ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    His sassy girl Her playboy

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 48


    บทที่ 4



    “Welcome your come back CHOMPOO” เสียงต้อนรับดังขึ้นเมื่อฉันเปิดประตูออกไป



    มันหมายความว่ายังไงกันเนี่ย? ฉันงงเป็นไก่ตาแตกแล้วนะ O-O ใครก็ได้ช่วยตอบฉันที ได้โปรด please…please answer me หลังจากที่ภาวนาอยู่ในใจซักพัก สงสัยว่าพระพุทธเจ้าคงเห็นใจฉัน (สงสัยละซิ ว่าทำไมฉันไม่ใช้ว่า ‘พระเจ้า’ ก็เพราะฉันนับถือศาสนาพุทธไงละ) เลยส่งคนมาตอบคำถามฉัน และคนนั้นก็คือคุณพ่อคุณแม่ฉันเองละ



    “เมื่อกี้ตกใจรึป่าวจ๊ะลูก” คุณแม่ท่านถามฉัน ฉันพอจะเข้าใจอะไรรางๆแล้วละ ว่า...



    “เมื่อกี้พวกเราแกล้งลูกเล่นเป็นเซอร์ไพรการกลับมาของลูก ตามจริงก็ไม่ได้ตั้งใจไว้ แต่ลูกแกล้งพ่อกับแม่ก่อนนิ ก็เลยใช้แผนลูกซ้อนทับไปเลย ห้าๆๆ คิดแล้วก็ตลกดี ท่าทางลูกเก้ๆกังๆนะ” คุณพ่อท่านบอกฉัน



    “งอนแล้ว –3- แกล้งลูกนี่มันสนุกนักหรอไงคะ” ฉันพูดอย่างงอนๆ ก็เล่นแกล้งจนฉันเชื่อซะสนิทใจว่าคุณพ่อคุณแม่ท่านโดนล้างสมองจริงๆนะซิ



    “โถ่ อย่างอนซิคะ รู้ไหมตอนที่แม่รู้ว่ามีคนมาอ้างว่าเป็นลูกอีกคนนะ แม่เค้าหยิกพ่อซะเขียวปัดเลยละ ถ้าไม่เชื่อก็ดูที่แขนนี่ซิ นี่ไงหลักฐาน” คุณพ่อท่านง้อฉันแล้วยื่นแขนซ้ายให้ดู ใช่แล้วเป็นรอยหยิกจนเขียวปัดจริงๆด้วย หรือว่ารอยถูกทำร้ายเล็กๆที่ฉันเห็นก็คือรอยนี้นี่เอง



    “ไม่งอนก็ได้คะ แต่ชมพูเชื่อซะสนิทใจเลยนะ” ฉันพูดแล้วโผเข้ากอดคุณพ่อคุณแม่อย่างเต็มอิ่ม ก่อนหอมแก้มท่านทั้งสองเบาๆด้วยความคิดถึง



    “ถ้าไม่เล่นอย่างนี้แล้วลูกเจ้าเล่ห์ของแม่จะเชื่อหรอ ขนาดตกใจยังไม่ยอมเผยสีหน้าตกใจให้แม่เห็นเลย” คุณแม่ท่านตอบก่อนผละออกจากวงกอดของฉันพร้อมๆกับคุณพ่อ



    “ถือว่าหายกันแล้วกันคะ” ฉันตอบ



    “งั้นก็มาสนุกกับงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของลูกเถอะจ๊ะ” คุณแม่เอ่ยแล้วท่านก็พาฉันไปแนะนำให้กับแขกในงานที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ได้รู้จักจนครบ ก่อนปล่อยฉันไปสนุกในงานตามแบบของฉัน



    “ยัยชมพู!” ฉันว่าฉันได้ยินเสียงคนเรียกฉันนะ รู้สึกว่ามันคุ้นๆซะด้วย ใครกันนะเรียกฉัน ฉันหันหลังไปมองต้นเสียง



    “ยัยพิมพ์ มาได้ยังไง” ฉันพูดแล้วสวมกอดยัยพิมพ์ ก็คนที่เรียกฉันยังไงละ ยัยพิมพ์เป็นเพื่อนสนิทของฉันเอง พ่อแม่ของเราก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนด้วยเช่นกัน



