมาชมก็ได้
“อ่าวลุงมั่นมาแล้ว นี่คะ ค่อยๆถือไปก็ได้คะ” ยัยพิมพ์บอกเมื่อเห็นลุงมั่นเข้ามา จะบอกให้นี่ไม่ใช่รอบแรกนะที่ลุงมั่นมาเอาของไปเก็บที่รถนะ นี่เป็นรอบที่ 6 แล้วละ
“ครับคุณหนู” ลุงมั่นรับคำแล้วก็เอาของไปเก็บ
“อาหารมาแล้วครับ” หลังจากลุงมั่นไปได้สักพักพี่คนเสริฟอาหารก็เอาอาหารเข้ามาเสริฟ
ระหว่างที่เราทานอาหารกันอยู่ลุงมั่นก็เข้ามาเอาของไปเก็บอีก 3 รอบ รวมแล้วลุงมั่นต้องเดิน 9 รอบเพื่อเอาของที่พวกเราช็อปไปเก็บที่รถ ไอ้ที่เยอะนะไม่ใช่ของของฉันหรอกแต่เป็นของยัยพิมพ์ต่างหาก ยัยนั่นนะเป็นนักช็อปตัวยงเลยละจะบอกให้
หลังจากที่เราทานอาหารเสร็จก็ไปแวะซื้อเค้กแล้วก็ขนมปังกลับบ้านไปกิน หลังจากนั้นจังค่อยขึ้นรถออกจากห้างฯไป
“นี่ เดี๋ยวฉันจะพาแกไปคลายเครียด รับรองสนุกแน่” ยัยพิมพ์บอกฉันระหว่างทาง
“ที่เนี้ย เปิดตอนกลางคืน ใบ้ให้ เป็นไง รู้ปะว่าที่ไหน” ยัยพิมพ์พูดต่อ
“อ๋อ ลุงมั่นคะ เดี๋ยวไปส่งพิมพ์แล้วก็กลับไปก่อนเลยก็ได้คะ เดี๋ยวพิมพ์จะเรียกแท็กซี่กลับเอง” ยัยพิมพ์หันไปบอกลุงมั่น
“ครับคุณหนู แต่...”
“แต่อะไรคะ” ยัยพิมพ์ถามขัดขึ้นมา
“แต่เดี๋ยวคุณท่านรู้จะว่าผมเอานะครับว่าปล่อยให้คุณหนูนั่งแท็กซี่กลับเอง” ลุงมั่นบอก
“ไม่เป็นไรคะ ลุงมั่นกลับไปพักผ่อนเถอะคะ เหนื่อยกับพิมพ์มาทั้งวันแล้ว”
“แต่...”
“ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านว่า เดี๋ยวพิมพ์พูดเองคะ”
“ก็ได้ครับ”
“ยัยชมพู ฉันโทรไปบอกพ่อแม่แกให้แล้วนะว่าคืนนี้จะกลับดึกหน่อยเลยจะค้างบ้านฉัน” ยัยพิมพ์หันมาพูดกับฉันต่อ
“(- -)(_ _)” ฉันพยักหน้าตอบรับ
************************************************************************
“เนี่ยแหละ ถึงแล้ว” ยัยพิมพ์พูด
“ไปซื้อของ แล้วตอนค่ำๆ ฉันจะพาแกไปคลายเครียด” ยัยพิมพ์ตอบอย่างมีเลศนัย
“ที่ไหนละ” ฉันถาม เสียงฉันยังแหบอยู่เลยนะ สงสัยอีกหลายวันกว่าจะหาย -_-
“ห้างฯxxx” ยัยนั่นตอบ แต่นั่นไม่ใช่คำตอบที่ฉันต้องการซะหน่อย -_-\"
“ฉันหมายถึงที่คลายเครียดของแกนะ” ฉันบอกมัน
“ไม่บอก อุบ ไว้ก่อน” ยัยนี่ไม่ยอมบอกด้วยแหะ แต่หนูอยากรู้อ่า บอกหนูหน่อยน้า >.< ถ้าเป็นตอนอื่นฉันคงจะตื้อถามเอาคำตอบจากยัยนั่นให้ได้เลย แต่เวลานี้เสียงฉันแหบ ฉันว่าฉันเก็บเสียงไว้ใช้ยามจำเป็นดีกว่า
“นี่ เล่าตอนที่แกวิ่งบ้าไปรอบโรงเรียนให้ฟังหน่อยซิ” ยัยพิมพ์เปลี่ยนเรื่อง
“อะ...” ฉันตอบ แต่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา อย่างมากก็เป็นเสียงเออออไปเป็นคำ อย่าบอกนะว่าเสียงฉันหมดแล้ว >~< ฉันไม่น่าตะโกนไปรอบโรงเรียนเลย ToT แล้วนี่เมื่อไหร่จะหายละ
“เสียงหมดหรอ คิกคิก สมน้ำหน้า” ยัยพิมพ์พูดแล้วหัวเราะคิกคัก
“ -3- ” ฉันไม่ตอบทำท่างอนแทน ก็ฉันตอบไม่ได้ยังไงละ เสียงฉันหมดไปกับการตะโกนรอบโรงเรียนแล้วนะซิ คิดแล้วก็เศร้าชะมัด ToT
“เอาน่าอย่างอนเลย” ยัยพิมพ์ง้อฉัน แล้วจากนั้นยัยนั่นก็ต้องง้อฉันไปตลอดทาง
แบร่ >_< สมน้ำน่า อยากหัวเราะฉันเอง เป็นไงละ เลยต้องง้อฉันไปตลอดทางเลย ถึงปากฉันจะด่าไม่ได้เพราะเสียงหมด ฉันก็ยังไม่หมดฤทธิ์ง่ายๆนะจะบอกให้
“นี่ถึงห้างฯแล้วนะ เลิกงอนซะทีเถอะ” ยัยพิมพ์บอกฉันหลังจากลงจากรถแล้วเข้ามาในห้างฯเรียบร้อยแล้ว
“(- -)(_ _)” ฉันพยักหน้าตอบ
“เราไปซื้อชุดนักเรียนกันก่อนนะ แล้วก็ค่อยไปซื้อรองเท้านักเรียนกับรองเท้าพละ” ยัยพิมพ์บอกฉันด้วยความดีใจ เดาว่าเพราะฉันยอมหายงอน ก่อนฉุดฉันไปเข้าร้านเสื้อนักเรียนแล้วตามด้วยร้านรองเท้า กว่าจะซื้อเสร็จก็กินเวลาไปครึ่งชั่วโมงแล้วรวมกับเวลาตอนที่ผ่านมา ตอนนี้ก็บ่าย 3 โมงแล้วละ
“เหลือเครื่องเขียนอย่างเดียวแล้วก็เสร็จ แต่ยังไม่จบเพราะเราต้องไปซื้อเสื้อผ้าและอื่นๆอีก” ยัยพิมพ์บอกแล้วพาฉันไปช็อปต่อ ฉันรู้สึกว่าเธอจะเดินพาฉันไปทั่วห้างฯแล้วนะ
***************************************************************************
ผ่านไป 3 ชั่วโมง ในที่สุดยัยนั่นก็พาฉันช็อปเสร็จแล้ว ฉันรู้สึกดีใจจังเลยที่ฉันจะไม่ต้องเดินต่อแล้ว เพราะฉันรู้สึกว่าขาฉันเมื่อยไปหมดทั้งขาแล้ว ก็จะไม่ให้ฉันเมื่อยได้ยังไงละ ก็ยัยนั่นเล่นพาฉันเดินช็อปไปทั่วห่างโดยไม่พักเลยกินเวลา 3 ชั่วโมงกว่าโดยประมาณ คิดดูแล้วกัน ขาจ๋า ชมพูขอโทษน้า >.< ถ้าจะโทษต้องโทษยัยพิมพ์นั่น ที่ใจร้ายไม่ให้หยุดพักเลย -_-
“เมื่อยยัง ไปพักกินข้าวก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยไปคลายเครียดกัน” ยัยพิมพ์บอกแล้วพาฉันเข้าไปทานข้าวในร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่ง
“สั่งไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันโทรเรียกลุงมั่นให้มาเอาของไปเก็บที่รถก่อน” ยัยพิมพ์บอกฉันแล้วยื่นเมนูให้ ฉันละอยากจะฆ่ายัยนี่จริงๆเลย ก็รู้ว่าฉันไม่มีเสียงยังให้สั่งอาหารอีก ฮึ่ม คอยดูแล้วกันฉันจะสั่งอาหารให้เธอดูโดยที่ไม่ต้องใช้เสียง -_-^ อ้อ ลืมบอกไปลุงมั่นก็คือคุณลุงคนขับรถยังไงละ
ฉันดูรายการอาหาร และทุกครั้งที่ฉันจะสั่งฉันก็จะสะกิดพี่คนเสริฟอาหารแล้วชี้ที่เมนูให้เขาดู ฉันดูหน้าพี่เขา ตอนแรกๆแกก็ทำหน้างงอยู่หรอกที่ฉันไม่พูดแต่ใช้สะกิดแล้วชี้เอา ตอนหลังๆพี่แกท่าคงชินแล้วละ จึงทำหน้าปกติเวลาฉันสะกิดแล้วจิ้มๆที่โน่นที่นี่บนเมนู เป็นอันรู้กันว่าฉันสั่งรายการนี้