    ฉันกับยัยพิมพ์เราเรียนมาด้วยกัน เวลาไปไหนก็ไปด้วยกัน ตัวติดกันอย่างกับปลาต้องโก๋แหนะ เวลามีปัญหาอะไรก็ปรึกษากัน ฉันรู้สึกว่าพวกเราเป็นมากกว่าเพื่อนกันซะอีก เหมือนเป็นฝาแฝดกันมากกว่า แต่แฝดคนละฝานะ หน้าตาไม่เหมือนกัน ยัยพิมพ์มีผมสีดำ ตาสีน้ำตาลเข้ม ผิวสีแทน เหมือนคนเอเชียทั่วไป เธอมีใบหน้ารูปวงรีสวย และมีจมูกที่โด่งเป็นเอกลักษณ์ แล้วก็หุ่นเพรียวเล็กดูน่ารัก เรียกว่าเป็นผู้หญิงที่รูปร่างหน้าตาสวยคนหนึ่งเลยละ แต่น้อยกว่าฉันนะ ส่วนฉันนะหรอก็เหมือนคนเอเชียทั่วๆไปนะแหละ ผมดำ ตาน้ำตาลเข้ม แต่มีที่ไม่เหมือนก็คือผิวฉันเป็นสีขาวอมชมพู ก็เท่านั้นส่วนรูปหน้าก็วงรีเหมือนยัยพิมพ์ แต่หุ่นฉันเป็นแบบหุ่นเพรียวสูงเหมือนนางแบบยังไงละ ฉันสูงตั้ง 180 แหนะจะบอกให้ เป็นนางแบบได้สบายๆเลยละ ^_^



    “ถามแปลกฉันก็ขึ้นเครื่องบินมานะซิ หรือว่าแกจะให้ฉันคลานมาละยะ” ยัยพิมพ์ตอบแล้วก็ไม่ลืมที่จะกัดฉันเล็กๆ พวกเราก็เป็นงี้ประจำแหละกัดกันไปกัดกันมา แบบว่างจัดไม่มีไรทำนะ -_-\"



    “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ก็แกบอกว่าแกจะไม่กลับมาไทยไงละ พอสอบเสร็จแกก็หายไปเลย ไปไหนก็ไม่ยอมบอก ฉันรอแกตั้ง 2 อาทิตย์ก็ยังไม่โผล่หัวมาฉันเลยบินกลับมาไทยซะเลย” ฉันบอก



    “เออ...รู้น่าว่าแกอยากจะถามอะไร แกก็รู้เราไม่เคยแยกกันแล้วแกกลับมาเรียนต่อที่ไทยแล้วฉันจะไม่ตามมาเรียนกับแกได้ยังไงละ เดี๋ยวแกไปด่าใครเค้าตายไปแล้วจะไม่ใครช่วยแกเก็บศพ แล้วไอ้ที่ฉันหายไปก็กลับมาไทยนี่แหละ มาเตรียมตัวเซอร์ไพรแกไง พ่อแม่แกขอให้ฉันช่วย แล้วมีหรอเด็กดีที่ทำตามคำสั่งผู้ใหญ่เสมอจะไม่ทำ” ยัยพิมพ์อธิยายให้ฉันซะยืดยาวเชียว



    “ขอแก้หน่อยเถอะ ไอ้ที่แกร่วมมือด้วยเนี่ย เพราะแกอยากแกล้งฉันมากกว่าใช่ไหม” ฉันถาม



    “เออ...รู้แล้วถามทำไมละยะ สมน้ำหน้าแกซะบ้าง เคยแกล้งแต่คนอื่นโดนคนอื่นแกล้งซะบ้างจะได้เข็ด” ยัยพิมพ์ตอบ แล้วแกล้งทำเสียงสมน้ำหน้าฉัน แล้วฉันทำไงนะหรอ ถามได้ก็...



    “อยากตายหรือไงยัยพิมพ์” ฉันถามแล้วเริ่มเล่นเกมแมวชมพูจับหนูพิมพ์ไปทั่วงานทันที





    “พอแล้วๆ แมวชมพู หนูพิมพ์ยอมแล้วค่า” ยัยพิมพ์หอบแล้วทำท่ายกธงขาวให้ฉัน



    “สมน้ำหน้าเป็นไงละ” ฉันหอบเล็กน้อยแล้วสมน้ำหน้ามัน



    “แกก็เหนื่อยจนหอบเหมือนกันแหละ” ยัยพิมพ์พูดไปเดินไปหอบไปนั่งเก้าอี้



    “เปล่าซะหน่อย” ฉันรีบเก็บอาการหอบแล้วตอบ ก่อนตามไปนั่งด้วยคน



    “แหม รีบเก็บอาการเชียวนะแก” ยัยพิมพ์แซวฉัน



    “อยากตายหรือไง” ฉันถามแล้วโยนกระป๋องน้ำอัดลมที่หยิบได้จากตรงโต๊ะข้างๆเก้าอี้ให้มันกระป๋องหนึ่ง แล้วก็เปิดกินเองกระป๋องหนึ่ง



    “ขอบใจยะ”



    “ไม่เป็นไร วันนี้วันพระ ฉันทำทานทุกวันพระเสมอแหละ” ฉันตอบ อิอิ ^_^ เป็นไงละ เจ็บไหม