“ยัยชมพู ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอเสียงหมดแล้วเธอจะสั่งอาหารได้ยังไง” ยัยพิมพ์วางสายจากโทรศัพท์แล้วก็หันมาพูดกับฉัน
“พี่ๆ เดี๋ยวก่อนคะ ยังไม่ได้สั่งอาหารเลย” ยัยพิมพ์รีบเรียกพี่คนเสริฟอาหารให้กลับมาเมื่อเห็นเขากำลังจะเดินออกไปจากห้อง
“อ๋อ คุณคนนี้สั่งเรียบร้อยแล้วครับ จะสั่งเพิ่มรึป่าวละครับ” พี่คนเสริฟอาหารหยุดตามเสียงเรียกแล้วหันมาถามยัยพิมพ์
“อ๋อ งั้นไม่ต้องคะ” ยัยพิมพ์ตอบงงๆ แล้วพี่เค้าก็เดินออกไปจากห้อง
“นี่ แกสั่งอาหารยังไงนะ” ยัยพิมพ์ถามฉันอย่างไม่เชื่อว่าฉันจะสั่งอาหารได้โดยไม่ใช้เสียง ฉันก็ทำท่าสะกิดข้างๆเหมือนมีคนอยู่แล้วก็เอามือจิ้มๆบนมือที่เป็นเสมือนเมนูอาหารจำเป็น
“อ๋อ เข้าใจแล้ว ฉลาดนิ” ยัยพิมพ์ชมฉัน เชอะ 3- ฉันฉลาดอยู่แล้วละยะ ไม่ต้องมาชมก็ได้
“อ่าวลุงมั่นมาแล้ว นี่คะ ค่อยๆถือไปก็ได้คะ” ยัยพิมพ์บอกเมื่อเห็นลุงมั่นเข้ามา จะบอกให้นี่ไม่ใช่รอบแรกนะที่ลุงมั่นมาเอาของไปเก็บที่รถนะ นี่เป็นรอบที่ 6 แล้วละ
“ครับคุณหนู” ลุงมั่นรับคำแล้วก็เอาของไปเก็บ
“อาหารมาแล้วครับ” หลังจากลุงมั่นไปได้สักพักพี่คนเสริฟอาหารก็เอาอาหารเข้ามาเสริฟ
ระหว่างที่เราทานอาหารกันอยู่ลุงมั่นก็เข้ามาเอาของไปเก็บอีก 3 รอบ รวมแล้วลุงมั่นต้องเดิน 9 รอบเพื่อเอาของที่พวกเราช็อปไปเก็บที่รถ ไอ้ที่เยอะนะไม่ใช่ของของฉันหรอกแต่เป็นของยัยพิมพ์ต่างหาก ยัยนั่นนะเป็นนักช็อปตัวยงเลยละจะบอกให้
หลังจากที่เราทานอาหารเสร็จก็ไปแวะซื้อเค้กแล้วก็ขนมปังกลับบ้านไปกิน หลังจากนั้นจังค่อยขึ้นรถออกจากห้างฯไป
“นี่ เดี๋ยวฉันจะพาแกไปคลายเครียด รับรองสนุกแน่” ยัยพิมพ์บอกฉันระหว่างทาง
“ที่เนี้ย เปิดตอนกลางคืน ใบ้ให้ เป็นไง รู้ปะว่าที่ไหน” ยัยพิมพ์พูดต่อ
“อ๋อ ลุงมั่นคะ เดี๋ยวไปส่งพิมพ์แล้วก็กลับไปก่อนเลยก็ได้คะ เดี๋ยวพิมพ์จะเรียกแท็กซี่กลับเอง” ยัยพิมพ์หันไปบอกลุงมั่น
“ครับคุณหนู แต่...”
“แต่อะไรคะ” ยัยพิมพ์ถามขัดขึ้นมา
“แต่เดี๋ยวคุณท่านรู้จะว่าผมเอานะครับว่าปล่อยให้คุณหนูนั่งแท็กซี่กลับเอง” ลุงมั่นบอก
“ไม่เป็นไรคะ ลุงมั่นกลับไปพักผ่อนเถอะคะ เหนื่อยกับพิมพ์มาทั้งวันแล้ว”
“แต่...”
“ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านว่า เดี๋ยวพิมพ์พูดเองคะ”
“ก็ได้ครับ”
“ยัยชมพู ฉันโทรไปบอกพ่อแม่แกให้แล้วนะว่าคืนนี้จะกลับดึกหน่อยเลยจะค้างบ้านฉัน” ยัยพิมพ์หันมาพูดกับฉันต่อ
“(- -)(_ _)” ฉันพยักหน้าตอบรับ
************************************************************************
“เนี่ยแหละ ถึงแล้ว” ยัยพิมพ์พูด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น