    “ไอ้นี่ ด่าเจ็บเหมือนเดิมนะ ไม่เจอกันแค่ 2 อาทิตย์เองรู้สึกว่าเผลอๆจะด่าเก่งขึ้นนะ” ยัยพิมพ์ด่าฉัน แต่ยังไงก็ไม่เจ็บเท่าฉันหรอก



    “2 อาทิตย์ ก็เหมือน 2 เดือนเลยนะเว้ย” ฉันบอกมัน ก็ฉันคิดถึงมันจริงๆนิ พวกเราไม่เคยอยู่ห่างกันเลย ขนาดตอนนอนก็ตามเราจะผลัดกันไปพักบ้านของอีกฝ่าย เลยได้นอนด้วยกันทุกคืน



    “ฉันก็เหมือนกัน แต่ถ้าไม่ทำ แผนก็ไม่สำเร็จดิ” ยัยพิมพ์บอกฉัน



    “เออ...ช่างเหอะ หายเหนื่อยยัง” ฉันพูดตัดบทแล้วถามมัน



    “ก็ค่อยยังชั่วแล้วละ มีไรหรอ แล้วแกทำไมแต่งตัวอย่างงี้ละเหมือนผู้ชายเลย” ยัยพิมพ์ถามฉัน



    “ก็หาชุดที่มันทะมัดทะแมงหน่อยไง ก็ตอนที่สนามบินคนมันเยอะ ก็เลยใส่ชุดที่ชะแวบไปทางนู้นทีทางนี้ทีง่ายๆหน่อยไง” ฉันบอกมัน



    “เออๆ ก็เป็นความคิดที่ดี เอาไว้ฉันจะยืมไปใช้บ้าง”



    “พูดถึงสนามบิน รู้ป่าววันเนี้ยซวยสุดๆไปเลย โทรศัพท์อะหยิบสลับกับนายมารยาททรามมา” ฉันนึกถึงเรื่องที่สนามบินได้ เลยบ่นให้มันฟัง



    “นายมารยาททราม? ใครอ่า” ยัยพิมพ์ถาม ลืมไปว่ายังไม่ได้เล่าให้มันฟังเลยนี่หว่า



    “ก็...” แล้วฉันก็เริ่มเล่าเรื่องที่เจอกับนายมารยาททรามนั่นให้ยัยพิมพ์ฟัง แน่นอนรวมถึงเรื่องคนที่โทรมาและคุณลุงเจ้าปัญหาด้วย สรุปคือเล่าหมดทุกเรื่องเลย ^_^



    “เออ...น่าสงสาร เฮ้ย แต่ถามจริงหน้าตาเค้าเป็นไงบ้าง หล่อป่ะ หล่อแค่ไหนอ่ะ” ยัยพิมพ์ฟังจบก็รีบถามฉันถึงนายมารยาททรามทันที



    “พูดง่ายๆ ก็คือ หล่อ หล่อมาก หล่อลากดิน แบบบรรยายไม่ถูก” ฉันตอบ ถึงนายนั่นจะมารยาททรามก็จริง แต่เรื่องความหล่อ นายนั่นก็หล่อจริงๆ ฉันขอยอมรับเลยละ



    “เฮ้ย มัวแต่คุยเพลิน แกไม่ไปรับแขกหน่อยหรอ ไปคุยกับแขกคนอื่นในงานได้แล้ว” ยัยพิมพ์เตือนฉัน



    แล้วเราก็ไปคุยกับแขกในงานตามภาษาเจ้าของงานและเพื่อนเจ้าของงาน งานนี้ก็ถือว่าสนุกดีนะ ฉันเริ่มรู้จักคนมากขึ้น ก็ถือว่าเป็นการหาเพื่อนใหม่ไปด้วย สรุปแล้วตอนนี้ฉันก็มีคนรู้จักในไทยแล้วละ อยากรู้ไหมว่าฉันชอบตอนไหนของงานที่สุด ก็ต้องตอนสุดท้ายนะซิ เพราะมันมีพายบลูเบอร์รี่ชีสเค้กของโปรดฉัน ให้ฉันตัดแล้วแจกคนในงาน เนื่องจากฉันเป็นเจ้าของงาน ก่อนแจกฉันก็ไม่ลืมเก็บไว้กินเองด้วยชิ้นหนึ่ง ไม่ว่าจะเค้กหรือพายหรือคุ๊กกี้ หรืออื่นๆที่เป็นของจำพวกเนี่ย ฉันละชอบที่สุดเลย กินบ่อยมากแต่ไม่ยักอ้วนด้วยแหะ >-< และวันนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดียกเว้นเรื่องของนายมารยาททรามนั่น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×